พระเกษม ในเจาะข่าวเด่นสรยุทธ์

เหล่าลูกศิษย์ที่เคารพหลวงพ่อ ก็คอยดูอัฐิหลวงพ่อนะ ว่าจะเป็นแก้ว หรือเป็นขี้เถ้า นั่นแหละคือเครื่องพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ อันแท้จริง ของจิตที่ตัดขาดจากกองกิเลส

 

เหล่าลูกศิษย์ที่เคารพหลวงพ่อ ก็คอยดูอัฐิหลวงพ่อนะ ว่าจะเป็นแก้ว หรือเป็นขี้เถ้า นั่นแหละคือเครื่องพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ อันแท้จริง ของจิตที่ตัดขาดจากกองกิเลส

 

เป็นแก้วคงยากมาก เลยนะครับ เพราะพระอริยะบุคคล(พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาทาคามีและพระอรหันต์) ท่านจะไม่สอนแบบที่หลวงพี่เกษมสอนอยู่ทุกวันนี้ และที่สำคัญพระอริยะบุคคลจะเคารพคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก

 

ของแท้ ของเจ๋งจริงไม่จำเป็นต้องรอดูขี้เถ้าหรอกครับ พระอริยสงฆ์หลายๆพระองค์ยกตัวอย่างเช่น หลวงตามหาบัว หลวงพ่อประสิทธิ์ก็เป็นแก้วใสได้แม้ว่าท่านยังไม่ละสังขาร แม้แต่อึของหลวงตามหาบัวยังเป็นแก้วใสเลยครับ ว่าแต่ว่าของท่านเกษมที่เป็นข่าวนี้เป็นงัยบ้างครับท่าน

 

ยึดติดทำไมกันขออธิบายว่าการยึดติดยึดติดอะไร คนที่กราบไห้วเขาไม่ได้ยึดติดในทองเหลืองหรืออิฐหินปูนทรายที่นำมา แต่ยึดติดในความดีกราบไหว้บูชาในคุณ 3ประการ คือพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิ์ธิคุณและพระมหาธิคุณ คนที่สร้างก็เพื่อแสดงความกัตญญูในคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครมองเห็นว่าเป็นแค่ทองเหลืองเห็นว่ายึดติดในภายนอกนั้นมันก็เขลาเต็มกาล คุณรู้ไหมล่ะว่าเขายึดติดอะไร และก็ขอแนะไว้อย่างนะถ้าท่านนำตัวท่านเองเป็นตัวอย่างในการไม่ยึดติดเช่นสร้างรูป(ท่านเกษมนะครับ)ด้วยวัสดุอะไรก็ได้แล้วนำมาสอนไม่ให้ไห้วหรือจะกระทำย่ำยีใดๆก็ได้น่าจะดีนะครับ ใครนำพระพุทธรูปก็ไม่ควรถ้าท่านมองเห็นแค่ทองเหลืองแต่การทำกับพระพุทธรูปแบบนี้ไม่ควรเพราะมีอานิสงส์ในการทำลายพระพุทธรูปก็มีนะ

 

ผมก็นับถือท่านนะท่านเกษมนะกล้าดี แต่ซ่าไปหน่อย ไม่ขอพูดถึงดีกว่า

 

คุณgoldtopใจเย็นนะครับ ช่างเขาเถอะ
เด็กวัดกลางหรือครับ ผมก็อยู่แถวนั้นแหละครับ

 

จริง ๆ ผมแค่ผ่านมาและแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ผมไม่ได้รู้จักอะไรกับพระในคลิบเลยสักนิด แต่ผมคิดว่าคุณยังไม่เคยเห็นคนที่เขายึดติดจริง ๆว่าเป็นอย่างไร เขาคิดถึงแต่ตัวองค์พระที่เขาแขวนอยู่ ไม่ได้ส่งจิตไปถึงคุณความดี พระธรรมคำสอนใด ๆ เลย คิดอยู่แต่ที่ตัวองค์พระว่ามีพลัง ว่าขลัง ต่าง ๆ สุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อของพวกคนที่หากินกับวัตถุมงคล เพราะเขาเชื่อและยอมจ่าย

 

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ท่านเล่าว่าเวลาจะกราบหลวงปู่มั่นหากมีรูปหลวงปู่มั่นอยู่ท่านก็จะนำมากราบ หรือหากไม่มีท่านก็จะใช้วิธีนึกถึงหลวงปู่มั่นแทน

