"จิตวิญญาณทั้ง 3 ยุค" จะก้าวข้ามผ่านกาลเวลาไป แตกต่างกันอย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 26 มิถุนายน 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    สวัสดีครับ ผมยังคงลงรายละเอียด
    เรื่อง "ยุคสมัย" ต่อไป เพราะมันมี
    ความสำคัญมาก ที่ท่านอาจต้องทำ
    ความเข้าใจให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก


    ผมขอจัดกลุ่มจิตวิญญาณออกเป็น
    สามกลุ่มเบื้องต้น ก็คือ 1. กลุ่มที่จะ
    หมดสิ้นวาระในยุคของพระพุทธเจ้า
    สมณโคดม (ภาคใน พ.ศ. 5,000)
    ขอเรียกสั้นๆ ว่า "กลุ่มพระโคดม"
    2. กลุ่มที่จะหมดสิ้นวาระในยุคของ
    พระศรีอาริยเมตตรัยองค์สุดท้ายใน
    ภัทรกัปนี้ ขอเรียกสั้นๆ ว่า "กลุ่มพระ
    ศรีอาร์ฯ" และ 3. กลุ่มที่จะหมดสิ้น
    วาระในอนาคตข้างหน้า ขอเรียกสั้นๆ
    ว่า "กลุ่มโลกอนาคต" ก็แล้วกัน


    ซึ่งผมจะอธิบายความแตกต่างต่อไป
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลักษณะและความเป็นไปของจิตวิญญาณ "กลุ่มพระโคดม" มีดังนี้


    คนกลุ่มนี้ จะมีลักษณะ ล้าหลัง, ขาดศักยภาพในการแข่งขัน, สู้กับใคร

    เขาไม่ได้, ห่วยแตก, ปัญญาไม่ดี, ไม่มีพละกำลังจะไปต่อในโลกอนาคต
    เป็นคนที่พระพุทธเจ้าสมณโคดม "ก็ยังไม่เอา" ตั้งแต่แรกที่ท่านยังไม่ดับ
    ขันธ์ฯ ทว่า "เขาไม่ได้เรื่องและไปต่ออีกไม่ได้แล้วจริงๆ" ดังนั้น พวกเขา
    จึงต้อง "เกาะอาศัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม" เป็น "รถไฟขบวนสุดท้าย"
    พวกเขาจะได้รับแต่ "ทุกข์" เพราะการเข้านิพพานแบบพระพุทธเจ้าองค์
    นี้ จะเข้าทาง "ทุกข์" เท่านั้น จึงจะตรงทางได้ ดังนั้น พวกเขาจะเกิดมา
    เป็นชนชั้นล่าง ถูกเล่นงาน, ถูกเอารัดเอาเปรียบ, ไม่ได้รับความยุติธรรม
    และยังไม่อาจจะหนีหรือต่อสู้กับความอยุติธรรมของสังคมได้เลย สุดท้าย
    ก็จะ "ยอมจำนนเพราะทุกข์ทางโลก" แต่พวกเขาก็ชำระหนี้กรรมได้หมด
    ไม่มี "บ่วงผูกมัด" ใด ที่จะถ่วงรั้งห้ามไม่ได้บวชพระ ดังนั้น จึงบวชพระได้
    เมื่อพวกเขาบวชพระแล้ว ก็อยู่เงียบๆ ไม่เด่น ไม่ดัง ไม่ได้เรื่อง อยู่ไปงั้นๆ ก็
    ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครเห็นว่าพวกเขาดีงามอะไร อยู่ได้ไปวันๆ แล้วจึงมีจิต
    ตรงนิพพานได้อย่างแท้จริง โดยมี "บารมีของพระดังๆ" ที่คอยมาเรียกเงิน
    เข้าวัด หล่อเลี้ยงพวกเขาได้ ให้พวกเขาเกาะอาศัยได้มากมาย ซึ่งพระดัง
    เหล่านั้น "ล้วนไม่ได้นิพพานเลยสักคน" เพราะเขาทำบุญบารมีมาก เป็นผู้
    บำเพ็ญบารมี จึงเก่งกล้าสามารถและไปต่อได้อีกในอนาคต ไม่ใช่พวกยอม
    จำนนต่อโลก ต่อธรรม แล้วตรงนิพพานอย่างแท้จริงเลย แต่ก็อยู่ร่วมกันได้<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลักษณะและความเป็นไปของจิตวิญญาณ "กลุ่มโลกอนาคต" มีดังนี้


