พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แตกต่างไม่แตกแยก เจตนาของการเห็นต่างเพื่อแตกประเด็นในส่วนต่างๆ เพื่อไม่ให้เห็นผิด จนนำไปสู่การสรุปผลที่ผิด หากแต่เป็นการระดมสรรพคำถาม เพื่อวันหนึ่งจะต้องตอบกับผู้เกิดคำถามเหล่านี้ อย่าได้กล่าวอ้างด้วยมิจฉาทิฏฐิ แต่ให้ยกเอาหลักฐานที่ตาดูเห็น หูได้ยิน กายสัมผัสได้ด้วยกายเนื้อ ยกเอาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอ้างอิงได้สอดคล้องกับปัจจุบันได้อย่างที่ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกัน "ความไม่รู้" อีก ๐.๐๐๐๑% ผมไม่หวังให้ทุกท่านเชื่อถือผม แต่หวังให้ทุกท่านได้เก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อพิจารณาไตร่ตรองตามความเป็นจริง เอาเหตุผลมาตีแผ่ว่ากล่าวกัน ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องแห่งความจริง หรือใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แม้จะไม่ครบถ้วนในรุ่นของผมก็ตามที...

    ผมอยากให้ทุกท่านที่ผ่านมา แวะมา ด้วยความสงสัยว่า กระทู้นี้ทำอะไรกัน โต้เถียงอะไรกัน ไม่ลงรอยอะไรกัน ได้โปรดวางใจให้เป็นกลาง ค่อยๆพิจารณาเรื่องราวต่างๆ หากสามารถอ่าน post ที่ ๑ จนล่าสุดนี้ได้ก็จะทราบเหตุ และผลทุกประการ ถึงเหตุที่มีผู้กล่าวว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรกไม่มีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดรแต่อย่างไร และหลาย posts ก็เฝ้าย้ำอยู่อย่างนั้น ราวกับว่าเกิดมาทันสมัยนั้น และเหตุนี้จึงจะเป็นเหตุของการอ้างอิงคำกล่าว ความเชื่อของตนต่อครูบาอาจารย์มาว่ากล่าวกัน ก็จะเป็นเหตุเริ่มต้นของการทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องในสายตาชาวบ้านทั่วๆไป ผมจึงเพียงยกประเด็นบางประเด็นขึ้นมาเพื่อให้ผู้สนใจได้พิจารณาตามกำลังปัญญาของแต่ละท่านเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อ ต่างเกิดไม่ทัน จะเอาเป็นเอาตายกับความเชื่อทำไมหรือ?? และนี่คือ ๐.๐๐๐๑% เป็นการป้องกันความผิดพลาดจากความเชื่อที่อาจจะผิดพลาดได้เมื่อกาลเวลาผ่านไป และได้รับการพิสูจน์ในอนาคต ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจากการเผยแพร่ความคิดในที่นี้ อาจเป็นกรรมแก่ตน และวงศ์วานตามสัจจะคำสาบานนั้นได้ ซึ่งประเด็นนี้ผมผิดพลาดได้ เพราะได้รวมอยู่ใน ๐.๐๐๐๑% นี้เอาไว้แล้ว ส่วนลุงหนุ่มน้อย ไม่สามารถผิดพลาดไปเลยจริงๆ เพราะความที่ไม่เคยเผื่อความผิดพลาดของส่วนนี้เอาไว้เลย...

    ลองพิจารณาว่า ข้อมูล ๐.๐๐๐๑% นี้มีน้ำหนักที่ยกขึ้นล้างความเชื่อที่กล่าวว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรก ไม่มีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดรแต่อย่างไร ได้บ้างหรือไม่ ให้ยกหลักฐานมาหักล้างด้วยครับ หากยังหักล้างไม่ได้ ก็ต้องวางเฉยทั้งทางกาย วาจา ใจ พยายามหาข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับมาแสดงอ้างอิง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คน และหากกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรก เกิดมีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดร ขึ้นมาจริงๆ จะว่ายังไง? จะทำอย่างไร? ดังนั้นอย่าได้มั่นใจมากขนาด "ไม่เผื่อใจ" ให้เลยแม้เพียง ๐.๐๐๐๑% เลยครับ ไม่เช่นนั้นจะเข้าทางที่ผมกำลังขุดล่ออยู่นะ...

    ประวัติกรมสรรพาวุธในอดีต ลองตามไปอ่านดูครับว่า ศาลวังหน้ามีมาตั้งแต่สมัยใด ปี พ.ศ.ใด จนเป็นศาลวังหน้าทุกวันนี้ มีหลักฐานที่ไม่ชัดแจ้ง เนื่องจากเหตุไฟไหม้ จนย้ายมาที่ถนนเศรษฐศิริ จนสถิตย์ถาวรเฉพาะที่นี่ก็ราว ๘๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งหากนับถึงปีพ.ศ. ๒๔๔๕ ก็มีอายุถึง ๑๑๐ ปีแล้วเป็นอย่างน้อย นายทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะกรมสรรพาวุธทหารบกล้วนมีศรัทธาต่อกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์ และพระโลกอุดรมาหลายชั่วคนแล้ว ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ และวงศ์วานย่อมสามารถบอกเล่าความเป็นมาของศาลวังหน้าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ความชัดเจนในความสัมพันธ์ของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ร.๔ และ ร.๕ เป็นที่ชัดแจ้งอยู่แล้วครับ แต่ที่กำลังกล่าวกันคือ ๓ พระองค์แรก หากไม่เกี่ยวข้องกันเหตุใดเจ้ากรมสรรพาวุธตั้งแต่ท่านแรกคือ พระยาสโมสรสรรพการ จนเวลานี้จึงยังแสดงพระนามของกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์ไว้ในที่เดียวกัน พร้อมกับประดิษฐานพระบูชาพระโลกอุดรไว้ภายในศาลวังหน้า...
    http://www.rta.mi.th/tec-div-ord/pdf/ประวัติกรมสรรพาวุธทหารบก.pdf

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ santisayan [​IMG]
    นี่ นะที่เค้าเรียกว่า""ทีม"" ทีมประกอบไปด้วยอะไรบ้างคงไม่ต้องพูดถึงนะทุกคนรู้อยู่แล้ว การที่มีทีมที่ดี อยู่ในบ้านหลังนี้ก็เป็นความภูมิใจของทุกคน แต่ละคนมีหน้าที่การงาน มีฐานะที่มั่นคง มีความแตกต่างทางความคิด มีความแตกต่างทางการศึกษา มีความแตกต่างทางความเชื่อ มีความแตกต่างทางปัญญา และนี่ก็ไม่ใช่ความแตกแยก เหตุ ผลที่มีก็ไม่แตกต่างกัน เหมือนเรามองเห็นเหรียญด้านหนึ่งแล้วเราบอกว่าอีกด้านนั้นไม่มี แต่จุดมุ่งหมายที่เดียวกัน คืออะไรทุกคนรู้อยู่แก่ใจดี ว่าเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร เพื่อใคร และได้อะไรไหม?เป็นสิ่งตอบแทน ทุกคนมีคำตอบอยู่แล้วในใจ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือข้อมูล ของแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อผู้คนที่ยังไม่ได้รับทราบ ให้ทราบ อีกทั้งได้เผยแผ่ในสิ่งที่เราตั้งใจกันไว้ว่าจะทำ เพื่อให้รุ่นหลังได้รับรู้ เข้าใจ ในสิ่งที่ใกล้ความจริงที่สุด ฉนั้นอย่าลืมแนวทางนี้ที่เราตั้งใจทำ
    </td> </tr> </tbody></table>
    โมทนาครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    แตก ต่างไม่แตกแยก เจตนาของการเห็นต่างเพื่อแตกประเด็นในส่วนต่างๆ เพื่อไม่ให้เห็นผิด จนนำไปสู่การสรุปผลที่ผิด หากแต่เป็นการระดมสรรพคำถาม เพื่อวันหนึ่งจะต้องตอบกับผู้เกิดคำถามเหล่านี้ อย่าได้กล่าวอ้างด้วยมิจฉาทิฏฐิ แต่ให้ยกเอาหลักฐานที่ตาดูเห็น หูได้ยิน กายสัมผัสได้ด้วยกายเนื้อ ยกเอาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอ้างอิงได้สอดคล้องกับปัจจุบันได้อย่างที่ ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกัน "ความไม่รู้" อีก ๐.๐๐๐๑% ผมไม่หวังให้ทุกท่านเชื่อถือผม แต่หวังให้ทุกท่านได้เก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อพิจารณาไตร่ตรองตามความ เป็นจริง เอาเหตุผลมาตีแผ่ว่ากล่าวกัน ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องแห่งความจริง หรือใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แม้จะไม่ครบถ้วนในรุ่นของผมก็ตามที...

