เว็บพลังจิต โครงการเรารักศีล ๕

_/I\_ สวัสดี ผู้ร่วมโครงการ ทุกท่านค่ะ _/I\_

สรุป ผลการปฏิบัติ รักษาศีล ๕ ที่ผ่านมาค่ะ​

ศีลข้อ ๑ ได้ 90% ค่ะ มีเผลอ กวาดมด แมลง และปัดยุง แต่ก็ อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา ทุครั้งค่ะ

ศีลข้อ ๒ ได้ปกติค่ะ ไม่เคยหยิบฉวย ของคนอื่น มาเป็นของเรา มีแต่คอยแบ่งปันค่ะ

ศีลข้อ ๓ ปฏิบัติได้เป็นปกติค่ะ

ศีลข้อ ๔ 90%ค่ะ มีเผลอ เพราะความจำเป็น เพื่อความสบายใจ ของคนอื่นค่ะ แต่ก็คิดทันนะคะ คือ จะบอกกับตัวเองว่า ไม่เอาๆๆๆแล้ว...

ศีลข้อ ๕ ได้ปกติ 100%ค่ะ เพราะไม่เคยแตะต้อง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดค่ะ

ส่วนศีลข้อที่ยังบกพร่องอยู่ ก็จะพยายามให้ได้เต็มร้อย....ค่ะ
ณ.ขณะนี้ ใจทำได้ค่ะ แต่พยายามจะไม่ให้เผลอค่ะ

_/I\_ ขออนุโมทนา สาธุ...บุญ _/I\_
และขอเป็นกำลังใจ ให้กับทุกท่านด้วยค่ะ​

 

ตั้งแต่เรื่มโครงการ
เดืนที่ 1
ศิลข้อที่ 1 งดเว้นจากฆ่าสัตว์ทุกชนิด
ศิลข้อที่ 2 ไม่เอาของใครที่ไม่ใช่ของ ของ เรา
ศิลข้อที่ 3 ไม่แย่งสามีชาวบ้าน
ศิลข้อที่ 4 พูดเพ้อเจ้อบ้างบางครั้ง
ศิลข้อที่ 5 ไม่ดื่มของมึนเมาอยู่แล้ว

เดือนที่ 2
ปฏิบัติศิลได้ครบทั้ง 5 ข้อ และไปปฏิบัติธรรมรับศิล 8 ที่วัดใกล้บ้าน

เดือนที่ 3
ปฏบัติครบ 5 ข้อ

*********** สุขใด ไหนเล่า เท่าสุขใจ **********

 

ธรรมะสวัสดีครับ

น้อมอนุโมทนา สาธุ กับคุณ bsert คุณ ปฐมฌาณ คุณ vietnam คุณ Pattarawat คุณ Marthaporn คุณ Phusaard คุณ bank33 คุณ Learn from life คุณ anukzer คุณ น่านนะซิ และคุณ P251152 สำหรับความมุ่งมั่นตั้งใจรักษาศีล๕ และขอบพระคุณที่นำประสบการณ์การรักษาศีล๕ มาเล่าแบ่งปันประสบการณ์เป็นธรรมทานแก่เพื่อนๆ ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการด้วยนะครับ


ขอให้ทุกท่าน ศีลถึงใจ ใจเป็นศีล เจริญในภูมิจิต ก้าวหน้าในภูมิธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ

 

​

น้อมมหาสาธุการ บุญแห่ง "สีลบารมี"
ทุกๆ ท่าน ทุก ๆ ประการ
เช่นกัน ค่ะ ​

 

"มงคล" คือ เหตุแห่งความสุข ความเจริญก้าวหน้าแห่งชีวิต

​

มีผู้รู้หลายท่านกล่าวว่า มงคล คือทางก้าวหน้า ความสุข ความเจริญ สำหรับพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย สถาน พ.ศ ๒๕๒๕ ให้ความหมายไว้ว่า มงคล คือเหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ คำว่า มงคลชีวิต จึงความความได้ว่า คือเหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้าของชีวิต เป็นสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นข้อควรประพฤติปฏิบัติ ซึ่งมีอยู่ ๓๘ ประการ ด้วยกัน​

มงคล เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้า ความเจริญก้าวหน้า มี ๔ ประการ คือ

๑. ความเจริญก้าวหน้าด้วยสรรพสมบัติทั้งหลายทั้งมนุษย์สมบัติทิพย์สมบัติ และนิพพานสมบัติ
​

๒. ความเจริญก้าวหน้าด้วยปัญญา อันเป็นเครื่องทำลายอุปสรรคของชีวิตและความชั่วความบาปต่าง ๆ

