เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

อันนี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ อนุโมทนาสาธุฯ

 

พิมพ์อื่นผมขอสละสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นลูกอมบรอนซ์ ผมขออนุญาิตร่วมวงเสวนาด้วยได้หรือเปล่าครับ เห็นแล้วชอบจริง ๆ

 

รอด้วยครับอ.แก้วสว่าง เผื่อบุญกุศลผมมีพอ

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ.. (^_^)

 

วันนี้วันพระและเป็นวันแรม๘ค่ำเดือน๖เป็นวันอัฏฐมีบูชา วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า หลังจากเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานได้ ๘ วัน คือหลังจากวันวิสาขบูชาแล้ว ๘ วัน
เมื่อเช้าได้ไปใส่บาตรเพื่อเป็นศิริมงคลและอุทิศให้บรรพบุรุษและผู้มีพระคุณ

 

พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว เป็นที่เสาะแสวงหากันมาก เนื่องจากมีประสบการณ์ แม้แต่พระเกจิอาจารย์แถบฝั่งตะวันออก เมื่อหลวงพ่อแก้วมรณภาพแล้ว มีหลายวัดสร้างพระปิดตากัน จนใครเห็นก็เรียกว่า พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว


ในกระบวนพระปิดตาที่พระคณาจารย์ผู้ได้สร้างเป็นรูป องค์ภควัมบดี ประเภทเนื้อผงคลุกรัก หรือจุ่มรักที่ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออก ก็ต้องยกนิ้วให้กับ พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เมืองชลบุรี ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดพระปิดตาที่ใครๆ ต้องยอมรับว่าของท่านแน่จริงๆ


ในขบวนพระชุด "ห้าขุนศึก" ที่ชาววงการเรียกหากันนี้น มีดังนี้


1. พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
2. พระปิดตาหลวงปู่เจียม วัดกำแพง
3. พระปิดตาหลวงพ่อโต วัดเนินสุทธาวาส
4. พระปิดตาหลวงพ่อครีพ วัดสมถะ
5. พระปิดตาหลวงพ่อภู่ วัดนอก


ซึ่งแต่ละองค์ที่ได้กล่าวนามมานี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองชลบุรี


ถ้าจะพูดถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของ องค์ภควัมบดี ที่หลวงพ่อแก้ว ใช้ในด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ทุกคนต่างยอมรับ ด้วยเหตุนี้พระของท่านในวงการจึงยกย่องให้อยู่ในอันดับหนึ่งของพระปิดตา ประเภทผงคลุกรักหรือจุ่มรัก


เป็นที่น่าเสียดายว่า ชีวประวัติของท่านนั้นลางเลือนเต็มที เพราะไม่มีใครเขียนรวบรวมไว้ ทุกท่านจึงไม่มีโอกาสที่จะได้ทราบประวัติอันแท้จริงของท่าน นอกจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ได้แล่าสืบกันมา แต่ไม่ใช่นิยาย


ปกติข้าพเจ้าได้สนใจเรื่องพระปิดตาของท่าน และได้พยายามค้นคว้าศึกษาชีวประวัติของท่านมาเป็นเวลานาน ได้มีโอกาสสนทนากับผู้เฒ่าผู้แก่ในละแวกนั้น และพระเถรานุเถระ อีกทั้งพระที่อยู่ในเขตเมืองชลบุรีมาเก่าแก่ ได้เล่าถึงความเป็นมาของหลวงพ่อแก้ว พอที่จะรวบรวมเป็นข้อมูลมาให้ทุกท่านได้มีโอกาสศึกษากัน


หนังสือหลายฉบับเขียนกันมาก็มากพอสมควร ส่วนมากจะเขียนว่า ท่านเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด และเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยแท้จริงแล้ว หลวงพ่อแก้วไม่เคยเป็นเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์มาก่อน ท่านเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาเท่านั้น ส่วนที่ว่าเป็นพระอุปัชฌาย์เจ้าอาวาสนั้นคือ หลวงพ่อแก้ว วัดหนองตำลึง ชลบุรี ซึ่งมีพรรษาอ่อนกว่า หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ 20 กว่าปีนั่นเอง

หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ นามเดิมชื่อ แก้ว ต้นสกุล ผุดผาด ถิ่นกำเนิดเป็นชาวเมืองเพชรบุรี มีถิ่นฐานอยู่แถวๆ หลังวัดป้อม เพชรบุรี กล่าวกันว่าชาติสกุลของท่านเคยเป็นเจ้าเมืองเพชรบุรีมาก่อน รูปร่างของท่านสันทัด มีผิวกายดำมะเมื่อม (เพราะอาบว่านยา) ในวัยหนุ่มเป็นคนพูดจริงทำจริง นิสัยนักเลงไม่เกรงกลัวใคร สนใจศึกษาวิชาอาคมมาตั้งแต่วัยหนุ่ม อีกทั้งยังเชี่ยวชาญด้วย ชาวบ้านในละแวกนั้น ต่างศรัทธาเลื่อมใส เมื่อยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาให้ท่านรักษาให้ (เรียกว่าหมอประจำหมู่บ้าน) อีกทั้งท่านยังเป็นอาจารย์สัก ลูกศิษย์ลูกหามากมาย บ้างก็มาขอให้ทำเสน่ห์ยาแฝด บางคนถูกคุณไสยอีกทั้งยาเบื่อยาสั่ง ก็มาให้ท่านช่วยรักษาให้ จนกิตติศัพท์ของท่านโด่งดังไปทั่ว จวบจนอายุท่านเข้าวัยกลางคน คือ อายุประมาณ 40 เศษ ท่านเกิดเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายในชีวิตฆราวาส จึงได้บรรพชาอุปสมบทที่วัดในจังหวัดเพชรบุรี บางท่านก็ว่าบวชที่วัดปากทะเล บางท่านก็ว่าบวชที่วัดพระทรง

ตามข้อมูลสันนิษฐานจากผู้เฒ่าผู้แก่ ได้เล่าสืบกันมาพอเชื่อถือได้ว่า ท่านบวชอยู่วัดพระทรงเพียงไม่กี่พรรษา ก็เกิดความรำคาญที่ไม่ค่อยมีเวลาปฏิบัติ เพราะลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาท่านตอนเป็นฆราวาสต่างไปรบกวนกันทุกวันจนไม่มี เวลาพักผ่อน ท่านจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดปากทะเล และได้มีเวลาว่างจัดสร้างพระขึ้น โดยท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านว่านและสมุนไพรมาก ท่านจึงนำผสมผสานกับผงที่ท่านลงสูตรเก็บไว้ มาสร้างเป็นองค์พระแจกจ่ายแก่ผู้มีศรัทธา หลังจากท่านย้ายไปอยู่วัดปากทะเลไม่นาน ก็มีลูกศิษย์ลูกหาติดตามไปหาท่านอีก นับวันจะทวีมากขึ้น ท่านเจ้าอาวาสเกิดการเขม่นท่านที่เป็นพระลูกวัดแต่มีคนศรัทธามาก แต่เจ้าอาวาสกลับไม่ค่อยมีใครไปหาเท่าไหร่ จึงได้พูดจาเสียดสีอยู่ทุกวัน ท่านก็เกิดการสังเวชสลดใจ จึงตัดสินใจอาศัยเรือชาวประมงข้ามทะเลมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเครือวัลย์ ชลบุรี กล่าวกันว่าในขณะนั้นท่านอายุได้ 60 ปีเศษ และทางวัดเครือวัลย์ในยุคนั้นยังไม่เจริญ ถาวรวัตถุต่างๆ ก็ชำรุดทรุดโทรมลง ท่านได้มาจำพรรษาอยู่อย่างเงียบๆ ปฏิบัติวัปัสสนากรรมฐาน พอออกพรรษาท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปทั่ว

มีเรื่องเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์ไปทางจังหวัดปราจีนบุรี และได้อยู่ศึกษาวิชาอาคมกับ หลวงปู่จีน วัดท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะเป็นทางผ่าน กล่าวกันว่า หลวงพ่อแก้ว มีอายุอ่อนกว่า หลวงปู่จีน 28 ปี พอจะอนุมานได้ดังนี้ หลวงปู่จีนเกิดในระหว่างปี พ.ศ.2357-2440 ส่วนหลวงพ่อแก้ว เกิดในระหว่างปี พ.ศ.2380-2390 ซึ่งตรงกับผู้เฒ่าชาวเมืองชลบุรีได้เล่าว่า ในสมัยที่ หลวงพ่อแก้ว มีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับพระปิดตาของท่าน เป็นยุคที่ พระอุปัชฌาย์ถัน เป็นเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ แต่มีอายุอ่อนกว่าหลวงพ่อแก้วหลายสิบปี เพราะว่าถ้า หลวงพ่อแก้วเกิดในระหว่างปี พ.ศ.2380 ตอนหลวงพ่อถัน เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อแก้วมรณภาพอายุประมาณ 80 กว่า ก็อยู่ระหว่าง พ.ศ.2460-2470 เมื่อคำนวณ พ.ศ. แล้วก็มีความใกล้เคียงกันถึง 95 % ทีเดียว

