พระเครื่อง พระกรุ นิยม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    คาถาบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร,พรายเดี่ยว,พรายคู่ ของหลวงปู่ทิม อิสริโก

    {ตั้งนะโม3จบ}

    พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
    นะเมตตาจะมะหาราชาเทวีราชะ บุตรตราบุตรตรี
    สะมะณะพราหมณ์ชี ทาสาทาสีกระสตรีทายะราชะอิถี
    นารีสัพพะ เอหิมุชิสัพพัง สัพพะโกธัง วินาสสันติ
    ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโย พรหมานุตตะโม
    ปิโย นาคะสุปิบินสิยัง นะมามิหัง วิกะริงคะเร

    คาถาบูชาพระเครื่อง หลวงปู่ทิม อิสริโก ตั้งนะโม...3 จบ


    อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง

    อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ 3 จบ
     
  2. สมพรปณิฐาน

    สมพรปณิฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +378
    ขออนุญาติ ปิด ปู่ตากสินครับ
     
  3. SilentSoar

    SilentSoar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +2,384
    งดงามครับ :cool:
     
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    คาถาบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร,พรายเดี่ยว,พรายคู่ ของหลวงปู่ทิม อิสริโก

    {ตั้งนะโม3จบ}

    พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
    นะเมตตาจะมะหาราชาเทวีราชะ บุตรตราบุตรตรี
    สะมะณะพราหมณ์ชี ทาสาทาสีกระสตรีทายะราชะอิถี
    นารีสัพพะ เอหิมุชิสัพพัง สัพพะโกธัง วินาสสันติ
    ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโย พรหมานุตตะโม
    ปิโย นาคะสุปิบินสิยัง นะมามิหัง วิกะริงคะเร

    คาถาบูชาพระเครื่อง หลวงปู่ทิม อิสริโก ตั้งนะโม...3 จบ


    อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง

    อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ 3 จบ
     
  5. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    แวะเข้ามาชื่นชมวัตถุมงคลหลวงปุ่ทิม สวยๆทั้งนั้นเลย ขุนแผนก็สวยดูง่ายครับ
     
  6. bordintu

    bordintu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +951
    ขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ระหารไร่ ปี 2517

    ขอทราบราคาครับ
     
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ฝากพระดีๆ ๑ องค์ครับ

    หลวงปู่ทวด ปี 05 หลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ (คอกหมู)พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดวัดคอกหมูมีด้วยหรือ แล้ววัดคอกหมูคือวัดไหนกันแน่

    ก่อนอื่นมารู้จักวัดคอกหมูกันก่อนนะครับ วัดคอกหมูมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ”วัดสิตาราม” อยู่ถนนดำรงรักษ์ บนถนนจักรพรรดิพงษ์เยื้องๆวัดสะเกศจะมีสี่แยกย่อย(เดิมเรียกว่าแยกสะพานสาวร้องไห้) ก่อนถึงสี่แยกหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนดำรงรักษ์ทางจะไปมหานาค บริเวณวัดนี้เมื่อก่อนชาวจีนได้มาเลี้ยงหมูจนร่ำรวยภายหลังได้ถวายที่ดินส่วนนี้ให้สร้างวัด ชื่อวัดแต่ดั้งเดิมจึงเรียกกันว่า วัดคอกหมูและต่อมาจึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อ "วัดสิตาราม"

    ระแวกวัดนี้ในอดีตมีช่างหล่อและโรงหล่อของช่างอิน(บางท่านเรียกว่าช่างแสวง) นายอินผู้นี้คือช่างผู้หล่อพระกริ่งหน้าอินเดียให้กับวัดสุทัศน์ ต่อมาในปี2491 นายอินพาทีมช่างหล่อลงใต้ไปสงขลาเพื่อทำการหล่อพระกริ่งโภคทรัพย์ให้ พ่อท่านเส่ง วัดปหลมทราย

    ครั้นในปี2505 พระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ สร้างพระพ่อปู่ทวดหลังเตารีดขึ้นที่วัดช้างให้ ปรากฎว่าเนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นชิดช่างหล่อทำงานไม่ทันกำหนด จึงได้ให้ช่างอินในกรุงเทพฯ ช่วยหล่ออีกแรงหนึ่ง พิมพ์ที่ช่างอินทำการหล่อคือ ลป.ทวดเตารีดใหญ่พิมพ์เอ พระของช่างอินที่หล่อจะแก่ทองเหลืองไม่ออกแดงอย่างที่หล่อพระลป.ทวดพิพม์เตารีดที่วัดช้างให้ ..ครั้นเมื่อช่างอินหล่อพระเสร็จแล้วก็จะคัดงานดีที่หล่อสวยแยกไว้ในลัง ส่วนงานพระที่หล่อติดไม่คมชัดหรือชำรุดหล่อติดแต่ไม่สวย ได้คัดแยกไว้ต่างหากและทำการตอกโค๊ตรูปหมูไว้ที่หลังองค์พระ จุดประสงค์เพื่อนำไปถวายวัดคอกหมู พระทั้งสองแบบได้ถูกนำส่งผ่านไปทางรถไฟเพื่อไปยังวัดช้างให้สำหรับเข้าในพิธีปลุกเสกปี๒๕๐๕ ครั้นเมื่อ พระอาจารย์ทิมปลุกเสกในพิธีเสร็จแล้ว ท่านก็นำพระในส่วนที่ช่างอินคัดสวยให้เอาไปแจกญาติโยมที่วัดช้างให้ ส่วนอีกส่วนที่ช่างอินคัดไว้และตอกโค๊ตรูปหมูไว้ด้านหลัง ท่านก็ส่งกลับคืนมายังช่างอินที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ช่างอินนำไปถวายที่วัดคอกหมู นั้นหมายความว่า พระลป.ทวดหลังเตารีดที่แจกที่วัดคอกหมูนั้น

    เป็นพระเข้าในพิธีเดียวกับพระลป.ทวดหลังเตารีดวัดช้างให้ พุทธคุณจึงเสมอเหมือนกันทุกประการ

