การเผากระดาษให้บรรพบุรุษ ได้รับจริงไหมครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chin949, 16 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. chin949

    chin949 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +288
    การเผาเครื่องไหว้กระดาษต่างๆ แบบจีน นั้น ผู้ที่ตายไปแล้วสามารถรับได้จริงไหม? แล้วเขาสามารถนำไปใช้ได้จริงไหม หรือได้เป็นกระดาษ หรือไม่ได้เลยครับ
    รบกวนช่วยให้ความรู้ด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ
    (แต่ที่บ้านผมก็ยังคงเผากระดาษในช่วงเทศการไหว้ต่างๆอยู่ครับ แต่ผมจะคอยบอกให้ทางบ้านใส่บาตร แล้วกรวดน้ำอุทิศให้บรรพบุรุษด้วยครับ)
     
  2. *44*

    *44* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +1,808
    ตามความเห็นของเรานะ เราไม่เชื่อหรอกจ๊ะ
    มันเป็นประเพณี ที่เขาทำตาม ๆ กันมา นานมาก ๆ เลยแหล่ะ

    ที่บ้านเรา พ่อเลิกเผาตั้งนานแล้ววววววว หุหุ
    แต่ที่ใต้หวัน เขายังเผากันอยู่เลยนะ และก็มีแปลก ๆ ขึ้นทุก ๆ ปี

    เช่น มีรถกระดาษ ให้เลือกมากมาย เบ็น บีเอ็ม จากัวร์ เปอเช่ มีหมด แถมทำขนาดเท่ารถจริง ๆ เลย จากเมื่อก่อน แค่รถกระดาษคันเล็ก ๆ เท่านั้นเอง

    อีกหน่อย ก็คงมี โคโยตี้กระดาษ เผากันบ้างแหล่ะ หุหุ
     
  3. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,254
    จริง ๆ การเผากระดาษให้ผู้ตายตามธรรมเนียมจีน เป็นการรักษาประเพณีที่ดีงาม ซึ่งแสดงออกถึงความกตัญญูเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสรรหาเครื่องกระดาษวิจิตรให้มากเรื่องและมีราคาแพงแต่ประการใด เราจึงควรศึกษาถึงเนื้อแท้ที่มาของประเพณีด้วย

    ส่วนการจะให้ยกเลิกไปเลยนั้นคงยาก และก็ไม่ควรใช้วิธีหักด้ามพร้าด้วยเข่า กับคนเก่า คนแก่ ส่วนใครจะยืนยันได้มั้ยว่าการเผาคนตายได้รับหรือเปล่า หรือแม้แต่การใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลมั่นใจ และรับรองด้วยตนเองได้มั้ยว่าคนตายได้รับ ฝากให้ลองไตร่ตรองดู

    ส่วนใหญ่มักทำด้วยความเชื่อฝ่ายตนทั้งนั้น แทบจะหาผู้รับรองด้วยตนเองไม่ได้เลย เชื่อมั่นอย่างไหนที่ตนไตร่ตรองด้วยปัญญาว่าชอบแล้วก็ทำตามแบบนั้นเถิด หากไม่มั่นใจสักอย่างก็อย่าทำอะไรมันเลย อยู่เฉย ๆ สบายใจกว่า ทิฏฐิจะได้ไม่สูงไม่มองว่าสิ่งอื่นดี หรือไม่ดีกว่าตนด้วย
     
  4. *44*

    *44* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +1,808
    เราต้องขอโทษ ด้วยนะจ๊ะ ที่แสดงความคิดเห็นที่แย่ ๆ ของเราเอง

    เราก็เห็นด้วยกับพี่ tienyun จ๊ะ

    สรุป ตามใจผู้ใหญ่ดีกว่านะ ถ้าทำให้ท่านมีความสุขก็ โอเค จ๊ะ
     
  5. รัศมีธรรม

    รัศมีธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +330
    การเผากระดาษที่ทำเป็นรูปสิ่งของต่างๆ ไปให้ผู้ตาย ก็เป็นการส่งความปรารถนาดีด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น แน่วแน่ ว อย่างจริงใจ ตั้งใจที่จะให้วิญญาณผู้ตายมีความสุข สะดวกสบาย นั่นก็คือการแผ่เมตตา เช่นกัน ขณะที่ตั้งใจเผาไปให้ด้วยจิตใจที่ปรารถนาดีก็เทียบได้เช่นเดียวกับการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลนั่นเอง
     