มูลเหตุที่ชาวเมืองชลบุรี รู้จักหลวงพ่อแก้ว

กล่าวกันว่า ตอนที่หลวงพ่อแก้วมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเครือวัลย์ ชาวเมืองชลบุรีก็ยังไม่สนใจนัก เพียงแต่คิดว่าท่านจะเก็บตัวเงียบอยู่ภายในกุฏิ พอออกพรรษาก็ออกธุดงค์ไปทั่ว พอใกล้จะเข้าพรรษาก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเครือวัลย์ จะมีก็ หลวงปู่เจียม วัดกำแพง ซึ่งวัดอยู่ตรงกันข้าม อ่อนกว่าหลวงพ่อแก้ว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวเมืองชลบุรีนับถือ ท่านมีความสนิทชิดเชื้อกับหลวงพ่อแก้วมาก เรียกว่ายามว่างก็ข้ามไปคุยธรรมะแลกเปลี่ยนกัน "เป็นธรรมดาพระที่มีวาระจิตระดับสูง ท่านย่อมจะเข้าใจกัน ด้วยการส่งกระแสจิดถึงกันตลอดเวลา" ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงสงสัยกันนักหนาว่า หลวงพ่อแก้วท่านมีความสำคัญอย่างไร หลวงปู่เจียมถึงได้ไปหากันเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งได้เกิดเรื่องร่ำลือไปทั่วว่า ลูกศิษย์วัดที่อยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อแก้ว ทำเหตุไปจีบหลานสาวหลวงพ่อถัน และเกิดได้เสียกันจนตั้งท้องขึ้น เมื่อผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงทราบ จึงได้คาดคั้นให้ฝ่ายชายรับเลี้ยง แต่ก็ถูกปฏิเสธ เนื่องจากอ้างว่ายังไม่มีการงานทำ เมื่อตกลงกันไม่ได้ บิดามารดาฝ่ายหญิงจึงนำเรื่องไปปรึกษาหลวงพ่อถัน ซึ่งเมื่อเรียกลูกศิษย์วัดมาสอบแล้วจึงทราบว่า ฝ่ายชายได้นำเอาพระปิดตาของหลวงพ่อแก้ว มาขูดเอาผงผสมอาหารให้ฝ่ายหญิงกิน จนทำให้ฝ่ายหญิงหลงใหลแบบโงหัวไม่ขึ้น หลวงพ่อถันจึงได้เรียกหลวงพ่อแก้วมาต่อว่า และให้ลูกศิษย์วัดรับเลี้ยงดูฝ่ายหญิงไป

เรื่องนี้เป็นที่ร่ำลือไปทั่วเมืองชลบุรี จึงได้มีผู้คนมาขอพระปิดตาของท่าน และได้มีคนนำไปใช้ขูดผงให้ผู้หญิงกิน ต่างประสบความสำเร็จทุกราย บางรายฝ่ายชายก็รับเลี้ยงดู บางรายฝ่ายชายได้ฝ่ายหญิงแล้วก็ทิ้งขว้าง จนหลวงพ่อแก้วได้สาบแช่งไว้ว่า ถ้านำพระของท่านไปใช้แล้วไม่รับเลี้ยงดูฝ่ายหญิงขอให้ผู้นำไปใช้นั้นมีอัน เป็นไป นับแต่นั้นมาใครๆ ก็ไม่กล้าทำอีก

ต่อมาท่านได้เห็นสภาพศาลาการเปรียญของวัดเครือวัลย์มีสภาพทรุดโทรมมาก ท่านจึงได้ดำริกับลูกศิษย์ลูกหาจะสร้างศาลาการเปรียญขึ้นใหม่ ลูกศิษย์และคณะศรัทธาทั้งหลายต่างก็ให้ความสนใจยินดีจะช่วยกันเต็มกำลัง โดยแบ่งออกกันเป็นสองสาย สายหนึ่งจัดหาวัสดุ เช่น ไม้ ฝ่ายหนึ่งจัดหาปัจจัยมาเป็นค่าแรงก่อสร้าง พวกชาวบ้านต่างเกณฑ์กำลังเข้าป่าไปตัดไม้ซุงมาเป็นต้นๆ บรรทุกเกวียนนำมาถวาย ท่านจึงได้แจก พระปิดตาขนาดเล็ก เป็นรูปลอยองค์ใส่ไถ้ ถักด้วยไหม ให้คนละองค์ พระรุ่นนี้ทางเมืองชลบุรีเรียกว่า รุ่นแลกซุง