    สำหรับโค๊ตหมูที่ตอกไว้ด้านหลังนั้น มีปรากฏตั้งแต่๑ตัว ๒ตัว ๓ตัว ๔ตัว จนถึง๙ตัว


    มีประวัติที่ชัดเจน หลังเตารีดหลักหลายแสนแล้วครับ

    พุทธคุณจึงเสมอเหมือนหลังเตารีด 05 อ.ทิมวัดช้างให้ ปลุกเสกพิธีเดียวกันทุกประการ


    พระดีๆที่แนะนำ ราคาเบาๆ โทรถามครับ 0840794320


    รับประกันแท้อย่างไม่มีกำหนดทุกประการครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  8. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    คาถาบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร,พรายเดี่ยว,พรายคู่ ของหลวงปู่ทิม อิสริโก

    {ตั้งนะโม3จบ}

    พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
    นะเมตตาจะมะหาราชาเทวีราชะ บุตรตราบุตรตรี
    สะมะณะพราหมณ์ชี ทาสาทาสีกระสตรีทายะราชะอิถี
    นารีสัพพะ เอหิมุชิสัพพัง สัพพะโกธัง วินาสสันติ
    ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโย พรหมานุตตะโม
    ปิโย นาคะสุปิบินสิยัง นะมามิหัง วิกะริงคะเร

    คาถาบูชาพระเครื่อง หลวงปู่ทิม อิสริโก ตั้งนะโม...3 จบ


    อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง

    อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ 3 จบ

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@
    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ
    "หลังเที่ยงคืน"<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2012
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เตือนภัย

    ช่วงนี้มีงานตลาดออกมามากนะครับ "พระเครื่องหลวงปู่ทิม" ระวังกันหน่อยนะครับ
     
  10. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    อยากได้แบบนี้ในราคาย่อมเยาว์เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองจัง

    ด้วยความเคารพ
    อ๋อง
     
  11. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853

    แฮบปี้เบิร์ดเดย์ คุณอ๋อง

    วันเกิดปีนี้ขอพรบารมีหลวงปู่ทิมอวยพรให้คุณอ๋อง และครอบครัว มีความสุขมากๆคิดอะไรได้อย่างนั้น คิดการใดๆอย่าได้ติดขัด ถึงบ้านแล้วมีแต่รอยยิ้มทุกๆวันครับ แฮบปี้เบิร์ดเดย์ 2555

    HBDsHBDsHBDsHBDs
    HBDsHBDsHBDsHBDs
     
  12. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เล่นกันแบบมีข้อสรุปยุติสบายใจครับ

    ส่วนรายการนี้เป็นลูกอมผงพรายที่มีค่านิยมให้การเล่นหาเป็นผงพรายล้วนๆ ออกที่วัดระหารไร่ครับ


    13.jpg


    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ

    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ


    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)


    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "

    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@


    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"



    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ



    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอ ก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้


    ที่ผมก็ไม่มีแล้วหาเข้าเหมือนกันครับ มีแต่พวกสั่งมายังหาไม่ได้เลยครับ


    แนะนำครับ


    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง


    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    ซึ่งชุดที่ผมนำมาให้ชมนั้นจะมีอยู่ในที่ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม ครับ

    สร้อยประคำ 108 ที่ท่านเห็นในภาพพิพิธภัณฑ์นั้นก่อนที่บริจากมานั้นมีคนให้ราคาบูชากันอยู่หลัก ล้าน บาทแต่เจ้าของไม่ขายให้ แต่นำมาบริจากให้ลูกหลานไว้ศึกษา เป็นพระคุณยิ่งๆ


    ขอขอบพระคุณภาพต่างๆจากพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม มาจากคุณ panda ขอบพระคุณครับ

    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด


    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด


    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต


    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ


    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย


    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง


    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม


    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก


    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข


    ตะกรุด 3 กษัตริย์


    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก


    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน


    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์


    ปลาของหลวงปู่ทิม


    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้


    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม


    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม


    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"

    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม


    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี


    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ


    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน


    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"


    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ


    จากเพื่อนๆสอบถามกันมาครับ


    จากเพื่อนๆหลายๆท่านได้สอบถามมาว่า ผมมีเก็บแบบที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกใหมในราคาเบาๆแต่ออกวัดอื่น

    ผมขอเสนอครับ ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก


    ค่านิยมยังไม่แรงครับที่มาชัดเจน อนาคตดีมากเป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือครับ

    ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    ลูกอม วัดโพธิ์ สัมพันธ์ นาเกลือ บางละมุง จ.ชลบุรี เนื้อผสมผงพรายกุมาร พิธีปลุกเสก โดยมี ลป.ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ,ลป.โตะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ลป.คร่ำ วัดวังหว้า, ลป.ม่น วัดเนินตามาก และยังมีพระเกจิอาจารย์อื่นๆอีกมากที่เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีนี้


    ราคาเบาๆสำหรับผู้ที่เคารพหลวงปู่ทิม ของแท้ๆที่ค่านิยมยังไม่แรงเพราะออกที่วัดอื่น มิใช่ออกที่วัดระหารไร่ ที่ผมเคยกล่าวไว้ครับว่า "มาตรฐานในการเล่นหา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  13. หลวงแมว

    หลวงแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,595
    โอนให้แล้วนะครับ ที่อยู่ผมส่งให้ทางPMครับ
     
  14. หลวงแมว

    หลวงแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,595
    ได้รับของแล้วนะครับ:cool:
     
  15. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ปิดตาน้ำท่วม มรดกหลวงปู่ทิมที่น่าบูชา

    พระที่หลวงปู่ทิมตั้งใจสุดๆ ตามที่ทางคุณเพียรวิทย์เล่าให้ฟัง หลวงปูทิมท่านเอา ผงพรายออกมาจากคำภีร์ ที่ท่านนำแผนผงพรายสอดไว้ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนกระโหลกที่ยังไม่ได้ตำหรือเปล่า หลวงปู่ทิมที่ทำการพี มานิดแล้วใส่ลงใน ตะกั่ว มาดูครับเรื่องเมตตาและพรายคุ้มครองสุดยอดครับ พระองค์ที่แจกครับว่า พระชุดนี้หลวงปู่เป็นผู้สร้างเอง นั่งควบคุมการเทเอง และแถมยังเป็นผู้ดำริคิดสร้างเอง วัตถุมงคลชุดนี้คือ “พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วม”
    กรรมวิธีการสร้างและสลับซับซ้อนอย่างไร ทำไมจึงเรียกว่า “รุ่นน้ำท่วม” ก็ขอให้ท่านลองติดตามดูนะครับ

