ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

7 ปีกลียุค พ.ศ.2555-2561​

เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2555-2561 รวมเวลา 7 ปี ครับ อาจจะเกิดในปีไหนก็ได้ แต่ก็ไม่เกินปี 2561 ครับ

ทำไมถึงต้องเกิดโลกาวินาศ?

การเป็นเช่นนี้เพราะคนในปัจจุบัน มีคนดีเพียง 1 ใน 4 ของประชากรโลก ดังนั้นโลกาวินาศที่จะเกิดขึ้นเพื่อล้างโลก ล้างคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรม และคัดเฉพาะคนดีเข้าสู่ยุคทอง นอกนั้นจะถูกส่งไปนรกภูมิ (เรื่องดังมีกล่าว มีในพยากรณ์ของโลกที่สามารถค้นหาเองได้ ทั้งของมายัน และของศาสนาต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ตรงกัน จนเป็นที่น่าสังเกตุว่า ทำไมคำทำนายเหล่านี้ต่างทั้งเวลาและสถานที่ ถึงได้กล่าวเป็นคำทำนายไว้ตรงกัน )

ถอดรหัสจากพุทธทำนายในศิลาจารึก

เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ ( ปีมะโรง พ.ศ. 2555 ) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน

ล่วงได้ ๒๕๐๘ ( ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556 ) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ( น่าจะเกิดโลกาวินาศ ถ้าผู้คนไม่สนใจพระศรีอารย์ และมนุษย์ยังถูกซ้ำเติมต่อไปในปี พ.ศ. 2560 ผู้มีศีลธรรมจะอยู่รอด )

ล่วงได้ ๒๕๑๒ ( ปีระกา พ.ศ. 2560 ) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของตถาคตจะพ้นภัยพิบัติ

เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560 ) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ ( ปีชวด พ.ศ. 2563 ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด

ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก

ที่มา http://www.metteya.org

 

<TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>เขื่อนเวียดนาม $250 ล้านรั่วหลังปั่นไฟได้ปีเศษ ชาวบ้านระส่ำ

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์




​

</TD><TD>20 มีนาคม 2555 07:39 น.

​

</TD><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000035442</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

<TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD width=744>

​

</TD></TR><TR><TD>ภาพขยายแสดงรอยรั่วสำคัญ 2 แห่งบนตัวเขื่อนซงจาง 2 ใน จ.กว๋างนาม หลังจากปั่นไปมาเพียงปีเศษ

เข้าใจว่ารอยแยกที่เกิดขึ้นในหลายบริเวณ
อาจจะเป็นผลจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาดย่อมจำนวน 4 ครั้งตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
แต่เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนามยืนยันรอยแยกขนาดนี้เป็นปรกติธรรมดาและสามารถควบคุมได้
แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใต้ลงไปตามทางน้ำพากันนอนไม่หลับ. -- ภาพ: Tuoi Tre.​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาด 190 เมกะวัตต์มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ ในภาคกลางเวียดนาม มีน้ำรั่วออกตามรอยแตกของตัวเขื่อนในหลายจุด ราษฎรที่อาศัยอยู่ตามทางน้ำไหลต่างหวาดผวา น้ำในอ่างกว่า 700 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทะลักลง เชื่อกันว่าเขื่อนร้าวเกิดจากแผ่นดินไหวถึง 4 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา ​

เขื่อนซงแจง 2 (Song Tranh 2) ในท้องที่ อ.บั๊กจ่ามี (Bac Tra My) ซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในภาคกลางของประเทศ เกิดน้ำรั่วออกมาในหลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรูรั่วขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายมือของเขื่อน ซึ่งน้ำไหลออกแรงที่สุด​

นอกจากนั้นที่มุมล่างขวาของเขื่อนยังเกิดน้ำซึมออกเป็นวงกว้าง ทำให้ผู้พบเห็นวิตกว่าเขื่อนจะแตกผลัวะออกมาในช่วงใดช่วงหนึ่ง และราษฎรในย่านนั้นต่างนอนไม่หลับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในวันจันทร์ 19 มี.ค.ศกนี้​

นายหวูดึ๊กตวาน (Vu Duc Toan) รองผู้อำนวยการคณะกรรมบริหารเขื่อน 3 ภายใต้รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้กล่าวว่า รอยรั่วขนาดนี้นับเป็นเรื่องธรรมดา สามารถยอมรับได้และควบคุมได้
.​

</TD></TR><TR><TD>

<TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 490px" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD width=490>

</TD></TR><TR><TD>คนงานบริษัทไฟฟ้าเวียดนามพยายามยารอยรั่วหลายแห่งที่ตัวเขื่อนในภาพวันที่ 17 มี.ค.2555 คณะกรรมการบริหารโครงการบอกว่า รอยรั่วขนาดนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ยอมรับได้และสามารถควบคุมได้ แต่ราษฎรที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อนนั้นนอนไม่หลับมาหลายคืน.-- ภาพ: Tuoi Tre. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>.
แต่นายเหวียนกิมเซิน (Nguyen Kim Son) รองเลขาธิการพรรคสาขาอำเภอกล่าวว่า โครงสร้างของเขื่อนออกแบบมาอย่างแข็งแรงมา เพราะฉะนั้นการเกิดรอยรั่วจึงถือเป็นเรื่องที่ไม่ปรกติ และกำลังรอฟังรายงานจากคณะกรรมการบริหารเขื่อน​

เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นกล่าวว่า
ที่ผ่านมามีรายงานแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆ เกิดขึ้นในบริเวณที่ตั้งเขื่อนถึง 4 ครั้ง
ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้สันเขื่อนร้าวจากภายใน​

เขื่อนซองแจง 2 ติดตั้งกังหันปั่นไฟ 2 หน่วยเริ่มผลิตไฟฟ้าตั้งแต่ปลายปี 2553 โครงการนี้เริ่มขึ้นในเดือน มี.ค.2549 การก่อสร้างเริ่มเดือน มี.ค.2550 บริษัทก่อสร้างชลประทานหมายเลข 4 ซึ่งเป็นของรัฐบาลชนะการประกวดราคา เป็นผู้ก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ เตื่อยแจ๋กล่าว.​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

แผ่นดินไหวในเม็กซิโก รับรู้แรงสั่นสะเทือนไกลถึงเมืองหลวง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2555 03:02 น.