๓. ความเจริญก้าวหน้าด้วยความดีงาม ทั้งทางกาย วาจา ในเบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องสูง

๔. ความเจริญก้าวหน้าด้วยประโยชน์ทั้ง ๓ คือ

๑.ประโยชน์ในโลกนี้ คือโลกมนุษย์
​

๒.ประโยชน์ในโลกหน้า คือสวรรค์
๓.ประโยชน์อย่างยิ่ง คือ พระนิพพาน
​

เมื่อเราประพฤติปฏิบัติตามมงคลทั้ง ๓๘ ประการนี้ แม้เพียงมงคลในมงคลหนึ่งก็ตาม ก็ได้ชื่อว่าประกอบ เหตุอันทำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าทั้งประการนี้ ทำให้เราสามารถบำเพ็ญประโยชน์ทั้งแก่ตนเอง แก่ครอบครัวสังคม และแก่ชาวโลกได้เต็มที่



เหตุที่ต้องเรียนรู้จักมงคล

มีสิ่งที่น่าคิดอยู่ประการหนึ่งคือ การเกิดมาเป็นคน เพียงแค่ศึกษาความรู้สูง ๆ เพื่อให้มีสติปัญญาที่จะทำมาหากินได้สะดวกสบายโดยไม่ติดขัดเท่านี้ยังไม่พอ ยังไม่แน่ว่าจะหาความสุขได้ เพราะความรู้ที่มีอยู่ในโลกทั่วไปเป็นความรู้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง คือเลี้ยงส่วนที่เป็นกายเท่านั้น แต่ส่วนที่เป็น ใจ ยังไม่มีอะไรไปเลี้ยงเนื่องจากคนเรามีส่วนสำคัญอยู่ ๒ ส่วน คือ กาย และ ใจ

ในเมื่อกายก็ต้องการอาหารไปเลี้ยงเพื่อให้พ้นจากโรคคือความหิว และให้ร่างกายเกิดความเจริญเติบโตขึ้น ใจก็เช่นเดียวกัน ต้องการอาหารคือธรรมะมาหล่อเลี้ยงเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้พ้นจากความโลภ ความโกรธ ความหลง และเพื่อยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น จะได้พบกันความสุขควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพทำมาหากิน

ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องมาเรียน พร้อมน้อมนำ "ธรรมะ" สู่ตน โดยเฉพาะเรื่องมงคลสูตรเพราะไม่เพียงมีความสำคัญดังกล่าวแล้ว ยังง่ายต่อการทำความเข้าใจ และการนำไปปฏิบัติตามอีกด้วย



มหาอนุโมทนาที่มาข้อมูล : http://www.songpak16.com/aticle/mongkol.html<!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_end -->

 

"มงคลมี" "มงคลทำ"

​

ที่มาของมงคล

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี "ท้าวสักกเทวราช" ได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือ มงคลของชีวิต

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคล ซึ่งมีทั้งหมด ๓๘ ประการ มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง

แม้หลักมงคลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะประกอบไปด้วยเหตุผลอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครสามารถล้างได้ แต่ก็มิได้หมายความว่า คณาจารย์ นักคิด เจ้าลัทธิทั้งหลายจะล้มเลิกความคิดเดิม หันมาเชื่อพระองค์ทุกคนเพราะล้วนแต่หน้าแน่นด้วยทิฏฐิกันทั้งนั้น แม้จะรู้ตัวว่าผิด แต่ยังยืนยันวาทะของตนอยู่ และ สานุศิษย์ของแต่ละสำนักก็ยังทำการเผยแพร่อยู่อย่างไม่หยุดยั่งประกอบกับนิสัยของคนเรามีความขลาดประจำตัวอยู่แล้ว ชอบทำงานอะไรเผื่อเหนียวไว้ก่อน จึงมีผู้ยอมรับนับถือปฏิบัติสืบต่อกันมา เกิดเป็นมงคล ๒ สาย พัวพันกันมาจนถึงปัจจุบันคือ

๑. มงคลของนักคิด เรียกว่า มงคลมี ยึดถือเอาว่า การมีสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นมงคล ซึ่งแต่ละที่แต่ละสมัยก็ยึดถือต่าง ๆ กันไป ไม่มีอะไรแน่นอน ของบางอย่างบางที่ถือเป็นมงคล บางที่อาจถือว่าเป็นอัปมงคลก็ได้