การสร้างพระของหลวงพ่อแก้ว

ท่านได้ราบรวมผงที่ได้เพียรพยายามลบตามสูตร อันมีผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงสาลิกาหลงรัง เมื่อลบได้จำนวนมาก ท่านจะนำมาปั้นเป็นแท่งๆ เก็บเอาไว้ แล้วออกหาว่ายกายสิทธิ์ต่างๆ อันมียอดรักซ้อน ยอดกาหลง ยอดสวาท ดินโปร่ง และกาฝากรัก นำมาบดเป็นผงผสมสร้าง ในการสร้างพระปิดตาของหลวงพ่อแก้วครั้งแรกท่านมิได้จุ่มรัก เนื้อออกสีขาว ต่อมาเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านเลยสร้างโดยใช้รักน้ำเกลี้ยงผสม และใช้วิธีจุ่มรัก ด้วยเหตุนี้พระของท่านเนื้อจึงออกสีคล้ายกะลามะพร้าว ดำอมน้ำตาล เนื้อละเอียด มีความแห้งสนิท ส่วนเนื้อจุ่มรัก รักจะแห้ง บางองค์ก็ร่อนออกเป็นบางแห่ง ผิวรักจะแห้งตึงไม่ย่น แต่ละพิมพ์ที่นิยมเล่นหากันในวงการ มีพิมพ์หลังแบบ พิมพ์หลังตัน พิมพ์ปั้นลอยองค์(รุ่นแลกซุง) ส่วนปัจจุบันของวัดปากทะเลก็มีคนแสวงหากันมาก ถึงราคาเล่นหาจะถูกกว่าของวัดเครือวัลย์ แต่ก็เป็นขององค์เดียวกันสร้าง แต่พุทธคุณเน้นหนักไปทางคงกระพันชาตรี

พุทธคุณของพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว

ท่านได้สร้างจากผงวิเศษ เมื่อผู้ใดได้ใช้ไปกับสตรีให้กิน สตรีนั้นจะลุ่มหลงเสน่หารักใคร่ในตัวเจ้าของผงที่ให้กิน จนเป็นที่ปรารถนาของชายหนุ่มในสมัยนั้น และมีสตรีเป็นจำนวนมากที่เสียเนื้อเสียตัวให้กับเจ้าของพระเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังใช้ในทางโชคลาภอีกด้วย ใครได้มาจะสังเกตได้ว่าการค้าขายดีขึ้น ถ้าทำราชการเจ้านายเมตตารักใคร่ เลื่อนขั้นให้ทุกปี ในด้านคงกระพันก็มีไม่เบา เพราะมีผู้ประสบมามากมาย ด้วยเหตุนี้ พระปิดตาของท่านจึงเป็นที่เสาะแสวงหากันมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน


คัดลอกจาก : หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดย ชาญกฤษ นิตยสาร "ศิลปะพระเครื่อง" กรกฎาคม 2539

 

ขอบคุณมากครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ

ขอบารมีหลวงปู่ให้ผมเป็นหนึ่งใน 26 นี้ด้วยเถอะครับ ... สาธุ ..

 

อยากได้เม็ดเล็กครับ
แต่สละสิทธิ์ให้พี่ๆที่ยังไม่ได้ดีกว่าครับ

 

ขออนุญาติ save เก็บไว้อ่านนะครับ ...

 

อนุโมทนาครับ....ผมลืมวันเกิดท่านไปเลยจำได้แต่ว่า16ตุลาคมเป็นวันมรณภาพของท่าน
ลูกอมท่านเป็นสิ่งมงคลที่ถ้าไม่ได้จากผู้ที่ไว้ใจได้แล้ว..ผมไม่กล้าบูชาเพราะทำปลอมกันมาก ดูไม่เป็น..แต่ถ้าได้จากศิษย์ที่ศรัทธาจะถือว่าเป็นสิ่งมงคลที่ห้อยคอบูชาได้โดยไม่มีข้อสงสัยในใจ..ถ้ามีโอกาสจะขอร่วมสนุกด้วยนะครับ

 

น่าสนใจมากนะครับ ครั้งที่แล้วพลาดไปอะนะ ขอให้ครั้งนี้ได้บรอนลอก หรือลูกเล็ก ก็เลิศ
ช่วงวันหยุดไปปฏิบัติธรรมสองวัน เลยไม่ได้เข้ามาอ่านเท่าไหร่ ไปเร็วดีจังครับ ผ่านไปหลายหน้าเหมือนกันนะครับ
ขอร่วมทำบุญจีวรด้วยครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังไงครับ ผ่านน้าหรือพี่รักเอ่ย

 

