ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จับตามุสลิมเขมรแห่ลง 3 จังหวัดภาคใต้ พบมากกว่า 1,500 คน

    [​IMG]

    ทหารพรานสระแก้วพบพิรุธมุสลิมเขมรไม่กลัวตาย แห่ทะลักลง 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย เผยตั้งแต่ต้นปีมีลงไปแล้วกว่า1,500 คน ไม่พบประวัติเดินทางกลับ ทั้งที่พาสปอร์ตอยู่ได้ 1 เดือน นอกจากนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุร้ายกับกลุ่มคนเหล่านี้..

    เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 13 พ.ค.53 ขณะ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1206 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 132 กองกำลังบูรพา(ผบ.ร้อย ทพ.1206ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา) นำกำลังตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดบริเวณจุดตรวจหน้ากองร้อยทหารพรานคลองลึก หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบกลุ่มชาวเขมรมุสลิมจำนวนมาก เดินทางผ่านด่าน พรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในฝั่งไทย จึงเรียกตรวจ

    ตรวจสอบทราบว่าเป็นชาวเขมรที่นับถือศาสนาอิสลาม (เขมรมุสลิม) จำนวน 41 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 18 คน เด็กชาย 2 คน และเด็กหญิง 1คน เดินทางมาจาก จ.กัมปงจาม ประเทศกัมพูชา โดยทั้งหมดมีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง เมื่อสอบถามอ้างว่าจะเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ ชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

    อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตพบว่าพาสปอร์ตที่ชาวเขมรมุสลิมนำมาแสดง เป็นพาสปอร์ตใหม่เดินทางมาครั้งแรกทุกคน อีกทั้งจะเดินทางไปยังชายแดนภาคใต้ของไทยซึ่งยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบอยู่ โดยไม่มีความหวาดกลัวใดๆ จึงตัวมาตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ซึ่งจากการตรวจค้นภายในกระเป๋าเสื้อผ้าพบแต่ละคนมีการลักลอบนำยารักษาโรค ชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นยาปฏิชีวนะ และครีมลอกผิว ซึ่งเป็นของต้องห้ามนำเข้า จึงตรวจยึดไว้ จากนั้นได้ทำการบัณทึกภาพและทำประวัติไว้ ก่อนจะอนุญาตให้เดินทางต่อไป


    ที่มา จับตามุสลิมเขมร แห่ลง3จ.ใต้ พบกว่า1.5พันคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kamair.jpg
      kamair.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      2,290
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2011
  2. pisi

    pisi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +244
    ข้อมูลย้อนหลัง ตามหลักโหราศาสตร์จีน ในวันที่เกิดสึนามิถล่มเอเชีย

    วันที่ 26 ธันวาคม 2547 (8.00-9.00น.)

    เวลา วัน เดือน ปี

    ดิน ดิน ไฟ ไม้
    ดิน ไม้ น้ำ ทอง

    (มะโรง) (เถาะ) (ชวด) (วอก)

    ตามหลักโหราศาสตร์จีน เมื่อ มะโรง ชวด วอก รวมตัวเป็นไตรภาคีธาตุน้ำ จะทำให้พลังของธาตุน้ำ รุนแรงขึ้น และปีที่เป็นธาตุไม้ ทอง และ วันที่เป็นธาตุไม้(เถาะ) บั่นทอนกำลังของธาตุดิน ทำให้ธาตุดินอ่อนกำลังลง และ ไม่มั่นคงอย่างมาก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหว และ เกิดภัยธรรมชาติจากทางน้ำได้
     
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ที่บอก ปี 2012 รึ 2555 ภัยดินน่าจะแรง เพราะ ปี 2554 ไทยแลนด์น้ำท่วมใหญ่ แม้กระทั่งในกรุง อย่างที่ไม่เคยเจอะเจอ มาหลายสิบปี

    ต่อจากน้ำท่วมขังนานๆ ก็ ค่อนข้างแน่นอน ภัยดิน เพราะอะไร ก็เพราะมวล หรือเนื้อดิน พอมันแช่น้ำนานๆ มันก็เปื่อยยุ่ย การเกาะตัวก็แย่ลง ดินเลยเลื่อน ไหล ตลิ่งทรุด ตลิ่งยุบ

    ซึ่งก็จริง ตอนนี้ถ้าติดตามข่าว ทางภาคกลาง แถวอยุธยา อ่างทอง ดินยุบ ตลิ่งพัง

    ส่วนเรื่องแผ่นดินไหว ก็ดูเอา ตอนนี้มีการไหวเล็กๆ บ้าง กลางๆ (แต่ลึกลงไปในดินเยอะ หลักสิบกิโล) เกิดขึ้นหลายที่ทั่วโลก

    ยิ่งแถวพม่า ยิ่งไหวถี่ ก็มีแนวโน้มเชื่อมต่อมาถึงทางเหนือของไทย ซึ่งมีรอยเลื่อนแผ่นดินไหวเยอะแยะอยู่แล้วตรงนั้น

    เขื่อนจะแตกรึไม่แตก ก็อย่างที่บอกว่า ช่วงที่ผ่านมา จนถึงช่วงนี้ (ธค. 54) แผ่นดินไหวบ่อย เช่น แถวพม่า ซึ่งมีแนวร่องเชื่อมต่อกับภาคเหนือ และภาคตะวันตกของไทย

    บังเอิญว่า ทั้ง 2 ภาค มีรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ที่ยังขับเคลื่อนอยู่ รึเรียกกันว่า เป็นรอยเลื่อนมีพลัง อยู่หลายรอย

    กับที่บังเอิญเข้าไปอีก คือ มีเขื่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทั้ง 2 ภาค และบางเขื่อน สร้างทับอยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว

    โอกาสที่เขื่อนจะชำรุด อาจเป็นได้ ถ้ามีแผ่นดินไหวแรงกว่า 7 ริกเตอร์ เขย่านานๆ เป็นนาทีขึ้นไปแถวนั้น

    และโอกาสที่แผ่นดินจะไหวขนาดนั้น ตรงนั้น ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ก็ตอบเลยว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ยกเว้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    การใช้คำพูดว่า รับรอง ยืนยัน ฟันธง การันตี ไม่มีทางเด็ดขาด รึ เอาอยู่

    ถือว่า ประมาท

    ส่วนช่วงเวลาที่เขื่อนจะแตก การบอกกันโต้งๆ ชี้กันชัดๆ ว่าวันนั้นวันนี้ เวลานั้น วินาทีนี้ ทำไม่ได้

    เพราะอาจจะเป็นสิ้นปี 2012 ต่อเนื่องต้นปี 2013 รึอีก 200 ปีข้างหน้าก็ได้

    มันเป็นเรื่องการคลิกกันอย่างสอดคล้อง ของปัจจัยหลายอย่าง ที่บังเอิญมาสอดรับกันอย่างลงตัว พอดิบพอดี<!-- google_ad_section_end -->

    ที่เขียนมานี้ ไม่ได้เกิดจากมียาน (ญาณ) มีหย่อนอะไรทั้งนั้น แต่มาจากการติดตามข่าวสาร สถานการณ์บ้านเมืองจากสื่อต่างๆ แล้วมาต่อยอด คิด วิเคราะห์เอา

    ก็พบว่า อะไรๆ ในธรรมชาติ มันร้อยต่อกันเป็นลูกโซ่ เป็นเหตุ เป็นผลซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ซ่อนเงื่อน


    [​IMG]
     
  4. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    อีกเรื่อง คนเหนือโบราณ พูดไว้ว่า "น้ำปิง จะกลายเป็นสันดอย"

    คาดว่า หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์กายภาพ ครั้งใหญ่ ใน จ. เชียงใหม่ (จะเมื่อไหร่ ไม่รู้)