Share2


แผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.6 เขย่าพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันอังคาร(20) ก่อแรงสั่นสะเทือนไกลถึงเมืองหลวงที่อยู่ห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร ทำเอาผู้คนต่างวิ่งหนีตายไปอยู่บนท้องถนน แต่ยังไม่มีรายงานถึงความเสียหายร้ายแรงใดๆ

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงบ่ายกว่าๆตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองโอเมทาเปก ในรัฐเกร์เรโร ประเทศราว 25 กิโลเมตร ใกล้ๆกับเมืองอะคาปุลโก ดินแดนตากอากาศชายฝั่งทะเลแปซิฟิกของเม็กซิโก สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯบอก

เบื้องต้นสำนักธรณีวิยาสหรัฐฯระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้วัดความรุนแรงได้ที่ 7.9 ก่อนปรับลดเหลือ 7.6 ในเวลาต่อมา "ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว" ประธานาธิบดีเฟลิเป กัลเดลอน เขียนลงบนทวิตเตอร์"

ขณะที่ ฮุมเบอร์โต กัลโว จากศูนย์พิทักษ์พลเรือนแห่งรัฐเกร์เรโร บอกว่าไม่พบความเสียหายร้ายแรงในเมืองอะคาปุลโกแต่อย่างใด กระนั้นก็ดีเขาเตือนว่า "อาจมีปัญหาในบางพื้นที่ซึ่งตั้งระหว่างรัฐเกร์เรโรและรัฐโออาซากา เรากำลังตรวจสอบอยู่"

 

21 มี.ค. 55 เห็นมา เตือนไป

ก่อนน้ำจะท่วมกรุงเทพฯหน่วยเหนือ ได้ส่งภาพนิมิตมาให้เห็นสองครั้ง
ครั้งแรก ผมเห็นน้ำท่วมสูงเท่าเอว
ครั้งที่สอง ผมเห็นน้ำท่วมกำแพงประมาณหนึ่งเมตร

เช้านี้ ผมเห็นตัวผมเองอยู่ในตึกคอนโดฯ จากนั้นก็มีความรู้สึกว่าแผ่นดินไหว ผมจึงรีบหนีออกจากตัวคอนโดฯ ตามถนนที่ผมเดินผ่านผมเห็นตึกและบ้านมีรอยแตกร้าวไม่ถึงกับถล่มลงมา

แสดงว่าท่านได้มาเตือนแล้ว

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

แถวบางบัวทอง นนทบุรี ช่วงถนนสาย 345 ก่อนถึงจุดที่น้ำเคยท่วมหนักปีที่แล้ว ผมแปลกใจ ผมขับผ่านประจำเพราะเป็นช่วงเลี้ยวโค้งเข้าถนนซอย ตรงนั้นปกติเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ตอนนี้มันกลายเป็น อู่ต่อเรือไม้ไปแล้ว มีเรือทั้งซ่อมแซมปรับปรุงและประกอบใหม่ 7-8 ลำ

 

ผมมีข้อมูลมาเล่าให้ คุณพี่เกษม ครับ(ผมเล่าให้คุณพี่เกษมฟังคนเดียวนะ)ส่วนท่านใดที่เข้ามาอ่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ด้วยครับ(ผมถือว่าเป็นนิทานในความฝันของผมนะครับ)

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2555 ผมและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสเดินทางไปปฎิบัติธรรมที่วัดป่าแห่งหนึ่ง ที่จังหวัด ชัยภูมิ และเพื่อกราบนมัสการพระอริยสงฆ์(หลวงปู่บ้านตาด เป็นผู้รับรองไว้ว่า ถ้าหลวงตาไม่อยู่ ก็ให้ไปหาหลวงพ่อ....ที่จังหวัดชัยภูมิ) วัดแห่งนี้ผมไปหลายครั้งแล้ว และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2555 ได้มีโอกาสสนทนากับหลวงพ่อ และหลวงพ่อเมตตาเล่าให้ฟังว่า

หลวงพ่อ: ต่อไปภัยธรรมชาติ มันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ มันจะไม่เบาลงหรอก

ผม: เหตุเพราะอะไร หรือครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ: เหตุเพราะว่า ผู้คนสมัยนี้ มันย่ำยีพุทธศาสนา มันย่ำยีผู้มีบุญญาธิการ เทวดาต่างๆ และ ผู้มีศีลมีธรรม ก็ถูกย่ำยี

ผม: เป็นยังไงครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ: พุทธศาสนาถูกย่ำยี เพราะว่า ปัจจุบันพระสงฆ์ไม่ประพฤติตน ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ศีล 227 ข้อ เอาเข้าจริงๆ มีถึง 5 ข้อหรือเปล่า พระสงฆ์มีอยู่ 2-3 แสนรูป ประพฤติตนตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ถึง 200

หลวงพ่อ: ผู้มีบุญญาธิการ ก็ถูกย่ำยี เดือดร้อนถึงบูรพกษัตริย์ต่างๆ และ สิ่งศักสิทธิ์ที่ดูแลประเทศ จนเขาทนไม่ไหว

