ศาลสั่งคุก 2 ปี พระเกษม หมิ่นพุทธศาสนา

ถ้าใครใช้ทิพยจักขุญาณหรือมโนมยิทธิ จะเห็นอทิสสมานกายของพระเกษมอยู่โลกันตะมหานรกซึ่งไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงตรงไหน อนิจจาน่าสงสารผู้มืดบอดคนนี้เสียจริงๆ

 

ถูกที่สุด ถึงแม้เป็นวัตถุ แต่ใจไม่ได้กราบวัตถุ เพียงแต่วัตถุนั้น ทำให้ได้ระลึกไปถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า... เป็นพุทธานุสติครับ

 

โปรดเดินทางสายกลาง อนุโมทนาสาธุ ขอให้ชีวิตทุกชีวิตสงบสุข

 

ไม่ยึดติดๆและไม่ติดยึด:boo: แต่ปุธุชนยังมากด้วยกิเลส:'( ยังติดยึดองค์พระปฎิมาไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ดีกว่าติดในอบายมุขๆ:boo: แม่นบ่สาธุชนแลคุณนักบวชเกษมผู้สุดโต่งไม่กลับๆๆๆๆ :boo::'(({):boo:

 

กราบนมัสการพระอาจารย์เล็กครับ สิ่งที่ท่านเทศน์ไว้นั้น ชัดเจนเหลือเกิน สาธุ

 

อุๆอาๆ อยากไปนิพานจังวุ๊ย...

 

ใครที่สนับสนุนพระเกษมจะไปอยู่ด้วยกันทันทีที่สิ้นชีวิตลง พระอรหันต์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และที่จะมีในอนาคตไม่มีวันทำแบบนี้เด็ดขาด เพราะจิตท่านมีความกตัญญูต่อพระพุทธองค์ แม้แต่รูปพระตกตามพื้นท่านยังไม่ก้าวข้ามเลย

 

เธอจงระวังความคิดของเธอ..
เพราะความคิดของเธอ
จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ

เธอจงระวังความประพฤติของเธอ..
เพราะความประพฤติของเธอ
จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ

เธอจงระวังความเคยชินของเธอ..
เพราะความเคยชินของเธอ
จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ

เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ..
เพราะอุปนิสัยของเธอ
จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต

พระโพธญาณเถร ( ชา สุภัทโท )<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

พักตร์พระพริ้มยิ้มเย็นเช่นพุทธะ
สืบธรรมะพุทธกาลผ่านสมัย
ได้กราบไหว้บูชาชำระใจ <O</O
เป็นหลักชัยหลายชีวิตสู่นิพพาน

เกิดจากดิน หิน ทราย กลายเป็นพระ<O</O
บอกสัจจะความจริงสิ่งสรรพสาร
พืช สัตว์ คน หิน ทรายก็คล้ายกัน<O</O
สุดทางนั้นย่อมล่วงลับกลับสู่ดิน



เรามิได้บูชาหิน ดิน ทราย ทองเหลือง ไฟเบอร์หรือวัตถุธาตุภายนอกใดๆ แต่ระลึกถึงพุทธานุภาพมหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายในสมมติธาตุนั้น แม้ดินเหนียวเปล่าๆ ก้อนหนึ่งขึ้นรูป เป็นองค์พระแล้ว ก็กลับกลายเป็นธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมาให้คนเคารพบูชาเราไม่ได้ติดที่ดินนั้น เราไม่ได้ไหว้ดิน
แต่จิตไหว้ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าต่างหาก

ตัวอย่างภาพพระที่แกะจากไม้กลายเป็นหินธรรมดาก้อนหนึ่งและพระปั้นจากไฟเบอร์สามารถน้อมจิตเราเป็นสื่อสมมติให้ระลึกถึงพระพุทธองค์ได้ง่ายขึ้น
ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระนั้นล้วนมาจากพุทธานุภาพ