    ผมอยากให้ทุกท่านที่ผ่านมา แวะมา ด้วยความสงสัยว่า กระทู้นี้ทำอะไรกัน โต้เถียงอะไรกัน ไม่ลงรอยอะไรกัน ได้โปรดวางใจให้เป็นกลาง ค่อยๆพิจารณาเรื่องราวต่างๆ หากสามารถอ่าน post ที่ ๑ จนล่าสุดนี้ได้ก็จะทราบเหตุ และผลทุกประการ ถึงเหตุที่มีผู้กล่าวว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรกไม่มีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดรแต่อย่างไร และหลาย posts ก็เฝ้าย้ำอยู่อย่างนั้น ราวกับว่าเกิดมาทันสมัยนั้น และเหตุนี้จึงจะเป็นเหตุของการอ้างอิงคำกล่าว ความเชื่อของตนต่อครูบาอาจารย์มาว่ากล่าวกัน ก็จะเป็นเหตุเริ่มต้นของการทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องในสายตา ชาวบ้านทั่วๆไป ผมจึงเพียงยกประเด็นบางประเด็นขึ้นมาเพื่อให้ผู้สนใจได้พิจารณาตามกำลัง ปัญญาของแต่ละท่านเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อ ต่างเกิดไม่ทัน จะเอาเป็นเอาตายกับความเชื่อทำไมหรือ?? และนี่คือ ๐.๐๐๐๑% เป็นการป้องกันความผิดพลาดจากความเชื่อที่อาจจะผิดพลาดได้เมื่อกาลเวลาผ่าน ไป และได้รับการพิสูจน์ในอนาคต ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจากการเผยแพร่ความคิดในที่นี้ อาจเป็นกรรมแก่ตน และวงศ์วานตามสัจจะคำสาบานนั้นได้ ซึ่งประเด็นนี้ผมผิดพลาดได้ เพราะได้รวมอยู่ใน ๐.๐๐๐๑% นี้เอาไว้แล้ว ส่วนลุงหนุ่มน้อย ไม่สามารถผิดพลาดไปเลยจริงๆ เพราะความที่ไม่เคยเผื่อความผิดพลาดของส่วนนี้เอาไว้เลย...

    ลองพิจารณาว่า ข้อมูล ๐.๐๐๐๑% นี้มีน้ำหนักที่ยกขึ้นล้างความเชื่อที่กล่าวว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรก ไม่มีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดรแต่อย่างไร ได้บ้างหรือไม่ ให้ยกหลักฐานมาหักล้างด้วยครับ หากยังหักล้างไม่ได้ ก็ต้องวางเฉยทั้งทางกาย วาจา ใจ พยายามหาข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับมาแสดงอ้างอิง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คน และหากกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ๓ พระองค์แรก เกิดมีความเกี่ยวพันกับพระโลกอุดร ขึ้นมาจริงๆ จะว่ายังไง? จะทำอย่างไร? ดังนั้นอย่าได้มั่นใจมากขนาด "ไม่เผื่อใจ" ให้เลยแม้เพียง ๐.๐๐๐๑% เลยครับ ไม่เช่นนั้นจะเข้าทางที่ผมกำลังขุดล่ออยู่นะ...

    ประวัติกรมสรรพาวุธในอดีต ลองตามไปอ่านดูครับว่า ศาลวังหน้ามีมาตั้งแต่สมัยใด ปี พ.ศ.ใด จนเป็นศาลวังหน้าทุกวันนี้ มีหลักฐานที่ไม่ชัดแจ้ง เนื่องจากเหตุไฟไหม้ จนย้ายมาที่ถนนเศรษฐศิริ จนสถิตย์ถาวรเฉพาะที่นี่ก็ราว ๘๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งหากนับถึงปีพ.ศ. ๒๔๔๕ ก็มีอายุถึง ๑๑๐ ปีแล้วเป็นอย่างน้อย นายทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะกรมสรรพาวุธทหารบกล้วนมีศรัทธาต่อกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์ และพระโลกอุดรมาหลายชั่วคนแล้ว ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ และวงศ์วานย่อมสามารถบอกเล่าความเป็นมาของศาลวังหน้าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ความชัดเจนในความสัมพันธ์ของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ร.๔ และ ร.๕ เป็นที่ชัดแจ้งอยู่แล้วครับ แต่ที่กำลังกล่าวกันคือ ๓ พระองค์แรก หาก ไม่เกี่ยวข้องกันเหตุใดเจ้ากรมสรรพาวุธตั้งแต่ท่านแรกคือ พระยาสโมสรสรรพการ จนเวลานี้จึงยังแสดงพระนามของกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์ไว้ในที่เดียวกัน พร้อมกับประดิษฐานพระบูชาพระโลกอุดรไว้ภายในศาลวังหน้า...
    http://www.rta.mi.th/tec-div-ord/pdf...A%E0%B8%81.pdf

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>
    หากนำศาลวังหน้ามาอธิบาย

    หากเป็นสำนวน ต้องบอกว่า หลักฐานอ่อนมาก เหมือนกับการจับพลังนั่นแหละ

    เพราะว่า ศาลที่ตั้งขึ้นตั้งแต่แรก ต้องมีหลักฐานการบันทึกไว้ว่า ตั้งขึ้นเพื่ออะไร ในแต่ละปี ในแต่ละช่วง มีใครเป็นผู้ดูแล ความเชื่อของผู้ดูแลแต่ละคน เชื่ออย่างไร เชื่ออะไร ยังอีกทั้งผู้ที่มาไหว้สักการะที่ศาลวังหน้าอีกว่า ผู้ที่มาไหว้ มีความเชื่ออย่างไร เชื่ออะไร ซึ่งอาจจะนำหลายๆสิ่งมาไว้ที่ศาลวังหน้า

    ยังต้องมองไปถึงนิสัยของคนไทยบางประเภท หากผู้ที่มีอำนาจ นำสิ่งของหรือรูปภาพหรือวัตถุมงคลมาไว้ที่วังหน้า ผู้ที่ดูแล คงต้องยินยอมแน่นอน ในบางอย่าง ถึงแม้ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ แต่มีความสนิทชิดเชื้อกับผู้ดูแล ก็สามารถนำมาไว้ที่ศาลวังหน้าได้

    ต้องนำบันทึกและรูปถ่ายในทุกๆแง่มุม ตั้งแต่การตั้งศาลวังหน้าในวันแรก จนถึงวันนี้ว่า มีอะไรในศาลวังหน้าเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมขึ้นมาบ้าง เพิ่มขึ้นเนื่องจากสาเหตุอะไร เพิ่มขึ้นเพราะอะไร เพิ่มขึ้นเมื่อไหร่ จะได้ทราบว่า เพราะอะไร เพราะเหตุใด ทำไม ถึงมีเรื่องราวของอุปราชวังหน้า ทั้ง 5 พระองค์ในสมัยรัตนโกสินทร์ และ เรื่องราวของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร มาอยู่รวมกันในสถานที่แห่งนี้

    เป็นไปได้หรือไม่ จะมีผู้รู้(ถึงแม้จะรู้มากหรือรู้น้อยก็ตาม)นำรูปหลวงปู่อิเกสาโร มาไว้ที่วังหน้า เนื่องจากเป็นพระอาจารย์ของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ?????