    คนกลุ่มนี้
    จะตรงกันข้ามกับกลุ่มแรกอย่างสิ้นเชิงเพราะจะเก่งกล้าสามารถ

    พกเอา "บุญบารมีมาเต็มที่" เพื่ออะไร? ก็เพื่อที่จะสร้างบุญบารมีแข่งกันที่
    จะไปในโลกอนาคตข้างหน้าอย่างไรละ ดังนั้น พวกเขาเมื่ออยู่ทางโลก จึง
    เก่งกล้าสามารถ ทำทั้งกรรมดีและชั่ว โดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว เต็มไปหมด เต็ม
    ที่ เต็มกำลัง ไม่ต้องยั้ง ไม่ต้องกลัว เพราะยังไปได้อีกยาวมาก ส่วนพวกอยู่
    ทางธรรม ก็จะเก่งกล้าสามารถ มีพลังพิเศษ ทรงฤทธิ์ ทรงเดช กันเต็มที่จึง
    กลายเป็นพวกมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำอะไรได้เยอะแยะ มีผลงานมากมายและ
    ไม่ได้นิพพานง่ายๆ ด้วย "ยังรับผลบุญ ที่ตนสร้าง ไม่หมด" คนพวกนี้ เป็น
    พวกที่ "ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในยุคนี้" ทีเดียว เพราะขนเอาบุญ
    บารมีมาเต็มกำลัง ไม่แบ่ง ไม่เก็บออม ซ่อนไว้ก็หาไม่เลย ทั้งโลกยังเปิดให้
    พวกเขา "บำเพ็ญบารมีเต็มที่" ไม่มีขวางกั้น เรียกว่าอยากทำอะไร ทำเลย
    ทำกันเต็มไปหมด ไม่ฟังใคร ไม่มีใครห้ามใครละ เลยมีอะไรแปลกๆ ออกมา
    เยอะแยะเต็มไปหมด ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตรงทางบ้าง ไม่ตรงทางบ้าง ไปหมด
    คนกลุ่มนี้ จึงเป็นคนที่โดดเด่นมากในยุคนี้ ได้รับอะไรมากมายในยุคนี้ และ
    กลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกในยุคนี้เลยทีเดียว ทว่า พวกเขา
    จะทำสิ่งที่ "ผิดคู่กับถูก" ไปพร้อมๆ กัน และมัก "ทำตามความคิดฝันของ
    ตนเอง" ไม่ค่อยฟังคำทัดทานจากใคร ไม่ค่อยสนใจพวกอนุรักษ์นิยมที่มัก
    คอยทัดทานให้คิดอย่างรอบคอบก่อน หรือมองให้รอบด้านโดยละเอียดก่อน
    ดังนั้น พวกเขาจึงได้ทั้งบุญและกรรมมากพอๆ กัน ไม่อาจนิพพานได้ในยุคนี้<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลักษณะและความเป็นไปของจิตวิญญาณ "กลุ่มพระศรีอาร์ฯ" มีดังนี้


    คนกลุ่มนี้ จะมีลักษณะโดดเด่นคือ "เอาตัวรอดจากทางโลกได้เก่ง" คือ
    รู้ว่าทางโลกวุ่นวาย, งานหนัก, น่าเบื่อ, มีแต่เรื่องเครียดๆ หรือไม่ ก็ต้อง

