อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

คุณนุช บอกแผนที่ทางไปเวบญาณทิพย์มาเลยคะ กระทู้ไหนแปะมาด้วยนะคะ จะแวะเข้าไปอ่าน....ว๊าว....คุณนุชดังใหญ่แล้วหรือนี่ ต้องไปกระทบไหล่คนดังสะหน่อยแย้ว...

อืมร์..ศิลามณีไม่ค่อยเห็นงู...บ่อยนักหรอกคะคุณตุ๋ย นานๆๆถึงจะเห็นที ที่คุณตุ๋ยเห็น อาจเป็นเพราะคุณตุ๋ย ไม่ชอบงูเลยเก็บไปฝันหรือเปล่า...แบบฝังใจนะคะ...

 

แล้วที่ คุณตุ๋ย ไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุงเป็นไงบ้างคะ คนเยอะไหม..เพื่อน ศิลามณี เธอก็อยากจะเห็นเทวดาแบบคุณตุ๋ยบ้าง... ศิลามณี เลยแนะให้ไปวัดท่าซุงนะคะ ...

ของ ศิลามณี เมื่อครั้งหลังสุดนี่ ไปเข้าปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตาณังเลณัง ( อืมร์......คำว่าตาณังเลณัง แปลว่า นิพพาน ) มีพระวิปัสนาจารย์ เป็นผู้สอน และ สอบอารมย์ ที่ผ่านๆมา ศิลามณี ไปเข้าปฏิบัติธรรมกับอาจารย์ที่เป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่พระนี่ครั้งแรกเลย...คิกๆๆ เกร็งน่าดูเลยคะ โดยเฉพาะตอนเข้าไปสอบอารมย์นะ ดีที่มีเพื่อนเข้าไปด้วย ไม่งั้นคงเงอะๆงะๆน่าดูเลยคะ .....

เขาจัดให้เข้าไปทีละหกคนคะ นั่งเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน แถวละ 3 คน เข้าไปแล้วก็ให้กราบแบบสติปัฎฐาน 4 ..พอถึงคิวใครก็ให้เรียนรายงาน กับพระอาจารย์ว่า .. เดินจงกลมระยะที่เท่าไหร่ เดินกี่นาที นั่งกี่นาที ขณะที่เดิน และ นั่ง สังเกตเห็นอะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับตัวเรา...แล้วกำหนดอะไร

คิกๆคักๆ ของ ศิลามณี นะคุณตุ๋ยตอนทานข้าว พอกำหนดอยากทานหนอ น้ำลายไหลพรวด ออกมาเต็มสองแก้มในปาก เหมือนเปิดก๊อกน้ำเลยคะ...ขณะเคี้ยวนะ เสียงที่เคี้ยวก็ดังสนั่นหยังกะออกไมโครโฟนนะ..ยิ่วเคี้ยวเร็วๆเสียงยิ่งดัง ต้องช้าๆ...

ไปครั้งนี้ ศิลามณี คิดถึงบ้านที่สุดในโลกเลยละ วันแรกก็อยากกลับแล้วคะ มันฟุ้งซ่านออกมาอย่างมากมายจริงๆเลย ..ศิลามณี ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ มีมากโดยเฉพาะเรื่องฟุ้งซ่านนี่ออกมาแยะมากเลยคะ คิดมากๆเข้า เลยต้องช่างมันไม่สนใจตัดออกไปเลย ถึงค่อยดีขึ้นมาหน่อย

แล้วของคุณตุ๋ยละคะเป็นไงบ้าง

 