หลวงพ่อ: เทวดาต่างๆ ถูกย่ำยี เทวดาเขาก็มีที่อยู่ของเขา มีบุญเยอะเขาก็มีวิมานอยู่ มีบุญน้อยหน่อยก็มีวิมานอยู่บนยอดไม้ต่างๆ ลดหลั่นกันลงมา บนยอดไม้เล็กๆบ้าง บนยอดหญ้าบ้าง ตามกำลังบุญ แต่ทุกวันนี้ ทั่วทั้งโลก ก็ตัดไม้ ทำลายป่า เผาป่า ถางที่ ทำกันทุกวัน เป็นเวลานานแล้ว ลองคิดดูถ้าบ้านเราถูกพัง ถูกเผา เราเดือดร้อนมั้ย แล้วเทวดาเขาจะอยู่ยังไง เขาก็เดือดร้อน เขาก็ร้องเรียน ผู้มีศีลธรรม ก็ถูกทำร้ายทำลาย ก็เดือดร้อน

(ระหว่างนั้น ผมนึกในใจว่า แล้วพระพุทธศาสนา จะอยู่ถึง 5,000 ปี มั้ย พอนึกปุ๊บ หลวงพ่อก็พูดต่อทันทีว่า)

หลวงพ่อ: โดยหลักแล้ว พุทธศาสนาต้องอยู่ครบ 5,000 ปี แต่เมื่อพุทธศาสนาถูกย่ำยี ผู้มีบุญญาธิการ และ ผู้มีศีลธรรม ถูกทำลาย อายุพุทธศาสนาก็ลดลง เมื่อลดลง กรรมต่างๆก็เข้ามาจัดการ โลกนี้ก็ถูกทวงคืน เขาทวงคืน ด้วยภัยธรรมชาติต่างๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ เป็นปีที่ 2 เลื่อนไม่ได้อีกแล้ว ผู้ที่เคยช่วยเหลือ ก็ช่วยไม่ได้อีกแล้ว เลื่อนออกไปไม่ได้ แต่ เลื่อนให้เข้ามาได้ เขากำหนดไว้แล้ว ปี 60-62 จะหนักสุด ถ้าความดีมีก็ขยับอยู่ใน 2 ปีนี้ล่ะ....แต่ทุกอย่างจะชำระจบสิ้นภายในปี 62 พร้อมกันทั่วโลก

ผม: จะเป็นในลักษณะไหนครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ: แผ่นดินในโลกนี้ มันจะพลิก มันจะแตกออกจากกัน ข้างบนก็จมลงน้ำ ข้างล่างก็โผล่ขึ้นบน น้ำทั้งหมดก็จะพัดมาทำลาย เขื่อนต่างๆในโลกนี้ก็จะถูกแผ่นดินไหวทำลาย แล้วน้ำก็จะทำลายชำระไปหมด ที่วัดนี้ก็ไม่เหลือ หลวงพ่อก็ไปด้วย(ท่านพูดแล้วยิ้ม)

ผม: ขออาราธนา หลวงพ่ออยู่เมตตาลูกหลานต่อไปนานๆ ด้วยครับ

หลวงพ่อ: มันไม่ได้นะซิ เบื้องบนท่านมาบอกหลวงพ่อว่า ให้หยุดสร้าง.....(เป็นอาคารใหญ่ ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ สร้างมาครึ่งทางแล้ว)เบื้องบนท่านบอกว่า สร้างไปก็พังหมดอยู่ดี ไม่มีเหลือ หลวงพ่อก็บอกท่านว่า ญาติโยมเขาขอให้ช่วยสร้าง เป็นประโยชน์กับประชาชน แล้วโยมเขาก็เร่งรัดมาว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ ขอสร้างต่อ ถึงรู้ว่ามันจะพังก็เถอะ พูดไปชาวบ้านก็ไม่เข้าใจ

หลวงพ่อ: หลวงพ่อก็พิจารณาดูว่า ถ้าหลวงพ่อสร้างเรือสักลำล่ะ จะปลอดภัยมั้ย ก็ปลอดภัย แต่หลวงพ่อเป็นพระ หลวงพ่อต้องเดินบาตร แล้วญาติโยมที่ไหนจะมาใส่บาตร อยู่บนเรือ หลวงพ่ออดฉันอาหารได้ 1-2 เดือน แล้วหลังจากนั้นล่ะ คิดดู น้ำดื่มก็ไม่มี น้ำอาบก็ไม่มี อาหารก็ไม่มี สุดท้ายก็ตายอยู่ดี ถ้าเป็นอย่างนั้น หลวงพ่อก็ไปตอนนั้นเลย จะอยู่ทำไมให้ลำบาก(แล้วท่านก็ยิ้ม)

หลวงพ่อ: เวลานั้น มีเครื่องบิน ก็บินไม่ได้ มีรถยนต์ ก็วิ่งไม่ได้ น้ำมันก็ไม่มี คิดดูซิจะอยู่กันยังไง มันจะมีเสียงฟ้าผ่า มาเป็นระยะๆ เสียงดังมาก แรงสะเทือนมันจะทำให้ อวัยวะภายในร่างกายถูกทำลาย(แล้วท่านก็ชี้มาที่นาฬิกาข้อมือผม)นาฬิกา แว่นตา ที่เป็นโลหะก็ใส่ไม่ได้เลย

ผม: มันจะช๊อต หรือครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ: นั้นล่ะ มันเป็นสื่อ ถึงเวลานั้น ใครที่ไม่อยากตาย ก็ได้ตาย ใครที่อยากตาย ก็ได้ตายสมใจ(แล้วท่านก็ยิ้ม)ให้เร่งภาวนาไว้ เมื่อใจมันนิ่ง เสียงฟ้าผ่า ก็ไม่ทำให้สะเทือนถึงใจได้ อย่างน้อยให้ทำวันละ 1 ชั่วโมง

หลวงพ่อ: ผู้ที่เขาจะอยู่รอดได้ ต้องพึ่ง 3 ร่มโพธิ์ 1. ร่มโพธิ์พระพุทธศาสนา 2. ร่มโพธิ์พระอรหันต์ 3. ร่มโพธิ์พระฤาษีที่มีบารมีสูง จึงจะอยู่รอดได้