    สาเหตุอาจจะเกิดขึ้นจาก มีแผ่นดินไหวรุนแรง ระดับใกล้เคียงกับ ที่ทำให้เมืองโยนก (อยู่ในเชียงราย ปัจจุบัน) พังทลายกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ (เวียงหนองล่ม)

    ซึ่งพอความรู้สมัยใหม่เจริญ ทางธรณีวิทยา ก็เจอจริงๆ ว่า ทางเหนือของไทย ไล่มาตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ยันอุตรดิตถ์ มีรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ที่ยังขยับขับเคลื่อนอยู่ และมีมากกว่าภาคอื่นจริง

    หลายจังหวัด ที่อยู่ในเขตรอยเลื่อนพวกนี้ มีบ่อน้ำร้อนใต้ดิน รึไม่ก็มีน้ำพุร้อน แสดงถึงพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่ยังทำงานอยู่

    รอยพวกนี้ มันมาจากจีน แผ่มาที่พม่า แล้วลามมาถึงไทย

    [​IMG]


    13 รอยเลื่อนในประเทศไทย ประกอบด้วย
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    1. "รอยเลื่อนแม่จันและแม่อิง" ครอบคลุม พื้นที่ จ.เชียงรายและเชียงใหม่
    <O:p></O:p>
    2. "รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน" ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอน และตาก
    <O:p></O:p>
    3. "รอยเลื่อนเมย" ครอบคลุม จ.ตาก และกำแพงเพชร
    <O:p></O:p>
    4. "รอยเลื่อนแม่ทา" ครอบคลุมจ.เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย

    5. "รอยเลื่อนเถิน"ครอบคลุม จ.ลำปาง และแพร่

    6. "รอยเลื่อนพะเยา" ครอบคลุม จ. ลำปาง เชียงราย และพะเยา
    <O:p></O:p>
    7. "รอยเลื่อนปัว" ครอบคลุม จ.น่าน
    <O:p></O:p>
    8. "รอยเลื่อนอุตรดิตถ์" ครอบคลุม จ.อุตรดิตถ์
    <O:p></O:p>
    9. "รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และราชบุรี
    <O:p></O:p>
    10. "รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์" ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และอุทัยธานี

    11. "รอยเลื่อนท่าแขก"ครอบคลุม จ.หนองคาย และนครพนม
    <O:p></O:p>
    12. "รอยเลื่อนระนอง" ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ชุมพร ระนอง และพังงา

    13. "รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย" ครอบคลุม จ.สุราษฎร์ธานีกระบี่ และพังงา

    [​IMG]

    www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=32<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    บางข้อมูลที่ได้ยินมาบอกว่า น้ำจะมาจากใต้ดินด้วยนะครับ เป็นไปได้ว่าใต้ดินมันเป็นโพรงไปหมดแล้ว คิดๆดูแล้วกันว่าน้ำจำนวนมหาศาลจากเหนือมันจะซึมลงไปรอใต้ดินจำนวนเท่าไหร่ :)
     
  6. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ขอร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

    ถ้าน้ำจำนวนมากจะมาจากใต้ดิน
    พื้นดินด้านบนก็น่าจะชุ่มน้ำบ้าง
    แต่สถานการณ์ปัจจุบัน
    หลายพื้นที่เริ่มมีเค้าว่าจะประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว
    จึงสงสัยครับ
    ถ้าน้ำจะมาจากใต้ดิน
    พื้นที่เสี่ยง น่าจะเป็นพื้นที่ใด
    และมีปัจจัยด้านใดที่จะมากระทบ
    หรือมาทำให้เกิดภัยจากน้ำใต้ดินนั้นครับ

    ปล. ความคิดเห็นผม โพรงน้ำใต้ดินมีโอกาสเกิดที่ กทม. และใกล้เคียง
    ผลจะทำให้เกิดดินทรุด แผ่นดินยุบตัว ผลตามมาคือ....
     
  7. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    ผมก็หมายถึงแถวกทม.นี่แหละครับ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มังกรก็คือพญานาค พญานาคก็คือมังกร !!!

    [​IMG]

    ถาม : ถามเรื่องพญานาคเจ้าค่ะ พญานาคนี่ตัวตนจริงที่เขาแสดงให้เราเห็น กับรูปลักษณ์ที่เขาเปลี่ยนไป อันไหนเป็นตัวตนจริง ?

    ตอบ : เขาต้องการให้เห็นเป็นแบบใดก็ได้ พญานาคมี ๒ ประเภท ประเภทหนึ่ง คือเทวดาชั้นจาตุมหาราช จะเป็นบริวารของท้าววิรูปักษ์ ร่างที่แท้จริงของท่านก็คือเทวดา...สวยงามเป็นปกติ แต่เวลาทำงานจะแสดงออกในลักษณะของงูใหญ่ นั่นก็ถือว่าเป็นเครื่องแบบในการทำงานของท่าน

    แบบเดียวกัน ถ้าหากว่าเป็นลูกน้องของท้าวเวสสุวรรณปกติจะสวย แต่ถ้าหากออกไปทำงานก็จะแสดงออกในร่างของยักษ์ นั่นเป็นเครื่องแบบที่ท่านแต่งในเวลาทำงาน

    พญานาคที่เราพูดถึงส่วนใหญ่จะหมายถึง เดรัจฉานกึ่งทิพย์ที่มีความสามารถพิเศษ มีเขตอยู่เฉพาะของเขา แต่ถ้าหากเข้าไปในเขตนั้นเขาจะกลับร่างเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาผ่องใสสวยงาม แต่ว่าถ้าหากว่าออกนอกเขตของเขามา ถ้าตั้งใจให้คนเห็นก็จะแสดงออกในร่างของงูใหญ่ แต่ว่าขณะเดียวกัน เขาจะแสดงให้เห็นเป็นอะไรก็ได้

    พญานาคในความหมายของเราว่าเป็นงู แต่อยู่ ๆ อาจจะเป็นช้างมาทั้งตัวก็ได้ อาจจะเป็นคนเดินมาทั้งกลุ่มก็ได้ เดี่ยวก็ได้ แล้วแต่ว่าเขาตั้งใจให้เห็นเป็นอย่างไร นั่นเป็นฤทธิ์ที่เกิดจากกรรมวิบากของเขา ทำให้เขาสามารถทำได้ เรียกว่ากรรมวิปากะชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดจากวิบากกรรม

    ถาม :แล้วทำไมถึงเรียกว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานละครับ ?
    ตอบ :ก็เพราะยังอยู่ในภูมิของเดรัจฉาน แต่มีความเป็นทิพย์อยู่ ถ้าหากต้องการที่จะให้เราเห็นก็เห็นได้ เห็นในลักษณะไหนก็ได้

    ถาม : แต่ว่ากลับเข้าที่แล้วสภาพก็...?
    ตอบ : เขาจะคืนกลับเป็นร่างของคน แต่ว่าในลักษณะนั้นเขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนร่างเมื่อไรก็ได้ ลองไปดูไหม ?

