ถามนักปฏิบัติขณะนั่งสมาธิมีถามตอบในจิตถือเป็นอุปทานหรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Pinbow, 25 มิถุนายน 2012.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อไปแนะนำ หนทาง (มรรควิธี) หรือทางออก เมื่อเกิดสภาวะนั่นอีก คือ จิตขณะหนึ่งถาม จิตขณะหนึ่งตอบ พึงกำหนดหรือทำปริญญากิจตามที่มันเป็นว่า คิดหนอๆๆๆ เมื่อกำหนดคิดหนอๆๆ แล้วก็ถึงความรู้สึกมาเกาะจับที่กรรมฐานคือลมเข้าออกต่อไป แค่นี้ภาคปฏิบัติธรรม คือ พึงกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็น

    จิตถามเอง ตอบเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012
  2. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    =====
    ความสงบคือสมาธิขั้นละเอียดนะครับ คุณน้องบัวผัน การดึงอารมณ์ของจิตผู้ที่ผ่านการฝึกย่อมทำได้โดยง่ายครับ เปลี่ยนจาก กรรมฐาน เป็นวิปัสนา และจากวิปัสนา เป็นกรรมฐาน กลับไปกลับมา ทำได้แต่ก็ต้องฝึกให้คล่อง ก็ทำได้ครับ มีอะไรอีกมามายที่ จิตเราทำได้ครับแต่ จะทำไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไรคิดดูเองนะครับ

    อนึ่ง อาการที่จิตสงบ ก็ต้องอาศัยสมาธิขั้นละเอียดประคองไว้ รักษาไว้ ถ้าไม่มีสติและสมาธิขั้นละเอียดรักษาไว้ ระวังจิตจะตกภวังค์นะจ๊ะ ส่วนมากท่านทั้งหลายพอสงบมาก ก็จะตกภวังค์ได้ง่าย นะจ๊ะ อาตมาก็เคยเป็นจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012
  3. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    ใครเป็นน้องคุณ ฉันอายุเยอะกว่าคุณนัก น้องเอ้ย
    สติ สมาธิขั้นละเอียดอะไร อธิบายเป็นนิมิตเชียว
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อาเจ๊ จะเที่ยงแล้ว ไปกินข้าวดีกว่า :cool:


    หยุดเป็นตัวสำเร็จไม่ใช่ สมเร็จ
     
  5. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    ถ้าเป็นภิกษุจริง ทำไม เอารูป ฆารวาส มา

    ถือว่า ไม่มีซื่อสัตย์ต่อเพศตัวเอง

    สมาธิใน สัมมา จะเกิดกับบุคคลแบบนี่ได้ไง

    ศีล !
     
  6. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    อ่ะนะ สิ่งที่เป็นปัญหาด้วยตา ต้องแก้ปัญหาที่ใจ

    นะน้องเอ้ย
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ได้เลย อาม๋วย :cool:
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ซิ้มสิ :cool:
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ได้ๆ งั้นเอาใหม่

    ได้เลย อาซิ๊ม [​IMG]
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    อันนี้ก็อีกวลีหนึ่ง ของหลวงปู่พุธ ฐานิโย ลองอ่านดูครับ



    ทีนี้ ข้อสังเกตุมันมีอยู่อันหนึ่ง
    วันนี่พูดแต่เรื่องภาวนาพุทโธก็พอแล้ว
    บางท่านภาวนาพุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
    จิตสงบดี สงบอย่างดีเลย
    บางทีสงบจนกระทั่งตัวหาย
    บางทีก็ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปหม๊ด
    ยังเหลือแต่จิตดวงเดียวสว่างไสวอยู่เท่านั้น

    แต่หนักๆเข้าภายหลังมานี่
    จิตมันไม่สงบซะแล้ว
    จะกำหนดก็ตาม
    ไม่กำหนดก็ตาม
    มันก็มีอาการสงบนิดหน่อย
    แต่ว่าความคิดมันคิดอยู่ไม่หยุดของมันอยู่อย่างนั่น

    ทีนี้

    บางทียิ่งคิดจิตก็ยิ่งแจ่มใส
    ยิ่งคิดจิตก็ยิ่งปลอดโปร่ง
    ยิ่งคิดจิตก็ยิ่งผ่องใส
    ยิ่งคิดก็ยิ่งเบา
    ยิ่งคิดก็ยิ่งสบาย