ผม: แล้ว หลังจากนั้นล่ะครับ โลกนี้จะเป็นอย่างไรครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ: หลังจากนั้น ก็เป็นหน้าที่ ของพระพรหม ท่านก็จะตกแต่งโลกนี้ตามหน้าที่ของท่าน ใครจะมาเกิด แผ่นดินจะเป็นยังไง ก็เป็นหน้าที่ของท่าน ยุคไดโนเสาร์ ก็เคยเกิดมาแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ชำระกันทีนึง

เพื่อนผม: แล้วเด็กที่เกิดมาในยุคนี้ล่ะคะหลวงพ่อ

หลวงพ่อ: มันก็เป็นกรรมของเขานั้นล่ะ ที่เกิดมาในยุคนี้

หลวงพ่อ: ให้เร่งปฎิบัติภาวนา รักษาใจ สร้างความดี ในโลกนี้ มีอยู่ 2 อย่าง ความดี กับ ความชั่ว พระพุทธศาสนา อยู่ตรงกลาง เมื่อถึงที่สุดแล้วมันไม่มีทั้งดี ทั้งชั่ว มีแต่คำสอนที่พระพุทธเจ้าท่านทรงชี้ทางไว้ให้ เราต้องเลือกเอา ว่าเราจะเอาแบบไหน เพราะใจเราเป็นผู้เลือก

***ขอย้ำนะครับ เป็นความฝัน ที่ผมเล่าให้คุณพี่เกษม ฟังคนเดียว***

 

จำได้เป็นเรื่องเป็นราว ขนาดนี้เลยเหรอ หรือปรุงแต่งตามจิตนาการ

 

เจ้าของร้านเค้าเข้าใจสภาวะการตลาดได้ถ่องแท้ ครับ

เพราะเปิดก่อน รวยก่อน เหมือนพวกเอาเรือมาเร่ขายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาไงครับ แต่งานนี้ครบวงจร ทั้งขายทั้งบริการ....อิอิอิอิอิ

 

เริ่มตระเตรียมความพร้อมซะตั้งแต่วันนี้ ตามที่คุณ pisi เล่าไว้

จะเกิดหรือไม่ ช้าหรือเร็ว ผมก็เตรียมไปเรื่อยๆละครับ จนกว่าจะไม่มีเวลาให้เตรียม ^^

ทุกคนมีความฝัน ผมก็ฝัน ใครๆก็ฝัน แต่ผมก็ฟังฝันของคนปฏิบัติไว้ในจุดนึง

ส่วนฝันของคนทั่วไปก็อีกจุดนึง ++

 

วิบากกรรมของการอกตัญญู !!!​

เห็นด้วยกับคุณ Pisi ทุกอย่างครับ ภัยพิบัติที่รุนแรง ย่อมเกิดมาจากกรรมแห่งการอกตัญญู เนรคุณผู้มีพระคุณต่างๆ ไม่รู้บาปบุญคุณโทษ เมื่อคนส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้ จึงต้องถึงเวลาที่จะมีการกวาดล้างครั้งใหญ่กันเสียที...

อกตัญญู แปลว่า ผู้ไม่รู้สึกถึงบุญคุณที่ผู้อื่นทำแก่ตน ผู้ไม่มีความกตัญญู

อกตัญญู คือผู้ระลึกไม่ได้ว่าใครเคยทำดีเคยช่วยเหลือเกื้อกูลตนมา ผู้ลืมบุญคุณของคนอื่นที่ทำแก่ตนมา ผู้ไม่ยอมรับบุญคุณของใครทั้งนั้น เรียกว่า คนอกตัญญู มีลักษณะตรงข้ามกับคนกตัญญู

อกตัญญู มีลักษณะลบหลู่บุญคุณคน ไม่ปรารถนาที่จะตอบแทนความดีของใคร ชอบลืมเรื่องที่เขาเคยทำเคยช่วยเหลือตนมา แต่ก็ไม่มีความรู้สึกอิ่มที่จะรับจากคนอื่นอีก หากยังมีช่องทางจะได้จากเขาอีกก็จะพอใจ หากเห็นว่าหมดโอกาสแล้วก็จะตีจากไปทันที หรือไม่ก็แสดงกิริยาพูดจาให้ร้ายต่างๆ ท่านจึงว่า

"แม้จะยกแผ่นดินทั้งหมดให้แก่คนอกตัญญู ก็จะให้เขายินดีพอใจไม่ได้"

อ้างอิงมาจาก พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิตพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด,วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548

 

อุปกรณ์พลังพีรามิดที่ติดตั้งในเชียงใหม่เมื่อวาน ของพระอาจารย์รัตน์ได้ผล ค่าฝุ่นละอองในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวานประมาณ 190 ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้ วันนี้ค่าฝุ่นละอองลดฮวบลงเหลือ 130-140 อากาศเคลียร์ขึ้นมาก

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กทม.อากาศร้อนฟ้าหลัว - อีสาน ตอ. ใต้ ฝน 20-30% </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 21 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ส่วนภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุงอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ผวจ.ลพบุรีสยบลือเขื่อนป่าสักฯ แตก-นำคณะตรวจสอบ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>จากกรณีเกิดกระแสข่าวลือแพร่สะพัดไปในสังคมออนไลน์ ว่า

พื้นที่บริเวณสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขตรอยต่อ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และ อ.วังม่วง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นเขื่อนคันดินความยาวประมาณ 4,800 เมตร เกิดรอยแตกร้าวเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวบ้านและผู้ที่ได้พบเห็น

นอกจากนั้น ยังมีข่าวด้วยว่า บริเวณสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นถนน พบรอยแตกร้าวมีความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร

โดยความกว้างยาวรอยแยกมีขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตร ซึ่งมีการคาดเดาว่าเป็นผลจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับน้ำฝนในฤดูน้ำหลากที่จะมาถึง เป็นเหตุทำให้พื้นที่ของเขื่อนป่าสักฯ ในขณะนี้เริ่มแห้งขอด และถึงแม้ว่าจะพบรอยแตกร้าวบนสันเขื่อน แต่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชมบนสันเขื่อน และยังเปิดให้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรอยู่ต่อไป