ผลการปฎิบัติธรรมที่วัดท่าชุง ปีนี้ คนเยอะมาก โดยเฉพาะผู้หญิง เกือบ สามพัน ตุ๋ยก็ไม่แน่ใจ ผู้ชายปีนี้น้อยมากมีแค่ 300 กว่าคน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบนสวรรค์ นางฟ้าถึงเยอะ มีเทวดานิดเดียว ก็ดีคะคุณ ศิลามณี สนุกดีแต่ตุ๋ยอยู่ไม่จบ ที่เขากำหนดหรอกคะ เพราะปีนี้บวชพราฌหญิงชายช้ากว่าทุกปี ถ้าเพื่อนคุณ ศิลามณี สนใจก็ลองไปฝึกดูชิคะ สื่อกับเทวดาได้ ก็ดี มีอะไรเกิดขึ้นท่านจะคอยมาเตือนอยู่ บ่อยๆ อย่างเช่นวันนี้ ตุ๋ยจะทานข้าวเอาข้าวเข้าไปอุ่นในไมโคเวป แล้วอุ่นเสร็จ ไมโคเวป มันเตือนแล้ว ตุ๋ยก็มัวแต่เล่นคอมอยู่ท่านมาเลยมา แว๊บ แว๊บ อย่างข้างกายตุ๋ย ตุ๋ยแปลกใจมาทำไม นึกขึ้นได้อุ่นกับข้าวอยู่ ท่านคงจะมาบอกเรื่องนี้ ตุ๋ยจึงต้องรีบลุกจากโต๊ะ ท่านชอบมาล้ออยู่บ่อยๆ ตุ๋ยชินแล้วแหละคะ เวลาตุ๋ยไปปฎิบัติธรรมตุ๋ยจะไม่คิดถึงบ้านเพราะ ลำคาญเสียหมาที่บ้านมันชอบเห่าและกัดกัน ตุ๋ยก็เลยเฉยๆ คงเป็นเพราะไม่มีคนให้คิดถึงระมังคะ เพราะแม่ก็มาปฎิบัติธรรมกับตุ๋ย จิตก็เลยสงบ พูดถึงนั่งสมาธิและคิดถึงอาหารเพราะถือศิลแปด ต้องอดข้างเย็น เวลานั่งสมาธิตอนเย็นหลังจากสวดมนต์จบก็นั่งสมาธิ เทวดาท่านคงรู้ว่าตุ๋ยกำลังอยากจะกินอาหาร ท่านชอบหาผลไม้บ้างขนมบ้าง มาป้อนใส่ปากทุกทีในสมาธิ ตอนนั้นกำลังหิวความรู้สึกตุ๋ยอ้าปากจะรับ พอสติกลับนึกขึ้นได้เราถือศิลแปดอยู่ เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยๆ เพื่อนๆ มีใครเป็นแบบนี้บ้างไหมคะ

 

http://www.yantip.com/board/redi ... o=lastpost#lastpost

 

นุชขอให้คุณศิลามณีสมัครเข้าไปคุยกันและบอกด้วยว่าเป็นใคร
เพราะตอนนี้เจ้าของเวปต้องการให้นุชโชว์ตัวด้วยเมื่อกลับถึงเมืองไทยแล้วอายจังเลย..นุชก็เล่าประสบการณ์ปฎิธรรมตัวเอง และได้สอนการสวดมนต์ให้น้องในเวปก็เป็นผลดีไปที่นุชได้เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาได้สวดมนต์กันจากที่เคยไม่สวดก็กลับหันมาสวดมาเริ่มใหม่กัน นุชจึงปลื้มสุดๆอยากให้เพื่อนๆพี่ๆไปช่วยกันตอบนุชบ้าง และนุชกำลังสร้างโบสถ์ รูปโบสถ์ยังไม่เอาลงบริจาคกันเข้ามาเป็นแสนแล้ว ปลื้มจริงพี่เอ๋ย
นี่แหละสมเด็จโตท่านบอกว่า บุญไม่มีไปอ้อนวอนขอให้พระท่านช่วยท่านก็ช่วยไม่ได้ แต่พอบุญมีบารมีมาเทวดาก็ห้ามไม่ได้ฟ้าก็ต้านไม่อยู่ เป็นเช่นนี้เองจ้า

 

สวัสดี ตรุษจีนจ้า..
มาไม่ทันปีใหม่..

