" ผู้ที่ทรงอารมณ์ได้นาน ดูแบบไหน แล้วทำอย่างไรให้ทรงได้นานๆ"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฝันนิมิต, 31 กรกฎาคม 2011.

  1. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนากับข้อความนี้ครับ การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งควรทำอย่างยิ่ง

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  2. Kra-Tai

    Kra-Tai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอผู้รู้....ช่วยมาตอบมากๆ นะคะ จะตามมาลับคมเหมือนกัน อิอิ
     
  3. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    "พูดไปสองไพ่เบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง"

    แต่หากยังมีอาการคันปาก เพราะร้อนไปถึงจิตใจ เพียงแต่ระงับไว้ซึ่งทางกาย
    นั่นเพราะด้วยยังมีเวทนาปรากฏอยู่

    อย่างนี้ ยังจัดเป็นการทรงอารมณ์ ความเป็นกลาง ชนิดใด..?

    ฉะนั้น ไอ้ที่เงียบ..! นี่เงียบแบบไหน..?

    ภาคทฤษฏี จะบรรยายออกมายังไงก็ได้ให้สวยหรู แต่ของจริงไม่นิยมสตั๊น

    ดูสิ เวลาบางคนเวลามีเรื่องสะเทือนใจมากๆ โดยไม่ทันตั้งตัว
    ถึงกับลืมตา อ้าปากไม่ขึ้น ช๊อคหมดสติ เป็นลม ล้มพับไปก็มี

    บางคนควบคุม พฤติกรรมในการแสดงออกได้ดี
    แต่ควบคุมระบบการขับถ่ายไม่ได้ เหงื่อรักแร้ย่อมไหล
    ไปจนถึง อุจจาระแตก ฉี่ราด ก็มี

    จึงว่า..! เป็นกลางด้วยสภาวะใด

    เป็นกลาง ด้วยการ กัก เก็บ กด อารมณ์ไว้
    หรือเป็นกลาง ด้วยการ รู้อารมณ์
    หรือเป็นกลาง ด้วยการ สละอารมณ์

    อย่าลืมว่าอารมณ์ของปุถุชน ที่ว่าเป็นกลางๆ
    แต่ยังแฝงเจือไว้ด้วยทิฏฐิ นั่นคือการหลอกอารมณ์ตนเอง
    ฉะนั้น "ขันธมาร และอภิสังขารมาร" มันพร้อมกระทำย่ำยีได้ทุกเมื่อ

    เช่นกัน ความหยาบ ละเอียด ของกิเลส ย่อมมี
    แก้ด้วยความหยาบ ละเอียด ของกำลังสติ สมาธิ ปัญญา

    ฉะนั้น ของจริง ลงสนาม ต้องไม่ใช้สตั๊น
    หากแต่ใช้สตั๊น เจอเข้าจริง ก็หมูสนามเห็นๆ
     
  4. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ...ไห้..ฮิ๊ทเลอร์........................
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คนเราหากยังไม่สิ้นกิเลส
    แล้วพูดว่ามีความเป็นกลางอย่างแท้จริงในตนเอง
    นั่นเรียกว่าโกหก ​


    นักวินเซิฟ จะใช้คลื่นและลมที่มี เพื่อ ฝึกเล่น วินเซิฟ
    ชำนาญเมื่อไร
    ก็จะสามารถเล่นได้อย่างสะบาย​

    นักปฏิบัติ ก็ต้องใช้ สภาวะธรรม ที่เกิดจากอายตนะ 12 ที่แทบจะไม่มีช่องว่าง

    เป็นเครื่องฝึก สติ เพื่อให้ มีความชำนาญ มีความคล่องตัว จนมีสติเป็นผู้นำจิตขึ้นมาได้


    และในการฝึกฝน จิตก็ต้องมีกำลัง
    ต้องรู้จักมีทมะ มีขันติ มีเจตนางดเว้น ในสิ่งที่เป็นอกุศล

    หากถามว่ากำลังจิตมาจากไหน ก็มาจาก สัจจะ
    มาจาก ข้อวัตร มาจากความสงบที่จิตได้ดื่มรสความสงบ
    ทำให้จิตมีกำลัง ที่จะสามารถ มีทมะ
    ไว้ข่มอกุศลที่จะเกิดก่อไปเป็นเรื่องราวต่างๆ ​