    เมืองพญานาคต้องมีฝีมือดีหน่อย ไม่อย่างนั้นพอเข้าเขตก็ชักตายแล้ว เพราะว่าเขามีพิษเป็นปกติ ผ่านไปที่ไหนก็ตาม เขาจะทิ้งพิษเอาไว้ สภาพพิษของเขาร่างกายของเราทนไม่ได้ พิษบางอย่างร้ายแรงมาก เราเข้าไปในเขตนี่ ถ้าหากว่าเป็นร่างกายมนุษย์ธรรมดาจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปเลย เพราะมันร้อนและเผาไหม้ได้ขนาดนั้น

    ถาม : มังกรก็พวกเดียวกัน ?
    ตอบ : พวกเดียวกัน มังกรกับพญานาคก็พวกเดียวกัน แต่ว่าคนที่เห็นเป็นคนละเชื้อชาติกัน ในเมื่อคนละเชื้อชาติกัน สิ่งที่ยึดถือมาเดิม ๆ ลักษณะต้องเป็นอย่างนั้น ๆ ของเขาเอง พอถึงเวลาวาดให้คนอื่นเห็น ก็เลยออกไปคนละทิศคนละทางกัน แต่ว่าก็แบบเดียวกัน ก็คือเป็นงูใหญ่ที่มีฤทธิ์เหมือนกัน

    ถาม : เสวยอายุเท่าไรครับ ?
    ตอบ : อายุขัยเป็นอย่างไรแล้วแต่เขา ทำกรรมเอาไว้เยอะก็อยู่นานหน่อย ทำบุญเอาไว้เยอะก็อยู่สั้นหน่อย

    ถาม : ทำไมต้องนอนเยอะขนาดนั้นด้วยละครับ ?
    ตอบ : มีตัวเดียวที่ชอบนอน ส่วนใหญ่แล้วงูเวลาจำศีลก็จะมีลักษณะนั้นแหละ คือว่าจะจมอยู่กับห้วง...ใช้คำว่าฌานก็ได้นะ...ของเขาอยู่อย่างนั้น

    คราวนี้พญากาลนาคราชนี่ แหม...แสดงว่าฌานลึกมาก ได้ยินเสียงกริ๊กหนึ่งลืมตา อ้าว...พระพุทธเจ้าตรัสรู้อีกองค์แล้วหรือเพิ่งงีบได้ครู่เดียวเอง

    ถาม : ระหว่างที่หลับไปก็ไม่รู้สึกตัวอะไรเลยหรือครับ ?
    ตอบ : กำลังใจของเขาดำเนินอยู่ในสมาธิอยู่ หรือไม่ก็อาจจะหลับยาวก็ได้ แล้วแต่ว่าเขาจะรู้ไหม ถ้ากำลังสมาธิกำลังฌานของเขาสูงก็รู้ตัวอยู่ ถ้ากำลังต่ำหยาบไปหน่อยก็อาจจะไม่รู้ต้วก็ได้

    ถาม : ...(ไม่ชัด)...
    ตอบ :พญากาลนาคราชนี่ พระพุทธเจ้า ๔ องค์ผ่านไปแล้วเขารู้ตลอด รู้แค่ว่าตอนถาดลอยไปถึงหน้าถ้ำ อ้าว...มาองค์หนึ่งแล้ว ยังไม่ทันไรเลย หลับยังไม่ทันจะเต็มอิ่มเลย เอ้า ! อีกองค์หนึ่งแล้ว แหม...พ่อหลับได้ยาวจริง ๆ น่าอิจฉา

    ถาม :แล้วที่ทหารอเมริกาเขาจับได้นั่นไม่ใช่หรือครับ ?
    ตอบ :นั่นเป็นปลา ไม่ใช่พญานาค ปลาทะเลลึกมีลักษณะรูปกายยาว ๆ เหมือนกับงู คราวนี้บางอย่างอาจจะมีพิษของเขาอยู่ คนที่โดนไปตอนนั้นอาจจะยังไม่เป็นไร แต่ว่าพอพิษแทรกซึมเข้าไปถึงระดับหนึ่งก็อาจจะตายได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าหากบอกว่าคณะนั้นเขาตายด้วยอำนาจของพญานาค ก็ใช่นาคในแบบของเรา

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

    ที่มาhttp://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1601

    ลูกแก้วพญานาค

    [​IMG]

    แก้วมณีนาคราช หรือ "ลูกแก้วพญานาค" หรือบางตำราที่เรียกว่า "แก้วจันทรกาล" เป็นดวงแก้วประจำกายของพญานาค และเกิดขึ้นด้วยบุญญฤทธิ์ของพญานาคนั้นๆ การปรากฏของดวงแก้วประจำกาย มิได้เกิดขึ้นพร้อมการจุติแบบโอปปาติกะของพญานาค แต่จะบังเกิดขึ้นในวัยอันควร เมื่อถึงเวลาที่พญานาคนั้นโตเต็มที่ก็จะต้องไปจำศีลเข้าฌาณสมาบัติ เพื่อชำระกายใจให้บริสุทธิ์เตรียมรองรับการปรากฏของดวงแก้วมณีประจำกายแห่งตน คล้ายกับการปรากฏขึ้นของดวงแก้วมณีแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ

    ครั้นถึงคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ ผลของบุญกุศลที่เคยสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีตจะรวมตัวกัน ดลบันดาลให้ดวงแก้วมณีของพญานาคบังเกิดขึ้น ดวงแก้วมณีจะเปล่งประกายรัศมีสว่างไสวทั่วทั้งภพบาดาล และบันดาลให้เกิดทิพยสมบัติต่าง ๆ ขึ้นตามกำลังบุญของพญานาค หากเป็นพญานาคองค์นั้นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จะเกิดทิพยสมบัติมากมายกว่าพญานาคอื่นๆที่อยู่เดิม คล้ายการจุติของเทวดาเหล่าอื่นๆ พญานาคผู้เป็นเจ้าครองนครองค์เดิมจะต้องสละสมบัติ เพื่อให้ท่านผู้ที่มีบุญญาธิการมากกว่าเพื่อครองนครบาดาลแห่งนั้นสืบต่อไป

    การปกครองในภพบาดาลนั้นถือหลักบุญญาธิปไตย คือผู้มีบุญญาธิการมากกว่าปกครองผู้ที่มีบุญน้อยกว่า สำหรับอานุภาพของแก้วมณีพญานาค จะคล้ายกับดวงแก้วมณีซึ่งเป็น ๑ ในรัตนะทั้ง ๗ แห่งพระเจ้าจักรพรรดิ สามารถบันดาลข้าวปลาอาหารทิพย์ ทิพยวิมาน และทิพยสมบัติอื่น ๆ เช่นแก้ว แหวน เงิน ทองต่าง ๆ ตามกำลังบุญ ดวงแก้วมณีนาคราชจึงเป็นของที่รักและหวงแหนของพญานาคมากเนื่องจากเป็นเครื่องบันดาลเกิดทรัพย์อย่างอื่น เช่น อาหารทิพย์ ทิพย์วิมาน และทิพย์สมบัติต่างๆแก่พญานาค

    นอกจากนี้แก้วมณีนาคราชยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ใช้ในการจำศีล ทุกๆ ปี พญานาคที่เคยเกิดทันในสมัยพุทธกาลในวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กลับมาจากการโปรดพระพุทธมารดาในวันออกพรรษา และเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ พญานาคได้เห็นพุทธานุภาพนั้นก็จะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่พญานาครุ่นหลัง ให้ทำใจน้อมระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ระยะเวลาการถือศีลนั้นพญานาค จะนับตามวันเดือนเกิดและเดือนดับตามจันทรคติของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

    ที่มา http://www.payanak.com/newsandevent.asp-GID=7.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2011
  9. ธานะ

    ธานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +113
    อยากทราบว่าตามพุทธพยากรณ์ที่ว่า "จะเกิดรบราฆ่าฟัน สมณะชีพราหมณ์จะล้มตาย จะตายฝ่ายละครึ่งจึงจะหยุดยั้งรบกัน" อยากทราบผู้รู้ว่าฝ่ายละครึ่งหมายถึงทหารหรือประชาชนบนโลกครับ:cool:
     
  10. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    18 ธ.ค. 54

    ร่วมกัน ไม่ทัน หม้อดำ
    กระทำ ให้เกิด แตกแยก
    พรรคร่วม ตัว...บอ มาแปลก
    ขอแยก ออกไป ไม่ทำ

    องค์อินทร์ ๙๗

    ทำการแทน
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที"

    [​IMG]

    หมายถึงทั้งทหารและประชาชนเกือบทั้งโลกครับ เพราะสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นสงครามระเบิดนิวเคลียร์ ผลของระเบิดนิวเคลียร์มันร้ายแรงขนาดไหน ทุกคนคงจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อีกทั้งพุทธทำนายก็บอกเอาไว้แจ้งชัดอยู่แล้วว่า "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที"

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  12. izeberry

    izeberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +1,482
    ............

