วัดนี้ เดินธุดงค์ ในป่า เป็นประจำทุกปี

อยากรู้ว่า.....ที่เค้าว่ากันว่า

วัดนี้ไม่สอนคนไปนิพพาน แต่สอนเพียงส่วนที่เกี่ยวกับบุญเพื่อไปสวรรค์....

เป็นเรื่องจริงหรือป่าว????

 

ผมแค่ออกความเห็นว่าไปกันเยอะมันจะสงบเหรอ แต่คุณพูดเหมือนเป็นศิษ์สำนักนี้ แล้วไม่ต้องบอกนะครับว่าครูบาอาจารย์สายพระป่าชื่ออะไรเดี๋ยวจะเสียอาจารย์

 

ถ้าคุณต้องการเข้าใจในสำนักวัดพระธรรมกายจริง คุณต้องเข้าใจก่อนว่า พุทธภูมิ กับ สาวกภูมิ นี่แตกต่างกันอย่างไร....

 

นี่สิครับของจริงต้องอยู่กับครูบาอาจารย์อย่างน้อยห้าพรรษาให้มีวิชาติดตัวบ้างแล้วค่อยออกธุดงค์ และไปกันไม่เกินสามองค์ ยิ่งมากคนยิ่งวุ่นวาย

 

ผมจำไม่ผิดนะครับ ปกติพระท่านที่จะธุดงค์ได้โดยลำพังควรให้อยู่ศึกษาในอาวาสก่อนอย่างน้อย ๕ พรรษา พอรู้เรื่องและการครองตนแล้วจึงสามารถออกธุดงค์ได้.....ถ้าอยู่ไม่ถึง ท่านกล่าวว่าต้องไปกับพระที่มีอาวุโสคอยดูแล....ไม่มีการฟิกว่า จะต้องไม่เกินสามรูป หรือ กี่รูป...ถ้าหมายเอายุคที่สมเด็จฯท่านยังไม่ปรินิพพาน ไปกันเป็นหมื่นๆ กับพระพุทธเจ้า ไม่ผิดหมดเหรอครับ...

จริงๆเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ระเบียบการปฏิบัติ ที่ควรกระทำ ไม่ใช่เหรอครับ....ไม่มีในพระวินัยนะ...

เอ...คุณอคติหรือเปล่า.....

 

ความวุ่นวายหรือไม่นั้นไม่ได้อยู่ที่จำนวนคนมากหรือน้อยนะ....หากแต่ความวุ่นวายนั้นอยู่ที่ใจต่างหาก.....

ต่อให้ใจฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวก็ฟุ้งซ่าน......ท่านที่ไม่ฟุ้งซ่านแล้ว ต่อให้มีคนอยู่ด้วยเป็นหมื่นเป็นแสนท่านก็ไม่ฟุ้งครับ.....อย่าไปยึดติดกับวิธีการครับ....

ถ้าคุณพอใจว่าพระสายการปฏิบัติแบบหลวงปู่มั่น หรือพระป่า นั้นดี คุณมีศรัทธาในสายการปฏิบัติแบบพระป่า ก็ถือว่าดีแล้วครับ...แต่คุณต้องเข้าใจนะว่าสายการปฏิบัติแบบพระป่า ไม่ใช่ทั้งหมดในพระธรรมวินัยนี้....การที่คุณมีศรัทธาแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน แล้วกล่าวว่าอีกฝ่ายแย่กว่า จริงแล้วมันเป็นเพียงความคิดของคุณเท่านั้นหละนะ...อย่างน้อยผมว่าคุณควรเคารพในพระพุทธเจ้าท่านนะครับ...สิ่งใดท่านไม่บัญญัติ อย่าไปบัญญัติเพิ่มเติมลงไป....คือบางสิ่งบางอย่างคุณยังไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง....

สายหลวงปู่มั่น ท่านก็แบบเอาแบบของหลวงปู่มั่นท่านว่าดี เขาก็เอาตามแบบนั้น....

สายวัดพระธรรมกายพระท่านบวชโครงการ บวชทีท่านบวชกันมากๆ แค่สามเดือนเองครับ ท่านจะให้ไปอยู่ ๕ ปี ค่อยว่ากัน ไม่ต้องธุดงค์มันจะถูกไม(จริงๆ ๕ ปีนี่ไม่บัญญัติด้วยซ้ำ)....แล้วถ้าวัดพระธรรมกายเขาไม่ยึดตามแบบหลวงปู่มั่น เขายึดว่าไม่ผิดพระวินัย อย่างไรก็ไม่ผิดตามแบบของพระพุทธเจ้า....ถามว่าเขาผิดเหรอ...