หากยังสงสัยลองไปไหว้พระหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ที่ริมลองรพีพัฒน์ หนองแค สระบุรี พิจารณาดูว่าจากดินเหนียวธรรมดาก้อนหนึ่งเมื่อกลายเป็นองค์พระแล้วทำไมจึงทวีอานุภาพมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้อย่างไร ไปไหว้พระนะอย่าไปไหว้ดินเหนียว

 

เธอจงระวังความคิดของเธอ..
เพราะความคิดของเธอ
จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ

เธอจงระวังความประพฤติของเธอ..
เพราะความประพฤติของเธอ
จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ

เธอจงระวังความเคยชินของเธอ..
เพราะความเคยชินของเธอ
จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ

เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ..
เพราะอุปนิสัยของเธอ
จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต

พระโพธญาณเถร ( ชา สุภัทโท )<!--?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>[/QUOTE]
มักหลายเด้

 

เห็นแบบนี้แล้วให้ทำลายพระพุทธรูปเหรอ งั้นเอารูปพ่อแม่พระเกษมมาเหยียบหน่อยสิพระเกษมจะยอมหรือเปล่า ไม่มีพระสาวกองค์ใดในอดีต ปัจจุบันและอนาคตทำแบบนี้หรอกเพราะจิตท่านอ่อนโยน หรือเอารูปพ่อแม่คุณที่โพสต์นี้มาเหยียบหน่อยจะเป็นรัยไป คงไม่ว่ากันนะ บาปมันไม่มีหรอกมันก็แค่รูปภาพเท่านั้นเอง อย่าไปยึดติดมันเลย ส่งมาให้ผมเหยียบหน่อยสิไม่บาปหรอกมั้งรูปพ่อแม่พระเกษมและพ่อแม่คุณน่ะ

 

มีพระบูชาห้อยคอจัดเป็นพุทธานุสติ ทำให้ระลึกถึงท่านถึงศีลถึงคำสอนว่า รูปนั้นไม่เที่ยง มีความตั้งอยู่ในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สุดท้ายก็สลายไปหาแก่นสารไม่ได้ ร่างกายเป็นที่ประชุมของธาตุ 4 เท่านั้นมันไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกายร่างกายไม่มีในเรา ร่างกายขันธ์ 5 มันทำให้ทุกข์มีแต่ความสกปรกเน่าเหม็นน่ารังเกียจมี อุจจาระ ปัสสาวะ เป็นอาทิ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายแบบนี้เราไม่ต้องการอีกต่อไปพอกันทีกับร่างกายขันธ์ 5 แม้เทวดาพรหมเราก็ไม่อยากไปเป็นเพราะต้องจุติคือตายแล้วเกิดมามีร่างกายอยู่ดี เราไม่เอาอีกแล้ว เราจะไปนิพพาน ตอนนี้เราแขวนพระอยู่ขึ้นชื่อว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่กะเราพระองค์ท่านไม่อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน เราอยู่กะท่านเท่ากับเราอยู่พระนิพพาน ถ้าตายตอนนี้เราจะไปนิพพานการเกิดไม่มีอีกสำหรับเรา ผมพิจารณาอย่างนี้เพราะอาศัยพระที่ห้อยคอเป็นเหตุ และผมก็มั่นใจว่าพระห้อยคอทำให้คนละกิเลศไปนิพพานได้ ไปสวรรค์ได้ ไปพรหมโลกได้ด้วยเหตุนี้

โมทนาบุญ

 