    แตกต่างไม่แตกแยก

    โมทนา
    sithiphong
    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    เรียน ท่านผู้อ่าน

    ไม่ว่าจะเป็นข้อความของผมก็ดี ของคุณเพชรก็ดี ของคุณnongnoooก็ดี หรือพี่สันติก็ดี

    ที่มีการถกเถียงกัน ถึงแม้ในบางครั้งดูเหมือนเถียงกันมาก

    อยากให้ท่านผู้อ่านรับทราบไว้ว่า เราชาวชมรมพระวังหน้า ไม่ได้ทะเลาะกันเอง

    เพียงนำเสนอข้อมูลให้อ่าน แล้วต้องรู้จักการวิเคราะห์ในข้อมูลต่างๆ

    จะเชื่อหรือไม่ เชื่ออย่างไร หรือจะไม่เชื่อ เป็นสิทธิของตัวท่านผู้อ่านเอง

    เรื่องนึงที่ผมเองก็ย้ำมาโดยตลอด "ของจริงต้องพิสูจน์ได้"

    แต่จะพิสูจน์ได้อย่างไร ได้เมื่อไหร่ ได้เพราะอะไร ได้ด้วยวิธีใด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเองครับ


    โมทนา


    .
     
  5. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    [​IMG] นี่นะกลับไปอ่านที่ผ่านมาเห็น ชอบ ก็นำมาลงใหม่ให้อ่าน ขอบคุณเจ้าของเดิมที่ทำไว้ สั่งพริท์เก็บติดตัวไว้เตือนตัวเอง ให้รู้ตัวเอง เห็นตั้งแต่ตอนบวชเมื่อปี๑๙ที่วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร ในตอนนั้นก่อนที่จะบวช เพื่อนๆๆบอกว่า"""มึงนี่ไอ้รั้นมันเรียกพี่นะ"""แต่เดี๋ยวนี้ปล่อยวางเพราะ """"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม""""ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม""""ทุกคนหนีไม่พ้นกรรม""""ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม และทุกคนย่อมอยู่ภายใต้"""""""" กฏแห่งกรรม """""""เนื่องจากผู้เขียนเป็นเพียงนักศึกษาที่ยังไม่รู้จริงยังไม่แตกฉานในพระพิมพ์ต่างๆฉนั้นการที่ผู้เขียนนำเสนอแนวคิดต่างๆที่อยู่ในกระทู้"พระวังหน้า.."นี้ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และไม่ควรนำไปอ้างอิง (จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง) ด้วยเหตุผลเดียวกัน ความเข้าใจและความคิดเห็น ในความรู้พระวังหน้า วังหลวง ของผู้เขียนในอนาคต อาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับข้อความที่ปรากฎในกระทู้ "พระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก.." นี้ก็เป็นได้
    ราคาที่เค้ากำหนดกับคุณค่าย่อมแตกต่างกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2012
  6. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    ธรรม
    ที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    เล่มที่ ๖
    พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
    รวบรวมโดย : พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]นี่คืออีกบทความที่ดีๆนำมาให้อ่านกันในวันหยุดคงจะให้ข้อคิดกันบ้าง ไปเห็นมาก็ขออนุญาตนำมาเผยแผ่ต่อ และไม่มีคำว่า ""สงวนสิทธิ์"""
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2012
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พื้นที่ของศาลวังหน้าเดิมตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล(ปัจจุบันคือที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ความตามเอกสารแนบข้างต้นครับ ผมเพียงนำข้อความบางตอนที่กล่าวถึงศาลเทพารักษ์ กรมพระราชวังบวรฯ สถานมงคล(ศาลเดิม) มากล่าวไว้เท่านั้น การสืบค้นของผมทำได้เพียงเท่านี้ ความผิดพลาดจากความไม่รู้ได้ถูกกำหนดให้ยอมรับความผิดพลาดได้ในระดับ ๐.๐๐๐๑% ...

    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ ได้มีพระราชบัญญัติโอนที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน บริเวณคลังแสง ตำบล ท่าพระจันทร์ อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม พ[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ ให้แก่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และการเมือง ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๑๓๖๓ เล่มที่ ๕๓ ตอนที่ ๖๑ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ เนื่องจากในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรด ฯ ให้ที่ดิน บริเวณ ที่ตั้งของคลังแสงในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]([/FONT][/FONT]วังหน้า[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]) [/FONT][/FONT]ซึ่ งมีเนื ้อที่ประมาณ ๗ ไร่ ๑ งาน เป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดิน [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]55 [/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]([/FONT][/FONT]คลังแสงดังกล่าวเคยเป็นคลังเก็บอาวุธของกรมแสงสรรพาวุธ ตั้งแต่ปี ๒๔๔๕[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]) [/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][​IMG][/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]

    ต่อมา [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]พลตรีหลวงประกิตยุทธสมบัติ ( [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ปลิก ขิตตะสังคะ) ขอเคลื่อนย้ายศาลเทพารักษ์ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเขตพระราชฐานของกรมพระราชวังบวรฯมาตั้งไว้ในบริเวณหน่วยงานคลังแสงทหารบก ปัจจุบันเป็นกองคลัง[/FONT][/FONT]ยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ถนนเศรษฐศิริ กรุงเทพฯ โดยมี พลตรี หลวงประกิจ ยุทธสมบัติ เป็นเจ้าพิธี [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]อาจารย์บุญมี เผือกเสน่ห์ [/FONT][/FONT]เจ้าพนักงานภูษามาลา เป็นผู้กระทำพิธีอัญเชิญ และยังคงตั้งอยู่จนทุกวันนี้ [/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC] ​
    [/FONT][/FONT]
    [/FONT]
     
  8. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่า ...เหนื่อยหนักเมื่อคืนกลับมาพัก เลยอดมาหนุกๆกับลุงๆ เลยฮับ บอกมากไปพูดหลายครั้งก็ไม่ใช่วิสัยครับ เรากำลังคุยกันเรื่องการเผื่อใจสำหรับข้อมูลต่างๆไว้บ้างครับ ใครไม่เคยเจอไม่เคยพบปัญหาก็คงไม่มีประสบการณ์ก็คงยากเรื่องเหล่านี้ครับ เมื่อวานผมก็ได้คุยกับ ลุง อ.เพชร เช่น ทำไมตั้งแต่ ผมผ่าน อายุ20ปีมา หลังจากนั้นผมซื้อประกัน รถยนต์ชั้นหนึ่งมาโดย ตลอด จนถึงปัจจุบัน จ่ายเบี้ยปีล่ะกว่า 3หมื่นบาท แม้จะใช้เพียง เสาร์อาทิตย์ ลองคิดดูครับจนถึงปัจจุบัน ผมเสีย ค่าเบี้ย ต้องมีเกือบล้านบาท คำตอบมันอยู่ที่ประสบการณ์ คุณเคยเจอมั้ย การเผื่อทั้งใจและกาย เหมือนมีผู้ใหญ่แนะนำสั่งสอนไว้ คิดเผื่อในแง่ที่เลวร้ายไว้ที่สุด ถ้ามันเกิดเราจะเตรียมตัวรับได้และแก้ไขได้ทัน หากไม่เกิดมันย่อมมีผลดีกับเรา เช่นกันหลักฐานที่เราพบ ประวัติศาสตร์ที่เราได้อ่าน หรือที่เราเรียน แต่ยังเด็ก โตขึ้นมา มาบางครั้งเรายังต้องเปลี่ยนเนื่องจากพบหลักฐานใหม่ๆมาหัก ล้างกัน ผมยกตัวอย่างที่ยังถกเถียงกันไม่จบ เช่นเด็กๆเรามักจดจำว่า พระนเรศวรมมหาราช ได้ชนช้างกับพระมหาอุปราชา และได้สร้างอนุสรณ์ไว้ที่ บริเวณ หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีเจดีย์ยุทธหัตถี ประดิษฐ์ฐานอยู่ ถึงปัจจุบัน แต่เมื่อเร็วๆนี้กลับพบหลักฐานบางอย่างว่า อาจจะไม่ใช่นะมีนักโบราณคดี บางท่านได้พบหลักฐานว่า อาจจะเป็นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรีมากกว่า นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆครับ หรืออย่างประวัติศาสตร์ของไทย ที่เราเรียนมา ว่าเรารักสงบถูกพม่ารุกราน แต่กลับกันเหมือนลุงป๋าว่า เหรียญมีสองด้าน ประวัติศาสตร์ของพม่ากลับบอก เราไทยเป็นฝ่ายรุกราน เขาก่อนครับ สรุปคือมันไม่มีอะไรที่แน่นอนและถูกต้อง 100% หรอกครับ มันแค่ถูกใช้อ้าอิง ณ. เวลาหนึ่งเท่านั้นครับ
     
  9. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    เอาไว้สงกรานต์ปีนี้ อาจจะบอกวิธีการสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดท่านให้ทราบกัน ยังไม่มีที่ไหนเผยแพร่ เป็นอะไรที่ธรรมดา และง่ายๆ ที่หลวงปู่ทวดท่านถือเอาความง่ายเข้าไว้ และสบายๆ แต่ถูกต้องตามหลักการ ที่บอกว่าอาจจะบอกในวันสงกรานต์ ก็เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ทวดท่าน ขอดูเหตุการณ์กันไปก่อน..