    และ
    ในขณะเดียวกัน
    ผู้ฝึกฝน ก็ใช้ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ)
    โดยการใช้ สภาวะที่เกิดขึ้น เป็นเครื่องฝึกฝนกับตนเอง

    เมื่อโดนกระทบแล้วหันมองดูใจตัวเองบ่อยๆ
    โดยไม่ไหลออกล่วงศีล
    และการหันมาดูใจตัวเองก็คือการฝึกสติ
    นั่นเรียกว่า กระทำไว้ในใจ

    ส่วนคำว่าโดยแยบคาย
    คือการ ที่เราเพียงมองดูใจบ่อยๆในอาการที่เกิดขึ้น
    โดยไม่แทรกแซง และก็ไม่ล่วงศีล

    จนดูเหมือนว่า เราไม่ได้ปฏิบัติ
    แต่ ในความเป็นจริง เรากลับปฏิบัติฝึกสติจนไม่เลือกกาล
    ไม่เลือกเวลา แม้ในขณะพิมพ์ กิน ดื่ม พูด ทำ ขับถ่าย ก็สามารถฝึกได้


    และสภาวะ ที่เกิดขึ้น หากจะกล่าวโดยย่อ
    ก็มีเพียง ยินดี ยินร้าย เฉยๆ ที่เกิดขึ้นวนไปวนมา
    ตามความละเอียด ที่สติจะมีความไวพอ


    ผู้ฝึกฝน จึง ต้อง ใช้ สิ่งเหล่านี้ เป็นเครื่องฝึกให้กับตนเอง
    หากจิตผู้ใด ขาดกำลัง ก็จะฝึกฝนตรงนี้ ได้ลำบากหน่อย

    เพราะในการต้านทาน กระแสกิเลส มันเฉียบคม
    หากไม่มีทมะแล้วละก็ มันก็จะก่อในส่วนอกุศลมากกว่ากุศล
    แทนที่ จะยืน บนกุศล เป็นพื้น ให้ได้บ่อยๆ
    ให้การฝึกสตินั้น มีความชำนาญมากขึ้น


    ควรจะถามตนเองว่า เรารู้จัก ความชำนาญใดๆ
    ที่เกิดขึ้นกับใจเราบ้างหรือยัง












     
  6. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    สาธุ เคล็ดกระบี่หกชีพจร เป็นเช่นนี้หนอ..........
    หกแปรเป็นสิบสอง ใจนิ่งรู้เห็นตามครรลอง ครองตนวางพ้นโลกา...ว่างไร้กระบวนไร้ตน กระแสปราณก่อเกิดไม่ขาดสาย ใช้ออกดังใจนึก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2011
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิด สติ เราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่หวัง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ความสุข ความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่......(ดำน้ำ..บุ๋ง บุ๋ง..)
     
  8. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    ข้าไร้ดาบคมคู่กายเป็นอาวุธ มีเพียงความไร้สมมุติแห่งตัวตนเป็นอาวุธคู่กาย

    (f)(f)(f)(f)
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    เอาเข้าจริง ยามเจอศึก อย่าร้องหา "เซียงเพียวอิ๊ว..!" ก็แล้วกัน เนาะพี่ขมิ้นชัน

    แต่ข้างบน #26 พี่ปราบ..! ตอบได้ดีแล้ว

    สาธุด้วย :cool:
     
  10. แว๊นบอย

    แว๊นบอย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อันนี่ความเห็นส่วนตัวนะขอรับ
    ถ้ายังไม่ถึงขั้นอรหันต์เตรียมเข้านิพพานคงทำไม่ได้ขนาดให้เป็นกลางตลอดมั้งครับ เพราะว่า จขกท ถามนี่คือการรักษาความเป็นกลางไว้โดยมีสิ่งเร้าด้วย ซึ่งถ้าไม่ถึงขั้นอรหันต์คงแทบเป็นไปไม่ได้ และการทรงก็คือการมีอยู่ของบางสิ่งอยู่ดี เพราะฉะนั้นคงทำได้แค่กำหนดดูมันได้ทันถ่วงทีเฉพาะหน้า อะไรเกิดก็กำหนดดูก่อน เห็นความแปรเปลี่ยน และดับไปของมัน เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้วมั้งครับ
     
