พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tiger-k007, 6 มิถุนายน 2011.

  1. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820

    งดงามมากๆ..^^...................................ชอบบ
     
  2. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา..กราบหลวงพ่อทวดครับ^^
     
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ยันต์
    ศาสตร์จริงกับความเชื่อ ?
    เมื่อพูดถึงการสักยันต์แล้ว ใครหลายคนก็จะนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำให้รอดพันภยันตรายต่างๆ หรือทำให้ตนมีความพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งตามยันต์ที่สัก แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะทราบว่า การสักยันต์ สักไปเพื่ออะไร ?
    เพื่อ...มหานิยม จะทำให้คนรักหลงไหล ยันต์ ...สาลิกามหานิยม จะทำให้ได้ความรักจากเพศตรงข้าม ยันต์....ท้าวเวสสุวัณ จะกันภูติผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ......
     
  4. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา..

    ขอหลวงพ่อทวดดูแลดวงวิญญาน อาสาสมัครรักษาดินแดนทุกคน ที่สละชีพเพื่อชาติ
    ให้เขาได้รับสิ่งที่ดีด้วยเกียรติอันสูงสุด ที่ทำเพื่อประเทศชาติแม้แต่ชีวิตก็ต้องสละลง
    ด้วย เทอญ

    วันนี้ดูข่าวแล้วพูดอะไรไม่ออก..

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  5. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สวัสดีค่ะเสี่ย....ตื่นแล้วหรือคะ....

    เบตงเป็นอย่างไรบ้าง...หาดใหญ่อากาศร้อนมากค่ะวันนี้....
     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    วันนี้ดูข่าวแล้ว...หดหู่ใจค่ะ เป็นกำลังใจให้พี่น้องทหารตำรวจ และข้าราชการร่วมถึงพี่น้องทุกท่านนะคะ ที่ปฏิบัติงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

    ขอบารมีหลวงพ่อทวดคุ้มครองทุกท่านให้ปลอดภัยค่ะ
     
  7. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ยันต์อุณาโลม
    ป้องกันภัย ครอบคลุมทุกด้าน และคุ้มครองคุ้มภัย แคล้ว คลาดปลอดภัย เสริมบารมี เป็นที่น่าเคารพ น่าเกรงขาม
    เจอบทความสำคัญในประวัติศาสตร์ ยันต์อุณาโลม
    ....อีกเหตุการณ์สำคัญที่ควรกล่าวไว้เป็นตัวอย่าง ซ้ำควรเผยแพร่ให้คนไทยทุกคนได้รับรู้และจำให้แม่น คือเหตุการณ์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ครั้งเพิ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ พม่าสบช่องเห็นว่าเมืองไทยยังชอกช้ำจากภาวะศึกสงครามมาโดยตลอดตั้งแต่เสียกรุง ครั้นมีข่าวผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราชวงศ์อีก ก็คาดว่าจะเกิดความระส่ำระสาย จึงระดมทุ่มเทสรรพกำลัง รวบรวมทหารได้กว่าแสนจัดเป็นเก้าทัพ เคลื่อนกำลังเข้ารุกรานโจมตีอย่างมุ่งหวังจะบดขยี้ ลบชาติไทยออกจากแผ่นดิน

    พระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาล ๑ และกรมพระราชวังบวรฯโปรดเกล้าฯให้ระดมพลเตรียมรับศึกครั้งใหญ่ที่สุดอันจะเป็นเครื่องชี้ขาดตัดสินชะตากรรมของอารยธรรมไทย เหล่าทหารหาญร้อยพ่อพันแม่จากทั่วราชอาณาจักรขณะประชุมทัพรอเวลาเคลื่อนกำลัง ต่างก็มีความฮึกเหิมสมเป็นลูกหลานไทย พากันประลองกำลัง ลองของกันอย่างศิษย์มีครู พัฒนากลับกลายเป็นการลองดี คุยทับกันว่าอาจารย์ของตน วิชาของตนเหนือกว่าของผู้อื่น ตีกันนัว รวนเรไปทั้งกองทัพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกรมพระราชวังบวรฯ จึงโปรดเกล้าฯให้ริบเครื่องรางของขลังทั้งปวงนั้นมาจำเริญเสียโดยไฟ แล้วโปรดเกล้าฯเสด็จไปทรงประกอบพระราชพิธีพุทธาภิเษกฯ ผ้ายันต์อุณาโลมด้วยพระองค์เอง แจกจ่ายให้เหล่าทหารบูชาคาดศีรษะไว้เหมือน ๆ กันทุกนาย นอกจากจะเป็นของดีที่เหล่าทหาร(ต้องเอาไปลองแน่ ๆ มิฉะนั้นไม่ตีกันแต่แรกหรอก)ศรัทธามั่นใจในพุทธานุภาพ สามารถให้ความคุ้มครองเป็นที่ประจักษ์ ยังขวัญและกำลังใจให้ฮึกเหิมเข้มแข็งในการศึก มีความสำนึกเป็นหนึ่งเดียวในความเป็นลูกและเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่สำนักเดียวกัน คือองค์พ่อหลวงจอมทัพไทย และยังกลายเป็นทั้งสัญลักษณ์เครื่องแบบบอกความเป็นทหารไทยในราชการสงครามเก้าทัพ เป็นสัญลักษณ์แห่งสามัคคีธรรมในกองทัพที่เหล่าลูกหลานไทยทุกผู้ทุกนามต้องร่วมกันสู้ ร่วมกันสละทั้งเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อและน้ำตา โดยเหล่าทหารต้องสละตนเอง ผู้อยู่แนวหลังต้องสละผู้เป็นที่รัก บิดา สามี พี่น้อง และลูกหลานสุดที่รัก เพื่อรักษาไว้ซึ่งชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์อันผนึกรวมเป็นไทยให้คงอยู่สืบไป
    ยันต์อุณาโลมก็คืออักขระตัวอุกลับหัว โดยที่ความหมายของคำว่าอุณาโลมคือหนึ่งใน ๓๒ มหาปุริสลักษณะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉะนั้นยันต์อุณาโลมก็คือสัญลักษณ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง

    ในขณะเสด็จนำทัพด้วยพระองค์เองเข้าสู่สมรภูมิ ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ได้ทรงพระราชนิพนธ์นิราศท่าดินแดงปรารภพระราชปณิธานในพระราชหฤทัย ตอนหนึ่งว่า

    ...ตั้งใจจะอุปถัมภก
    ยอยกพระพุทธศาสนา
    ป้องกันขอบขันธสีมา
    รักษาประชาชนและมนตรี...

    ความพากเพียร เสียสละ เหนื่อยยากตรากตรำทั้งหลายทั้งปวงตลอดพระชนม์ชีพด้วยพระราชกิจการศึกสงครามเพื่อความอยู่รอดของแผ่นดินอย่างแทบไม่เคยได้ทรงเกษมสำราญประทับอยู่กับที่อย่างสุขสงบ ได้สรุปลงให้ปวงชนชาวไทยได้รับรู้ด้วยพระราชนิพนธ์บทนี้เอง

    และด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมภายใต้พระพุทธานุภาพอันเป็นอัปปมาโณ หาประมาณมิได้ ทั้งด้วยสามัคคีธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเหล่าทหาร วีรชนบรรพบุรุษไทยผู้กล้า กองทัพกำลังพลนับแสนของพม่าก็ปลาตแตกพ่ายไปสิ้น มิสามารถรุกล้ำกล้ำกรายลึกเข้ามาในเขตขอบขัณฑสีมา สมดังพระราชปณิธานอันมุ่งมั่น เป็นอีกครั้งที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าของปวงชนชาวไทยได้ทรงแสดงพระบรมเดชานุภาพเป็นล้นพ้นกอปรด้วยกฤษฎาภินิหาร พิทักษ์ปกป้องแผ่นดินไทยนี้ไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างชัดแจ้งเป็นที่ประจักษ์เยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ธรรมิกราช สมดังที่ได้รับการถวายเฉลิมพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

