อยากไปสวรรค์ชั้น 6 แต่เป็นตำรวจ ทำไงดี

ผมนั่งสมาธิตอนนี้ได้ฌาน 2 เอง

ผมอนาคตจะเป็นตำรวจ สายงานป้องกันและปราบปราม

คือตำรวจมันจำเป็นต้อง ฆ่า ผู้ร้ายเพื่อปกป้อง คนดี
เลยอยากถามว่ามีหนทางไหนถึงจะไปสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีได้

รบกวนให้คำแนะนำทีครับ

 

อย่าว่าแต่ทำเองเลย สั่งเค้าไปทำก็ไม่รอดเหมือนกัน กรรมเท่านั้นจะตัดสินได้ว่าใครดีเลว
ดูอย่างองค์คุลีมาร ถ้าเป็นสมัยนี้อาจติดคุกหรือ โดนสั่งประหารไปแล้ว แต่ท่านก็ยังบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้เพราะยังมีกรรมดีช่วยอยู่ แต่ตำรวจ ผู้พิพากษา ทนาย ทหาร เหล่านี้ไม่รอดครับ บางสิ่งบางอย่างมันก็ขัดกับทางโลก ก็เลือกเอาครับจะเอาทางโลกหรือทางธรรม

 

กรรมฆ่าคนรับกันจนเซ็งไม่ต้องเอาความสำเร็จสมหวังอะไรในชีวิตเลย ฆ่าคนเยอะๆ
กลับมาเกิดเป็นคนก็ไม่ครบ 32 ก่อน ใช้ไปใช้มาอย่างพวกเจ็บป่วยประจำ ขี้โรค
สมองช้า อะไรต่างๆ มากมายใช้กันให้สะใจไปเลย ผมเองก็เคยเป็นนักรบมาก่อน
ใช้มามากแล้วแค่เศษกรรมก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

 

แนะนำนะครับ อ้างอิง (ธรรมมะปฏิบัติ 26 )โดยหลวงพ่อพระราชพรมยาน
หน้า27
ถาม :สมัยนั้นนี่ที่เวลาเสร็จศึกสงครามแล้ว มีอะไรเป็นการชดเชยเวรกรรมอย่างใดประการใดบ้างครับหลวงพ่อ
ตอบ :สร้างวัดไง เวลาเกิดศึกสงครามก็ทำบุญกัน สงครามก็สงคราม บุญก็บุญ วัดถึงได้มาก
ถาม :แหม...เรื่องของกรรมน่าจะหายกันนะครับ น่าจะชดเชยกันไปบ้าง สร้างวัดตั้งเยอะทำบุญตั้งเยอะ
ตอบ: สำคัญเวลาตายสิ เรามีของอยู่ 2 อย่าง คือกระติกหนึ่งมีกาแฟเย็นหน่ะ อีกกระติกหนึ่งมีน้ำกรด เวลาเดินทางจะเอากระติกน้ำกรดไป หรือจะเอากาแฟเย็นไป เวลาจะตาย ถ้าไปนึกถึงบาปก็หมายถึงถือกระติกน้ำกรดไป
ถาม :อย่างนี้ก็พยายามหิ้วกาแฟเย็นไว้เรื่อยๆ
ตอบ :ใช่ๆน้ำกรดมันมาไงก็ช่าง จะตามก็ช่างมัน หิ้วกาแฟไว้มัดไห้แน่นติดเอวไว้อย่างที่ท่านสอนเจริญกรรมฐานแบบนี้
ถาม :ต้องซ้อมเวลาตายจะได้ไปดี
ตอบ : ใช่ ต้องการให้อารมร์ชิน คือฌานก็คือความชินของจิต นึกไว้แต่บุญ ที่ พระพุทธเจ้าบอกว่า ขึ้นชื่อว่าบาปที่ทำมาแล้วจงอย่าตามนึกถึง ให้นึกถึงแต่บุญอย่างเดียว นี่ท่านสอนไม่ใช่ไม่สอน แต่ว่าคนที่นึกถึงแต่บาปอย่างเดียวก็มีเยอะ พระก็มีเยอะ นึกถึงบาปอย่างเดียวบุญไม่นึกถึง ใช่มั้ยหมอ ด่าคนโน้น นินทาคนนี้เสียดสีคนนั้นนะ นึกถึงแต่ความชั่วอย่างเดียว

