เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 4 สิงหาคม 2010.

  1. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    อนุโมทนาสาธุครับ.....
     
  2. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ได้รับวัตถุมงคลเรียบร้อยแล้วครับศิษย์พี่ มาได้จังหวะเวลาพอดี กำลังมีปัญหาเรื่องงาน เลยอธิษฐานขอให้ท่านช่วยให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้ รอฟังผลอยู่ครับ....
     
  3. amen666

    amen666 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,246
    เมื่อวานนี้ได้รับ ได้รับตะกรุดสามกษัตริย์และผ้ายันต์แล้วนะครับ
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  4. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ปิดประมูลพรุ่งนี้ ยอดสูงสุดที่ 1009 ถ้าจำไม่ผิด อิอิอิ
     
  5. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    บรรยากาศน่านอนมากครับ ลมพัดเย็นสบาย
    ว่าแล้วก็ขอเช็ครายละเอียดที่ค้างไว้ก่อนนะครับ
     
  6. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ misu [​IMG]
    มีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกันครับ....
    วิธีการตรวจน้ำและแผ่เมตตา เมือเวลาพระขึ้นบท ยะถา...ให้กำหนดจิตจากตัวเราคือศูนยกลาง อุทิศผลบุญให้กับเทพเทวดา ขึ้นด้านบน สูงจากตัวเรา ตั้งแต่สวรรค์ ชั้นที่1 คือชั้นจตุม สูงสุดจนถึงชั้นอรูปพรหม ด้านขวางรอบตัวเราแผ่ออกไป ทั่วสากลจักวาล รวมทั้มนุษย์ และอมนุษย์ ดวงจิตวิญญานต่างๆ สัมภเวสี ผุ้แร่ร่อนต่างๆ และตำ่จากมนุษย์จนถึงสัตว์เดรัชฉาน ตำจากสัตว์เดรัชฉาน จนถึงอเวจีมหานรก
    แล้วกำหนดจิตให้เป็นปิติฌานสอง เบ่งพลังออกไป ดั่งเช่นแสงสปอตไลท์ ออกไปทุกทิศดังที่อธิฐาน รอบตัวเรา เทพเทวดา และวิญญานต่างๆ เขาจะได้รับ (หากท่านใดมีตาทิพก็จะมองเห็นเขาสาธุ ยกมือไห้ว) และเราสามารถกำหนดได ว่าให้ท่านใดพิเศษ เช่น เทวดาที่ดูแลเรา พ่อแม่ พี่น้องนาย...ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้ด้วย หากอุทิศบุญกุศลตอนพระให้ ยถา พลังพระที่มีศิลมีธรรมจะส่งไปได้ไกล แต่หาก หลังจากเรานั่งสมาธิ บุญจะส่งไปไกลตามอำนาจฌานสมาธิเรา....
    ลองทำดูนะครับ.....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อนุโมทนากับข้อมูลดีๆ ด้วยนะครับ

    ท่านเจ้าพระยา กะจะสัก นี่ไม่ธรรมดาซะแล้ว เรียนรู้ได้เร็วมาก :cool:
     
  7. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    เรื่องนี้ต้องรอท่านวิปัสสนู หรืออาจารย์ปุ้มมาแจ้งครับ
     
  8. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    เคารพครูบาอาจารย์ ศรัทธาเป็นที่ตั้ง :cool:
     
  9. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    ขอบคุณที่แจ้งมาครับ ได้แล้วก็อย่าเก็บไว้เฉยๆ นะครับ :cool:
     
