การจะใช้คาถาให้ขลังขึ้นอยู่กับ..........

สิ่งดีๆ เพิ่มสติปัญญา สนใจบ้างเหอะ อย่ามัวอาฆาตเขาอยู่เลย

 

การที่ดูถูกชาวบ้านอยางเราๆว่าโง่เขลาก็เท่ากับว่าคุณดูถูกบันพบุรุษของคุณเอง มันก็เท่ากับคุณเนรคุณนั่นเองเพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะพวกเขาก็เชื่อในสิ่งเหล่านี้ วิทยาการที่คุณๆพูดมามันก็มีขึ้นไม่กี่ปีเองไม่ใช่เหรอ จะมาเทียบอะไรกับ ขระ เลขยันต์ คาถา ขนบทำเนียม ประเพณีอันดีงามของไทยเรา ที่มีมาเป็นร้อยๆปี อย่างเช่นการที่ศิษย์แต่ละสำนักจะต้องกลับไปยกพาน ครอบครูปีละ1ครั่งก็เป็นการแสดงความกตัญญูต่อ ครู อาจารย์ ก็เป็นสิ่งที่ดีทั่ง คิดเองเหอะผมพูดได้แค่นี้ อนุโมทนา สาธุ

 

ครูบาอาจารย์ผมแนะหมดทุกอย่างครับ แต่ผมก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่จะต้องเอามาบอกกล่าว... การควบคุมอารมณ์ดูจากการโพสก็น่าจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ควลคุมอารมณ์ไม่อยู่ อิอิ แค่นี้ก็หลุดซะแล้ว สมเพียรไม่พัฒนาเลยมัวแต่คิดค้นวิชาแปลกใหม่ขึ้นมาเองอยู่ล่ะสิแบบว่าไม่ซ้ำชาวบ้าน ท่องปุ๊บเหาะได้เลยว่าไง
ไม่ต้องมีครูอาจารย์ เก่งคนเดียว โอ้วแบบนี้สงสัยจะดังกว่าอาจารย์หนู นะครับนี่

ภูมิครูให้ดูที่ศิษย์ อันนี้ก็ไม่แปลกเพราะว่าคุณสมเพียรไม่ได้เรียนกับครูบาอาจารย์ถึงไม่รู้ในสิ่งที่ครูบาอาจารย์เขาสืบทอดกันมา

อันนี้ก็คิดว่าอยู่กับวาสนาของแต่ละคน บางคนเจอครูดี ก็ดีไป ไปเจอแบบพวกหลอกลวงก็แย่หน่อย

 

ภูมิครู ให้ดูที่ศิษย์ แต่จะไม่มีให้ดูถ้าเป็นศิษย์ไม่มีครูครับ การกตัญญูต่อครูบาอาจารย์นั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรทำอย่างยิ่งครับผมขอสนับสนุน

ถ้าการนอบน้อมต่อครูบาอาจารย์แล้วใครจะดูว่าโง่เขลา เป็นผมก็จะยอมรับ
ครับยอมเป็นคนโง่ที่รู้จักคุณครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ดีกว่าเป็นคนฉลาดที่ไม่รู้จักบุญคุณ

บางคนพูดนิดนึงก็คิดได้ครับ แต่สำหรับคนบางพวกเท่านั้นที่เกินเยียวยา

 

เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าโง่เขลาเหมือนเดิม
เจ้าช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ถ้าคนไม่มีครูไยจึง ฝึกวิชามานับสิบๆปี ได้ถึงบัดนี้
ความเชื่อก็คือความเชื่อ เชื่อแบบผิดหรือแบบถูก หละ แล้วความเชื่อที่ปราสจากความคิดเพราะเชื่อ สู่รากเง่าปัญญา หรือ พูดง่ายๆว่า เชื่อแบบผู้ใช้สมอง ไตรตรอง ต่อยอด นั่นแหละจึงจะถูกต้อง ตามหลักพระพุทธเจ้า คือไม่เชื่อเพราะสืบต่อกันมา ไม่เชื่อในตัวบุคคล ไม่สิ่งใดๆเลย ถ้าไม่ทดสอบทดลองด้วยตนเอง นี่แหละ คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด อย่างน้อง เขาเรียกว่าเชื่ออย่างงมงาย หลงในตัวอาจารย์ อาจารย์ผู้มีปัญญามองการไกล ย่อมเข้าใจในหลักการนี้อย่างแน่นอน
สุดท้าย นี้