 

เป็นผมไม่คิดมาก ก็ไม่ทำมันดิครับ อาชีพมีตั้งเยอะตั้งเยอะ หรือไปอยู่ฝ่ายอื่นก็ได้นิครับ
สายปราบปราม คนเก่งอยู่แล้วเราก็ลดไปเป็นตำรวจจราจรก็ได้นิ ^^ แล้วแต่คิดครับ
แต่สายปราบปรามเราก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนนิครับ คนอื่นจะฆ่าแต่เราไม่ฆ่าอ่ะ
เอาแค่บาดเจ็บ(ปางตาย)ก็พอ ว่าแต่เพื่อปกป้องคนดีนี่มัน ตะหงิดๆนะเนี่ย^^
มันต้องบอกไปเลยว่าเพื่อความสงบสุขของชาติและบ้านเมืองสิครับ

 

อาชีพนี้

เปนอาชีพอาสาสมัคร

ถ้าพวกท่านไม่ยอมรับอาสาเข้ามา

ก็ไม่รู้จะไปหาคนที่ไหน

 

เกิดในสมัยพระศรีอาริย์สิคะ

ยุคนั้นไม่มีตำรวจ ไม่มีทหาร เพราะมีแต่ความสันติสุข

 

การทำเหตุปานาติบาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งฆ่ามนุษย์
ให้วิบากเป็นผลในทุกภพชาติไป คือ
๑. อายุตนเองจะสั้น จิตใจและร่างกายไม่แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน เกิดมาพิกลพิการ
๒. คนที่เกี่ยวข้อง เช่น ภรรยา หรือสามี หรือ ลูกหลาน ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น อายุสั้น แต่ที่จริงไม่ใช่กรรมของคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ คนที่สร้างกรรมเหมือน ๆ กับเรามาเกิดและมาเกี่ยวข้องกัน เช่น คนที่อายุสั้นและไม่แข็งแรงมาเกิดกับเรา

มีตำรวจที่ผมรู้จักหลายคนที่คู่ครองพ่อแม่พี่น้องเขาสิ้นอายุขัยก่อนถึงวัยอันควร น่าจะเกิดจากเขาปานาติบาต

ส่วนเรื่องการหวังสวรรค์ชั้น ๖ นั้นต้องพิจารณาให้ดี ถ้าจะไปจริงไม่ใช่เรื่องยาก ที่ไปยากกว่านั้นเขายังไปกันได้เลย แม้แต่พรหมโลก หรือ ยิ่งกว่านั้น

พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนพระสาวกว่า " ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ถ้าปฏิบัติธรรมเพื่อหวังไปเกิดในสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง ก็เปรียบเสมือนดังถูกผีเข้าสิง"

ลองพิจารณาดูเพราะเหตุใด เพราะ สวรรค์ยังไม่ใช่ที่สิ้นทุกข์ มันเป็นที่ ๆ ยังมีทุกข์อยู่ เพราะยังมีขันธ์ ๕ ครบ (ขันธ์ห้าไม่เที่ยง) แม้แต่ ตัวสวรรค์เองก็ไม่เที่ยง สิ่งไหนไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์

ท่าน ฯ จึงสอนให้หวังสูงสุด คือ "การไม่ต้องมาเกิดอีกต่อไป" วิธีการทำให้ไม่ต้องมาเกิดซ้ำอีกในสถานที่ใด ๆ คือ การดับขันธ์ไม่ให้มีเชื้อเหลือ ท่านก็สอนไปหมดแล้ว

