มาดูสมเด็จกัน

ที่บอกว่ารู้จริง อันนี้ไม่แท้ อันนี้แท้ ตำหนินั้น ตำหนินี้ มวลสารต้องแบบนี้ พิมพ์แบบนี้เท่านั้น มีจำนวนเท่านี้ ตอนที่สมเด็จท่านทรงสร้าง ไปนั่งอยู่ด้วยเลยรึไง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมพระเครื่องไร้เหตุผลสิ้นดี เกรียนเอ้ย


[สร้างพระเอง - ลงนิตยสารเอง - บอกตำนิเอง - จัดประกวดเอง - ตัดสินเอง - เปิดตลาดพระเอง - ขายพระเอง - ปิดกั้นพระของคนนอกกลุ่ม] = วัฎจักรเซียนพระ


ป.ล. หากจะไปแห่พระอย่าไปเลยครับ พวกเสี้ยนตีปลอมหมดตั้งแต่ยังไม่ไปเลยล่ะครับ พวกร้านให้เช่าพระไม่จ่ายค่าต๋ง(หลักแสน)อย่าหวังได้มีชื่อเสียงหรือได้เกิดในวงการมายาพระเครื่องเลยครับ ถูกตีเก๊ปิดกั้นเป็นแถวๆ แต่พระปลอมที่ตัวเองทำมา แท้ 10000000% รับประกัน แต่เวลาขายคืนไม่รับคร๊าบบบบบบ

 

องค์นี้ผมก็ชอบนะครับ เห็นบอกจะปล่อย ไม่วิจารณ์ดีกว่า

 

ส่วนตัวชอบครับองคนี้ท่านลองไปซื้อหนังสือ คัมภีร์นักสะสมพระสมเด็จวัดระฆัง รวมสุดยอดพระสมเด็จขององค์ตำนานของวงการดูครับเนื้อองค์นี้เนื้อจะเหมือนคู่เเฝดขององค์สมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูมที่มีชื่อเสียง

ลองถ่ายภาพออกสีธรรมชาติที่โดนเเสงเเดดให้ดูอีกที่ครับจะได้ช่วยตัดสินใจเเต่ถ้าเห็นชัดเนื้อนี้ก่ำกึ่งออกไปทางเนื้อเรซินมากกว่ากับเนื้อเเท้

 

คุ้นๆว่า คือพระราชดำรัส ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ

วันนี้เอาของฮามาให้ชมกัน
นั่งอ่าน FHM เล่มล่าสุดเจอ คอลัมภ์นี้ เอามาแบ่งเพื่อนๆกันครับ
ผมละ ฮา จริงๆๆ ....กับสภาวะปัจจุบันที่เป็นอยู่นี้
<img src="http://img853.imageshack.us/img853/2435/94124669.jpg" alt="Image Hosted by ImageShack.us"/><br/>

 

อ่านวิจารณ์ สมเด็จที่ไร อือ ,ครบรสเลย (づ￣ ³￣)づ ดีครับ ได้ความรู้เพิ่ม Thk U ครับทุกท่าน

 

ได้แค่ดูทุกทีเลยเรา..............

 

ก่อนที่จะเปลี่ยนคำเรียกคนที่เล่นพระ หาพระ ขายพระ เป็นคำว่าเซียน เพราะพวกเค้าไม่ชอบเพราะมันดูเข้ากับความจริงที่พวกเค้าเป็นอยู่ คือคำว่านักเลงพระ

พวกนี้นี้วันๆมีแต่นั่งเขียนหลอกชาวบ้านตามสูตรสำเร็จที่แต่งขึ้นเอง บอกตำหนิที่พระทำมาเอง สุดท้ายก็ขายของ ออกใบเซอร์

หน้าเห็นใจพวกอสูรเหล่านี้ที่หลงผิดว่าตัวเองเป็นเทพแห่งพระเครื่องพระสมเด็จ บอกว่าเป็นนักเลงพระชั้นเทพได้เพราะความรู้ที่ผ่านมาจากการซื้อพระจริงบ้างปลอมบ้างราคาเป็นแสนราคาเป็นล้านๆ และตีพระในเว็บพระในตลาดแท้เก๊มานาน สวดพระคนอื่นมานานเป็นครูอย่างดี ทำให้เป็นเสี้ยนได้อย่างแท้จริง ทั้งๆความจริงแล้วความรู้เหล่านั้นอุปมาอุปไมยเหมือนกับกองขี้ของหมาขี้เรื้อน(นักเลงพระ) ที่รอเหล่าแมลงวันมาตอมมูลขี้เหล่านั้น

