แม่ชีทศพร ดูอดีตชาติได้จริง ๆ รึเปล่าครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย thanan, 24 เมษายน 2011.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,216
    แม่ชีทศพร ดูอดีตชาติได้จริง ๆ รึเปล่าครับ

    ตอนนี้มีการตั้งกระทู้ว่าตอนนี้แม่ชีออกแนวไปแล้ว ตามเว็บ pantip ตาม webboard ต่าง ๆ

    ส่วนผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ
     
  2. blackky

    blackky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +27
    ผมว่าน่าจะจริงนะครับ แบบเรื่องของเราที่มีเรารู้คนเดียว ท่านยังรู้ได้เลย
    แบบเราเคยไปทำไรมา ท่านก็รู้ แสดงว่าท่านมีความสามารถแน่นอนครับ
    แต่ผมยังไม่เคยไปลองดูนะ ดูแต่ในyoutube
     
  3. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    อย่าไปตั้งหน้าตั้งตา จับผิดครูบาอาจารย์เลยครับ.. ถ้าท่านสอนธรรม ตามคำสอนของพระพุทธองค์ เราก็นำไปปฏิบัติเอง..... แต่เราอย่าไปยึดติดว่า จะต้องไปขอให้ท่านช่วยดูอะไรของเราตลอดเวลา ...... ทำไมเราไม่ทำเอง ฝึกเอง แก้ไขเอง........ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ผมเตือนเพราะกลัวจะไปปรามาสผู้ที่ท่านปฏิบัติสูงกว่าเรา อันตรายนะ
     
  4. kosondesign

    kosondesign Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +66
    วิจารณ์อย่างนี้ไม่สมควรคับ อาจได้ไปนอนเล่นเท่ๆในนรกนะคับ
    ผมว่าดูแล้ววางเฉยดีกว่าคับ^^
     
  5. sedkamol

    sedkamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2009
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +691
    ผมขอไม่เชื่อครับ อะไรจะหยั่งรู้ปานนั้นครับ
    ...ดั่งคำพระท่านว่า
    ของจริงแน่นิ่งเป็นใบ้....
    ของพูดได้นั้นไม่จริง.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2011
  6. ต้า จง ฉือ

    ต้า จง ฉือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +160
    คนที่ฝึกปฎิบัติได้จริงๆ มีไม่กี่คนครับ เเต่ดร.เเม่ชีทศพร ท่านของจริงครับ
    ส่วนคนที่ไปเเสดงคห. ใน pantip อย่าไปใส่ใจเลยครับ พวกนั้นพหูสูตรครับ
    อัตตาตัวตนสูงลิบลิ่ว เเต่ประโยชน์ที่จะทำได้เทียบเท่าดร.เเม่ชี มีไม่ถึงเสี้ยว

    พิจารณาเป็นข้อๆครับ
    1. หากท่านเป็นผู้หลอกลวง คงไม่สามารถได้รับพระราชทานยศกิตติมศักดิ์เป็นดร.จากมหาจุฬาลงกรณ์ในด้านทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เเก่ประเทศได้ อีกทั้งยังรับปริญญาบัตรจากองค์สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารีอีกด้วย

    2.เจตนาของท่านคือ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สอนคนให้เชื่อเรื่องกฎเเห่งกรรม สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่อวตอุตริ เเต่เป็นผลจากการปฎิบัติ เป็นญาณระดับสูงที่มีเกิดจาการฝึกอย่างพากเพียร ตามที่พระพุทธเจ้า เคยสั่งสอนเป็นเเนวทางไว้

