กลุ่มชนคนดูดวง

PM แล้วคร่า โทษด้วยนะคะ พอดีเล่นกับมือถือ มัยดันมาออกหน้ากระทู้:'(

 

pm ไปแล้วค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด คุณสวยหวานหรืออีกหลากหลายชื่อผู้ใช้ก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะถูกแบนหรือถูกผู้ดูแลเวปลบข้อความอย่างไรก็ยังคงทำสิ่งที่ไม่ดีๆเสมอ ขอบคุณที่พระคุณเจ้าฯได้ทำให้โยมมีโอกาสได้ตอบดวงเพื่อนๆหลังจากที่ผมไม่ค่อยได้เข้ามานะครับ ผมมีโอกาสได้นำวิชาความรู้มาแนะนำให้เพื่อนๆที่มีความทุกข์ให้เขาได้ไปปฏิบัติบ้างตามภูมิที่ผมพอรู้ ขอบคุณท่านที่ให้โอกาสกระทู้ผมขึ้นมาหน้า ๑ อีกนะครับ

ขอให้ท่านหมั่นเจริญ ศีล สมาธิ ภาวนา ให้เหมาะกับเพศที่ท่านเป็นอยู่ อย่ามัวเมาในเกมส์ หรือ Youtube บ้าๆอะไรเลย ท่านเป็นครูบาอาจารย์สอนผู้คน สิ่งที่เป็นอยู่ที่ท่านได้รับความทุกข์ถึงขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะกรรมที่ท่านทำไว้ ไม่มีทางที่จะเกิดความเสื่อมเสียเห็นปานนี้หลอกท่าน

ไม่ต้องพยายามมากหลอกครับ เพราะคนที่เขารู้พฤติกรรมและเรื่องราวความจริงต่างๆเขาไม่เชื่อสิ่งที่ท่านทำนะ ยิ่งท่านยิ่งพยายามทำให้สีดำมันเป็นสีขาว ผมว่ามันยิ่งมืด ยิ่งดำ ไปกันใหญ่

กระทู้นี้ผมมาทำความดี เผยแพร่ความรู้ในพระพุทธศานาเท่าที่กำลังสติปัญญาของผมมีอยู่ ชักชวนเพื่อนๆในเวปให้มาตั้งตนอยู่ใน ทาน ศีล ภาวนา หากท่านและคณะศิษย์ยังมีอุดมการคือ "เผยแพร่พระพุทธศาสนาเท่ากับได้ทุกอย่าง" ก็ขอความกรุณาอย่ามาใช้กระทู้ผมทำความอันหาสาระประโยชน์มิได้อีกเลยนะครับ
กราบนมัสการขอบคุณพระคุณเจ้าผู้ใช้นามว่า "สวยหวาน" นะครับ

 

ได้อ่านข้อความแล้ว ก็ต้องถอนหายใจ ..ดัง..เฮือกเลยละคะ 555 โดยเฉพาะข้อแรก สงสัยว่าเขาคงให้มาทางนี้ละม้ัง 555 ไม่เป็นไรคะเราไม่ยอมจนกว่าจะถึงที่สุด ทางบุญก็จะเอาทางโลกก็ไม่ทิ้ง ขอบคุณคุณพี่มากนะคะ...แล้วก็ อนุโมทนากับคุณพี่ด้วยคะ

 

ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นไปตามกรรมและผลของกรรม ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรมในปัจจุบันด้วย ดังนั้นหากคุณไม่ประมาท เร่งทำความดี ตามควรแก่โอกาสและเวลา ค่อยๆพัฒนาภูมิจิตภูมิธรรมในตนเอง สิ่งที่น้องคิดและหวังย่อมสำเร็จได้สักวันหนึ่งครับ
ผมขออนุโมทนากับคุณด้วยนะครับ

 

สาธุ๊ สาธุ เจ้าคะ.....เอิ๊ก เอิ๊ก แต่แม่นมากเจ้าคะเกี่ยวกับนิสัย สงสัยติดจากคนข้างๆเพราะเราก็คิดแบบนั้นกับเขาบ่อย555

