ฝึกนั่งสมาธิครั้งแรกครับ

ฝึกได้ไม่นานนะครับ ประมาณ10นาที ก็นั่งหายใจเข้าพุทธหายใจออกโธ ไปเรื่อยๆอะครับ รู้สึกตัวร้อนๆละก็เหมือนหัวใจเต้นทีมันกระเทือนไปทั้งตัวเลยครับ ละก็ห้องที่อยู่ตอนแรกเงียบมาก แต่พอนั่งสมาธิปุ๊บ เสียงมาจากไหนในห้องไม่รู้เยอะแยะไปหมด ขวดน้ำดังบ้าง ของหล่นชนนู่นนี่บ้าง แต่ก็พยายามไม่สนใจนะครับ แต่แอบมีความรู้สึก เอ๊ะ! นิดนึง ขอคำแนะนำสำหรับการฝึกด้วยครับ ละที่ฝึกตะกี้ ผมทำถูกมั้ยครับ ละมันปกติรึเปล่าครับ:VO

 

เขาอาจจะมาขอส่วนบุญก็ได้ครับ ทำสมาธิเสร็จแล้วแผ่เมตตาให้เขาดูนะครับ
ผมเองเมื่อวานกำลังนั่งสมาธิอยู่ละคิดไปว่าจะแผ่เมตตาหลังนั่งสมาธิเสร็จ พรรพรรคหมาเอาเลยครับ หอนรับกันเกรียวเลย ผมแอบมีขนลุกด้วย ^^'

 

ก่อนภาวนาก็ แผ่เมตตาก่อน แล้วพุทโธ ธัมโม สังโฆ สามครั้ง แล้วก็ยึดบทหนึ่งบทใดก็ได้เช่น พุทโธ ๆ ไปเรื่อยๆ ให้สติกับลมหายใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้สนใจแต่จิตเรา อย่าสนใจภายนอก ได้ยินอะไรก็อย่าส่งไป... รู้อะไร รู้เฉพาะจิตเรา ถ้าลองส่งไป เราก็จะโดนความคิดเราหลอกเอง ยิ่งกลัวผี ก็จะยิ่งแล้วใหญ่ ผียังไม่ทันหลอก เราหลอกตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ...:boo::boo::boo:

ลองอ่านlinkนี้ดูครับ มีประโยชน์มาก http://palungjit.org/threads/หลวงปู...งสมาธิแต่ละอันดับ-ขณิกะ-อุปจาระ-อัปนา.323215/

 

ขอบคุณมากค้าบบ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มาให้ธรรมทานด้วยครับ

 

ดีแล้วครับ พุทโธไปเรื่อยๆ สติอยู่แต่พุทโธนะครับ มันดังก็ปล่อยมันไป แค่รู้ว่าดังก็พอ
ไม่ต้องไปคิดไปหาว่า อะไรดัง ดังได้ยังไง ผีหรือปล่าว ดูพุทโธไปก็พอครับ

 

รบกวน ยัดเยียดความเข้าใจ ให้เอาไปวิเคราะดู ตามจริงจ๊าาาา

ในเหตุ เเห่งสมาธินั้น เมื่อมาถูกทางเเล้ว อาการที่เกิดดังว่า นั้น เราถือว่าเป็นเรื่องปกติ สมควร กับเหตุของจิต ที่เป็นสมาธิยิ่งเเล้ว

บอกว่าได้ยินเสียงหัวใจเต้น กระเทือนไปทั้งตัว กับห้องที่ เเรกเดิมทีเงียบสงบดีอยู่ เเต่พอนั่งๆ ไป กับดังขึ้นนั้น

มาจาก จิต ที่สงบขึ้น จนได้ยินเสียง รอบๆตัวชัดเจนขึ้น ได้ยิน เสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่ เเต่เดิมเราไม่ได้ยิน เช่นเสียงเข็มหล่น หรือ เเม้เเต่เสียงของหัวใจตัวเองเต็น

เพราะใจมันสงบขึ้น มีกําลังในการรับรู้ สภาวะภายนอกได้ดีขึ้น เวลามีอะไรมันวิ่งมากระทบ กระเเทก ให้ประสาทสัมผัสต่าง มันจึง ไวขึ้น ชัดขึ้น ตามกําลังของสมาธิ ค่ะ

เมื่อมาถูกทางเเล้ว ทีนี้ลอง ไม่ต้องไปสนใจมันดู มันจะดัง จะเบา จะละเมียดลมุน เเค่ใหนก็ช่างมัน ปล่อยมันไปตามเรื่องของมัน
ให้ ใจมันจดจ่ออยู่กับ คําภาวณา หรือ ลมหายใจ เท่านั้นเป็นพอ