    3.ทุกคนที่มามีเหตุเเห่งทุกข์ที่ต่างกันไป หากท่านไม่สามารถหยั่งรู้ได้ ได้เเต่เดาถูก เดาผิด เอาศาสนามาหากิน คงไม่มีคนมาศรัทธามากมายขนาดนี้ เเต่ทุกคนที่มา ล้วนเเล้วเเต่ได้รับการช่วยเหลือที่ตรงจุด หลายคนได้นำการเเนะนำจากเเม่ชีไปปฎิบัติ เเล้วชะตาชีวิตเปลี่ยนเปลงดีขึ้นมาก
    เเละที่ดร.เเม่ชี ได้เห็นนั้นก็เป็นไปเพื่อการช่วยให้หลุดพ้น ดุจพระโพธิสัตว์เดินดิน เเม้มีคนมาให้ช่วยเหลือนับพันนับหมื่น ก็มีจิตที่เที่ยงตรง ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด ไม่อารมเสีย เพราะความรำคาญหรือเหน็ดเหนื่อย เเต่ได้ผสม
    อารมณ์ขันสอดเเทรกไป ไม่ให้เครียด ต่างจากพวกที่ไปว่าท่าน ถามว่า หากมีคนทุกข์กายทุกข์ใจ มาหาสัก 5คน เเล้วให้ช่วยบรรเทาทุกข์ให้ คนเหล่านั้นจะรู้ เหตุเเห่งทุกข์เเละเเก้ไขได้เหมือนเเม่ชีหรือไม่ ดีไม่ดี ยังไม่เคยทำสิ่งดีๆ หรือมีจิตที่เมตตาให้เเก่เพื่อนมนุษย์เลยด้วยซ้ำไป เเต่บอกว่าตนนั้นเป็นผู้มีศีลธรรม

    4.พวกคนที่วิจารณ์ ก็เก่งเเต่ทฤษฎี ยึดมั่นถือมั่น การเเสดงวาจาที่ลบหลู่ดูหมิ่นน สะท้อนให้เห็นจิตสำนึกเเละนิสัยของคนนั้นได้เป็นอย่างดี การกล่าว
    วว่าด่าโลน ผู้ปฎิบัติธรรม ที่ครองศีลสูงกว่าไม่เกรงกลัวบาปกรรม คิดว่าคนเหล่านั้นเป็นคนดีจริงหรือ ศีล5 ทำได้ครบทุกวันหรือเปล่า

    ลองพิจารณาดูครับ อย่าได้เชื่อใคร จนกว่าตนได้พิสูจน์ เอาปัญญามาใช้ก่อนศรัทธาเเล้วคุณจะรู้เเจ้ง
     
  7. pun_10

    pun_10 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +55
    สิ่งที่แม่ชีทำได้คือปัตจัตตัง ปฏิบัติเอง รู้เอง เห็นเอง รู้ได้เฉพาะตน ไม่ใช่อุปาทานเพราะสิ่งที่ทำให้เหนือกว่าอุปาทาน คือบารมี เป็นธรรมอันเกิดจากการให้ธรรมเป็นทาน การบอกกล่าวกฎแห่งกรรม ส่งผลบุญให้มีผู้นับถือมากมาย กรรมอันเกิดจากการเคลือบแคลงสงสัยท่าน ถือว่าเป็นกรรมดำแล้ว คนที่ไม่เชื่อท่าน สักวันก็จะเกิดเวทนา เกิดทุกข์ เมื่อเกิดทุกข์ก็ต้องหาทางดับทุกข์ ท่านบอกกล่าวทางดับทุกข์ให้ผู้คน เป็นบุญอันประเสริฐ ความสามารถของท่านเกิดจากการปฏิบัติธรรมล้วนๆ อย่าเคลือบแคลงสงสัยกฎแห่งกรรม กรรมเป็นอจินไตย ไม่มีที่สิ้นสุด การสงสัยกฎแห่งกรรม ผู้สงสัยจะเป็นบ้าเอง ไม่ใช่แม่ชีแน่นอน สาธุ
     