เกี่ยวกับข้อวิตกกังวัลดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี และนายบุญชอบ หอมเกษร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้ตรวจสอบตลอดแนวสันเขื่อนป่าสักฯ แล้ว

พบว่ารอยร้าวดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างหลัก กม.ที่ 4 - 4.5 ระยะทางประมาณ 500 เมตร ซึ่งพบว่ามีรอยร้าวเป็นแนวยาวหลายแห่ง แต่ไม่ต่อเนื่องกัน โดยมีรอยร้าวยาวช่วงละประมาณ 8 - 20 เมตร รอยร้าวมีความกว้างประมาณ 3 – 5 เซนติเมตรและลึกประมาณ 5 - 15 เซนติเมตร


สำหรับรอยร้าวดังกล่าวเกิดเฉพาะ "พื้นผิวถนน" บนสันเขื่อนป่าสักฯ เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับตัวสันเขื่อนป่าสัก ซึ่งในการดำเนินการก่อสร้างนั้นได้ก่อสร้างตามมาตรฐาน มีความแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักและปริมาณน้ำได้เป็นอย่างดีในปริมาณที่กำหนด


นายฉัตรชัย ผวจ.ลพบุรี กล่าวกับสื่อมวลชนหลังจากที่ได้ตรวจสอบตามแนวสันเขื่อนป่าสักฯ ว่า


จากการตรวจสอบเชื่อว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามสภาพ เนื่องจากถนนบนสันเขื่อนป่าสักฯ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งผิวของถนนก็จะต้องมีอายุการใช้งานและรอยร้าวนั้นก็อยู่บริเวณไหล่ถนนบนสันเขื่อนป่าสักฯเท่านั้น ก็ต้องขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ได้ให้ความสนใจและขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนได้รับทราบความเป็นจริงตามที่ชี้แจงด้วย


ขณะที่นายบุญชอบ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า


พื้นผิวการจราจรที่มีรอยร้าวนั้นได้ใช้งานมากว่า 10 ปีแล้ว จึงทำให้เกิดการแตกร้าวเป็นจุดๆ ช่วงปลายของสันเขื่อนป่าสักฯ โดยทุกปีก็จะตรวจสอบและมีการดำเนินการซ่อมบำรุง ส่วนตัวเขื่อนป่าสักฯ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญก็ตรวจสอบทุกปี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังไม่ได้เข้ามาซ่อมแซมถนนจึงทำให้ประชาชนที่เดินทางมาชมความสวยงามของเขื่อนป่าสักฯ เข้าใจผิดว่า จะส่งผลกระทบกับตัวเขื่อนป่าสักฯ โดยสันเขื่อนป่าสักฯ นั้นมีความสูง 36.5 เมตร ด้านบนกว้าง 10 เมตร


สำหรับปริมาณน้ำที่เก็บกักอยู่ในตัวเขื่อนป่าสักฯในวันนี้มี 373 ล้านลบ.ม.หรือร้อยละ 47 พร้อมกับได้มีการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนวันละ 3.7 ล้าน ลบ.ม. ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์เขย่าเม็กซิโก มีผู้บาดเจ็บ 5 คน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ริคเตอร์ เขย่าพื้นที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโกวานนี้ รวมถึงกรุงเม็กซิโกซิตี ที่สร้างความโกลาหลอย่างมาก พบมีผู้บาดเจ็บ 5 คน บ้านเรือนและอาคารพังเสียหายกว่า 800 หลัง แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 ริกเตอร์ ที่รัฐอ็อกซาก้า ประเทศเม็กซิโก เมื่อเวลาประมาณ 12.02 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางที่ระดับความลึก 20 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนานกว่า 1 นาที ทำให้ผู้คนในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ วิ่งออกนอกอาคารสำนักงานมาที่ถนนอย่างแตกตื่น เพราะอาคารสั่นไหวรุนแรง บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้การไม่ได้ การจราจรติดขัดอย่างหนัก และตลาดหลักทรัพย์ต้องหยุดการซื้อขายก่อนเวลา ก่อนที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อคขนาด 5.1 ริกเตอร์ตามมาอีกครั้ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
ทั้งนี้ นี่ถือเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 1985 นับตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ เผชิญแผ่นดินไหว 8.1 ริกเตอร์ ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คน

ผู้ว่าการรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก เผยว่า ได้รับรายงานบ้านเรือนเสียหาย 500 หลัง แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่การจราจรทางอากาศและโรงกลั่นน้ำมันยังคงทำการตามปกติ ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวว่า มีบ้านเรือนในรัฐเกร์เรโรเสียหาย 800 หลัง เพราะอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว รัฐนี้เป็นที่ตั้งของเมืองอากาปูลโก เมืองตากอากาศชื่อดังริมมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนที่รัฐอ็อกซากาที่อยู่ใกล้เคียง บ้านสร้างจากโคลนหลังหนึ่งพังถล่ม มีผู้บาดเจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(33,33,33); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=70>ประกาศวันมหาสงกรานต์ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕

วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันศุกร์ที่ ๑๓ เมษายน เวลา ๑๙ นาฬิกา ๔๖ นาที ๑๒ วินาที
ตรงกับเวลา ๒๐ นาฬิกา ๔ นาที ๑๒ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน) <SUP>*</SUP>
</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle>นางสงกรานต์นามว่า กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ
หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร(นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์(กระบือ) เป็นพาหนะ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=20></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle>เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๕๐๐ ห่า
ตกในเขาจักรวาล ๒๐๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๕๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๐๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๕๐ ห่า</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=15></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle>เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย(ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด
เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะโรง นาคราชให้น้ำ ๓ ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=20></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle>เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล ๑ ส่วน เสีย ๕ ส่วน
บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแล</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=5></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=60>วันเถลิงศก ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ เมษายน เวลา ๒๓ นาฬิกา ๔๓ นาที ๔๘ วินาที<SUP>
</SUP>ตรงกับเวลา ๐ นาฬิกา ๑ นาที ๔๘ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(33,33,33); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle height=45>คำทำนาย</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=728 border=0><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Verdana, sans-serif" align=middle>วันศุกร์ เป็นวันมหาสงกรานต์ : ข้าวน้ำ ลูกหมากรากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุชุม จะเจ็บตากันมากนักแล ฯ , วันเสาร์ เป็นวันเนา : ข้าวปลาจะแพง จะเกิดเพลิงกลางใจเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ข้าวจะตายฝอย น้ำจะน้อยกว่าทุกปี สมณชีพราหมณ์จะร้อนใจนัก ผักปลาจะแพงแล ฯ , วันอาทิตย์ เป็นวันเถลิงศก : พระมหากษัตริย์จะรุ่งเรืองด้วยพระเดชานุภาพ จะมีชัยชนะแก่ศัตรูทั่วทิศาทั้งปวงแล ฯ , นางสงกรานต์ ไสยาสน์ลืมเนตร(นอนลืมตา) : ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา ประกาศสงกรานต์ปี พ.ศ.2555 วันมหาสงกรานต์ วันเถลิงศก - myhora.com

 

:boo::boo::boo::boo::boo:

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 22/03/12 </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 22 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนโดยทั่วไป สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ประกาศนางสงกรานต์ปี55 ระวังสงครามกลางเมือง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ก.วัฒนธรรมประกาศนางสงกรานต์ปี55"กิมิทาเทวี"น้ำพอประมาณพายุจัดบ้านเมืองเกิดยุทธสงครามจะฆ่าฟัน

กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศวันสงกรานต์ ประจำปีพ.ศ. 2555 ความว่า ปีมะโรง จัตวาศก จันทรคติเป็น อธิกมาส ปกติวาร สุริยคติเป็น อธิกสุรทิน วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันศุกร์ที่ 13เมษายน เวลา 19.46.12 น. ตรงกับเวลา 20.04.12 น.(เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)

นางสงกรานต์นามว่า กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร(นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์(กระบือ) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย(ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะโรง นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล 1ส่วน เสีย 5 ส่วน

บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแล วันเถลิงศก ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน เวลา 23.43.48น. ตรงกับเวลา 0.01.48น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

ขอบคุณ โพสต์ทูเดย์
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พบฝูง"โลมา"ว่ายน้ำใกล้ฝั่งที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ หวั่นเกยตื้นเสียชีวิต </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มีนาคม บริเวณท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด

นักท่องเที่ยวบนเรือเฟอร์รี่ได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด ทราบว่า พบโลมา 2 ตัวว่ายวนอยู่ใกล้ฝั่งและอยู่ใกล้กับอวน เหมือนติดกับอวนลอยของชาวประมงพื้นบ้านที่วางไว้และมีโลมาอีก 5-6 ตัวว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เหมือนจะพยายามช่วยเหลือโลมาที่ติดอวน

อำเภอแหลมงอบและประมง อ.แหลมงอบ ได้รับแจ้งเหตุจึงได้เดินทางไปยังท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังดูโลมาอยู่ พร้อมชี้ไปทางฝูงโลมาที่กำลังว่ายวนเวียนอยู่ แต่ไม่ได้ติดอยู่กับอวนที่ได้รับแจ้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพน้ำทะเลกำลังลง ทำให้บริเวณที่โลมาว่ายอยู่มีระดับน้ำที่มีความสูงไม่มากนักและเกรงว่าจะว่ายน้ำเข้ามาใกล้ฝั่งและเกยตื้นเพราะพื้นที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์มีพื้นที่ราบมาก


กระทั่งในเวลา 11.00 น. เรือของกลุ่มอนุรักษ์ประมงเกาะช้างได้นำเรือยางมาจากฝั่ง อ.เกาะช้าง จ.ตราด และต้อนโลมาทั้งหมดออกไปให้ห่างจากฝั่งในระยะ 500-800 เมตร เพื่อความปลอดภัยของโลมาเอง ซึ่งทั้งหมดได้ว่ายน้ำออกไปห่างจากฝั่งในระยะที่ปลอดภัยได้สำเร็จ


นายวิรัช วิรัชศุภระสิงห์ เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ บอกว่า โลมาทั้งฝูงมีมากกว่า 8 ตัว ซึ่งได้ว่ายเข้าบริเวณท่าเรือ ห่างประมาณ 150 เมตร โดยด้านหน้าของท่าเรือจะมีชาวประมงพื้นบ้านวางอวนลอยอยู่จำนวนมาก หากว่ายเข้ามาอีกจะติดอวนลอยได้ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอแหลมงอบทราบและหาทางช่วยเหลือโลมาทั้งหมด ทั้งนี้ โลมาจะมาอยู่อาศัยในพื้นที่ช่องช้างมากขึ้น เพราะมีอาหารมากเนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์


ด้านนายบุญส่ง ทิศา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ชาวประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า พฤติกรรมของโลมาจะว่ายน้ำออกหากินเป็นฝูง ฝูงละ 8-12 ตัว และชอบปลาทูมาก ซึ่งในระยะ 1-2 เดือนนี้มีปลาทูมาก ทำให้โลมาที่มีอยู่ในพื้นที่อ่าวตราดอยู่แล้วเข้ามาหากินในช่องช้างที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งการมาหากินบริเวณท่าเรือคงไม่เหมาะ เพราะมีการวางอวนจำนวนมาก หากติดอวนจะเสียชีวิตภายใน 5-10 นาที เพราะโลมาหายใจทางปอด ดังนั้น เมื่อพบเห็นจะต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฟาร์มหมูขาดทุนยับโลละ40แต่หน้าเขียง120 </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยกำลังประสบภาวะขาดทุน เนื่องจากราคาหมูตกต่ำ ซึ่งขณะนี้ราคาหมูเป็นอยู่กิโลกรัมละ 40-43 บาท ขณะที่หมูชำแหละในท้องตลาด อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 120 บาท หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 100 บาท