ขอให้ คุณสี่คนหาม เป็นศิทย์ที่รู้ บุญคุณครูอาจารย์ เพื่อความเจริญ แก่ตัวคุณ ต่อไป นะคับ ไม่ใช่ อาจารย์ยืมโทรศัพย์ใช้งานหน่อยก็หาว่าท่านเอาเปรียญ ยืมตังนิดก็หาว่าอาจารย์ขี้โกงนะคับ จงคิดแต่สิ่งที่ดีๆให้มากๆ จะได้ล้างจิตสันดารส่วนลึกที่ จ่องอาฆาตผู้มีพระคุณต่อๆไป ซะทีนะหนู เอ๋ย.........<!-- google_ad_section_end --> สาธุ

 

คุณกาฝากรักครับ หัดใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องก่อนนะัครับ ก่อนจะไปเรียนคาถาต่าง ๆ ให้ได้ผลนะ ที่พิมพ์มาอ่านแล้วเหนื่อย

 

เพ้อเจ้ออออ สิบปีก็เห็นอยู่กับที่ควบคุมอารมณ์ตนเองยังไม่อยู่เลยย สมเพียรกลับบ้านไปเป่าแสนครั้งดีกว่านะ

 

ใช่ครับต่อฝึกไปตลอดชีวิตถ้าไม่รู้จักคำว่าครู ก็ไม่มีวันที่ใช่คาถา ได้แน่นอน ซึ่งแม้แต่ครู อาจารย์ยังไม่ให้ความเคราพเลยไม่มีวันจะให้คาถาได้ คาถาทุกบททุกช่อมีแรงครู ที่พี่เอาเรื่องของพระพุทธองค์มาอวดอ้างทำตัวเหมือนพระพุทปองค์ตรัจรู้ได้ด้วยพระองค์เองโดยไม่มีครูขอบอกเลยว่านั่นนะอัจริยะบุคคลมีเพียง1เดียวในโลกซึ่งท่านก็ยังเป็นครู ของสัตว์โลก มนุษย์ เทวดา ไม่ใช่เหรอแล้วแต่ปัญญาเถอ

 

สี่คนหาม

จงเชื่อแบบผู้ใช้สมอง ไตรตรอง ต่อยอด นั่นแหละจึงจะถูกต้อง ตามหลักพระพุทธเจ้า คือ ไม่เชื่อสิ่งใดๆเลย ถ้าไม่ทดสอบทดลองทำด้วยตนเอง นี่แหละ คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด

 

ไม่ได้บอกให้ไม่เชื่อฟังครู
ไม่ได้บอกให้ละทิ้งประเพณี
ไม่ได้บอกว่าตนอัฉริยะ
แต่...........
บอกว่า ให้เรียนรู้แบบฉลาด ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ว่าอะไร คืออะไร ฝึกฝนมามากพอต้องคิดเอง ทำความเข้าใจเอง ได้แล้ว ทำความเข้าใจให้มากๆ เมื่อนั้นถึงเวลานั้น คุณจะค้นพบซึ่งที่มาอันแท้จริง เพื่อก้าวไกลต่อๆไป

 

จงอย่า ยึดติด กับจิตอาฆาต อีกเลย

 

กำ เถียงกันทุก กระทู้เหมือนเดิม เลยนะ 5555555+ เรียนแล้วเอาไปทดสอบ กับพวก เทวดาข้างบน บ้างนะครับ จะได้รู้หลักการใช้ต่อไป นะ อิอิ

 

เมื่อวานนี้ เจอคนที่พูด แบบคุณสี่คนหาม กับ กาฝากรัก ไม่มีผิด แถมยึนยันหนักแน่น เรื่องการใช้คาถาได้ ต้องมีครอบครู ตั้งพิธี เครืองเซน อะไร เชื่อเหมือนคุณทั้งสองพูดไม่มีผิด แต่พอซักถามเข้าลึกเข้า ถึงได้รู้ว่าเป็น แค่พวก รู้แค่ผิวเผิน ไม่กล้าแม้กระทั้ง เรียนวิชา ฝึกคาถาเข้าเบื้องลึกอย่างจริงจังใดๆเลย แล้วมาพูด เหมือนดังผู้เชียวชาญ ฝึกฝนมานับ สิบๆปี เหอ...........คนเราไม่ได้ฝึกวิชาอย่างจริงจัง หรือ เรียกว่าเหยียบ ขี้ไก่ไม่ฟ่อ ไม่น่ามาพูด มาสั่งสอน คนที่ทุมเทฝึกวิชาจริงจัง เลย
เด็กน้อยเอ๋ย.......