  10. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
  11. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    กร็ดความรู้...ที่หลายคนอาจรู้แล้ว...
    การอุทิศส่วนบุญ..การแบ่งบุญ
    การอุทิศผลบุญผลกุศล..คือการอุทิศให้กับผู้ที่ตายไปแล้ว ..หรือดวงวิญญานต่างๆๆ เช่น เทพ เทวดา สัมภเวสี ....
    การแบ่งบุญ...คือการแบ่งบุญระหว่างผู้ที่ไปสร้างบุญ ให้กับบุคคลที่ไม่ได้ไปทำบุญ เช่นนายสมชายไปทอดกฐินที่วัดมา ..พอกลับมาถึงบ้าน ก็บอกกับพ่อแม่พี่น้อง ว่า..วันนี้ข้าพเจ้าไปทำบุญทอกกฐินมา ขอแบ่งบุญให้กับทุกๆๆท่าน..(อาจระบุชือด้วยก้อได้ เช่น พ่อ แม่) และคนที่รับบุญต้อง ..กล่าว่าอนุโมทนาสาธุ ..(พนมมือกล่าวด้วย คือถึงพร้อมด้วยการ วาจา ใจ) ผู้รับผู้นั้น จะได้บุญเสมอคนที่ไปทำบุญ ทอดกฐินนั้นมา...
    ....หากท่านใดออกจากสมาธิมา ก้ออย่าลืมอุทิศผลบุญให้กับผู้ล่วงลับ และแบ่งบุญให้ พี่ๆๆน้องๆๆด้วยนะครับ ....
     
  12. lonkpop

    lonkpop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +194
    ขุนแผนรุ่น2 อ.แทน 1200บาทครับ
     
  13. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    อนุโมทนาสาธุ... หลบแทบไม่ทัน....
    ตามไปด้วยใจ 1,202.00 บาท ครับ
     
  14. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177

    วิทยาทานดีๆ ที่หลายท่านยังไม่รู้

    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  15. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
  16. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    ยังเหนียวอยู่ครับ

    [​IMG]

    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  17. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    ตอนนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลต่างๆ อยู่ครับ
    ซึ่งจะได้Update ให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ
     
  18. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="70%" align=center><TBODY><TR><TD class=tcat>ข้อความจากบอร์ด</TD></TR><TR><TD class=panelsurround align=middle>
    ในขณะนี้ Server กำลังทำงานหนัก. กรุณาลองใหม่อีกครั้ง โดยกด F5 หรือ Refresh

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  19. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,177
    เปิดประมูลขุนแผนองค์รุ่น 2 (รุ่นสามป่าช้า) ท่านอาจารย์แทน
    เพื่องานบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ จ.สุรินทร์

    ประมูลวันที่ 24/02/11 เวลา 21.30 น.


    คุณ misu ร่วมประมูลสูงสุดในขณะนี้ 1,202 บาท

    เงินทำบุญทั้งหมดทำบุญสร้างโบสถ์พระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ

    [​IMG] [​IMG]

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    องค์นี้...คือ..ขุนแผนรุ่น 2 ของท่าน อ.แทน ครับ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะสร้างประมาณปี 40 เรียกกันว่า รุ่นสามป่าช้า ครับ เป็นเนื้อสีผึ้งผสมว่าน (แก่สีผึ้ง) เนื้อจะนิ่มมาก ถ้าเอาไปเลี่ยมพลาสติกละก็เสียรูปแน่นอนครับ

    ลักษณะด้าหน้า เป็นรูปขุนแผนโอบนางทั้งสองข้าง นั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ใต้ฐานเป็นรูปแม่เป๋อ (แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริง เค้าจะเรียกว่า อีเป๋อ ครับ)

    ด้านหลัง เป็นรูปแม่เป๋อนั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ที่ใต้แท่นฝังตะกรุดทองแดง 1 ดอก เป็นตะกรุดหัวใจมนุษย์ (มหาเสน่ห์เหนือใจคนทั้งหลาย)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ขุนแผนรุ้นนี้ผมเป็นคนสร้างเองครับ... ต้องบอกว่าสร้างขึ้นเพราะความอยากของตัวเองจริงๆครับ...เพราะสมัยนั้น เรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี่ดังมาก เอาเป็นว่า ถ้าอาจารย์ท่านใดสร้างออกมาเป็นขายได้ทั้งนั้นครับ ส่วนจะใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผลนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ตัวผมเองก็สนใจเรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี้พอสมควร เพราะเคยรู้ เคยได้ยินเรื่องความขลัง ความพิศดารของเครื่องรางประเภทนี้มามากพอควร พอรู้ว่าสำนักไหนสร้างออกมาเป็นต้องตามไปบูชามาหมด แต่สุดท้ายก็เงียบ ​

    แต่พอมีโอกาสได้คุยกับท่าน อ.แทน ก็เลยรู้ว่าท่าน ก็ทำก็เสกได้เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจว่า ทำเองแล้วให้ท่านเสกให้ดีกว่า ชัวร์ทั้งมวลสารเพราะหามาเอง ชัวร์ทั้งผู้เสก เพราะเป็นครูบาอาจารย์ของเราเอง

