คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย JIT_ISSARA, 17 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ช่ายครับ ถูกครับ ถูกครับ
     
  2. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163

    ภาวนา สุ ขิ ตา ยัง ธัม มัง ตั้งความรู้สึกแล้วภวนาที่กลางหน้าอก ในระหว่างบริกรรม ภวนา ให้รู้สึกว่าเสียงคำบริกรรมส่งออกไปทั่วจักรวาล ทำได้ทั้งวันครับ ทำ 3 วันแล้วมาส่งการบ้านว่าก่อนและหลังภวนา อารมณ์ต่างกันอย่างไร
     
  3. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    ท่านพี่ครับ เวลาทำสมาธิแล้วหนังตามันกระพริบถี่ๆ สมควรทำเยี่ยงไรครับ จะปล่อยให้มันกระพริบหรือจ้องให้มันหายกระพริบครับ
     
  4. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ภาวนา ปะสะนะวา ปะชานาติ ตั้งความรู้สึกไว้กลางหน้าอก แล้วบริกรรมในใจว่า ปะสะนะวา ปะชานาติ ในระหว่างบริกรรมให้มีความรู้สีกว่าเสียงที่บริกรรมดังก้องกังวานออกสู่ภายนอกนะ แล้วดังไปทั่วจักรวาลเลยนะ
     
  5. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ภาวนา ปะสะนะวา ปะชานาติ ตั้งความรู้สึกไว้กลางหน้าอก แล้วบริกรรมในใจว่า ปะสะนะวา ปะชานาติ ในระหว่างบริกรรมให้มีความรู้สีกว่าเสียงที่บริกรรมดังก้องกังวานออกสู่ภายนอกนะ แล้วดังไปทั่วจักรวาลเลยนะ
    ถ้าทำอย่างต่อเนืองและประจำ 3 วันมาส่งการบ้าน
    ถ้าทำบ้าง ทำทุกวัน 7 วันมาส่งผล
    ถ้าทำวันเว้นวัน 2 อาทิตย์มาส่งผล
    ถ้าทำอาทิตยฺละครั้ง 6 เดื่อนมาส่งผลครับ
    5555
     
  6. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ให้คิดนึก รู้สึกถึง จักรวาลอันกว้างใหญ่
    อาการแบบนี้เขาเรียกว่า จิตน้องที่ออกไปนอกรางกายนะ กำลังเพ่งจ้องที่ตา ให้เอาจิตรวมเป็นหนึ่งกับอนันตจักรวาลนะ
    ลองทำดูนะ จะบอกให้น้องรัก ได้ผลอย่างไรก้อมาบอกันนะ
     
  7. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    พระ คาถาชินปโร

    (บูชาพระพุทธเจ้าทกๆพระองค์และบูชาพระผู้สอนพระกรรมฐาน เจ้าทั้งมวล)


    ชินะปะโร โหติ สัพพะทา
    ยู ตัน จะ พุทโธ เมตตา
    อะสา เมโธ โก จักกะวาลัง
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    โกฏ แสนแปดหมื่นจักกะวา
    อนันตะกุรา โลเก
    ชินะปะโร เหตุกัง อะนิวะชา
    กัม มะฐานาโน จิตตัง พุทโธ
    โกฏแสนแปดหมื่นจักกะวา
    มา มา นุภาเวนะ
    พุทธะ เถโร มหาเตโช
    ทุ ทุ ปัญโญ มหาเตโช
    ทุ ทุ ปัญญา มหาเตโช
    ทุ ทุ ปัญโญ ทิปาปะโก
    ทุ ทุ ภาโร มหาเตโช
    นา นา สังโฆ มโน โหติ
    มะ มะ มโน โหติ
    สังกิจจัง มโน สะยัง
    วัฏฏะ กิริยา มหาเตโช
    วาละกัง มหันตะโม
    กัมมะฐาโน จะ ตีรัง
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อนัน ตะกุรา กัมมัฏฐา โมโร
    อัชชะ ตะโม มหาเตโช
    จิตตัง พุทโธ มหันตะโม
    อะ อะ วัสสานิ กัมมานิ
    ทุ ทุ ภา โค ภเว ภเว
    แสนแปดหมื่นจักกะวาลัง โก-ฏิ
    วาโย โหติ ภะคะวา สุโข
    อะ อะ วะสาชา
    อะ อะ ปัญญา จิตโต พุทโธ
    สัญญา สัญโญ นิโรโธ จะ
    ปฏิสันถา ภะคะวา อันตัง
    อะ อะ ปูชา
    พุทธะปูชา มหันเตโช
    ธัมมะปูชา มหันตะโม
    สังฆะปูชา มโน มโน
    อะ อะ วัชชา จะ กัมมันตา
    กัมมัฏฐานัง แปดหมื่นจักกะวาลัง
    ภะคะวา ภะคะวา โสโร
    จิตตัง พุทโธ เมตตา ปิโณ
    กาโร กายัง มโน สุขัง
    จิต ตัง ธัมมัง มโน โหติ
    กายะ กาโย พุทโธ เมตตา
    กัมมัฏฐานัง สิขัง ปัญจะ
    อนันตะกุรา แปดหมื่นจักกะวาลัง
    ปาระมี หิโต สัญโญ เมตตา
    มุทิตา อุเบกขา โรโค
    มุนินา วะ จะ จันตะราโย
    สัญโญ โค ภะโร ภะโร
    พุ ทโธ เมตตา ธัมโม เมตตา สังโฆ เมตตา
    ปูชา ภะคะวา พุทโธ เมตตา
    ปูชา ธัมมา อนัตตา
    ปูชา สังขารา อนิจจา
    ปะติ ปะติ ภิกขะเว
    แสนแปด หมื่นจักกะวาลัง กัมมัฏฐานัง
    แปดหมื่นจักกะวาลัง เอโก สุโข
    มโน ทีโร ราชะสีห์
    โหตุ สัพพะทาฯ