  6. chin949

    chin949 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +288
    คือว่า อยากทราบว่ามีผู้ใดเคยพิสูจน์มาแล้ว และ เป็นอย่างไรบ้างครับ
    แต่มิได้มีความคิดจะลบล้างความเชื่อเดิมแต่อย่างใดครับ
    คืออยากทราบเป็นความรู้นะครับ
    เพื่อจะได้ทำอันที่ถูกต้องตรงประเด็นได้มากขึ้น (แต่ของเดิมก็ไม่ทิ้งนะครับ)
    ขอบคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2007
  7. *44*

    *44* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +1,808
    จะเอาถึงขนาดพิสูจน์ เลยเหรอ ???

    หมายถึง ไปคุยกับผีหรือเปล่า แบบถามเขาว่า ได้รับรถหรือยังจ๊ะ แบบนี้หรือเปล่าพี่
     
  8. lioross

    lioross Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +82
    ผมว่าถ้าคนที่เผากระดาษส่งไปให้ด้วยความตั้งใจเค้าก็จะรับรู้ได้ทางจิตครับว่ามีใครส่งอะไรไปให้ การเผากระดาษเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งเหมือนๆกับประเพณีของคนไทยเวลาจะส่งอะไรไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็จะทำบุญตักบาตรไปให้น่ะครับ เค้าไม่สามารถกินอะไรหรือใช้อะไรได้เหมือนๆคนแต่จิตก็ทำการเสพย์โดยการสัมผัสทางจิตครับ
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    พิธีกรรมดังกล่าวเป็นของลัทธิ "เต๋า" ครับ

    ส่วนทางพระพุทธศาสนา การจะอุทิศอะไรไปให้ญาติในโลกทิพย์จะต้องทำผ่านทาง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้นครับ ตามคำของหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ
    ซึ่งท่านทั้งหลายไปหาอ่านได้จาก หนังสือของท่านที่มีอยู่มากมาย

    แต่คงไม่ต้องไปบอกให้คนอื่นเขาเชื่อนะครับ เพราะอาจจะโดนอัดกลับมาได้ คนเชื่อเรื่องการเผากระดาษสิ่งของต่างๆในโลกนี้ มีมากกว่าพลเมืองประเทศไทยทั้งประเทศนะครับ ก็เมืองจีนงัย......อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  10. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ผมก็เห็นด้วยกับคุณ lioross<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_491153", true); </SCRIPT> เวลาเราอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น
    พวกเขาจะสามารถรับได้เพราะใจของเราตั้งใจอุทิศให้กับเขา สิ่งของที่ใช้บริจาคเป็นแค่สื่อเท่านั้น
    ให้ผู้ที่บริจาคมีความรู้สึกเหมือนให้ไปจริงๆ อย่างการทำบุญด้วยเงินหรือปัจจัยต่างๆที่คนไทยเรายืดถือปฎิบัตินั้น
    เป็นแบบทำทีเดียวได้ทำบุญ 2 ต่อโดยผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้รับอนิสงค์จากการทำบุญของเรา
    สามารถนำสิ่งของนั้นเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อได้ เรียกว่าถึงความตั้งใจจะไม่เต็ม 100
    แต่ก็ยังมี Backup ไว้กันพลาดอยู่ดี หากกล่าวถึงเฉพาะบุญที่คนในอีกมิติหนึ่งจะได้รับแล้ว
    เฉพาะค่าของสิ่งของที่ใช้เป็นสื่อนั้นแทบไม่มีผลอะไรเลย เพราะเป็นสิ่งที่สมมุติและมีค่าเฉพาะในมิติของเราเท่านั้น
    (คล้ายๆกับคนที่เล่น Online Game จนตัวละครในเกมรวยมากๆ หากไม่แปรรูปให้เป็นเงินจริงๆเสียก่อน
    ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะโอนเงินในเกมนั้นให้กับอีกคนที่ไม่ได้เล่นเกมนั้นอยู่)
     