    นี่แหละ ใจ...มนุษย์ ควรเข้าใจ...

    วันนี้ได้ฟังคำสอน ของ อจ.หมอสมศักดิ์ ดีมาก จึงเอามาฝาก ว่า...

    ให้ดูแล..ใจ.ตัวเอง อย่าไปยุ่งกับ ใจ...ผู้อื่น...


     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พายุโซนร้อน"วาชิ"ถล่มฟิลิปปินส์ เสียชีวิตกว่า 500 คน

    [​IMG]

    [​IMG]

    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนวาชิ พัดถล่มฟิลิปปินส์พุ่งทะลุ 500 คนแล้ว ขณะที่ผู้สูญหายมี 370 คน

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์ยังคงทุ่มเทความพยายามเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันในเขตมินดาเนา โดยพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือที่ เมืองคากายัน เด โอโร่ และเมืองอีลีกัน เมืองชายฝั่ง หมู่บ้านหลายแห่งพังราบเป็นหน้ากลองจากน้ำท่วมและดินถล่มเมื่อวานนี้

    สภากาชาดฟิลิปปินส์ยืนยันว่า ยอดผู้เสียชีวิตมี 521 คนแล้ว ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มเป็นสองเท่าอยู่ที่ 370 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร และบางส่วนก็เสียชีวิตทั้งครอบครัว ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากเช่นนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเจอกับพายุที่รุนแรงมาก่อน และไม่มีการเตือนภัยล่วงหน้า นอกจากนี้ช่วงเวลาที่โซนร้อนวาชิพัดถล่มเป็นช่วงกลางคืน ประชาชนกำลังหลับไหล และอิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกติดต่อกันนานถึง 12 ชั่วโมง ทำให้บางพื้นที่เผชิญกับน้ำท่วมฉับพลัน และในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง น้ำก็ท่วมสูงถึง 3.3 เมตร ผู้ประสบภัยหลายคนต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รายงานยังระบุด้วยว่า ตอนนี้มีผู้ประสบภัยมากกว่า 3 หมื่น 5 พันคนไร้ที่อยู่อาศัยและต้องมาอาศัยศูนย์พักพิงชั่วคราว

    ทางการฟิลิปปินส์ได้ระดมทหารหลายพันนายเข้ามาช่วยผู้ประสบภัย แต่ดินโคลนจากภูเขาที่ถล่มลงมาในฟื้นที่ประสบภัยทำให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัยได้ 437 คน และยังส่งเรือช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตในทะเล ซึ่งก็สามารถช่วยขึ้นมาได้ 60 คนนอกจากชายฝั่งเมืองเอล ซัลาดอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคากายัน เด โอโร่ไป 10 กิโลเมตร

    ล่าสุดโซนร้อนวาชิได้เคลื่อนตัวมาอยู่เหนือทะเลซูลู ในตอนสายวันนี้และจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดปาลาวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา คาดว่าจะพัดออกสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้


    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1324199955.jpg
      1324199955.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.7 KB
      เปิดดู:
      1,525
    • 1324178802.jpg
      1324178802.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      1,527
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า"มังกร"ของจีนก็คือ"พญานาค"ของไทย

    [​IMG]
    12 นักษัตรของจีน ปี พ.ศ.2555 เป็นปีมังกรน้ำ ยิ่มซิ้ง

    [​IMG]
    12 นักษัตรของไทย ปี พ.ศ.2555 เป็นปีมะโรง (พญานาค)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104
    การคัดคน........คัดยากกว่า คัดขยะ......ขอให้ลุง k-97 เจอแต่แนวร่วมที่ดีนะคะ.....ดีดูดดี .....ชั่วดูดชั่ว........คนดีก็ต้องเจอคนดี.......ให้กำลังใจ
     
  16. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    วันนี้ข้าพเจ้าไปพบท่านผู้มีอภิญญามาแต่ไม่ขอเอ่ยนาม ท่านได้บอกว่า ปี2557-2558 ไม่เหลือไปหมดเลยกับน้ำ จะเหลือรอดแต่คนดีมีศีลธรรม เหลือเวลาอีกไม่มาก ให้เร่งความเพียรในการปฎิบัติกันค่ะ ให้ใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท ท่านที่ข้าพเจ้าไปพบท่านได้สร้างแหล่งรองรับภัยพิบัติไว้ค่ะ ถ้าถึงเวลามีบุญเกื้อหนุนกัน ตามวาระตามโอกาส คงได้พบเจอท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  17. code13

    code13 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +84
    ๒ อภิมหาภัย ที่ไทยต้องเผชิญ

    ๑. ภัยจากเหตุ (ธรรมชาติแปรปรวน) ที่ทำให้เมืองหลวงของไทย กลายเป็น ป่ากระต่ายขี้

    ๒. ภัยจากเหตุ (เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ ประเทศในเอเซียที่เป็นอริต่อกัน.....ตามพุทธทำนาย) ส่วนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ องค์อริยะสงฆ์กล่าวไว้แล้ว สงครามนิวเคลียร์หรือสงครามโลกครั้งที่สามเกิดแน่นอน องค์ท่านฯว่าไว้ หัวแดงจะรุมจีน
    ------------------------------------------------------------

    องค์ท่านฯ ยังเมตตาต่อสรรพสัตว์โลกที่ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกธรรม ๘

    ดังคำพยากรณ์ไว้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  18. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ต่อไปน้ำทะเล อาจจะขึ้นมาถึงจังหวัดหนึ่งใกล้ภาคกลาง ซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 40 เมตร ?


    ตอนนี้ พศ. 2554 เห็นแนวโน้มทางภาคตะวันออก สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี ชายฝั่งถูกกัดเซาะหนัก แผ่นดินหดหายไปเรื่อยๆ รองลงมาก็ระยอง

    คงจะสัก 50 ปี ที่เข้าขั้นวิกฤติ อะไรก็เอาไม่อยู่ จนต้องถอดใจกัน

    [​IMG]


    [​IMG]

    www.ngthai.com/ngm/0909/feature.asp?featureno=5

    ชายฝั่งคือพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของโลก เป็นรอยต่อระหว่างแผ่นดินและท้องทะเล เป็นระบบนิเวศสำคัญ และเป็นกันชนภัยพิบัติธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ แต่ทุกวันนี้เรากำลังสูญเสียพื้นที่แสนสำคัญนี้ไปจากการถูกทะเลกัดเซาะ

    ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งจากการกัดเซาะไปแล้วกว่าหนึ่งแสนไร่ ทะเลค่อยๆรุกคืบเข้ามาหาเราอย่างเชื่องช้าทว่าเกรี้ยวกราด ชุมชนหนึ่งที่ได้รับเคราะห์กรรมนี้อย่างแสนสาหัสคือ ชุมชนขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ ที่นี่ถูกกัดเซาะด้วยอัตรา 30 เมตรต่อปี