ถ้าวัดเขาจะผิดมันผิดตรงความเข้าใจของคุณที่คิดว่าธุดงค์ต้องแบบหลวงปู่มั่นเท่านั้นถึงจะถูกอย่างนี้หละครับ.....

 

ปุถุชนนะ ถ้าไม่ชอบเสียอย่าง ต่อให้เขาทำดีแค่ใหนก็หาความผิดเขาได้นั่นหละ....

ดีแค่ใหนก็ไม่เห็นความดีเขา....

ผมว่าบางครั้งลองทำใจให้เป็นกลาง แล้วมองมาดูตนเองว่าเป็นเพราะใจเราหรือเปล่าที่มันลำเอียงเอง อย่างนี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ....

 

ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์ของนางตรึงใจ บูรณสมภพ

ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์ของนางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธาน คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ที่ปรากฏในเว็บไซท์ Manager.co.th และ Nation Channel ดังนี้​

​

1. โครงการธุดงค์ธรรมชัย อัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) จัดขึ้นในโอกาสฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรม เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อให้พุทธบริษัท 4 ปฏิบัติ “ทาน ศีล ภาวนา” และ “ศีล สมาธิ(Meditation) ปัญญา” ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า



2. โครงการธุดงค์ธรรมชัย เป็นโครงการต่อเนื่องจาก โครงการตักบาตรพระ 120,400 รูป ในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ครบ 1 ล้านรูป ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งมาฆบูชา ที่ผ่านมา และเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเป็นเดือนแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี คือ วันที่ 6 เมษายน จึงได้จัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบูรพมหากษัตริยาธิราชและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ระหว่างวันที่ 2-6 เมษายน พ.ศ. 2555



3. การเดินธุดงค์ครั้งนี้ใช้ “เส้นทางอัญเชิญรูปหล่อทองคำ” ไปประดิษฐาน ณ “พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล” วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่ได้จัดตักบาตรพระ 120,400 รูป ฉลองพุทธชยันตีไปแล้ว เป็นการปฏิบัติ “ทาน ศีล ภาวนา” ซึ่งกิจกรรมบุญกุศลเช่นนี้ สามารถจัดได้ทุกที่เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทั้งกรุงเทพมหานครและประเทศไทย



4. การถือธุดงควัตร ... “ธุดงค์” แปลว่า องค์คุณเครื่องกำจัดกิเลส พระสัมมาสัมพทุธเจ้าทรงอนุญาตไว้ 13 ข้อ ภิกษุจะถือปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งก็ได้เพื่อฝึกปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ตนเอง ในครั้งนี้ทางโครงการฯได้กำหนดให้พระธุดงค์ ถือธุดงค์ 2 ข้อ ได้แก่ ข้อที่ 5 คือ ฉันมื้อเดียว และข้อที่ 12 คือ อยู่ในที่พักที่เขาจัดให้โดยไม่เลือก ซึ่งทั้ง 2 ข้อนี้ปฏิบัติได้ทุกที่ ทั้งในเมือง ในบ้าน ในป่า ในวัด แต่ครั้งนี้ปฏิบัติในเส้นทางอัญเชิญฯดังได้กล่าวมาแล้ว



5. ในการเดินธุดงค์ พระธุดงค์ธรรมชัย ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติธรรมที่มาจากทั่วประเทศ ขณะเดินพระธุดงค์ได้ทำสมาธิ สำรวม กาย วาจา ใจ ไปตลอดเส้นทางการเดิน และอธิษฐานจิตให้กรุงเทพฯ และประเทศไทยมีแต่ความสงบร่มเย็น นำความสิริมงคลแก่ประเทศ