เเละที่สําคัญ คือ ไม่ต้องไปปรุงเเต่งอะไรมันเพิ่ม เติมจากที่เป็น

เช่น ได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ใกล้ๆ หรือ ได้ยินเสียงอะไรก็ตาม อย่าไป นึก คิด ต่อยอดมันออกไป เอาเเค่รู้ว่า เออ มันมีเสียงนะ เอาเเค่นั้น ไม่ต้องไปนึกว่า เจ้ากรรม นายเวร มาหา มาขอนั้น นู้น นี่ ไม่ต้องไปต่อยอด เเบบนั้น

เอาเเค่ได้ยิน รู้ว่าได้ยิน เเล้วก็ปล่อยมัน ไม่ต้องเอาใจ ไปจับไว้กับสิ่งที่มันวิ่งมากระทบ



ตามนั้นจ๊าาาาาาาาาาาา

 

โห ตอบได้ละเอียดมากครับ ขอบคุณมากๆค้าบบ คำตอบนี้เป็นเหมือนประโยชน์ละก็กำลังใจครับ ดีใจที่มาถูกทางคับ ต่อไปจะพยายามมากกว่านี้
ขอบคุณอีกทีครับ :d

 

อนุโมทนาครับคุณ วิญญาณนิพพาน ผมห่างเหินการสวดมนต์ไปช่วงนึงครับ แต่ตอนนี้เริ่มสวด บทสองบท เนื่องจากหนังสือสวดมนต์หายตอนย้ายที่อยู่ ละก็ห่างการสวดมนต์ครับ เลยทำให้จำบทสวดไม่ค่อยได้ จะว่าไปก็ความขี้เกียจผมเองด้วยแหละครับ หลังจากปีใหม่นี้เกิดสิ่งอัศจรรย์หลายๆอย่าง ทำให้ผมอยากที่จะปฏิบัติอีก ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ทุกคำตอบมีความหมายกับผมมากจริงๆ;aa7

 

เราก็เพิ่งนั่งสมาธิครั้งแรกเหมือนกันค่ะ

พอนั่งสมาธิ ก็จะได้ยิ่งเสียงต่างๆชัดมากขึ้น ปกติแล้วไม่ค่อยได้ยินค่ะ

แต่พอนั่งไปสักพัก เราก็รู้สึกว่ามันวังเวงแล้วจากนั้นจิตก็คิดไปเอง

กลัวผีจะมาบ้างล่ะ กลัวผีจะมาขอส่วนบุญบ้างล่ะ

แล้วพอได้ยินเสียงอะไรนิสนึงก็สะดุ้งลืมตาเลยค่ะ จะแก้ยังไงดีค่ะ

 

วังเวง น่ะดีเเล้ว

ส่วนตัว เเล้วชอบจัง ไอ้อาการวังเวง วิเวก วิโหว่ เหว่ เนี้ยยยยยยยยยย

ถ้านั่งไปจนถึงอาการที่เริ่มจะ วังเวง เเล้วเริ่มรู้สึกว่า รอบๆ เราอยู่คนเดียว จิตใจไม่วอกเเวก ไม่วิ่งไปมา จับเรื่องนู้น เรื่องนี้ ขึ้นมาไปเรื่อย

ส่วนตัวนั้น น้องถือว่า ดี ทีเดียว

เเต่ทีนี้ พอมันวังเวงเนี้ย มันไม่ใช้อาการ ปกติ ของสภาวะที่เราเคย รับ เคยคุ้นชินกับมัน
มันเป็นอาการที่ อยู่เหนือความปกติของใจ
เหมือนเราตื่นรู้ใน สภาวะเเวดล้อม รอบ ๆ เดี๋ยวหนัง เดี๋ยวเพลง เดี๋ยวคนคุยกัน นั้น นู้น นี่ เยอะเต็มไปหมด ใจมันก็เลยอยู่กับ สภาวะนั้นๆ จนคุ้นชิน
ด้วยความเคยชิน ของใจ มันก็เลยรู้สึกว่า สภาวะนั้น มันเป็นปกติ ปกติ ของเรามันต้อง เเบบนี้ มันมีเพื่อน มันรู้สึกอบอุ่น ว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ได้อยู่คนเดียว

เพราะ มันมีสิ่งเร้าอยู่รอบๆ คอยเป็นเพื่อน ปลอบปะโลมใจ ไม่ได้ขาด

เเต่ในความเป็นปกติ ของใจจริงๆ เเล้วนั้น

ความมั่นในสติ ไม่สัดส่าย เเก่วงไปมา นั้นต่างหากเราถึงจะเรียกว่า ความเป็นปกติของใจ

เราต้องทําความเข้าใจตรงนี้ให้เห็นก่อน ว่า เเบบนี้เเหล่ะ ที่เขาเรียกว่าความ ปกติ ของใจ มิใช้ เเบบนั้น

