ความเห็นจริง กับ คิดเอาเอง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จอยลี่, 24 เมษายน 2011.

  1. จอยลี่

    จอยลี่ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    สองคำนี้มีลักษณะที่ต่างกัน ท่านพี่ๆ ทั้งหลาย คิดว่าต่างกันแบบไหนค่ะ
    ความเห็นจริง เป็นอย่างไร ?
    คิดเอาเอง เป็นอย่างไร ?

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ผมคิดว่าน่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องจิตนะคับ..
    การเห็นความจริงผมเข้าใจว่าคือ..การที่จิดรู้ตามสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันตามความเป็นจริงด้วยความเป็นกลางของเค้าเองคับ โดยที่เราไม่ได้ไปคอยจับจ้อง เฝ้าดู หรือทำการแทรกแซงใดๆ...จนเค้าลงไตรลักษณ์ใดไตรลักษณหนี่งได้ก่อนของเค้าเองนะคับ..
    คิดเอาเอง ผมเข้าใจว่า คือ.การที่เราไปหมายมั่นปั่นมือหรือหลงไปว่า ความคิดที่เกิดจากจิตเป็นตัวปัญญา เป็นตัวสติ.เลยไปนึกเองเอ่อเองเผลอแทรกแซงโดยที่เราไม่รู้ว่า ความจริงแล้วเป็นความคิดที่เกิดจากจิตปรุงร่วมกันกับจิต.เพราะว่ากำลังสติเรายังไม่เพียงพอที่แยกแยะเค้าออกได้ว่าอะไรเป็นจิต อะไรเป็นความคิดที่เกิดจากจิต.คิดเอาเองอีกความหมายที่ผมเข้าใจก็คือ การวิปัสนึกคับ...
    รู้เท่านี้หละคับ..อนุโทนาครับ..
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    หายใจเข้าให้ลึก ๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ ซิ ไม่ต้องไปคิดอะไร ทำเลย หายใจเข้า...












    หยุดคิด รู้อยู่ที่ลมหายใจ ไม่ต้องคิด หยุดคิด ไม่ต้องไปสงสัย หายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ ต่อไป















    หยุดสงสัยทุกเรื่อง หยุดคิด


















    พอเห็นหรือยัง ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือ ความคิดที่วนเวียนเข้ามาก่อกวนงานที่กำลังทำ

    นั่นแหละ "มาร" ล่ะ
    เราต้องลงมือกระทำจริง ๆ ถ้าไม่ลงมือกระทำ ไม่เอาตัวเข้าไปแลก มันก็จะเป็นแค่ความคิด ได้แต่คิด ๆ ๆ ไง


    ขอให้โชคดี เห็นความจริงไว ๆ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  4. taintain

    taintain สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    เห็นจริงก็วิปัสสนา
    คิดเอาเองก็วิปัสนึก
    ไงครับ
     
  5. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ต้องเข้าใจหลักของ ขันธ์5 ให้แม่นๆ แล้วจะละความสงสัยในคำถาม หรือ คำ
    ทิ้มแทงใจ ประเภทนี้ได้

    โดยหลักการของขันธ์5นั้น คือ ไม่เที่ยง

    สัญญาขันธ์ มันไม่เที่ยง แต่คนที่ไม่ฉลาดในมรรค ก็มักจะพูดเสียประหนึ่งว่า
    สัญญาขันธ์มันจะเที่ยง

    พอคนไม่ฉลาดในมรรคดำริไปว่า สัญญาขันธ์เที่ยง เขาก็จะพูดว่า "เห้ยเอ็ง
    สะกดจิตตัวเอง" "เฮ้ยเองสัญญาล้วนๆ" "เฮ้ยเองวิปัสสนึก"

    ที่นี้หากเราจะเป็นเดินตามมรรคที่ถูกวิธี ทั้งการพูด การปฏิบัติ เราก็พิจารณา
    ให้แยบคายด้วยปัญญาอันยิ่งให้ได้ว่า สัญญาขันธ์ไม่เที่ยง

    พอใส่ใจไว้ในใจแบบนี้นะ ไอ้ประเภทคำถามที่กระซิบหรอก หรือ ยืมปาก
    คนอื่นพูดใส่เรานั้นมันจะ ร่อนออกไปทันที