๒. มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่า มงคลทำ ยึดถือเอาการปฏิบัติฝึกฝนตนเองเป็นเกณฑ์เป็นสัจธรรม ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ใดปฏิบัติตามแล้วย่อมได้ผลแน่นอนมงคลของนักคิดนั้น มีผู้เสนอขึ้นมาแล้ว ก็มีผู้โต้แย้งลบล้างไป แล้วก็มีผู้เสนอขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อย ๆ จนหาข้อยุติไม่ได้ แต่มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
​

เมื่อทรงแสดงแล้วก็ไม่มีใครสามารถหาเหตุผลมาลบล้างได้ แม้พระองค์จะทรงเปิดโอกาสให้คัดค้านวิพากษ์ วิจารณ์ได้ตลอดเวลา ดังความในบทสรรเสริญพระธรรมคุณที่ว่า "เอหิปัสสิโก เชิญมาพิสูจน์เถิด "

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1227613/[/MUSIC]​

มหาอนุโมทนาส่งบุญเสียงอ่าน"มงคลชีวิต" โดย คุณนวพร สุปิงคลัด สถานีวิทยุสังฆทานธรรม FM ๙๘.๒๕ MHz

มหาอนุโมทนาที่มาข้อมูล : http://www.songpak16.com/aticle/mongkol.html<!-- google_ad_section_end -->
​

 

ประสบการณ์ในการเข้าร่วมตั้งใจปฏิบัติ รักษาศีล 5
1.สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น
2. สมาทานศีล5ทุกวัน ทำให้เรามีสติคิดตลอดว่าที่จะทำสมาทานตั้งสัจจะไว้แล้วนะ ทำผิดไม่ได้ เหมือนมีคนคอยเตือนตลอด
ศีลข้อ 1 ดีขึ้นแต่ยังม่100% อยู่ที่ประมาณ 90% ส่วนใหญ่ มด แมลง ทาก ถ้ามดขึ้นอาหารก็เอามาเคาะไล่ออกไป ให้มันไปหมดก่อนค่อยล้าง เช็ด ในส่วนของยุงตอนนี้ยุงมาตอม ก็คอยปัดเฉยๆ ทากเมื่อก่อนเอารถเข้า-ออกบ้านก็ไม่สนใจดู เหยียบไปเลยตั้งแต่เข้าโครงการฯ ต้องเดินดูรอบๆก่อน แล้วเอาเขาออกให้พ้นทางก่อน เลยผิดศีลน้อยลงกว่าเมื่อก่อน
ศีลข้อ 2 ทำได้ปกติ
ศีลข้อ 3 ทำได้ปกติ
ศีลข้อ 4 เริ่มลดการพูดกล่าวถึงบุคคลอื่นมากขึ้น จะพูดก็เฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ ใจเลยสงบมากขึ้น
ศีลข้อ 5 ทำได้ปกติ จากเมื่อก่อนก็มีนานๆ แอลกอฮอล์อ่อนๆที แต่เดี๋ยวนี้ทำได้ 100%เพราะจะระลึกถึงว่าห้ามผิดสัจจะที่ได้สมาทานไว้ตั้งแต่ตอนเช้า

การตั้งใจรักษาศีล ทำให้ก่อนทำอะไร ทำให้เริ่มมีสติในการคิดก่อนทำมากกว่าขึ้นเมื่อก่อน เพราะเป็นการเตือนตนเองก่อนเสมอว่าสิ่งที่ทำนั้นจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือเปล่า

ตอนนี้วันพระก็สมาทานอุโบสถศีล ทำได้ 4วันพระแล้วค่ะ

 

เป็นบุญของเราแล้วที่ได้เข้าโครงศีล นี้

มงคลที่ ๒ คบบัณฑิต
“ผ้าที่ห่อหุ้มของหอม
ย่อมพลอยหอมตลบอบอวลตามไปด้วยฉั<WBR>นใด
ผู้ที่คบบัณฑิต
ก็ย่อมพลอยได้รับความรู้ ความสามารถ
และความดีตามบัณฑิตไปด้วยฉันนั้<WBR>น”

บั ณ ฑิ ต คื อ ใ ค ร ?