    สมร เข่งสมุทร ผู้ใหญ่บ้านชาวขุนสมุทรจีนเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ชุมชนบ้านเกิดของเธอถูกทะเลรุกคืบจนหายไปร่วมห้ากิโลเมตรแล้ว แม้ว่าเธอได้พยายามต่อกรอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่ทิ้งเขื่อนหิน สร้างกำแพง ไปจนถึงปักเสาไฟฟ้า แต่ก็ไม่สามารถทานพละกำลังของธรรมชาติได้เลย

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการจะกำหนดให้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นวาระระดับชาติ แต่ปัญหาที่น่ารำคาญใจมากกว่าคือหน่วยงานที่มีอำนาจทับซ้อน ไม่เบ็ดเสร็จ และงบประมาณขยักขย่อน เวลาที่ผ่านไปพร้อมกับธรรมชาติรุกคืบ ยิ่งประทับความเจ็บปวดให้ชาวบ้านอย่างสมร “ถามว่านี่ประเทศไทยหรือเปล่า ไม่ตกใจกันบ้างหรือ หมู่บ้านหายไปขนาดนี้แล้ว สมรตัดพ้อ

    เมื่อมองในภาพรวม ประเทศไทยมีชายฝั่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,600 กิโลเมตร แยกเป็นฝั่งอ่าวไทยประมาณ 1,650 กิโลเมตร และฝั่งอันดามันประมาณ ffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]950 กิโลเมตร </st1:metricconverter>มีพื้นที่เสี่ยงภัยระดับวิกฤติมากมายหลายจุด อัตราการกัดเซา และสูญเสียพื้นที่มีตั้งแต่ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="5 เมตร">5 เมตร </st1:metricconverter>ไปจนถึง 30 เมตรต่อปี
    ประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นตัวเงินมากกว่าแสนล้านบาท

    ตัวเลขความเสียหายระดับนี้ ทำให้การกัดเซาะชายฝั่งถูกนิยามว่าเป็น “ภัย” เงียบ แต่แท้จริงแล้วภาวะดังกล่าวเป็นเพียงการวิ่งกลับสู่จุดสมดุลของธรรมชาติ แต่ปัญหาคือภาวะคืนสมดุลเหล่านั้นบังเอิญไปกระทบกับมนุษย์ จิระพงศ์ จีวรงคกุลนักนิเวศวิทยาทางทะเลกล่าวว่า ที่เดือดร้อนก็เพราะมนุษย์เข้าไปอาศัยอยู่นั่นแหละครับ

    มีปัจจัยมากมายที่ก่อให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ในหาดโคลนซึ่งสมดุลด้วยตะกอนปากแม่น้ำและการกัดเซาะทุกวันนี้เสียสมดุลไปเนื่องจากตะกอนปากแม่น้ำที่ลดลงอย่างน่าวิตก ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผู้เฝ้าวิจัยติดตามการกัดเซาะชายฝั่งมากว่า 20 ปี

    ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค้นพบว่า ตะกอนปากแม่น้ำจากลุ่มเจ้าพระยาลดลงกว่าร้อยละ 70 สืบเนื่องจากการสร้างเขื่อนต้นน้ำและการชลประทาน ส่งผลให้ปริมาณตะกอนปากแม่น้ำพอกพูนน้อยลง ปัจจัยนี้ทำให้สมดุลตะกอนผิดเพี้ยนและนำไปสู่การกัดเซาะในที่สุด

    นอกจากนั้นแล้ว การทรุดตัวของแผ่นดินบนพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ยังทำให้ปัจจัยการกัดเซาะรุนแรงมากขึ้น สาเหตุเนื่องมาจากการระดมสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรมในทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ต้องรอน้ำขึ้นหรอกครับ เพราะแผ่นดินทรุดนี่ไม่ต่างอะไรกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแล้ว ดร.ธนวัฒน์ชี้

    ส่วนในหาดทราย ปัญหาการกัดเซาะแตกต่างออกไป สัณฐานชายฝั่งดังกล่าวสมดุลอยู่ด้วยตะกอนทรายซึ่งถูกพัดพาด้วยกระแสน้ำและลมมรสุมประจำฤดูกาลขนานไปกับชายฝั่งกลับไปกลับมาอย่างสมดุล

    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักสมุทรศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าจริงๆแล้วชายฝั่งแต่ละที่ยืดหดตามฤดูกาลเป็นปกติครับ เพียงแต่ถ้าหดแล้วยืดกลับไม่เท่าเดิม นั่นแหละคือปัญหา

    ปัจจัยที่ทำให้เกิดการกัดเซาะในหาดทราย คือการที่ตะกอนถูกรบกวนด้วยโครงสร้างซึ่งรุกล้ำลงไปในทะเล และเป็นตัวดักตะกอนไปโดยปริยาย หนึ่งในโครงสร้างที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอยู่บ่อยครั้งคือ เขื่อนกันทรายปากแม่น้ำ ที่สร้างขึ้นสำหรับป้องกันตะกอนทรายพัดมาปิดปากคลองหรือแม่น้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เรือประมงขนาดใหญ่ให้สามารถเข้าออกปากแม่น้ำได้สะดวกทั้งปี มีที่จอดหลบคลื่นลมในฤดูมรสุมได้อย่างปลอดภัย

    หากมองเผินๆ นี่คือการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่หารู้ไม่ว่า ผลกระทบจากการรุกล้ำทะเลทำให้ตะกอนที่พัดพาในฤดูกาลถูกกักไว้บริเวณสันเขื่อน ส่งผลให้ชายหาดที่อยู่ใกล้เคียงได้รับตะกอนทรายลดลงและถูกทะเลกัดเซาะชายฝั่งลึกเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อทวงคืนตะกอนทรายส่วนที่หายไป จนวันหนึ่งลามมาถึงถนนหนทางและบ้านเรือน

    ทางการท้องถิ่นหลายแห่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะ อย่างเขื่อนหินทิ้ง รอดักทราย และกำแพงกันคลื่น นั่นเพราะพวกเขาเชื่อว่า การกัดเซาะเกิดจากคลื่นลมในทะเล แต่ความเข้าใจเพียงครึ่งๆกลางๆ เช่นนั้นทำให้โครงสร้างที่เกิดใหม่กลายเป็นตัวเร่งทำลายมากกว่าการป้องกันที่ถูกวิธี

    อย่างไรก็ตาม โครงสร้างวิศวกรรมป้องกันชายฝั่ง หาใช่จะเป็นการทำลายเสียทั้งหมด งานวิจัยของ ผศ.พยอม รัตนมณี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทำให้แวดวงวิชาการฮือฮา เมื่อแนวคิดโครงสร้าง “ปะการังเทียม” ที่เขาและทีมงานออกแบบ ค่อนข้างได้ผลดีในห้องปฏิบัติการ

    ความคิดบรรเจิดของเขาเกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายด้วยการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ชายฝั่งแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ซึ่งอุดมไปด้วยปะการังธรรมชาติและปลอดภัยจากการกัดเซาะ เขาเชื่อว่าปะการังคือโครงสร้างวิศวกรรมธรรมชาติที่ช่วยซับแรงกัดเซาะแต่ไม่รบกวนกระแสน้ำชายฝั่ง

    แม้จะยังเร็วไปหากจะบอกว่า ปะการังเทียมของเขาสลายคลื่นได้ในสมรภูมิจริง เพราะนั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเป็นมาตรวัด “พลังธรรมชาติมหาศาลมากครับ เราสลายเขาไม่ได้หรอก ทำเพียงแต่เพียงร้องขอให้เราอยู่ร่วมกันให้ได้” ผศ.พยอม ทิ้งท้าย