    เพราะเราเห็นของเราอยู่ว่า สัญญาขันธ์มันไม่เที่ยง ดังนั้น ไอ้ที่ว่าสะกดจิต
    ตัวเอง หรือ นึกคิดเอาเอง มันก็แสดงตัวอยู่ว่า เรามีความยึดมั่นถือมั่นใน
    สัญญาขันธ์เหล่านั้นหรือเปล่า

    วิธีตรวจสอบง่ายๆ เราก็หา รูป อะไรสักอย่างหนึ่ง ที่เราเจนตาเป็นพิเศษ
    แล้วเอามาพิจารณา เช่น คำว่า "ตา"

    พอเรามองแล้ว สัญญาขันธ์แสดงความเที่ยง เห็นเป็น ลูกตา ตลอดศก

    มันจะนึกคำอื่นที่เป็น สามีของยาย ตาข่งตาข่าย ตาม้าตาเรือ(สำนวน)
    ตายูตาอิ๊ทฯลฯ ไม่ได้เลย

    ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะสัญญาขันธ์มันไม่เที่ยง ดำริแล้ว แล้วจะ
    เกิดอาการค้างเติ่งไม่เปลี่ยนแปรงแปรปรวนนี้ไม่มีหรอก

    ดังนั้น อย่าไปเชื่อพวกที่เผลอให้มารยืมปากมาถามเราว่า "เฮ้ยเองสะกดจิตตัวเอง"
    "เฮ้ยเองสัญญาล้วนๆ" "เฮ้ยเองวิปัสสนึก" ให้รู้เลยว่า เหล่านั้นทรงจำธรรมวินัยมาผิด
    ไม่ได้กล่าวมรรค ไม่ได้กล่าวเฉพาะแต่ธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2011
  6. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ความคิดเป็น และเห็นตรงตามความเป็นจริงของธรรมชาติ คือ"ความเห็นจริง"
    ส่วน"คิดเอาเอง"ก็ตรงๆอยู่แล้วว่า"คิดเอาเอง" ถูกมั้ยครับ...
     
  7. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เอ๊ะ...คำถามนี้คุ้นๆ...เนาะ ตอบแบบ ซื่อๆ ตามกระแสปุถุชน คนเขลาก็ นี่เลย
    ความเห็นจริงเป็นอย่างไร? ก็เห็นจริง ตามจริง ทำได้รู้เอง ใครบอกก็ไม่โดน...
    คิดเอาเองเป็นอย่างไร? ก็เห็นจริง ตามจริง ทำได้รู้เอง ใครบอกก็ไม่โดน...
    หายใจเข้า จะเห็นว่าหายใจออกไหม
    นั่งอยู่ จะเห็นว่า เดินไหม
    นี่ ไง จริง ไม่จริง เกิดแล้ว ดับแล้ว
    สาธุ
     
  8. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    ความเห็นจริง ยกตัวอย่างเช่นพุทธพจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนที่สุดประเสริฐยอดเยี่ยมที่สุดใครนำไปปฏิบัติไปใช้ในชีวิตจะมีความสุขมากๆ จะพบแต่สิ่งที่ดีๆมีความสุขจริงๆเมื่อนำไปปฏิบัติจริงเห็นจริง
    คิดเอาเอง คือความจริงไม่ค่อยมีแต่เอาจิตปรุงแต่งไปเรื่อยๆบุญรักษาคะ
     
  9. ธรรมดาจ้ะ

    ธรรมดาจ้ะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    โดนใจมากคร้าบบ สาธุ ขอโมทนากับทุกท่านครับผม :cool:
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คิดเอาเอง เป็นเรื่องของคนขาดสมาธิ จิตใจจึงล่องลอย คิดนั่นคิดนี่ สรตะ ไม่ดูที่ตนเอง
    ยกตัวอย่างให้ฟัง เช่นบางคน เขาบอกว่า คน โมโห จะแสดงอาการ แบบนั้นแบบนี้ เราฟังมา สมมติว่าเราไม่เคยโมโห เราก็คิดเอาใช่ไหมว่า อาการจะต้องแสดงออกมาอย่างไร เราก็คิดเอาในขณะที่ฟังนั่นแหละว่า โมโหจะต้องมี อาการแยกเขี้ยวยิงฟัน เราก็จำเอาไว้ ใครมาถามเราว่า รู้จักโมโหไหม เราก็ตอบว่า รู้จักสิ
    มีอาการแยกเขี้ยวยิงฟัน เราเข้าใจหมดแล้ว เรื่องโมโหนี่ง่ายๆ สบายๆ แต่เวลาตัวเองโมโหขึ้นมา ไม่ได้แยกเขี้ยวยิงฟัน เราก็ไม่ได้สังเกตุตัวเรา ไม่รู้ว่า อาการที่เกิดกับตัวเองนั้นเป็นอย่างไร
    แบบนี้เรียกว่า คิดไปเอง