6. การเดินธุดงค์ครั้งนี้ เดินตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะในสมัยพุทธกาล เกิดภัยพิบัติที่เมืองเวสาลี ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองจึงอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวก 500 รูป เสด็จมายังเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยระหว่างส่งเสด็จและรับเสด็จ ชาวเมืองได้โปรยดอกไม้หลากสี ตั้งฉัตร ธงทิว รับ-ส่งเสด็จ หลายสิบกิโลเมตร เพื่อถวายการต้อนรับ ในครั้งนี้ประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นประสบมหาอุทกภัย และปีนี้เรากำลังประสบอัคคีภัยในหลายครั้งหลายหน ทั้งไฟไหม้ พลุระเบิด แก๊สระเบิด ฯลฯ พระธุดงค์ท่านเดินทำสมาธิไปเพื่อให้กรุงเทพฯและประเทศไทยสงบสุข และชวนชาวไทยมาโปรยกลีบกุหลาบและดอกไม้หลากสีถวายการต้อนรับพระ ฝึกความเคารพในพระรัตนตรัยและให้มีส่วนแห่งบุญกับพระธุดงค์ฯ เช่นเดียวกับสมัยพุทธกาล ซึ่งทุกวันมีชาวบ้านออกมาต้อนรับพระธุดงค์ฯเป็นจำนวนมาก



7. ด้านการจราจร ทางโครงการฯ ขออภัยในความไม่สะดวก ที่อาจมีบางเส้นทางการจราจรติดขัด หรือชะลอตัวเป็นบางช่วง ทั้งนี้ ทางโครงการฯ ได้ประสานงานไปยัง กองกำกับการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานงานในเรื่องเส้นทางจราจรแล้ว รวมทั้งได้จัดแถลงข่าว เพื่อให้ท่านสื่อมวลชนได้ช่วยประชาสัมพันธ์ 2 ครั้ง คือ วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555 โดยคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องประชุมรัฐสภา และในวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555 โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก กรุงเทพมหานคร และภาคประชาชน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานและแนะนำการใช้เส้นทางเลี่ยงในวันที่ 2-6 เมษายน ดังกล่าวแล้ว




8. โครงการธุดงค์ธรรมชัย ได้รับการสนับสนุนจาก คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน, สำนักนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงวัฒนธรรม, กรุงเทพมหานคร, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก, สหพันธ์ร่วมใจไทยทั้งชาติ, ชมรมพุทธศาสตร์สากล ในอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย และกว่า 40 องค์กรภาคี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพุทธบุชา ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรม, ฟื้นฟูศีลธรรม, ฟื้นฟูจิตใจ สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน, ฟื้นฟูวัฒนธรรมอันดีงามให้สมกับที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก และส่งเสริมสถาบันครอบครัว ให้พ่อแม่ลูกได้มาร่วมทำบุญให้ร่วมกัน และสร้างความสามัคคีของชาวไทย ในการทำกิจกรรมงานบุญร่วมกัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คุณเบญจมาศ 081-4503412, คุณอนุธิดา 080-5571588​

พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส​

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการธุดงค์ธรรมชัยฯ​

2 เมษายน 2555 ​

 

เอาหละ ข้อมูลข้างบนผมเอามาจากเว็บวัดเขา ลองอ่านอย่างใจที่เป็นกลางดูนะครับ....

แล้วดูสินะว่าดีหรือไม่ดี ถามใจตนแค่นี้หละ....

 

ตอบโดยไม่ต้องคิดครับว่ามีส่วนดีน้อยกว่าส่วนเสีย เยอะเลย

 

^-^

ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นเรื่องของคุณแล้วหละ...

 