ส่วนการไปสวรรค์นั้นมันเป็นที่พักระหว่าเดินทาง คือ เหมือนเรามีเป้าหมายของการเดินทาง แล้วเราแวะพัก จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปจนถึงเป้าหมาย เพราะเรามีเป้าหมายที่แน่นอนอยู่

ถ้าเราหวังแค่สวรรค์ จิตเราจะเกาะเฉพาะสวรรค์ เมื่อไปเกิดที่นั่น หรือ มาเกิดในโลกมนุษย์อีก เราก็ไป-มา ได้แค่นี้ เพราะ เราเคยคิดหวังหรือเคยตั้งใจไว้เท่านี้ ดังนั้นจึงมีเทวดาจำนวนมาก ล้าน ๆ โกฎที่รู้จักแค่สวรรค์ ไม่รู้จักนิพพาน เพราะ ที่ผ่าน ๆ มาคุ้นเคยกับการหวังแค่นั้น ๆ

ข้อจำกัดของเทวดาและพรหมมีอยู่ ไม่ใช่จะทำตามใจได้ทุกสิ่งอย่าง เช่น เนรมิตได้ทุกอย่างหรือไปไหนมาไหนได้ทุกที เทวดาและพรหม จะไม่สามารถรู้และเห็นสวรรค์ หรือพรหมโลกในชั้นที่สูงกว่า ดังนั้นจึงไม่เห็นอะไรที่สูงกว่านั้นได้ เนื่องจากผัสที่แม้จะเป็นทิพย์ก็ตาม เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ ไม่ละเอียดพอที่จะได้เห็นได้ยิน รูปและเสียงที่ละเอียดกว่าของพวกที่อยู่ชั้นสูงกว่าได้ เช่น พวกในสวรรค์ชั้น ๕ จะไม่เห็นพวกชั้น ๖ เลย เลยหลงว่าเรานี้เหนือสุดแล้ว พวกพรหมก็เหมือนกัน พวกพรหม ชั้นล่าง ๆ นึกว่าตัวเองเลิศสุดแล้ว ที่ไหนได้ไม่เคยเห็นพวกที่เขาอยู่ชั้นสูงกว่าตนเลย เลยหลงว่าตนที่สุดแล้ว / แต่พวกที่เขาอยู่สูงว่าเขาสามารถรู้เห็นพวกที่อยู่ชั้นต่ำกว่า เพราะ ผัสสะที่ละเอียดกว่าสามารถเห็นและได้ยินสิ่งที่หยาบกว่าได้

 

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ...... พิจารณาดูเอง

คือ ให้เรานึกถือ ประโยชน์ หรือ ความดีของเรา อย่ามัวไม่คิดว่าจะฆ่าคน จะเบียดเบียน

ลองเปลี่ยนความคิดว่า เราช่วยปกป้องคนดี ให้มีความสุข ไม่ให้คนเลวมีโอกาสเบียดเบียน

เราช่วยให้สังคมมีกฏระเบียบ ช่วยให้คนดีหลายๆคนปลอดภัย ก็ลองนึกถึงสมัย อยุธยา

ถ้า ทหาร ชาวนา สมัยนั้นคิดแต่ว่า ฆ่าคนบาป หนีกันไปหมด ก็คงถูกพม่า ยึดครอง

และ ผู้หญิง เด็กคนจะโดนข่มเหงรังแก โดนทุกอย่าง แต่เราช่วยปกป้องคนดีเป็นล้านคน

ให้มีชีวิตต่อไป สร้างวัฒนธรรมได้ต่อไป.... มองโลกในแง่ดี หรือ คิดบวก

เวลาทำงาน ก็ ทำอย่างตรงไปตรงมา ตามเหตุ ผล จับให้ถูกตัว สืบให้ถูก ตรงหลักฐาน

เพราะถ้าในสังคมเราไม่มีอาชีพนี้ในปัจจุบันนี้ คนเลวมันคิดไม่ได้ - คนดีก็จะถูกรังแก

ให้เรา คิดในส่วนที่เป็นกุศล ส่วนเรื่อง ส่วย เรื่องใต้โต๊ะ ก็อย่าทำ เพราะอาชีพนี้

อยู่ใกล้มาก คนทำเลวมา เช่นขับรถชนคนอื่น แล้วมายัดเงิน อาจจะหลักแสน

มีตำรวจ ที่ทำแบบนี้เหมือนกัน แล้วก็แก้คดีให้...... อย่าทำ

สรุปแล้ว ถ้าไม่สบายใจคิดว่า ทำผิดศีลแน่ๆ ก็ให้เปลี่ยนอาชีพไปเลย....