    เป็นอีกครั้งสำคัญที่ชาติไทยอยู่รอดปลอดภัยด้วยสามประสานอย่างชัดเจนที่สุด คือ ชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
    ครั้นทรงมีชัยชนะในราชการศึกสงครามเป็นเด็ดขาดแล้ว ได้โปรดเกล้าฯให้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นอีกครั้ง ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว และโปรดเกล้าฯให้ใช้ดวงตราอุณาโลมเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ตลอดรัชกาล ดวงตราอุณาโลมยังถูกสืบทอดรักษาไว้เป็นตราหน้าหมวกของเครื่องแบบทหารบกอย่างภาคภูมิจนกระทั่งทุกวันนี้ ทั้งยังถูกอัญเชิญเป็นส่วนสำคัญของตราประจำหน่วยราชการต่าง ๆ ของทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนจำนวนมาก และที่น่าภาคภูมิที่สุดคือตราประจำพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน อันพระจอมมิ่งจอมขวัญทูลกระหม่อมแก้วของปวงชนชาวไทย โปรดเกล้าฯให้ประดิษฐานดวงตราอุณาโลมไว้ภายใต้มหาพิชัยมงกุฎ ประดุจแสดงให้ประจักษ์ซึ่งความเป็นพระบรมโพธิสัตว์ธรรมิกราชผู้ยิ่งด้วยพระมหาบารมี ๓๐ ทัศ ปกเกล้าปกกระหม่อมคุ้มแผ่นดิน พิทักษ์ปกป้องรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่ชาติไทย สืบทอดขัตติยราชประเพณีและพระราชปณิธานแห่งเหล่าบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทั้งปวง...

    อ้างอิง..ข้อมูลจาก
    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=455


    <!-- / message --><!-- edit note -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    อุณาโลม ....
    เป็น 1 ในพุทธลักษณะ พระพุทธรูปจึงมักสร้างอย่างมีอุณาโลมด้วย ในขณะเดียวกันแต่โบราณมาก็นิยมใช้อักขระขอมตัว อุ แทนอุณาโลม หรือแทนพระพุทธองค์

    ยันต์อุณาโลมรูปตัวอุตามอักขระขอม นับเป็นเครื่องหมายประจำชาติมีความสำคัญอย่างที่สุดในความเป็นไทยและแสดงถึง ความผูกพันอย่างแนบสนิทของชาติและศาสนา เมื่อรัชสมัย ร.1 ครั้งสงคราม 9 ทัพ ขณะที่ประชุมพลเตรียมรับมือศึกใหญ่ที่สุดที่จะตัดสินความอยู่รอดของประเทศ ทหารจากที่ต่างๆก็เกิดการคุยทับถมกันเรื่องเครื่องรางของขลังของตน ตีกันนัวทั้งกองทัพ ร.1และกรมพระราชวังบวรฯจึงเรียกเก็บริบเครื่องรางของขลังมาทั้งหมด แล้วทำพิธีพุทธาภิเษกผ้ายันต์อุณาโลมแจกให้เหมือนกันทั้งกองทัพ เป็นเหตุให้กองทัพไทยมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สามารถตีกองทัพพม่าที่มีกำลังมากกว่าแตกพ่ายได้ชัยชนะเป็นเด็ดขาด

    อักขระ ตัวอุ จึงนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอุณาโลม และเป็นสัญญลักษณ์หน้าหมวกของกองทัพบก ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งของตราประจำหน่วยงานต่างๆของกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นส่วนหนึ่งของตราประจำ
    และอีกความหมายหนึ่ง อุณาโลมเป็นเครื่องหมายที่เกิดขึ้นเหนือหว่างคิ้วบริเวณหน้าผาก มีลักษณะเป็นทักษิณาวัตร (เวียนขวา) รูปก้นหอย เป็นขนอ่อนๆที่ไม่หนาเกินไปไม่บางเกินไป เกิดจากการบำเพ็ญความดีคือเป็นผู้มีความซื่อสัตย์โดยตลอดชีวิต บำเพ็ญสัจจะอย่างยิ่งยวด ทุกชาติที่เกิดมาสร้างความดี ถือเป็นมหาปุริสสลักษณะอย่างหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

    อุณาโลม" ตามรูปศัพท์แปลว่าขนระหว่างคิ้ว หรือเครื่องหมายระหว่างคิ้วพระพุทธรูป หรือเครื่องหมายอย่างรูปหน้าหมวกทหาร

    สำหรับรูปอุณาโลม ที่มีลักษณะเหมือนเลขเก้านั้น หมายถึง พระเนตรดวงที่สามของพระอิศวรเป็นพระราชสัญลักษณ์ ประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

