ช่วยให้คำปรึกษาทีครับ ผมแทบบ้าแล้ว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ukitake, 3 ตุลาคม 2011.

  1. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140
    ผมอดทนมาเป็นปีๆ อาม่าผม(ย่า)พ่อผมเอามาอยู่ที่บ้านเป็นปีแล้ว คือว่าอาม่าผมเนี่ย อยู่คนเดียวไม่ได้ ผมอาบนํ้าก็ตะโกนเรียก ผมเข้าห้องนํ้าก็ตะโกนเรียก แล้วก็ชอบดูถูกพ่อผม ว่า ตอนเด็กๆเรียนหนังสือไม่ได้เรื่อง สู้ ลูกคนอื่นของเค้าไม่ได้
    แล้วที่บ้านผมเลี้ยงหมาไว้2ตัว เวลาผมปล่อยมันออกจะบริเวญที่กักไว้อาม่าก็ชอบด่าผม แถมเวลาหมาเข้าไปใกล้ก็ชอบตี


    และที่ผมโกรธสุดๆอีก2ประการคือ 1.ชอบด่าแม่ผม
    2.เวลาผมสวดมนต์หาว่าผมบ้า


    ผมรู้ว่าไฟในไม่ควรนำออกแต่ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยมาขอคำปรึกษาจากพวกท่านครับ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เรื่องของผู้ใหญ่เราจะไปจัดการคงจะไม่เหมาะปล่อยให้พ่อกับแม่จัดการเถอะครับ
    ลองฝึกทำใจให้มากสิครับ คนเราจะเปลี่ยนให้สิ่งต่างๆ มันเป็นดังใจไม่ได้หรอก
    ครับ ปรับใจยอมรับมันง่ายกว่ามาก ลองคิดดูสิครับถึงไม่มีเรื่องพวกนี้เราก็ยังทุกข์
    อยู่ดี คนทุกคนเหละครับคิดว่าความทุกข์ของตัวเองเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส
    ไม่มี
    ใครที่จะไม่ทุกข์ คนรวยทุกข์แบบคนรวย คนจนทุกข์แบบคนจน คนฉลาดทุกข์
    แบบคนฉลาด คนโง่ทุกข์แบบคนโง่ แม้แต่เจ้าชายสิทธัตถะมีพร้อมทุกอย่างก็ยัง
    ทุกข์เลย เห็นไหมครับถึงเราจะได้ทุกอย่างที่เราอยากได้มันก็ยังทุกข์อยู่ดี
    เพราะ
    ใจมันหาเรื่องทุกข์ ถ้าเราไม่คาดหวังกับมันเราจะไม่ทุกข์นะครับ ลอกบอกคุณย่าดู
    ก็ได้ครับว่าไม่ชอบ แต่อย่าคาดหวังกับผลลัพธ์มากเกินไป
     
  3. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เคยได้ยินคำสอนที่ว่า "พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ" มั้ยครับ เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย แต่ทำยากมาก

    กรณีของอาม่าคุณก็เหมือนกัน ถ้าจะอธิบายในแง่ของการเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็พอจะได้อยู่หรอก แต่มันก็คงไม่เป็นการแก้ไขปัญหา

    ขอให้ทำอย่างนี้ครับ คือ
    1 ต้องอดทน ทำหูทวนลมเสีย ถือว่าถ้านี่เป็นกรรมเก่า ก็ขอให้ชดใช้ให้หมดในชาตินี้ เราไม่ถือโทษโกรธเคืองอาม่า เราขออโหสิกรรมกับอาม่า
    2 แผ่เมตตา ผู้รู้ท่านเคยสอนผมว่า "จงแผ่เมตตาทุกลมหายใจ" ขอให้คุณนึกถึงหน้าอาม่าคุณ แล้วก็นึกตอนหายใจเข้าว่า "จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย" ตอนหายใจออก ก็นึกแบบเดียวกันว่า "จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย" ยิ่งคุณทำได้มาก ใจคุณก็จะเย็นและสงบ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ ใจคุณก็จะร้อนอยู่อย่างนี้แหละ

    พึงสังวรณ์ไว้ว่า สุดท้ายแล้ว ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน !
     