 

หลวงปู่ดู่เคยกล่าวว่าติดวัตถุมงคลดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล

สำหรับคนที่ยึดติดกับตัวองค์พระแล้วยอมจ่าย ถ้ามันเป็นสิ่งที่เขามีปัญญาจ่ายได้ด้วยกำลังทรัพย์ของเขาก็ไม่น่าจะผิด แล้วเราทำไมไปเดือดร้อนกับเขา คนที่เขามีอารมณ์ยึดเหนี่ยวเพื่อเพิ่มกำลังใจก็มี บางครั้งให้นึกคิดว่ามีองค์พระก็ไม่อุ่นใจ เพราะจิตใจยังอ่อนต้องมีติดตัวไว้
ถามว่าข้อดีและข้อเสียในการมีองค์พระผมคิดว่าข้อดีจะมีมากกว่า สำหรับคุณที่อ้างแค่ว่ามีคนติดวัตถุมงคล แล้วมาเหมารวมว่าไม่ดีนั้นคิดแคบนะ แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณนะที่ควรยึดถือคำสั่งสอน ยึดถือพระรัตนตรัย แต่คนที่จะคิดแบบนั้นได้กำลังใจต้องสูงแล้ว แต่คนเรากำลังใจมันไม่เท่ากัน คนเราต้องเริ่มจากบันไดขั้นแรกก่อนคือยึดถือแล้วเมื่อแข็งแรงแล้วค่อยปล่อย เปรียบเหมือนหัดว่ายน้ำครั้งแรกต้องมีที่ยึดที่เกาะก่อน พอว่ายเก่งแล้วต่อไปก็ปล่อย แต่นี่ว่ายยังไม่เป็นก็โยนกันทิ้งลงน้ำแล้ว แล้วมันจะเหลืออะไรครับ ในจำนวนพวกที่ทำลายพระพุทธรูปจะมีสักกี่คนที่พิจารณาว่านั่นเป็นแค่ดินน้ำลมไฟ ธาตุสี่ มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่วางกำลังใจแบบนั้นได้แต่ท่านก็ไม่ประมาทที่จะทำแบบนั้น นับว่าพวกท่านเหล่านั้นที่ทำลายพระพุทธรูปประมาทมาก สำหรับผมคงแต่ได้บอกไปเท่าที่มีปัญญาจะบอก และก็คงต้องวางอุเบกขา กรรมใครกรรมมัน

 

มีข้อความตรงไหนที่ผมเหมารวม ผมแค่พูดถึงคนที่เขายึดติดแบบนี้ ว่ามันมีอยู่จริง ๆ และก็แก้ยากซะด้วย

 

พระอัฐิและพระอังคารขององค์หลวงตาแปรสภาพเป็นพระธาตุ<!-- google_ad_section_end -->




ถ้าท่านเกษมอยากดังจริง ทำให้ดูหน่อยดิ นะ นะ นะ

 

ไม่มีข้อความตรงไหนหรอกครับที่คุณว่าเหมารวม แต่ความรู้สึกผม และที่คุณแสดงออกมาตั้งแต่ข้อความแรกจนถึงข้อความเดี๋ยวนี้ มันเหมือนเหมารวมว่าการที่เคารพ กราบไหว้ บูชาพระพุทธรูปเป็นการยึดถือที่ผิด แล้วคุณก็ยกตัวอย่างเอาคนที่ติดวัตถุมงคลเพื่อการพาณิชย์แล้วคุณทำไมไม่ยกตัวอย่างที่เค้ามีไว้บูชาอย่างบริสุทธิ์ใจ แบบนี้มันก็เท่ากับมองแค่มุมลบ แล้วไปเหมารวมฟันธงว่าการมีพระพุทธรูปเป็นการยึดติดที่ผิด เปรียบเหมือนไฟฟ้าข้อเสียมันก็ช็อตคนตาย แต่ข้อดีมันก็ทำให้คนสะดวกสบายแล้วคนทำไมยังใช้มันอยู่ทั้งๆที่รู้ว่ามันฆ่าคนตายได้ ทุกอย่างเปรียบเหมือนเหรียญสองด้าน ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือกแบบไหน แต่แล้วแต่คุณจะเลือกนะ ตามปัญญาที่คุณมี สำหรับผมยังกราบไหว้บูชา แม้แต่กระดาษที่เป้นพระพุทธรูป

 