บัณฑิต คือคนที่มีใจผ่องใสอยู่เป็นปกติ ทำให้มีความเห็นถูก ยึดถือค่านิยมที่ถูกต้อง สามารถดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา

- เป็นผู้รู้ดี คือรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
- เป็นผู้รู้ถูก คือรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
- เป็นผู้รู้ชอบ คือรู้ว่าอะไรบุญอะไรบาป

บัณฑิต อาจเป็นใครก็ได้ เช่น อาจเป็นผู้อ่านหนังสือไม่ออก อาจเป็นชาวไร่ชาวนา อาจเป็นผู้มีการศึกษาสูง อาจเป็นญาติของเรา ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะต้องเป็นผู้มีจิตใจผ่องใส และดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา คือเป็นคนดีนั่นเอง

คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ผู้ที่เรียนหนังสือจนได้รับปริ<WBR>ญญานั้น คือบัณฑิต ความจริงแล้วนั่น เป็นเพียงบัณฑิตทางโลกเท่านั้น ยังไม่ใช่บัณฑิตที่แท้จริง เพราะผู้ที่ได้รับปริญญาแล้ว ถ้าความประพฤติไม่ดี อาจไปทำผิดติดคุกติดตะรางได้ แต่บัณฑิตที่แท้จริง ย่อมเป็นผู้ตั้งใจละชั่ว ประพฤติชอบ ประกอบแต่ความดี ความถูกต้องความสุจริต สามารถป้องกันตนให้พ้นจากคุ<WBR>กตะราง แม้กระทั่งจากนรกได้

“บัณฑิตมิใช่ผู้มีเพียงปริญญา แต่คือผู้อุดมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา”

ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง บั ณ ฑิ ต

เนื่องจากบัณฑิตเป็นผู้มีจิ<WBR>ตใจผ่องใส มีความเห็นถูก ดำเนินชีวิตอยู่ด้วย ปัญญา ฉลาดในการสอดส่องหาเหตุผล จึงมีลักษณะพิเศษสูงกว่าคนทั้<WBR>งหลาย ๓ ประการ คือ

๑. ชอบคิดดีเป็นปกติ ได้แก่ คิดให้ทาน คิดให้อภัยอยู่เสมอ ไม่ผูกพยาบาท คิดเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น เห็นว่าบุญบาปมีจริง พ่อแม่มีพระคุณต่อเราจริง เป็นต้น

๒. ชอบพูดดีเป็นปกติ ได้แก่ พูดคำจริง พูดคำสมานไมตรี พูดคำมีประโยชน์ พูดด้วยจิตที่ประกอบด้วยเมตตา และพูดถูกต้องตามกาลเทศะ

๓. ชอบทำดีเป็นปกติ ได้แก่ มีเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีวะ ทำบุญให้ทานเป็นปกติ รักษาศีล ทำสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ

อ ง ค์ คุ ณ ข อ ง บั ณ ฑิ ต

๑. กตัญญู รู้อุปการคุณที่ท่านทำแล้วแก่ตน

๒. อัตตสุทธิ ทำตนให้บริสุทธิ์จากบาป

๓. ปริสุทธิ ทำผู้อื่นให้บริสุทธิ์จากบาป

๔. สังคหะ สงเคราะห์แก่ชุมชนทั้งหลาย

วิ ธี สั ง เ ก ต บั ณ ฑิ ต

บัณฑิตมักกระทำในสิ่งต่อไปนี้คื<WBR>อ

๑. บัณฑิตชอบชักนำในทางที่ถูก เช่น ชักนำให้เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา เลิกเล่นการพนัน เลิกเสพยาเสพย์ติด ชักนำให้สวดมนต์ก่อนนอน ให้รักษาศีล ให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้ทำมาหากินในทางสุจริต เป็นต้น

๒. บัณฑิตชอบทำแต่สิ่งที่เป็นธุระ ไม่เกะกะเกเรใครๆ เร่งรีบทำการงานในหน้าที่ของตน ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ปล่อยงานให้คั่งค้าง และไม่ก้าวก่ายงานในหน้าที่<WBR>ของคนอื่น เว้นแต่เมื่อได้รับการขอร้อง หรือเพื่ออนุเคราะห์

๓. บัณฑิตชอบทำแต่สิ่งที่ถูกที่ควร เช่น ชอบพูดและทำตรงไปตรงมา ชอบสนทนาธรรม รังเกียจการนินทาว่าร้าย ชอบบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เป็นต้น

๔. บัณฑิตเมื่อถูกว่ากล่าวตักเตื<WBR>อนโดยดีย่อมไม่โกรธ มีนิสัยถือเอา ความถูกความดีและความมีประโยชน์<WBR>เป็นที่ตั้ง ไม่ถือตัวอวดดีดื้อรั้น แต่เห็นว่า ผู้ที่ตักเตือนตนคือผู้ที่ชี้ขุ<WBR>มทรัพย์ให้ แล้วพยายามแก้ไขปรับปรุ<WBR>งตนเองให้ดีขึ้นตามคำแนะนำนั้น โดยไม่นึกรังเกียจว่าผู้ที่ตั<WBR>กเตือนจะมีอายุ ยศศักดิ์ ฐานะสูงหรือต่ำกว่า และหากมีผู้เข้าใจผิดพูดก้าวร้<WBR>าวไม่สมควร ก็อดทนไว้ไม่โกรธตอบ แล้ว พยายามหาโอกาสชี้แจงให้เข้<WBR>าใจภายหลัง จึงทำความอบอุ่นเย็นใจให้แก่ทุ<WBR>กคน