    ความเป็นมาและอานิสงส์การสวด พระคาถาชินปโร ​


    ๑. พระคาถาชินะปะโร เป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ และสังฆานุภาพ ไม่มีประมาณ ได้มาจากสวรรค์โลก ​

    ๒. พระคาถานี้เป็นพระคาถาที่สรรเสริญคุณแห่งพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ที่ได้ตรัสรู้มาแล้วในอดีต ปัจจุบัน และจะตรัสรู้ในอนาคต ซึ่งมีคุณอันใหญ่ไม่มีประมาณ มีมหาปัญญาบารมี มหากรุณาบารมี เป็นต้น แผ่ไพศาลไปในแสนโกฏิจักรวาล พร้อมกันนั้นได้สรรเสริญคุณแห่งพระธรรม คุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งพระอาจารย์ที่สอนพระกรรมฐานเจ้าทั้งมวล ผู้ที่ได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ออกแนะนำสั่งสอนสรรพสัตว์ให้รู้ตามเห็นตามในธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งปวง และสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าถึงพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้เป็นองค์สุดท้ายที่จะ นำพาสรรพสัตว์ทั้งปวงข้ามวัฏฏะสงสารคือพระราชสีห์พุทธเจ้าผู้ใดได้สวดสาธยาย และเจริญจิตภาวนาพระคาถานี้อยู่เป็นเนืองนิจเหมือนได้ครอบครองแก้วสารพัดนึก อันบันดาลทุกสิ่งอย่างตามประสงค์​

    ๓. เมื่อบุคคลใดปรารถนากระทำให้แจ้งซึ่งมรรคผลนิพพาน ได้สวดท่องสาธยายและเจริญจิตภาวนาด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ประกอบด้วยสติอันตั้งมั่นในคุณแห่งพระคาถานี้อย่างแน่วแน่เป็นสัมมาทิฐิ ไม่ประกอบไปด้วยตัณหามานะอุปาทานในผลแห่งอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ให้ภาวนาสาธยายด้วยจิตอันเป็นกลาง ไม่เพียรมากนัก ไม่หย่อนนัก สม่ำเสมอในทุกอิริยาบถ ติดต่อกัน ๓ วัน ทั้งกลางวันแลกลางคืน จะกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาบันนธรรม ติดต่อกัน ๔ วัน จะทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิธรรม ติดต่อกัน ๕ วัน กระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิธรรม และติดต่อกัน ๗ วัน กระทำให้แจ้งในอรหัตผล สมบูรณ์พร้อมด้วย วิชชา ๓ อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ​

    ๔. บุคคลใดที่ปรารถนาซึ่งพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ ถ้าเจริญสาธยายและภาวนาอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิต จะช่วยเพิ่มพูนในการบำเพ็ญบารมี ให้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว และสำเร็จดั่งปรารถนา ​