 

มา confirm อีกคนค่ะ ว่า แม่นจริง ๆ และขอขอบคุณพี่เสขมากเลย ที่มาช่วยดูดวงการกุศลเพื่อนำรายได้มาสร้างสถานปฏิบัติธรรมกับทางเราตามรายละเอียดด้านล่าง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย

จึงขอเชิญชวนท่านใด ที่มีจิตศรัทธาที่ีจะร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรม สามารถดูรายละเอียดตามลิ้งด้า้นล่างได้เลยค่ะ

ขออนุโมทนากับผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านด้วยนะคะ

เนื่องจากว่ามีโครงการณ์จะสร้างสวนปฎิบัติธรรม เพื่อให้คนทั่วไปและผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมปฎิบัติ โดยใช้ชื่อว่าสวนโมกธรรม
โดยสวนโมกขธรรมนี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านนาทาม อำเภอ ดอนตาล จังหวัด มุกดาหาร บริเวณ อยู่ทางเข้าวัดของหลวงปู่ลือ ที่ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา รายละเอียดตามลิ้งด้านล่างนะคะ


สรรพศาสตร์.คอม - Powered by Discuz!

 

ขอสาธุอนุโมทนา กับกุศลทั้งหมดทั้งมวล ให้กับเจ้าของกระทู้ ผู้มีจิตเป็นกุศล ครั้งนี้ด้วยจ๊ะ

 

ผมก็ขออนุโมทนาในกุศลผลบุญที่ทุกท่านได้ทำด้วยนะครับ และส่วนใดที่เป็นบุญเป็นกุศลที่ทำมาทั้งหมดที่ผมทำมาแล้ว ก็ขอให้ทุกๆท่านได้รับความสุขเช่นเดียวกันกับผมที่จะได้รับด้วยนะครับ

ช่วงนี้ผมใกล้จะสอบแล้ว ต้องดูหนังสือเตรียมตัวสอบ ดังนั้นท่านใดที่มีความทุกข์จริงๆ หรือ กำลังเดือดร้อน ผมก็ยินดีที่จะช่วยดูดวงให้นะครับ แต่ท่านใดหากยังไม่มีเรื่องด่วน ก็ขออภัยด้วยนะครับ อาจไม่ได้รับการตอบกลับ

เมื่อส่งข้อมูล และ คำถาม ที่ข้อมูส่วนตัว เสขบุคคล เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มาโพสที่กระทู้เพื่อแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ ผมจะได้มาตอบให้โดยเร็วนะครับ

 

อยากไปด้วย แต่ไปไม่ได้ ชะเอิงเอยยยย:''(

 

ส่ง PM ให้แล้ว รบกวนคุณ เสขบุคคล ด้วยคะ
ขอบคุณล่วงหน้า

 

ผมส่งPMไปแล้ว ขอบคุณคุณเสขบุคคลครับ.

 

ได้รับคำตอบแล้ว ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับคุณเสขบุคคล.

 

http://palungjit.org/threads/กลุ่มชนคนดูดวง.283847/page-25

 

เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย

เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บเล็กๆน้อยๆ จนถึงกระทั่งเป็นโรคเรื้อรัง รักษายาก เป็นโรคร้ายแรงต่างๆ ตลอดจนถึงการประสบเคราะห์กรรมร้ายๆด้วย ที่จรเข้ามาสู่วิถีชีวิตของแต่ละท่าน ๆ เมื่อว่าโดยปัจจัยแล้วก็มีอยู่ ๔ อย่างตามที่ปรากฎในข้อมูลที่ผมได้เรียนรู้มา แต่ส่วนมากมักเกิดจากกรรมเป็นปัจจัย และก็เป็นที่นิยมจนเป็นวัฒนธรรมก็ว่าได้ มีอะไรๆก็โทษกรรมก่อนเป็นอันดับแรก จนเกิดประเพณีแก้กรรม ด้วยวิธี หรือพิธีกรรมต่างๆ ตามแต่ผู้รู้จะแนะนำกันด้วยวิธีของตนๆ ​