    อุณาโลม หมายถึง
    ๑. ขนระหว่างคิ้ว
    ๒. เครื่องหมายอันเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งใช้ในพุทธศาสนาและศาสนาฮินดู คล้ายเครื่องหมายยันต์ บางที่แสดงตรงหว่างคิ้วรูปบูชา เช่น พระพุทธรูป เทวดา ฯลฯ ตามเทพนิทานอุณาโลมจะเปล่งรังสี ซึ่งทำให้ความรู้และความสว่างแก่โลก จึงเป็นเครื่องหมายของการตรัสรู้ ในศิลปะและการพรรณรูปบูชามักจะแดงเป็นจุดกลม ภาษาสันสกฤตเรียก เอิร์นะ” (urna) และภาษาบาลีเรียก อุณา” (unna) ภาษาอังกฤษบางครั้งเรียก บูดดะไอ” (buddha eye) หรือ เธิร์ดไอ” (third eye) ซึ่งสามารถแปลได้เนตรพระพุทธเจ้าหรือตรีเนตร

    อุณาโลม-คือ ที่ตั้งของตาที่สาม เป็นทวาร-ที่จิตส่งออกนอกกาย เป็นประตูของมิติที่ 10......

    มนุษย์-มีทวารทั้ง 9 .....หนทางสุดท้ายของมนุษย์ที่จะออกจากกาย-ต้องออกทาง 0(ศูนย์)รวมของ"จิต"-คือ ตาที่สาม นี้เท่านั้น ไม่มีหนทางอื่นที่จะตรัสรู้ได้ นอกจากเปิดจิตของตนเองให้ได้.....สัมมาทิฏฐิ-มีองค์ 7 คือ ทวารทั้ง 7ที่อยู่บนศีรษะมนุษย์-ตาที่สาม-หรือ"อุณาโลม" คือ สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นชอบ คือ รอบรู้ และรู้รอบ......

    จุดกลางระหว่างคิ้ว และ หว่างคิ้วดั้งจมูกหัก- คือ ที่ตั้งของใจ-ต่ำกว่าตาที่สาม ประมาณ 1 นิ้ว เป็นที่บำเพ็ญของจิต-อยู่ระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง เป็นใจของปุถุชน อยู่ระหว่างตา คือ การเห็นผิด-แล้วเห็นถูก ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาดี-ชั่ว ผิด-ถูก.....ผิดให้ละ-ถูกให้ประพฤติปฏิบัติ เราเรียกว่า ผู้บำเพ็ญ หรือ เวไนยสัตว์...

    เมื่อใด ที่ยกใจขึ้นสู่ที่สูง ธรรมชาติ-เปรียบใจ คือ "น้ำ".....จิต-คือ เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต หรือ"พุทธะ".....กาย-คือ แผ่นดินพสุธาที่อาศัย โดยอาศัยปาก-คือ รากพุทธะ.....จมูก-คือ ลำต้นของพุทธะ ที่ต้องยึดให้ลำต้นแข็งแรง สามารถหล่อเลี้ยงใบ-ดอก-ผล-และลำต้น ไม่หักโค่น ด้วยการฝึกลม -ฝึกปราณ ให้แข็งแกร่ง .....

    เมื่อยก ใจให้สูงเทียมจิตได้ พุทธะแห่งจิต-ก็จะเกิดการรู้แจ้ง ทั้งใจและกาย เมื่อวางกาย-ปลงใจได้ "อริยะ"-เป็นอันสำเร็จ และหลุดพ้นจากสังสารวัฏ......

    พระองค์ สถิตย์อยู่ใต้มหาพิชัยมงกุฎ

    อุณาโลม เป็น สัญลักษณ์ ของพระพุทธเจ้า หนึ่งใน 32 ประการที่เรียกว่า มหาปุริสลักษณะ มหาบุรุษ แสดงถึงผู้มีบุญ อันยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน ในสมัยสมด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชาลที่ 1) ก็ทรงใช้ตราอุณาโลมเป็นตราสัญลักษณ์แทนพระองค์ อุณาโลมมีความหมายที่สำคัญคือ พระเนตรที่ ๓ ของพระนารายณ์ ที่เรียกว่าตรีเนตร เครื่องหมายอุณาโลมอยู่ที่ใด จะนำมาซึ่งความเจริญเกิดปัญญา ให้ความสว่างแก่โลกผู้ใช้ให้นำไปติดหน้าบ้าน ติดรถ ติดเรือ ไว้ในบริษัทหน้าร้าน จะได้นำซึ่งความเจริญของสถานที่นั้นๆ ได้

    เขียนโดย แฟรงค์ (125.24.212.xxx

    อ้างอิง...
    http://www.importancetattoo.com/th/view_board.php?topic=995

    ............................................................................................