  8. pun_10

    pun_10 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +55
    ท่านไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ แต่สิ่งที่ท่านรู้เห็นนั้นเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของผู้ปฎิบัติธรรม ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มีหน้าที่พาเหล่าเวไนยสัตว์ให้พ้นกองทุกข์ ธรรมคือธรรมชาติ ธรรมคือธรรมดา สิ่งที่ท่านรู้เห็นคือธรรมอันเป็นธรรมดา ไม่ใช่สิ่งวิเศษ เพียงท่านรู้เห็นสิ่งที่เป็นธรรมดาโลก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คนที่วิจารณ์ท่านลองเปลี่ยนกลับมาพิจารณาตัวเองดู ตัวเองดีแล้วหรือเพียงใด เลิกจับผิดท่าน แล้วหันมาย้อนจับผิดตัวเอง แค่ศีลห้าคุณละเว้นได้ทุกวันหรือไม่ ท่านเป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลก อย่าทำตนเป็นเดรัจฉาน เป็นบัวใต้น้ำ ไม่รู้จักธรรม ลบหลู่ดูหมิ่นผู้ปฎิบัติธรรมเลย ใครจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่ตัวตนของคนคนนั้น ไม่ใช่เพราะผู้อื่นไม่ดีเลย สาธุ
     
  9. pun_10

    pun_10 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +55
    การยึดมั่นถือมั่น ทำให้เกิดทุกข์
    อย่าเชื่อเพราะครูบาอาจารย์บอก
    อย่าเชื่อเพราะได้ยินได้ฟังตามกันมา
    ธรรมะไม่ได้มีไว้ให้เชื่อ
    ธรรมะไม่ได้มีไว้ให้เข้าใจ
    บางสิ่งที่ท่านสอนเป็นอุบายให้ผู้คนเข้าถึงธรรมะ
    ธรรมะมีไว้เพื่อให้ปฏิบัติ
    ปฏิบัติแล้วย่อม รู้เองเห็นเอง
    วันใดที่ภัยมาถึง เราจะรอดพ้นได้ด้วยการปฏิบัติธรรม
    เพราะธรรมะเป็นสิ่งคุ้มครองให้เราพ้นภัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2011
  10. อวิชานาคา

    อวิชานาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +345
    กฎแห่งกรรมมีจริงแน่นอน

    แต่ผมยังไม่เชื่อสนิทใจครับ
     
  11. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อจินไตย

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --><!-- bodytext --><TABLE style="BORDER-BOTTOM: #060 1px solid; TEXT-ALIGN: center; BORDER-LEFT: #060 1px solid; MARGIN: 0px 0px 1em 1em; FLOAT: right; BORDER-TOP: #060 1px solid; BORDER-RIGHT: #060 1px solid" id=WSerie_Buddhism class=toccolours cellSpacing=0 cellPadding=1 width=170><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 100%" colSpan=2><SMALL>ส่วนหนึ่งของ</SMALL>
    ศาสนาพุทธ