เป็นความจริงอย่างหนึ่งของคนที่ดวงตก(อกุศลวิบากกรรมกำลังให้ผล) ย่อมเบียดเบียนความความคิด จิตใจ การกระทำ ให้ผู้นั้นเกิดความเห็นผิด ดำเนินชีวิตไปในทางที่ผิด ให้พบกับทางออกที่ผิดๆ และไม่สามารถแก้ไขชีวิตของตนในทางที่ดีขึ้นได้ ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ยิ่งแก้ยิ่งพันไปกันใหญ่ หากกุศลกรรม(บุญ)ของผู้นั้นไม่ได้มีกำลังพอที่จะมาเบียดเบียนให้ขณะทุกข์นั้นบรรเทาลง ผู้นั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนจากสภาวะทุกข์นั้นๆให้เป็นสภาวะที่มีความสุขขึ้นมาได้ เพราะไม่ได้ทำบุญไว้แต่ในปางก่อน ดังนั้นคนที่มีบุญพอ ย่อมมีทางออกได้ในระยะเวลาไม่ช้า​

ผลแห่งทุกข์หรือเคราะห์กรรมต่างๆล้วนแล้วเกิดจากศีลวิบัติ คือผิดศีล (ศีล๕) เป็นเหตุพื้นฐาน บุคคลที่ประสบความทุกข์ ประสบเคราะห์กรรมก็เพราะผู้นั้นมักทำผิดศีล ผิดธรรมด้วยเหตุข้อใดข้อหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่ส่งผลให้เกิดเคราะห์กรรม มีทุกข์ด้วยประการต่างๆ ก็คงต้องรับมันไป ไม่ต้องไปสนใจมัน หากยังคงทำบาป ทำอกุศลกรรม ผิดศีล กันต่ออีก ก็คงไม่พ้นจากบ่วงทุกข์นี้ไปได้ แต่ถ้าเราไม่ต้องการตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์อีกต่อไป ก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง ให้เป็นผู้ตั้งตนอยู่ในความไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ด้วยการรักษาศีลให้บริบูรณ์ แล้วเจริญกุศลกรรมอื่นๆให้มากขึ้นตามลำดับ​

ก่อนที่เราจะทำอะไรๆได้ถูกต้องนั้น มีความเชื่อกรรมและผลของกรรมตามความเป็นจริงเป็นต้น จะต้องเริ่มต้นจากการศึกษาก่อน คือให้รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะทำบุญให้เป็นบุญ ทำอย่างไรบุญที่เราทำจึงจะให้ผลมาก และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือมรรค-ผล ได้อย่างไร หากขาดการศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจเสียก่อนแล้ว แล้วหนทางที่จะดำเนินไปนั้น จะถูกต้องได้อย่างไร อย่างไรคือหนทางที่แท้จริงถูกต้อง อย่างไรคือหลุมพรางกับดักหรือเหวลึกที่จะทำให้เราตกต่ำ เสียหาย ความรู้ความเข้าใจจึงเป็นความสำคัญอันดับแรก ที่เราควรทำความเห็นแจ้งเสียก่อน​

เมื่อว่าโดยกรรมเป็นปัจจัยแล้ว ย่อมมีปัจจัยเป็นได้ทั้งสุขและทุกข์ หากทำกรรมดีย่อมให้เกิดสุข หากทำบาปอกุศลกรรม ย่อมส่งผลให้เป็นทุกข์ ดังนั้นก็ควรทำบุญสร้างกุศลกันไว้เสมอๆแม้ในยามที่เป็นปกติสุขดีอยู่ เนื่องจากในยามทุกข์ แล้วเราจึงมาหันหน้าเข้าหาวัด ทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล หรือจะทำบุญให้ได้เท่ากับพระเวสสันดรท่านบำเพ็ญบารมีก็ตาม บุญนั้นก็ไม่อาจส่งผลให้ทันกาลได้ ​