    ให้สังเกตุว่า พระพิมพ์นี้กับพระบูชาหลวงปู่ทวดที่วัดแคองค์นี้มีความคล้ายคลึงกันยังไง ภาพพระบูชาองค์นี้ ผมตั้งจิตขอขมาหลวงปู่ท่าน แล้วขอถ่ายภาพเอาไว้ แล้วนำไปพิมพ์เป็นภาพถ่ายขนาด4P มอบให้ญาณลาภีหลวงปู่ได้แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหากัน เมื่อครั้งที่"หลวงปู่"ท่านเสด็จไปที่วัด ก็เพราะมีนิมิตให้นำกลับมาซ่อมแซม แถมยังบอกน้ำหนักของพระบูชาองค์นี้ได้เป๊ะชนิดไม่คลาดเคลื่อนว่ากี่กิโลกี่ขีด(สั่งให้นำตาชั่งมาชั่งให้ดู) ..

    และพิเศษกว่านั้น..พระบูชาองค์นี้ หลวงปู่ท่านก็ได้อนุญาตให้ยกขึ้นบนศีรษะแล้วให้อธิษฐานจิตด้วย... ..<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET> <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูป</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET>
    ********มีท่านใดที่แจ้งไว้ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ วันไหน นี่ก็ใกล้วันแล้วนะ รู้นะว่าไม่ลืม บอกวิธีทำบุญให้คนอื่นนะได้บุญ อิ่มบุญ ชิมิ ชิมิ*******
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2012
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ครั้งนั้นพลตรี หลวงประกิจ ยุทธสมบัติ เป็นเจ้าพิธี [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]อาจารย์บุญมี เผือกเสน่ห์ [/FONT][/FONT]เจ้าพนักงานภูษามาลา เป็นผู้กระทำพิธีอัญเชิญดวงพระวิญญาณของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ยุครัตนโกสินทร์ทั้ง ๕ พระองค์เสด็จสถิตย์ยังศาลเทพารักษ์แห่งนี้ การเข้าไปทำกิจอันใดรวมทั้งการนำรูปหล่อใดๆไปตั้งภายในศาลเทพารักษ์ซึ่งเป็นของหลวง อย่าเข้าใจว่าสามารถจะกระทำแบบสุ่ม๔สุ่ม๕กันได้ง่ายๆ ขอบอก คำขอใดเกี่ยวกับการขออนุญาตนำรูปหล่อไปประดิษฐานภายในคงต้องไปสอบถามกับเจ้ากรมสรรพาวุธเพื่อขอดูหลักฐานย้อนหลังกันนะครับ เหล่านี้ก็อยู่ใน ๐.๐๐๐๑% แล้วเช่นกัน ผมไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์อะไรเพิ่มเติม เพราะอะไร เพราะผมได้ทำเต็มที่ นำหลักฐานมาให้ชมกันเต็มที่แล้ว และเผื่อความผิดพลาดเอาไว้แล้วเช่นกันในการเผยแพร่ความรู้นี้ เป็นหน้าที่ของผู้รับรองผล ๑๐๐% ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะที่ต้องพิสูจน์ครับ เพราะไม่ได้เผื่อความผิดพลาดเอาไว้นั่นเอง...


    นอกเหนือจากนี้เป็นหลักฐานจากบันทึกของพระอริยะเจ้าองค์สำคัญ ที่ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเรื่องที่เรากำลังมีวิวาทะต่อกันนี้ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยให้ทราบในกระทู้พระวังหน้า...นี้เท่านั้นครับ

    เนื่องจากผู้เขียนเป็นเพียงนักศึกษาที่ยังไม่รู้จริงยังไม่แตกฉานในพระพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์กับพระโลกอุดร ฉนั้นการที่ผู้เขียนนำเสนอแนวคิดต่างๆที่อยู่ในกระทู้"พระวังหน้า.."นี้ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และไม่ควรนำไปอ้างอิง (จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง) ด้วยเหตุผลเดียวกัน ความเข้าใจ และความคิดเห็นในความรู้พระวังหน้า วังหลวง เรื่องราวความสัมพันธ์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์กับพระโลกอุดร ของผู้เขียนในอนาคต อาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับข้อความที่ปรากฎในกระทู้ "พระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก.." นี้ก็เป็นได้
    :::เพชร:::
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2012
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผู้อ่านลองพิจารณาข้อความอ้างอิง ๒ ข้อความนี้เอานะครับ ว่าต่างกันอย่างไร

    post นี้มีความจำเป็นต้องให้ทุกท่านที่ผ่านเข้ามาด้วยบังเอิญ หรือเจตนาก็ดี ได้เห็นว่า ข้อความที่ผม post ไว้เลขที่ 50741 และข้อความที่ลุงหนุ่มน้อย post เอาไว้ที่ 50742 มีข้อผิดพลาดของการอ้างอิงเอาไว้อยู่ ๑ แห่งครับ

    ๑) post ที่ 50741 ผมได้บันทึกเอาไว้เมื่อวันที่ 8 เมษยายน 2555 เวลา 10.36 PM และไม่มีการแก้ไขใดๆหลังเวลานี้อีกแล้ว

    ส่วนข้อความ post ที่ 50742 ของลุงหนุ่มได้อ้างอิงข้อความเดิมของผมก่อนหน้าที่ที่ผมลบออก เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2555 เวลา 11.13 PM เนื่องจากผมได้กลับไปอ่านทบทวนดูพบว่า มีข้อผิดพลาดในข้อ ๓) เนื่องจากลุงหนุ่มได้บอกขอบเขตเอาไว้เพียง "ยุครัตนโกสินทร์" แล้ว ผมจึงจำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขประหนึ่งทำใหม่ โดยยกเลิกของเดิมออก ดังนั้นลุงหนุ่มจึงได้อ้างอิงของเดิมที่ผมลบข้อความทิ้งไป

    ๒) ผมก็ได้ให้เวลาพอสมควรแล้วกับลุงหนุ่มมากกว่า 12 ช.ม. ในการที่ลุงหนุ่มจะเข้าไปแก้ไขข้อความอ้างอิงของลุงหนุ่มเองใน post ที่ 50742 ให้เป็นไปตาม post ที่ 50741 ของผม ที่มีเพียง ๒ ประเด็น แต่ลุงยกมา ๓ ประเด็น และยิ่งลุงไปกดอ้างอิงหลายๆครั้ง ความผิดพลาดเหล่านี้ ก็ยิ่งเกิดมากขึ้นๆ วันหนึ่งความจริงปรากฎขึ้นมาว่าไม่ได้เป็นตามที่ลุงให้ความเห็นเอาไว้ ลุงอาจจะต้องใช้เวลาทั้งปี หรือทั้งชีวิตในการเดินทางไปแก้ไขข้อความที่ผิดพลาดทั้งหมด ตามสัจจธรรมที่ว่า ทำมาก ผิดมาก ไม่ทำไม่ผิดเลย....