 

คุณ นุชทำไม ไม่ส่ง ลิ้งค์ เก่าที่อยู่กับอาจารย์ภราดรมาละคะ ลิ้งค์นี้ยังไม่มีเรื่องเล่าเลยมีแต่คุยกันธรรมดา เท่านั้นเองคะ

 

สวัสดีวันตรุษจีนเช่นเดี๋ยวกันคะ

;aa19

 

สวัสดีวันตรุษจีนค่ะ กลับมาคึกคักอีกแล้ว

 

ยังเป็นแฟนคลับในกะทู้นี้อยู่หรือคะ คุณ JNKLE เพราะตุ๋ยหายไปเกือบเดือน คิดว่าเพื่อนๆ คงลืมกันแล้ว ช่วงที่ตุ๋ยหายไปก็ไม่ได้หายไปไหนก็ยังแอบเข้ามาอ่าน เว็ปพลังจิตอยู่บ่อยๆ แต่เข้ามาพูดคุยไม่ได้ เพราะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไม่มีภาษาไทย แหมฝันที่เป็นจริง จริงๆ

ตุ๋ยกลับไปเมืองไทยคราวที่แล้วตอนอยู่เมืองไทยตุ๋ยฝันว่าตุ๋ยได้กลับมาอังกฤษ ซื้อของมาเยอะแยอะในฝันพอมาเปิดหาคอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว กลับลืมเอามาตุ๋ยเสียใจมากในฝันนะคะคิดอยู่ว่า ตัวเองลืมไปได้อย่างไรแล้วทีนี้จะคุยกับ

เพื่อนๆ ในพลังจิตได้อย่างไรเพราะคอมเราลืมเอามาในฝันเจ็บใจตัวเองและโมโหตัวเองมาก พอตื่นขึ้นมาอ้าวเราฝันไปนี่หว่าเรายังไม่ได้กลับอังกฤษ ก็เลยบอกตัวเองว่าไม่ต้องห่วงหรอกนะถ้ากลับอังกฤษไม่มีทางที่ตุ๋ยจะลืมคอมแน่

พอตุ๋ยกลับอังกฤษก็ไม่ได้ลืมหรอกนะแต่พอมาเล่นได้ไม่ถึงอาทิตย์มันกลับเสียก็เล่นไม่ได้จริงๆ คิดดูซิเพื่อนๆเอาคอมมาก็เหมือนไม่ได้เอามาเพราะเล่นไม่ได้ ถ้าตุ๋ยรอไปซ่อมที่เมืองไทยอีกตั้ง 3 เดือนกว่าจะได้กลับก็เลยต้องตัดสินใจเอาไปซ่อมที่อังกฤษนี่แหละ แพงหน่อยก็ชังเถอะตุ๋ยคิดกว่าจะเสร็จปาเข้าไปเกือบเดือน แต่ตอนนี้ก็เล่นได้แล้วถ้าเสียอีกรอบตุ๋ยเห็นจะต้องโยนทิ้งแน่ ซื้อใหม่ถูกกว่าซ่อม แต่ก็ดีทำให้ตุ๋ยสวดมนต์ปฎิบัตธรรมมากขึ้นมันเหงาไม่รู้จะทำอะไร ตุ๋ย

สวดมนต์ประจำวันทุกวันบทสวดแต่ละวันยาวพอสมควรพอสวดไปจะสัมผัสได้เทพเทวดามาอนุโมทนากันเยอะมากถ้าเป็นวันพระท่านจะมามากเห็นเป็นควันบางๆ เลยบางครั้งรังสีท่านแรง มากระทบเข้าตาแสบก็มี ตุ๋ยจึงส่งคำพูดไปว่าท่านๆ

ทั้งหลายลดพลังลงบ้างเถอะแสบตาจะไม่ไหวแล้วเพื่อนๆ อยากจะสัมผัสพวกเทวดาก็ลองสวดมนต์ประจำวันดูและสังเกตรอบๆ กายเรามีอะไรให้เราสัมผัสบ้าง ขอให้เที่ยวสนุกมีความสุขในวันตรษจีนกันนะคะเพื่อนๆ

 