  4. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    แบบทดสอบขันติ
    แบบทดสอบศรัทธา
    แบบทดสอบความยึดมั่นถือมั่น
    บุคคลผู้ปรารถนาทางแห่งความพ้นทุกข์จักต้องพานพบทุกคน
    ผ่านได้เราก็สามารถยกระดับจิตใจเราให้สูงขึ้นได้ ก้าวไปในเส้นทางที่พระพุทธองค์ทรงบอกทางไว้
     
  5. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    เป็นสิ่งที่สร้างความอดทน และบารมี พึงจำไว้ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    กัมมุนา วัตตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  7. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    1.แผ่เมตตาไปให้อาม่าเขาบ่อยๆจิ

    2.ความอดทนได้ ตถาคตถือว่าเป็นตบะ

    3.ช่วยสนใจอ่านข้างล่างนี่ได้ไหมครับ
    จากพระบ้า สู่แดนอรหันต์

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:250px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:300px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:250px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:300px"></ins></ins>
    ประวัติ
    พระอรหันต์จี้กง นามเดิมว่า ซิวอ้วง แซ่ลี้ เป็นชาวเมืองเทียนไถ ได้บวชอยู่ที่ วัดเล่งอุ้ง ตำบลโซโอ้ว เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับฉายาว่า “เต้าจี้”ชาวบ้านขนานนามว่าพระสติเฟื่อง(จี้เตียง) พระจี้กงมองว่าการปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ ของคนในสมัยก่อนเป็นเพียงแต่การรักษาศีลทางกาย แต่มิได้รักษาศีลทางใจ ไม่ได้เข้าใจ และรู้ซึ้งถึงแก่นพระธรรมขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง พระจี้กงมีความเห็นว่า อาหารก็เป็นเพียงแค่อาหาร ที่มนุษย์ทุกคนสามารถรับประทานได้ เพราะการรับประทานอาหารไม่ได้ทำให้คนเราเป็นบาป แต่จิตใจต่างหากที่จะทำให้คนเรานั้นเป็นบาป ท่านจึงเป็นนักบวชที่ปฏิบัติตนตามสบาย แรกๆชาวบ้านก็เห็นว่าพระรูปนี้แปลกๆ ไม่ค่อยจะเคร่งครัดในพระธรรมวินัยนัก แต่ท่านก็ได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ทุกข์ยากอยู่เสมอ ด้วยความเมตตาและบำบัดทุกข์ของมนุษย์ที่เดือดร้อน ในที่สุดก็ทำให้ท่านได้บรรลุธรรมจนสำเร็จพระอรหันต์ ท่านได้ละสังขารจากโลกในสมัยพระจักรพรรดิ์เกียเตีย อัฐิของท่านถูกบรรจุใน เจดีย์เสือผ่าน



    คุณธรรมพิเศษ

    ตลอดพระชนม์ชีพของท่าน ได้ช่วยเหลือและอบรมชาวบ้านโดยวิธีการเสแสร้งต่างๆ กันมาตลอด โดยไม่มีอุปสรรค ตัวท่านเป็นพระภิกษุ มีจิตที่เป็นมหาโพธิสัตว์ ท่านมีแต่จีวรขาดๆ รองเท้าขาดๆ หนึ่งคู่ โดยไม่สนใจว่ามันจะเปื้อนโคลนหรือไม่ มือก็ถือพัดเล่มหนึ่ง ไม่กลัวทั้งที่ต่ำและที่สูง ศีรษะโล้น เท้าเปลือยเปล่า ไม่หนาวไม่ร้อน ไม่ต้องบิณฑบาตเพราะไม่หิวไม่กระหาย พบใครก็เอาแต่อมยิ้ม เพื่อจะได้แผ่บุญ ไม่หลบสังคม พบเสียงทุกข์ก็เข้าช่วยเหลือ ท่านมีจิตเมตตาไม่ถือสา การปรากฏตนของท่าน เอาแน่เอานอนไม่ได้ กิริยาล้วนเป็นปริศนาธรรม ธรรมะของท่านเป็นที่กล่าวขาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระอาจารย์ทางพระกัมมัฏฐาน แม้ท่านจะละสังขารจากโลกนี้ไปแล้วแต่ธรรมะท่าน ยังมีประโยชน์ต่อมวลมนุษย์เสมอมา ดังนั้น จึงได้สมัญญาว่า เป็นพระพุทธที่ยังมีชีวิตอยู่



