ใครกราบไหว้พระพุทธรูปเรียนเชิญ...ครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 15 ธันวาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85

    เถียงข้างๆคูๆอยู่นี่แล้วเมิงอ่ะถึงไหนแล้วล่ะ
     
  2. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85
    ท่านเอาจากไหน ใครแต่งก็ไม่รู้ผมบอกให้นะถ้าเป็นอาจารย์รุ่นหลังแต่งผมไม่อ่าน มันมีแต่น้ำครับผมอ่านแต่พระไตรปิฏกครับ[/QUOTE]

    โง่อีกแล้ว พระสูตรที่แกยกมาทั้งหมด พระอรรถจารย์ ท่านแปลต้นฉบับ

    พระไตรปิฏกภาษาบาลีและสันกฤษ เป็นไทยหมดแล้ว

    แกว่าแกไม่เอา แกไม่เชื่อ พระทั้งหลายหลายที่มาแต่ง

    มาแปลเอาที่หลัง แล้วแกจำทำอย่างไง แล้วแกจะเชื่อพระไตรปิฏกได้มากน้อยแค่ไหน

    ก็ในเมื่อพระไตรปิฏกได้ผ่านขบวนการ มาทั้งหมดแล้ว




    ถ้าไห้ดี แกต้องไปเรียนภาษาบาลีและสันสกฤษไหม่หมดเลย ซึ้งมีหลักสูตร9ปี (ปธ)

    แล้วแกก้มาแปลพระไตรปิฏกต้นฉบับเลยด้วยตัวของแกเอง จะได้ไม่ต้อง

    มีใครว่าได้ และแกเองก็ไม่ได้คัดลอกจากอาจารย์องค์หนึ่งองค์ใดด้วย

    อย่างงี้ดีกว่าไหม

    อาจารย์ที่แกว่าน่ะ ยุคหลังๆนี่ ท่านจบนักธรรม ตรี โท เอก

    ปธ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ กันแทบทั้งสิ้น

    มีทั้งวัยยวุฒิ และคุณวุฒิ อีกทั้งความรู้มากมายก่ายกอง

    ส่วนตัวแกมีอะไร (มีความรู้อะไรมั่ง)เอะอะ ก็หาพี่กรูเกิล แล้วก็เอามาแปะ

    คราวหลังสวดมนต์ก้ท่องนะ พี่กรูเกิล สรณังคัฉามิ ท่องไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2011
  3. โฮดี้๐๐

    โฮดี้๐๐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +14
    มันส์ จริงๆกระทู้นี้ ขอเรียกว่ากระทู้แทงใจดำนะขอรับ ฮิฮิฮิ
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมกราบไหว้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ผมไม่กราบไหว้รูปปั้น รูปหล่อ พระพุทธเจ้าให้กราบไหว้สิ่งที่ควรบูชา ท่าน sutanon จะกราบไหว้สิ่งใดก็ตามศรัทธาท่านเถิดครับ

    การกราบไหว้บรรพบุรุษผมทำตามประเพณี ผมก็เคยบอกไปแล้วผมมีปูย่าตายายพ่อแม่พี่น้อง ก็ทำตามประเพณีเครารพผู้ใหญ่ แต่ไม่ยึดติด ผมศึกษาพระธรรม นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้ท่านทุกวัน ให้ผมกราบไหว้รูปปั้น รูปหล่อ ผมกราบไหว้ฟ้าดิน กราบไหว้ต้นไม้ดีกว่าครับ ผมกับท่านคุยกันมาเยอะแล้ว ท่านไปอ่านโพสต์เก่า ๆ เอาเถิดผมว่าผมตอบท่านหมดแล้วนะครับ
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    โง่อีกแล้ว พระสูตรที่แกยกมาทั้งหมด พระอรรถจารย์ ท่านแปลต้นฉบับ

    พระไตรปิฏกภาษาบาลีและสันกฤษ เป็นไทยหมดแล้ว

    แกว่าแกไม่เอา แกไม่เชื่อ พระทั้งหลายหลายที่มาแต่ง

    มาแปลเอาที่หลัง แล้วแกจำทำอย่างไง แล้วแกจะเชื่อพระไตรปิฏกได้มากน้อยแค่ไหน

    ก็ในเมื่อพระไตรปิฏกได้ผ่านขบวนการ มาทั้งหมดแล้ว




    ถ้าไห้ดี แกต้องไปเรียนภาษาบาลีและสันสกฤษไหม่หมดเลย ซึ้งมีหลักสูตร9ปี (ปธ)