    ๕. บุคคลใดปรารถนาซึ่งความเจริญในมนุษย์สมบัติ ถ้าหมั่นสาธยายสวดท่องเจริญจิตภาวนาเป็นนิจ จะเป็นที่รักในหมู่มนุษย์ เทวดา นาค ยักษ์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมตามคุ้มครองรักษา มีตบะเดชยิ่งนัก เจริญซึ่งโภคทรัพย์ ตายไป แล้วเกิดในสวรรค์ตามวาสนาบารมี ​

    ๖. ผู้ใดมีไว้บูชากราบไหว้ในบ้าน เทวดา พรหม ทั้งหลายก็จะมากราบ
    ไหว้บูชา เสมือนมีพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงประทับอยู่ในบ้าน ​

    ๗. ถ้าบุคคลใดลบหลู่และไม่เลื่อมใสศรัทธาในพระคาถานี้ เท่ากับลบหลู่พระพุทธเจ้าทั้งปวง เมื่อกายแตกดับ ย่อมตกสู่อบายภูมิ มีโลกันตมหานรกเป็นต้น ​

    ๘. การสวดท่องสาธยายให้สวดท่อง ๓ จบ ๔ จบ ๕ จบ หรือ ๗ จบ ตามปรารถนา เมื่อสวดสาธยายเสร็จแล้วให้เจริญจิตภาวนานั่งสมาธิ ตั้งสติที่กึ่งกลางระหว่างอกเหนือลิ้นปี่สองนิ้วมือ บริกรรมด้วยคำว่า ​

    “พุทธังเมตตา, พุทธังจักกะวาลัง, แสนแปดหมื่นจักกะวาลัง, กัมมัฏฐานัง แปดหมื่นจักกะวาลัง, กาโย โหติ”
    ---------------------------------------------------------------------
    ใครอยากยกระดับจิตด้วยความรวดเร็ว ภายใน 7 วัน
    1 พระคาถาชินปารโร บทเต็ม 7 จบ/ วัน
    2 นั่งสมาธิใช้บทย่อ ของคาถาชินปาโร
    “พุทธังเมตตา, พุทธังจักกะวาลัง, แสนแปดหมื่นจักกะวาลัง, กัมมัฏฐานัง แปดหมื่นจักกะวาลัง, กาโย โหติ”
    3 ในระหว่างวัน ภาวนา
    อิติ ภควา ติ
    4 ขอพรทุกวัน วันละ 3 จบก่อนนอน
    อธิฐาน จิต วันละ 3 รอบ
    โอม... นะ ม่ะ ช่ะ ญ่ะ จาห์ ภา เทห์<O:p></O:p>
    วา รา ดา ยา พา เทห์<O:p></O:p>
    ยา ฮา สะ ระ วา พา เทห์<O:p></O:p>
    เฮ ลา ยา พา ทา สวาฮา.
    <O:p></O:p>
    โอม... ความรักไม่มีประมาณของพระองค์ ทำให้สรรพสิ่งเต็มเปี่ยม<O:p></O:p>
    ความรักของพระองค์แผ่ออกไป ไร้ขอบเขต ไม่มีอะไรขวางกั้นได้<O:p></O:p>
    ความรักพระองค์ทำให้สรรพสิ่งสมบูรณ์<O:p></O:p>
    สรรพสิ่งสอดคล้อง กลมเกลียว สันติ ปิติยินดี รื่นเริง เบิกบาน เป็นนิรันดร์.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  8. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    สวัสดีครับท่านพี่เมื่อคืนสวดแค่ 1 จบครับ รู้สึกถึงอาการตึงๆ หนึบๆ บนใบหน้า แล้วตอนทำสมาธิก็เห็นแสงสีสองวาดเป็นรูปโค้งเหมือนรุ้งครับ แปลกดี
     
  9. rapwc

    rapwc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +136
    ท่านจิตอิสระค่ะ หลังจากที่เมื่อวานปฏิบัติไปเป็นวันแรก ขอถามหน่อยนะคะ การอธิษฐานจิตวันละ 3 รอบ ไม่สวด โอม... นะ ม่ะ ช่ะ จาห์ ภา เทห์ ... ได้หรือไม่ค่ะ? โดยใช้เป็นภาษาไทยแทนค่ะ การอธิษฐานจิตที่ปฏิบัติคือ ก่อนนอน ตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ตอนกลางวัน หลังรับประทานอาหารเที่ยงค่ะ
    ส่วนคำ ภควา ก็ภวนาทุกขณะจิตที่ระลึกได้ในการดำเนินชีวิตประจำวันค่ะ ผลเป็นประการใดครบ 7 วันแล้วจะมาส่งการบ้านอีกครั้งค่ะ
     