    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

    พระอรหันต์จี้กงได้บรรลุธรรม 3 ประการ คือ
    “สรรพสิ่งเกิดจากจิต”
    “รักษาศีลทางจิตไม่ถือศีลทางปาก”
    “ปฏิบัติตนตามสบาย”


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.phuketvariety.com/buddhism/jeekong/index.htm



    คำสอนของอรหันต์จี้กง

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    1. ชีวิตย่อมเป็นไปตามวิถีแห่งกรรมที่ลิขิต (ละชั่วทำดี) วอนขออะไร
    2. วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้ กลุ้มเรื่องอะไร
    3.เคารพพระพุทธเจ้าไม่เคารพพ่อแม่ เคารพเรื่องอะไร
    4. พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา ทะเลาะกันทำไม
    5. ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต ห่วงใยทำไม
    6. ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ ร้อนใจทำไม
    7. ชีวิตใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย ทุกข์ใจทำไม
    8. ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้ อวดโก้ทำไม
    9. อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร อร่อยไปใย
    10. ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ ขี้เหนียวทำไม
    11. ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง โกงกันทำไม
    12. โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย โลภมากทำไม
    13. สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียง 3 ฟุต ข่มเหงกันทำไม
    14. ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน หยิ่งผยองทำไม
    15. ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต อิจฉากันทำไม
    16. ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ แค้นใจทำไม(บำเพ็ญไวๆ)
    17. นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ เล่นการพนันทำไม
    18. ครองเรือนด้วยการประหยัดดีกว่าไปพึ่งผู้อื่น สุรุ่ยสุร่ายทำไม
    19. จองเวรจองกรรมเมื่อไหร่จะจบสิ้น อาฆาตทำไม
    20. ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก คิดลึกทำไม
    21. ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้ รู้มากทำไม
    22. พูดเท็จทอนบุญจนบุญหมด โกหกทำไม
    23. ดีชั่วย่อมรู้กันในที่สุด โต้เถียงทำไม
    24. ใครจะป้องกันมิให้เกิดเรื่องได้ตลอด หัวเราะเยาะกันทำไม
    25. ฮวงซุ้ยดีอยู่ในจิตไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา แสวงหาทำไม
    26. ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ ถามโหรเรื่องอะไร
    27. ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

    edit @ 1 Apr 2008 22:11:09 by DhammaWorld

    จากกระทู้นี้


     
  8. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    อันนี้ต้องยอมรับว่าหากไม่ประสบกับกับตนเองย่อมไม่ทราบถึงหัวใจของเจ้าของกระทู้ ผู้เขียนเคยพบกับเรื่องทำนองนี้มาบ้างเหมือนกันกับตนเองและเพื่อนสนิทท่านหนึ่ง รู้ว่าไม่ควรโกรธแต่ทำไงได้มันโกรธไปแล้วและก็สะสมมากขึ้นทุกวันๆ

    ลองถามตัวเองก่อนนะคะว่าเมื่อเราโกรธคุณย่าแล้ว เราคิดจะทำอย่างไรกับเขาต่อไป เราแค่คิดจะเถียง หรือคิดจะทำอย่างอื่น ? แล้วเราพร้อมจะทำอย่างนั้นจริงๆหรือ ? ถามดูในใจตนเองให้รู้แน่ไปเลยว่าความโกรธที่เรามีอยู่นี้ขณะอยู่ระดับไหน ?

    หากเราคิดจะเถียง ให้ถามตนเองว่าจะเถียงว่าอะไร ? สิ่งที่จะเถียงเป็นความจริงเท็จแค่ไหน ? และคุณย่าจะยอมรับหรือไม่ ? หากไม่ยอมรับตนเองคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ?