    แล้วแกก้มาแปลพระไตรปิฏกต้นฉบับเลยด้วยตัวของแกเอง จะได้ไม่ต้อง

    มีใครว่าได้ และแกเองก็ไม่ได้คัดลอกจากอาจารย์องค์หนึ่งองค์ใดด้วย

    อย่างงี้ดีกว่าไหม



    อาจารย์ที่แกว่าน่ะ ยุคหลังๆนี่ ท่านจบนักธรรม ตรี โท เอก

    ปธ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ กันแทบทั้งสิ้น

    มีทั้งวัยยวุฒิ และคุณวุฒิ อีกทั้งความรู้มากมายก่ายกอง

    ส่วนตัวแกมีอะไร (มีความรู้อะไรมั่ง)เอะอะ ก็หาพี่กรูเกิล แล้วก็เอามาแปะ

    คราวหลังสวดมนต์ก้ท่องนะ พี่กรูเกิล สรณังคัฉามิ ท่องไว้[/QUOTE]

    เอาเถอะครับท่านจะศึกษาจากใครก็ศึกษาเอาเถิดอย่างมายุ่งกับผมเลย ผมคนปัญญาน้อยครับ

    ผมนั่งอ่านเงียบๆ คนเดียว เจอพระสูตรบทไหนผมไม่เข้าใจผมก็ไปถามพระอาจารย์ผม พจณานุกรมมันแปลมั่วก็เยอะ พระอาจาย์ผมท่านเป็นพระป่าครับ ไม่รับเงินทอง ฉันท์ข้าวมื้อเดียว ข้อวัตรปฏิบัติครบครับ
     
  6. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,673
    ค่าพลัง:
    +3,464
    "ผมไม่ดีกว่าคนอื่นหรอกครัีบ แต่ผมรักษาศิลแปด"

    อวดตัวอีกแล้ว ศีลคือปกติ ถือศีลแปด ถ้าถือเพื่อคุยข่มคนอื่น เขาว่ามีมานะ
    แถมเลือกอ่านพระไตรปิฎกโดยสรุปเองอีกว่า ตรงนี้เชื่อได้ ตรงนี้เชื่อไม่ได้
    รู้ยังว่า
    พระไตรปิฎกสังคายนามากี่ครั้งแล้ว

    อย่าเชื่อเพราะว่าผู้พูดเป็นครูอาจารย์ เคยได้ยินบ้างมั้ย
     
  7. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    กราบไหว้รูปหล่อที่ไหนเล่า คุณอาศัยเป็นเครื่องระรึกถึง กราบอะไรก็ถึง ถ้าก้มกราบรูปหล่อแล้วคิดว่าตนกราบรูปหล่ออยู่อย่างนี้ กราบอะไรก็กราบไม่ถึงหรอก

    เขาอาศัยเป็นเครื่องระรึกถึง ไม่ใช่ก้มกราบลงไปแล้วอะไรอยู่ตรงหน้าก็คิดว่ากราบสิ่งนั้น ตรงหน้านั้นนอกจากพระพุทธรูปแล้วยังมีอะไรๆอีกแยะนะ บางทีก็มีแมว บางทีก็มีหมาแอบอยู่ไกล้ๆก็มี
     
  8. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    เป็นพระอริยะเจ้าผู้มีปัญญาจริงๆ ปัญญามี3อย่าง สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา พระอริยะเจ้าของคุณมีปัญญาแบบ
    ธรรมของพระอริยะเจ้าของคุณเป็นแบบไหน เห็นมีแต่อ้างตำรา

    ครูอาจารย์ที่เป็นพระอริยะมีมากมาย ไม่เ้ห็นมีใครทำอย่างวัดสามแยกสี่แยก
    ทำไมเขาไม่ทำ ก็เขามีปัญญาเกินสุึตมยปัญญา สติก็สมบูรณ์จริง พิจารณารอบคอบกว่า กว้างกว่า พ้นสมุติไปแล้ว(อยากจะบอกว่าพ้นตำรา)
    อะไรเป็นประโยชน์อะไรเป็นโทษกว่ากัน พระอริยะจริๆงท่านไตร่ตรองรอบคอบกว่าแยะ

    ทุบทำลายพระพุทธรูปเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ
    ถ้าคนทำลายเป็นพระอรหันต์เอาความรู้ระดับพระอรหันต์ของตนมาทุบทำลายพระพุทธรูป ที่พุทธบริษัทส่วนมาก ที่เป็นยังปุถุชนเคารพกราบไหว้ ใช้เป็นเครื่องระรึกถึงพระพุทธเจ้า
    พุทธบริษัทส่วนไหญ่ยังเป็นปุถุชน ย่อมไม่เข้าใจไม่เห็นด้วย โกรธแค้น ตำหนิ ติเตียนพระอรหันต์นั้น จิตของพุทธบริษัททั้งหลายนั้นก็จะเข้าถึงทุคติเมื่อตายไป พระอริยะนั้นคิดเห็นโทษมีมากอย่างนี้ จึงไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่จะทำลายพระพุทธรูป