๕. บัณฑิตย่อมรับรู้ระเบียบวินัย รักที่จะปฏิบัติตามระเบียบวินั<WBR>ยของหมู่คณะอย่างเคร่งครัด เพราะตระหนักดีว่า วินัยเป็นเครื่องยกหมู่คณะให้<WBR>เจริญขึ้นได้จริง ทำให้หมู่คณะสงบเรียบร้อยไม่วุ่<WBR>นวายจริง ทำให้เกิดความผาสุกจริง ฯลฯ จึงรังเกียจความไม่เป็นระเบี<WBR>ยบเรียบร้อย ความไม่สะอาด รกรุงรัง

วิ ธี ค บ บั ณ ฑิ ต

๑. หมั่นไปมาหาสู่

๒. หมั่นเข้าไปนั่งใกล้

๓. มีความจริงใจ ให้ความเกรงอกเกรงใจต่อท่าน

๔. ฟังคำแนะนำ ฟังคำพูดของท่าน (ฟังธรรม)

๕. จำธรรมที่ได้ฟังนั้นไว้

๖. พิจารณาใจความของธรรมที่จำได้นั<WBR>้นให้ดี

๗. พยายามปฏิบัติตามธรรมที่ได้ฟั<WBR>งและใคร่ครวญอย่างดีแล้วนั้น

ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา
หอมระรวยรสพา เพริศด้วย
คนเสพเสน่หา นักปราชญ์
ความสุขซาบฤาม้วย ดุจไม้กลิ่นหอม
(สุภาษิตโคลงโลกนิติ)

ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บั ณ ฑิ ต

บัณฑิตมี ๒ ประเภท ได้แก่

๑. บัณฑิตภายนอก คือบุคคลทั่วไปไม่ว่าใครก็ตามที<WBR>่เป็นผู้ประพฤติดี มีคุณธรรม ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา

๒. บัณฑิตภายใน คือตัวเราขณะที่คิดดี พูดดี และทำดีนั่นเอง ดังนั้น การคบบัณฑิตภายในก็คือ การพยายามฝึกตนให้เป็นผู้มีจิ<WBR>ตใจผ่องใส มีสติรำลึกถึงแต่ความคิดที่ดีๆ เพื่อการสร้างสรรค์ คำพูดที่ดีๆ เพื่อยกใจผู้พูดและผู้ฟังให้สู<WBR>งขึ้น และการกระทำที่ดีๆ เพื่อประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู<WBR>้อื่น ซึ่งทำได้โดยการหมั่นให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาอย่างสม่<WBR>ำเสมอ

อ า นิ ส ง ส์ ก า ร ค บ บั ณ ฑิ ต

๑. ทำให้มีจิตใจผ่องใส สามารถทำความดีตามไปด้วย

๒. ทำให้ได้ปัญญาเพิ่มขึ้น เป็นคนหนักแน่น มีเหตุผล

๓. ทำให้มีความเห็นถูก เป็นสัมมาทิฏฐิ

๔. ทำให้ไม่ต้องเศร้าโศกเดือดร้<WBR>อนเพราะทำผิด

๕. ทำให้เป็นที่ยกย่องสรรเสริ<WBR>ญของคนทั่วไป

๖. ทำให้มีความสุข ปลอดภัยจากอุปสรรคภัยพาลต่างๆ

๗. ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถตั้งตัวได้เร็ว

๘. ทำให้แม้ละโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปสู่สุคติโลกสวรรค์

๙. ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่<WBR>าย ฯลฯ

“แท้จริง บุคคลผู้มีปกติเที่ยวสมคบคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน เพราะการอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นเหตุนำทุกข์มาให้ในกาลทุ<WBR>กเมื่อ เหมือนการอยู่ร่วมกับศัตรู ส่วนบัณฑิตมีการอยู่ร่วมเป็นสุข เหมือนสมาคมแห่งหมู่ญาติ เพราะเหตุนั้นแล นรชนพึงคบบัณฑิต ผู้มีปัญญา เป็นพหูสูต เอาการเอางาน มีศีล มีวัตร ไกลจากกิเลส และเป็นสัตบุรุษ เปรียบดังพระจันทร์คบอากาศอั<WBR>นเป็นทางโคจรแห่งดวงดาวฉะนั้น” ขุ.ธ.๒๕/๒๕/๔๒-๔๓