นายสมพงษ์ ทองไซร้ อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง เกษตรกรเลี้ยงหมูรายย่อย กล่าวว่า

ตนมีแม่พันธุ์หมู 18 ตัว พ่อพันธุ์ 3 ตัวและสุกรขุนจำนวนหนึ่ง กำลังประสบปัญหา เพราะขณะนี้ราคาสุกรเป็นเหลือเพียงราคากิโลกรัมละ 40-43 บาทเท่านั้น ทำให้ขาดทุน เนื่องจากต้นทุนค่าอาหารแต่ละตัวจะตกอยู่ประมาณ 4,000 บาท และหากขายหมูน้ำหนักตัวละ 100 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 40 กว่าบาทก็จะไม่ได้กำไรอะไรเลย หากจะให้ผู้เลี้ยงหมูอยู่ได้ ควรจะขายได้อย่างน้อยกิโลกรัมละ 60 บาท

"จากปัญหาราคาหมูตกต่ำในขณะนี้ ยังทำ ให้ลูกสุกรขายได้ลดน้อยลงไปด้วย ผมมีแม่พันธุ์ 18 ตัว เมื่อก่อนจะมีผู้เลี้ยงสุกรขุนมารับซื้อจนผลิตลูกหมูขายแทบไม่ทัน แต่ขณะนี้ลูกสุกรตัวละ 800-1,000 บาท แทบจะไม่มีคนซื้อ จนต้องเลี้ยงเป็นสุกรขุนไว้เอง อยากเรียกร้องรัฐบาลช่วยหาทางแก้ปัญหาให้ด้วย เพื่อให้ผู้เลี้ยงรายย่อยอยู่ได้ต่อไป" นายสมพงษ์กล่าว

ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคม ผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาหมูตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ภาวะขาดทุนอย่างหนัก

เกษตรกรจำเป็นต้องขายหมูเป็นหน้าฟาร์ม ที่ราคาประมาณ 48-50 บาท ต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงถึง 60-62 บาท เนื่องจากปริมาณหมูล้นตลาด ทั้งนี้ เพราะความเสียหายของหมู อันเนื่องมาจากโรคระบาดได้ลดลง และเข้าสู่ปกติ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2554 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหามหันตภัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ก่อให้เกิดปัญหาการขนส่งสุกรเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง และเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีปริมาณสุกรตกค้าง

ขณะเดียวกัน เกษตรกรไม่สามารถส่งหมูไปยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วงไตรมาสที่ 3 ได้ ทำให้มีหมูเกินความต้องการ ส่งผลให้เกษตรกรในเขตหมูหนาแน่น อาทิ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม ต้องขายหมูขาดทุนตัวละ 800-1,400 บาท

"ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรพยายามขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ไม่เป็นผล จึงหาแนวทางช่วยตนเอง ด้วยการส่งหมูเป็นไปประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น พร้อมทั้งเร่งปลดแม่พันธุ์สุกร เพื่อให้หมูที่ผลิตได้มีปริมาณลดลงใกล้เคียงกับความต้องการของตลาด โดยหวังว่าราคาขายหมูหน้าฟาร์มจะวิ่งหาต้นทุนเร็วขึ้น" นายสุรชัยกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนพายุฤดูร้อน อีสาน- ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก 23-26 มี.ค.นี้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน " ฉบับที่ 3 (34/2555) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 05.30 น.ระบุว่า

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทย
ในช่วงวันที่ 23-26 มีนาคม 2555 ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้ โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24-26 มี.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา และปัตตานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผวา!รอยเลื่อนกลางเขาหวั่นโคลนถล่ม </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายจรัญ บุญเพิ่ม อายุ 45 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ว่า

เกิดรอยเลื่อนบริเวณกลางเนินเขาสองพี่น้อง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าพื้นดินมีลักษณะยุบตัวคล้ายลอยเลื่อนเป็นระยะทางยาวเป็นกิโลเมตร ส่งผลให้ต้นสีละมันอายุกว่า 100 ปี และไม้เบญจพรรณอีกหลายสิบต้นหักโค่นลงตามรอยเลื่อน จากการตรวจสอบโดยรอบ พบจุดที่มีรอยเลื่อนยุบตัวขนาดใหญ่หลายแห่ง บางจุดมีความลึกกว่า 3 เมตร


นายจรัญ เปิดเผยว่า รอยเลื่อนเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน และมีการยุบตัวลงอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก

จึงมีความหวั่นเกรงกันว่าลักษณะดังกล่าวจะเป็นสัญญาณเตือนว่า อาจเกิดดินสไลด์ตัวในช่วงฤดูน้ำหลากจนเป็นโคลนถล่มได้ สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงอย่างมากจึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน


ด้านนายผจญ แก้วมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เผยว่า

ได้ร่วมกับผู้นำชุมชนขึ้นเขาตรวจสอบพื้นที่ และเก็บข้อมูลไปรายงานให้ทางอำเภอทราบแล้ว ทั้งนี้จะมีการประสานกับเจ้าหน้าที่กรมทรักพยากรณ์ธรณีวิทยา เข้าร่วมตรวจสอบ เพื่อเฝ้าระวังและวางแนวทางป้องกันอุบัติภัยต่อไป.