    ขณะที่นักวิจัยเลือดสะตออย่างพยอม กำลังหาทางช่วยกอบกู้หาดทราย แต่หากนำวิธีการดังกล่าวมาใช้ในหาดโคลน ปะการังเทียมของเขาคงต้องยกธงขาวอย่างไร้ทางสู้ เพราะในระยะยาวปราการทางวิศวกรรมจะถูกกัดเซาะไปถึง ฐานรากจนพังทลาย ปัญหาในหาดโคลนดูจะซับซ้อนกว่ามาก นอกจากต้องลดความแรงของคลื่นแล้ว ยังอยู่ที่การดักจับตะกอนเลน ซึ่งมีน้ำหนักเบา และใช้เวลาพอกพูนนานกว่าในหาดทราย

    แม้จะดูเหมือนว่าไม่มีโครงสร้างใดช่วยเหลือหาดโคลนในระยะยาวได้ แต่หนึ่งในโครงสร้างอัจฉริยะที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะและดักจับตะกอนได้อย่างชาญฉลาด เรารู้จักกันมานานแล้วในนาม “ป่าชายเลน”

    แต่การฟื้นฟูป่าชายเลนซึ่งลดจำนวนลงมหาศาลไม่ใช่งานง่าย นักวิทยาศาสตร์อย่าง ดร.ธนวัฒน์ จารุงพงษ์สกุล เล่าว่า ความลำบากส่วนหนึ่งเกิดจากการสูญเสียตะกอนเลนหน้าหาดจากการกัดเซาะ วิธีฟื้นฟูที่ดีที่สุด ต้องคืนตะกอนเลนหน้าหาดกลับมาให้ได้เสียก่อน

    หลังจากทดลองในสมการบนหน้ากระดาษ แบบจำลองคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงแล็บจำลองคลื่น สุดท้ายธนวัฒน์ ก็ได้โครงสร้างเรียบง่ายมาชุดหนึ่ง เขาตั้งชื่อให้ว่า เขื่อนขุนสมุทรจีน 49A2 ซึ่งสามารถสลายกำลังคลื่นได้ตามหลักฟิสิกส์ และทำให้พื้นที่หลังเขื่อนเป็นที่ทับถมของตะกอนเลนหน้าหาด
    แม้ขั้นตอนต่อไปคือการฟื้นฟูป่าชายเลน แต่ ดร.สมศักดิ์ บรมธนรัตน์ ประธานมูลนิธิสถาบันทรัพยากรชายฝั่ง แห่งเอเชีย ก็เตือนว่า

    นอกจากการปลูกแล้ว เราต้องดูเรื่องความหลากหลายของพรรณพืชด้วยครับ ทุกวันนี้เราเลือกแต่โกงกางเพราะปลูกง่าย ซึ่งไม่ถูกต้องนัก นอกจากนี้ เรายังต้องระวังเรื่องการปลูกป่าในพื้นที่ดินเลนงอกใหม่ซึ่งอาจมีผลต่อกระแสน้ำ และทำให้เกิดการกัดเซาะในพื้นที่อื่นได้อีกครับ

    แม้หลายฝ่ายกำลังตื่นตัวกับภัยเงียบนี้ แต่ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งกลับไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของโครงสร้างทางวิศวกรรมหรือระบบนิเวศเท่านั้น เพราะยังมีประเด็นเกี่ยวเนื่องอีกมากมาย ตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างชุมชน ข้อกฎหมาย วิถีชีวิต ปากท้องและความเป็นอยู่ของผู้คน ไปจนถึงการเมือง

    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยาเชื่อว่า แม้เราจะแก้ปัญหาทางด้านวิศวกรรมหรือระบบนิเวศได้ แต่ถ้ายังแก้ปัญหาทางสังคมไม่ได้ ละครก็ยังไม่จบ เราเพิ่งทำการบ้านเสร็จไปครึ่งเดียวเองครับ

    ทุกวันนี้ แม้เราจะเห็นภาพการสูญเสียพื้นที่จากการกัดเซาะชายฝั่ง และรับรู้ถึงคำพยากรณ์ที่น่าสะพรึงกลัวบ่อยๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

    แต่ตราบใดที่ภัยพิบัติไม่มาเคาะเรียกที่ประตูบ้าน เราก็คงยังไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่นักวิชาการวงในอย่างดร.ธนวัฒน์มองว่า คงไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้น เพราะผลกระทบค่อยๆคืบคลานมาเป็นปัญหาในทางอ้อม

    ผมยกตัวอย่างง่ายๆ คนที่มีอาชีพประมงประมาณหนึ่งล้านคนที่อยู่ปากแม่น้ำ ถ้าหาดหาย แผ่นดินหาย ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีอาชีพ พวกเขาอาจต้องย้ายเข้ามาในเมือง ถ้าไม่มีงานทำ หลายคนอาจลงเอยด้วยการลักเล็กขโมยน้อย และอาจถึงขั้นอาชญากรรม กระทบกับคุณแน่นอน วันนี้อาจยังไม่กระทบกับคุณ แต่ลูกหลานคุณล่ะ

    [​IMG]

    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=topicHead align=center>โลกร้อนเสริมเหตุกระทบชายฝั่งทะเลทั่วโลก</TD></TR><TR><TD class=detailFont>
    มติชน : คอลัมน์ จับกระแสโลกร้อน


    หลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก กล่าวถึงความรุนแรงของปัญหาภาวะโลกร้อนว่า อาจมีความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ณ เวลานี้ทุกคนไม่ควรละเลยความสำคัญของปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะผลกระทบโลกร้อนอาจเพิ่มปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งมีสาเหตุจากการกระทำของมนุษย์ และจากธรรมชาติ อาจมีความรุนแรงและเกิดขึ้นรวดเร็วมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ภาวะโลกร้อนสามารถเป็นปัจจัยเสริมความรุนแรงของสาเหตุจากธรรมชาติที่ก่อให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เนื่องจากผลกระทบทำให้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศโลก และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ส่งผลให้พายุและคลื่นที่พัดเข้าหาชายฝั่งทะเล มีความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้นและมีการเปลี่ยนทิศทาง จนเกิดการกัดเซาะรุนแรงจนสูญเสียเนื้อที่ชายฝั่งและเกิดแผ่นดินทรุดตัวตามแนวชายฝั่งเพิ่มขึ้น ทำให้ชุมชนต้องอพยพย้ายที่อยู่อาศัย และรัฐต้องเสียงบประมาณป้องกันปัญหาดังกล่าวเพิ่มขึ้น

    หลายประเทศมีสภาพปัญหาที่ใกล้เคียงกันเกี่ยวกับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลดังกล่าว เช่น ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีการสูงขึ้นของระดับน้ำทะเลลุกล้ำเข้าสู่ปากแม่น้ำและท่วมชายฝั่ง รวมทั้งการลดลงของชายหาดในหลายแห่ง ดังนั้น สถาบัน Institute of Science and Public Affairs แห่งมหาวิทยาลัยมลรัฐฟลอริดา ได้ทำการการศึกษาในปี 2007 เพื่อคาดการณ์การสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ปี 2006-2080 ในบริเวณรอบฟลอริดา เพนนินซูลา พบว่าแนวโน้มความสัมพันธ์ของช่วงเวลาและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเป็นเส้นตรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของระดับก๊าซเรือนกระจก การศึกษานี้ทำให้ทราบแนวทางการวางแผนทางเศรษฐศาสตร์และการป้องกันในอนาคต

    และจากการรายงานของ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ปี 2007 เช่นกัน พบว่าประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยระดับน้ำทะเลทั่วโลกประมาณ 25% หมายถึงระดับน้ำในมหาสมุทรอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับ 80 เซนติเมตร ในปี 2100 ข้างหน้า ทั้งพบว่ามีความถี่และความรุนแรงของพายุเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งชายฝั่งถูกน้ำท่วมในหลายแห่ง โดยเฉพาะทางแถบเมือง Cairn และแถบตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนแลนด์ ของออสเตรเลีย

    ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีความยาวค่อนข้างมาก กล่าวคือ ฝั่งอ่าวไทย มีความยาวชายฝั่งตลอดแนว 1,878 กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลอันดามัน 937 กิโลเมตร (จากข้อมูลกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) ตลอดทั้งสองแนวชายฝั่งมีทรัพยากรทางทะเลหลากหลายชนิดทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย อาทิ การท่องเที่ยว การทำประมงชายฝั่ง การคมนาคมทางน้ำ หากเกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้นก็อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจตามมา

    เมืองไทยและทุกประเทศต้องร่วมมือกันวางแผนป้องกันทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพราะการไหลเวียนของกระแสน้ำทะเลและมวลอากาศของโลกมีการเชื่อมโยงถึงกันอยู่ตลอดเวลา


    </TD></TR><TR><TD align=center>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข่าวภัยพิบัติ แจ้งเตือนภัยก่อนปี 2555

    [​IMG]

    องค์เทพทำนายภัยพิบัติโลกผ่าน อ.จตุพร ซึ่งร้ายแรงกว่าที่มนุษย์คิดไว้มากมายนัก (2555-2558)....บทความนี้เขียนไว้เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

    คำทำนาย ในประเทศไทย

    ทุกวันนี้โลกเราผิดปกติไปมากขึ้นทุกที แกนโลกเริ่มขยับตัวเคลื่อนที่อย่างมาก รอวันที่มันจะผลิกคว่ำ เมื่อคนไม่ดีมีเยอะมากขึ้น ศีลธรรมเสื่อมทรามลง แกนโลกจะคว่ำ เมื่อมันคว่ำแล้ว อะไรทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด บางจุดน้ำจะเป็นดิน ดินจะเป็นน้ำ

    หนาวจะร้อน ร้อนจะหนาว สภาวะขาดอาหารและน้ำ จะเกิดขึ้นไปทุกหย่อมหญ้า เงินจะไม่มีความหมาย อาหาร ยา เท่านั้นที่มีความหมาย คนไม่ดีจะเหลือน้อย คนดีจะเป็นใหญ่ ความสามัคคีจะเกิด ผู้คนจะช่วยกัน เริ่มเห็นใจกัน จะมีการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ อะไรก็ตามที่ใช้ไฟฟ้า แทบจะไม่มีความหมาย คนไทยจะเริ่มอพยพ ไปทิศใหม่ เมืองใหม่จะถูกสร้างขึ้น อารยธรรมใหม่จะเกิดขึ้นที่นั้น ทรัพย์พยากรใหม่ๆ จะออกมาตามรอยแยกแผ่นดินไหว จะมีแต่คนดีที่ครอบครอง ...สมาธิ จะเป็นบทนำที่อารยธรรมใหม่แห่งนี้

    คำทำนาย ในกรุงเทพมหานคร

    วันนั้นฟ้าจะเปลียน พระอาทิตย์จะปรากฎให้เห็นเป็น 2 ดวง ทางทิศตะวันตกในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้าจะเป็นสีแสด อากาศผิดปกติ เป็นแบบนี้ไม่กี่วัน "คนมีบุญจะรวมกลุ่มกันหนี คนบาปจะอยู่กับบ้าน" เข้ายามราตรี ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง พายุขนาดใหญ่จะมา

    (ดวงอาทิตย์ที่เห็นเคียงคู่นั้น คือดาวหาง นิบิรุซึ่งเป็นดาวฤกษ์ กำลังโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ของสุริยจักรวาลมากขึ้น เพื่อวนรอบดวงอาทิตย์ ทุกๆ 13,000 ปี สีจะออกแดง)

    ไฟจะดับ น้ำจะเริ่มท่วม รถยนต์จะเริ่มลอย เสาไฟจะล้ม คลื่นยักษ์สูง 50 เมตร จะมากวาดทุกอย่างไปในพริบตา "คนมีบุญที่หนีได้ทัน จะไปอยู่บนยอดตึก บุญจะส่งให้เขามีเหตุให้ต้องไปอยู่บนยอดตึกในเวลานั้น" ตกเช้าน้ำจะไป ทิ้งไว้แต่โคลนสีส้มไปทั่วเมือง "กรุงเทพฯ ไม่เหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองหลวงอีกต่อไป" ส่วนต่างจังหวัดอื่นๆ จะเกิดหนักเหมือนกัน แต่น้ำจะไปไม่เท่ากัน

    (นัยว่าก่อนโลกจะย้ายขั้ว โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง เช่นเดียวกับสุริยจักรวาล ที่โคจรรอบดาวหลุมดำ แกนกลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก กำลังโคจรเข้ามาสู่แรงดึงดูดของกาแลกซี่ไตรแองกุลัม ทางด้านทิศตะวันออก และเริ่มชลอตัวหยุดการหมุนรอบตนเอง มาตั้งแต่ 2 เม.ย. 2552 และเริ่มเดินเป็นปรกติ เมื่อ 1 ก.พ. 2554 ที่พระอาจารย์รัตน์ พบในสมาธิ สุริยจักรวาลใช้เวลาปรับตัว หมุนสวนทิศทางเดิมอยู่ประมาณ 22 เดือน

    ถ้าโลกจะย้ายแกนปลายปี 2555 ตามปฏิทินของชาวมายา และสโตนเฮนซ์ เตือนภัยอนาคตไว้กับคนรุ่นหลัง ก็จะใช้เวลาปรับตัวย้ายแกนโลกใหม่เป็นช่วงเวลาใกล้ๆกัน แต่ในขณะที่สุริยจักรวาลเปลี่ยนทิศทางการหมุนรอบตนเองแล้ว โลกเริ่มมีผลกระทบทั้งคลื่นกัดเซาะชายฝั่งมากขึ้น แมกม่าเปลี่ยนทิศทางเดิน จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุขึ้นทั่วโลก

    แต่เมื่อโลกย้ายแกน ของเหลวบนเปลือกโลก และแมกม่าใต้โลก จะเปลี่ยนทางเดินขนานใหญ่ รวมทั้งอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติต่างๆตามมาทั่วโลก แต่ของเหลวที่อยู่รอบผิวโลก เช่นน้ำในมหาสมุทรต่างๆ ไม่สามารถหยุดพร้อมกับโลกได้ ด้วยแรงเฉื่อยของน้ำในมหาสมุทรต่างๆ จึงพากันวิ่งขึ้นบนบก บริเวณริมทะเลต้องรับคลื่นสูงกว่าในแผ่นดินที่อยู่ลึกเข้าไป แต่ก็จะมีภัยจากน้ำท่วมกระทันหันเกิดขึ้นได้....ผู้ที่ไม่ประมาทจึงควรติดตามความเคลื่อนไหวของสิ่งแวดล้อมโลกอย่างใกล้ชิด และลองนำมาตรวจสอบกับ การคาดการณ์ที่กล่าวมาแล้วหรือไม่

    ถึงอย่างไรก็ดี ผลการติดตามการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมโลกนี้ จะค่อยๆต่อภาพความเป็นจริงให้ทุกท่านประจักษ์ได้ด้วยตนเอง เป็นระยะๆไปแล้วเมื่อนั้นท่านจะเข้าใจ สิ่งที่พระพิฆเนศร์ ท่านเมตตามาเตือนภัยล่วงหน้า

    และชาวดาวอังคารก็มาทำ Crop Circle ที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเร็วๆนี้ เตือนเหตุก่อนวิบัติกาลของโลกเช่นเดียวกับชาวมายา ในอดีต 5 พันปีได้รับการเตือนมาแล้ว ในลักษณะคล้ายๆกัน ผลสุดท้ายชาวมายาก็สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ แม้จะได้รับสัญญานเตือนล่วงหน้าแล้วก็ตาม