    การสักยันต์ลงบนเรือนร่างของชายเมื่ออดีตนั้น มักจะเป็นนักรบชาย ชาติทหาร ที่ต้องถือศาสตรวุธออกรบกับข้าศึกในสนามรบ จึงมักจะสักยันต์มหาอุดและสักยันต์แคล้วคลาดอยู่ยงคงกระพันชาตรี รวมทั้งผ้ายันต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และความขลัง ที่พระเกจิอาจารย์ปลุกเสกด้วยพระเวทอาคมมนตราให้เหล่านักรบพกติดตัวหรือสวมใส่ เมื่อออกรบทัพจับศึกจิตใจจักได้ห้าวหาญฮึกเหิมมีกำลังใจต่อสู้กับอริราชศัตรู

    นอกจากนี้การสักยันต์จะแคล้วคลาดอยู่ยงคงกระพันแล้ว ยังมีการสักยันต์ประเภทเมตตามหานิยมกับเพศตรงข้ามหรือยันต์นะหน้าทองและอื่นๆ รวมอยู่ด้วย และเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามาแล้ว เมื่อเพศตรงข้ามแลเห็นจักไหลหลงและหลงรักผู้ที่สักยันต์นั้น ซึ่งสมัยนั้นจะมีเฉพาะสักยันต์ด้วยน้ำหมึกดำ เพื่อจะได้เห็นเด่นชัด แต่ก็มีสักยันต์ด้วยน้ำมันที่มองไม่เห็น สีของน้ำมันจะกลมกลืนกับผิวสี หากจะเห็นยันต์ที่สักบนผิดกายได้ เมื่อคนคนนั้นร้อนวิชาหรือของขึ้นสำแดงเดช
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    จากหนังสือ แปลก พรานนก

    ที่ผู้เขียนได้บอกไว้ว่าได้พบอาจารย์เปี๊ยก ได้เล่าว่า เรียนวิชาสักยันต์และเวทมนต์อาคมกับไสยศาสตร์ควบคู่กันไปด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบด้วยกัน จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ จะต้องมีควบคู่กันไปทั้งเวทมนต์อาคม สักยันต์และพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ถึงจะเป็นอาจารย์หมอไสยศาสตร์เต็มตัว
    ยันต์มีจำนวนนับพันๆ แต่ะละประเภทมีพุทธคุณและความหมายที่แตกต่างกันไป พุทธคุณของยันต์นั้นเป็นสุดยอดของศาสตร์ชั้นเลิศที่ประจักษ์แก่สายตาสังคมมาแล้วในอดีตและปัจจุบัน
    แต่การสักยันต์ของแต่ละคนมีจุดประสงค์ไม่แตกต่างมากนัก เบื้องต้นผู้ที่มาให้อาจารย์เปี๊ยกสักยันตืลงบนเรือนร่างนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี คุ้มครองแคล้วคลาดจากภันอันตราย มีนะเมตตามหานิยมมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม และค้าขายตลอดจนอื่นๆ ที่เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
    ผู้ที่มาสักแต่ละคนซึ่งมาจากร้อยพ่อพันแม่ จิตใจของแต่ละคนย่อมจะไม่เหมือนกัน โดยภาพรวมแล้วมีทั้งดีและไม่ดีคละกันไป ซึ่งเป็นสังคมของโลกมนุษย์ แต่ก่อนจะสักยันต์อาจารย์จักให้ลูกศิษย์ทุกคน ปวารณาตัวเองจะทำแต่ความดี ไม่ละเมิดคำผิดศีล 5 ข้อ
    หากฝ่าฝืนหรือละเมิดคำสอนนี้ให้มีอันเป็นไป อย่าได้ตายดี จงให้ตายห่าตายโหงด้วยคมหอกคมดาบ เมื่อทำพิธีสาบานตัวเองต่อหน้าของอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว นั่นแหละอาจารย์เปี๊ยกถึงจะสักยันต์ให้แก่บุคคลคนนั้น จากนั้นจะรับเป็นลูกศิษย์ มีทั้งหญิงและชายที่มาฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์กัน ซึ่งอาจารย์เป็นเกจิอาจารย์ที่เปรื่องปราดต้องเวทมนต์คาถาอาคมและไสยศาสตร์มนต์ดำและมนต์ขาว
     