ตุ๋ยยังไม่ได้เล่าให้ฟัง ช่วงที่ตุ๋ยป่วยเป็นใข้หวัดใหญ่ท่านเทพฯ มาแนะนำให้ดูแลตัวอย่างไร เล่าย้อนหลังก็แล้วกัน ช่วงวันที่ป่วยหนัก คือวันที่ 30 -31 สิ้นปีพอดี วันที่ 30 ตุ๋ยก็แย่แล้วทั้งเจ็บคอมากน้ำมูกก็ไหลมากหัวก็หนักไปหมดแต่ก็ต้องทำงานดูแลครอบครัว พอตุ๋ยไม่ไหวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรคืนวันที่ 31 ก็พยามยามเข้าสมาธิเรียกหาท่านความรู้สึกท่านมาในสมาธิ ตุ๋ยก็ถามท่านว่าดิฉันไม่ไหวแล้วมีวิธีให้ดีขึ้นไหม ท่านก็ว่าต่อไปนี้ให้เธอดื่มน้ำอุ่นอยากไปดื่มน้ำเย็น เธอเจ็บคอให้เธอเอาน้ำมะนาวผสมกับเกลือทานก่อนนอน พักผ่อนให้เพียงพอ และท่านก็พูดต่อว่าลุกขึ้นหมายถึงตื่นจากนอนตอนเช้า แล้วไปต้มข้าวต้มทานเพราะน้ำข้าวต้มอุ่นจะทำให้คอเธอดีขี้นหลังจากทานข้าวต้มแล้วก็ทานยา พักผ่อนให้มากๆโดยเฉพาะน้ำมะนาวผสมเกลือเธอต้องดื่ม เธอต้องดูแลตัวเธอเองเพราะไม่มีใครช่วยเธอได้ ตุ๋ยก็รับสัมผัสได้แค่นั้น เช้าพอดีเป็นวันที่หนึ่ง ก็คิดอยู่ในใจไหนลองทำตามที่ท่านแนะนำซิ ปกติตุ๋ยจะเป็นคนดื้อจะไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ แต่คราวนี้คงต้องทำตามที่ท่านแนะนำกันละเพราะไม่ไหว พอมาทำข้าวต้มทานก็รู้สึกคอโล่งจริงๆ หลังจากนั้นก็ทานยาพาราแล้วก็ตามด้วยน้ำมะนาวผสมเกลือ พอทานน้ำมะนาวเข้าไปมันเหมือนมีใครเอามีดมาปาดคอเลยทั้งเจ็บทั้งแสบ กัดสเลดออกมาทันที อาการที่เป็นก็ดีขึ้นตามลำดับปกติคนเป็นไข้หวัดใหญ่จะต้องเป็นอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ แต่ตุ๋ยเป็นหนักแค่ 2 วันพอวันที่ 3 ทำตามที่ท่านเทพฯ แนะนำ อาการก็ดีขึ้นหายเร็วมาก นี่แหละคะ เห็นคุณ JINKLE อยากรู้ก็เลยเล่าให้ฟังท่านก็มาเตือนแล้วก่อนหนึ่งอาทิตย์ ว่าอายุเธอมากแล้วให้ระวังดูแลสุภาพ ด้วยเดี๋ยวจะเจ็บไข้ได้ป่วยตุ๋ยก็คิดว่าทำไม่มาพูดแบบนี้ ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี คิดว่าคงจะเจ็บป่วยตอนอายุมากๆ ใกล้จะตายโน้นระมังก็เลยไม่ได้สนใจ พออาทิตย์ให้หลังป่วยเสียแล้ว ต่อไปนี้ถ้าท่านทักอะไรก็ ต้องเชื่อทำตามท่านละคะ ทุกวันนี้ตุ๋ยก็ยังดื่มน้ำอุ่นอยู่ไม่กล้าไปดื่มน้ำเย็นเพราะกลัวอาการเจ็บคอมาก เวลาสวดมนต์เดี๋ยวนี้ก็สวดได้นานมากไม่มีอาการเจ็บคอมารบกวนอีกเลย ทั้งที่แต่ก่อน สวดแค่สั้นๆ ก็ไม่ไหวแล้วเจ็บคอ แต่เดี๋ยวนี้สวดมนต์ประจำวันได้สบายมากไม่มีอาการเจ็บคอเลยคะ

 

คุณ ศิลามณี ตุ๋ยส่ง เมล์ไปให้ อย่าลืมเข้าไปดูหน่อนนะคะ

 

เข้าไปดูแล้วนะคะ คุณตุ๋ย

 

เมื่อสักสองอาทิตย์ที่แล้ว ศิลามณี ไปเที่ยวที่ลำพูนมาคะ ไปเที่ยวที่วัดพระธาตุหริภุญไชย วรมหาวิหาร ..วันนั้น ไปถึงที่นั่นประมาณ 8 โมงกว่าๆ .....กลับออกมาจะขึ้นรถ พอดีเห็นมีประกาศจากการท่องเที่ยว ของจังหวัดลำพูน เชิญชวนให้ไปทัวร์โดยการนั่งรถไฟฟ้า พาเที่ยววัดต่างๆ 9 วัด อย่างเช่น วัดจามเทวี.. กู่ช้างกู่ม้า... วัดพระยืน ... ศิลามณี ก็เลยไปทัวร์กับเขาด้วย ค่าตั๋ว 50 บาทเองคะคุ้มจริงๆเลย ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ลำพูน ลองไปใช้บริการดูสิคะ ...