สาธุ ๆ ๆอนุโมทามิ ..อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย.............
สิ่งที่ตาเห็น(หูได้ยิน กายสัมผัส) อาจจะไม่เป็นอย่างที่ท่านคิด....
มีสองตาได้มองแต่ความผิดผู้อื่น จะมีไว้ทำไม?
มีสองหูไว้ฟังแต่คำนินทา จะมีไว้ทำไม?
มี........................................จะมีไว้ทำไม?
ใคร ๆ ก็มีแนวทางสร้างความดีคนอื่นทำอย่างนั้น เราทำอย่างนี้ จะเอาสิ่งที่ตัวเองทำเป็นบรรทัดฐานทำไม?
ผมก็ไม่ได้เป็นศิษย์วัดนี้แต่ผมเลือกเอาสิ่งดี ๆ ที่วัดนี้มี และเอามา ..อนุโมทนาสาธุ จะได้อะไรกับการ "ดู" แล้วจ้องจะจับผิด จะได้อะไรกับการ "ฟัง" แล้วจ้องจะถือโทษ "ดู" แล้วเฉย ๆ ได้ไหม? "ดู" แล้วยินดีด้วยได้ไหม? ทำไมต้องออกอาการเหมือน... ดูสิ่งใด ฟังอะไรอย่าเอา "โลภ โกรธ หลง" นำได้ไหม เอา "ปัญญา" นำได้ไหม สิ่งใดตรงกับที่เราชอบก็อนุโมทนา สิ่งใดไม่ตรงกับที่ชอบก็ เฉย ๆ ได้ไหม?..
หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระพูดไว้ว่า...ใจที่มันสะสมกิเลสเอาไว้มาก ๆเมื่อไม่มีอะไรกั้นขวาง(หมายถึงพรหมวิหารธรรม 4 มั้ง) กิเลสนั้นก็จะท่วมท้นจนล้นไหลออกมา.."ทางวาจา ทางกาย.."(ขอโทษนะครับ ผมอาจจะเขียนไม่ถูกต้องตามหลวงพ่อเทศน์ แต่ผมจำมาประมาณนี้ครับ) สิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นก็ผ่านไปแล้ว ความขุ่นข้องหมองใจวันนั้นก็ผ่านไปแล้ว ท่านยังจะเอามาขังไว้ในใจอีกหรือครับ..รถ มันก็ติดของมันทุกวัน จะติดอีกสักวันจะเป็นไรไป..ความเดือดร้อนของคนมันก็มีทุก ๆ วันจะมีความเดือดร้อนอีกสักอย่างจะเป็นไรไป..

 

เอางี้ ท่านทั้งหลายล้วนเป็นชาวพุทธมีศาสดาองค์เดียวกันนั่นคือ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าการเดินธุดงค์ในเมืองแล้ว รถราติดขัด คนเมืองบางส่วนเห็นด้วย
บางส่วนเดือดร้อน ทางวัดก้อควรพิจารณาถึงผลดีและผลเสีย
ว่าควรจัดหรือไม่อย่างไรต่อไปในอนาคต ที่จัดแล้วก้อแล้วไป
ต้องยอมรับกันว่า วัดนี้เน้นการทำบุญ เสนาสนะสิ่งก่อสร้างรูปทรงแปลกตา
มีคำสอนที่ออกไปทางบุญนิยม พิธีกรรมอลังการไม่เหมือนวัดไหน
ดังนั้นวัดนี้ควรนำเอาเสียงสะท้อนเหล่านี้ไปพิจารณาบ้างจักเป็นประโยชน์ต่อวัดเอง
และพุทธศาสนาในอนาคต
ศาสนาจะเสื่อมตั้งอยู่ได้นานแค่ไหนหรือไม่ก้ออยู่ที่พุทธบริษัททั้ง 4 นี่แหละครับ
ถามใจท่านดูถามข้อเท็จจริงดู เราก้อจะได้คำตอบเองครับ

 

บ้า แปลว่าขาดสติครับ ไม่ว่าจะบ้าบุญหรือบ้าบาป ศาสนาพุทธสอนให้มีสติครับ และเชื่ออยู่บนศรัทธา โดยใช้หลักกาลามสูตร ผมว่าคุณ Illuminati ต้องนั่นสมาธิสวดมนต์ภาวนาบ้างนะครับ โดยเฉพาะโปรยดอกไม้ให้พระเดินเหยียบน่ะ จะมองว่าสวยงามก็ดูดี จะมองว่าศิวิไลส์เกินงามที่พระพึงมีก็ได้ แต่สิ่งที่ผมได้เรียนรู้และใกล้ชิดกับศาสนาพุทธมาตลอดก็คือพระต้อง สมถะ ครับ

 

พูดด้วยความสัจจริงนะครับ ผมไม่ได้ไปครับ

ที่ผมออกมาโพสเพราะผมเห็นว่า จะด่าทั้งที ทำไมด่าเรื่องแบบนี้ เรื่องทำบุญจะออกมาโพสด่าให้ได้บาปกันทำไม

ผมก็แค่อยากจะเตื่อนว่า เบาๆหน่อยครับคนพุธแท้ๆด่ากันได้ขนาดนั้นเลย จะหลวงพ่อที่ท่านเผาพระพุทธรูปผมก็ไม่ด่าครับ
เพราะท่านไม่ได้ผิดไปทั้งหมด และก็ไม่ได้ถูกไปทั้งหมดในกิริยาท่าทางที่ดูไม่งาม คนอย่างเราก็ไม่มีสิทธิด่าหรือตัดสินอะไร เพียงฟังเค้าตีข่าว