    ก่อกรรมทำเข็ญ จึงทำให้งานสำเร็จขับเคลื่อนไปได้ พวกเขารู้ ไม่ใช่คน
    โง่ เขารู้ทันคนเหลี่ยมจัด แต่พวกเขาไม่อยากทำกรรมแล้ว เบื่อหน่ายมา
    พอแล้ว ชอบอยู่เฉยๆ ไม่ก่อกรรม ดีไม่ทำ กรรมไม่สร้าง พอใจในบุญของ
    ตนที่ตนมี ตนได้ พร้อมเข้านิพพานได้ในภัทรกัปนี้ แต่ไม่ใช่ยุคพระโคดม
    เพราะไม่พร้อมบางประการ หรือมี "พันธสัญญาร่วม" กับพระศรีอาร์ฯ ไว้
    เช่น จะมาสร้างยุคสมัยด้วยกัน, บางคนสติไม่ดี พ่อแม่เลี้ยงดู บวชพระไม่
    ได้ แต่ไม่ได้ไปก่อกรรมทำเข็ญใครอีก, บางคนติดหนี้ รุงรัง บวชพระไม่ได้
    บางคนไม่มีงานทำ อาศัยครอบครัวไปวันๆ เอาตัวรอดได้ แต่ไม่ก่อกรรมไป
    ทำร้ายอะไรใคร, บางคนเอาตัวรอดหลบลี้หนีงานไปวันๆ อยู่แบบให้พ่อแม่
    เลี้ยงดูไป ทำงานอดิเรกของตน ที่ไม่ก่อบุญกรรมอะไร? กับใครไป เรียกว่า
    "เอาตัวรอดไปวันๆ" รอดจากการก่อกรรม ทั้งดีและชั่ว ไม่เอาไหน จะเอาดี
    ทางโลกก็ไม่ได้ ทางธรรมก็ไม่ได้อยู่แบบเอาตัวรอดไปวันๆ แต่ไม่ได้ทำร้าย
    ใคร แม้มี "สิ่งยั่วยุ" ทั้งทางบวกหรือลบในยุคสมัยนี้มาก ก็ไม่ค่อยสนใจจะ
    ตอบสนองเฉื่อยๆ เนือยๆ ไปวันๆ แต่เข้าใจโลกเข้าใจคนไม่ใช่คนโง่แท้จริง
    และมีบางส่วน ที่จะอยู่แบบ "นักพรต" ไม่แต่งงาน ไม่รับผิดชอบครอบครัว
    และบางส่วนที่ "เกิดเป็นผู้หญิง" แต่ได้รับทุกข์จากคู่ครอง เลยอยู่โสด ไม่
    มีครอบครัวอีก พอหมดกรรมจากสตรีเพศ ก็จะได้เกิดเป็นเพศชายในยุคนั้น
    แต่จะเข้านิพพานในยุคพระโคดมนี้ "ก็ไม่ทันเสียแล้ว" จะไปต่ออีกก็ไม่ไหว
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    คนทั้งสามกลุ่มที่แตกต่างกันนี้ จะอยู่ร่วมยุคสมัยเดียวกันได้อย่างไร?


    คนสามกลุ่มนี้ กลุ่มหนึ่งก็ล้าหลัง ไม่ได้เรื่อง งมงาย เหมือนพวกมนุษย์ยุค
    หิน เลยกลายเป็นเหยื่อของยุคสมัย จะต้องรับกรรม รับทุกข์ ถูกเอาเปรียบ

    แต่ กลุ่มหนึ่งก็ทันสมัย เก่งกล้าสามารถ แต่ทำผิดพลาดเยอะ ทำดีไป ก็มี
    ชั่วไปด้วยมากมายและนำมาซึ่งความขัดแย้งและปัญหาอีกนานัปการส่วน
    อีกกลุ่มหนึ่งคือ "เอาตัวรอดเก่ง" ไม่ได้โง่จริง ไม่ล้าหลัง รู้ทันคนอื่น แต่จะ
    เอาตัวรอดไปวันๆ ไม่ก่อกรรมทั้งดีและชั่ว (กระทำ โดยไม่กระทำ) คือ จะ
    ให้ไปอยู่กับพวกล้าหลังจนต้องกลายเป็นเหยื่อของยุคสมัย ก็ไม่เอา จะให้
    ไปทำกรรมดีบ้างชั่วบ้าง ร่วมหัวจมท้ายไปกับพวกหัวก้าวหน้า ก็ไม่เอาอีก
    ก็เลยหลบๆ ซ่อนๆ หลีกเลี่ยง หาทางเอาตัวรอดที่จะไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว
    กับทั้งกลุ่มล้าหลังที่กลายเป็นเหยื่อของยุคสมัย และกลุ่มหัวก้าวหน้าที่ทำ
    ดีไปก็ทำชั่วไปด้วย เมื่อสังคมมีทั้งสามกลุ่มร่วมกันอย่างนี้ จึงเกิดการเดิน
    หน้าไปแบบ "มีชนชั้น" คือ กลุ่มที่หัวทันสมัยรักก้าวหน้า ก็จะเดินหน้าไป
    อย่างรวดเร็ว ทำให้พวกล้าหลัง ต้องได้รับผลกระทบ และกลายเป็น เหยื่อ
    ของยุคสมัย ต้องได้รับทุกข์แล้วมีจิตตรงนิพพานไป (ซึ่งสังคมไทย ก็เปิด
    ทาง ให้บวชพระอยู่รอดได้ จึงมีความยืดหยุ่นสูงดีอยู่แล้ว) พวกนี้ จะต้อง
    ปล่อยไป "ช่วยไม่ได้" เพราะยิ่งช่วยยิ่งอ่อนแอ ยิ่งเหลวไหล และเละเทะ
    ออกนอกลู่นอกทางไม่ได้นิพพานในยุคใดเลย ต้องเข้าทางยุคพระโคดม
    คือ เข้าทางทุกข์ ต้องรับทุกข์ทางโลกไป ต้องยอมเป็น "ชนชั้นล่างที่ถูก
    กดขี่ข่มเหงและไม่ได้รับความยุติธรรม" พวกที่หัวทันสมัย ก็ต้องก้าวต่อ
    ไป ไม่ต้องสนใจพวกนี้จนกว่าจะบีบให้พวกเขาเห็นทุกข์และตรงนิพพาน
    ไปเอง ส่วนอีกพวกคือ พวกที่ไม่ได้โง่จริง เอาตัวรอดได้ แต่ไม่ชอบไปก่อ
    กรรมทำเข็ญอะไรกับใครอีก (พวกศรีอาร์ฯ) พวกนี้ ก็จะรอดได้เพราะว่า
    มีปัญญา มีบุญพอตัว เอาตัวรอดได้ แต่ก็จะไม่ไปใช้ปัญญา แก่งแย่งแข่ง
    ขันกับพวกหัวทันสมัย ยอมปล่อยให้พวกนั้นได้อำนาจไป ตนก็อยู่เงียบๆ<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ทำไม จึงต้องมี "พุทธประเพณี" ผู้ชายเป็นผู้นำ ผู้หญิงเป็นผู้ตาม?