    ย้อนหลังไปในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาท่วมอย่างฉับพลันแถว อ.บ้านค่าย อ.แกลง และทีอื่นๆ อีกมาก วัดละหารไร่ ตอนนั้นน้ำท่วมสูงถึงประมาณ ๑ คืบจะถึงพื้นกุฏิของวัด

    เวลานั้น ผม พระ เณร และช่างที่ก่อสร้างศาลาการเปรียญได้ช่วยกันเก็บของในวัดอย่างจ้าละหวั่น น้ำได้ท่วมรุนแรงและไหลเชี่ยวกรากมาก หลวงปู่ได้เดินออกมาและดูกระแสน้ำตรงหน้าต่างและเอ่ยกับผมว่า “ตั้งแต่นี่เกิดก็เห็นน้ำท่วมมากอย่างนี้เป็นครั้งที่สอง” ตัวผมติดอยู่ในวัดอยู่หลายอาทิตย์จนหัวใจหงุดหงิด ใจหนึ่งก็อยากจะลุยน้ำออกจากวัดเพื่อกลับบ้าน อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงหลวงปู่ น้ำได้ท่วมอยู่นานไม่มีทีท่าจะลดลง
    และอยู่ๆ คืนวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังนวดให้ท่าน ท่านก็ปรารภกับผมว่าอยากจะทำพระสักรุ่นหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกตอนน้ำท่วม ผมได้ยินเช่นนั้นจึงพูดสนับสนุนทันที เพราะทราบอยู่ในใจว่าหลวงปู่เป็นผู้ที่สร้างของยาก เมื่ออท่านเอ่ยเช่นนี้แสดงว่าพวกเราจะได้ของดีจากท่านไว้ติดตัวอย่างแน่นอน ท่านใช้ผมไปตามหลวงลุงรอด ซึ่งมีห้องอยู่ตรงข้ามห้องของหลวงปู่ เมื่อมาถึงหลวงปู่ได้ถามหลวงลุงรอดว่า ตะกั่วที่นี่ให้เก็บไว้ ให้เอาออกมาให้หมดจะทำพระไว้แจก เมื่อท่านพูดเสร็จหลวงปู่ก็ลุกไปที่ห้องท่านและเรียกผมเข้าไปด้วย หลวงปู่ใช้ให้ผมมุดเข้าไปใต้เตียงนอนตรงบริเวณหัวเตียงด้านล่างจะมีถังใบหนึ่งภายในมี ตะกั่วเป็นก้อนๆ บรรจุอยู่เต็มไปหมด ท่านให้ผมลากออกมาผมสังเกตว่า นอกจาก ตะกั่วแล้วยังมีตะกรุดเก่าๆ ที่เป็นเนื้อชินตะกั่วและตะกั่วอวนเป็นเม็ดๆ อยู่ในนั้นอีกด้วย ผมยังหยิบเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกดอกหนึ่งและเม็ดตะกั่วอีก ๕-๖ เม็ด สำหรับแผ่นตะกั่วที่อยู่ในห้องหลวงลุงนั้น เป็นแผ่นตะกั่วยาวๆ นิ่มอ่อน หลวงปู่ได้ใช้ให้ผมตีตะกั่วแผ่ออกเป็นแผ่น เมื่อตีจนได้ที่แล้วท่าน ก็ใช้เหล็กจารอักขระลงไปทีละแผ่น หลังจากนั้นท่านก็ให้ผมพับแผ่นตะกั่วและใช้ฆ้อนตีกลับไปกลับมาและแผ่ออกมาใหม่ และจึงใช้เหล็กจารอักขระลงไปอีก และก็ทุบกลับไปกลับมาอีก ทำเช่นนี้ตั้งหลายครั้งจนผมสงสัยจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่เห็นสนุกเลย ท่านตอบว่า คนโบราณเรียกว่า ลงถมต้องลงให้ครบ ๙ ครั้งถ้าได้ ๑๐๘ ครั้งยิ่งดีใหญ่ พวกเราพอได้ยินเช่นนั้นจึงได้ช่วยหลวงปู่ทำเพื่อหวังขอของดีจากหลวงปู่ในครั้งนี้
    กว่าจะลงถมเสร็จก็ใช้เวลากว่า ๓ วัน เมื่อหลวงปู่เห็นว่าดีแล้วท่านก็รวบรวมแผ่นตะกั่วทั้งหมดรวมทั้งตะกั่วเถื่อนที่อยู่ในห้องของท่าน ผมสังเกตว่าตะกั่วทุกก้อนที่อยู่ในห้องของท่านจะมีจารอักขระทุกก้อน แสดงว่าท่านได้เตรียมการมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสและฤกษ์ดีไม่ได้ จากนั้นท่านจึงนำตะกั่วทั้งหมดทำพิธีปลุกเสกในห้องของท่าน ๗ วัน จนถึงวันเสาร์ หลวงปู่ก็เรียกผม เณรฉ่ำ เณรลาว และช่างมงคล หลวงลุงรอด ให้มาหาและบอกว่า วันนี้ฤกษ์ดี
    เทวดารักษา จะได้ลงมือทำพระกันเสียที เมื่อท่านพูดเสร็จท่านหยิบ ขันสำริด ที่ก้นขันได้จารอักขระเต็มไปหมด ต่อจากนั้นจึงให้หลวงลุงเอาพิมพ์พระเครื่องต่างๆ มาให้ท่านดู ท่านได้เลือกดูสักพักจึงหยิบเอาพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ที่ทางคุณชินพร สุขสถิตย์ ได้ถวายคืนให้วัดนำมาพิจารณาต่อ ต่อจากนั้นหลวงปู่ก็หยิบเหล็กจารจารลงไปที่พิมพ์ปิดตาและพิมพ์เจริญพร พนมมืออธิษฐานจิต ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ดูการกระทำของท่านอยู่เงียบๆ หลังจากนั้น
    จึงตั้งไปเพื่อที่จะหลอมตะกั่ว