ถ้าเราเห็นได้ตามนี้เเล้ว

เราก็จะเห็นเลยว่า ไอ้สภาวะที่ว่ามัน วังเวง นั้น มันก็คือสภาวะรอบๆ ของรอบๆ อีกที ส่วนความรู้สึก ที่มันวังเวง นั้น เป็นอาการของใจ ที่มาจากใจ

สังเกตุดี ดี น่ะ ว่ามันคนล่ะส่วนกัน ความนิ่งสงบ กับ ความรู้สึกวังเวง สองตัวนี้มันคนล่ะตัวกัน เเยกกันออกมาก่อน

เเล้วค่อยมาดูว่า ความวังเวงนั้น มีเหตุมาจากสิ่งใด

มาเรามาดูกันว่ามันมาจาก ตรงใหนกันเเน่

1 มาจากสภาวะเเวดล้อม รอบ รอบตัวที่มันเงียบสงัด

2 มาจากใจที่มันเริ่มสงบ

3 มาจากการปรุงเเต่งของใจ ที่ มีสัญญาความจัาได้ ละลึกได้ เข้ามาปรุงเพิ่ม
เช่น ดูหนังผีมา หรือ เขาเล่ากันมา อะไรต่างๆอีกมากที่ มัน เป็นความละลึกได้ ว่า นี่ เงียบ เงียบ เเบบนี้ปะเดี๋ยวผีมันต้อง ออกมาเเน่ๆ
นั้น เขาเรียกว่า ปรุงเเต่งเกินจิต

เอาสามข้อก่อนจริง จริงมันเยอะกว่านี้

เมื่อเราเห็นสามข้อที่ว่านี้เเล้ว เราก็ลองเอามาเทียบดู กับ สภาวะที่มันเกิดขึ้น ใน ระหว่างที่เรากําลังนั่ง สมาธิ ลองเอามาเทียบกันดู ซิ
ว่า อาการ วังเวงที่ว่านั้น มันเป็นเพราะอะไรกันเเน่

ถ้าลองเทียบดูเเล้ว ผล เป็นเช่นไร เห็นมันไหมว่า เราปรุงมันเองรึปล่าว เราคิดไปเองรึปล่าว ถ้าใช้ เเล้วเราจะไปปรุงมันทําพระเเสง ของ้าว เพื่ออะไรกัน

เมื่อเห็นเเล้ว เข้าใจเเล้ว ก็ วางมันลง

เเล้วก็ ดําเนิน จิต ตามลม ตามคําภาวณาต่อ อย่าให้มันมามีผล สกัดกั้น จนเกินงาม

คิดได้ ปรุงได้ จิตนาการก็ได้ เเต่อย่าให้มันอยู่กับเรานานเกิน จน มันกลับมาลดถอนกําลังของ จิต ลง

รู้เเล้วเข้าใจเเล้วก็วางมันลง

เเต่จริงๆเเล้ว มันก็มีหลากหลายวิธีน่ะ ในการวิ่งเข้าไปดับ ตัวความรู้สึกที่เราเรียกว่า วังเวง เนี้ยยยยยยยยย

เเต่วิธีอื่น มันไม่เห็นในเหตุ เเบบ ชัด ชัด เท่าวิธีนี้




เป็นวิธีส่วนตัวน่ะเจ๊าค่ะ ส่วนท่านอื่นจะมีวิธีใหนก็ลอง ศึกษาดู ไปเรื่อยๆ

เจริญในธรรมจ๊าาาาาาาาาาาาา

 

เราเป็นคนขี้กลัวค่ะ แต่ว่าเราจะพยายามทำให้ได้ค่ะ

ขอบคุณที่ชี้แนะนะค่ะ เราจะลองไปปฏิบัติดูนะค่ะ

 

เมื่อวานนั่งครับ ปรากฏแพ้จิตฟุ้งซ่าน เข้าไม่ถึงสมาธิ เพราะเรื่องปวดหัวเยอะจริงๆ
วันนี้ลองนั่งดูใหม่ครับ ได้ผลครับ เข้าลึกไปเรื่อยๆจนถึงสมาธิได้แค่สองวินาที พี่เคาะประตูปั่ง! สะดุ้งอย่างแรก หลุดเลยครับ -0- ปกติพี่เคาะประตูเบานะครับ แต่พอนั่งสมาธิสะดุ้งโหยงเลยคับผม พรุ่งนี้จะพยายามอีกครับ :'(

 

.....สู้ๆ..........