ส่วนผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆก็ด้วยผลที่ทำการฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ทำร้ายสัตว์ต่างๆ ทั้งมีคุณมากหรือน้อยก็ตาม มีความเพียรในการกระทำมากหรือน้อยก็ตาม และไม่ว่าประการใดๆ สัตว์นั้นถึงแก่ความทุกข์หรือความตายแล้ว ไม่ว่าในภพนี้หรือภพก่อนก็ดี ไม่ต้องไปคิดถึงมันอีก เพราะการคิดถึงบาปกรรมเก่าๆมันยิ่งทำให้เกิดจิตเศร้าหมองยิ่งขึ้น ให้รู้ไว้ว่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรทำอีก ให้เปลี่ยนแปลง ความคิด จิตใจ การกระทำเสียใหม่ ให้ทานบ้าง รักษาศีล และเจริญในบุญกิริยาวัตถุต่างๆอยู่เนืองๆ ให้ชีวิตสัตว์เป็นทานด้วย​

เมื่อทำบุญก็ให้มีจิตใจเป็นไปในกาลทั้ง๓คือก่อนทำก็มีใจยินดีที่จะทำกุศล (ตั้งใจไว้ดีก่อนที่จะได้ทำกุศล) ขณะที่ทำก็มีใจปีติปราโมทย์และเมื่อได้ทำบุญกุศลแล้ว นึกได้เมื่อไรก็มีความอิ่มเอิบใจในบุญที่ตนทำไปแล้ว ทำอย่างนี้เสมอๆ อย่าไปคิดถึงบาปกรรมเก่าอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้จิตเกาะติดกับบุญกุศลใหม่ๆที่ทำเสมอๆ หากบาปอกุศลเบาบางลง ทุเลาลง ผลบุญมีโอกาสได้ช่องทางที่จะให้ผล เมื่อนั้นท่านย่อมประสบกับความสุข​

มีโอกาสจะมาเขียนใหม่นะครับ​

 

สำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องการเงิน​

การเงินไม่คล่องตัว ชักหน้าไม่ถึงหลัง เป็นหนี้เป็นสิน ขัดสน ใช้จ่ายจนไม่มีเหลือเก็บ และปัญหาต่างๆเกี่ยวกับการเงินทั้งหลาย เพราะมีปัจจัยดังนี้คือ
๑ ผลที่เกิดจากการที่เราไม่ได้ให้ทานมาในอดีต หรือ ผลบุญที่ทำมามีกำลังน้อย จึงทำให้ทรัพย์สิน สมบัติในปัจจุบันมีน้อยไปด้วย
๒ ผิดศีลข้อ๒คือ อทินนาทานมาในอดีต คือมีใจประทุษร้ายในทรัพย์สินของมีค่าของผู้อื่นให้ฉิบหายด้วยประการต่างๆ
ดังนั้น ผลแห่งการทุศีลหรือการทำผิดศีลนั้นจึงทำให้ผู้นั้นถึงแก่ความเดือดร้อน ยุ่งยากวุ่นวาย และเสียหาย ถูกโขมย ถูกอัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย โจรภัย ราชภัย ฯลฯ
โดยหลักประการสำคัญเท่าที่ผมทราบมาคือ ๒ ประการนี้เป็นส่วนมาก แต่ยังมีจากปัจจัยอื่นอีกนะครับ ​