  10. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ได้ครับ ควรทำก่อนนอนครับให้สิ่งที่เราอธิฐานขอจมสู่ใต้สำนึภ
    คำว่า ภควา ให้เปลี่ยนเป็น อิติ ภควา ติ ครับ
     
  11. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    วันนี้มีคนถามเรื่องการเปิดจักระ เลยนะมาเปิดให้อีกรอบ สำหรับผู้มาใหม่
    ให้น้อมหรือรู้สึกว่ามีพลังไหลเวียนอย่างนี้จริง แล้วการตื่นรู้เราจะขัดเจนขึ้น รู้สึกสัก 3 รอบนะครับ
    การฝึกเปิดจักระกุลฑาลินี<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    <IFRAME class=youtube-player title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/AB7v_0IURm4" frameBorder=0 width=480 height=390 type="text/html" allowfullscreen=""></IFRAME>

    การฝึกเปิดจักระกุลฑาลินี คือ ให้จำภาพในวิดีโอนี้

    เเล้วนำไปฝึกจินตนาการตาม เป็นการช่วยให้เราเปิดจักระ<WBR>ทั้งหมดได้เร็วขึ้นค่ะ

    พลังกุณฑาลินีคือ พลังดั้งเดิมของจักรวาลซึ่ง<WBR>สั่นสะเทือนอยู่ในมนุษย์ทุก<WBR>คน

    เป็นพลังที่ทำให้เด็กน้อยแล<WBR>ะดอกไม้เติบโต

    พลังจะรวมตัวกันอยู่มากในสถานที<WBR>่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ขอ<WBR>งโลก

    เช่น ในเทือกเขาหิมาลัย แม่น้ำคงคา มหานครเมกกะ หินเอเยอร์ ในประเทศออสเตรเลีย

    พลัง กุณฑาลินี นี้ สถิตที่ปลายสุดของกระดูกสัน<WBR>หลัง ในพวกเราทุกคน เมื่อมันตื่นขึ้น มันจะพุ่งสู่จักรา (ช่องพลัง)

    สุดท้ายบนเหนือศีรษะของพวกเ<WBR>รา ซึ่งเชื่อมต่อกับพลังจักรวา<WBR>ลที่มีอยู่ทั้งหมด และมอบความรู้แจ้งในตนเองกั<WBR>บเรา

    นักบุญในอดีตสามารถจะบรรลุโ<WBR>ยคะที่สมบูรณ์และตรัสรู้ได้<WBR>

    เมื่อพลังกุณฑาลินีของพวกเข<WBR>าเปิดจักราสุดท้ายอย่างเต็ม<WBR>ที่บนเหนือศีรษะ

    กระบวนการนี้ได้ถูกแสดงออกม<WBR>าเป็นสัญลักษณ์ในทุก ๆ วัฒนธรรม

    (สังเกตรูปของพระพุทธเจ้า กับพลังกุณฑาลินีที่เป็นเปล<WBR>วไฟโชติช่วงอยู่บนเศียรของพ<WBR>ระองค์)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->SoLyบอกบุญfacebook<<ต้องการบอกบุญคลิ๊กที่นี้ค่ะ
    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  12. bennynaja

    bennynaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +104
    แอบไปอ่านเจอ - -* ทำบ้างไม่ทำบ้าง วันนี้ว่าจะมาส่งการบ้าน ขอกลับไปภาวนาอีกรอบนะคะ แต่ตอนนี้มีความรู้สึกว่าขณะท่องเวลาทำสมาธิ จิตใจจะสงบขึ้น(คิดไปเองรึเปล่าอันนี้ไม่รู้นะคะ)
     
  13. zerozodiac

    zerozodiac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +66
    สุดๆครับท่านพี่ เมื่อคืนไม่ทราบว่าวันโกณ วันพระหรือเปล่า โดนอีกแล้วครับ เห็นเป็นเงาดำน่ากลัวครับ ก็เลยแผ่ส่วนบุญไป สักพักเงานั้นก็เป็นสีขาว มีเยอะด้วย แต่เมื่อคืนตอนทำสมาธิแล้วหนังตากระพริบถี่ๆ ผมก็ทำตามที่ท่านพี่บอก มันพริบถี่มากเร็วมาก แล้วก็เห็นแสงสีขาวจากหน้าผาก สว่างมาเป็นเหมือนซุ้มประตูรอบดวงตา บริเวณคิ้ว สวยงามครับ แล้ว 2 คืนก่อนผมได้เปิดจักกระ แต่ว่ามันไม่รู้สึกถึงจักระที่ 5-7 ไม่รู้สึกว่าออกกระหม่อม แต่มีพลังงานไหลรอบตัว ปล. พระ คาถาชินปโร สุดยอดครับ
     