ศิลามณี ชอบที่วัดพระยืนเป็นพิเศษ เพราะทางวัดเขามีกิจกรรมบุญให้ทำด้วยคะ สร้างพระในเวลาสั้นๆ ....เป็นการปั้นพระพิมพ์ลำพูน โดยการนำดินเหนียวมากดใส่แม่พิมพ์ แล้วแกะออก... ทางวัดจะพึ่งไว้ให้แห้ง นำเข้าเตาเผา แล้วถึงจะบรรจุลงในพระเจดีย์อีกที มีแบบต่างๆให้เลือก 9 พิมท์ พิมพ์ละ 9 บาท หรือจะทำบุญทั้ง 9 แบบ ก็ได้ เพียง 100 บาท ตามแต่ศัทธานะคะ พิมพ์แต่ละองค์ก็อันเล็กๆ ขนาดกำลังน่ารักเลยคะ ..

แต่ก็เพราะขนาดของพิมพ์เล็กๆนี่ละคะ ...ทำให้คนนิสัยไม่ดีเก็บใส่กระเป๋า เอาเป็นสมบัติของตนไปสองพิมพ์... ทั้งวัดมีพิมพ์พระ อยู่เพียง 18 ชิ้นเท่านั้น ไม่พอกับญาติมิตรที่จะร่วมทำบุญคะ... ถ้าจะสั่งทำราคาก็สูง ช่างเขาคิดอันละ 1000 บาท ....ทีแรก ศิลามณี มีความคิดว่าจะทำพิมพ์พระ ถวายวัดท่าจะดี ทำเองนี่ละประหยัดด้วยคะ แต่คิดไปคิดมา ไปสอนพระท่านทำพิมพ์พระดีกว่า ท่านจะได้ไม่ต้องไปจ้างทำเขาพิมพ์...

ไม่ยากหรอกคะ อุปกรณ์ก็มีเพียง กระจก ดินน้ำมัน ซิลิโคล กับ น้ำยาเร่ง วาสลิน และ ที่สำคัญต้องมีตัวอย่างพระ ที่จะเอามาทำพิมพ์..

วิธีทำก็เอาต้นแบบ ติดกาวสองหน้าไว้ที่ด้านหลังของตัวแบบ แล้วลอกออกแปะเข้ากับกระจก ทาวาสลินให้ทั่วที่ตัวแบบ ไม่ทาเดี๋ยวแกะออกจากพิมพ์ไม่ออกนะ ...จากนั้นก็เอาดินน้ำมัน ปั้นยาวๆมาทำเป็นกรอบ ล้อมตัวแบบไว้...ให้สูงพอประมาณนะคะ เพราะจะต้องเทซิลิโคลให้ท่วมแบบ....ทีนีก็มาผสมซิลิโคล กับน้ำยาเร่ง ..วิธีผสมนี่ต้องถามคนขายอีกที คนช้าๆไม่งั้นเป็นฟองอากาศคะ ..แล้วก็เทลงในแบบที่ทำไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วก็แกะออก..เป็นอันใช้ได้คะ...

เมื่อก่อนซิลิโคลชุดหนึ่งประ 750 บาท แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้ขึ้นแล้วยังก็ไม่ทราบนะคะ อธิบายไว้เผื่อเพื่อนๆอยากทำบ้าง คิกๆๆ แต่ของศิลามณี ยังไม่ได้ลงมือทำเลยคะ กะว่าอีกสักพัก เดี๋ยวให้ว่างก่อนแล้วจะซ้อมมือทำดูบ้าง ถ้าทำแล้วออกมาดี ก็ว่าจะเข้าไปสอนวิธีทำกับพระนะคะ...