แต่ถ้าคิดว่า คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ และจะทำหน้าที่ให้ถูกตรง ก็ให้คิดอย่างที่ผมแนะนำ

 

แล้วจะไปทำไมล่ะสวรรค์ มุ่ง พระนิพพาน ไปเลยสิครับ
ในเมื่อเป็นตำรวจก็จงตั้งมั่นทำอาชีพของคุณให้ดีที่สุด....
ศึกษาและปฏิบัติธรรม ให้ดีที่สุด....

 

ให้นึกถึงแต่ความดีที่เคยทำไว้ สิ่งสำคัญคือ ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ ไม่อิงผลประโยชน์ ทำด้วยความสุขใจที่ได้ปกป้องโลกใบนี้ไว้ มองโลกตามความเป็นจริง แต่อย่าไปเต้นตามมัน ถึงจะเต้นบ้างก็ขอจังหวะสโลว์หน่อย แล้วทำให้ดีที่สุด ทำมันด้วยความรักความเสียสละ ถ้ารักไม่ไหวก็ให้เริ่มจากเฉยก่อนก็ยังดี และตรงกันข้าม อย่าทำมันด้วยความโกรธแค้น ความเกลียดชัง ทุกสิ่งทุกอย่างมีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน มีใจไปก่อน

 

ผมจะพยายามนึกถึงความดีที่ผมเคยทำไว้ครับ

ที่ผมอยากไปสวรรค์ชั้น 6 เพราะว่าผมกลัวว่าผมจะตกนรกน่ะครับ
เลยหวังสูงไปเลย

 

คือทางบ้านอยากให้เป็นตำรวจอ่ะครับ

และผมก็จบ นิติศาสตร์ ซึ่งตรงกับสายงานป้องกันและปราบปราม

แต่ผมกลัวตกนรก ผมทำงานอาชีพนี้ ผมจะไปสวรรค์ชั้น 6 ได้ไหม

แนะนำทีเถิดครับ ควรทำไงดี

 

ทำสายงานวิชาการได้ไหมคะ , ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถูกศีลธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ หมั่นเจริญ ศีล สมาธิ ภาวนา ก็คงไม่ตกนรกหรอกค่ะ

 

เลือกที่จะไปสิครับ อย่าอยากไปหรือพยายามไปเพราะการที่เรามีความอยากมันสูญเสียพลังเพราะความอยากไปแล้ว เลือกที่จะไปก็พอครับ

 

ในความคิดผม แม้ตำรวจจะเป็นอาชีพที่เสี่ยงต่อการผิดศีลก็ตาม แต่ทุกอาชีพต่างก็มีโอกาสผิดศีลได้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลครับ

ในหลายครั้ง คนที่ตั้งใจจะทำดีก็ไม่สามารถทนต่อกระแสความเลวที่เข้ามากลืนได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าในสถานีตำรวจที่คุณอยู่ มีการเก็บส่วยมาแสนนาน และคุณก็จะต้องเป็นหนึ่งในทีมนั้นด้วยการกินตามน้ำ หรือไม่งั้นก็จะถูกย้าย ถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา มาถึงทางแยกนี้ คุณก็จะมีทางให้เลือกหลายทาง เช่น