การที่บอกว่าคนอื่นคิดต่างจากตัวเองแล้วบอกว่าคนอื่นผิดนั้นในสังคมเรานั้นมีคนเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ถ้าทุกคนมองดีดี จะเห็นการหลองลวงกันในทุกสังคม ทุกวงการ ไม่ต่างอะไรจากสังคมเสี้ยนพระ ที่บอกว่าพระคุณปลอม พระคุณไม่ดี พิมพ์นี้ไม่มีในระบบ(ระบบเค้าที่ปลอมพระขึ้นมา) มวลสารต้องอย่างนี้ พระต้องราคาล้าน สิบล้าน แสนล้าน ล้านล้านถึงจะดีเสี้ยนพระก็ว่ากันไป(เพราะนักเลงพระคำนึงถึงเงินที่จะเข้ากระเป๋าเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับหนังสือที่ออกมาไม่กี่ปีแต่ขายกันหมื่นๆ อีกสิบปีคงขายเป็นแสนเป็นล้าน) ถ้าเห็นต่างจากนักเลงพระก็จะเห็นว่าคนนั้นผิด แต่ตนเองเท่านั้นที่ถูก การที่คุณอ้างอิงคำพูดอย่างนั้นผมว่าคุณต้องมองตัวเองก่อนดีกว่าครับแล้วจะเห็นชัดว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ใครที่ไหนเลยที่เป็นนักเลง

คุณค่าของพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ไม่สามารถประเมินเป็นราคาได้อย่างพวกนักเลงพระเค้าทำกันหรอกครับ

สุดท้ายแล้วพวกโชว์โง่ คิดเองเออเอง เขียนข้อมูลตามความเข้าใจตนเองแบบผิดบ้างถูก 5% 12% 15% บ้าง(พวกนักเลงพระไม่ยอมรับความจริง บอกตัวเองรู้ทุกอย่างในโลกนี้) และเป็นนักเลงคีย์บอรด์ที่มีตรรกะปัญญาอ่อนนั้นไม่ใช่ใครหรอกครับคือคุณนั้นเอง

ผมอยากรู้เหตุผลที่คุณมาต่อว่าผมนั้นเป็นอย่างไร ผมอยากรู้ตรรกะของคนเก่งจังเลยครับ


[สร้างพระเอง - ลงนิตยสารเอง - บอกตำนิเอง - จัดประกวดเอง - ตัดสินเอง - ออกใบเซอร์เอง - เปิดตลาดพระเอง - ขายพระเอง - ปิดกั้นพระของคนนอกกลุ่ม] = วัฎจักรนักเลงพระ

 

สวัสดียามสายๆ วันนี้มีกลอนมาฝาก ครับ

กรรมลิขิตขีดเส้นไม่เว้นว่าง
กรรมแตกต่างดีชั่วอยู่ตัวท่าน
เจตนาโดยตั้งใจได้ทำการ
เจตนานั้นคือกรรมตามทำนอง

เพียงใจคิดกายกระทำใช้คำพูด
ข้อพิสูจน์ว่าดีชั่วมัวสนอง
ทำความดีย่อมได้ดีมีครรลอง
กรรมสนองเมื่อทำชั่วคนมัวเมา

ทำความดีใจก็ดีมีความสุข
มีความทุกข์ใจก็กลุ้มสุมรุมเร้า
รู้ว่ากรรมควรหลีกหนีดีกว่าเรา
อย่าโง่เขลาทำความชั่วเมามัวตน

ทำดีแล้วอย่านั่งนึกหรือเพิกเฉย
อย่าละเลยจงขยันไม่ขัดสน
หากทำดีแล้วรอผลตอบแทนตน
ไม่ดิ้นรนคงจนแน่พ่ายแพ้กัน

ทำดีแล้วขอเพียงได้ใจเป็นสุข
จะเป็นทุกข์เพราะทำผิดนอนคิดฝัน
ทำชั่วแล้วกลัวเขาโกรธลงโทษทัณฑ์
ใจมันนั้นไม่เป็นสุขกลัวทุกข์ภัย

ชาตินี้สร้างศีลทานเป็นฐานหนุน
ไว้เป็นทุนในชาติหน้าวันฟ้าใหม่
เพื่อเกื้อกูลเป็นต้นทุนหนุนกันไป
เกิดชาติไหนจะได้ไม่ชดใช้กรรม.....