    อ้าว ...จิตที่มันคิดอยู่ไม่หยุดมันจะสบายได้อย่างไร
    ความคิดที่มันคิดอยู่ไม่หยุดแต่สติตามรู้ไม่ทันเป็นความฟุ้งซ่าน
    ความคิดที่คิดอยู่ไม่หยุด มีสติตามรู้ทันทุกขณะจิตทุกลมหายใจ
    มันกลายเป็นปัญญาบังเกิดขึ้นแล้ว

    เมื่อมีสติรู้ทันความคิดอ่านอยู่ตลอดเวลา
    จิตไม่ยึดก็จะมีแต่ความปล่อยวาง
    เพราะจิตรู้แจ้งเห็นจริงมีวิชชาความรู้แจ้งเห็นจริง
    รู้อะไรขึ้นมาจึงไม่ยึดเอาไว้
    เพราะรู้จริงมีแต่ปล่อยวางลูกเดียว
    เพราะฉะนั้น
    เมื่อคิดขึ้นมาแล้ว จิตมีสติรู้ทัน มีแต่ความปล่อยวาง
    จิตของเรามันก็ไม่สับสน วุ่นวาย

    ยิ่งคิดมากมันก็ยิ่งปลอดโปร่ง
    เพราะว่า
    ความคิดอันนี้ที่ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ รู้พร้อม มันเป็นองค์ปัญญา
    ปัญญาที่เกิดจากสมาธิ
    มันเป็นปัญญาอบรมจิต

    ก็ศีลอบรมสมาธิไง
    สมาธิอบรมปัญญา
    ปัญญาอบรมจิต
    อันนี่แหล่ะ
    หนังสือท่านอาจารย์มหาบัวเขียน

    ท่านตั้งชื่อว่า ปัญญาอบรมจิต
    หมายถึง ความคิดที่เกิดเพราะพลังสมาธิ

    เมื่อสมาธิดีแล้วมันสามารถบันดาลให้เกิดความคิด
    ความคิดที่ประกอบพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะรู้พร้อมอยู่นั้น
    ถึงแม้ว่ามันจะคิดตลอดคืนย่ำรุ่ง
    ตลอดวันย่ำค่ำ
    ปล่อยให้มันคิดไปเถอะ
    ขอให้มีสติรู้ทันไม่ใช่ความฟุ้งซ่านของจิตมันเกิดปัญญา
    แต่ถ้าหากว่าสติมันอ่อนรู้ไม่ทันมันจะเกิดความฟุ้งซ่านขึ้นมาทันที

    เพราะฉะนั้น

    สติตัวนี้เนี๊ยะจึงเป็นสิ่งสำคัญ
    อันนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงสังเกตุอย่างนี้
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    ไอ้ปัญหานี่มีผู้ไปถามอยู่บ่อยๆ
    เมื่อก่อนนี้ภาวนาแล้วจิตสงบดี
    แต่เวลานี้มันมีแต่ความคิด
    ทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้น

    บางทีก็ไปถามท่าน
    บางท่านไม่รู้

    พอถามปั๊บ
    ทำไมจิตของฉั๊นมันจึงเป็นอย่างนี้
    ท่านก็บอกว่า
    ระวังมันจะเป็นโรคประสาทตาย
    บางทีก็สำคัญว่าตัวเองจะเป็นโรคประสาทเข้าจริงๆ
    เพราะความยึดอันนั้น

    เพราะฉะนั้น

    อันนี้เป็นสิ่งหนึ่ง เป็นประสบการณ์
    ที่นักปฏิบัติจะพึงสังเกตุเอาไว้
    อย่าไปติดแต่ความสงบนิ่งของจิต
    โดยไม่มีความคิดเพียงอย่างเดียว<O[​IMG]</O[​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    อ่านต่อที่นี่ http://palungjit.org/threads/จิตตะภาวนา-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.280415/
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    อันนี้ก็อีกวลีนึง ลองฟังดู

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2115632/[/MUSIC]