    นี่แหละครับก็เลยเป็นที่มาของขุนแผนรุ่นนี้...​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    อ้างอิง:

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ตอนนั้น...ใจก็ชอบขุนแผนอยู่ด้วยเหมือนกัน ก็เลย ทำออกมาเป็นรูปขุนแผนโอบนาง แล้วใส่แม่เป๋อเข้าไปด้วยทั้งด้านหน้าด้านหลัง เมื่อทำบล็อกเสร็จ (ทำเอง) ทีนี้ก็เริ่มออกหามวลสารครับ...โดยมุ่งเน้นที่ว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมเป็นหลัก เช่น ว่านดอกทองทั้ง 16 ชนิด อันนี้ขาดไม่ได้เลย ว่านสาวหลง จูงนาง ช้างผสมโขลง มหาอุดม มหาจังงัง ห้าร้อยนาง สาริกาลิ้นทอง โจรกลับใจ ขุนแผนสะกดทัพ เครือเขาหลงทั้งสองชนิด สาวหลงที่เป็นแบบเส้นทั้งสองชนิด พญาว่าน มหาจักรพรรดิ์ ไพลปลุกเสก ขมิ้นขาวเสน่ห์ เณรแก้ว อ้ายงัด อีเป๋อ และอีกหลายสิบชนิด... ส่วนที่เป็นกาฝาก ก็มี กาฝากดอกรัก กาฝากมะยม กาฝากขนุน กาฝากมะรุม กาฝากต้นคูณ กาฝากต้นประดู่ กาฝากต้าสัก กาฝากมะขาม กาฝากพุทรา


    ประเถทของกายสิทธิ์ ก็มี ผงเหล็กทรหด ที่งอกขึ้นจากดิน ดินจอมปลวกเจ็ดจอม ผงรังต่อ ดินขุยอุดรูปู

    และที่สำคัญจนเป็นที่มาของชื่อรุ่นก็คือ..สีผึ้ง.....ครับ....

    หาวววววว.....โอว..ดึกละ...วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ... ​


    แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อที่หลังนะครับ...ราตรีสวัสดิ์...
    อนุโมทนา...สาธุครับ...​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    เมื่อคืนก่อน...ค้างเรื่องขุนแผน รุ่น2 ไว้...คืนนี้มาต่อเลยนะครับ... สาเหตุที่สร้างเป็นเนื้อสีผึ้ง ก็เพราะว่า ท่าน อ.แทน ท่านเก่ง ท่านดังเรื่องสีผึ้งครับ เอาเป็นว่า ถ้าเป็นเรื่องของเสน่ห์เมตตามหานิยม ของท่านแล้วล่ะก็ ต้องยกให้สีผึ้งนี่แหละครับ ท่านหุงท่านทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เอาแค่ว่ามีคนรู้ว่าท่านหุงสีผึ้งเท่านั้นแหละครับ แป๊บเดียวหมด เพราะงั้น เวลาที่ผมไปเยี่ยมไปหาท่าน ผมก็จะซื้อขี้ผึ้งแท้ไปให้ท่านอยู่บ่อยๆ และก็มีโอกาสได้ไปหุงสีผึ้งกับท่านบ่อยเหมือนกัน และถ้าไปตอนช่วงที่ท่านปลุกเสกเร็จแล้ว ท่านก็จะแบ่งสีผึ้งให้มาแทบทุกครั้ง มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ภาชนะที่หามาใส่ได้ แต่ส่วนใหญ่ท่านก็จะให้มาเป็นขวดโหลโอวัลตินเลยทีเดียว...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาต่อเรื่องขุนแผนกันนะครับ.... พอตอนที่คิดจะทำขุนแผน รุ่น2 นี้ก็เลยตั้งใจว่า เมื่อท่านเก่งเรื่องสีผึ้ง ก็ต้องเอาสีผึ้งท่านผสมในขุนแผนด้วย ผมจึงคัดเอาสีผึ้งสามรุ่นแรกที่ผมได้มาจากท่านมาผสมในขุนแผนรุ่นนี้ ถึงแม้สีผึ้งทั้งสามรุ่นนี้จะไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน อ.แทน แต่ก็เป็นรุ่นแรกที่ผมได้จากท่าน โดยที่ท่านเป็นผู้ให้เองโดยไม่ได้ขอ และขอกระซิบดังๆครับว่า สีผึ้งแต่ละรุ่นที่ท่านให้มานั้น ประสบการณ์เพียบ ทุกด้านครับ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อเลยนะครับ...