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ในอดีต...ผู้เขียนหนังสือยังได้สนทนากับนายหาญหรืออดีตเณรแอที่สักยันต์เต็มตัว จากคำบอกเล่าของเณรแอเผยว่า เมื่อก่อนไม่คิดจะสักยันต์ไม่อยากจะเจ็บตัวขออยู่อย่างสบายอย่างนี้จะดีกว่า เพราะได้เห็นคนที่ไปสักยันต์แต่ละคน ล้วนแต่เจ็บตัวมาทั้งนั้น เลือดตกยางออกกันถ้วนหน้า มีอย่างหรือที่เอาเหล็กปลายแหลมเหมือนเข็ม จุ่มน้ำหมึกดำแล้วบรรจงค่อยๆ แทงลงบนผิวหนังบางๆ มันจะไปเหลืออะไรเมื่อเหล็กแหลมคม กระแทกลงผิวที่บอบบางลึกพอสมควร ทำไมหรือเลือดจะไม่ไหล ต่อให้คนคนนั้นหนังเหนียวแค่ไหนไม่รอดสักรายเลือดไหลซิบๆ ตามรอยสักยันต์ เห็นแล้วยังสยองขนลุกเกรียวทั่วตัวเลย ขอโบกมืออำลาบายๆ ไม่เล่นด้วยกับการสักยันต์ใครอยากสักยันต์ก็สักไปเถอะ สำหรับตัวของข้าพเจ้าเณรแอไม่ขอเล่นด้วยหรอก

    ค่อยมาพิมพ์ต่อ... ไปธุระก่อน..[​IMG] [​IMG]
    กลับค่ำค่ะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    :cool:
    สงสัย จะลากิจไปเปิดตาที่ 3ที่ จ.ตรัง แน่ๆ เอื้ก เอิ้ก
    สาธุ ด้วยครับ ทำบุญเสร็จ ได้ตาทิพย์เป็นของแถมกลับมาบ้านด้วย
    สุดยอดมากครับ คุณ นวล
     
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    :cool:
    ฝันแบบนี้บ่อยๆดีครับ ฝันเป็นมงคล แถม ครูบาอาจารย์ มาดึงจิต+พาเที่ยว คุณ นวล ครับ คุณ รู้ตัวหรือเปล่าครับ คุณยอดมากครับ :cool:
    อย่างนี้ ไม่ต้องไปเปิดตาที่ 3 แล้วครับ เพราะ ครูบาอาจารย์มาพาเที่ยว
    ตอนหลับนี่ ถือว่าได้ ตาที่ 4 แล้วครับ เหนือกว่ามีตาที่ 3 อีกครับ เอิ้ก เอิ้ก
     
  13. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    :cool:
    นี่แหละครับ โลกมนุษย์ มันเป็นของเขาแบบนี้ หละครับ
    มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย(ตายมีหลายแบบครับแต่ก็คือ ตายเหมือนกัน)
    มีอยู่ที่เดียวครับ ที่ไม่เป็นแบบนี้ คือพระนิพพานครับ:cool:
     
  14. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    :cool:สาธุ กับ บทความ ศาสตร์ของ ยันต์:cool:
     
  15. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    เพิ่งกลับจากบ้านแม่ค่ะ เพราะแม่โทรมาบอก...ให้ช่วยมาเอาสมบัติ....แกกลับไปด้วย ....ฝากไว้หลายปีแล้ว....พอท่านพูดจบรีบเลยค่ะ เพราะถ้าไม่รีบไปเอาแม่จะนำไปบริจาค....[​IMG]