  14. zerenazodiac

    zerenazodiac สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +9
    ส่งการบ้านค่ะ หลังจากที่ท่อง ปะสะนะวา ปะชานาติ สลับวันกับ ปะริสุทธิง ปะชานาติ แล้วสวดบทชินะปาโร พร้อมกับกล่าวขอบคุณทุกสรรพสิ่ง ผลออกมาก็คือ รู้สึกว่าอารมณ์เบิกบานมาก และจากที่เคยเป็นคนที่คาดหวังหรือมีเป้าหมาย หรือใครมาสัญญาอะไรไว้แล้วเวลามันทำไม่ได้จะรู้สึกแย่มากๆ เพราะเป็นคนยึดมั่นถือมั่นในคำสัญญาไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่วางแพลนไว้ จะเครียดสุดๆ แต่มา ณ ตอนนี้ อารมณ์เหล่านั้นมันจางลงไปมากจนแทบไม่เหลืออยู่เลย ประมาณว่าที่ตกลงกันไว้ว่าจะไปไหน ตอนนี้ก็คือได้ไปก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไร อะไรที่เคยอยากได้มากๆ ถ้าไม่ได้ก็จะเครียดและน้อยใจใส่คนอื่น ตอนนี้ก็คืออยากได้เหมือนเดิม แต่อารมณ์จะประมาณว่าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร นี่คือผลโดยรวมค่ะ


    แต่มีผลแปลกๆ ที่ทดลองทำเองมาเล่าให้ฟังค่ะ คือที่พี่บอกให้ท่องสองบทนี้สลับกันวันต่อวัน หนูเลยเกิดความสงสัยว่าแล้วถ้าท่องสลับประโยคกันเลยในการท่องแต่ละรอบ ตัวอย่างคือ ท่องคำว่า "ปะริสุทธิง ปะชานาติ ปะสะนะวา ประชานาติ" ต่อกันแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น ผลที่ได้ก็คืออาการหอบ หายใจไม่ค่อยออก ตอนแรกก็ไม่อยากจะเชื่อ คิดว่าตัวเองคิดไปเอง เลยลองหลายๆรอบ ผลที่ได้รับก็คือเหมือนเดิม ก็เลยกลับมาท่องแบบที่พี่บอกไว้แต่แรก ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมจึงได้ผลเช่นนั้น