    แล้วเราจึงค่อยๆพิจารณาต่อไปว่าควรทำอย่างไร
     
  9. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    คนแก่ก็อย่างนี้แหละครับ ยิ่งคนจีนด้วยแล้ว ยิ่งแล้วใหญ่ คุณโดนแค่อาม่า ผมโดนทั้ง ก๋ง ม่า ซิ่ม แล้วก็แปะ (มีแค่ เจ็ก เท่านั้นแหละที่พูดดี และทำดีกับผม) คนอื่นๆด่าผม ว่าผมสารพัด เวลาเขามีวันรวมญาติ (เชงเม้ง , ศาสตร์จีน) ก็จะมีวงเหล้า , วงไพ่ (แต่เล่น และกินเฉพาะหมู่ญาติๆ) แล้วก็ดันชอบคุยเรื่องของคนที่ตายไปแ้ล้ว (มีแปะของผมคนนึงตายไป แกเป็นลูกคนโตของก๋ง) พอคุยถึงเรื่องเก่าๆ ก็ชอบร้องไห้กัน แต่ผมเป็นคนธรรมะ คิดว่า "คนตายไม่อาจฟื้นคืน ร้องไห้ไปมีแต่จะเป็นทุกข์ ยังไม่มีประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ เขาก็หาว่าผมไม่เอาญาติ หลุดโลก ...สิ่งที่ทำให้ผมทนได้คือ "ถือซะว่านั่นน่ะ...คนแก่" จะเอาอะไรกับพวกแกมาก อยู่ของเราไปแบบมึนๆ ทำในสิ่งที่ชอบและไม่เบียดเบียนใคร พอเรามีครอบครัว เราก็ต้องออกมาจากพวกเขาเอง และผมก็ออกมาจากพวกเขา 2-3 ปีแล้ว เพราะต้องไปอยู่กับครอบครัวใหม่ มีแต่หม่าม๊าเท่านั้นที่ไปอยู่ด้วย นานๆทีจะกลับไปหาญาติๆ ก็เรียกได้ว่าเบาหูไปเยอะ ท่านผู้ถามก็เช่นกันครับ อย่าไปถือสาแกเลย คนแกขี้บ่น มันเป็นเรื่องธรรมดา ไว้คุณแก่มั่ง ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้นะครับ ระวังกรรมตามทันนะ รังเกลียดคนแก่ เดี๋ยวตอนแก่เจอลูกหลานรังเกลียดมั่ง จะพูดไม่ออกนะจ๊ะ ^^
     
  10. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  11. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140

    ขอบคุณที่เตือนผมครับท่าน

    แต่ทว่าชาติผมคงไม่มีลูก-ภรรยา หรอกครับ ปลงแล้ว แห้วมาหลายครั้งไม่คิดจะรักใครอีกแล้วครับ^^
     
  12. บริสุทธ์

    บริสุทธ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +4
    ทำอย่างนี้ซิยิ้มอย่างเดียว และก็พูดเพราะๆกับอาม่าคุณ คนเราโดยธรรมชาติชอบให้พูดเพราะๆ คนแก่ไม่ว่าเชื้อชาติอะไรเหมือนกันหมดค่ะ เราศึกษาธรรมะต้องเอามาใช้ในชีวิต ฝึกตัวคุณก่อนเน้นที่อารมณ์ให้เย็นๆเข้าไว้ แล้วก็พูดดีกับท่าน เช่น สุนัขคุณก็อธิบายว่าเขาคือสัตว์ เราต้องปล่อยวาง มันพูดไม่ได้อย่างมนุษย์ทั่วไป
     
  13. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    คนแก่ครับ หญิงผู้หญิงแก่ ที่ไม่ได้มีการอบรมมาตั้งแต่เด็ก ก็เป็นงี้แหละครับ อย่าคิดมาก เป็นซะส่วนใหญ่ ยกเว้นย่าผม เพราะนั่นต้องลำบากตั้งแต่สาวๆ สามีก็ตายไปตั้งแต่ตนอายุไม่ถึง 30 แต่ตอนนี้ท่านเสียไปแล้วล่ะครับ อย่าคิดมาก ยายผมก็เป็นแบบนี้แหละ

    ปัญหาคือ มีเรากับพ่อแม่แค่ 3 คน บวก อาม่าอีกคน ทำให้เรารู้สึกว่าความกดดันมันตกอยู่ที่เรา เราเลยอึดอัดใจ ลองบ้านคุณมีสัก 5 -6 คนสิครับ คนจะปล่อยวางได้
     