    และนี่เป็นเพียงประเด็นหนึ่งของ ๐.๐๐๐๑% ที่ลุงได้กระทำลงไปด้วยความไม่รอบคอบยังไงละครับ ในเมื่อลุงจะเอา ๑๐๐% ก็จะขอดูว่า ลุงจะหาความสุขได้ยังไง

    มาดูกันครับว่าผมยอมเสีย ๐.๐๐๐๑% แลกกับความสุข ได้กินอิ่ม+นอนหลับ+ดูหนัง+ฟังเพลง+พูดคุย+อ่านหนังสือ+ปิดโอกาสเผยแพร่ความรู้ผิดๆอย่างแน่นอน ๙๙.๙๙๙๙% หากผิดพลาดก็บอกแล้วไง ๐.๐๐๐๑%

    แต่หากจะเอาร้อย% ผิดพลาดไม่ได้ครับ ขอบอก!!!
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    post นี้เป็น post เดิมของผมเมื่อหลายเดือนก่อน ผม post เอาไว้ว่า ....

    สงกรานต์ปีนี้ อาจจะบอกวิธีการสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดท่านให้ทราบกัน ยังไม่มีที่ไหนเผยแพร่

    ข้อความเดิม ผมจำได้ว่า ผม highlight สีแดง เอาไว้ด้วย ไม่ได้ไปแก้ไขอะไรในภายหลัง ให้ดูประหนึ่งว่า จะสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้อย่างลงตัวในวันนี้ ศิลปะการเขียนต้องเขียนให้ตัวเองไม่รู้สึกผูกพันกับตัวเองมากจนเกินไป ไม่ทำให้ตนเองทำอะไรไม่สะดวก หรืออึดอัด เช่นอาจจะอยู่ในสภาวการณ์ความไม่พร้อมของอารมณ์ แต่ก็ยังคงความรู้ ความจริงใจในแบบของตนเอาไว้ หากวันสงกรานต์ปีนี้มาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ผมไม่เผยแพร่ หรือบอกวิธีสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดให้ ผมก็ไม่ผิดครับ เพราะผมเพียงพูดว่า "อาจจะ" ไม่ได้เขียนว่า "จะ" แบบนี้ผูกพันครับ ไม่ post ก็ถือว่าผิดสัจจะ ผิดสัญญา ..

    น่าจะเป็นไปตามวาระที่จะไม่ได้ post ครับอย่างแน่นอนในวันสงกรานต์ปีนี้ บอกกันล่วงหน้า เพราะสงกรานต์ปีนี้ติดธุระที่ต่างจังหวัด หากไม่มีคำว่า"อาจจะ" นี่ผมคงแย่แน่ๆ อาจจะต้องดิ้นรน เสียเงิน เสียเวลาหาร้านเนตเข้ามา post ความรู้นี้ อีกอย่างผมไม่มีอารมณ์ที่อยากจะบอกในปีนี้แล้วครับ..หุ..หุ...

    เพราะคำว่า "อาจจะ" คือ ๐.๐๐๐๑% ยังไงละครับ
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมมีความจำเป็นต้องเห็นต่างจากลุงหนุ่มน้อยในบางประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง การรับรองแบบ ๑๐๐(ร้อย)% สาเหตุเพราะ

    ๑) "ใบไม้กำมือเดียว" ใบไม้ในกำมือ เปรียบเสมือนความรู้ในตัวเรา เมื่อเปรียบเทียบกับป่าไม้ทั้งโลก เปรียบเสมือนองค์ความรู้ทั้งหมดที่ควรจะเป็น จะมี จะพึงมี จะพึงเป็น..ยังมีอีกมากที่เรายังไม่รู้ ไอ้ที่รู้อาจจะเพียง๐.๐๐๐๑% ไอ้ที่ไม่รู้กลับเป็น ๙๙.๙๙๙๙%

    ๒) หากการยึดคำรับรองที่ ๑๐๐% มีอัตตาถือมั่นมากจนเกินไป เกินกว่าที่บุคคลทั่วไปจะยอมรับได้ เมื่อยอมรับกันไม่ได้ก็เกิดวิวาทะ บุคคลอื่นๆที่ควรจะมีโอกาสเข้ามาศึกษาหาความรู้ในกระทู้"พระวังหน้าที่ พระโลกอุดรเสก..." ก็ไม่สามารถจะเข้ามาได้ หรือไม่อยากเข้ามา เพราะพูดอะไรที่กระทบกระเทือนใจเจ้าของกระทู้ไปบ้าง เจ้าของกระทู้มักจะชวนท้าสาบาน และล่วงเกินปรามาสไปยังครูบาอาจารย์ของผู้อื่น เราเคารพครูบาอาจารย์ของเราอย่างไร ผู้อื่นเขาก็เคารพในครูบาอาจารย์ของเขาเช่นนั้น ไม่ต่างกันหรอกครับ ไม่ใช่เราอยากกินขี้แล้วไปเข้าใจเอาเองว่า ผู้อื่นก็คงอยากกินขี้เหมือนกันเช่นเรา หรือหากไม่เชื่อฉัน วิธีการคือ ฉันชวนท้าสาบานดีกว่า อย่างนี้มันง่ายเกินไป..

    เรื่องการท้าสาบานให้ต้องคำสัตย์สาบานนี้ ผมมีวิธีการที่ดีกว่านี้เห็นผลใน ๑๕ วัน ไม่ต้องให้ทั้ง ๒ ฝ่าย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรอคอยนานจนเกินไป หรือนานจนเกินกว่าอายุขัยตนเอง และไปพิสูจน์ด้วยลำพังตนเดียวในยมโลก หรือมีอันเป็นไปตามคำสัจ หรือผูกอาฆาตพยาบาทไปภพแล้วภพเล่าอันเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่า

    น หิ เวเรน เวรานิ
    สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
    อเวเรน จ สมฺมนฺติ
    เอส ธมฺโม สนนฺตโน ฯ

    แปลว่า "ในกาลไหน ๆ ในโลกนี้ เวรไม่มีระงับด้วยการจองเวร มีแต่เวรระงับด้วยการไม่จองเวร" ยังไงละครับ หากสนใจก็บอกกล่าวกัน ผมบอกกล่าวกับผู้คนจำนวนมากเรื่องของการสาบานในลักษณะความเชื่อที่ต่างกันนี้ไปมากมาย แต่ไม่เคยเห็นมีผู้ใดซักคนสามารถตอบรับเงื่อนไขของผมได้เลยแม้แต่เพียงผู้เดียว วิธีนี้ไม่เจ็บตัวทั้ง ๒ ฝ่าย ฝ่ายใดทำไม่ได้ก็กลับไปฝึกใหม่ เอาจนได้ และมั่นใจ แล้วนัดพบกันใหม่ ผมเปิดให้โอกาสท้าพิสูจน์ได้ทุกเวลา และตลอดเวลา

    ผมคบหาดูใจกับลุงหนุ่มน้อยมาเป็นเวลาร่วม ๖ ปีแล้ว ทุกครั้งผม"เหลือบดู"ด้วยความเป็นห่วง ไม่เคยเห็นด้วย อย่าว่าแต่จะกดอนุโมทนาเลย นี่ก็เป็นการโชคดีที่ไม่มีปุ่มให้กดอนุโมทนา หรือเผยรายชื่อว่ามีผู้ใดเข้ามาดูกระทู้นี้อยู่บ้าง เป็นอิสระกว่าเก่ามากจริงๆ เราจะเอาตัวเราเองไปผูกพันกับกรรมของชาวบ้านทำไม?? อันนี้ไม่เข้าใจครับ ผมใช้คำว่าเตือนสติ ๓ ครั้งจะดีกว่า มากกว่านั้นเลิกกัน ตามสบายครับ กรรมใครกรรมมัน
    :::เพชร:::
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    พื้นที่ ของศาลวังหน้าเดิมตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในของกรมพระราชวังบวรสถาน มงคล(ปัจจุบันคือที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ความตามเอกสารแนบข้างต้นครับ ผมเพียงนำข้อความบางตอนที่กล่าวถึงศาลเทพารักษ์ กรมพระราชวังบวรฯ สถานมงคล(ศาลเดิม) มากล่าวไว้เท่านั้น การสืบค้นของผมทำได้เพียงเท่านี้ ความผิดพลาดจากความไม่รู้ได้ถูกกำหนดให้ยอมรับความผิดพลาดได้ในระดับ ๐.๐๐๐๑% ...