    โหลดฟังเต็มๆได้ที่นี่

    http://palungjit.org/threads/วิธีฝึก-สมถะภาวนา-โดย-หลวงปู่-พุธ-ฐานิโย.287864/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    กาย เวทนา จิต ธรรม ดูให้มากดูให้เคยชิน ธรรมารมณ์ ที่เกิดขึ้น ย่อมให้แสงสว่างเป็นวาระหนึ่ง ทำให้เราเกิดปัญญาเข้าใจแจ่มแจ้ง เมื่อเข้าใจแจ่มแจ้ง จิตย่อมคลายกำหนัด ไม่ยึดติดและปล่อยวาง เมื่อวางเสียได้ ถึงตอนนี้แหละเป็นสุขแบบบอกไม่ถูกครับ
     
  13. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    มันสงบอย่างไร มันคิดอยู่ไม่หยุด มันสงบอย่างไร

    หลังจากเกิดปิตคือเกิดการยอมรับในการพิจรณา

    ว่า

    เรื่องนี้ธรรมนี้
    ที่เราพิจารณาอยู่นี้
    ได้ผลสรุปอย่างนี้
    และเรายอมรับความยุติตรงนี้ในเรื่องนี้แล้ว

    ไว้เท่านี้

    เพราะเกิดปัญญาในปัจจุบันเท่านี้
    ด้วยเหตุที่เกิดและผลของการพิจารณานั้น
    แล้วปล่อยวางลง

    คิดแล้ววางๆ
    คิดจนวางไม่คิดแล้วเกิดความสงบ

    ความสงบตรงนี้เทียบได้ว่า

    สุขใดเท่าความสงบไม่มี

    หลังจากนั้นก็แล้วแต่ของใครหรือของท่านที่จะไปเจอความสว่างอย่างไร
    บางท่านเจอแสงเหมือนแสงสว่างวาบข้างตา
    บางท่านเจอเป็นดวงแสง
    บางท่านเจอนิมิต
    หลังจากนั้นก็ก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งที่เราท่านทราบกันในหมู่นักปฎิบัติ


    และมีอีกกรณีหนึ่ง
    คือจิตเขาคิดเอง
    ทำงานเอง

    หากกล่าวถึงเรื่องนี้แล้วมาไกลแล้วครับ
    เหมือนอย่างหลวงพ่อท่านอธิบายไว้เลย
    บางทีสามมิติที่ว่า

    บางครั้งเราจะหลับจะนอนพี่ท่านเล่นของท่านอยู่อย่างนั้น
    คือคิดเอง ไม่ใช่การถามตอบ

    เหมือนมีคนมาคุยกันข้างหูหรือในหู

    บางครั้งอยากคุยก็ขอให้ท่านคุยหรือคิดอะไรก็แล้วแต่ท่าน
    เราจะนอน กายก็นอนอย่างนั้นไม่มีหลับไม่มีทางหลับ
    บางทีนอนโก้งโค้งนอนตะแคง นั่งอยู่เขาก็คิดเขาก็คุยเขาก็รู้

    หากเราไม่สนใจ
    ตัวหลอนมาแล้วครับ
    คือสิ่งที่เราคิดตั้งนานมาแล้วไม่ได้คำตอบ
    พอเคลิ้ม สะดุ้ง เออคำตอบอยู่ตรงนี้เอง
    เอาเข้าจริงๆแล้ว ไม่แน่ เหมือนหลวงพ่อชาท่านกล่าว
    มันไม่แน่................

    เอาเป็นว่ามีสองกรณีในกระทู้นี้
    คือ หากเกิดการถามตอบ
    ระวังอุปทาน

    ขอให้ยึดสติให้มั่น

    เพื่อนำมาพิจารณาว่า
    เราจะหาเหตุผลใดมายุติธรรมนี้ เพื่อไม่ให้ฟุ้งมากเกินไป
    ฟุ้งหากเรารู้ตัวเองว่าเราคิดอยู่ก็หาข้อยุติ
    โดยหาเหตุและผลมาลบล้างกันให้เกิดความยุติธรรมแล้ววาง

    หากจิตเขาคิดเองอย่างหลวงพ่อเขาว่า

    ยึดสติไว้ให้มั่น

    ว่าเรายังมีสติอยู่

    กายยังเป็นกาย
    จิตก็เป็นจิต

    มันคนละเรื่องกัน
    เขากำลังจะแยกกัน
    คือกายกำลังแยกกับจิต
    ไม่ให้เขาคิดเขารู้เขาตามดูตามรู้ไม่ได้
    ปล่อยเขาคิดเขารู้เรื่องของเขา
    เราอย่าไปสนใจ
    หากได้คำตอบอย่างผมกล่าวไว้นั้น