    สีผึ้งสามรุ่นที่นำมาผสมทำขุนแผน รุ่น2 นี้ เป็นสามรุ่นแรกๆที่ได้จากท่าน อ.แทน (แต่ไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน)

    อย่างสีผึ้งอันแรกที่ได้จากท่านเลยก็เมื่อปี38 ตอนนั้นบวชเณร(โข่ง)ไปกับท่าน ท่านพาไปเที่ยวที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ไปอยู่วัดของลูกศิษย์ท่าน อ้อลืมบอก ตอนนั้นท่านยังบวชเป็นพระอยู่ครับ จริงๆแล้วที่นี่เป็นแค่ที่พักสงค์ มีแค่ศาลาหลังเดียว ทางเจ้าอาวาสก็เลยมานิมนต์ท่าน อ.แทนไปอยู่เพื่อจะได้ช่วยสร้างวัด บริเวณที่พักสงค์นี้ก็เป็นป่าช้าเก่า วันที่ผมไปถึง เค้าก็เพิ่งเผาศพกำนันไปหมาดๆ พอตกกลางคืนล่ะแหม พี่หมาเค้าพากันสามัคคีหอนกันจังเลย

    อยู่ไปได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ทางเจ้าอาวาส ก็ขอให้ท่าน อ.แทนหุงสีผึ้งให้ โดยทางเจ้าอาวาส ได้เตรียมของต่างๆไว้พร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจันทร์ และว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมต่างๆ เพราะเจ้าอาวาสท่านนี้ก็เป็นหมอสมุนไพรเหมือนกัน เลยรู้เรื่องว่านยาดีทีเดียว

    เท่าที่ผมจำได้น่าจะมี ว่านดอกทอง ว่านสาริกาลิ้นทอง ต้นรักซ้อนมีทั้งกิ่ง ก้าน ใบ และกาฝากอีกหลายชนิด

    ท่าน อ.แทนก็เลยพาไปหุงในป่าช้า ตรงที่เขาเพิ่งเผาศพกำนันนั่นแหละครับ ท่านใช้กะลามะพร้าวที่ใช้ล้างหน้าศพมาทำเป็นก้อนเส้า ใช้เศษถ่าน(สามก้อน)ที่เหลือจากการเผาศพมาเป็นเชื้อไฟ ใช้เทียนสามเล่มในการก่อไฟหุงสีผึ้ง

    เดี๋ยวมาต่อนะครับ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อครับ... พอทุกอย่างพร้อม เที่ยงคืนเป๊ง..ท่านก็ทำพิธีหุงสีผึ้ง วันนั้นไปกันหกคน มีพระสอง เณรสอง ผ้าขาวหนึ่ง และโยมหนึ่ง ตอนที่ยังไม่หุง จั๊กจั่นเรไรก็ร้องกันระงมไปหมด แต่พอท่านจุดธูปเทียนบอกกล่าวครูบาอาจารย์เท่าแหละครับ เงียบทั้งป่า แต่อันนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่อีตอนที่ท่านบอบกับเจ้าป่าช้า และกำนันที่เพิ่งเผาไปให้มาช่วยหุงนี่สิครับ เล่นเอาพี่หมาหอนกันจ้าละหวั่นเลย หอนแบบล้อมป่า หมาเป็นสิบๆตัว ไม่รู้ไปนัดกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พากันมายืนล้อมรอบนอกเขตป่า แล้วก็พากันตั้งหน้าตั้งตาหอนกันร่วมชั่วโมงที่หุงสีผึ้ง