    แต่ก่อนที่จะทำพิธีหลอมตะกั่วนี้ หลวงปู่ได้ลุกขึ้นไปหยิบคัมภีร์ใบลานเก่าค่อยๆ เปิดทีละแผ่น หยิบวัสดุชิ้นสีขาวออกมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเราที่อยู่ในพิธีนี้รู้ทันทีว่า “วัสดุสีขาวที่หลวงปู่หยิบออกมาคือหัวกะโหลกเด็กที่หลวงปู่นำมาทำผงพรายกุมาร ทุกครั้งที่จะมีการสร้างพระผง ท่านยกมือบริกรรมคาถาอยู่ชั่วครู่ใหญ่ จึงค่อยๆ บิหัวกะโหลกพรายกุมาร แล้วจึงใช้ค้อนทุบลงไปในแผ่นตะกั่ว เณรฉ่ำเห็นเช่นนั้นจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ทุบหัวกะโหลกหรือ? ท่านก็เงื้อค้อนตีเณรบอกว่า กำลังตีตะกั่วอยู่ไม่เห็นหรือไง? จากนั้นท่านจึงค่อยๆ บรรจงเอาแผ่นตะกั่วชิ้นนี้วางลงไปในขันสำริดและติดไฟสุมอ่อนๆ จนแผ่นตะกั่วละลายลงไปทีละน้อย

    ในการเทครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เท่าไหร่นัก จึงเทออกมาสวยบ้างไม่สวยบ้าง หล่อติดบ้าง ไม่ติดบ้าง เนื่องจากทนไอพิษจากตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่จึงให้ทุกคนที่อยู่ในพิธีใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก เหลือไว้แต่ตาคอยดูเพื่อป้องกันไอตะกั่วระเหยออกมาอย่างรุนแรง

    แต่นั่นแหละครับ ถึงแม้จะป้องกันแค่ไหนเณรฉ่ำเข้าไปนั่งเทได้สักพักหนึ่งยังต้องออกจากพิธีเพราะทนความร้อนและพิษไอตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่เห็นเช่นนั้นจึงให้ทุกคนค่อยๆ ถอยห่างออกไป ท่านค่อยๆ ใช้ช้อนคนตะกั่วในขันสัมริดและหยิบพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ซึ่งช่างมงคลได้ใช้คีมคีบไว้กันไม่ให้ร้อนมือพอเทใส่เบ้าเสร็จท่านจึงรีบนำมาแช่น้ำมนต์ที่ท่านวางใส่ขันเตรียมไว้ข้างๆ

    พระชุดนี้เนื่องจากมีแม่พิมพ์ตัวเดียวจึงทำให้เทช้ามาก หลวงปู่กลัวว่าจะเสียฤกษ์จึงให้ช่างมงคลและหลวงลุงรอดทำการถอดพิมพ์ออกมาหลายอันเพื่อที่จะได้ช่วยกันเทให้เสร็จโดยเร็ว กว่าพวกเราจะช่วยหลวงปู่ทำพระชุดนี้เสร็จก็ใช้เวลาเกือบ ๑ เดือน เนื่องจากตะกั่วที่หลอมในครั้งนี้บางอันละลายเร็ว แต่ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนจะละลายช้ามาก เพราะมีขี้ตะกั่วลอยอยู่ที่ผิวเต็มไปหมดจึงลำบากมากในการเทเมื่อเทเสร็จแล้วได้พระประมาณ ๑ บาตร หลวงปู่จึงใช้ในผม เณรฉ่ำ เณรลาว ให้จารหลังปิดตาด้วยคาถาว่า
    “อิ สวา สุ” จารได้ประมาณไม่ถึงร้อยองค์ทุกคนก็เลิกจารเนื่องจากเหล็กจารนั้นติดตะกั่วเวลาจารต้องลงแรงมาก หลวงลุงรอดจึงเดินเข้าไปในห้องหลวงปู่หยิบโค้ดต่างๆ ที่คุณชินพร สุขสถิตย์ ทำถวายวัดเพื่อนำมาตอกปลัดขิกของวัดให้หลวงปู่พิจารณาดูว่าจะใช้ได้หรือไม่ เมื่อท่านดูแล้วท่านก็หยิบโค้ดตัว “เฑาะ” และโค้ด “มะอะอุ” ออกมา บอกให้เอาโค้ดตัว “เฑาะ” นี้ตอกหลังพระปิดตา โค้ด “มะอะอุ” ตอกหลังรูปเหมือนเจริญพร

    ในการเทพระชุดนี้หลวงลุงรอดได้เอาแม่พิมพ์หัวโตออกมาเทด้วย เทได้ ๕ องค์ปรากฏว่าแม่พิมพ์หัวโตที่เป็นหินมีดโกนทนความร้อนไม่ไหวถึงกับแตกหักเป็น ๒ เสี่ยงทันที และวันที่หลอมพระชุดนี้ก็ได้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ถ้าไม่กล่าวถึงก็อาจขาดรสชาติในการอ่านไปบ้าง

    วันแรกที่ทำพิธีเทพระชุดนี้ ท้องฟ้าที่สว่างไสวกลับมือครึ้มลมกระโชกแรงจนทุกคนกลัวกุฏิหลวงปู่และหอฉันหลังเก่าจะพังจมลงไปในน้ำ เมฆฝนคลุมไปทั่วราวกับว่าฝนจะตกหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกคนที่อยู่ในวัด ถ้าฝนตกลงมาเที่ยวนี้น้ำป่าจะไหลทะลักท่วมวัดพัดกุฏิพังเป็นแน่

    ทุกคนไม่อยากคิดเช่นนั้นโดยเฉพาะผมหวาดผวาอย่างหนักเนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น คิดในใจว่าเราคงเอาชีวิตมาทิ้งที่วัดหลวงปู่แล้วหรือนี่