    ทีนี้ มาดูคนที่เขาเห็นจริง เขาฟังมาว่า โมโหนั้นคือ อาการแยกเขี้ยวยิงฟัน เขาก็พอฟังหูไว้หู ทีนี้เขาก็คอยสำรวจตัวเองสิ ว่ามันมีอาการอย่างไร ทีนี้ พอตัวเองมีอาการไม่พอใจโมโหขึ้นมา ไม่ได้ไปดูหรอกว่า อะไรคืออะไร แต่รู้ว่า อาการที่ปรากฎขึ้นมันมีอาการไม่พอใจอย่างมาก นี่เรามีอาการแบบนี้ เป็นอาการไม่ดีนี่ นี่ถ้าไม่มีสติก็หลุดแยกเขี้ยวยิงฟันได้เหมือนกันนะนี่ นี้แหละ อาการแบบนี้เขาเรียกว่า อาการโมโห ไม่ต้องสงสัย
    แล้วทีนี้ เอาไปอธิบายให้คนฟังได้หมด รวมถึง ตั้งท่าสังเกตุได้ด้วยว่า ต่อไปวันข้างหน้าถ้ามันเริ่มมีอาการจะโมโหอีก เราก็ทบทวนได้ว่า มันมีอะไรมาก่อนหว่า มันจึงโมโหได้

    ก็ลองพิจารณาดู
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075

    ความเห็นจริง เห็นตามสภาวะธรรมตามเป็นจริงที่ปรากฎ
    มันมีหลายระดับ อยู่ที่ปัญญารู้ทันสภาวะธรรมมากแค่ไหน
    เห็นจริงในระดับสมมุตติบัญญัติ ความเห็นจริงในระดับปรมัตถ์
    ซึ่งในระดับปรมัตถ์จะไม่มีความนึกคิด เป็นเพียงสภาวะหนึ่งๆที่เกิดขึ้นมาให้รู้

    คิดเอาเอง โอกาสคลาดเคลื่อนสูง เพราะเกิดจากสัญญาความปรุงแต่ง ตามความเข้าใจตน

    ธรรมะลึกซึ้งมาก คาดเดาไม่ได้ จะเกิดความเห็นผิด แล้วปักใจเชื่อทันที
     
  12. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    เห็นจริงเนี่ยผมอบนึกถึงการมองเห็นจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าคนอื่นเข้าใจเหมือนกันเปล่าคือ
    ถ้าห็นก็คือสิ่งที่มองเห็นสามารถรับรู้ได้ด้วยตาส่งผ่านไปที่ใจตีความออกมาเป็นความหมายทันทีทันใด แต่การคิดไปเองหรือวปัสสนึกมันจะยังมีขั้นตอนอีกขั้นแทรกขึ้นมาคือการพูดกับตัวเอง การพูดกับตัวเองมันเหมือนกับกระบวนการในขั้นหลังๆแล้วที่หลังจากมองเห็นแล้วจึงตีค่าออกมาเป็นบวกลบดีชั่วจึงออกมาเป็นคำพูด เห็นก็คือเห็นมันวางอยู่อย่างนั้นเป็นอย่างไร เห็นก็คือเห็นสิ่งที่เป็นอยู่
    แต่ถ้าจะอธิบายในอีกแบบหนึ่งมันคงเป็นการที่เราเห็นหรือรู้อะไรด้วยจิตที่ตั้งมั่นมีสัมมาสมาธิอยู่จะชั่วขณะเป็นขณิกะหรือยาวนานก็ได้ อธิบายแบบนี้จะเข้าใจยากจนกว่าจะเคยมีจิตที่ตั้งมั่นจริงๆจึงจะเข้าใจคำว่าจิตที่ตั้งมั่น...
     
  13. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,307
    ความเห็นจริง.........

    เราต้องพิจารณาอย่างเอาจริงเอาจังเท่านั้น ที่จะทำให้ ดวงจิตฉลาดขึ้น รู้แจ้ง สว่าง
    กระจ่างชัด แล้วจะไม่มีข้อแม้ มีแต่ปัญญาค่ะที่จะสูงขึ้นไปเรื่อย

    การคิดเอาเอง............