ผมแค่มองต่าง ไม่ตามกระแส อะไรที่ดูว่าดีผมก็ว่าดีครับ

เรื่องว่าพระใส่กางเกง ท่านเห็นว่าพระพุทธรูปใส่กางเกง ผมก็แค่โพสให้ท่านเห็นว่าพระพุทธรูปจะมองว่าใส่กางเกงก็ได้ถ้าอยากให้เห็นไปตามนั้น
หรือว่าท่านใส่จริงตามที่ทรงเครื่อง แล้วท่านเคยยกไห้วมั้ยครับภาพพระที่ผมโพส ท่านก็คงใส่กางเกงเหมือนกัน

อย่างที่ผมบอกครับผมเด็กอนุบาล รู้แบบเด็กๆก็มองก็เห็นแบบเด็กๆ ไม่อาจไปเทียบกับท่านได้

แล้วท่านจะเอาอะไรกับเด็กอย่างผม

ผมอยากโพสผมก็โสพ ท่านอยากจับผิดท่านก็มาบอกว่าท่านจับผิดอะไร ตามที่ท่านได้โพส พระใส่กางเกง

ผมก็เลยมองแบบท่าน ผมก็เห็นเหมือนท่าน และถามว่าแบบนี้ใส่กางเกงมั้ยครับ ผมก็แค่มองแบบเดียวกับที่ท่านมอง

 

ผมเห็น และรับรู้ได้ ในเจตนาที่ดีงามของท่านครับ แต่ขออภัยที่ต้องติงนิดหนึ่งว่า บางครั้ง การป้องปรามบางอย่าง คำพูดหลายๆ อย่าง อาจจะต้องกลั่นกรองให้ดี ไม่งั้นอาจจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีได้ครับ คำพูดที่ถูกต้อง แต่ออกมาในแนวยืนกราน หลายท่านจะมองว่าเป็นความเห็นที่เจือด้วยอัตตา ถึงแม้จะมีพื้นฐานจากความหวังดี แต่อาจเป็นการสร้างกรรม ต่อกรรมกันได้ครับผม

 

สิ่งที่ผมได้บอกไปนั้นเป็นแค่วิธีปฏิบัติของพระป่า แต่คุณมาว่าเป็นการบัญญัติเพิ่ม และครูบาอาจารย์ก็ไม่เคยบอกว่านี่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ เป็นเพียงวิธีปฏิบัติของพระป่า ก็วัดของคุณทำให้ดีเหมือนเขาไม่ได้เลยมาว่าเขาว่าไปบัญญัติเพิ่มเติม ไอ้เงินเยอะๆยิ่งได้สวรรค์สูงๆ ไม่ทราบใครบัญญัติเพิ่มเติมกันแน่ แต่ผมก็พอเข้าใจนะว่าสมัยนี้อะไรๆก็ต้องเป็นเงินเป็นทอง

 

ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันเป็นพระวินัยนี่ครับ อย่าเบี่ยงเบน อย่ากล่าวตู่ครับ ผมความรู้น้อยครับและยังเป็นปุถุชน แล้วผมก็ยังอยากรู้เรื่องสมัยพุทธกาลที่ว่าไปกันเป็นหมื่นๆไปกันยังไง ที่ไหน หมายเอาเรื่องไปธุดงค์นะครับไว้ประดับความรู้

 

นี่คุณ ผมไปบอกที่ใหนว่าของหลวงปู่มั่นไม่ดีนี่นะ...ผมว่าคุณอ่านดีๆอีกทีไม....

วัดพระธรรมกาย ไม่ใช่วัดของผมคนเดียวครับ...เป็นวัดของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก....

 

ดีแล้วครับ...ถ้ายังรู้น้อยอยู่ก็พยายามศึกษามากๆนะ...จะได้รู้มากๆขึ้นนะครับ...

พระพุทธเจ้าท่านเสด็จที่ใหนท่านก็เดินหมดหละครับ ท่านไม่ได้นั่งเครื่องบิน นั่งรถเมย์อย่างสมัยนี้หลอกนะ...

ธุดงค์วัตร คือข้อปฏิบัติครับ ไม่ได้หมายถึงลักษณะการแบกกรด ถือหม้อน้ำแล้วเดินเข้าป่า เท่านั้นถึงเรียกธุดงค์ ถ้าคิดอย่างนี้เข้าใจผิดครับ....