    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ ได้มีพระราชบัญญัติโอนที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน บริเวณคลังแสง ตำบล ท่าพระจันทร์ อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม พ[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ ให้แก่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และการเมือง ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๑๓๖๓ เล่มที่ ๕๓ ตอนที่ ๖๑ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][/FONT]๒๔๗๙ เนื่องจากในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรด ฯ ให้ที่ดิน บริเวณ ที่ตั้งของคลังแสงในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]([/FONT][/FONT]วังหน้า[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]) [/FONT][/FONT]ซึ่ งมีเนื ้อที่ประมาณ ๗ ไร่ ๑ งาน เป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดิน [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]55 [/FONT][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]([/FONT][/FONT]คลังแสงดังกล่าวเคยเป็นคลังเก็บอาวุธของกรมแสงสรรพาวุธ ตั้งแต่ปี ๒๔๔๕[FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]) [/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][​IMG][/FONT][/FONT]
    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]

    ต่อมา [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]พลตรีหลวงประกิตยุทธสมบัติ ( [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ปลิก ขิตตะสังคะ) ขอเคลื่อนย้ายศาลเทพารักษ์ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเขตพระราชฐานของกรมพระราชวังบวรฯมาตั้งไว้ในบริเวณหน่วยงานคลังแสงทหารบก ปัจจุบันเป็นกองคลัง[/FONT][/FONT]ยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ถนนเศรษฐศิริ กรุงเทพฯ โดยมี พลตรี หลวงประกิจ ยุทธสมบัติ เป็นเจ้าพิธี [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]อาจารย์บุญมี เผือกเสน่ห์ [/FONT][/FONT]เจ้าพนักงานภูษามาลา เป็นผู้กระทำพิธีอัญเชิญ และยังคงตั้งอยู่จนทุกวันนี้ [/FONT][/FONT]

    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]
    [/FONT][/FONT][/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    อ่า ...เหนื่อยหนักเมื่อคืนกลับมาพัก เลยอดมาหนุกๆกับลุงๆ เลยฮับ บอกมากไปพูดหลายครั้งก็ไม่ใช่วิสัยครับ เรากำลังคุยกันเรื่องการเผื่อใจสำหรับข้อมูลต่างๆไว้บ้างครับ ใครไม่เคยเจอไม่เคยพบปัญหาก็คงไม่มีประสบการณ์ก็คงยากเรื่องเหล่านี้ครับ เมื่อวานผมก็ได้คุยกับ ลุง อ.เพชร เช่น ทำไมตั้งแต่ ผมผ่าน อายุ20ปีมา หลังจากนั้นผมซื้อประกัน รถยนต์ชั้นหนึ่งมาโดย ตลอด จนถึงปัจจุบัน จ่ายเบี้ยปีล่ะกว่า 3หมื่นบาท แม้จะใช้เพียง เสาร์อาทิตย์ ลองคิดดูครับจนถึงปัจจุบัน ผมเสีย ค่าเบี้ย ต้องมีเกือบล้านบาท คำตอบมันอยู่ที่ประสบการณ์ คุณเคยเจอมั้ย การเผื่อทั้งใจและกาย เหมือนมีผู้ใหญ่แนะนำสั่งสอนไว้ คิดเผื่อในแง่ที่เลวร้ายไว้ที่สุด ถ้ามันเกิดเราจะเตรียมตัวรับได้และแก้ไขได้ทัน หากไม่เกิดมันย่อมมีผลดีกับเรา เช่นกันหลักฐานที่เราพบ ประวัติศาสตร์ที่เราได้อ่าน หรือที่เราเรียน แต่ยังเด็ก โตขึ้นมา มาบางครั้งเรายังต้องเปลี่ยนเนื่องจากพบหลักฐานใหม่ๆมาหัก ล้างกัน ผมยกตัวอย่างที่ยังถกเถียงกันไม่จบ เช่นเด็กๆเรามักจดจำว่า พระนเรศวรมมหาราช ได้ชนช้างกับพระมหาอุปราชา และได้สร้างอนุสรณ์ไว้ที่ บริเวณ หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีเจดีย์ยุทธหัตถี ประดิษฐ์ฐานอยู่ ถึงปัจจุบัน แต่เมื่อเร็วๆนี้กลับพบหลักฐานบางอย่างว่า อาจจะไม่ใช่นะมีนักโบราณคดี บางท่านได้พบหลักฐานว่า อาจจะเป็นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรีมากกว่า นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆครับ หรืออย่างประวัติศาสตร์ของไทย ที่เราเรียนมา ว่าเรารักสงบถูกพม่ารุกราน แต่กลับกันเหมือนลุงป๋าว่า เหรียญมีสองด้าน ประวัติศาสตร์ของพม่ากลับบอก เราไทยเป็นฝ่ายรุกราน เขาก่อนครับ สรุปคือมันไม่มีอะไรที่แน่นอนและถูกต้อง 100% หรอกครับ มันแค่ถูกใช้อ้าอิง ณ. เวลาหนึ่งเท่านั้นครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ santisayan [​IMG]
    เอาไว้สงกรานต์ปีนี้ อาจจะบอก วิธีการสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดท่านให้ทราบกัน ยังไม่มีที่ไหนเผยแพร่ เป็นอะไรที่ธรรมดา และง่ายๆ ที่หลวงปู่ทวดท่านถือเอาความง่ายเข้าไว้ และสบายๆ แต่ถูกต้องตามหลักการ ที่บอกว่าอาจจะบอกในวันสงกรานต์ ก็เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ทวดท่าน ขอดูเหตุการณ์กันไปก่อน..

    ให้สังเกตุว่า พระพิมพ์นี้กับพระบูชาหลวงปู่ทวดที่วัดแคองค์นี้มีความคล้ายคลึงกันยังไง ภาพพระบูชาองค์นี้ ผมตั้งจิตขอขมาหลวงปู่ท่าน แล้วขอถ่ายภาพเอาไว้ แล้วนำไปพิมพ์เป็นภาพถ่ายขนาด4P มอบให้ญาณลาภีหลวงปู่ได้แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหากัน เมื่อครั้งที่"หลวงปู่"ท่านเสด็จไปที่วัด ก็เพราะมีนิมิตให้นำกลับมาซ่อมแซม แถมยังบอกน้ำหนักของพระบูชาองค์นี้ได้เป๊ะชนิดไม่คลาดเคลื่อนว่ากี่กิโลกี่ ขีด(สั่งให้นำตาชั่งมาชั่งให้ดู) ..

    และพิเศษกว่านั้น..พระบูชาองค์นี้ หลวงปู่ท่านก็ได้อนุญาตให้ยกขึ้นบนศีรษะแล้วให้อธิษฐานจิตด้วย...หุ..หุ..เป็นยังไงน้องปฐม...
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend>[​IMG]
    </fieldset> <fieldset class="fieldset"><legend>รูป</legend>[​IMG]
    </fieldset>
    มี ท่านใดที่แจ้งไว้ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ วันไหน นี่ก็ใกล้วันแล้วนะ รู้นะว่าไม่ลืม บอกวิธีทำบุญให้คนอื่นนะได้บุญ อิ่มบุญ ชิมิ ชิมิ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ครั้งนั้นพลตรี หลวงประกิจ ยุทธสมบัติ เป็นเจ้าพิธี [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]อาจารย์บุญมี เผือกเสน่ห์ [/FONT][/FONT]เจ้า พนักงานภูษามาลา เป็นผู้กระทำพิธีอัญเชิญดวงพระวิญญาณของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ยุครัตนโกสินทร์ทั้ง ๕ พระองค์เสด็จสถิตย์ยังศาลเทพารักษ์แห่งนี้ การ เข้าไปทำกิจอันใดรวมทั้งการนำรูปหล่อใดๆไปตั้งภายในศาลเทพารักษ์ซึ่งเป็นของ หลวง อย่าเข้าใจว่าสามารถจะกระทำแบบสุ่ม๔สุ่ม๕กันได้ง่ายๆ ขอบอก คำขอใดเกี่ยวกับการขออนุญาตนำรูปหล่อไปประดิษฐานภายในคงต้องไปสอบถามกับเจ้ากรมสรรพาวุธเพื่อขอดูหลักฐานย้อนหลังกันนะครับ เหล่านี้ก็อยู่ใน ๐.๐๐๐๑% แล้วเช่นกัน ผม ไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์อะไรเพิ่มเติม เพราะอะไร เพราะผมได้ทำเต็มที่ นำหลักฐานมาให้ชมกันเต็มที่แล้ว และเผื่อความผิดพลาดเอาไว้แล้วเช่นกันในการเผยแพร่ความรู้นี้ เป็นหน้าที่ของผู้รับรองผล ๑๐๐% ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะที่ต้องพิสูจน์ครับ เพราะไม่ได้เผื่อความผิดพลาดเอาไว้นั่นเอง...