    ก็ต้องดูที่สภาวะด้วยว่าเรานั้น เป็นผู้มีนิสัย อย่างไร
    ถ้ามีปัญญาในเบื้องต้น สุตมัยปัญญา กับจิตมัยปัญา ก็จะยังแกะกิเลสออกได้ไม่พอ เพราะบางครั้งก็เกิดความพลั้งเผลอ พิจารณาไม่ทันเพราะกระแสของจิตมันแรงเกิน สติตามไม่ทัน
    มารู้อีกทีก้ปรุงแต่งไปไหนต่อไหนเยอะเลย
    จึงต้องหมั่นทบทวนความคิด และดูที่สภาวะจิต ว่ามีความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ที่ผิดสภาวะยังไงบ้างเช่นความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ และอื่นเป็นโขยง จึงต้องพิจารณาดูสิ่งเหล่านี้
    ถ้าตามจิตไม่ทัน ก็เอามาทบทวนใหม่ อบรมจิตไปเรื่อยๆ เพราะสติมีหน้าที่อบรมจิต
    จนเห็นจิตในจิต ว่ากันไปแบบนี้หล่ะค่ะ
     
  14. ธรรมโฆษฯ

    ธรรมโฆษฯ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +1
    คิดเอาเอง คือ เดาเอา ทึกทักเอา คาดหมายว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้
    เหมือนคนใบ้หวย ผิดมากกว่าถูก ถึงถูกก็เรียกว่าบังเอิญ

    ความเห็นจริง คือ เห็นตามสภาพความเป็นจริงของสัตว์ หรือวัตถุสิ่งของ
    โดยการใช้สติปัญญาพิจารณาและการเห็นจริงเช่นนี้ถูกต้องเสมอ ไม่ใช่การบังเอิญ

    สาธุ...(y)
     
  15. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    เห็นน่ะ เห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นนั้นไม่แน่ว่าจะต้องจริงเสมอไป อาจไม่มีอยู่จริงก็ได้ จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นแต่ถ้าเป็นปัญญาแท้ ที่เกิดจากวิปัสสนาญาณแล้วย่อมปราศจากความข่มใจ
     
  16. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    คำถามคลุมเครือครับ

    เห็นด้วยตา หรือ เห็นด้วยใจ
    คิดเอาเอง ที่เกิดจากการจินตนาการ สร้างตรรกะ แล้วสรุปเอาเอง

    หรือเห็นแบบหยั่งรู้และหยั่งคิด นี่น่าจะเข้าข่าย
     
  17. รักทุกท่าน

    รักทุกท่าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0

    ความเห็นจริงเป็นบ่อเกิดซึ่งอริยะปัญญาอริยะทิฐิ
    เปลี่ยนผลัดจากหลงคิดเอาเองที่ขาดพิจารนาปัญญา
    แต่ความเห็นจริงย่อมเกิดได้จากคิดเอาเองที่ตรงตามสัจจะธรรม


    สองคำนี้มีลักษณะที่ต่างกัน ท่านพี่ๆ ทั้งหลาย คิดว่าต่างกันแบบไหนค่ะ
    คิดเอาเองเป็นกิเลส ความเห็นจริงเป็นธรรมะ
    คิดเอาเองเป็นอัตตา ความเห็นจริงเป็นอนัตตา
    คิดเอาเองเป็นความยึดมั่น ความเห็นจริงเป็นความไม่ยึดมั่น
    คิดเอาเองเป็นขันธ์ห้า ความเห็นจริงไม่เป็นขันธ์ห้า
    คิดเอาเองเป็นความหลง ความเห็นจริงเป็นปัญญา
    คิดเอาเองเป็นปุถุชน ความเห็นจริงเป็นอริยะชน
    คิดเอาเองเป็นมิจฉาทิฐิ ความเห็นจริงเป็นสัมมาทิฐิ
     
  18. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    คุณไปยืนดูคนถูกรถชนตาย แล้วโทรศัพท์ไปบอกเพื่อน ๆ ว่ากำลังอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพศพที่ถูกรถชน มันหัวกลิ้งไปทาง ขาขาด แขนหัก รุ่งริ่ง ไส้แตกเรี่ยราด......อธิบายไป ตามที่เห็นจริง

    เพื่อนที่รับโทรศัพท์มันก็จินตนาการตามที่คุณเล่าไป คิดไปเอง ตามคำบอกเล่าที่คุณบอกเขาไป นั่นแหละ.........
     

แชร์หน้านี้

Loading...