  14. yummysushi

    yummysushi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +6
    วันนี้ ขอเป็นศิราณีอีักสักกระทู้
    เรามีอาม่าขี้บ่นเหมือนกัน แล้วก็มีอีกหลายๆอย่างเหมือนคุณ "คนสู้กรรม" เลย
    ฝั่งเตี่ยเรา เค้าไม่ชอบที่เตี่ยแต่งงานกับแม่ที่เป็นคนไทย แม่ลำบากมากตั้งแต่สาวๆ เรียกว่า แต่งงานเข้าไป โดนทั้งโขกทั้งสับ ใช้งานเหมือนทาส
    แม่เล่าว่า เช้าต้องตื่นแต่เช้าทำงานบ้าน ซักผ้าด้วยมือ ไม่รู้กี่กะละมัง เพราะซักให้ทุกบ้าน เค้าปลูกละแวกเดียวกันหมด ทั้งบ้านอาม่า กับพี่น้องเตี่ย ไหนจะต้องเลี้ยงหมู อีกหลายเล้า ตอนดึก ก็ต้องทอผ้า จนดึกดื่น แม่ทำงานเก็บเงิน เป็นทองบ้าง เล่นแชร์บ้าง จนตอนหลัง บ้านแถวนั้นไฟไหม้ จึงได้ให้เตี่ยแยกครอบครัวออกมา
    แม่เราลำบากขนาดไหนรู้ไหม ขนาดที่ว่า น้องสาวคนที่ห้าของเตี่ย กับพี่น้องจะมารุมตบแม่เรา แม่เราเลยต้องสู้ ตบกลับจนเค้าฟันกรามกระเด็นเลย ตกตอนเย็นเตี่ยกลับมา เค้าไปรุมฟ้องเตี่ยให้มาเอาเรื่องแม่เรา แม่เราเลยบอกว่า ถ้าจะมาตีแม่เรา แม่ไม่ยอม เตี่ยไม่กล้าตีค่ะ ญาติฝั่่งเตี่ยร้ายมาก เคยจับพี่ชายเรากดน้ำด้วย โชคดีไม่ตาย เคยผลักลงกองไฟให้ไฟคลอกด้วย คุณคิดดูว่า เค้าโหดร้ายขนาดไหน
    เล่าข้ามช็อตหน่อยนะ ไม่งั้นยาว
    ตอนหลัง อาม่า (ย่า) เค้าแก่ตัวแล้ว พวกลูกๆหลานๆฝั่งเตี่ย บอกให้แบ่งสมบัติ เค้าแบ่งกันหมด ไม่มีให้แม่ ให้เตี่ย แม่ไม่เคยสนใจ แต่ช่วงสุดท้ายของชีวิตแก แกเป็นเบาหวานหนัก ลูกๆหลานๆไม่มีใครเอาแกเลย เตี่ยเลยไปรับมาดูแล แม่เราต้องทำแผลเบาหวานให้ ดูแลทุกอย่าง ก่อนตาย แกเรียกแม่บอกว่า แกขอโทษ ไม่คิดเลยว่าลูกสะใภ้ฮวงนั้ง (คนไทย) คนนี้ จะเป็นคนดีอย่างนี้ แกมองข้ามมาตลอด แกไม่มีอะไรจะให้ ยกเว้นกำไลหยก สมบัติติดตัวชิ้นสุดท้ายที่แกรักและใส่มาตลอดชีวิต ถอดให้แม่เราเลย
    คุณเจ้าของกระทู้ ควรให้ความรักความเมตตากับอาม่าคุณนะ เราว่าเค้าน่าสงสาร บางคนเค้าอยู่จนอายุมาก แต่บางทีเหมือนไม่ได้เรียนรู้อะไรมากในชีวิตนึง อย่างเช่น คุณสวดมนต์ก็ด่า อย่างนี้ เป็นต้น
    คุณคงต้องอดทนให้มาก ทำดีกับท่านเข้าไว้ ให้ท่านเห็นว่า คุณรักและเคารพท่านนะ คนเราพอได้รับความรักความอบอุ่น เราเชื่อว่า เค้าคงอ่อนโยนลง จากนั้น คุณค่อยๆพูดค่อยๆสอนสิ่งดีดีให้ท่าน ใช้คำว่า แนะนำดีกว่านะ เช่น ลองพูดเรื่องการทำบุญ การสวดมนต์ ธรรมะง่ายๆอะไรแบบนี้ค่ะ พาแกไปทำบุญทำทานบ้าง บางทีแกอาจจะดีขึ้นนะ แล้วที่สำคัญ เราว่าเป็นการตอบแทนบุพการีของคุณพ่อด้วย โดยการให้ธรรมะแก่ท่านตามโอกาสค่ะ เราว่า ดีกว่า ซื้อของฟุ่มเฟือยหรืออะไรๆให้อีกนะ