  11. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ผมลืมบอกเรื่องสำคัญไปอีกอย่างหนึ่ง เวลาทำบุญ หากคุณรู้จักชื่อของผู้ที่คุณต้องการให้
    ถ้าคุณอธิฐานเบาๆหรือพูดในใจว่า "ขอให้บุญนี้จงส่งไปถึงนาย ...(ชื่อจริงของเขา)... ด้วยเถิด"
    และพยายามนึกถึงรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาให้มากที่สุด พวกเขาจะสามารถรับได้ง่ายขึ้นครับ
    ผมเคยเห็นมีคนตั้งกระทู้ในเวปพลังจิตนี้ว่า แสงแห่งบุญจะคงอยู่หลังจากบริจาคแล้วเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น
    ดังนั้นควรรีบอธิฐานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นแล้วแสงแห่งบุญจะระเหยไปสะสมอยู่ในสถานที่
    ที่เราสามารถใช้ได้คนเดียวเท่านั้น (ผู้ที่เราต้องการส่งให้จะไม่สามารถรับได้)
    นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคที่ว่าควรอธิฐานกำกับให้พญายมราชเป็นพยานในการทำบุญอีกด้วย
    ว่ากันว่า ท่านเป็นเทวดาที่จะให้ยมฑูตเดินทางไปรับผู้ตายใหม่ๆให้มาพบ เพื่อถามให้ระลึกถึงบุญที่ได้ทำในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
    โดยท่านจะถามทั้งหมด 3 ครั้งถึงความดีที่เคยทำ หากใครสามารถระลึกถึงเรื่องดีๆที่เคยทำมาได้ ก็จะได้ไปเกิดเพื่อเสวยสุขก่อน
    หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือท่านเป็นเทวดาที่ดีนั่นเอง ไม่ใช่เหมือนในเรื่องที่ฝ่ายมารแต่งขึ้นว่า หากใครหนีได้ก็ไม่ต้องตกนรก
    ว่างๆก็ทำบุญให้ท่านบ้างก็ดีนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักทำบุญมือใหม่ทุกๆท่านครับ
    (อุ๊บ...ลืมไป ผมก็มือใหม่เหมือนกันครับ แฮะๆ)
     
  12. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,176
    *-* เราว่ามันง่ายไปหน่ะสิ

    แค่เผา บ้าน รถ เงิน แหวน เสื้อ นาฬิกาไปให้

    ญาติที่ตายไป ก็ได้รับจน รวยไปเลย เราคิดว่ามันผิดหลักการของที่มาแห่งบุญ กุศล อยู่หน่ะสิ

    เราคิดว่าใส่บาตรทำบุญ เล็กๆน้อยๆ น่าจะบุญเยอะกว่าเผากระดาษ เงิน กระดาษทองนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2007
  13. รัศมีธรรม

    รัศมีธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +330
    เพื่อสัมมาทิฏฐิ...