    หลวงปู่เห็นเรามีความกังวลเช่นนี้ท่านก็เอ่ยว่า ไม่ต้องกลัวๆ เขารับรู้แล้วว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน เมื่อทำการหลอมพระเสร็จเฉพาะวันนั้น ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างไสวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลวงปู่ได้หยิบพระชุดนี้ขึ้นมาดูทีละองค์และท่าน
    สายสิญจน์ที่ล้อมรอบวัตถุมงคลในห้องไว้ในมือท่าน ท่านจะนั่งปลุกเสกและลงของในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นวันออกพรรษาหรือเข้าพรรษา ท่านทำทุกคนจนถึง ๖ โมงเช้าจึงจะลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นท่านจะกราบลงที่หมอน ๓ ครั้งและก็ลุกออกไปนอกห้องเดินดูอะไรต่ออะไรไปเรื่อยๆ จนถึง ๘ โมงเช้าจึงจะถึงเวลาฉันเช้า ปกติหลวงปู่จะฉันเช้าเพียงมื้อเดียว อาหารที่ฉันจะเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อ จะมีผักถั่วฝักยาวเป็นพื้น ซึ่งท่านจะฉันเช่นนี้เป็นประจำจนชั่วชีวิตของท่าน

    พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกอยู่ทุกคืนเป็นเวลานาน จนพระเครื่องที่มีอยู่ในบาตรเต้นระรัวกระทบกันเสมือนคั่วข้างตอกแตก มีบางองค์กระเด็นออกมานอกบาตรก็มี ผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอหลวงปู่เก็บไว้ส่วนตัวจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็มอบให้ หลวงปู่ได้ทำการแจกพระชุดนี้ให้แก่บรรดาผู้ที่นับถือท่านนำไปใช้และที่ไปกราบท่านที่วัด ท่านจะพูดเสมอว่า

    เก็บไว้ให้ดีของนี่รักษาตัวได้ และยังทำยากอีกด้วย พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพร ใครมาหาท่านท่านจะใช้ผมไปหยิบในบาตรและนำมาใส่พานเล็กๆ วางไว้หน้าท่าน ท่านจะแจกไปเรื่อยๆ จนใครๆ เรียกพระชุดนี้ว่า รุ่น “แจกทาน”
    ซึ่งก็ไม่ผิดกติกาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดจะเรียกรุ่นนี้ว่า “รุ่นน้ำท่วม”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรนี้สร้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์อันดีของหลวงปู่เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่ยากจน ถ้าท่านเจอและดูเป็นก็ให้เก็บไว้ใช้เถิด ผมมั่นใจว่าพระชุดนี้ต้องยอดเยี่ยมไร้เทียมทานจริงๆ มิฉะนั้นผมคงไม่เลือกแขวนและใช้ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้หรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีพระเครื่องชุดอื่นของหลวงปู่ทิมนะครับ ตอนนี้ยังเหลืออยู่หลายองค์ทีเดียวแต่ที่ผมเลือกรุ่นนี้เพราะผมได้ยินหลวงปู่กล่าวว่า “พระรุ่นนี้นี่สร้างขึ้นมายาก หาฤกษ์มานาน ใครใช้จะรู้เอง แต่นี่รับรองใครมีไม่รู้จักอด มีเงินมีทองเหมือนกับน้ำที่ไหลไปที่ใดจะทำให้บ้านเรือนที่นั่นเกิดความสมบูรณ์”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรของหลวงปู่นี้ จัดเป็นพระชุดหนึ่งที่ท่านทำกับมือ เวลาเช่าหา ขอให้สังเกตุโค้ดที่ตอกหลังองค์พระเป็นสำคัญ ถ้าท่านจำโค้ดแม่นท่านอาจเช่าหากันในราคาไม่แพงก็ได้ เพราะเวลานี้คนที่ดูพระชุดนี้เป็นยังมีอยู่ไม่กี่คน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าหลวงปู่เลยกลับตั้งเป็นผู้รู้เสียเองว่าพระนี้จะต้องมีลักษณะอย่างนี้เช่นนี้ ด้านหลังจะต้องมีรอยวนๆ อันนี้ไม่ใช่หลักสำคัญในการดูพระให้เป็นหรอกครับ เหตุที่ด้านหลังเป็นวนๆ นั้นเนื่องจากตะกั่วที่เทเป็นตะกั่วเนื้ออ่อน ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนหรือเป็นตะกั่วที่เป็นเนื้อชินด้านหลังจะไม่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากส่วนผสมของเนื้อตะกั่วหลายชนิดมารวมกันจึงมีความแข็งเป็นพิเศษ บางองค์จะมีสีดำ บางองค์จะมีพรายปรอทอยู่ไปทั่ว ก็แล้วแต่ส่วนผสมที่แต่ละคนเติมลงไป

    หลวงปู่ทองฤทธิ์ พระผู้เฒ่าเรืองอาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฉันทนิมิต จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งผมและคุณชินพรได้ขึ้นไปกราบท่านที่วัด พอท่านเห็นรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมที่ผมคล้องอยู่ถึงกับขอดู พอดูเสร็จท่านก็หยิบพระขึ้นมาจบทำปากหมุบหมิบเหมือนท่านจะทำความเคารพหลวงปู่ทิมต่อหน้าผมและคุณชินพรที่มองท่านอย่างฉงนและทึ่งอยู่ในใจ ผมจึงถามท่านพระองค์นี้ดีอย่างไรครับ ? ท่านตอบว่า “องค์นี้ดีแล้วทุกอย่าง คุ้มได้ทุกอย่าง เจ้าของลงและเสกดีแล้ว”