    *เป็นวัตถุมงคลที่ได้บูชามาตั้งแต่ปี 47 เกือบลืมไปแล้ว...พอเปิดดู ....เป็นไปได้อย่างไรเนี่ย...
    ทำไมเราบูชามาเยอะ ป่านนี้......
    *องค์จตุคามรามเทพหลายรุ่น (รุ่นบูรณะหลักเมืองปัตตานี เกือบลืมไปแล้ว)
    *วันนี้เจอพระลอยองค์ หลวงพ่อเอื้อมด้วยค่ะ นั่งนึกอยู่ว่าอยู่ที่ไหน...ฯลฯ [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    มาเล่าต่อค่ะ...
    เมื่อได้มาบวชเป็นสามเณรถือศีล 10 ข้อ ยึดที่จะหันเหชีวิตมาบรรพชาห่มผ้าเหลือครองจีวรแล้วควรยึดแนวคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่มันไม่เป็นไม่เป็นอย่างที่คิดเลยกลายเป็นคนละเรื่อง เมื่อตัวของผู้เล่าไปรักษาชาวบ้าน ทั้งโรคภัยไข้เจ็บหาย และรักษาทางไสยศาสตร์มนต์ขาวและมนต์ดำหรือชาวบ้านที่ผิดหวังในรัก ผู้เล่าก็ทำให้สมใจพบกับความหวังในชีวิต ทำให้ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงมีชาวบ้านจากทุกสารทิศแห่งกันมาใช้บริการแห่งกันมาที่ถือศีลเพียง 10 เท่านั้น ทุกคนที่มาพิ่งเณรแอต่างมีทุกข์ได้รับความเดือนร้อนสารพัดเรื่องที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต เมื่อไปพึ่งที่อื่นไม่สำเร็จสมหวัง ก็จัดหาที่พึ่งอื่นและอดีตเณรแอเป็นอีกคนที่ชาวบ้านมาพึ่ง

    ตลอดเวลาที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้น จะแทบไม่มีเวลาพักผ่อนต้องคอยช่วยเหลือชาวบ้าน แต่มีหลายๆ สิ่งที่อดีตเณรแอขาดอยู่หลายประการ สมควรที่จะใฝ่หาให้ตัวเองเพิ่มเติม จึงได้สืบเสาะแสวงหาเกจิอาจารย์ผู้เรืองอาคมทางไสยศาสตร์มนต์ขาวและมนต์ดำตามแหล่งต่างๆ และเขมรกับพม่าเป็นอีกประเทศที่ผู้เล่าสนใจจะไปศึกษาหาความรู้จึง ได้เดินทางไปเรียนวิชาไสยศาสตร์กับผู้รู้เรื่องอาคม

    และสิ่งที่ผู้เล่าได้พบแต่ละอาจารย์ล้วนแต่สักยันต์เต็มตัว อะไรที่เกลียดและขยะแขยงกลัวเจ็บตัว มักจะหนีไม่พ้นเหมือนที่เห็นแต่ละอาจารย์ทั้งเขมรและพม่าล้วนสักยันต์กันเต็มตัวบนเรือนร่าง และยังมีอาจารย์ท่านหนึ่งมีเงื่อนไขกับผู้เล่า หากจะเรียนวิชาไสยศาสตร์มนต์ขาวและมนต์ดำต้องการจะให้วิชาขลังและศักดิ์สิทธิ์ มีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาและนับถือมากๆ ต้องสักยันต์ ให้เต็มเรือนร่างเสียก่อน เมื่อนั้นก็จจักมีลูกศิษย์เต็มบ้านหากจะเรียนไสยศาสตร์ไปแล้ว ชาวบ้านเห็นแล้วไม่เลื่อมใสและยังขาดศรัทธามันจะเกิดประโยชน์อะไรกับคนคนนั้น ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนก็ตาม ภาพลักษณ์รูปนอกชาวบ้านเห็นก็เฉย ไม่น่าจะขลังเพราะไม่สักยันต์ แสดงว่าอาจารย์คนนี้ใจไม่ถึง ใจเสาะเหมือนปลาซิว แค่สักยันต์ยังไม่กล้าแล้วจะช่วยเหลือคนอื่นทางไสยศาสตร์เวทมนต์ได้อย่างไร แทนที่มาแล้วเห็นจะนับถือและศรัทธา กลับต้องลุกหนีไปหน้าตาเฉย เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าอาจารย์คนนี้ไม่มีอะไรในตัวเลยสักอย่าง แล้วคนอย่างนี้จะให้เรียก อาจารย์ คงจะไม่เหมาะสมกระมัง มีอาจารย์ไสยศาสตร์เอยะแยะที่สักยันต์เต็มตัว ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์
     
  17. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    wowww เหรียญ โคตรเศรษฐี สุริยันแดงมีมั้ยอยากได้ อะ...555

    แบบนี้ อยากได้ อยากได้

    [​IMG] [​IMG]
     
  18. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    ครับ ตอนนี้แหระเพิ่งตื่นของจริง...