    หลายๆความคิดเห็นของเพื่อนๆก็มีประโยชน์ดีนะคะ ลองเปลี่ยนมุมมองของเราใหม่ มองโลกในแง่ดี แล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น
    ขอให้โชคดีและเจริญในธรรมค่ะ

    ป.ล. เดี๋ยวนี้ญาติฝั่งเตี่ย หันมาทำดีกับแม่เรา และพี่ๆน้องๆบ้านเรากันหมดเลย เวลาผ่านไปหลายสิบปี แต่ละคนแก่ตัวลง ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตมากขึ้นค่ะ อ้อ เกือบลืมบอก แม่เราเพิ่งเสียไป เราดูแลท่านที่โรงพยาบาลเกือบสามเดือน ต้องเช็ดอึ เช็ดตัว ทำความสะอาดให้แกทุกอย่าง เพราะแกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เราเชื่อว่า ที่แม่เรา ได้ลูกๆที่ดี กตัญญู เพราะแกทำบุญ ช่วยเหลือดูแลคนอื่นไว้เยอะ โดยเฉพาะคนแก่ ไม่เฉพาะอาม่าเราเอง แม่เราเค้าเป็นคนมีเมตตามาก เราโชคดี ที่ได้มีโอกาสให้ธรรมะแม่ก่อนแกจากไปด้วย เราสวดมนต์ให้ฟัง เตือนแกให้มีสติก่อนตายและแกก็จากไปอย่างสงบค่ะ

    ช่วงงานศพแม่ ศาลาสวดศพข้างๆ พี่น้องทะเลาะกันใหญ่ แย่งสมบัติกัน เฮ้อ เห็นแล้วอนาถใจจังเลย อยากเห็นทุกคนรักกัน เมตตากันให้มากๆ โลกนี้ คงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 ตุลาคม 2011
  15. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,669
    ค่าพลัง:
    +3,460
    ลดการเพ่งโทษของผู้อื่นลงนะครับ
    อาม่าคืออาม่า อยากพูด อยากทำอะไรก็เรื่ิองของอาม่า
    ไม่เกี่ยวกับคุณแม้แต่น้อย กรรมของใครของมัน
    สิ่งที่ทำได้คือ อภัยทาน ให้อภัยท่านเสียเถิด
    เป็นทานที่ทำได้ยาก แต่คุณทำได้
     
  16. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    อันบ่วงกรรมทำไว้ในปางหลัง เป็นเครื่องยังปางนี้จึงมีผล หว่านพืชดีผลดีมีแก่ตน หว่านพืชชั่วกลั้วผลที่ข้นแค้น อันความจริงข้อนี้มีมาแล้ว ไม่คลาดแคล้วเป็นอื่นทั้งหมื่นแสน จะเปลี่ยนชั่งให้ดีมีมาแทน ถึงแม้นมอดม้วยมิเปลี่ยนได้เอย
     
  17. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    อย่าหาว่าแช่งนะ อาม่าคุณก้อมีชิวิตอยู่อีกไม่นาน ทนได้ก้อทนไปก่อน
    ฟังคุณระบายมา ไม่ได้ครึ่งของเราเลย ของเรายิ่งกว่าจะบ้าด้วยซ้ำ ไม่ใช่อาม่าหรอก แต่เป็นพี่ชายขี้เมา จอมโวยวาย คอยสูบเลือดสูบเนื้อเรา มาอยู่กับเรา ไม่มีลูกมีเมีย
    รบกวนเราตลอด ไม่ว่าจะไปช่วยประกันตัวออกมาเวลามีเรื่องกับใคร กินอยู่ก้อเรา มาดึกๆ เอะอะโวยวาย เวลาแม่พี่น้องพูดอะไรนอกจากไม่ฟัง ยังด่าเจ็บๆมาอีก
    แต่ทีกับเพื่อน อะไรก้อได้ทั้งนั้น อายุยังไม่มาก ยังมีเวลาให้เราบ้าอีกเยอะเลย..เฮ้ออ...!!!