ไม่ใข่อย่างที่เข้าใจหรอก ที่ผมไม่พูดถึงก็เพราะคนในนี้เข้าใจอยู่แล้วผมเลยมาพูดในส่วนที่ยังไม่เข้าใจ เพราะผมไม่ถนัดพิมพ์อะไรยาว ๆ และอีกอย่างผมแทบจะไม่เคยเจอคนที่กราบแล้วคิดถึงพระธรรมจริงๆเลย ผมเข้าใจว่าคนที่ศรัทธานั้นมีอยู่จริง การกราบไหว้นั้นกราบได้ แต่ก็ระลึกถึงพระธรรมจริง ๆ ไม่ใช่ระลึกอยู่แค่ที่รูปนั้น ผมไม่รู้มีสักกีคนที่จะระลึกถึงพระธรรมตำสอนจริง ๆ เพราะทุกวันนี้ผมก็เจอแทบทุกวันกับคนที่ขายพระเครื่องต่าง ๆ ราคาแพง ๆ มากมาย มีการดูพระแท้พระปลอม ซึ่งถ้าเรากราบไหว้แล้วคิดถึงพระธรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นพระแท้หรือปลอมคงไม่สำคัญ แต่ถ้าเมื่อไรที่เราให้ความสำคัญนั้นแปลว่ายึดติดที่ตัววัตถุนั้นเข้าแล้ว เพราะถ้าไม่ยึดติดแม้ภาพที่เราวาดขึ้นเองก็กราบได้มีค่าเท่ากับของแท้ที่ราคาแพง ๆ

 

นี่คือคำถามที่คุณแสดงออกมา แล้วก็เหมือนเห็นด้วยกับพระเกษมที่แสดงออกไป ผมก็แสดงเหตุผลออกไปตามจริต
สุดแท้แล้วแต่จะฟัง ก็แล้วแต่คุณครับ คิดเอา

 

ผมเห็นด้วยกับการที่พระเกษมสอนไม่ให้คนยึดติดในวัตถุนั้น ผมไม่ได้เห็นด้วยกับการทำลายพระแล้วออกข่าวแพร่ภาพเพียงแต่ผมไม่ได้พิมพ์บอกเอาไว้ การที่จะรู้ได้ว่าผมคิดอย่างไรนั้นอาจจะต้องถามไถก่อน ถ้ารีบสรุปเอาเองก็จะไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้อง
ผมคงอธิบายได้เท่านี้

 

ครับ ผมก็ตอบไปตามที่คุณพิมพ์ไว้ และไม่อาจรู้เจตนาที่แท้จริงของคุณต้องขออภัย และผมก็ไม่อยากรู้ว่าคุณคิดอะไร เอาแค่ผมรู้ว่าผมคิดอะไรก็พอครับ

 

คุยกันด้วยปัญญาด้วยเหตุผลผมยินดีจะคุยครับ แต่ถ้าเหมือนบางคนที่ด่าผมนั้นต่อให้ผมคุยไปเท่าไรก็คงไม่สามารถจะเข้าใจกันจนกว่าเขาจะเย็นลงถึงจะคุยกันได้

 

เห็นด้วยกับ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->inbhf123<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5629155", true); </SCRIPT>

 

ขอกราบนมัสการ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้นผู้ไกลจากกิเลศ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์ เอง พระธรรม พระสงฆ์
จากคำสอนของพระพุทธเจ้าห้ามยึดติดอยู่กับวัตถุ พระก็พูดถูก แล้ว ครองผ้ากาสวภัส ไม่ควรยึดติดอยู่กับ สิ่งของ ถึงเวลาจะผ่านไปยุคไหนก็ตาม การเดินบิณฑบาต เพื่อให้ชีวิตรอด ก็พอแล้ว
เราควรแยกแยะว่าการกระทำของพระเป็นเช่นไร ก็ไม่ควรไปยึดติดอยู่กับการกระทำ ถูกไหม เราไม่ควรไปเอาเรื่อง แต่ควรมาพิจารณาว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่ยึดติดอยู่กับ รูป รส สัมผัส กลิ่น เสียง ใครทำดีก็เอาอย่าง ใครทำไม่ดีก็อย่าไปเอาอย่าง การที่เราไปแยกแยะว่าใครผิดใครถูกนั้น เราอาจเป็นคนผิดเสียเอง เพราะกิเลสได้ทำให้เกิดอารมณ์ ขาดสติ แล้วก็เป็นเหตุการดังกล่าวนี้เอง