    พอท่านบอกกล่าวเรียกเจ้าป่าช้ากับกำนันเสร็จปั๊บ ท่านก็จุดเทียนสามเล่มที่จะใช้เป็นเทียนหุงแล้วนำไปวางเป็นสามมุมโดยให้ปลายเทียนจิ้มเข้าหากัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ตอนนั้นทุกคนก็ตั้งใจดูท่านแหละครับ เพราะไม่มีใครคิดจะออกไปไหน เกรงใจพี่หมาที่เค้าหอนอยู่ พอท่านเอาปลายเทียนตั้งจิ้มรวมกัน ที่เปลวไฟก็ดูใหญ่ขึ้นนิดหน่อย ในใจผมยังคิดเลยว่า ไฟแค่นี้มันจะหุงสีผึ้งได้ยังไง เพราะที่ใช้ ก็เป็นเทียนเล่มเล็กขนาดความยาวเท่านิ้วก้อยเอง

    ซักพักเหมือนท่านรู้ว่าผมคิดอะไอ ท่าน อ.แทน ท่านก็พูดขึ้นมาว่า "ไหน..ดูสิว่าเก่งแค่ไหน.." แล้วท่านก็ชี้นิ้วไปที่เปลวไฟ
    ตะลึงครับ...อยู่ๆเปลวไฟที่ดูไม่ใหญ่ ไม่สูงมาก ก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งปิ๊ดขึ้นมาเหมือนเปลวไฟจากหัวเครื่องเชื่อมแก๊ส เปลวไฟสีออกน้ำเงินพุ่งสูงขึ้นมาเกือบสอกได้ ตอนนี้ ทุกคนตะลึง เงียบกันหมด แล้ว ท่าน อ.แทน ก็พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า "เออๆ...มันเก่งเว้ย..เข้าท่าๆ..ไปช่วยหาของดีมาใส่ให้หน่อยเด้อ.." พอพูดจบเปลวไฟที่พุ่งขึ้นมาสูงๆนั้นก็ลดลงไปเป็นเปลวไฟปกติเหมือนเดิม และก็แปลกอีกอย่าง ก็คือ เจ้าเปลวไปน้อยๆที่เห็นนี่ กลับหุงสีผึ้งได้จริงๆ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาต่อเรื่องสีผึ้งที่ใช้เป็นมวลสารในขุนแผน รุ่น2 กันต่อนะครับ...

    หลังจากหุงสีผึ้งเสร็จท่านก็นำมาปลุกเสกต่ออีก3วันแล้วจึงเอาให้เจ้าอาวาสวัดนั้นไป ก่อนให้ท่านก็เรียกให้ผมไปตักแบ่งสีผึ้งนั้นไว้ และบอกกับผมว่า "เก็บไว้ดีๆนะ..อย่าไปใช้มักง่าย..ทางที่ดีแค่ใส่ตลับไว้ แล้วอธิษฐานใช้เอาก็พอ..ไม่ต้องไปเปิดใช้.."

    แม้สมัยนั้น(ปี38)ผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องมหาเสน่ห์ซักเท่าไหร่ แต่ก็ทำตามที่ท่านบอกก็คือ แบ่งเอาสีผึ้งรุ่นนี้มาใส่กรอบแสตนเลสห้อยคอติดตัวตลอดครับ รุ่นนี้ดีมาก ขนาดตอนนั้นผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องทางเสน่ห์ แต่ว่าตั้งแต่ที่ห้อยสีผึ้งรุ่นนี้ มีสาวน้อยสาวใหญ่เข้ามาใกล้เยอะแยะไปหมด อาศัยว่าตอนนั้นมุ่งแต่จะปฏิบัติอย่างเดียวเลยรอดมาได้ ไม่งั้นป่านนี้คงไม่ได้มาทางนี้ซะแล้วล่ะมั๊งครับ...

    อันนี้แค่เฉพาะสีผึ้งหม้อแรกที่ผสมในขุนแผนรุ่นนี้นะครับ..ยังเหลืออีกสองหม้อเด็ดๆเหมือนกันครับ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาถึงสีผึ้งหม้อ(รุ่น)ที่สองที่ท่าน อ.แทนให้ผมมาครับ...ท่านให้ผมมาตอนปี39 ช่วงนั้นผมเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพแล้ว แต่ถ้ามีเวลาว่าง ผมก็จะไปอยู่ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุนีแหละครับ ไปบวชพราหมณ์บ้าง บวชเถรบ้าง(โกนหัวนุ่งขาว) หรือบวชเณร(โข่ง)บ้าง เรียกว่าเดือนสองเดือนไปทีก็ได้ บางทีก็อยู่5วันบ้าง 7วันบ้าง 10วันบ้าง แล้วแต่โอกาส