    พอเราสดุ้งคำตอบ

    มันเป็นเรื่องธรรมดา

    และอย่าลืมคำว่า

    มันไม่แน่

    ถามว่าอาการนี้เกิดนานไหม
    ผมว่าบางท่านหากไม่รักษาสติให้ดี
    ไม่รักษาศิลให้บริสุทธิ

    ผมว่าหลงยาว
    เหมือนคนบ้า
    กายอยากพักผ่อนแต่จิตอยากทำงาน
    คล้ายๆ หลอน
    บวกฟุ้งด้วยยอีกคำก็ดี

    แต่กรณีนี้มาไกลแล้วครับ
    ต้องผ่านให้ได้
    คือพิจารณาให้เขาสงบ
    หากจะเข้าใจผมว่าฟุ้งรอบสองแล้วครับคืออรูปหรือไม่
    ผ่านได้อย่างไร

    อย่าลืมสตินะครับ
    สติอย่างเดียว

    ว่าเราไม่ได้บ้า
    คิด...........รู้
    ปล่อยเขาเราไม่สน
    ผมขอเน้นเลยนะครับ
    บอกเขาว่า
    อยากทำอะไรทำไป
    ข้าพเจ้า(คำไม่สุภาพ)จะนอน

    ตรงนี้เน้นย้ำเลยนะครับ
    ขอทุกท่านเจริญในธรรม








    <O[​IMG]</O[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012
  14. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    วิญญานดูแล้วสัมผัสได้หรือไม่
    แต่เมื่อมาดูจิตแล้วอรูปหรือไม่

    แปลกอยากเห็นอะไรนั่งหลับตาเห็น

    แต่อยากดูอยากรู้จิตเป็นอย่างไร
    ลืมตาดู

    โอ้ห้าข้ามหกช่างอร่อยอะไรอย่างนี้
    ไม่หลับตายังมีหลอนมามีหรือไม่

    หลงทางกันไปมากหรือไม่ครับ
    ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ
     
  15. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ขออนุโมทนาในธรรมของทุกท่านครับ

    ขออภัย. ผมโดนพรรคพวกเตือนมา. จะหยุดโม้ในนี้แล้วครับ
    และขออนุญาตลบข้อความที่ลงไปก่อนหน้านี้ครับ

    ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ดีแล้วครับ

    " ยัง ปุพเพตัง วิโสเสหิ "
    แปลว่า
    สิ่งใดมีอยู่ เธอจงกระทำสิ่งนั้นให้แจ้ง
    ความกังวลใจในภายหลังจักไม่มีแก่เธอ
    หากเธอไม่ถือไว้ในท่ามกลาง เธอก็จักสงบได้​
     
  17. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435

    ===
    ขอยืนยัน ว่าความสงบเป็นสมาธิขั้นละเอียด
    และเห็นด้วยที่ว่า ความสงบตามกิเลสไม่ทัน แต่ความสงบมีไว้เพื่อหยุดไม่ให้กิเลสมันก่อตัว ไม่ให้ตะกอนแห่งกิเลสฟุ้งกระจายตัว แค่ช่วยให้ตกตะกอนชั่วคราวแค่นั้นครับ
     
  18. ได้คับ

    ได้คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +106
  19. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    =====

    คำคมกินใจดีครับ นี่แหละหลักปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ครับ สั้นๆแต่มีความหมายลึกซึ้งมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  20. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    หากเราเป็นแก้วกลมๆใสๆ
    ไม่รับไม่ปฏิเสธ
    อะไรเข้ามาก็เข้ามา............แล้วก็ไป
    คือเกิดขึ้นมาต่อหน้าต่อตาต่อควารู้สึกเราเองนะครับ
    ตั้งอยู่แล้ว..........ผ่านไป

    หากเราไม่เป็นอะไรเลยคือ............ความว่างอยู่
    ไม่ว่าสิ่งใดเข้ามาก็เรียนแล้วรู้แล้ววาง
    หรือว่างอยู่ทุกเมื่อ
    เลิกแล้วครับ.........เกิด..........ตั้งอยู่.........ดับไป

    ขอท่านเจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...