 

พูดถึงปั้นพระ ตอนนี้คุณ ศิลามณี คงปั้นเก่งแล้วละมังคะ คุณนุชไม่เห็นพูดถึงว่าปั้นไปถึงไหน ตุ๋ยก็ขออนุโมทนากับคุณ ศิลามณีด้วยที่ได้ไป ไหว้พระหลายๆ สถานที่ ตุ๋ยอยู่อังกฤษก็ไม่ได้ไปไหว้พราะที่ไหนนอกจากไหว้ที่ห้องพระและนั่งสมาธิส่งความรู้สึก ไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ด้วยใจเอา ก็ส่งความรู้สึกไปไหว้เท่าที่จะนึกได้ นึกได้แค่ก็ได้เท่านั้น จะทำอย่างไรได้คนอยู่ไกลก็ต้องใช้ใจเอาคะ

 

ขอบคุณมากนะคะ ตุ๋ยเข้าไปอ่านแล้ว ยังอยู่หรือเปล่าเนี่ยมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เมื่อสักครู่ ตุ๋ยกำลังเล่นคอมอ่านกะทู้อยู่ แฟนบอกให้ทำอาหารเช้าให้ ตุ๋ยก็เอานมใส่หม้อแล้วเอาไปตั้งที่เตาแก๊ส เปิดไฟเอาไว้แล้วตัวเองก็มาอ่านกะทู้ต่อ ลืมนมที่ต้มไว้เลย นั่งไปเพลินๆ ก็มีความรู้สึกมีใครมาสะกิดที่หัวเข่า อยู่อย่างนั้น ตุ๋ยก็พูดออกไปว่า ไม่ต้องมาสะกิดสะเกา เพราะตุ๋ยรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร ท่านคงจะมาเตือนเรื่องนมที่ต้มเอาไว้ พอมาเตือนตุ๋ยไม่สนใจท่านเลยปล่อย สักพักหนึ่งนมที่ต้มล้นออกจากหม้อจริงๆ ตุ๋ยตกใจรีบไปปิดไฟ โธ่เอยเตาแก๊ส เลอะหมดเลยเช็ดเตาแก๊สไปนึกสมน้ำหน้าตัวเองท่านอุสาห์มาเตือนแล้วไม่มาแบบ แว๊บ แว๊บ ท่านมาแบบสะกิตเลย เป็นบ่อยมากก็ดีได้ท่านคอยช่วยเตือน แต่ตัวตุ๋ยเองก็ชอบลืมอยู่เลื่อยเลย คะ

 

สวัสดีค่ะเป็นสมาชิกสักพักหนึ่งแล้วแต่เพิ่งจะเริ่มเข้ามาที่เวบ(เพิ่งจะเริ่มตามอ่านกระทู้ค่ะ)
ตอนแรกว่าจะอ่านไปซักพักแล้วจะเข้ามาคุยด้วย เห็นมี60หน้าแล้วยังอ่านอยู่ที่12 อยู่เลยค่ะ
ชอบเรื่องของคุณตุ๋ยกับคุณศิลามณี มีเรื่องที่สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน เพิ่งจะเริ่มปฎิบัติและศึกษาน่ะคะ ยังไม่มีอาจารย์สอนเลยค่ะ ยังมีกรรมบังอยู่ไม่ได้ไปปฏิบัติแบบใจต้องการสักที จะลองเริ่มๆอ่านหนังสือ สวดมนต์หรือเปิดเวบเอาไปก่อน
มีเรื่องสงสัยมาถามผู้รู้นะคะ
คือเรื่องความฝันนี่บอกเรื่องราวอะไรให้ตัวเองได้มากมาย...บางเรื่องก็เป็นแบบที่คุณตุ๋ยคุณศิลามณี ได้คุยเอาไว้ ก็เลยพอจะเข้าใจ
แต่ว่าเรื่องที่บางทีเหมือนมีคนคุยเรื่องตัวเอง พูดถึง สงสัยจะส่งกระแสจิตถึง มาเป็นคำพูดเลย นี่ คืออะไรคะ เราเพ้อ ฟุ้งเองหรือเปล่า เรื่องเห็นวิญญาณ หรือเห็นเจ้าบ้านเจ้าเรือนนี่เป็นเพราะว่าอะไรคะ ยังมีคำถามคาใจอีกมาก ไว้จะค่อยๆตามถามไปนะคะ