 

เป็นเหมือนกันค่ะ
เวลานั่งสมาธิ จิตเข้าถึงสมาธิแล้วพอแม่หรือน้องเปิดประตูที
ตกใจ+สะดุ้งเลยค่ะ ปกติก็ไม่ได้ตกใจนะค่ะเวลาคนเปิดประตูเข้าออกเนี่ย

ยังไงก็สู้ๆนะค่ะ ^^

 

วันนี้แปลกมากครับ รู้สึกว่านั่งแต่ยังไม่เข้าถึงสมาธิ แต่ผมเหนภาพผู้หญิงผมยาวเป็นชอตๆครับ งงมาก ภาพที่เห็นมันเหมือนกับ รูปพระเยชูที่ให้จ้องนานๆแล้วกระพริบตาถึงเห็นอะครับที่เป็นภาพในความมืด ผมไม่รู้อธิบายยังไงแต่บางท่านน่าจะนึกออก แต่นี่ผมหลับตาอย่างเดียวเลย ละเห็นเป็นชอตๆโดยที่ไม่ได้ลืมตาเลย ภาพเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนี้โตขึ้น โตขึ้น จนแก่คับ สติผมยังปกติเหมือนเดิมตอนผมไม่ได้นั่งอะครับ แต่นี่ผมนั่งได้ซักพักมันก็ขึ้นภาพมา มันเกี่ยวกับที่นั่งสมาธิรึป่าวครับ คือตอนนั้นผมไม่ได้คิดไรเลยแต่เหมือนภาพมันขึ้นมาบนเปลือกตาผมที่ปิดอยู่หรืออะไรไม่ทราบอะคับ

 

เอาล่ะ เค้าเรียกว่านิมิตร นิมิตรแบบนี้เขาเรียกอะไรไม่รู้ภาษาศัพย์นั้ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องไปถาม ตาหม้อ กับ เจ๊ตับ...โน่น

แต่ว่าให้คุณคิดแบบง่ายๆนะ เวลาคุณทำงานอะไรซักอย่างแล้ว ดันเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมา หรือ รถสวยๆและไม่สวยวิ่งผ่านไปมา และอื่นๆ ถ้าคุณสนใจมันงานคุณก็จะไม่เสร็จหรือเสร็จช้าเพราะเสียสมาธิมัวต่ไปสนใจอย่างอื่นใช่ไหม ในกรณีเดียวกันให้เอาไปใช้กับทำสมาธิของคุณ จบ...........................

 

ขอบคุณคับบ แต่ผมจะถามเค้ายังไงอะคับ ผมเล่นบอร์ดเปนแค่ ตั้งกระทู้ตอบกระทู้อะคับ -0-

 

เมื่อพี่ เเจ็ค เก้าหก ส่งมาเยี่ยงนั้น ก็ว่ากันไป

ที่คุณพี่กําลังพิม อยู่เเล้วโพสนี่ไง ที่เขาเรียกว่าถาม

เเล้วเดี่ยวบรรทัดต่อไปน้องจะตอบล่ะน๊าาาาา


ด้วยเรื่องของ ปิติ นั้น หากจะให้เข้าใจในเเบบถ้วนทั่ว ทุกขบวนความ
นอกจากข้อมูลใน กรูเกิล เเล้ว ก็ จําต้องมีการปฎิบัติ รวมเข้าไปด้วยจึงจะดี
เเค่ลําพังหาอ่านเอานั้น มันยังไม่เห็นในภาพเเบบชัดเเจ๋ว

งั้นลองหาเอาในกรูเกิล อ่านเเล้วทําความเข้าใจ

เเล้วก็ต่อไปคือ ลงมือ ปฎิบัติ

ส่วนที่พี่ เเจ็ค เขาอุปมา ทิ้งไว้นั้น
เข้าหมายว่า

อย่าไปสนใจ อะไรมากกับ ดอกไม้ข้างทาง เพราะมันจะทําให้ไป ทํางานสาย

พูดให้ง้ายขึ้นไปอีก ก็คือ ในระหว่างที่เรา รู้สึก เห็น นั่น นู้น นี่ ก็อย่าไปจับ อย่าไปยึด อย่าไปเพ่งจนเกินกําลัง
เอาเเค่พอรู้ พอเเตะได้เบาๆ ว่า อ๋อ มันมี เยี่ยงนี้น่ะ มันเป็นเเบบนี้ เเล้วก็วางมันลง
กลับไปหาลม หาคําภาวณา ต่อ ไม่ต้องไปสนใจจ๊าาาาาาาาาาาาาาา

 

นั่งสมาธิครั้งแรก กับเล่นเว็บบอร์ดครั้งแรก อารมณ์มันต่างกันอย่างไรบ้างครับ คุณสังเกตุได้มั้ย ?

ของผมสังเกตุตนเองได้ว่า นั้งสมาธิทำให้ใจสงบเกิดพลังงาน
แต่เล่นเว็บบอร์ดทำให้อารมณ์บรรเจิด เกิดปัญญา ครับ