    ต้องขออนุญาติ ออกไปข้างนอกก่อนนะครับ ..อยู่แต่ในห้องแอร์
    ตัวเหี่ยวหมดแล้ว..

    ดึกๆเจอกัน..^^
     
  19. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    เมื่อเจอเงื่อนไขของอาจารย์ยื่นคำขาดให้อดีตเณรแอยอมรับสภาพ แต่โดยดีเช่นนี้ อดีตเณรแอทำใจลำบาก นอนครุ่นคิดเรื่องนี้นานเป็นอาทิตย์กว่าจะตัดสินใจได้ สุดท้ายก็ต้องยอมเจ็บตัวให้อาจารย์ลงเข็มแหลมๆ สักยันต์จนเต็มเรือนร่าง ตั้งแต่บนศีรษะจรดปลายเท้า โดยการสักยันต์ก็เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้สักยันต์รวดเดียวจบเต็มตัว แต่จะค่อยๆ ให้อาจารย์สักยันต์ให้ตามขั้นตอน เหมือนเริ่มจากศูนย์ไปก่อน เพราะการสักยันต์แต่ละครั้ง หมายถึงความเจ็บปวดที่จะต้องกัดฟันทนรับสภาพนี้เต็มๆ ชนิดปฏิเสธไม่ได้เมื่ออยากจะเป็นอาจารย์จอมขมังเวทผู้เรืองอาคม

    อดีตเณรแอหรือนายหาญ นอกจากจะให้อาจารย์สักยันต์ให้เต็มตัวจนไม่มีที่ว่างจะให้สักอีก แกยังได้เรียนวิชาสักยันต์จากอาจารย์ด้วย เพราะตระหนักเห็นความสำคัญการสักยันต์ว่า เป็นศาสตร์จริงกับความเชื่อ ที่มีมาแต่โบราณกาลที่บรรพชนคนสมัยก่อนนิยมสักยันต์ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นทหารกล้าที่เป็นนักรบ จะให้พระสงฆ์ผู้เรืองอาคมหรือเกจิอาจารย์จอมขมังเวทสักยันต์ลงอักขระลงบนเรือนร่าง เพื่อให้เกิดพุทธานุภาพมีความขลังและหนังเหนียว แล้วยังประกอบด้วยพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม

    อดีตเณรแอหลังจากเดินทางไปเรียนไสยศาสตร์ กับอาจารย์หลายคนจากประเทศเพื่อนบ้านจนแตกฉาน ได้เดินทางกลับมาปักหลักที่วัดบ้านเกิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกตำรวจจับติดคุกในเรือนจำหลายปี เมื่อพ้นโทษออกมายังได้ประกอบพิธีกรรมนี้ จนกระทั่งมาโดนตำรวจปดส.จากกองปราบปรามและจนท.มูลนิธิปวีณา หงส์สกุล บุกเข้าจับกุมอดีตเณรแอที่บ้านได้โดยละม่อม นำตัวไปดำเนินคดีที่ส่วนกลาง อดีตเณรแอสิ้นลายถูกคุมอยู่เรือนจำคลองเปรมลาดยาว(ปัจจุบันไม่ทราบพ้นโทษแล้วหรือยัง) แม้อดีตเณรแอจะมีอาคมและสักยันต์เต็มประดุจประหนึ่งตัวเองเป็นเกจิอาจารย์ขมังเวท ยังเอาตัวไม่รอด

    ที่เป็นเช่นนี้เพราะพฤติกรรมการกระทำที่ผิดศีลธรรม ผิดคุณธรรม ไม่ยึดถือในศีล 5 ทำให้เวทมนต์อาคมที่เรียนมาเสื่อมและคลายความขลังลงกลายเป็นว่าเวลาอดีตเณรแอบริกรรมท่องพระเวทเหมือนการอ่านหนังสือให้นักเรียนนักเรียนฟัง ฉันใดก็ฉันนั้น
     
  20. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205

    ไม่มีค่ะ มีแต่โครตเศรษฐี มีกำไร หน้าหลวงพ่อทวดหลังองค์จตุคามรามเทพได้หรือเปล่า
    เหรียญใหญ่มาก เนื้อว่านก็มี เปลี่ยนกับ พระหลวงปู่ทวด 2497 [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...