    ยังไม่ทราบว่าผลการชลอความเสียหายในวิบัติกาลของโลก คราวนี้จะสามารถลดความรุนแรง ลดความเสียหายได้น้อยลงได้มากสักเพียงใด โดยแทนที่จะปล่อยให้โลกสลับขั้วเหนือใต้ เช่นในคราวที่อาณาจักรแอตแลนตีสล่มจมทะเลเมื่อ 13,000 ปีก่อน รอบนี้เขาจะช่วยให้โลกย้ายแกนมาที่สฟิงซ์ หรือย้ายที่เพียง 90 องศา แทนที่จะเป็น 180 องศา การเตรียมการตรงนี้ได้เตรียมมาแล้ว 5 พันกว่าปี ก่อนลงมือสร้างสฟิงซ์ และพีระมิด ที่อียิปต์ โดยใช้เทคโนโลยี่ของชาวดาวอังคาร ในการเคลื่อนย้ายหินก้อนใหญ่ๆหนักหลายๆตัน โดยวิชชาอภิญญาใหญ่

    (ในกรณีที่โลกหยุดหมุนรอบตัวเอง และแรงดึงดูดของโลกจะเหลือน้อยเกือบศูนย์ ผู้คนจะลอยเคว้งคว้างในอากาศ เหมือนมนุษย์แหวกว่ายในอวกาศ พระอาจารย์รัตน์ ท่านเล่าให้บรรดาศิษย์ที่ไปฝึกวิปัสสนาที่วัดดอยเกิ้งฟังในวันหนึ่ง หลายเดือนมาแล้ว)

    คำทำนาย เกิดเมื่อไร

    "บอกแล้วอาจเคลื่อน เพราะเวลาจะล้างคนไม่ดี เขาไม่บอกให้ทราบล่วงหน้า ถ้าทราบล่วงหน้า คนไม่ดี หนีกันไปหมด ก็ไม่เกิดแน่นอน ก็จะผลักออกไป ให้มาเร็ว หรือช้า จนคนบนโลกประมาท เมื่อนั้น ก็จะล้างทันทีไม่ให้ตั้งตัว"

    ปัจจุบันมีผู้มีอภิญญาหลายท่านก็ทราบกันแล้ว และก็เตรียมพร้อมกันแล้ว แผนกดาราศาสตร์ขององค์การนาซ่า คำนวณว่า ดาวหางนิบิรุ จะโคจร มาเรียงแถวกับโลกและดาวต่างๆ ในเพลนของกาแลกซี่ทางช้างเผือก ในปลายปี 2555 หรือต้นๆปี 2556 แรงโน้มถ่วงของดาวนิบิรุ ที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก และโคจรเฉียดกับโลกสวนทางกัน ตอนที่ดาวนิบิรุกำลังโคจรอ้อมดวงอาทิตย์ ช่วงเวลานั้นจะมีผลต่อโลกสูงที่สุด และที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกก็คือ ดาวหางดวงนี้เป็นดาวฤกษ์ที่มีดาวบริวารขนาดเท่าๆกับโลกอีก 5 ดวง ติดตามมาด้วย

    สนามแม่เหล็กโดยรวมของดาวนิบิรุ จึงมีอิทธิพลมากขึ้น จากดาวเดี่ยวๆ และสิ่งที่จะตกลงมาบนโลกจากส่วนหางของดาวดวงนี้ กลางๆปี 2555 ก็น่าจะได้สัมผัสกันบนโลก พร้อมอันตรายที่มันมีขนาดใหญ่นั่นเอง

    เวลาที่ดาวดวงนี้ใกล้เข้ามา ทุกคนน่าจะได้ยินข่าวคราวของมันอย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะปรากฏเคียงคู่กับดวงอาทิตย์ ส่งสัญญาณขั้นสุดท้าย ให้แก่ผู้ไม่ประมาทจะเคลื่อนย้ายสู่ทีกำบังที่ปลอดภัย....แล้วท่านมองๆหาทำเล และเตรียมการอย่างไรบ้างแล้ว?

    เท่าที่นายกอร์ดอน สแกลเลียน ผู้ตายแล้วฟื้น ได้มองเห็นแผนที่โลกใหม่ มาตั้งแต่ 1979 -1982 และได้ลงมือวาดแผนที่โลกใหม่ขึ้น มีส่วนสรุปคำทำนายของโซนเอเชียดังต่อไปนี้

    ผลสรุปการทำนายก็คือ ประเทศไทยจะยังเหลืออยู่บางส่วน ตามภาพที่ขยายออกมา ซึ่งคงได้ยินกันมาอยู่บ้างว่า ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือภาคเหนือ ส่วนอีสานบางส่วน และภาคใต้จะจมลงไปในทะเลพร้อมกับมาเลเซีย สิงคโปรและอินโดนีเซีย ส่วนชายฝั่งทะเลจะมาอยู่ที่ชัยภูมิ เพรชบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยและตาก และแม่น้ำโขงจะกลายจากแม่น้ำเป็นทะเล

    เมื่อ 23 ก.พ. -25 ก.พ. 2554 ได้เกิดแผ่นดินไหว ดินยุบ ดินแยก ที่เกาะสุมาตราตะวันออก พร้อมกับมีเสียงระเบิดดังกึกก้องสะท้อนขึ้นมาจากใต้ดินตลอดวันตลอดคืน ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการวิจัยหาสาเหตุว่าเสียงดังเกิดมาจากอะไร....ปรากฏการณ์นี้กำลังส่งสัญญาณให้มนุษย์ทราบว่า กำลังจะเกิดแผ่นดินยุบบริเวณกว้างเป็นจังหวัดๆ ไล่ถล่มออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากแมกม่ากำลังปรับเปลี่ยนการไหลตลอดเวลา

    แผ่นดินถล่มมีโอกาสเกิดที่เกาะสุมาตราตะวันออก ในบริเวณตรงกันข้ามกับเกาะสิงค์โปร์ก่อน เนื่องจากใต้ดินบริเวณนั้นมีช่องว่างขนาดใหญ่เกิดขึ้น จากการเคลื่อนตัวของแมกม่า ทำให้แผ่นดินตั้งอยู่บนอากาศ เพดานถ้ำขนาดใหญ่จะไม่สามารถรับน้ำหนักตัวเองได้ และมวลของดินยังขาดการยึดเกาะไม่เหมือนเก่า เนื่องจากที่ผ่านมา 10 กว่าปี เปลือกโลกได้ถูกเกลียวพลังงานเส้นแรงแม่เหล็กชอนไช ทำให้ดินเสียแรงยึดเกาะระหว่างโมเลกุล ดินจึงถล่มง่ายกว่าในอดีต

    จึงต้องคอยติดตามข่าวต่อไปว่า เสียงระเบิดใต้ดินที่ดังกึกก้องตลอดเวลา นั้นหยุดลงหรือยังและยังจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามมาถี่ขึ้นหรือไม่ และสุดท้ายยังไม่ทราบแน่ว่าแผ่นเปลือกโลกในโซนนี้จะถล่มลงในเวลาไล่ๆกันทั้งหมด เหมือนที่นายกอร์ดอน สแกลเลี่ยน ได้รับภาพหรือไม่...


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  20. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    19 ธ.ค.54

    อาพูดถึงนักการเมืองครับหลาน ส่วนแนวร่วมอามีหน้าที่แจ้งเตือน หน่วยเหนือท่านจะคัดสรรเองว่าใครจะได้ไปไม่ได้ไปอยู่

    อาเค
     

แชร์หน้านี้

Loading...