กรรมเป็นของของตน.............ปุถุชนส่วนใหญ่ ผู้ไม่พ้นกิเลสย่อม เห็น รูป เสียง กลิ่น รส
เป็นที่น่าพอใจ และ ไม่พอใจ
พอใจ ในสิ่งที่ชอบ ตามความคิดของตน ไม่พอใจ ในสิ่งที่ไม่ชอบตามความคิดของตน
โดยมี สมมุติ มาครอบเอาไว้...........ผมเป็นคนๆหนึ่ง ที่พอใจใน สมมุติ หลงในความงามแห่งศิลปะ.........ความสวยงามในวัตถุที่มนุษย์สร้างสรรค์
แม้เป็นเพียง.......สิ่งอันจำลองมาแต่ ก็ทำให้เราอุ่นใจว่าท่านยังเมตตา คอยดูเราอยู่ เมื่อเราพบเห็นท่าน ย่อมสุขใจ และเป็นสิ่งตืนสติ ไม่ให้ทำความชั่ว เราย่อมมีความสุข
เมือ เห็น นึกถึง ปัญญายังด้อย ไมหลักแหลม ต้องฝนอีกนาน กว่าจะคม ครับ
ชาตินี้ไม่พบ ต่อไปอาจได้พบ ท่านจริงๆๆ พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
หากผิดประการใด.........อโหสิด้วยครับ

 

เสริมนิดหน่อยครับ

ผิดนิดหน่อยครับ พระเกษมจะสำนึกผิดได้ก่อนตายและขอขมาต่อพระรัตนตรัยและสัญญาว่าตนจะทำตัวเป็นคนดีต่อไป ทำให้จุดนี้โทษของพระเกษมจึงอยู่แค่อเวจีมหานรกครับ ไม่ถึงกับโลกันต์

 

พูดเหมื่อนตอนบวชไม่ไหว้กันงั้นเเหละเเปลกคน เข้าโบสถ์ทำกิจสงฆ์ ทำวัดเช้าเย็น ปลงอาบัติ อะไรต่อมิอะไรก็ต้องไหว้พระประธานก่อนอย่างเเรกเเล้ว บ้าเปล่าวะเรื่องง่ายๆคิดไม่ได้ บางเรื่องอย่ามองให้มันลึกเกินไป อยู่ให้มันพอดี เดินทางสายกลางไปเรื่อยก็เเค่นั้นไม่เห็นมีไรหน้าแปลกใจ ก็แค่คนบ้าคนนึงเอาผ้าเหลืองมาห่ม จะไปให้ค่าทำไม มองว่าเค้าน่าสงสาร น่าเวทนา ซะก็สิ้นเรื่อง

 

อ่านกระทู้นี่แล้วคิดถึงพระพุทธเจ้าในครั้งพุทธกาล......ผมเข้าใจเลยว่าทำไมในสมัยนั้นจึงมีคนเชื่อฟังพระเทวทัต....ทั้งๆที่มีพระพุทธเจ้าอยู่นะ....แต่ก่อนนี้ไม่เข้าใจ...ก็คิดว่าพระเทวทัตนี่ คนที่ไปเป็นสาวก ไปเชื่อฟังท่านนี่ช่างโง่เสียนี่กระไร....พระพุทธเจ้าก็ยังอยู่...พระสงฆ์ส่วนใหญ่ท่านก็ดีหมด..เป็นผู้ประกาศพระศาสนา พระเทวทัตเป็นลูกศิษย์ ก็ด้วยคิดว่าจะเคร่งครัดเกินพระองค์เลยบัญญัติกฏมากมาย เช่น ให้ภิกษุทั้งหลายอยู่ป่าตลอดชีวิต เข้าสู่บ้านมีโทษ เป็นต้น....เพื่อจะให้คนอื่นเห็นตนว่าดีกว่าพระพุทธเจ้า เคร่งกว่าพระพุทธเจ้า...มีคนเชื่อมากมายนะ เพราะคิดว่าพระเทวทัตนั้นดี.....

มาวันนี้นักบวชเกษม ทำตัวเคร่งครัดละเลยต่อคณะสงฆ์ หัวแข็ง เตื่อนเช่นไรก็ไม่ฟัง ยึดเอาพระไตรปิฏก ไม่กี่เรื่อง พร้อมบิดเบือนเนื้อหา มีคนเชื่อมากมาย เป็นลูกศิษย์มากมาย....เห็นแล้วอนาจ.....