.... กลอน จาก ไทยโพสต์ ......

 

อามิตพุทธ........สงสัยโดนไปเยอะ :'( :'(

 

ขอบคุณสำหรับบทกลอนดี ๆ ครับ อ่านแล้วเกิดความสว่าง........

 

สอบถามครับ พึ่งได้มา กำลังสะสม แต่พึ่งหัดดู

องที่1http://palungjit.org/attachments/a.1883092/
องค์ที่2

 

http://palungjit.org/attachment.php...2/http://palungjit.org/attachments/a.1883113/

 

องค์ที่2

 

องค์ที่3 250120121788.jpg (619.3 KB)
250120121789.jpg (675.7 KB)
250120121790.jpg (574.7 KB)
250120121791.jpg (500.3 KB)
250120121792.jpg (567.3 KB)
250120121793.jpg (516.8 KB)

 

องค์ที่4

 

องค์ที่5

 

รบกวนหน่อยนะครับไม่แน่ใจเลยครับไม่รู้เลยครับว่าวัดไหน อีกอย่างคราบรักเยอะมองไม่ค่อยเห็นมวลสาร แต่มีเม็ดสีขุ่นๆไม่รู้ว่าคืออะไรผมดูไม่ออกเลยครับจนปัญญาจริงๆ ใช่วัดระฆังรึเปล่า ขอความกรุณาท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยวิจารด้วยนะครับ ของผมองค์แดงๆ อ่ะครับ ล้างคราบรักไม่หมด

 

เนื้อแบบนี้พิมพ์แบบนี้ และยังมีอีกหลายพิมพ์ มีทั้งองค์ชลูด และองค์ล่ำกว่านี้ก็มี ทั้งแตกลายงาด้านหน้า และด้านหลัง หรือแตกด้านหน้าด้านเดียว หรือแตกด้านหลังด้านเดียวก็มีให้เลือกดู และเลือกชม มนต์ขลังอยู่ที่ดูแล้วเก่า เนื้อตกผลึกแกร่ง แถมแตกลายงาสังคโลก มีคราบรัก คราบตังอิ๊วฝังลึก ชวนให้แลดูน่าชมนัก แต่ในวงการพระปัจจุบันไม่มีใครสนใจ ถึงมือปล่อยวาง เผลอๆ แค่เหลือบไปเห็น ก็ส่ายหน้าครับ เพราะฉนั้น ถ้าเข้าไปในกลุ่มพิมพ์เนื้อนิยม คงไม่ต้องกล้ำกรายไปนะ พอเข้าใจความหมายแล้วนะครับว่า ผมหมายถึงอะไรสำหรับวงการพระนี้

แต่สำหรับผมๆ เก็บบูชาครับ แต่จะให้บอกว่าแท้ทันท่านนั้น ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะมีหลายเหตุผล หลายข้อมูลมาก สำหรับเนื้อหามวลสาร และพิมพ์พระทั้ง สามแบบที่กล่าวมา พอนึกออกแล้วนะครับว่า ผมก็มีครับ ครบสามพิมพ์ แต่อาจมีมากกว่านั้นก็ได้ ยังหาไม่เจอ ถ้าเจอผมก็บูชาอีก เห็นไหมทั้งๆที่ ใครๆส่วนมากบอกว่าเก๊ทำให้เก่า ผมยังไม่สนใจเลย เพราะอะไรทราบไหมครับ เพราะผมไม่ยึดติดกับเหตุผลเหล่านั้น ผมจะนำมาวินิจฉัยเอง เก๊ แท้อยู่ที่ใจเราครับ ตราบใดที่ไม่ยึดติดกับการปล่อยพระในตลาดเล่นหากันหลักล้าน

พิมพ์แบบนี้ เนื้อแบบนี้ เก็บไว้บูชาเถอะ ถ้าไม่เอาบอกผมได้ เดี๋ยวจะมาบอกว่า หลอกให้เก็บบูชา ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เล่าสู่กันฟัง ก็เป็นเหตุ แลผลที่ได้มาจากท่านผู้รู้ หลายท่านที่บอกกล่าว และสอนมา ยกตัวอย่างแล้วกันเดี๋ยวยาว ผมได้ข้อมูลมา 9 ท่าน ในจำนวนนี้บอกเก๊ 7 ท่าน บอกแท้แค่ 2 ท่านเองเป็นคุณจะสรุปว่าไงคิดเอาเองน๊ะ