จบมงคลที่ ๒ คบบัณฑิต
http://www.dhammajak.net/<WBR>board/viewtopic.php?t=13008

 

ปัจจุบันนี้ผมก็รักษาศีล5มาแล้วเดือนกว่าก็พยายามระวังตัวอยู่เหมือนกันไม่ให้พลาดข้อใดๆ ยังไงก็ขอเข้าร่วมโครงการด้วยคนครับ และขอโมทนาบุญทุกท่าน ที่ร่วมกันรักษาศีล5 ขอท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุขความเจริญและได้พบกับพระนิิพาน

 

น้อมอนุโมทนา สาธุการกับคุณตื่นซะที ด้วยนะครับ ยินดีต้อนรับเข้าร่วมคณะกัลยาณมิตรโครงการเรารักศีล ๕ ครับผม

ผมขอเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่มาร่วมกันรักษาศีลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บูชาคุณพระรัตนตรัย คุณความดีอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณต่อพวกเรา และปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดี ลูกที่กตัญญูต่อพ่อหลวง ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทย ด้วยการรักษาศีล๕ ให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ทำตัวให้เป็นลูกที่ดีของพ่อ ให้พ่อได้ชื่นใจ ให้พ่อได้มีความสุข ให้พ่อได้ภูมิใจว่าลูกๆ ชาวไทยเป็นลูกที่ดี ลูกที่มีศีลธรรมประจำใจกันทุกคน

...............................................................................​

ขอบพระคุณรูปภาพที่มาจาก : http://www.kaokum.org/index.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=10

http://board.postjung.com/m/456426.html

 

น้อมอนุโมทนาบุญกับคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->jiraporn_chai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4810258", true); </SCRIPT> นะคะ
โครงการของเราก็มีอายุครบ ๔ เดือนแล้วเมื่อวานนี้
อีกไม่นานก็จะถึงครึ่งทางแล้วนะคะ
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประพฤติปฏิบัติในศีลนี้ จะเป็นอุปนิสัยติดตัวเรา
และพัฒนาอย่างยั่งยืน ก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
สาธุการค่ะ

สำหรับครูติงก็ปฏิบัติได้เป็นปกติแล้วค่ะ
หากพลาดบ้างก็เป็นไปโดยไม่เจตนา ก็จะพยายามให้บริสุทธิ์ค่ะ

 

ธรรมะสวัสดีสมาชิกโครงการเรารักศีล๕ ทุกท่านนะครับ

ขอเชิญเรียนทุกท่านโพสประสบการณ์การรักษาศีล๕ ใน ๔ เดือนที่ผ่านมา เป็นธรรมทานแก่สมาชิกท่านอื่นๆ ที่กระทู้โครงการนะครับ

รวมทั้งขอเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ผู้ร่วมโครงการตั้งจิตอธิษฐานรวบรวมบุญกุศล อันเกิดจากการรักษาศีล ที่พวกเราตั้งใจปฏิบัติบูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และกุศลผลบุญทั้งหลายที่เราได้บำเพ็ญมาดีแล้ว แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลออกไปอย่างไพศาลไม่มีประมาณแก่ทุกดวงจิตวิญญาณเพื่อนร่วมเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนี้ ให้ทุกดวงวิญญาณมีความสุข พ้นทุกข์ ได้เข้าสู่พระนิพพานในเร็ววันครับ

ตลอดจนตั้งจิตอธิษฐานวางเป้าหมายในอนาคตเป็นอธิษฐานบารมี เช่น "ขอกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เพียรบำเพ็ญมาดีแล้ว จงเป็นพลวะปัจจัย อุปนิสัยตามส่งให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงมรรค ผล และพระนิพพาน อันเป็นบรมสุขในเบื้องหน้าโดยเร็ววันด้วยเทอญ" เป็นต้น ขอขอบพระคุณท่านผู้ร่วมโครงการเรารักศีล๕ ทุกท่านเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

บุญรักษา คุณพระคุ้มครองนะครับ
Mr.Kim​

..........................................​

ขอบพระคุณรูปภาพที่มาจาก : http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99.246636/​

http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=2708&sid=a530374bb7ef013d2ee232941763f232​

 