  11. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ....ทาถู ทาถู ......หัวโนมาแล้ว จะเน่าอีกหน่อย
    คงไม่แปลกหรอกเนาะ ยังดีที่หายค่อนข้างเร็ว
    ถ้าหายทันทีนี่คงเรียกได้ว่า"อมตะ" เพราะไร้ตนที่จะบาดเจ็บไปแล้ว
    วิบากถ้ายังมี ก็ว่ากันไป คงต้องเรียนรู้วิชาพลิกผันดาราสลับหยินหยาง นั่นแน่ะ
     
  12. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ไม่หรอก ไม่หรอก มันไม่เท่า"รู้"ที่ได้หรอก....คุ้ม...แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะรู้....ถ้าเคยดูหนังจีน(ได้ข่าวว่าบ้าหนังจีน)เวลาอาจารย์ชี้ให้ดู ดวงจันทร์ ให้ดูดวงจันทร์ ไม่ใช่มาเพ่งนิ้วที่ชี้อยู่..ใช่ใหม.....เสะเล้วโกโป๋ย...เสะเล้วโกโป๋ย...เสร็จแล้วก็ปล่อย.............................
     
  13. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    อย่าเพิ่งไปอาจเอื้อมหยิบยืม คำว่า "อมตะ" มาใช้

    หากยังไม่เจอผู้รู้มาแยก สติ ความคิด จิต ขันธ์ ไม่ได้

    ฉะนั้น "จิตเป็นอมตะ" อย่างใด ก็ลองศึกษาเอา ตามชื่อหนังสือ

    www.kanlayanatam.com/Mybookneanam/Jit_amata.htm
     
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    แล้ว ท่านพี่ เขาก็ สกัดจุด "ยินต๊ก" เพราะว่า มันเป็น ."จุดตาย"ที่ถ้าไม่สกัดนี่ ธาตุ ไฟ เข้าแทรกหมดวรยุทธไม่อาจกลับมาได้อีกเลย แม้แต่ท่าน "หม้อเฝ้าชง"ท่าน ยัง เตือนเลย...ทบทวนดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2011
  15. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    คริคริ เสะเล้วโกโป๋ย...เคล็ดพี่แพทริคสั้นแต่ได้ความแท้ ยังดีที่ ตังชั้ง ไม่ชำรุด
    .........
    พี่หม้อหุงข้าวกล่าวถูกอีกแล้ว
    ถึงว่า ความรู้สึกลมปราณไหลไม่สะดวก ธาตุไฟเริ่มแทรกแอบแฝงนี่เอง
    ว่าแต่ว่าฝ่ามือยูไลนี่ รักษาอาการธาตุไฟแทรกได้ด้วย
    แค่โดนฝ่ามือมะเหงกหัวตรงจุดยินต๊ก โล่งไปเลย
    ในอดีตเค้าว่ากันว่าผู้ที่ใช้ฝ่ามือนี้ใช้ลมปราณมหาปัญญา ไม่ธรรมดา เลย
    พลิกผันจักรวาลได้...แน่ะยึดอีกแล้ว ฟุ้งแล้วแฮะ......เสะเล้วโกโป๋ย....:d

    คัมภีร์จิตอมตะ ลุ่มลึกสุดบรรยาย เข้าใจยากอยู่ ผู้รจนานับว่าหายากแท้ เป็นบุญที่ได้อ่าน
    เอ สำนวนนั้นคุ้นๆอยู่หนอ ขอบพระคุณครับพี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2011
  16. กาน้ำ

    กาน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +153
    อุเบกขาคือ การเฉยในอารมณ์ ไม่เอียงไปทางชอบหรือชัง มีความเสมอภาคของจิตและเจตสิก
    ประเภทของอุเบกขา
    อุเบกขาในโลภะมี๔ดวง
    -อุเบกขาสหคตัง ทิฐิคตสัมปยุตตัง อสังขาริกัง-
    จิตโลภเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยความเห็นผิด เกิดขึ้นเองโดยมีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ทิฐิคตสัมปยุตตัง สสังขาริกัง-
    จิตโลภเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยความเห็นผิด เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ทิฐิคตวิปปยุตตัง อสังขาริกัง-
    จิตโลภเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยมานะ เกิดขึ้นเองโดยมีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ทิฐิคตวิปปยุตตัง อสังขาริกัง-
    จิตโลภเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยมานะ เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักชวน

    อุเบกขาในโมหะมี๒ดวง
    -อุเบกขาสหคตัง วิจิกิจฉาสัมปยุตตัง-
    จิตหลงเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยความสงสัย
    -อุเบกขาสหคตัง อุทัจจะสัมปยุตตัง-
    จิตหลงเกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยความฟุ้งซ่าน

    อุเบกขาในมหากุศลจิตมี๔ดวง
    -อุเบกขาสหคตัง ญาณสัมปยุตตัง อสังขาริกัง-
    จิตมหากุศลดวงที่๕ เกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ญาณสัมปยุตตัง สสังขาริกัง-
    จิตมหากุศลดวงที่๖ เกิดพร้อมความเฉยประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยมีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ญาณวิปปยุตตัง อสังขาริกัง-
    จิตมหากุศลดวงที่๗เกิดพร้อมความเฉยไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสิ่งชักชวน
    -อุเบกขาสหคตัง ญาณวิปปยุตตัง สสังขาริกัง-
    จิตมหากุศลดวงที่๘ เกิดพร้อมความเฉยไม่ประกอบด้วยปัญญา เกิดขึ้นเองโดยมีสิ่งชักชวน

    ตรวจสอบกันดูนะคะว่าอุเบกขาแบบไหนกันแน่ที่เจอกันอยู่
    และอุเบกขาเพื่อการบรรลุธรรมมีดวงเดียวเท่านั้นคือจิตมหากุศลดวงที่๕
     
  17. อินทัช

    อินทัช สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +4
    ไม่มีผู้ใดรู้อารมณ์พระอรหันต์ได้ทั้งหมด
    ทุกสิ่งที่เรียนรู้ล้วนเกิดจากบัญญัติ
    ที่นักปริยัติทั้งหลายล้วนแตกฉาน
    แต่จะมีผู้ใดเข้าถึงเล่า
    ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ ปฏิบัติด้วยตนเอง
    เพราะทุกสิ่งล้วนรู้ได้ด้วยตนเอง
     
  18. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    อนุโมทนา ขอให้ทุกท่านปฏิบัติดีได้สมาธิและฌานโดยเร็วเพื่อเป็นกำลังของพระพุทธศาสนาครับ


    .
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  20. nuaiswat

    nuaiswat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +248
    การทรงอารมณ์ได้เป็นกลางโดยไ่ม่โอนเอียงไปในทางที่ชั่วตลอดเวลานั้น ท่านเรียกคนเหล่านั้นว่าผู้ทรงฌานครับ ซึ่งตามความรู้สึกของคนที่ยังไม่ได้อย่างผมก็ถือว่ายากมากที่จะทรงจิตใจให้อยู่ หรือคิดแต่ในเรื่องดีๆ โดยไม่วอกแวกเลย เพราะว่าสังเกตุตัวเองบ่อยครั้ง เผลอไม่ได้แทรกมาตลอดเลย ขนาดตอนที่คิดถึงพระท่านยัแทรกมาจะให้เราปรามาสซะงั้น เพราะฉะนั้นการทรงฌานนั้นทำได้ แต่ยากมาก(สำหรับผม) ก็อย่างที่พี่ๆท่านอื่นได้กล่าวไปครับผมว่าเรื่องเหล่านี้คงไม่พ้นต้องพึ่งความอุสาหพยายามเป็นแน่แท้ ฝึกบ่อยๆฝึกใจให้ชินกับการคิดดีทำดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้สอนว่า ชนะมากไม่ได้ก็ชนะน้อยๆ ชนะนานไม่ไ้ก็ชนะสั้นๆ แต่ต้องทำทุกวันอย่างน้อยต้องได้วันละหนึ่งครั้งแล้วค่อยๆชนะเพิ่มมากขึ้นๆๆ จนชนะอย่างเด็ดขาดที่สุด สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...