วิธีเปลี่ยนวิถี​

เมื่อรู้เหตุปัจจัยที่ทำให้เรามีความเดือดร้อน ประสบกับความทุกข์ที่เป็นสาเหตุเพราะเรื่องของเงินๆทองๆ ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนวิถีหรือพฤติกรรมใหม่ หรือ สร้างกรรมที่ดีให้เกิดขึ้นใหม่ๆทดแทนกรรมไม่ดีที่เคยทำ(อาจิณกรรม)
พึงกำจัดความเป็นคนตระหนี่ ขี้เหนียว ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ในตนเองลงเสียก่อน หันมาให้ทาน เสียสละทรัพย์ของมีค่าของตนเพื่ออนุเคราะห์ผู้อื่น ด้วยใจที่คิดว่าเป็นการเกื้อกูล ช่วยเหลือ สงเคราะห์ผู้ที่กำลังได้รับความลำบากอยู่ก็ดี การให้ทานเพื่อสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้ท่านสามารถปฏิบัติศาสนธรรมได้ก้าวหน้า โดยการให้ของเรานั้นไม่เป็นการหวังผลตอบแทน ไม่ใช่การทำบุญแบบพ่อค้าที่หวังผลกำไรตอบแทนนะครับ
ดังนั้นไม่ว่าเราจะมีเงินมากเงินน้อย ค่อยเปลี่ยนอุปนิสัยของตนเองไปเรื่อยๆ สั่งสมอัทธยาศัยในการแบ่งปัน การให้ การสงเคราะห์ผู้อื่นไปทีละน้อย หรือ การอนุโมทนาในกุศลผลบุญของผู้อื่น หรือ เราอาจจะมีการใส่บาตร ทำบุญทำทานตามโอกาสและความสมควร ให้ทานด้วย อาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ปัจจัย ๔ เหล่านี้เป็นวัตถุทานที่เราสามารถทำได้ตามกำลังของตน มากก็ดี น้อยก็ดี ก็ค่อยๆทำกันไปเรื่อยๆนะครับ
หากท่านใดที่ไม่มีโอกาส ไม่มีเวลาพอที่จะไปทำบุญได้ทุกวันๆ ก็ขอแนะนำว่าให้หา บาตรหรือกระปุกออมสิน มาใส่เงินทำบุญทุกวันๆ วันละบาท สองบาท ตามแต่กำลังตน คือเราจะได้มีโอกาสได้ทำบุญทุกวันๆเหมือนกันนะครับ กุศลจะได้เกิดทุกวันๆ หากเราสามารถสวดคาถาเงินล้านได้ด้วยก็จะยิ่งดีนะครับ ก่อนจะหยอดเงินใส่บาตรหรือกระปุกออมสินก็สวดคาถาเงินล้านก่อน จะ ๓จบ๗จบ๙จบ ก็ได้ ตามแต่มีเวลานะครับ เวลาสวดก็ตั้งจิตให้เป็นสมาธิให้มากๆ ไม่ต้องหวังผลในทางความโลภความอยากได้ ให้เจตนาของตนเป็นกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อระยะที่เราเก็บเงินได้เต็มกระปุกแล้ว เราก็นำเงินที่เราเก็บนั้นไปซื้อของทำบุญอีกทีหนึ่ง จะเป็นอาหาร ผ้าไตรจีวรหรืออะไรก็แล้วแต่ประสงค์นะครับ
อย่างนี้เราจะได้ทำบุญทุกวันนะครับ​

รักษาศีลให้มั่นคง​

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความยุ่งยากวุ่นวายใจก็เพราะการที่เราเคยล่วงละเมิดในศีลข้อ ๒ มาในอดีต(ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วก็ตาม) ดังนั้นเราต้องตั้งเจตนาใหม่ โดยการวิรัติงดเว้นจากทุจริตกรรมทั้งหลายที่เป็นการผิดศีล มีการฆ่าสัตว์เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรรักษาศีลควบคู่กับการให้ทานหรือสวดมนต์ด้วย จะยิ่งมีผลมากมีอานิสงส์มากนะครับ คือก่อนให้ทานก็ดีทำบุญก็ดี สมาทานศีลก่อนทุกครั้ง

การรักษาศีลนั้นหลายๆท่านคิดว่าเป็นเรื่องยาก ทำไม่ได้ อยากจะขอแนะนำว่าให้ท่านที่ยังไม่เคยรักษาศีลลองทำดูนะครับ