วันก่อนมีโอกาสได้เจอ หลวงพี่เชษ วัดต้นตาล ท่านดูลูกอมให้ ไม่ต้องบอกท่านเลยว่าของที่ใหน แค่ลองถามว่า หลวงพี่ดูลูกอมหน่อยครับ เป็นอย่างไร ท่านเล่นบอกเป็นฉากๆ เลยครับ ว่า ของดี แรงมากๆ มีผงพรายกุมารด้วย แต่จะรู้กันแค่วงใน คนนอกไม่รู้ ต่อไปจะหายาก เก็บรักษาให้ดีๆ นะ ผมฟังแล้ว ก็ อึ้งนิดหน่อยครับ ตรงที่ท่าน บอกมาเป๊ะๆ เลย

 

กราบหลวงปู่ทิม สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง(ถึงตัวจะอยู่ไกลแต่ก็ตามติดกระทู้อยู่ตลอด) พี่รัก พี่เดชา พี่ภูและพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่านครับ สบายดีกันนะครับ
"ท่านเตอร์ คือ เจ้ากรมพิมพ์คะแนน ห้อยทีละ 8 องค์"
จุ๊...จุ๊ ...จุ๊....น้าต๋อยครับ พี่เตอร์บอกว่าอย่าเอ็ดไปเดี๋ยวใครรู้เข้า จะต้องแกะพลาสติกเอาออกมาแจกอีก....น่ะครับ(ก็อีตอนแบ่งเมื่อคราวก่อนเห็นพี่เตอร์บอกว่า.....ให้ใครก็ไม่เห็นมีใครอยากได้กันเลย.....นี่หน่า)ก็เลยจำเป็นต้องเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว.....จบข่าว เสียดายตอนนั้นผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ซะด้วยซิ ไม่อย่างนั้นคงได้มี....ติดไม้...ติดมือ กันมาซักองค์-สององค์บ้างหละครับ

 

ปัจจุบันแขวนพิมพ์เศียรโตอยู่ครับ (น้าต๋อยจัดให้) กราบหลวงปู่ให้คิดดีทำดีให้แก้ไขอุปสรรคต่างๆไปได้

 

อีกซักหน่อยครับของดีสายปราจีนพระปิดตาหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ปราจีนบุรี พิมพ์พวงชมภู่ - 4 พลู องค์นี้ประสบการณ์เห็นกันจะๆเลยครับ ผมและเจ้าของพระไปนั่งกินข้าวที่ร้านข้างทาง
เจ้าของร้านก็เลี้ยงหมาไว้ แกเดินไปใกล้ๆหมามันงับขาแกเลยและสะบัดไปมา เจ้าของร้านบอกแกอยู่นิ่งๆแล้วมาง้างปากหมาออก ปรากฏว่าหมากัดไม่เข้าครับ อันนี้เห็นกับตาเลยครับ

 

ยืนยันเลยครับว่าท่านเตอร์มีพระพิมพ์คะแนนไม่ต่ำกว่า 10 องค์ เยอะสุด 555+ ใครเจอตัวรีบขอด่วน พิมพ์นี้ดีมากขอบอก

 

กราบหลวงปู่ทิมครับ

กระทู้ยังอบอุ่นเช่นเดิมนะครับ....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ...

 

สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง อาจารย์สบายดีนะครับ ขออนุโมทนาบุญกับการแจกลูกอมในวันที่16มิ.ย.นี้ด้วย และถ้ามีโอกาสผมก็ขอร่วมสนุกด้วยเช่นกันนะครับ เผื่อจะได้โชคจาก....หลวงปู่บ้าง....อ่ะ เพราะลูกอมชุดนี้ก็ยังไม่มีเหมือนกัน(อยากได้แบบที่มีทองแปะบ้าง....น่ะครับ)

 

สวัสดีพี่ภู สบายดีนะครับ"ใครเจอตัวรีบขอด่วน พิมพ์นี้ดีมากขอบอก" ผมไปเจอกับพี่เตอร์มาเมื่อวันที่ 8มิ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง ก็ได้คุยถึงพระพิมพ์นี้เช่นกัน แต่ต้องขอบอกว่า "เสียใจด้วยจริงๆครับ" เพราะพี่เตอร์เอากาวตราช้างแปะพระไว้กับกรอบรูปเรียบร้อยแล้ว....อ่ะ แล้วพี่ภูว่า ผมจะกล้าขอพระจาก....พี่เตอร์...เขาไหมเนี่ย555

 

กราบหลวงปู่ครับ
สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆทุกท่าน สบายดีกันทุกท่านนะครับ
วันที่ 16 ทุกท่านคงได้ร่วมกิจกรรมกันอีกรอบ ขอให้ท่านที่ยังไม่เคยได้โชคดีนะครับ