    ถ้าจะมีประโยชน์บ้างก็แค่มีประโยชน์แก่ตัวกูเองที่จะได้ประกาศให้โลกรู้ว่า เพราะกูรู้ กูพ้นแล้ว(แต่ไม่พ้นตำรานะ) กูไม่ยึดติดแล้วกูจึงกล้าทุบทำลาย สิ่งที่พวกโง่เคารพกราบไหว้ ก็เท่านั้น

    ดูๆไปก็คล้ายที่พระเทวทัตทำ ทำเป็นเคร่งครัีดในศีล ให้คนเข้าใจว่าข้าเคร่งครัดกว่า ดีกว่้า แน่กว่า

    "ผมไม่ดีกว่าคนอื่นหรอกครัีบ แต่ผมรักษาศิลแปด":'(
     
  9. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    -----------
    ก็คุณตอบไม่ตรงคำถามนะครับ คห.นี้ก็เช่นกัน

    ผมถามว่าสสารที่คุณเลือกกราบไหว้เป็นชนิดใด
    และสิ่งนั้นต้องเป็นเชื้อสายคุณเท่านั้นหรือไม่

    ที่คุณตอบมันไม่ตรง จึงไม่นับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2011
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระพุทธรูปที่ผมรู้จักคือก้อนกายอันประกอบไปด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของน่าเกลียด เป็นกายเน่า มีหนังเป็นที่สุดรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาด มี
    อยู่ในกายนี้ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ ผังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้ทบ อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา มันเหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร

    รูปหล่อ รูปปั้น ใครสร้างใครกราบไหว้ก็แล้วแต่ศรัทธา พระสงฆ์สร้างพระพุทธรูปผิดพระธรรมวินัย ทำน้ำมนต์อธิฐานจิตก็ผิดแล้ว สิ่งศักดิ์อิทธิปาฏิหาร์ยมีจริง ถึงเวลาให้ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนก็ต้องรับกรรมเก่า เทวดา พรม ยังตายเลย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มันก็เป็นเช่นนั้นเอง แล้วจะไปยึดให้เป็นทุกข์ทำไม
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002

    กราบไหว้บรรพบุรุษผมทำตามประเพณี ผมก็เคยบอกไปแล้วผมมีปูย่าตายายพ่อแม่พี่น้อง ก็ทำตามประเพณีเครารพผู้ใหญ่ แต่ไม่ยึดติด
     
  12. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ---------------------

    ไม่ยกคำว่ากราบไหว้ฟ้าดิน กราบไหว้ต้นไม้มาด้วยหละครับ
    ไหนว่าไม่ยึดติด แล้วทำไมยังกราบไหว้ แม้ต้องตามประเพณี
    คุณก็ไม่ควรจะทำ เพราะสิ่งที่บรรพบุรุษกราบไหว้พระพุทธรูป
    ก็ถือเป็นประเพณี อย่ามาอ้างว่าแค่พิธีกรรม ฟังไม่ขึ้น

    คุณไม่ควรจะกราบไหว้อะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างเป็นสสาร
    ไม่มีสิ่งใดเลยที่หนีพ้นคำว่าสสารไปได้
     
  13. โฮดี้๐๐

    โฮดี้๐๐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +14
    มีนิทานเซนที่น่าสนใจหลายเรื่อง เกี่ยวกับ "ซูตงโพ(苏东坡)" ยอดนักกวีและนักปกครองในสมัยซ่งใต้ กับอาจารย์เซนฝออิ้น ณ วัดจินซาน

    ครั้งหนึ่งอาจารย์เซนฝออิ้นและซูตงโพเดินทางไปกราบพระยังวัดหลิงอิ่น ณ เมืองหางโจว เมื่อเข้าไปในอุโบสถ อาจารย์เซนฝออิ้นจึงกราบลงที่เบื้องหน้ารูปสลักไม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน

    เห็นดังนั้น ซูตงโพก็เอ่ยถามขึ้นว่า "ผู้ คนพากันกราบไหว้ สวดมนต์บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม แต่ไฉนในพระกรของพระองค์ก็มีประคำสำหรับสวดมนต์คล้องไว้เช่นเดียวกับคน ธรรมดา อย่างนั้นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงสวดมนต์บูชาต่อผู้ใด?"

    อาจารย์เซนฝออิ้นตอบว่า "บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมเช่นกัน"

    ซูตงโพจึงแย้งว่า "บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม? นั่นใยมิใช่พระโพธิสัตว์กวนอิมสวดมนต์บูชาตนเองหรือ?"