คือเริ่มในระยะเวลาในการรักษาศีลทีละน้อยๆก่อน เริ่มจากวันละ ๑ ชั่วโมง ค่อยๆรักษาไปทีละข้อๆก็ได้ ขอให้มีความตั้งใจที่จะรักษาเถิด เราจะสามารถรักษาศีลได้มากขึ้นๆ และเมื่อรักษาศีลได้ครบทุกข้อแล้ว ก็เริ่มขยายเวลาออกไปๆๆเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งคุณก็จะรักษาศีลได้อัตโนมัติไปเอง ถึงแม้จะมีศีลวันละชั่วโมงก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนมีศีลนะครับ
ก็ทดลองปฏิบัติกันดูนะครับ จากระยะเวลาก็ดี จากข้อ๑เพิ่มไปอีกข้อ๑ ก็ดี ในที่สุด ศีลที่เราเฝ้าระวังไม่ให้ทำผิดนั้นก็จะเป็นศีลที่บริสุทธิ์หมดจดได้ ขอให้มีความตั้งใจที่จะทำจริงนะครับ​

การสวดคาถาเงินล้าน​

การสวดคาถาเงินล้าน จัดเป็นภาวนามัยกุศลชนิดหนึ่งนะครับ เมื่อสวด ก็ให้ตั้งใจสวดให้อารมณ์ใจตั้งอยู่ในความสงบ เป็นสมาธิ อย่าให้จิตซัดส่ายไปในอารมณ์ที่ชั่ว มีความโลภ ความอยากได้เป็นต้น จิตที่เป็นสมาธิย่อมมีผลมาก อย่างน้อยจะทำให้ผู้สวดมีความสุขที่เกิดจากความสงบในขณะนั้นๆ

การสวดนั้นมีผลส่งให้ผู้ที่สวดคาถานี้เกิดความคล่องตัวเรื่องของเงิน แต่จุดมุ่งหวังมิควรทำเพื่ออยากที่จะได้เป็นประเด็นสำคัญนะครับ แต่ผลที่ได้คือจะเกิดความคล่องตัวและการเงินจะดีขึ้น ฉะนั้นการสวดพระคาถาพึงมุ่งความสงบแก่จิตใจ ให้เป็นสมาธิเป็นสำคัญนะครับ​

จากทั้ง ๓ ประการดังกล่าวมานั้น เป็นคุณธรรม ๓ ประการสำหรับคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนอย่างเราท่านทั้งหลาย คือ ทาน ศีล ภาวนา กุศลทั้ง ๓ประการนี้ ถึงแม้ว่าเราจะทำโดยไม่ต้องหวังผลเป็นการตอบแทนก็ตาม ผลและอานิสงส์นั้นก็ย่อมตอบแทนแก่ผู้ประพฤติธรรมนั้นตามควรแก่เหตุ ผู้นั้นย่อมไม่พึงตกไปสู่ในโลกที่ชั่ว ไม่พบวิบากที่เลวคือทุกข์ ไม่ทุกข์ใจเพราะสมาธิที่ตั้งมั่นย่อมกำจัดนิวรณ์ธรรมได้ ในขณะที่ปฏฺบัติ​

หวังว่าทั้งหลายเหล่านี้จะพึงเป็นประโยน์แก่ท่านใดท่านหนึ่งบ้างตามสมควรนะครับ​

 