    ขออนุญาตชี้แจงด้วยความอ่อนน้อมในธรรมและสหายธรรม เพื่อให้เกิดสัมมาทิฏฐิ อันเป็นหนทางก้าวสู่ธรรม... การอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับด้วยการใช้น้ำสะอาดหลั่งลงภาชนะที่รองรับพร้อมกับตั้งจิตอุทิศ เป็นเพียงอุบายที่จะทำให้การอุทิศผลไปสู่ผู้ล่วงลับได้เท่านั้น หากเป็นผู้มีบุญ หรือมีพลังจิตไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาเป็นสื่อให้จิตมีสมาธิ ซึ่งอุบายในการกรวดน้ำที่บอกว่าให้ค่อย ๆ หลั่งเป็นสายต่อเนื่องกันไปตลอด ไม่ให้ขาดสายนั้น จะทำให้ผู้อุทิศเกิดความตั้งใจหลั่งน้ำไม่ให้น้ำขาดสาย ทำให้เกิดภาวะจิตจดจ่อเกิดเป็นสมาธิ มีพลังจิตขึ้นในระดับหนึ่ง สามารถส่งกระแสความปรารถนาดีไปให้ผู้ล่วงลับได้ และบุญนั้นมีสภาวะเป็นทิพย์ ไม่ได้เป็นวัตถุธาตุ ดังนั้นคนทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา และทุกเผ่าพันธุ์ ก็สามารถส่งกระแสจิตที่เจือด้วยความปรารถนาดีไปให้แก่ผู้ล่วงลับได้ หรือแม้แต่ส่งไปให้แก่ผู้มีชีวิตก็ได้เช่นกัน การเผากระดาษของชาวจีนแม้จะเป็นลัทธิอื่นที่ไม่ใช่พุทธศาสนาก็สามารถส่งไปถึงผู้ล่วงลับได้เช่นกัน ถ้าผู้อุทิศมีบุญหรือได้ทำบุญก่อนอุทิศไปให้ เพียงแต่อุบายในทางพุทธศาสนามีความแยบยลและเป็นช่องทางที่ดี ที่ส่งกระแสได้สะดวก เนื่องจากน้ำเป็นธาตุเย็น ความสะอาด ใสเย็น จะเป็นสื่อนำใจให้เกิดกระแสจิตที่นุ่มนวล แช่มชื่น และผู้รับก็รับได้โดยอาจกล่าวว่าเสพด้วยจิตนั่นเอง ไม่ใช่เป็นสิ่งของตามที่เข้าใจ หากแต่จิตวิญญาณถ้ายังยึดติดก็คงจะยึดถือเกาะเกี่ยวว่านั่นเป็นสิ่งของอยู่ได้เช่นกัน
    นอกจากนั้นการที่ให้กรวดน้ำหรืออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับหลังจากการทำบุญหรือถวายสังฆทานในเวลาไม่นานเกินไป ก็เนื่องจากหลังจากทำบุญใหม่ๆ จิตยังเป็นกุศลจิต ยังมีความสงบ อิ่มเอิบจากการทำบุญ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และมีศรัทธาเต็มเปี่ยมที่จะอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ล่วงลับ เพราะมนุษย์ปุถุชนทั่วจะไม่สามารถดำรงจิตนิ่งสงบเป็นบุญได้นานนัก จิตไม่อยู่สุข แส่ส่าย และแปรเปลี่ยนตามสิ่งที่เห็น สิ่งที่มากระทบ เป็นเหตุให้ควรกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลหลังการทำบุญในเวลานั้นๆ เพื่อผู้ล่วงลับจะได้มีส่วนรับผลบุญ ไม่ใข่ต้องรีบทำด้วยสาเหตุที่ว่าบุญจะระเหยไปได้ ส่วนผู้ทำบุญนั้นก็ย่อมได้รับผลบุญเป็นปกติอยู่แล้ว
    ขอนอบน้อมต่อสหายธรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2007
  14. chuang205

    chuang205 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +708
    การเผากระดาษเป็นการทำบุญหรือเปล่า??
    ทราบมาว่า ผู้ที่ล่วงรับไปแล้วเวลาจะได้อะไร(อาหาร,สมบัติ(ทิพย์)ฯลฯ) ก้อขึ้นอยู่กับบุญที่ตนมี หรือบุญที่ผู้อื่นอุทิศให้
    แต่กรณีนี้ ถ้าการเผากระดาษไม่ใช่การทำบุญ แล้วผู้ที่ล่วงรับไปแล้วจะได้รับบุญได้ยังไงล่ะครับ
    แต่การเผากระดาษ สำหรับผมถือว่าเป็นประเพณีที่ดีงามนะครับ เพราะเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อญาติผู้ล่วงรับไปแล้ว(ที่บ้านก้อเผาอยู่)
    หากความคิดเห็นนี้ผิดพลาดไป ก้อขออภ้ยนะครับเพื่อน ๆ
     
  15. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    จะทำอะไรก็ทำไปเถิดเพื่อความสบายใจ แต่อย่าได้เบียดเบียนผู้อื่นก็พอ...
     