    สมัยที่ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ จ. อยุธยา ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้อนุญาตให้ผมไปหา “ลูกแก้ว” นำมาให้ท่านอธิษฐานจิตเป็น “แก้วสารพัดนึก” ซึ่งท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ ๑ พรรษา และผมได้นำรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมให้ท่านดู พอท่านดูจบท่านตอบว่า “พระองค์นี้ดีมาก มีอานุภาพสูง ป้องกันสรรพสิ่งในโลกนี้ได้ ยิ่งอยู่กับคนที่มีศีลมีธรรมพระองค์นี้จะปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็นเร็ว เนื่องจากผู้ทำได้อัญเชิญเทวดาให้มารับรู้ด้วย” ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบความหมายของประโยคหลัง แต่คิดว่าตอนหลวงปู่ทำพิธีคงจะอัญเชิญครูบาอาจารย์ เทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มารับรู้เป็นแน่แท้ ผมเคยถามหลวงปู่ว่า คาถาเชิญครูนั้นหลวงปู่เชิญและสวดใช้บทไหน ท่านตอบว่า ถ้าอยากรู้ ๒ ทุ่มมาหานี่ นี่จะสอนให้ และคืนนั้นผมก็ได้คาถาอัญเชิญครูจากท่านจริงๆ ซึ่งจะขอกล่าวถึงให้ท่านผู้อ่านที่สนใจจดจำไว้เผื่อมีโอกาสจะได้นำออกมาใช้บ้าง

    คาถาเชิญครูของหลวงปู่ทิม ก่อนอื่นให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และสวด หัวใจห้องพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ทำจิตใจให้หยุดนิ่ง นิ่งหยุดทั้งนอกและใน เมื่อใจเป็นสมาธิแล้วจึงสวดพระคาถาอัญเชิญครูดังนี้

    นะโม นมัสการ จะไหว้ครูบาอาจารย์ อันมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสมเด็จพระพุทธองค์ที่มีนามว่า พระกุกกุสันโธ พระโกนาคะมะโน พระกัสสะโปพุทโธ พระศรีศากยะมุนีโคดม พระอริยะเมตไตย ตลอดจน อะ อา อิ อี เอ โอ ขอเดชพระบารมีคุณพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ จงมาช่วยปราบภูตผีปีศาจ ผีพราย ผีเปรต อสุรกายและมายาที่กระทำให้เกิดโรคโรคาโพยภัยอันตราย อาวุธทั้งหลายจงคลาดแคล้ว สรรพอันร้ายกาจ ทั้งอุบาทว์และจังไร ทั้งคุณไสย ทั้งคุณผี คุณคน หุ่นพยนต์ อาถรรพ์ต่างๆ ที่ฝังไว้อยู่กลางทาง ขอเดชพระสัพพัญญูจงมาช่วยทำลาย ให้พ่ายแพ้
    ด้วยอาคม จะอาราธนาคุณพระธรรมเจ้าทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ให้สว่างไสวดังประทีปแก้วชัชวาล สอนมวลให้พ้นทุกข์ ขอเดชคุณพระพุทธเจ้าทั้งหลายบันดาลให้หายจากสรรพสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายในสากลโลก จะอาราธนาพระสงฆ์ที่ทรงศีลอันบริสุทธิ์มาเป็นพยาน ตักเอาน้ำในสระโบกขรณีมารค จะขอชำระล้างสิ่งสารพัดชั่วร้ายทั้งชาตินี้และชาติก่อน จะขออารธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สวดพระพุทธมนต์ให้พระเกตุมารักษา สารพัดเคราะห์ สารพัดโศก เสนียดจังไร ให้ขับออกไปนอกเสมา สัพเพเทวายักขาภูติ สัพเพชะนามะหายะโส สรรพสิ่งทั้งหลายที่เลวร้ายจงพ่ายไปด้วยนะโมพุทธายะ

    ต่อจากนั้นจึงสวดคาถาเบิกแผ่นดิน เบิกสรรพทั้งหลาย ซึ่งมีใจความว่า

    “โอมเบิก มหาเบิก โอมเลิก มหาเลิก จะเบิกธรณีสารแลทวารสลัก จะเบิกสิ่งที่ขวางหน้า จะเบิกแม่พระธรณีท้าวอินทร์พรหม จะเบิกคาถามหานิทราประกอบด้วยเตโช วาโยย้อนภูตพราย หมู่ปีศาจอันมีฤทธิ์ จะเบิกเทวดาอันอยู่ชั้นฟ้า จะเบิกพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู พระเกตุ จะเบิกเพชรฉลูกรรจ์ ๗ ชั้น จะเบิกแหวนลูกกัลป์ถันพิรอดและรางทางลงด้วยพระปถมังอันศักดิ์สิทธิ์เป็นประเจียด ตะกรุดพุทธจักร เลขยันต์เป็นกำแพง ๗ ชั้นกันมนตรา โอมสวาหะ สวาหาย พุทธังประสิทธิ์ ธัมมังประสิทธิ์ สังฆังประสิทธิ์”

    เมื่อทำการเบิกแล้วจึงเสกด้วยคาถาอีกบทหนึ่งว่า

    “พุทธังเทวดารักษา ธัมมังเทวดารักษา สังฆังเทวดารักษา จะห้ามไฟ ไฟก็ดับ จะห้ามดิน ดินก็แยกเป็นน้ำ จะห้ามปืน ปืนก็ยิงไม่ออกและไหลออกจากปากกระบอกเสมือนเถ้าธุลี พุทโธป้องกัน ธัมโมล้อม สังโฆกัน โธอุด ธังอัดกันสารพัดศัตราวุธ วินาศสันติ ปถมังวิเนยะ พุทธังคุ้ม ธัมมังคุ้ม สังฆังคุ้ม อิติปิโสภควา อะระหังสัมมา พุทธังอยู่ตัวข้า ธัมมังเมตตาอย่าได้ขาด สังฆังคุ้มครองปวงสรรพสิ่งทั้งหลาย พุทธัง อัปมาโน อัปมาโนป้องกัน สารพัดศัตรู อาวุธเสนียดจังไร วินาศสันติ พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง พระพุทธะอยู่หน้า พระธัมมะอยู่หลัง พระสังฆะคุ้มครอง หังขะรัง คงกระพันธานัง อธิษฐายาจามิ”