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ยัวะแกะป้ายหาเสียงตบเฒ่าปางตาย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายมารักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ

พบว่าที่บริเวณหน้าห้องไอซียูมีญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บยืนรออยู่หลายคน จากนั้นได้เข้าไปดูอาการคนเจ็บ ทราบชื่อต่อมานายสุชาติ เฉลิมสกุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/3 ถนนเทศบาล 5 ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในสภาพนอนแน่นิ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ระบุว่าผู้บาดเจ็บได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรงจนก้านสมองตาย มีเลือดออกในสมอง ไม่ได้สติมาตั้งแต่เดินทางมาถึงโรงพยาบาล และขอให้ญาติทำใจ


นางประทวน คชาทร อายุ 53 ปี ภรรยาของนายสุชาติ เปิดเผยว่า เปิดร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไปประเภทเบ็ดตกปลา และเครื่องไม้เฟอร์นิเจอร์

ก่อนเกิดเหตุได้มีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าเรือรายหนึ่งมาเดินหาเสียงที่หน้าร้าน ขณะเดียวกันผู้ที่ติดตามได้นำแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครคนดังกล่าวไปปิดเอาไว้ที่ศาลาไม้ที่ตั้งวางขายอยู่หน้าร้าน นายสุชาติ จึงขอร้องไม่ให้ติด เนื่องจากเห็นว่าจะทำให้ตัวของศาลาไม้ที่วางขายเสียหาย


อีกทั้งยังไม่เคยให้ผู้สมัครรายใดนำแผ่นป้ายโฆษณามาติดแม้แต่คนเดียว จึงได้แกะป้ายโฆษณาของผู้สมัครคนดังกล่าวออก

สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ติดตามอย่างมากโดยเฉพาะนายสุชิน (ขอสงวนนามสกุล) คนขับรถของผู้สมัครเดินเข้าไปต่อว่านายสุชาติ จนเกิดปากเสียงกัน จากนั้นนายสุชิน ก็ใช้มือตบเข้าไปที่กกหูและใบหน้าของนายสุชาติ อย่างแรงจนล้มลงมีเลือดมาทางจมูกและปากหมดสติ แล้วก็พากันเดินหาเสียงต่อไป ญาติ ๆ จึงได้นำส่ง รพ.ท่าเรือ แต่อาการหนักจึงได้ส่งต่อรพ.พระนครศรีอยุธยา และคาดว่าคงไม่รอดอย่างแน่นอน


"สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ปกติจะไม่ยุ่งกับเรื่องการเมือง การห้ามปราบเล็กน้อย ๆ ไม่น่าที่จะต้องลงไม้ลงมือจนถึงปางตายแบบนี้ เสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อาคม นิยมบรรเลง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ แต่ยังไม่อะไรคืบหน้า จึงจะไปติดตามเรื่องอีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค.นี้ต่อไป.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ระทึกรถแก๊สพลิกคว่ำชาวบ้านหนีตายอลหม่าน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 23 มี.ค.55 เมื่อเวลา 05.30 น. ได้เกิดรถบรรทุกแก๊สของ บริษัทสยามแก๊สหมายเลขทะเบียน 75-3816 กรุงเทพมหานคร

บรรทุกแก๊ส LPG ชนิดแคปซูล เสียหลักชนราวสะพาน บริเวณปากซอย ถ.พัฒนาการ ซ. 20-22 พลิกคว่ำจนเกิดเพลิงลุกไหม้ และมีเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ ส่งผลให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงวิ่งหนีออกจากที่พัก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดระเบิดและลุกลาม ทั้งนี้ มีแสงเพลิงพวยพุ่งจากแรงระเบิดออกมาเป็นระยะ พร้อมเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่อง ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกระจกแตกได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ประมาณ 7-8 หลังคาเรือน นอกจากนี้ พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกไฟลวกตามร่างกาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรเวช <!-- inside news -->
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดการจราจร ถ.พัฒนาการ ทั้งขาเข้า-ขาออก เป็นการชั่วคราว เพื่อดำเนินการระงับเหตุโดยด่วน โดยให้หลีกเลี่ยงจากแยกพัฒนาการ ไปใช้ ถนนโลคัลโรด เลียบทางรถไฟ และโลคัลโรด กำแพงเพชร 7แทนไปก่อน

พ.ต.ท.วิทยา พูนวิทย์ รองผู้กำกับ จราจร สน.คลองตัน กล่าวว่า

ขณะนี้ ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ โดยความแรงของแก๊ส ยังมีเปลวเพลิงออกมาเรื่อย ๆ โดยรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ จึงจะประสานบริษัทเจ้าของรถแก๊ส ให้นำโฟมมาดับ ขณะเดียวกัน ยังไม่สามารถเข้าไปปิดวาล์วได้ เพราะถังฉีกขาด เกิดความร้อนและพุ่งออกมา เจ้าหน้าที่ ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้เกรงจะเกิดอันตราย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ต้อนรับปีมะโรงเลยทีเดียว ++

 

ไก่ย่างคลองตัน

 

เพิ่งมาเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ ยังงงๆอยู่

 

<TABLE id=post5896351 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k_97<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5896351", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Feb 2011
ข้อความ: 653
พลังการให้คะแนน: 80


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_5896351 class=alt1><!-- message --><!-- google_ad_section_start --><TABLE id=post1503632 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k_isara<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1503632", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Feb 2008
ข้อความ: 246
พลังการให้คะแนน: 86


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1503632 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เรื่องเล่า...จากภาพ
<O</O
<O</O
ภาพแรก เป็นภาพ ผมมีปากเสียงกับภรรยา<O</O
สื่อถึง ขาดความสามัคคี<O</O
<O</O
ภาพสอง ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์และฟังข่าววิทยุ ว่าได้ผู้นำคนใหม่ <O</O
แล้ว
<O</O
<O</O
ภาพสาม ผมยืนอยู่บนตึกสูง สามารถมองเห็น ตึกน้อยใหญ่<O</O
ทั่วกรุงเทพฯ สักพัก ภาพที่ผมเห็น ก็ไหวไปมา ผมได้เห็น<O</O
ตึกค่อยๆถล่มลงมา
<O</O
<O</O
ทั้งสามภาพน่าจะสื่อถึงลำดับเหตุการณ์<O</O<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย k_isara : 16-09-2008 เมื่อ 11:42 AM
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1503632")</SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("5896351")</SCRIPT> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>