    ปกติแล้ว ผู้ชายมีกรรม และได้รับการกระทบกระทั่งจากนอกบ้านได้ง่าย
    กว่าผู้หญิงๆ จะหลบเลี่ยงการก่อเรื่อง ก่อราว ทำกรรมกระทบกระทั่งกัน

    และปรับตัวเข้าหากันได้เก่ง ทำให้ ผู้ชายได้รับการกระทบทำลายอัตตา
    อยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่ผู้หญิงมักไดรับการละเว้นเพราะ "เป็นผู้หญิง"
    ดังนั้น ผู้หญิงเก่งบางคน จึงไม่รู้ตัวเอง หลงตัวเอง ไม่ทราบว่าตัวเองจะ
    ต้องปรับปรุงตัวอย่างไรบ้าง? ดังนั้น ธรรมชาติจึงจัดสรรให้ผู้ชายต้องมี
    หน้าที่เป็น "ตัวกระทำกรรม" สั่งสอนให้ผู้หญิงเข็ดหลาบ และเห็นทุกข์
    ในการเกิดมาบนโลกนี้ เพื่อไม่ให้ผู้หญิงเข้าสู่ "วิถีปัจเจกพุทธเจ้า" ซึ่ง
    จะมีความเป็นไปได้สูง ถ้าผู้หญิงเก่งเกินไป หรือไม่มีใครท้วงติงเลย ไม่
    มีใครขัดเกลา ชี้ให้เห็นความผิดพลาดของตนเองเลย ก็จะหลงตัวเองมี
    ความเป็น "พระปัจเจกพุทธเจ้า" ได้ง่ายกว่าผู้ชาย (เพราะผู้ชายมักจะ
    มีเรื่องโดนผู้อื่นสั่งสอนนอกบ้านได้ง่ายกว่านั่นเอง) ดังนั้น การปล่อยให้
    ผู้หญิงคิดเองทำเอง คนเดียว เก่งมากเกินไป คนเดียว ก็จะเสี่ยงเข้าทาง
    ปัจเจกฯ ได้ง่ายมาก ธรรมชาติจึงบีบให้ต้องมีผู้ชายมาคุมไว้ ให้ไม่ออก
    นอกทาง ให้ได้รับทุกข์จากการเกิดเป็นเพศหญิง และมีจิตตรงนิพพานมี
    ความปรารถนาหลุดพ้นทุกข์, หลุดพ้นจากความเป็นสตรีเพศไป นั่นเอง
    สิ่งนี้ เป็น "ธรรมชาติของเพศ" ที่ควรเข้าใจให้มาก เพราะมีผลต่อการ
    เข้าสู่นิพพานของปวงสัตว์ อนึ่ง โลกนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อพระปัจเจกพุทธ
    เจ้าเลย โลกสร้างมาเพื่อ "สัตว์สังคม" เพื่อเข้านิพพานกันเป็นหมู่คณะ
    แต่ก็มีบ้างที่แตกแถวไป เมื่อแตกแถวไปแล้ว ก็ต้องหา "ยุคสมัยเอาเอง"
    ไม่มีใครช่วยเหลือเตรียมยุคสมัยให้พระปัจเจกฯ ท่านต้องเอาตัวรอดเอง
    ดังนั้น ธรรมชาติจึงทำทุกวิถีทางให้ปวงสัตว์นั้น ไม่ต้องเป็นพระปัจเจกฯ
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    26 มิ.ย. 2555