จากคำถามเรื่องเนื้อคู่เสียในดวงมีวิธีแก้ดวงอย่างไร​

วิธีแก้ตามหลักพุทธฯ คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเอง หากเรารู้ว่าดวงเนื้อคู่ของเรามันไม่ดี มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตคู่ บางคนปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากแฟนหรือคู่ชีวิตของตนเลยก็มี แต่เป็นตัวเองนั้นแหละที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความยุ่งยาก ไม่สงบ และเกิดปัญหาจุกจิก ขึ้นเพราะอุปนิสัยและพฤติกรรมของตัวเราเองนี่ละ บางคนอาจจะเกิดความหงุดหงิด รำคาญใจบ่อยๆ ไม่มีเหตุมีผล เป็นอันว่าโดยรวมก็คือ เรานั่นเองเป็นผู้ที่กระทำตนเองให้เหมือนเป็นแรงผลักดัน ด้วยเหตุที่ความคุ้นเคย เพราะอยู่ร่วมกันมาเป็นระยะเวลานานๆ ความเกรงใจกันมันก็เลยลดน้อยลงบ้าง อุปนิสัยที่เคยทนกันได้ก็เลยค่อยๆหมดไปและไม่มี จากที่เคยเป็นคนเงียบๆอะไรๆก็ได้ นานวันไปก็แปลงร่าง กลายเป็นพวกขี้บ่น ขี้โมโห โววาย ทำอะไรมักตามใจตัวเอง ก็เลยทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน จนเป็นเหตุทำให้เกิดความห่างเหินกันไปทีละน้อย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเจอคนที่เขาเอาอกเอาใจกว่า ก็แย่เลยละครับ ดังนั้นหากเราต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนของชีวิตคู่ ก็ต้องหมั่นดูแลและทำตนเองให้เกิดแรงดึงดูดไว้เสมอๆ อะไรที่ดีๆที่เคยทำ ก็รักษามันไว้ เวลาโกรธก็ทำความรู้สึกตัวให้ได้เร็วๆและรีบแก้ไขเสีย ดังนั้นการจะแก้ดวงนั้นไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองอะไร ไม่ต้องไปทำพิธีตัดเคราะห์ตัดกรรมอะไรที่ไหนนะครับ ทำที่ตัวเรานี่ละครับ

 

วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร​

เป็นวัดที่มีการสอนกัมมัฏฐานแนวมัชฌิมา ที่รักษาแบบดั้งเดิมสมัยสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ในยุคต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาของเก่าแก่มีค่านับตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ ๑เป็นต้นมาด้วย
เสขบุคคลและเพื่อนๆไปปฏิบัติธรรมตามแนวที่ท่านสอน และสวดมนต์ในคืนวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๔ มา บุญใดกุศลใดที่เกิดขึ้นของผม ก็ขอให้เวปพลังจิต ผู้ดูแลและทีมงาน ตลอดถึงท่านผู้อ่านทุกๆท่านมีความสุขและได้รับบุญนั้นด้วยนะครับ​

และหากท่านใดอยากไปปฏิบัติหรือไปทำบุญก็ขอแนะนำว่าไม่ผิดหวังครับ สถานที่สงบ เงียบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากนัก และมีพระผู้ทรงความรู้และความเมตตาคอยให้การแนะนำและสอนวิธีการปฏิบัติให้ด้วย ก็ขอให้ท่านที่สนใจจะหาที่ไปปลีกวิเวกก็ลองไปที่วัดราชสิทธาราม คณะ ๕ ดูนะครับ ​

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระครูสิทธิสังวร คณะ ๕ โทร. ๐๘๔-๖๕๑-๗๐๒๓ หรือ Somdechsuk.org ​

http://www.somdechsuk.com/​

 

เรียนรู้เรื่องโหราศาสตร์ ใครสนใจไปดูได้ที่ rustanyou - YouTube


เรื่องการอธิษฐานให้ได้ผล 100% ลองไปฟังได้ที่ myducu1 - YouTube.


ตัวอย่างผู้ที่สำเร็จในการใช้พุทธานุภาพได้ผล คลิ๊กไปที่ ::: �ѵ�ѭ����ʵ�� - Rustanyuology :::... แล้วคลิ๊ก คำว่า "พุทธานุภาพ" แล้วจะมี คำว่า "พุทธานุภาพ อธิษฐานฤทธิ์" อยู่ด้านขวามือ คลิ๊ก แล้วจะเห็น วีดีโอ ตัวอย่างผู้ที่ฝึกและปฏิบัติได้และเห็นผล มีอยู่ ๓ ท่าน ที่ปฏิบัติตามที่พระอาจารย์ใหญ่สอนแล้วเห็นผล ลองไปหาความรู้เพิ่มเติมได้นะครับ