สำหรับ 7 ท่านแรกคงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเก๊เพราะอะไร เอาแค่ 2 ท่านหลังแล้วกัน

ท่านแรกบอกว่าเก่าจริง ลงลึกมากเรียกว่าเนื้อตกผลึก แกร่งสมอายุที่นานมา ฯลฯ

ท่านที่สอง บอกเหมือนกัน แต่มีที่มาที่ไปข้อมูลนี้บอกไปแล้ว ไปคิดกันเอาเองละกันว่าจะเชื่อไหม คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเมื่อสมัยก่อนประมาณ 20-30 ปีมาแล้วกระมัง ผมก็เล่าไปตามที่เขาเล่ามานะ ผิดถูกอย่ามาว่ากันหล่ะ 555 สนุกๆ อย่าถือสากัน คือเรื่องของเรื่องก๊มีอยู่ว่า มีการจัดประกวดพระสมเด็จกันที่จังหวัดหนึ่ง แล้วพระรุ่นนี้เนื้อแบบนี้ ได้รางวัลที่หนึ่ง พูดง่ายๆว่าชนะเลิศในการประกวดพระในสมัยนั้น วงการพระเมื่อก่อนต่างยอมรับกันว่าแท้ ว่าใช่ ว่าแน่นอน แต่พอมาถึงปัจจุบันทุกอย่าง ผู้จั๊ดกาน....... เปลี๊ยนป๊าย....... สมาคมพระปัจจุบันที่ได้รับความนิยมสูงสุดบอกว่าเก๊ทำเก่า ของแท้พิมพ์เนื้อนิยมต้องแบบนี้น๊ะ อย่างนี้นะ หน้าต้องแบบนี้ หลังต้องแบบนี้ เอ้า เอาเข้าไป รางเนื้อ ชอบรางยา ก็สุดแท้แต่ว่า ไผ ชอบ แบบ ไหน ก็ ว่า กัน ไป นะ ครับ เมื่อยแล้ว ไม่อยากโม้เยอะ แค่นี้ก็มีคนหมั่นใส้ผมแล้ว แค่เล่าสู่กันฟังครับ ไม่ได้โม้ แบบ คุณสมรัก คำสิงห์จ่ะ

ผมเคยแลกมา 1ต่อ3 มาแล้ว เพื่อนเขาชอบของผม 1 องค์ เขาแลกให้ผมแบบนี้ 3 องค์แล้วผมก็เอาไปให้พรรคพวกต่อแจกกันไป แบ่งกันไป เพราะคนที่รับไป ดู ม่ายเปง แต่เขารัก และบูชาสมเด็จท่าน จิตเขาอยู่ตรงนั้น เป็นจิตที่เขาเคารพ บูชาท่านครับ

แล้วคุณหล่ะคิดแบบไหน อย่าตามผมหล่ะ ควรอยู่ที่ตัวคุณเอง อย่างที่บอก เก๊ผมก็บูชาเพราะผมไม่ยึดติดกับค่านิยมหลักล้าน องค์นี้อาจแท้ หรือเก๊ ก็ได้เพราะเราต่างก็เกิดไม่ทันท่าน แต่จิตเรารัก และบูชาสมเด็จหรือเปล่า ถามตัวท่านเองดูน๊ะจ๊ะ

 

แต่มีบ้างคนบอกว่าองค์แดงๆของผมเป็นพระใหม่เป็นไปได้ไหมครับว่าใหม่ แต่เวลาผมส่องดูที่องค์พระแทนที่จะน่าชื่นชม แต่กับผมผมรู้สึกว่ากลัวพระองค์นี้ครับ เพราะลายแตกนั้นเหมือนเส้นเลือดเวลาเค้าถลก หนังคนออกนั้นแหละครับ

 

After สงสัยเนื้อในจึงล้างเปิดดูเนื้อพระซะเลยหลายๆท่านคงเห็นกันแล้ว
ยังไงรบกวน 1องค์วิจารย์ให้ผมด้วยนะครับ คุณอังคารด้วยจ้า