    จากนั้นท่านจึงนั่งสมาธิส่งกระแสจิตปลุกเสกตามกรรมวิธีของท่านที่ได้ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ ซึ่งหลวงปู่กล่าวว่า ทุกครั้งที่ทำการจะต้องกล่าวคาถาเชิญครูดังกล่าวเช่นนี้เป็นประจำ จึงจะดีและศักดิ์สิทธิ์ ผมแค่เห็นคาถาที่ท่านบอกมาให้ก็ท้อใจเสียเสียแล้ว หรือท่านผู้อ่านจะทดลองทำดูถ้าดีอย่างไรก็ช่วยบอกให้ผมทราบด้วยก็แล้วกัน

    พระชุดน้ำท่วมนี้หลวงปู่ได้ทำการแจกจ่ายให้แก่ท่านผู้ที่นับถือท่านอยู่เสมอ แม้วันที่ท่านเจ้าคุณวัดป่าประดู่ ไปนิมนต์หลวงปู่ที่วัดเพื่อให้มาเกียรติในงานวันเกิดของท่านที่วัดป่าประดู่ จ. ระยอง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗ หลวงปู่ยังใช้ให้ผมนำพระชุดนี้ใส่ในย่ามนำมาแจกให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์ที่มาแสดงมุทิตาจิตกับท่านเจ้าคุณที่วัด วันนั้นต่างแย่งกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด พระเครื่องที่เตรียมไปไม่พอแจก และก็เป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ได้รับไปในตอนนั้นเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงปู่เคยกล่าวให้ฟังว่า ตะกั่วเถื่อนที่นี่ได้มาเป็นของดีที่เกิดเองตามธรรมชาติ เมื่อมานำทำเป็นองค์พระให้ถูกต้องตามตำราที่นี่เรียนมา จะมีอำนาจความศักดิ์สิทธิ์สูงมากเพราะตะกั่วมีกระแสการดูดซับและรับพลังจิตจากผู้เสกเข้าไปได้ง่ายและรวดเร็วมาก ซึ่งก็ตรงกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ได้พูดไว้เมื่อคราวที่ผมและรองศาสตรจารย์ ดร.ชวลิต นิตยะ อาจารย์สถาปัตย์จุฬาฯ ได้ไปกราบหลวงปู่โต๊ะที่วัดเพื่อขอเมตตาให้ท่านทำเบี้ยแก้ใว้ใช้ติดตัว
    ซึ่งหลวงปู่ได้สาธิตวิธีทำและบอกว่าให้หาตะกั่วมาปิดปากหอยเบี้ย เนื่องจากตะกั่วนี้มีคุณพิเศษในตัวเองสามารถรับกระแสจิตและพลังอณูที่อยู่ในโลกนี้ได้เร็วกว่าวัตถุชนิดอื่น ยิ่งเป็นตะกั่วเถื่อนยิ่งดีใหญ่ แม้กระทั่ง หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ท่านก็เคยกล่าวให้ผมฟังเช่นกัน

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมนี้สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจของหลวงปู่เอง เพื่อฝากความเป็นอมตะของพระรุ่นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้ ผมเคยนำแจก อาจารย์สุเทพ วินิชชากร อาจารย์ริ้วหว้าวิทยาคม จ.อ่างทอง ปรากฏมีประสบการณ์เกิดขึ้นกับอาจารย์สุเทพเป็นอันมาก รถกระบะของท่านได้ปะทะกับรถคันอื่น ตนเองไม่เป็นอันตรายที่คอมีพระปิดตารุ่นน้ำท่วมเพียงองค์เดียว คุณสุเทพได้นำพระชุดนี้เลี่ยมแขวนให้ลูกชาย ลูกชายถูกหมากัดไม่เข้าอีก

    เมื่อครั้งที่ หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตึง จ.เชียงใหม่ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยเห็นรูปเหมือนน้ำท่วมที่ผมแขวนอยู่และขอดูและพูดว่า “พระองค์นี้มีดีเหลือล้นสามารถบนขออะไรก็ได้ ถ้าได้แล้วให้ปิดทองที่องค์พระไว้จะเป็นมงคลยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้ติดตัว”

    ผมเคยประสบอุบัติรถพลิกคว่ำที่ จ.อยุธยา เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๓๕ รถเสียหลักปะทะกับรถอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างทางกระเด็นตีลังกาพลิกคว่ำอยู่กลางทุ่งนา ปรากฏผมไม่เป็นอะไรเลยทุกคนในรถต่างแขวนพระปิดตารุ่นน้ำท่วมเพียงองค์เดียวกันทุกคน ส่วนผมแขวนรูปเหมือนเจริญพรและพระปิดตาน้ำท่วมอยู่อย่างละองค์ และเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๓๙ รถก็ไปพลิกคว่ำที่ จ.กาฬสินธุ์อีก ในวันนั้น ผมห้อยคอรูปเหมือนเจริญพรเนื้อชินตะกั่วรุ่นน้ำท่วมเพียงองค์เดียว อย่างงี้ไม่เรียกว่าของดีแล้วจะเรียกว่าอะไร ของจริงก็เป็นของจริงวันยังค่ำ หรือท่านว่าไม่จริง

    คุณชูชาติ รัตนเสถียร บ้านอยู่ ต.นาตาขวัญ จ.ระยอง เคยไปหาหลวงปู่ที่วัดหลายครั้ง ได้รับพระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมจากหลวงปู่มาหลายองค์และก็แจกจ่ายพี่น้องของตนเองจนเกือบหมด เหลือที่คอบูชาไว้ ๒ องค์ ปรากฏว่าขับรถไปส่งเหล้าของบริษัท สุราทิพย์ จำกัด ออกต่างจังหวัดหลายครั้งหลายคราวก็ปลอดภัยทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งตนเองเกิดหลับในวิ่งไปปะทะกับรถบรรทุกคันอื่นตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่คนอื่นบาดเจ็บสาหัส แถมยังมีลาภลอยอยู่เสมอจนพนักงานที่ทำงานอยู่ด้วยกันถามว่า มีอะไรดี คุณชูชาติตอบว่า มีพระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมที่หลวงปู่ให้มา อาราธนาติดตัวและอธิษฐานขอลาภจากท่านเป็นประจำ ไปไหนก็สบาย มีคนมาขอเช่าต่อคุณชูชาติก็ไม่ให้แถมยังพูดว่า เงินทองพอหาได้แต่พระให้ไปแล้วไม่รู้จะไปหาที่ไหน เก็บไว้ใช้รักษาตัวดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  16. orrachoun

    orrachoun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    792
    ค่าพลัง:
    +1,033
    ขอรบกวนช่วยแจ้งค่าบูชาของรายการที่่ยังอยู่ทั้งหมดทาง PM ด้วยครับ
     