    ยัง..ยังมีอีกคน อยู่ติดกับบ้านเราเอง พี่เขยจอมขี้เกียจ ไม่ค่อยทำงานทำการ ตื่นสาย บ้าไก่บ้านก ทำแต่บาป ไม่พอใจหมา ก้อทุบหัวมันตาย กับนกกับไก่ก้อเหมือนกัน
    เพิ่งไม่กี่วันมานี้เอง เราทนไม่ไหว กำหมัดไปที่บ้าน ไปคุยกัน ทำกับพี่สาวเราถึงขั้นตบหัว ตาฟกช้ำ หัวโน ปากแตก ต้องพาไปแสกนสมอง

    พี่สาวเค้าไม่เอาด้วยแล้วนะ ยืนยันอยากเลิก แต่เจ้าพี่เขย** ไม่สน หน้าด้าน นอนอยู่ที่บ้านทั้งวันทั้งคืน ไม่ไปไหนเลย เมียต้องขนข้าวขนของกับลูกมาอยู่กับเราอีก ทั้งที่บ้าน เป็นที่บ้านของพ่อแม่เรา เงินที่กินที่ใช้อยู่ ก้อพี่สาวหาเองทั้งนั้น ทำงานหนักสารพัด แต่เค้าไม่เคยแตะอะไรเลย เราเองทนมองไม่ไหว มันจะบ้าอยู่แล้ว!!!!

    หวังว่าคุณคงหายบ้าแล้วนะ..
     
  18. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    คนแก่มักเลอะเลือนครับ พาอาม่าคุณไปตรวจสุขภาพจิตด้วยก็จะดีนะครับ
    อีกอย่าง พยายามชักนำอาม่าคุณให้เคารพในคุณงามความดีด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อบายเป็นที่หวังครับ
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    มัน คือ ชีวิตของคุณ story ของคุณ เรื่องราว ที่คุณ จะมีแบบเดียวในรูปกายหน้าตา ฐานะ นามสกุล ครอบครัว ของคุณ..............คุณค่าของสิ่งเหล่านี้คือ อะไร? แท้จริง คือ คาแรคเตอร์ที่จะไม่เหมือน แตกต่างจากของคนอื่น นั่นคือ สมบัติที่คุณมี...สิ่งนี้ มีให้คุณเรียนรู้ ฝึกฝน มีทั้งการให้ และ รับ...จงให้คุณค่ากับสิ่งที่มีค่าต่อคุณโดยตรง เพราะ คุณค่าเหล่านี้จะให้คุณคนเดียวในโลกนี้ในฐานะของสมาชิกของตระกูล หรือ ศักดิ์ศรี ของมนุษย์.....ทำมันให้ดีที่สุด ให้สมกับที่คุณมีโอกาส อย่าเอาแต่ความสบาย ความสุข ที่เราคิดง่ายง่าย ทำให้ดีที่สุดในฐานะมนุษย์ที่มีคุณค่า...เพราะในชีวิตคุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียว อาม่า ก็มี คนเดียว:cool:
     
  20. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ผมว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่หาได้ยากนะครับ

    ลองฝึกทรงฌาน ดูสิครับ แม้จะมีคนมาด่าอยู่ข้างหูก็ไม่ได้ยิน

    ปล่อยแกตะโกนแหกปากไปเถอะครับ มันเป็นกรรมเก่าของแก

    ถ้าเราทรงฌานซะอย่าง ก็ไม่เดือดร้อนอะไร สบายๆ หรือไม่ก็ไปเดินห้างฯ ตากแอร์เย็นๆ ดูอะไรที่มันเจริญหูเจริญตา ดีกว่านะครับ เหอะๆ ๆ ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...