 

อย่าไปฟังอ้ายสมเพียรมันมากมันโดนของหมอผีเขมรตีกลับจนเพ้อเจ้ออหนักกว่าเก่า คนประเภทนี้ขุนไม่ขึ้นหรอก

 

จากชายเปลี่ยนมาเป็น กระทาน้องนุ่มนิ่ม อีกแล้วหรือ น้องอ่อนหัด

 

จะให้เรียกว่า อีน้องนุ่มนิ่ม <!-- google_ad_section_end --> หรือ อ้ายน้องนุ่มนิ่ม เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ

 

สำคัญว่าใช่ก็จะใช่อยู่อย่างนั้น ใครจะมานั่งอธิบายให้รู้ในส่วนนั้นๆล่ะครับ
บุญมีวาสนาส่งแม้คลำไม่ถูกทางก็เจอ
เจอถูกใจแต่ไปผิดทางก็มีเยอะ
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็อยู่ในธรรมชาตินี้.....

 

การใช้คาถาให้ขลังขึ้นอยู่กับ จิตเราครับ

 

ถ้าพูดลวกๆ โดยรวมก็ใช่ ก็เหมือน เราจะเดินทางไปเชียงใหม่ จะทำอย่างไร

-ตอบ---------ให้เดินทางไป-------

แล้วเดินทางไปอย่างไร มีให้เลือก 4 อย่าง
1.เดินเท้าเปล่า ไปก็ถึงเหมือนกัน
2.ปั่นจักยาน
3.นั่งรถเมล
4.เครื่องบิน

แล้วคุณเลือก การเดินทางแบบใด ส่วนมนต์คาถา จะใช้สำเร็จได้ก็เช่นกัน

ถ้าคุณเอาแต่ท่อง เหมือนดังที่ คุณนุ่มนิ่ม คอยด่าคุณ สม ว่า ท่องเป็น 1000 รอบก็ไม่สำเร็จ ก็ ถูกต้อง ถ้าคุณสมใช้วิธีท่องดังว่า แต่ที่ผมได้ติดตามคุณสมมา เขามีวิธีที่ดี กว่านี้เยอะ แถมใช้เวลาน้อยกว่ามากมาย อย่างหลักการใช้คาถาที่เขาสรุป3ข้อ คือ 1. รวมจิต 2.ท่อง 3. ใช้ แค่นี้ก็ครอบคลุมหลักการใช้คาถาของเหล่าเกจิเก่งๆ แทบทุกสำนักก็ว่าได้ ซึ่งไม่พ้นวิธีนี้ไปได้เลยแถมเหล่าเกจิที่ฝึกมาก็ไม่เข้าใจหัวใจหลักการตัวนี้ด้วยซ้ำ จึงทำให้ทำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะเหตุใด รู้แต่เพียง ว่า ทำได้ไม่บ่อยคือเรื่องจริงและยอมรับแต่โดยดี แต่หารู้ไม่ว่า เพราะเหตุที่ทำไม่ได้เพราะอะไรกันแน่อาจารย์ของอาจารย์ไม่ได้สั่งสอนและไม่ได้สนใจที่จะค้นหาความจริง จึง ไม่รู้ว่าการจะ ทำได้บ่อยมีอยู่จริงๆหรือ เพราะ โดนอาจารย์รุ่นก่อนฝังหัวความเชื่อแบบเก่า อันเป็นตัวการสำคัญของการพัฒนา พลังเวทย์ขั้นสูง หรือ ที่เรียกว่าวางยา
แต่จริงๆ มันคือการวางอย่างไม่ตั้งใจเสีย มากกว่า เพราะอาจารย์ ก็สอนต่อๆกันมา แบบที่เข้าใจว่า ของดีๆไม่ควรใช้แบบพร่ำเพื่อ ควรใช้เท่าที่จำเป็น
แต่หารู้ไม่ว่า ของดีจริง ต้องสามารถใช้ได้ทุกครั้งตามที่ต้องการ

 

การจะพัฒนาสิ่งใดต้องทำความเข้าใจอย่างจริงจัง และ ลงมือทำ
ไม่ควร ปิดกันสติปัญญา ด้วยความเชื่อ ความงมงาย อย่างเดียว
ถ้าเราทำความเข้าใจจริง ก็จะรู้ว่าหลักการของการใช้คาถา ก็ แทบ
จะไม่ต่างจากหลักการของหลักวิทยาศาสตร์แม้แต่น้อย