    นอก เหนือจากนี้เป็นหลักฐานจากบันทึกของพระอริยะเจ้าองค์สำคัญ ที่ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเรื่องที่เรากำลังมีวิวาทะต่อกันนี้ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยให้ทราบในกระทู้พระวังหน้า...นี้เท่านั้นครับ

    เนื่อง จากผู้เขียนเป็นเพียงนักศึกษาที่ยังไม่รู้จริงยังไม่แตกฉานในพระพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์กับพระโลกอุดร ฉนั้นการที่ผู้เขียนนำเสนอแนวคิดต่างๆที่อยู่ในกระทู้"พระวังหน้า.."นี้ผู้ อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และไม่ควรนำไปอ้างอิง (จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง) ด้วยเหตุผลเดียวกัน ความเข้าใจ และ ความคิดเห็นในความรู้พระวังหน้า วังหลวง เรื่องราวความสัมพันธ์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทั้ง ๕ พระองค์กับพระโลกอุดร ของผู้เขียนในอนาคต อาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับข้อความที่ปรากฎในกระทู้ "พระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก.." นี้ก็เป็นได้
    :::เพชร:::
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ผู้อ่านลองพิจารณาข้อความอ้างอิง ๒ ข้อความนี้เอานะครับ ว่าต่างกันอย่างไร

    post นี้มีความจำเป็นต้องให้ทุกท่านที่ผ่านเข้ามาด้วยบังเอิญ หรือเจตนาก็ดี ได้เห็นว่า ข้อความที่ผม post ไว้เลขที่ 50741 และข้อความที่ลุงหนุ่มน้อย post เอาไว้ที่ 50742 มีข้อผิดพลาดของการอ้างอิงเอาไว้อยู่ ๑ แห่งครับ

    ๑) post ที่ 50741 ผมได้บันทึกเอาไว้เมื่อวันที่ 8 เมษยายน 2555 เวลา 10.36 PM และไม่มีการแก้ไขใดๆหลังเวลานี้อีกแล้ว

    ส่วนข้อความ post ที่ 50742 ของลุงหนุ่มได้อ้างอิงข้อความเดิมของผมก่อนหน้าที่ที่ผมลบออก เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2555 เวลา 11.13 PM เนื่องจากผมได้กลับไปอ่านทบทวนดูพบว่า มีข้อผิดพลาดในข้อ ๓) เนื่องจากลุงหนุ่มได้บอกขอบเขตเอาไว้เพียง "ยุครัตนโกสินทร์" แล้ว ผมจึงจำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขประหนึ่งทำใหม่ โดยยกเลิกของเดิมออก ดังนั้นลุงหนุ่มจึงได้อ้างอิงของเดิมที่ผมลบข้อความทิ้งไป

    ๒) ผมก็ได้ให้เวลาพอสมควรแล้วกับลุงหนุ่มมากกว่า 12 ช.ม. ในการที่ลุงหนุ่มจะเข้าไปแก้ไขข้อความอ้างอิงของลุงหนุ่มเองใน post ที่ 50742 ให้เป็นไปตาม post ที่ 50741 ของผม ที่มีเพียง ๒ ประเด็น แต่ลุงยกมา ๓ ประเด็น และยิ่งลุงไปกดอ้างอิงหลายๆครั้ง ความผิดพลาดเหล่านี้ ก็ยิ่งเกิดมากขึ้นๆ วันหนึ่งความจริงปรากฎขึ้นมาว่าไม่ได้เป็นตามที่ลุงให้ความเห็นเอาไว้ ลุงอาจจะต้องใช้เวลาทั้งปี หรือทั้งชีวิตในการเดินทางไปแก้ไขข้อความที่ผิดพลาดทั้งหมด ตามสัจจธรรมที่ว่า ทำมาก ผิดมาก ไม่ทำไม่ผิดเลย....

    และนี่เป็นเพียงประเด็นหนึ่งของ ๐.๐๐๐๑% ที่ลุงได้กระทำลงไปด้วยความไม่รอบคอบยังไงละครับ ในเมื่อลุงจะเอา ๑๐๐% ก็จะขอดูว่า ลุงจะหาความสุขได้ยังไง

    มาดูกันครับว่าผมยอมเสีย ๐.๐๐๐๑% แลกกับความสุข ได้กินอิ่ม+นอนหลับ+ดูหนัง+ฟังเพลง+พูดคุย+อ่านหนังสือ+ปิดโอกาสเผยแพร่ความรู้ผิดๆอย่างแน่นอน ๙๙.๙๙๙๙% หากผิดพลาดก็บอกแล้วไง ๐.๐๐๐๑%

    แต่หากจะเอาร้อย% ผิดพลาดไม่ได้ครับ ขอบอก!!!
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    post นี้เป็น post เดิมของผมเมื่อหลายเดือนก่อน ผม post เอาไว้ว่า ....

    สงกรานต์ปีนี้ อาจจะบอกวิธีการสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดท่านให้ทราบกัน ยังไม่มีที่ไหนเผยแพร่

    ข้อความเดิม ผมจำได้ว่า ผม highlight สีแดง เอาไว้ด้วย ไม่ได้ไปแก้ไขอะไรในภายหลัง ให้ดูประหนึ่งว่า จะสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้อย่างลงตัวในวันนี้ ศิลปะการเขียนต้องเขียนให้ตัวเองไม่รู้สึกผูกพันกับตัวเองมากจนเกินไป ไม่ทำให้ตนเองทำอะไรไม่สะดวก หรืออึดอัด เช่นอาจจะอยู่ในสภาวการณ์ความไม่พร้อมของอารมณ์ แต่ก็ยังคงความรู้ ความจริงใจในแบบของตนเอาไว้ หากวันสงกรานต์ปีนี้มาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ผมไม่เผยแพร่ หรือบอกวิธีสะเดาะเคราะห์ฉบับของหลวงปู่ทวดให้ ผมก็ไม่ผิดครับ เพราะผมเพียงพูดว่า "อาจจะ" ไม่ได้เขียนว่า "จะ" แบบนี้ผูกพันครับ ไม่ post ก็ถือว่าผิดสัจจะ ผิดสัญญา ..

    น่า จะเป็นไปตามวาระที่จะไม่ได้ post ครับอย่างแน่นอนในวันสงกรานต์ปีนี้ บอกกันล่วงหน้า เพราะสงกรานต์ปีนี้ติดธุระที่ต่างจังหวัด หากไม่มีคำว่า"อาจจะ" นี่ผมคงแย่แน่ๆ อาจจะต้องดิ้นรน เสียเงิน เสียเวลาหาร้านเนตเข้ามา post ความรู้นี้ อีกอย่างผมไม่มีอารมณ์ที่อยากจะบอกในปีนี้แล้วครับ..หุ..หุ...