  17. ละ่อ่อน

    ละ่อ่อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +151
    ๒. ขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ เนื้อขาว ทาทองหลังโรยพลอย ฝั่งหัว ปี 51 หลวงพ่อสาคร
    หน้าที่ 1

    ๓. พิมพ์เล็กครับ ขุนแผนผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดทองคำแท้/โรยเกษาหลวงพ่อสาคร
    หน้าที่ 1

    ขอทราบราคาด้วยครับ
     
  18. ละ่อ่อน

    ละ่อ่อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +151
    ๒. ขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ เนื้อขาว ทาทองหลังโรยพลอย ฝั่งหัว ปี 51 หลวงพ่อสาคร
    หน้าที่ 1

    ๓. พิมพ์เล็กครับ ขุนแผนผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดทองคำแท้/โรยเกษาหลวงพ่อสาคร
    หน้าที่ 1

    ขอทราบราคาด้วยครับ
     
  19. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หล่อพระเจ้าตากสิน ปี 2518 สร้างโดยท่านพลเรือตรี วิสัย ปานใจ

    เพื่อเป็นที่ระลึกในการร่วมทำบุญหารายได้สร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    - อาจารย์ฝั้น อาจาโร ปลุกเสกเดี่ยว 1ไตรมาสหลังจากนั้นนำมาให้
    - หลวงปู่ทิมปลุกเสกเดี่ยวอีก 7 วัน โดยท่านทำพิธีปลุกเสกตั้งแต่ตี1 - ตี 4 ทุกวัน จนครบ
    หลวงปู่ทิมท่านบอกว่า ดีทางคุ้มครองป้องกันโจรผู้ร้าย และป้องกันเสนียดจัญไรไม่ให้เข้ามาใกล้ ประสบการณ์มากมาย ยิงไม่ออก แคล้วคลาด

    @ ช่างแกะแม่พิมพ์ ช่างเกษม มงคลเจริญ ผู้จัดสร้าง พันโทพิสัย ปานใจ เมือแกะแม่พิมพ์เสร็จ ได้นำไปให้พระเกจิชื่อดังปลุกเสกตั้งแต่ตอนเหนือไล่ลงมา เท่าที่จำได้ เกจิอาจารย์
    ๑.หลวงปู่แหวน พระอาจารย์ฝั้นปลุกเสกที่วัด 3 เดือน
    ๒.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรสเสกที่วัดอีกเป็นเดือน
    สุดท้าย นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปวัดละหารไร่ นิมนต์หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสก 7 วัน 7 คืน เมื่อครบ 7 วัน หลวงปู่ทิม ได้บอกกับผู้สร้างว่า บารมีพระเจ้าตากแรงมาก

    คุณเพียรวิทย์ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ปลุกเสกเสร็จหลวงปู่ถึงกับป่วยเลยเพราะบารมีพระเจ้าตากแรงมาก เมื่อถึงคราวพิธีใหญ่ ได้อัญเชิญพระบรมรูปพระเจ้าตากสินแห่สรรค์เสริญทั่วเมืองจันทบุรี หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เดินนำหน้า ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ คนเยอะแน่นคับถนน เมื่อวาระปลุกเสก พระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งนิมนต์มาจากทางภาคเหนือ ได้ลุกขึ้นทั้งหลับตาจากอาสนะปลุกเสก ดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากได้มาประทับทรงพระภิกษุรูปนี้ ได้บอกกับพันโทพิสัย ปานใจ ว่าให้นำดาบมาให้ด้วย พันโทนำดาบเล่มแรกมา ท่านบอกไม่ใช่เล่มนี้ เมื่อพันโทพิสัยนำเล่มที่สองมาให้ ท่านพ่อตากได้ชักดาบนันทกาวุธ(ดาบที่พระยาพิชัยมีสองเล่มได้ถวายให้พระเจ้าตาก 1 เล่ม)

    - วัตถุมงคลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี 2518 สร้างเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมทบทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี โดยมีพระเถระผู้ใหญ่ และพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในทางกฤตยาคม ได้มอบแผ่นทองลงอักขระเลขยันต์ มาให้เพื่อผสมในเนื้อโลหะที่ทำการหล่อวัตถุมงคล

    รายนามเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกประกอบด้วย

    1. พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    2. หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่
    3. หลวงพ่อคง สุวณโณ วัดวังสรรพรส
    4. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
    5. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
    6. พระอาจารย์อ่อน ญาณศิริ วัดนิโคธาราม
    7. พระอาจารย์หลุย จันทะสาโร วัดถ้ำผาปิ้ง
    8. ท่านเจ้าคุณราชคุณาภรณ์ วัดศรีโพนเมือง
    9. ท่านเจ้าคุณณเทพบัณฑิต วัดศรีเมือง
    10. พระอาจารย์สาม อภิญจโน วัดป่าไตรวิเวก
    11. พระอาจารย์จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทนาราม
    12. พระอาจารย์อุ่น อุตตโม วัดอุดมรัตนาราม
    13. พระครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    14. พระอาจารย์บุญสิน วัดปลายคลองพริ้ว
    15. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือแกลง
    16. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า
    17. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า
    18. หลวงพ่อกี๋ วัดแหลมมะขาม
    19. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

    เป็นวัตถุมงคลที่ดีควรสืบแสะหาเก็บบูชายิ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2012
  20. หลวงแมว

    หลวงแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,595
    ขอบคุณครับ เป็นความรู้ดีครับ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...