    ครั้งนี้ผมก็ไปอีกกะว่าไปอยู่ซักสิบวัน ถ้าโชคดีได้ไปเที่ยวกับท่าน อ.แทนก็ยิ่งดี(ได้ประสบการณ์ดีๆแปลกๆเยอะ) พอไปถึงก็ไม่ทันท่านซะแล้ว เพราะมีลูกศิษย์จากมุกดาหารเหมารถมารับท่านไปก่อนหน้าที่ผมจะไปหถึงแค่วันเดียว(เสียดายมากๆ)

    แต่ก่อนไป ท่าน ก็ได้ฝากสีผึ้งไว้กับหลวงตาสาร และกำชับไว้ว่า "ถ้าโอมาวัด..ก็ให้เอาสีผึ้งนี้ให้โอด้วยเด้อ.." พอผมไปถึงหลวงตาสารก็เรียกผมให้ไปเอาสีผึ้งนี้เลย พอผมได้มา ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอด

    คืนนั้นผมนอนดึกครับ ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย กว่าจะนอนก็เกือบตีสามแล้ว ต้องบอกก่อนว่า ที่วัดนี้ ท่านให้อยู่แค่กุฏิละคน เป็นกุฏิหลังเล็กๆ พอดีอยู่ได้คนเดียว แต่ละกุฏิก็อยู่ห่างกันประมาณ5เมตร ตอนนั้นก่อนนอน ผมก็นึกได้ว่าได้สีผึ้งมา ก็เลยเอาออกมาแกะดู ตอนที่ได้มานั้น ท่านห่อสีผึ้งใส่กับถุงพลาสติดมาให้ พอผมแกะออกดู ก็ได้กลิ่นหอมแบบเย็นๆ ผมยังนึกในใจเลยว่าสีผึ้งของท่าน อ.แทน รุ่นนี้หอมดี เสร็จแล้วก็ห่อถุงไว้เหมือนเดิม แล้วเอาสีผึ้งไปวางไว้ที่หัวนอน เผอิญอีตอนที่แกะถุงดูสีผึ้งก็เลยติดที่นิ้วมืออยู่นิดหน่อย ก็เลยเอามาทาคิ้ว เสยหัวไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้คิด ไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย แล้วก็นอน...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ชมบรรยากาสวัดให้เพลิดเพลินและก็มาอ่านนิทานก่อนนอนกันครับ... พอล้มตัวลงนอนได้ซักพักหนึ่ง ในความรู้สึกตอนนั้น เหมือนกับเห็นทะลุออกไปข้างนอกกุฏิ มองเห็นผู้หญิงสองคน ภาพที่เห็นชัดเจนเหมือนจริง เป็นผู้หญิงน่าจะอายุประมาณ30กว่าๆหรือประมาณ40ปีเห็นจะได้ หน้าตาดีออกจะท้วมนิดๆ ทั้งสองคนไม่ใส่เสื้อผ้า ท่อนบนเปลือย ท่อนล่างใส่กางเกงชั้นใน กำลังเดินยิ้ม มุ่งหน้ามาทางที่ผมกำลังนอนอยู่ ตอนนั้นใจก็ไม่ได้คิดอะไร พอเห็นปั๊บ ก็กะว่าจะเบนสายตากลับมา แต่ที่ไหนได้สาวเจ้าคนหนึ่งในนั้น กลับมายืนคร่อมหัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนั้นผมก็ตกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าหล่อนก็นั่งแมะลงมาตรงหน้าผมเลย ความรู้สึกที่สัมผัสได้เหมือนจริงมากๆ จนผมเกือบจะเคลิ้มไปกับความรู้สึกนั้นเลยที่เดียวฺ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อครับ... แต่ชั่วแว๊บหนึ่ง ใจมันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า "เอ...นี่เรามาบวชพราหมณ์นี่หว่า นอนก็นอนอยู่ในกุฏิ แล้วผู้หญิงเข้ามาในกุฏิเราได้ไง.." เท่านั้นแหละครับ..