กระผม ณัฏฐ์ภรณ์ ณัฐปัณฑ์ร พยาบาลวิชาชีพระดับชำนาญการ รพ.วชิระภูเก็ต ตึกเวชศาสตร์ใต้น้ำ ตอนนี้พยายามรักษาศีล5 ชักชวนคนใกล้ชิดถือศีล5 และพยายามถือศีล8ทุกวันพระ ถ้าถามลูกสาวผมสี่ขวบว่ารักใครเจ้าตัวเล็กจะตอบทันทีว่ารักพระพุทธเจ้ารักศีล สวดมนต์สมาทานศีลได้ด้วยแต่ยังอ่านหนังสือไม่ออก นอกจากถือศีล5เป็นปกติแล้วผมยังให้ทานแบบตัดชีวิตมาไม่ต่ำกว่า10ปีแล้ว พอเงินเดือนออกก็หาบุญทำทันทีบางทีเงินไม่เคยถึงปลายเดือน
ตอนนี้ทำโครงการถวายมหากฐิน7วัด ปี2554เน้นผ้าไม่เน้นเงิน อย่างน้อยอังสะติดกระดุม ได้ทุกรูปและครบไตร 1 ชุดต่อ1วัด และสั่งแกะบาตรหินดำ 9 นิ้วตั้งใจฝากญาติธรรมไปถวายพระพุทธเมตตาที่พุทธคยาที่อินเดีย และพระพุทธเจ้าองค์ดำที่นาลันทา ปี2555 สนใจร่วบุญโทร0865954459และยังล้างห้องน้ำวัด 5 วัดทุก 3 เดือน ครั้งที่ 25 ล้างวันที่ 18 กันยายน 2554 วัดในเขตอำเภอเมือง จ.ภูเก็ตเป็นต้น

 

สวัสดีครับทุกท่าน

เรื่องศีล ผมพยายามประคองใจ โดยนำสติอยู่กับกาย แล้วนึกถึงศีล ๕ และกุศลกรรมบถ ว่ามีอะไรบ้าง และตัวผมเองประมาทข้อไหน เมื่อว่างจากภาระงาน ผมพยายามทำใจให้สบายแล้วจึงพิจารณาศีลของตน

ศีล แปลว่า ปกติ เช่นนี้ ผมจึงพยายามดึงใจให้เป็นปกติ โดยคุมใจให้อยู่ในครรลองคลองธรรม มีพรหมวิหารสี่และหิริ-โอตตัปปะ เป็นธรรมประจำใจ

ความเผลอของผมเอง มีอยู่ไม่น้อย

ศีลข้อ ๑ - เวลาทำความสะอาดบ้านและเห็นมดขึ้นอาหาร หลายครั้งผมเช็ดถูไปพร้อมกับมด นอกจากนี้ บางครั้ง เห็นยุงบิน ใจและมือก็เผลอไปตบ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผมขออภัยต่อสัตว์ทั้งหลายด้วยครับ

ศีลข้อ ๒ - ข้อนี้ ผมไม่คิดที่จะเอาของของคนอื่นครับ แต่มีหนึ่งครั้ง (เท่าที่จำได้) หยิบเงินของแฟนมาใช้ก่อน เพราะวันนั้น ผมไม่ได้เบิกเงินมา ประกอบกับเงินจำนวนนั้นยังไม่ได้ถูกใช้ในวันนั้น แต่ผมมาพิจารณาดู ก็เห็นว่าไม่ควร เพราะเอาของของผู้อื่นโดยที่เขาไม่อนุญาต แม้ว่าผมจะเอาเงินมาใส่คืนในวันถัดไปก็ตาม

ศีลข้อ ๓ - การกระทำล่วงเกินและเกี้ยวพาราสีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่แฟนของตัว ไม่มีครับ

ศีลข้อ ๔ - มีการพูดคำไม่จริงบ้าง เพื่อให้คนใกล้ชิดสบายใจ แต่ผมก็คิดว่าไม่ควร ไม่ควร ในเรื่องนี้ ผมพยายามระวังก่อนพูด แต่บางครั้ง ก็พลั้งเผลอ ส่วนกุศลกรรมบถในเรื่องการพูด ผมรักษาการไม่พูดคำหยาบและการไม่พูดคำที่เหลวไหล แต่มีการพูดเล่นกันบ้าง ซึ่งน่าจะเข้าข่ายส่อเสียด (พูดกับแฟนหรือคุณแม่ แบบสนุก) สิ่งนี้ไม่ดี ผมพยายามระวังครับ