จะมีใครคิดบ้างใหม มีพระสงฆ์ที่ใหนเขาขึ้นศาลฆราวาส พระสงฆ์ที่ดีท่านจัดการกันเองได้ เพราะมีในพระวินัยชัดเจน ไม่จำเป็นต้องให้ฆราวาสมาบอกว่าอันนี้ตัวเองนะผิด นักบวชเกษมชอบนักที่จะขึ้นศาลฆราวาส ให้ฆราวาสมาบอกว่าตัวเองหนะผิด ดูแล้วอนาจ อันนี้คณะสงฆ์เตือนแล้วก็ดี ขับแล้วก็ดี ไม่ฟัง จนต้องให้ศาลฆราวาสตัดสิน ลูกศิษย์เขาจะรู้ เขาจะอายบ้างใหม หรือคิดว่าเจ้าสำนักเขาเป็นฮีโร่ อย่างพระเทวทัตทูลขอสิกขาบทจากพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้าท่านไม่ให้ พาคณะตนเองแยกไปหนีเลย ตั้งตนปกครองสงฆ์เลยอย่างนี้.....

เหตุการณ์ในสมัยนั้นเกิดมาในสมัยนี้อย่างไรอย่างนั้น.....

 

ศาลตัดสินนักบวชเกษมครั้งนี้น่าจะถือเป็นการฉลองพุทธชยันตี ปีนี้ด้วยนะ ผมถือว่าเป็นข่าวดีด้วยนะนี่.....

เพราะรอลงอาญาอย่างน้อยก็ไม่อาจอย่างที่ทำทุกวันนี้ได้อีก.....

 

เรื่องนี้ ......... น่ากลัวครับ ..........

กลัวนรก......บรื๋อ.......

 

ผมเคราพในธรรมะที่หลวงพ่อเกษม วัดสามแยก นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสอน ผู้มีปัญญาจะต้องใช้ปัญญาพิจารณากันได้ ของจริงก็พิสูตรอย่างไรก็ของจริงอยู่วันยังค่ำ คุณว่าจริงไหม
น่าเสียดาย ที่ไม่ได้มีโอกาสได้ถามหลวงพ่อฤษีลิงดำ,พระอาจารย์มั่น,หลวงพ่อใหญ่ ในเรื่องอื่นๆที่ท่านเมตตาให้ถามได้เพื่อความแน่ใจอีกทีก็ได้ในบางเรื่องที่ยังสงสัย(แนวทางที่จริงบางเรื่องคืออะไร)

แต่สงสารน้องพี่คนอื่นจึงเข้ามาเตือน บางคนฟังและอ่านมาน้อยแล้วไปตำหนิสิ่งเรายังไม่รู้จริงในเรื่องนั้นๆ เธออาจจะสะใจที่ทำลงแล้วตอนนี้และคนอื่นก็เห็นตามบ้างแต่เวลาก็เล็กน้อยแล้วเขาเหล่านั้นก็ผ่านมันไป แต่สิ่งเธอทำลงไปจะได้รับผลหลังความตายมันมากนั้นซึ่งไม่เป็นผลดีเลยใครก็ช่วยเธอไม่ได้ แบบนั้นจะว่าอย่างไร
เมตตาสงสารจึงมาบอกให้ กับตัวกลับใจแล้วขอขมาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยังมีโอกาสรอดนะ

 

ขอยืนยันเช่นกันครับ หลวงปู่เกษม ท่านเป็นพระอรหันต์ล้านเปอร์เซ็น
เพียงแต่แนวทางของท่านอาจจะดูรุนแรง แต่ถ้าท่านใดทำจิตให้ถึงอรหัตผลแล้ว
จะไม่มีการสงสัยเลย