1. กินตามน้ำไปดีกว่าโดนของแข็ง ศาสนาช่างหัวมัน
2. ยืนหยัดที่จะไม่ทำความเลวนั้น และยอมรับสภาพที่จะโดนของแข็งแต่โดยดี (เช่น ย้ายไปไกล ๆ )
3. ยืนหยัดที่จะไม่ทำความเลวนั้น และสวนกลับ (เช่น ทำหนังสือร้องเรียนถึงหน่วยงานที่สูงกว่า ) และพร้อมที่จะสู้ตามระบบ ซึ่งอาจนำมาซึ่งของแข็งอีกหลายอย่าง

ก็แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกทางไหน แน่นอนว่าทางเลือกมีมากกว่านี้ คุณกำหนดชะตาด้วยตัวคุณเองครับ

 

มีระบุชั้นไว้เสร็จสรรพ

จะบอกเล่าภาพรวมนะครับ

กรรมที่มีผลหนัก ขัดขวางคุณงามความดีใหญ่ มีดังนี้ครับ
อย่าได้พลาดเชียว

อนันตริยกรรม อันนี้ ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ในชาตินั้น
(ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงขนาดเลือดตกยางออก
สังฆเภท)

ผู้ที่ทำกรรมอันนี้ไว้ จิตจะมีลักษณะเป็นหลุมดำ กลวง ๆ อยู่ภายใน
และไม่สามารถดำเนินจิตให้ตั้งมั่นในระดับฌานสมาธิได้
เวลาจิตจะรวมตัว จะมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงบ้าง กายสั่นเทา
จิตจะกระจาย ๆ ออก มีหมอกมืดคลุมจิต เกิดนิมิตรร้ายรบกวนขณะปฏิบัติ
บ้างครั้งเหมือนจะได้ แต่ก็ไ่ม่ได้

ปาราชิก อันนี้ ท่านห้ามนิพพานในชาตินั้น (สุคติยังไปได้ แต่ยากมาก ๆ)
เสพเมถุน ลักทรัพย์ ฆ่ามนุษย์ อวดอุตริย์
ผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิก ครูบาอาจารย์มักแนะนำให้ทำงาน
รับใช้พระศาสนา ช่วยงานวัด เมื่อที่วิถีจิตจะได้จดจำ
ภาพกุศลไว้มาก ๆ และสร้างบุญกุศลได้ง่ายขึ้น
พูดง่าย ๆ ว่า เอาบุญไว้ให้เยอะ จะได้วิ่งหนีบาปได้อย่าทันให้กรรมส่งผล

การฆ่ามนุษย์นั้นมีโทษหนักมาก โดยมิอาจจะเขียนเล่าได้หมด
ไหนจะผลโดยตรง ผลทางอ้อม และเศษกรรมที่เหลืออีก
ใครก็ตามพรากชีวิตของสัตว์ประเสริฐ คนผู้นั้นก็ไม่ควรที่จะเข้าถึงความเป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ใครก็ตามมีญาณรู้เห็นกรรมเหล่านี้ อย่าว่าแต่ฆ่าคนเลย แม้แต่มด ยุง เรายังไม่กล้า

แต่ถ้าเป็นตำรวจ ทหาร เราต้องตั้งจิตว่า เราไม่ได้จะไปฆ่าคน
แต่เรากำลังทำหน้าที่ รักษาชาติ ประชาชน และมนตรี
อย่าไปคิดว่า ฉันจะฆ่าแก

 

ไปน่ะไปได้ครับ ไม่ยากหรอก จะไปไหนก็ไปได้ มันขึ้นอยู่ที่ใจของคุณเอง
คุณจะต้องมีสติกำกับทุกๆสิ่งที่คุณคิด ที่คุณทำ อย่าให้กิเลสมันเข้ามาแทรก

ผมจะไม่พูดเรื่องที่ว่า คุณต้องไปฆ่าคนอื่นหรอกนะ เพราะตรงนั้นคุณรู้อยู่แล้วว่ามันบาปแน่นอน คุณอาจจะเดินทางสายกลางด้วยการจับเป็นซะ มันอาจจะยากหน่อยนะครับ แต่ว่ามันก็เป็นทางสายกลางแล้วล่ะ

 