ศีลข้อ ๕ - ผมไม่ดื่มครับ

ช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ผมพิจารณาตนเองว่าศีลของผมยังแย่ สิ่งที่ดีขึ้นคือมีสติที่จะเตือนตนบ่อยขึ้น มีการนึกถึงพรหมวิหารสี่และหิริ-โอตตัปปะเป็นประจำ นอกจากนี้ ผมนึกถึงพุทโธและกายคตานุสติให้บ่อยขึ้น ทั้งนี้เพื่อควบคุมใจ ไม่ให้ไหลไปยังกิเลสต่างๆ

บุญรักษาทุกท่านครับ

 

ธรรมะสวัสดีสมาชิกโครงการเรารักศีล๕ ทุกท่านนะครับ

ขอเชิญเรียนทุกท่านโพสประสบการณ์การรักษาศีล๕ ใน ๔ เดือนที่ผ่านมา เป็นธรรมทานแก่สมาชิกท่านอื่นๆ ที่กระทู้โครงการนะครับ

รวมทั้งขอเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ผู้ร่วมโครงการตั้งจิตอธิษฐานรวบรวมบุญกุศล อันเกิดจากการรักษาศีล ที่พวกเราตั้งใจปฏิบัติบูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และกุศลผลบุญทั้งหลายที่เราได้บำเพ็ญมาดีแล้ว แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลออกไปอย่างไพศาลไม่มีประมาณแก่ทุกดวงจิตวิญญาณเพื่อนร่วมเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนี้ ให้ทุกดวงวิญญาณมีความสุข พ้นทุกข์ ได้เข้าสู่พระนิพพานในเร็ววันครับ

ตลอดจนตั้งจิตอธิษฐานวางเป้าหมายในอนาคตเป็นอธิษฐานบารมี เช่น "ขอกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เพียรบำเพ็ญมาดีแล้ว จงเป็นพลวะปัจจัย อุปนิสัยตามส่งให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงมรรค ผล และพระนิพพาน อันเป็นบรมสุขในเบื้องหน้าโดยเร็ววันด้วยเทอญ" เป็นต้น ขอขอบพระคุณท่านผู้ร่วมโครงการเรารักศีล๕ ทุกท่านเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

บุญรักษา คุณพระคุ้มครองนะครับ
Mr.Kim​

เหมือนเป็นพี่มาเตือนน้องๆ ให้ระมัดระวัง รักษาศีล5 ให้ครบ ให้ทำให้มากขึ้นให้10ข้อกุศลกรรมบท10 ให้มั่นคง
ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วย
ศีล รักษา กาย
สมาธิ รักษา จิตใจ

 

เดือนนี้ ผิดศีลข้อ 1 อย่างจัง ต่อ-แตนมาทำรังที่บ้านไล่สารพัดวิธี ก็ไม่ไป จนกระทั่งรังใหญ่ขึ้นทุกวัน เลยต้องยอมผิดศีลข้อนี้ อย่างจังเลยค่ะ
ศีลข้อ 2-5 ระมัดระวังและปฏิบัติได้อย่างปกติ

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ เริ่มที่ศีล 5 ก่อนนับเป็นโอกาสที่ดี มีศีลบริสุทธิ์ ระวังสำรวมกายใจ ก็เรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็มีสิ่งดีดีเข้ามาเรื่อยๆ การปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิก็ดี

 

ศีลห้า รักษาได้ 100 % ปากเราที่คิดว่าจะหลุดได้ง่ายที่สุด พูดโกหก ส่อเสียด กระแหนะกระแหน ไม่เกิดเลย สัมมาวาจาตลอดเวลา เพราะหยุดคุยฟุ้งซ่าน ศีลห้าตอนนี้ดูว่าน้อยเกินไป อาสหบูชา เข้าพรรษานี้ (15-17/07/54) ปลีกวิเวก ไปถือศีลแปดคะ ไม่มีมือถือ ไม่มีNOTE BOOK ไม่มี FACE BOOK มีแต่ลมหายใจของเรา ครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ และต้นไม้ใบหญ้า ข้างกาย

 

อนุโมทนาบุญอย่างสูงครับ

 

ธรรมะสวัสดี ท่านผู้ร่วมโครงการเรารักศีล๕ ทุกท่านครับ

วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา ขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่าน ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา กันนะครับ

น้อมอนุโมทนา สาธุ กับคุณ ณัฏฐ์ภรณ์ คุณJeerachai_BK คุณ วิชา ละ คุณ pismai คุณ luksit และคุณ ทิพย์ปทุโม ด้วยนะครับ

บุญรักษาครับ

...........................................................​

ขอบพระคุณรูปที่มาจาก : วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา - Buddhism Audio<!-- google_ad_section_end -->