รู้ได้ทันทีว่าโดนดีเข้าแล้ว จะพยายามค่อยๆขยับตัวหนีก็ไม่ได้ เจ้าหล่อนก็นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นแหละ ตอนนั้น ผมคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่เข้าท่าแน่ เพราะตั้งแต่เริ่มรู้ตัว ก็ชักจะเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว... พอเริ่มตั้งสติได้ ก็กำหนดจิตให้เป็นสมาธิแบบที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา แล้วก็ตั้งนะโม ยังไม่ทันครบสามจบเลยครับ เจ้าหล่อนก็หายแว๊บไปไหนก็ไม่รู้ พอรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นขยับตัวได้ สัมผัสที่หน้าก็หายไปแล้ว ก็เลยลืมตาขึ้น แล้วก็ลุกหยิบไฟฉายส่องดูที่นาฬิกา ดูเวลา ตีสี่พอดี ความรู้สึกตอนนั้น บอกตรงๆครับว่าเคือง เพิ่งนอนไปได้ชั่วโมงเดียว ก็ต้องดืนมากลางคันซะอีก แล้วถ้านอนต่อกว่าจะหลับก็น่าจะซักพักหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกตอนตี่สี่ครึ่งเพื่อไปทำความสะอาดศาลา ตาก็สว่างซะแล้ว เลยตัดสินใจไม่นอนต่อ ก็เลยจุดเทียนนั่งสมาธิต่อจนถึงเวลาทำความสะอาดศาลา..
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ผ่านไปสองสามวัน ท่าน อ.แทนก็กลับมาจามุกดาหาร ก็เลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านนิ่งฟังผมเล่าจนจบ แล้วก็บอกว่า ผู้หญิงสองคนที่ผมเห็นนั้นเป็นผีแม่ม่าย อยู่ในวัดนี้แหละ ผมได้ยินทีแรกผมก็อึ้งๆ เท่านั้นยังไม่พอ ท่านยังบอกอีกว่า แปลก ปกติพวกเค้าจะวนเวียนผ่านไปมาอยู่แต่แถวๆกุฏิ6 และไม่เคยออกมานอกเส้นทางอย่างนี้ แต่นี่ผมนอนอยู่กุฏิ4 ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ50เมตร แถมมาแผลงฤทธิ์นอกเส้นทางอีกต่างหาก ท่านก็เลยถามผมว่าทำอะไรรึปล่าว ผมก็เลยเล่าว่าผมเอาสีผึ้งทาคิ้วเสยผม เท่านั้นแหละครับ ท่านก็ว่า"มิน่า มันถึงตั้งใจมาหาขนาดนั้น..." สรุป สีผึ้งรุ่นนี้ผมก็เก็บไว้อย่างดีครับและนำมาผสมในขุนแผนองค์นี้ด้วย นี่ขนาดไม่ใช่คนยังหลงเลย นับประสาอะไรกับคนอย่างเราๆ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ขุนแผนรุ่นนี้...ส่วนใหญ่จะไปอยู่แถวๆมุกดาหาร สกลนคร นครพนมซะเป็นส่วนใหญ่ครับ เคยไปแถวๆนั้นกับท่าน อ.แทนแล้วได้มีโอกาสได้แกล้งๆถามคนที่มีอยู่กับคอครับ เค้าว่าเรื่องเสน่ห์เมตตาเยี่ยมเชียวครับ เป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แถบถิ่นนั้นเลยทีเดียวครับ ส่วนของผม...พอได้รับขุนแผนรุ่นนี้มาปั๊บใจก็แอบคิดล่ะครับว่า ต้องสุดๆแน่ๆครับ กะว่าจะเอาไว้ออกศึกทีเดียวเชียว แต่ก็ต้องชงักครับ...เมื่อท่านบอกว่า ไม่ต้องใช้ดอก แค่นี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวมันจะอยู่ไม่สุข เท่านั้นแหละครับ รุ่นนี้ผมก็เลยต้องอัญเชิญขึ้นหิ้ง ขนาดจะแจกใครยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวเค้าเอาไปใช้ในทางไม่เหมาะไม่ควรครับ แต่รับรองว่า รุ่นนี้ไม่ธรรมดา และองค์นี้ก็ไปขอแกมบังคับมาจากลูกศิษย์ท่าน อ.แทนอีกคน(จารย์เบียร์) นี่เพราะบอกว่าจะเอามาร่วมบุญสร้างพระธาตุ เค้าถึงยอมครับ....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...