    และเรื่องที่จะเล่าเรื่องสุดท้ายของวันนี้ก็คือความฝันค่ะ เรื่องที่หนูฝันถึงเนี่ยหนูอยากจะบอกว่าหนูไม่เคยหมกมุ่นเรื่องพวกนี้เลย ไม่เคยหาความรู้ในเรื่องแบบนี้ เพราะเฉยๆไม่ได้อยากรู้มากมายขนาดที่ว่าหาเสพมันอยู่เรื่อยๆ ก่อนนอนก็มีสติดี แต่สงสัยว่าทำไมฝันถึงเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เป็นความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยันเช้าค่ะ ตอนเข้านอนหนูก็ไม่ได้ง่วงมากมาย แต่พอกำลังจะหลับ(หลับตาแล้ว)เหมือนเห็นแสงสีขาวเป็นรูปหน้าคนมากมายลอยเข้ามา เห็นคนทำกิจกรรมต่างๆในจอสีขาวๆ และเห็นแสงระยิบระยับสีเหลี่ยมคล้ายๆ เพชรที่เจียรไนเป็นรูปสี่เหลี่มผืนผ้าแนวตั้งมุมทั้งสี่โค้งมนเล็กน้อยอยู่ข้างๆ จอสีขาวนั้น ตอนนั้นก็สงสัยว่าตัวเองง่วงจัดขนาดนี้เลยหรือนี่ เลยตาลายขนาดนี้ หลังจากนั้นก็เหมือนขยับตัวไม่ได้ เลยคิดในใจว่าถ้าจะขอส่วนบุญก็ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ เดี๋ยวแผ่ให้(ลืมบอกไปว่าเมื่อคืนลืมสวดมนต์แผ่เมตตา) แล้วเหมือนตัวเองจะเผลอหลับไปในทันทีโดยที่ยังไม่ได้สวดมนต์แผ่เมตตา ไม่รู้ว่าหลับไปนานไหมแล้วมันก็สะดุ้งตื่นมาขยับตัวไม่ได้อีก และคิดในใจว่า เฮ้ย...ยังไม่ได้แผ่เมตตานี่ พอฝืนจนขยับตัวได้ก็เลยแผ่เมตตาหนึ่งรอบ แล้วก็เกิดอาการที่เรียกว่าง่วงมากๆ ถึงมากที่สุด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ง่วงนี่นา พอหลับก็ฝันสารพัดฝันเลยทีนี้ ทั้งฝันซ้อนฝัน แต่จำรายละเอียดไม่ได้ จำได้คร่าวๆประมาณว่าฝันเห็นเหตุการณ์ในอนาคต คนกับสัตว์จะคุยกันรู้เรื่อง ธรรมชาติและสัตว์บางชนิดจะมาเอาคืนคนที่เคยทำร้ายพวกเขาไว้ ในระหว่างฝันแต่ละเรื่องก็สลับกับตื่นตลอดค่ะ ไม่ได้ฝันยาว และเรื่องสุดท้ายนี่จำได้แม่นเลยค่ะ คือฝันว่าตัวเองอยู่บนโลกคนเดียว ไม่เห็นใครเลย เห็นแต่ความมืดและซากของพังกับฝุ่นควันเต็มไปหมด และพอมองไปข้างบนเหนือศีรษะเราขึ้นไปเล็กน้อย ก็เห็นพระพุทธเจ้ายืนอยู่บนฐานดอกบัวที่ลอยอยู่บนอากาศ ในฝันหนูคิดในใจถึงพระรัตนตรัยว่ามีพระพทธ และพระธรรมแล้ว แต่ไม่เห็นพระสงฆ์สักรูปแบบนี้ก็ไม่ครบสามประการสิ แล้วอย่างนี้ใครจะเทศนาหรือสวดมนต์ได้ล่ะ(หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในฝันต้องการพระสงฆ์ไปเทศให้ใครที่ไหน) และในขณะที่หนูคิดอยู่นั้น เพราะพุทธเจ้าก็ตรัสว่า "อย่าเชื่ออะไรให้มันมากนัก บางอย่างมันก็ไม่น่าเชื่อ(หนูไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร) แล้วจะมองหาพระสงฆ์ไปไย ในเมื่อเราก็อยู่ที่นี่แล้ว เราจะแสดงธรรมเอง" หลังจากนั้นพระองค์ก็ลอยลงมาจากอากาศ หนูก็เดินนำหน้าท่านไป เหมือนมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปหาใคร (แต่หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในฝันนั้นจะเดินไปไหน) ตอนที่หนูเดินไปโดยมีพระองค์ลอยตามหลังมาก็มีเงาสีดำลอยวนไปเวียนมาเต็มไปหมดด้วยความเร็วพอสมควร และเงาสีดำเหล่านั้นก็เปลี่ยนทิศทางจะมาหาหนู ตอนแรกก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดในใจว่า พระพุทธองค์อยู่ที่นี่แล้ว เราจะกลัวทำไม แล้วหนูก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วก็ตาสว่างเลยกว่าจะหลับได้ก็นาน พอหลับอีกคราวนี้ก็ไม่ได้ฝันอะไรแล้วยันเช้าค่ะ เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้ค่ะ ยาวไปหน่อยนะคะ ยังงงๆ อยู่เลยค่ะเมื่อคืนนี้ทำไมฝันวุ่นวายจัง นี่ถ้าจำความฝันได้ทั้งหมด คงยาวกว่านี้แน่ๆ เลยค่ะ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  15. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,977
    ขอบคุณครับท่านจิตอิสสระ