  16. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    (verygood)
     
  17. NuJanBaBor

    NuJanBaBor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,861
    ก็สงสัยอยู่เหมือนกันแต่ยังไม่ได้ถาม หุหุ

    ก็สงสัยว่าคนตายจะเอาไปทำอะไร ที่มีกีดาษเป็นรูปรถ หรือ โทรศัพท์มือถือ

    ก็คงทำตามความเชื่อ และเพื่อความสบายใจว่าคนที่ตายไปแล้วจะได้รับสิ่งของต่างๆ
     
  18. Tanachair

    Tanachair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +223
    อย่างที่ว่ามาแหละคับ การเผากระดาษ
    เป็นการแสดงความกตัญญูของคนจีน
    ผมเห็นว่าประเพณีใดที่ทำแล้ว ไม่เสียหาย
    แถมทำให้คนเป็นคนดี แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
    ไม่ต้องไปพิสูจน์ ไม่ต้องไปดูที่ตัวผลมากหรอกคับ
    อาม่า อากง จะได้ไม่ได้น่ะมันไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย
    แต่ที่แน่ๆ จิตใจของผู้ทำก็สะอาด มีความสุข

    เหมือนกับบั้งไฟพยานาคบ้านเราแหละคับ
    ไม่ต้องพิสูจน์หร๊อกกกกก
     
  19. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,443
    การเผากระดาษเป็นการออกถึงแสดงความกตัญญู แต่วิญญานไม่ได้รับนะครับ ทางที่ดีควรทำสังฆทานไปให้ด้วย คือ
    1.ถวายพระพุทธรูป 5นิ้วขึ้นไป
    2.ผ้าไตร หรือผ้าอาบ
    3.อาหาร ตอนถวายต้องเจาะจงผู้รับ ชัดเจน 1ชื่อ-สกุล
     
  20. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ความตั้งใจในการส่งบุญหรือสิ่งของไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเหมือนกันแต่วิธีปฏิบัติต่างกัน ทำเนียมจีนใช้เผาของที่เผาก็เป็นของทำเลียนแบบเช่นของที่ทำด้วยกระดาษ แต่ของพุทธไทยเราใช้ของจริง สิ่งที่ให้เป็นปัจจัย 4 เป็นหลัก ไม่มีของที่ฟุ่มเฟือยอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่นรถ และแบบไทยไทยของที่จะอุทิศให้จะต้องให้ผ่านผู้อื่น คือต้องมีผู้รับ ถ้าผู้รับมีศีลมากของที่ให้ก็จะส่งผลให้ได้อานิสงส์หรือให้ผลมาก นั่นคือของมี่ให้นั้นเป็นของจริงและมีผู้นำไปใช้ประโยชน์ เมื่อให้แล้วก็ตั้งจิตอุทิศให้ผู้ล่วงลับโดยเอ่ยชื่อผู้รับ ผู้รับได้ก็มีพวกวิญญาน ผี เปรต ส่วนสัตว์ สัตว์นรก อสุรกาย รับไม่ได้เพราะสภาวะจิตใจไม่พร้อมที่จะระลึกถึงบุญเพราะทุกข์ทรมานอยู่ ส่วนเทวดาไม่รับบุญเพราะมีมากแล้วแต่ท่านจะร่วมต่อบุญของท่านเองด้วยการอนุโมทนาด้วย คนมีชีวิตก็รับบุญจากการอุทิศไม่ได้ ถ้าจะให้ได้ เวลาเราทำบุญอะไรไปแล้วก็ต้องบอกให้ผู้นั้นรู้แล้วให้เขาร่วมโมทนาเอา

    ตามหลัก thermodynamics ข้อที่หนึ่ง สสารหรือพลังงานไม่สูญหายไปไหนโดยไม่มีที่ไปไม่มีที่มาแต่เปลี่ยนรูปได้ นั่นหมายความว่าใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้น ใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้นทั้งบุญทั้งบาป ถ้าอุทิศไปให้มันน่าจะมีที่ไป ส่วนเจ้าของเองมันจะตามไปหลายภพหลายชาตินับไม่ถ้วน นอกจากนั้นของที่ทำบุญไปมันเปลี่ยนรูปได้ไม่ใช่ว่าตักบาตรด้วยอาหารแล้วจะได้บบุญเป็นอาหาร หรือถวายผ้าไตรแล้วจะได้ผ้าเสมอไป มันเปลี่ยนรูปเป็นอย่างอื่นได้ ตามหลัก thermo. แล้วที่สำคัญใครทำอะไรไว้อย่าได้คิดหนี หนีไม่พ้นแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2007

แชร์หน้านี้

Loading...