 

ยังเหนียวแน่นเกาะหนึบเลยค่ะ เดี๋ยวนี้รู้สึกเวลามันผ่านไปเร็วมาก ยังกะพี่ตุ๋ยเพิ่งหายไปแว๊บเดียวเอง
เอ..แล้วแล้วเทวดาที่มาโมทนาบุญเวลาที่พี่ตุ๋ยสวดมนต์นี่เป็นเทวดาไทยรึฝาหรั่งคะ

 

พี่ก็ยังสงสัยอยู่เนี่ย พี่ก็ยังพิสุจน์ อยู่นะ เล่นมาแบบไม่เห็นตัวเห็นตน มาแบบแว๊บ ไปแว๊บมา เป็นดวงเล็กบ้าง ใหญ่บ้างเห็นด้วยตาเนื้อเลยนะ และเราจะสัมผัสได้เลยว่าท่านมาอยู่ข้างกายตลอดบางครั้งคิดว่าผีตัวอื่นหรือเปล่านะมาเกาะเรา แต่พี่ไม่เคยไปรับขันธ์ที่ไหน บางครั้งจะเห็นป็นกากเพชรล่วงลงมาจากข้างบน พอพี่ไปแตะดูว่ามันคืออะไรล่วงมาได้อย่างไร หายทุกที ก็เลยไม่ต้องรู้กัน เป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ พี่ว่าก็คงจะมาทั้งเทวดาฝรั่ง และไทยละมัง ถ้าวันพระนี่นะ ข้างกายพี่จะอุ่นมาก ประเทศอังกฤษมันหนาว ถ้ามีอะไรอุ่นๆ อยู่ข้างกายแล้วพี่จะรู้เลย ที่รู้ก็มีเทพฯประจำตัวอยู่ด้วยองค์หนึ่งละ องค์อื่นพี่ก็ไม่รู้ พี่เคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน ว่าพวกที่อยู่ข้างกายเราว่าเป็นผีแร่ร่อนมาเกาะหรือเปล่าเอาไปบ่นกับเพื่อน เพราะสิ่งที่เห็นด้วยตาเนื้อเร็วมากเห็นมาอยู่ข้างซ้ายบางขวาบางบนบาง พี่ก็คิดว่าคงมี ผีหลายตัว
เทวดาที่อยู่กับพี่ท่านคงรู้ว่า พูดถึงท่านและสงสัยเรื่อง ผีแร่ร่อน พอพี่ไปนั่งสมาธิ จิตนิ่งวางมาเลย ท่าน พูดว่า ไปช้ามาช้าเป็นความคิดของมนุษย์ เทวดาไปเร็วมาเร็วกันทุกองค์ พอความรู้สึกพี่กับมา สงสัยเอใครมาพูดกับเรานะแต่พี่ไม่ยอมแพ้ พี่ต้องพิสูจน์ไปเลื่อยๆ

 

สวัสดีจ้า อ่านเรื่องราวของคุณ ก็คล้ายกันกับตุ๋ย แต่ตุ๋ยเวลานั่งสมาธิจิต สบายๆ ชอบมีใครมาคุยด้วย คุยอยู่ในจิตนะคะ ตุ๋ยยังถามตัวเองเหมือนคุณนั่นแหละว่าตัวเอง บ้าหรือเปล่า แต่พอคิดไปคิดมา เราก็มีสตินี่หว่าและเรื่องคุยกับเทวดาเหมือนกัน สงสัยมากก็เลยตั้งกะทู้นี้ขึ้นมา ว่าที่เราคุยกับท่านใช่หรือไม่ใช่กลัวว่าตัวเองจะบ้า พอดีมีรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาฝึกปฎิบัติธรรมในแนวมโนฯ แบบที่ตุ๋ยเคยฝึกมาเขาบอกว่า ที่เธอรู้สัมผัสถูกต้องแล้ว ตุ๋ยก็เลยสบายใจไม่คิดมากอีกแล้วอย่างงั้ย คุณก็ลองพิสุจน์ไปเลื่อยๆ ทุกวันนี้ตุ๋ยก็อยู่ในสถานนะการณ์พิสุจน์อยู่คะ