    วันนี้มาส่งการบ้านครับ หลังจากได้ภาวนา ธัมมัง ปะชานะติ ครบ 7 วันแล้วครับ

    ความรู้สึกสงบขึ้นเยอะครับ จะภาวนาอะไรต่อดีครับ ท่านจิตอิสสระ
     
  16. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    อนุโมทนาครับ สำหรับความก้าวหน้า
    อย่างที่บอก แต่ละคนจะมีประสบอารณ์ไม่เหมือนกัน แต่เป็นการพัฒนาขึ้น
    คาถา และ อักขระ นั้นเรามาประสมกันมั่วๆ ไม่ได้ครับ มันจะตีกัน และจะได้อารมไม่ถูกขึ้น เช่นอยากที่ทำ ถือว่าเป็นประสบการณ์ครับ ว่าทำแล้วผลออกมาไม่ดี ถ้ามีอาการอะไรเกิดขึน เช่น เกิดอาการคัน แขน ขาไม่มีแรง หรือ แขน ขา กระตุก ให้ถือว่าเป็นความรุ้อย่างหนึ่ง เป็นนิมิตที่ดี ที่ร่างกายเขาปรับตัว ไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตัว ต่อไปนิสัยเราจะดีขึ้น รู้เท่าทันอารมมากขึ้น
    ต่อไปให้ ภวนา
    อิติ ภควา ติ สลับ ปะริปุณณัง เม ชีวิตตัง อุปัชชะติ วัน เว้น วันนะครับ 7 วันนะคับ แล้วมาส่งการบ้านใหม่

    ต่อไปในอนาคต จะไม่มีพระสงว่าตามสภาวะ เพราะทุกคนจะเป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานกันหมด และ พระพุท พระธรรม พระสง คือหนึ่งเดียวกัน อยู่ที่ตรงกลางหน้าอกเราครับ
     
  17. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    ภาวนา
    อิติ ภควา ติ สลับ กับ ปะริปุณณัง เม ชีวิต ตัง อุปัชชะติ วัน เว้น วัน 7 วัน แล้วมาส่งการบ้านนะครับ
    ฝึกขอบคุณสิ่งรอบๆตัวที่อยู่รอบๆตัวในใจด้วยนะครับ
    ขอบคุณ พ่อแม่ที่ดูแลฉัน
    ขอบคุณหน้าที่การงาน ที่ให้ฉันได้แสดงคุณค่าในตัวฉัน
    ...
     
  18. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,977
    ขอบคุณครับ ท่านจิตอิสสระ
     
  19. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ขอสวัสดีคุณจิตอิสระและเพื่อนร่วมกระทู้ทุกๆท่านค่ะ

    ตอนแรก magic_me? ก็กะว่าจะกลับมาหลังจากทำการบ้านเสร็จสรรพหนึ่งอาทิตย์แต่ปรากฎว่าเริ่มทำวันแรกก็มีด่านมาทดสอบจิตใจวันแรกซะงั้น...เจ้าลูกชายวัย๑๒ขวบแอบใช้บัตรเครดิตซื้อเกมส์ในเน็ท มารู้ตอนมีใบแจ้งจากทางธนาคาร..ตามอารมณ์มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเราก็มีอารมณ์ โกรธ ผิดหวังในความประพฤติของเขาเนาะ แต่ไม่ได้โวยวาย...พอตกกลางคืนmagic_me?ก็จะเริ่มสวดมนต์ภาวนา โดยใช้คำว่า ปะริปุณณํง เม ชีวิตตัง อุปัชชะติ แต่ปรากฎว่า จิตใจมันอึดอัดค่ะ เหมือนหัวใจโดนบีบ ประมาณว่าหัวใจซีกซ้ายทั้งห้องข้างบนและล่างรู้สึกถูกกดดัน เศร้าๆ(เป็นความรู้สึก ณ ตอนนั่งสมาธิน่ะค่ะ...) ก็เลยใช้จินตนาการว่าจุดศูนย์กลางหน้าอกมีแสงดั่งพระอาทิตย์สาดส่องความเมตตาไปทั่วทั้งจักรวาล....คือแค่ใช้จินตนาการโดยไม่มีคำภาวนาดิฉันจะรู้สึกสบายไม่อึดอัดกะลมหายใจเข้า ออกค่ะ..นั่งได้๔๐นาที อย่างที่เล่าน่ะค่ะว่าเราซึมเศร้ากะความประพฤติของลูกชายการทำใจให้อภัย มีเมตตา ไม่โกรธนาน แค่เอาให้รู้ว่าโกรธดูอารมณ์ ตามจิตตัวเองน่ะค่ะ ก็หายหลังจาก๔๐นาที........(ยังแอบคิดกะตัวเองค่ะว่า โห ฝึกดูอารมณ์ ดูจิตมาเราก็ยังแย่ซะขนาดนี้)