เอ๊....คุณ จขกท เคยฆ่าคนด้วยเหรอคะ ==! ถ้าไม่เคยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรน๊า รักษาใจสิคะ ^^ ปฏิบัติธรรมด้วย แหม นั่งสมาธิได้ ฌาญสองด้วย ดีจังค่ะ แฮปปี้นั่งไม่ถึงนาทีก็กระเจิงแล้ว
อาจารย์ไชยยศ เหมะรัชตะ ที่แฮปปี้นับถือมาก ท่านก็ทำงานสาย กม. ค่ะ
(แฮปปี้เคยเรียนกับท่าน ตอนนี้แฮปปี้ซิ้วไปเป็นแม่ครัวแล้วค่ะ T^T)
ท่านทำบุญมากค่ะ สร้างมหากุศลด้วย แฮปปี้ได้หนังสือธรรมะที่ท่านเป็นเจ้าภาพโดยบังเอฺยด้วยค่ะ เรื่องของกรรมฐาน ท่านนั่งบ่อย เลยเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์ ซึ่งเขียนโดน สมเด็จพระสังฆราช ค่ะ ^^ และเวลาท่านสอน กม. ท่านจะพูดเรื่องบุญ กรรม และเชิญให้นักศึกษาทำบุญเสียมากค่ะ ท่านก็อยู่กรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดด้วยนะคะ แต่ท่านก็ถือว่า งานของท่านทำเพื่อประโยชน์ ไม่ได้หมายที่จะโทษ หรือฆ่าใคร ดังนั้น แฮปปี้ว่า ถ้าคุณกระทำเพื่อประโยชน์ ไม่ได้หมายให้โทษ หรือฆ่าใคร คุณก็ไม่น่าจะผิดบาปนะคะ คงอยู่ที่เจตนาด้วยนะคะ ถ้าคุณคิดว่า จะฆ่าๆๆ ฆ่าเขาให้ตาย อย่างนี้ก็คงตกนรกแน่ๆเลยค่ะ T^T
แต่แฮปปี้ก็อ่านหนังสือของท่าน หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ ท่านบอกว่า บุญกุศลนั้นมีกำลังเยอะกว่าบาป ก็ประกอบไว้เยอะๆสิคะ เพราะเท่าที่แฮปปี้เห็น ท่านที่รับราชกรชั้นสูงๆ ท่านจะเข้าธรรมะมาก ประกอบบุญ และนั่งสมาธิมาก (เช่นท่านพลโท เยี่ยม อินทรกำแหง และ นาวาเอก (พิเศษ) อ่อน บุญญพันธุ์) คุณ จขกท ลองทำบ้างสิคะ ตัวอย่างในราชการมีเยอะแยะมากเลย คุณพ่อแฮปปี้ก็ รับซองกฐินมาแจกบ้าง ร่วมสร้างสำนักสงฆ์บ้าง แต่ของแบบนี้ต้องทำบ่อยๆ ตามกำลัง แต่ใจเกิน 100 นะคะ แฮปปี้เชื่อว่า คุณต้องทำได้แน่ๆค่ะ ^^
อนุโมทนาสาธุ ในจิตใจที่เห็นซึ่งความทุกข์ของคุณด้วยนะคะ เพราะแฮปปี้เคยได้ยินมาว่า ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นจะเห็นพระธรรม เพราะเบื่อหน่ายจากทุกข์ เลยจะเข้าหาพระธรรมคำสอนแท้ๆ เพื่อให้พ้นทุกข์ ^^

 

ท่านบอกว่า ท่านได้ฌาน 2 แล้ว ท่านไม่ต้องไปหรอกครับสวรรค์น่ะ ท่านมีพรหมโลกเป็นที่ไปแล้วนั่นน่ะ ได้ตั้งแต่ฌาน 1 แล้ว

ไปทำไมสวรรค์ ไปนิพพานไม่เก่งกว่าหรอครับท่าน สุดยอดกว่า สวยกว่า สง่ากว่า เต็มภาคภูมิกว่า

เจริญธรรมครับ