    [​IMG] สถานีย่อย
    <HR>[​IMG]
    ประวัติศาสนาพุทธ
    </TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ศาสดา</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระโคตมพุทธเจ้า
    (พระพุทธเจ้า)
    </TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>จุดมุ่งหมาย</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>นิพพาน</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ไตรรัตน์</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระพุทธ · พระธรรม · พระสงฆ์
    </TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ความเชื่อและการปฏิบัติ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>ศีล (ศีลห้า) · ธรรม (เบญจธรรม)
    สมถะ · วิปัสสนา
    บทสวดมนต์และพระคาถา</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>คัมภีร์และหนังสือ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระไตรปิฎก
    พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>หลักธรรมที่น่าสนใจ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>ไตรลักษณ์
    อริยสัจ ๔ · มรรค ๘ · อิทัปปัจจยตา</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>นิกาย</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>เถรวาท · อาจริยวาท (มหายาน) · วัชรยาน · เซน</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>สังคมศาสนาพุทธ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%">ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน · วัตถุมงคล</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>การจาริกแสวงบุญ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%">พุทธสังเวชนียสถาน ·
    การแสวงบุญในพุทธภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ดูเพิ่มเติม</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ
    หมวดหมู่ศาสนาพุทธ</TD></TR></TBODY></TABLE>อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่ควรคิด หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน มี 4 อย่างได้แก่
    • พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    • ฌานวิสัย วิสัยแห่งอิทธิฤทธิ์ของฌาน
    • กรรมวิสัย วิสัยของกฎแห่งกรรม ที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติ รวมถึงการให้ผล และการรับวิบากกรรม
    • โลกวิสัย วิสัยการมีอยู่ของโลก<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>
    ในทางพระพุทธศาสนาไม่แนะนำให้คิดเรื่องอจินไตย เพราะวิสัยปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้โดยถูกต้องถ่องแท้ ทั้งเพราะความเข้าใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นของลึกซึ้ง เป็นเรื่องทางจิต หรือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบที่สิ้นสุดได้ ถ้าคิดมากจริงจังในการหาคำตอบเหล่านั้นจากการคิดเดาเอาด้วยตรรกะเองจึงอาจกลายเป็นคนบ้าได้ อจินไตยในเรื่องทางจิตจึงเป็นเรื่องที่รู้ได้ด้วยการบรรลุธรรมชั้นสูงเท่านั้น<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP>
    [แก้] อ้างอิง

    1. <LI id=cite_note-0>^ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต อจินติตสูตร. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : [1]
    2. ^ อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ อปัณณกวรรคที่ ๓ อรรถกถาอจินติตสูตรที่ ๗. อถรรถกถาพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย. [ออน-ไลน์]. แหล่งข้อมูล : [2]
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    พูดอะไรยังไงจึงเรียก ปรามาส ตามบอร์ดทั่วๆไปนิยมพูดกัน หมายถึงอะไร
     
  13. สุปราณะ

    สุปราณะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    206
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +122
    เพราะคลิปนี้หรือเปล่าที่ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์
    พูดแบบนั้น แนะนำไปอย่างนั้น ก็สมควรอยู่ที่จะโดนวิจารณ์ และถูกตั้งข้อสงสัย
    ส่วนตัวก็สงสัยมานนานแต่เริ่มแรกที่เขาเปิดตัวแล้ว
    แต่ไม่เคยติดตามผลงาน เพราะไม่ศรัทธา
    คลิปนี้ำเป็นคลิปแรกที่ได้เปิดดู และฟัง แต่ทนดูและฟังได้ไม่จบ เพราะรับไม่ได้

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=9rsWmOxcMHo&feature=player_embedded]YouTube - แม่ชีทศพร 037-เมฆลาดารานำฝ่ายชาย[/ame]
     
  14. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ปรามาส คือ การลบหลู่ ดูหมิ่น

    เราถามเพื่อหาคำตอบเพราะอยากรู้ ไม่น่าจะเป็นการปรามาส

    จิตใจของผู้อยากรู้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลบหลู่ เพียงสงสัยเท่านั้น ถ้าได้คำตอบไปแล้วจะเอาไปทำไม ????? บางทีจะเป็นการเพิ่มศรัทธาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็ได้........

    เคยได้ยินว่าตัวท่านก็เคยไปถามผู้หยั่งรู้ทางภาคเหนือว่าอดีตชาติเคยเกิดเป็นอะไรมาก่อน คำตอบก็คือ ....ตัวแม่เองก็ตอบคำถามเขาไปมากมาย แล้วทำไมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรมาก่อน ...??? จริงเท็จประการใด ไม่กล้ายืนยัน มันเสียหายหลายอย่าง...