    อาจารย์เซนฝออิ้นจึงตอบว่า "นั่นเพราะพระองค์ทรงกระจ่างในใจมากกว่าเหล่าเวไนยสัตว์ ว่าที่แท้แล้ว ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่างไรเล่า"

    ปัญญาเซน : ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทุกข์จักดับได้ด้วยปัญญาแห่งตน
     
  14. ksriuta

    ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +2,971
    ผมเห็นว่าการไม่ต้องการให้มีการนำรูปพระไปทำเหมือนเป็นพุทธพาณิชย์เป็นสิ่งที่ดีนะครับ

    แต่คนเรามีหลายระดับนะครับ ผู้ที่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวก็ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวอยู่ดี

    ท่านคัดค้านการมีพระพุทธรูป คนเขาก็เอาธรรมจักรมาแขวนแทน เอารูปเจดีย์มาพกแทน เอาจีวรพระมาพกแทน ฉีกเอาใบลาน หรือสุดท้ายก็คงฉีกเอาพระไตรปิฎกมาพกติดตัวเป็นเครื่องรางอยู่ดีครับ

    (พระคาถาชินบัญชรที่ประกอบด้วยพระนามของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ถ้าท่านเชื่อว่ากันภูติผี สามารถทำให้วิญญาณถูกทำร้ายได้ ทำไมพระไตรปิฎกจะกันผีวิญญาณไม่ได้ละครับ ในเมื่อประกอบด้วยพระนามพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ มากมายเหมือนกัน แถมบอกไว้ซ้ำๆหลายๆรอบด้วย)
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ครับท่าน sutanon ผมขอกราบไหว้ฟ้าดิน กราบไหว้ต้นไม้ ดีกว่ากราบรูปหล่อ รูปปั้นครับ แต่พระพุทธรูปที่เป็นก้อนกายอันประกอบไปด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของน่าเกลียด เป็นกายเน่า มีหนังเป็นที่สุดรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาด มีอยู่ในกายนี้ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ ผังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้ทบ อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา มันเหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร ผมก็กราบขอรับ
     
  16. โฮดี้๐๐

    โฮดี้๐๐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +14
    แล้วในโลกนี้มีอะไรที่แยกขาดจากธรรมบ้างล่ะ รูปหล่อ รูปปั้นนี้มาจากไหน ถ้าไม่ใช่มีฟ้าและดินเป็นบุพการี คงจะปฏิบัติธรรมให้ได้ดียาก ถ้าไม่เคาะความคิดเชิงแบ่งแยกด้วยไม้เท้าสุญญตา นะขอรับ ว่าไงครับจะรับซักทีสองทีไหม
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมันก็เป็นเช่นนั้นเอง
     
  18. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ขอบคุณครับ ผมไม่สนใจครับ ถ้าท่านสนใจเรื่องกรรมผมแนะนำท่านไปศึกษาปฏิจจสมุทรปบาทเอาเถิด ปฏิจจสมุทรปบาทตอบท่านได้ทุกเรื่อง

    เราไม่ได้เป็นผู้กระทำกรรม ผู้อื่นก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำ ทั้งเราและผู้อื่นก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำกรรม แต่กรรมเกิดและดับเพราะ

    ปฏิจจสมุปบาท อนุโลม
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
    เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
    เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
    เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้

    ปฏิจจสมุปบาท ปฏิโลม
    อนึ่ง เพราะอวิชชานั่นแหละดับโดยไม่เหลือด้วยมรรคคือวิราคะ สังขาร จึงดับ
    เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
    เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ
    เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
    เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
    เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
    เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
    เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
    เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
    เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
    เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
    เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมดับ ด้วยประการฉะนี้

    สิ่งนี้ไม่ใช่ของเรา สิ่งนี้ไม่ใช่ของคนเหล่าอื่น
    กายนี้ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ทั้งไม่ใช่ของคนอื่น
    กายนี้เป็นกรรมเก่าตั้งอยู่ในเวทนา

    เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
    เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
    เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
    เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ขอบคุณครับ ผมไม่สนใจครับ ถ้าท่านสนใจเรื่องกรรมผมแนะนำท่านไปศึกษาปฏิจจสมุทรปบาทเอาเถิด ปฏิจจสมุทรปบาทตอบท่านได้ทุกเรื่อง
    เราไม่ได้เป็นผู้กระทำกรรม ผู้อื่นก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำ ทั้งเราและผู้อื่นก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำกรรม แต่กรรมเกิดและดับเพราะ

    ปฏิจจสมุปบาท อนุโลม
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
    เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
    เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
    เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...