    "เสียงจากสภาฯ"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    การสื่อสารขัดข้องเล็กน้อย
    เลยต้องรีบจบก่อนครับ


    บะบายละ


    :z8
     
  9. than930

    than930 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +38
    หากเป็นคนยุคพระศรีมาเกิด แต่เห็นความน่าเบื่อหน่ายในโลก ปรารถนาจะจบในยุคพระ
    โคดมจะต้องปฏิบัติอย่างไรครับ จึงจะเปลี่ยนยุคได้
     
  10. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    ขออภัยครับท่านหลิว วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ลืมกินยานอนหลับ ฮรี่ๆ
     
  11. than930

    than930 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณมากสำหรับคำตอบครับคุณราม
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ธรรมชาติ สร้าง ให้ ดำรง เผ่าพันธ์

    หญิง ก่ ต้อง เป็น ที่ พึ่ง พอ ใจ หมาย ปอง ของ ชาย

    ไม่ งั้น ก่ สูญพันธ์ นั่น คือ ธรรมชาติ สร้าง ไว้

    ชาย ก่ ต้อง เป็น ที่ ให้ ความ ปลอดภัย มั่น คง แก่ หญิง

    ดู แล รักษา ซึ่ง กัน และ กัน

    ไม่ ใช่ กู จะ บำเพ็ญ สุด ยอด บารมี

    จึง ทิ้ง ลูก ทิ้ง เมีย (เห็นแก่ตัว)

    จึง ขาย ลูก ขาย เมีย (เห็นแก่ตัว)

    นั่น ละ คือ ขี้ ที่ ติด ตูด

    ขี้ เสร็จ ก่ ไม่ ได้ ไป ไหน ต่อ นั่ง อยู่ ใน สุขา ต่อ

    เพราะ มัน ไม่ รู้ จัก เช็ค ขี้ ติด ตูด จึง อยู่ แต่ สุขา

    คุณ วส.... จึง ต้อง มา ช่วย มัน เช็ค ขี้
     
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ความคิด ความถี่ เปลี่ยน เมื่อ เรา มั่น คง ใน ความ คิด หรือ ความ ถี่

    นั่น ๆ ก่ ไป ให้ สุด กำลัง

    ความคิด เรา อยู่ ใน ยุค ของ ศรีอริย หรือ ความ ถี่ ตรง กับ ศรีอริย

    สิ่ง เหล่า นั้น จะ นำ พา ให้ เจอ บุคคล ที่ ทำ ให้ เรา รอด เอง

    แบบ ยุค ศรีอริย

    แต่ เบื้อง ต้น ต้อง รักษา ศีล ให้ มั่น คง ศีล คือ การ ไม่ เบียด เบียน

    ไป ศึกษา การ ไม่ เบียดเบียน ก่อน มี อะไร ก่ ปฎิบัติ ตาม นั้น

    การ รอด ของ ยคุ ศรีอริย (เปิดแล้ว) ซ้อน กับ ยุค นี้ ล่ะ

    และ จะ ง่าย ต่อ ท่าน ทั้ง หลาย เป็น อริย โดย ง่าย
     
  14. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ของ ดี ต้อง ค้น หา หน่อย ...
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ใคร บอก ...

    พอ ดี เข้า ไป ขี้ ไม่ ได้ ถือ กระดาษ เช็ด ขี้ เข้า ไป ด้วย

    ลืม...

    คุณ วส... จำ เป็น ต้อง จัด การ ให้
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เดื่อด ร้อน ก่ ค่อย ไป หา

    เพราะ ยุ่ง กับ การ เช็ค ขี้ อยู่
     
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แบบ ไหน... เห็น มัน เอา แต่ วิ่ง หลบ ต้น ไม้

    ล่อ หน้า ล่อ ตา กัน
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นี่ ล่ะ พลัง เมตตา สูง ของ ผู้ ให้ แม้น แต่ ขี้ ยัง เช็ด ได้
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ทำ ไง ได้ คน อื่น เขา จะ ใช้ สุขา

    เสือก เข้า ไป ไม่ เอา กระดาษ เช็ค ขี้ เข้า ไป ด้วย

    มัน เลย นั่ง แช่ ใน สุขา เพราะ ลืม กระดาษ เช็ด ตูด

    สุขา จึง เต็ม

    คุณ วส... จึง ต้อง ทำ หน้า ที่ ... ระบาย ... ให้ สุขา โล่ง
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ตัว ดำ มา หรือ เปล่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...