    เมื่อปฏิบัติธรรมไปแล้ว ผลที่ได้รับคือ ความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย ไม่ต้องกลัวว่าชีวิตมันจะเป็นอย่างไร แล้วมันก็จะมีความมั่นใจต่อการดำเนินชีวิตในทางแห่งมรรค.......โดยไม่ต้องอาศัยใคร นอกจากตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2011
  15. พศวีร์

    พศวีร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +29

    ขออนุโมทนาครับ
     
  16. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,216
    คลิปนี้แหล่ะครับ ที่มีคนว่าแม่ชีต่าง ๆ นา ๆ
    ผมไม่ขอวิจารณ์อะไร ดูกันก่อนนะครับ
     
  17. cfour1234

    cfour1234 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +93
    บางอย่างก็ไม่ควรจะรู้ รู้เท่าที่ควรรู้
     
  18. ซือกุน

    ซือกุน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +10
    ผมก้ดูคลิปแล้วนะ แม่ชีท่านแก้ปัญหาให้กับคนได้ตรงทางที่สุด เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของจิต ที่คนไม่ได้เรียนพระอภิธรรมไม่เข้าใจเรื่องดวงจิตที่เกิดขึ้นและถูกจดจำสืบสานต่อกันมา การแก้ก้แก้ที่ตนเอง ปล่อย ความยึดมั่นถือมั่นในใจตนทิ้งไปเอง

    เหมือนเวลาเราย้อนคิดเรื่องที่ทำไห้รู้สึกเสียใจความรู้สึกเสียใจก้เกิดขึ้น
    เหมือนเราปลลูกต้นไม้ไว้แต่เวลาผ่านไปเราลืมต้นไม่ต้นนั้นก้ยังคงอยู่และยังโตขึ้นกว่าเดิมด้วยโดยที่เราไม่รู้เลย

    การแก้กรรมแบบนี้เป็นการแก้ทั้งสองทางเลยแก้ที่เหตุ ตัดต้นไม้ และแก้ที่จิตความยึดมั่นกับความคิดและอารมความรู้สึกนั้นๆที่ทำไห้มาส่งผล
     
  19. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710

    ตั้งแต่คุณโพสกระทู้มา โพสนี้คุณโพสได้ดีเลยครับ ตรงใจผมพอดี เสริมนิดน่ะครับ แต่สำหรับตัวผมแล้วผมไม่มีความคลางแคลงใจในพระรัตนตรัยแน่นอน
    ผมเชื่อพระพุทธเจ้ามีจริง พระธรรมยังอยู่ในโลกตลอดเวลา พระอริยสงฆ์เจ้ามีจริง ต่อให้มีคนเป็นพันเป็นหมื่นมาบอกว่าพระรัตนตรัยไม่มีจริง ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดีเพราะผมปฏิบัติมาแล้วเกิดผลแล้วประสบกับตัวเองแม้จะยังไม่ถึงธรรมขั้นสูงแต่ก็พบกับสายธารแห่งธรรมแล้วรู้ว่าจะเดินไปทางไหนต่อ การที่เราไปสนใจคนอื่นมากไปก็จะทำให้เรามีเวลาในการรักษาดูแลจิตของเราน้อยลงไปอีก สนใจตัวเองให้มาก แต่ไม่ใช่เห็นแก่ตัวน่ะครับ คนอื่นเขาจะทำได้หรือไม่ได้ไม่ใช่หน้าที่เรา เขาไม่ได้ทำให้เราพ้นทุกข์หรือมีชีวิตที่ดีขึ้น ธรรมะเราต้องน้อมนำมาปฏิบัติครับเห็นผลแล้วถึงค่อยเชื่อ
    เชื่อด้วยปัญญา เรียกว่า ศรัทธา
    เชื่อด้วยไม่มีปัญญา เรียกว่า งมงาย
    คุณ จขกท. คุณต้องเชื่ออะไรด้วยปัญญาน่ะครับ
     
  20. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    ดูได้ไม่จริงหรอกครับ แต่มีเทคนิคในการพูดจูงใจคน อ่านท่าทางและสีหน้าคนได้ สักเกตการพูดของแม่ชีมัีกหยุดซักพัก คิดว่าจะพูดอย่างไงให้เนียน
     

แชร์หน้านี้

Loading...