    เพราะคำว่า "อาจจะ" คือ ๐.๐๐๐๑% ยังไงละครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ผมมีความจำเป็นต้องเห็นต่างจากลุงหนุ่มน้อยในบางประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง การรับรองแบบ ๑๐๐(ร้อย)% สาเหตุเพราะ

    ๑) "ใบไม้กำมือเดียว" ใบไม้ในกำมือ เปรียบเสมือนความรู้ในตัวเรา เมื่อเปรียบเทียบกับป่าไม้ทั้งโลก เปรียบเสมือนองค์ความรู้ทั้งหมดที่ควรจะเป็น จะมี จะพึงมี จะพึงเป็น..ยังมีอีกมากที่เรายังไม่รู้ ไอ้ที่รู้อาจจะเพียง๐.๐๐๐๑% ไอ้ที่ไม่รู้กลับเป็น ๙๙.๙๙๙๙%

    ๒) หากการยึดคำรับรองที่ ๑๐๐% มีอัตตาถือมั่นมากจนเกินไป เกินกว่าที่บุคคลทั่วไปจะยอมรับได้ เมื่อยอมรับกันไม่ได้ก็เกิดวิวาทะ บุคคลอื่นๆที่ควรจะมีโอกาสเข้ามาศึกษาหาความรู้ในกระทู้"พระวังหน้าที่ พระโลกอุดรเสก..." ก็ไม่สามารถจะเข้ามาได้ หรือไม่อยากเข้ามา เพราะพูดอะไรที่กระทบกระเทือนใจเจ้าของกระทู้ไปบ้าง เจ้าของกระทู้มักจะชวนท้าสาบาน และล่วงเกินปรามาสไปยังครูบาอาจารย์ของผู้อื่น เราเคารพครูบาอาจารย์ของเราอย่างไร ผู้อื่นเขาก็เคารพในครูบาอาจารย์ของเขาเช่นนั้น ไม่ต่างกันหรอกครับ ไม่ใช่เราอยากกินขี้แล้วไปเข้าใจเอาเองว่า ผู้อื่นก็คงอยากกินขี้เหมือนกันเช่นเรา หรือหากไม่เชื่อฉัน วิธีการคือ ฉันชวนท้าสาบานดีกว่า อย่างนี้มันง่ายเกินไป..

    เรื่องการท้าสาบานให้ต้องคำสัตย์สาบานนี้ ผมมีวิธีการที่ดีกว่านี้เห็นผลใน ๑๕ วัน ไม่ต้องให้ทั้ง ๒ ฝ่าย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรอคอยนานจนเกินไป หรือนานจนเกินกว่าอายุขัยตนเอง และไปพิสูจน์ด้วยลำพังตนเดียวในยมโลก หรือมีอันเป็นไปตามคำสัจ หรือผูกอาฆาตพยาบาทไปภพแล้วภพเล่าอันเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่า

    น หิ เวเรน เวรานิ
    สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
    อเวเรน จ สมฺมนฺติ
    เอส ธมฺโม สนนฺตโน ฯ

    แปลว่า "ในกาลไหน ๆ ในโลกนี้ เวรไม่มีระงับด้วยการจองเวร มีแต่เวรระงับด้วยการไม่จองเวร" ยังไงละครับ หากสนใจก็บอกกล่าวกัน ผมบอกกล่าวกับผู้คนจำนวนมากเรื่องของการสาบานในลักษณะความเชื่อที่ต่างกันนี้ไปมากมาย แต่ ไม่เคยเห็นมีผู้ใดซักคนสามารถตอบรับเงื่อนไขของผมได้เลยแม้แต่เพียงผู้เดียว วิธีนี้ไม่เจ็บตัวทั้ง ๒ ฝ่าย ฝ่ายใดทำไม่ได้ก็กลับไปฝึกใหม่ เอาจนได้ และมั่นใจ แล้วนัดพบกันใหม่ ผมเปิดให้โอกาสท้าพิสูจน์ได้ทุกเวลา และตลอดเวลา

    ผมคบหาดูใจกับลุงหนุ่มน้อยมาเป็นเวลาร่วม ๖ ปีแล้ว ทุกครั้งผม"เหลือบดู"ด้วยความเป็นห่วง ไม่เคยเห็นด้วย อย่าว่าแต่จะกดอนุโมทนาเลย นี่ก็เป็นการโชคดีที่ไม่มีปุ่มให้กดอนุโมทนา หรือเผยรายชื่อว่ามีผู้ใดเข้ามาดูกระทู้นี้อยู่บ้าง เป็นอิสระกว่าเก่ามากจริงๆ เราจะเอาตัวเราเองไปผูกพันกับกรรมของชาวบ้านทำไม?? อันนี้ไม่เข้าใจครับ ผมใช้คำว่าเตือนสติ ๓ ครั้งจะดีกว่า มากกว่านั้นเลิกกัน ตามสบายครับ กรรมใครกรรมมัน
    :::เพชร:::
    </td> </tr> </tbody></table>
    ในบางเรื่องที่มั่นใจ ก็กล้าบอกให้ทราบ

    แต่ในบางเรื่องที่ไม่มั่นใจ เวลาที่บอก จะบอกเฉพาะข้อมูลที่ทราบเท่านั้น

    ผมคำนึงในเรื่องของการที่บอกเรื่องราวต่างๆ หากบอกไปผิด กรรมในส่วนนั้น ก็กลับมาหาผม หากยิ่งบอกไปผิดมากเท่าไหร่ กรรมที่จะกลับมา จะมากตาม

    ผมกลัว ไม่อยากทำบุญแล้วแถมบาป

    ผมกลัวที่จะโง่ในอนาคต หรือในชาติต่อๆไปครับ

    แต่ผมก็ยังภูมิใจที่มีกัลยาณมิตรที่ดี คอยเตือนเมื่อเพื่อนพลาด คอยประคองตอนเพื่อนจะล้ม คอยพยุงตอนเพื่อนล้ม

    โมทนา

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  16. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    เรื่องต่างๆที่มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระวังหน้า,วังหลวง,วังหลัง หรือพระสมเด็จ หรือเรื่องต่างๆนั้น ผมกล้าบอกได้ว่า ไม่มีใครที่รู้ได้ทุกๆเรื่องแน่นอน อย่างเรื่องพระวังหน้า,วังหลวง,วังหลัง หรือพระสมเด็จ หรือเรื่องต่างๆนั้น ไม่มีใครที่เกิดทันในยุคนั้น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า คนในยุคนี้ที่ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาจะถูกต้องตรงกับความเป็นจริง

    ดังนั้น อย่าทำเป็นลิงที่ถูกผูกเชือกไว้ จะรู้ก็แต่เพียงความยาวของเชือกที่ไปถึง แต่หากเป็นสิ่งที่เชือกยาวไปไม่ถึงหล่ะ หรือองค์ความรู้ที่อยู่ในป่าหล่ะ จะทำอย่างไร

    ผมเองเคยได้รับกลอนอยู่บทหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ผมนำไปคุยกับท่านอาจารย์ประถม ท่านได้ให้ข้อคิดมาหลายๆเรื่อง(แต่ขึ้เกียจพิมพ์ลง) ผมจะนำกลอนบทนั้นนำมาลงให้อ่านกัน แล้วลองพิจารณาดูว่า จริงหรือไม่ อย่างไร ผมเป็นคนที่ชอบคิด ชอบสงสัย ขนาดหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ท่านดุแล้ว แต่ส่วนตัวก็ยังไม่วายที่จะสงสัย มาดูกลอนบทนั้นกัน ผมเองเคยลงมาหลายครั้งแล้วครับ

    รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ<O:p</O:p
    กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย<O:p</O:p
    ไป่เห็นชะเลไกล กลางสมุทร<O:p</O:p
    ชมว่าน้ำบ่อน้อย สุดล้ำลึกเหลือ<O:p</O:p
    (เป็นคำพูดของท่านอาจารย์ประถม อาจสาครที่ท่านสอนผม)
    ******ไปเห็นคำพูดของใครที่เคยโพสไว้ ก็นำมาให้ดูไม่สงวนลิขสิทธิ์ซะด้วย*******
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2012
  17. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    แอบมาอ่านกูรูพระวังหน้าเสวนากัน ต่างคนต่างมีความรู้เด่นไปคนละทางหรือหลายทาง ได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หลังจากอ่านหนังสือ"พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย" วันต่อมาก็ได้รับพระทวารวดี ศิลปะคุปตะ หุ..หุ..ลองชมกันละกัน..

    หนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ เหมือนหนังสือเรียกลูกของหลวงพ่อฤาษีลิงดำชื่อ"ประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค"เลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P3290770.JPG
      P3290770.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.1 KB
      เปิดดู:
      242
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2012
  19. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    ไปที่ชอบที่ชอบเดี๋ยวมา
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อ่า..กุสะลา ธัมมา อกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัสมัง สะมะเย..

    รีบๆกลับมานะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...