    ดิฉันต้องขอโทษด้วยค่ะที่ไม่สามารถใช้คำภาวนา ใช้แต่จินตนาการอย่างเดียว ไม่ทราบว่าดิฉันยังจะสามารถมาส่งการบ้านและยกระดับจิตใจได้ไหมคะ? (ส่วนวันที่สองโดนทดสอบอีกรอบไปงานรื่่นเริงสังสรรค์กะเพื่อน เลยไม่ได้นั่งค่ะ)

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กุมภาพันธ์ 2011
  20. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163

    ในการยกระดับจิตนั้น ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีก้าวหน้า หรือ ล้มเลิก ตราบไหนที่เรายังมีปราถนา ตราบนั้น วิถแห่งการยกระดับจิตก้อยังมีอยู่ต่อไป
    ตอนนี้มีอารมโกรธลูกชาย คุณ Magic_Me ก้อรู้เท่าทันอารมนะครับ คือ เห็นความโกรธ ขึ้นมา รู้ทัน แต่ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกผิดหวังที่เกิดขึ้นว่า เราฝึกอย่างนี้ แล้วยังมาได้แค่นี้ และความรู้สึกผิดที่เลี้ยงลูกไม่ดี ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจอเหตุการณนี้อารมจะพุ่งมากกว่านี้
    อยากจะบอกความรับว่าคนยกระดับจิตนั้น จะต้องผ่านความอดทน ความทรมาน แล้ว ด่านทดสอบมากมาย เหมือนคำที่ว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด หรือ เหตุการณ์ทดสอบไม่มี ความตั้งมั่นไม่เกิด
    อาการอึดอัด ความรู้สึกทรมานใจเมื่อได้บริกรรม ความรู้สึกเสียดแทงใจเหมือนตกนรก หรือตายทั้งเป็น นั้น มีอยู่จริงเมื่อได้ภวนา เพราะเหมือนการชำระและทำความสะอาดแผลที่เน่า ต้องมีการปาด เฉือน ใส่ทิงเจอร์ เมื่ออดทนในการรักษา หรือยกระดับจิตแล้ว เนื้อที่เน่า หรือ จิตใจในส่วนทีดีได้มีการชำระ แล้ว จะกลับมาเหมือนดังเดิม
    ปะริปุณณัง เม ชีวิตตัง อุปัชชะติ เป็นคาถาเมตตาใหญ่ ที่มอบความรักและความเบิกบานใจให้แก่ตนเอง และสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเราเอง อย่างไร้เงื่อนไข เมื่อจิตเราขาดอยู่ ก้อต้องพบความอึดอึด ถ้าทำบ่อยๆ ภวนาบ่อย ๆ ปกติจะใช้เวลา 3-7 วันถึงจะกลับมาสว่างสดใส และผ่านชั้นไปได้ ไม่มีวิถีไหนที่ยกระดับจิตได้เร็วเท่ากับการภวนาด้วย อักขระที่ถูกต้องในสิ่งที่ตัวเองขาดอยู่ครับ
    ส่วนการจำลองสาดส่องไป เหมือนพระอาทิตย์ ให้ใช้ความรู้สึกส่งออกไป เหมือนลำแสงพระอาทิตนะครับ มิใช่การจินตนการแต่เป็นความรู้สึก
    ถ้าเชื่อมั่น และพร้อมที่จะเดินต่อไป ต้องมีความอดทน กล้าหาญ เชื่อมั่นในทางที่คุณ Magic_Me เมื่อพร้อมี่จะยกระดับต่อไป ขอจงภวนา
    1 พระคาถาชินปาโร วันละ 3,5,7 จบบทใหญ่
    2 ในระหว่างวันให้ภวนา อิติ ภควา ติ
    3 ฝึกขอบคุณตัวเอง บุคคลต่างๆ และสิ่งต่างๆ รอบๆตัว
    ทำประมาณ 3 วันแล้วมาส่งการบ้านครับ หรือพร้อมเมื่อไหร่ก้อมาส่งการบ้านครับ


    เคล็ดลับของการยกระดับจิต คือทำด้วยใจที่สบาย ทำบ่อยๆ ทำทุกวัน แต่อย่าไปตั้งใจทำ หรือมุ่งมั่นมาก ว่าเราต้องทำ ให้วางใจเป็นกลาง ให้คิดว่าการภวนา ทำได้ทุกเวลา ให้มีความรู้สึกว่าการภวนา เหมือนกับการกินข้าง อาบน้ำ หรืออื่นๆที่ต้องทำทุกวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...