หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบปัญหาเรื่องศีล

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

เหยียบสัตว์เล็กๆ หรือปัดยุง​

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>ถ้าเราเดินไปเหยียบสัตว์เล็ก ๆ หรือปัดยุงแล้วไปโดนยุงตาย อย่างนี้ศีลจะขาดไหมคะ.....?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าเป็นสัตว์เล็ก ๆ เดินไปเราไม่เห็น บังเอิญเราไปเหยียบตายอย่างนี้ศีลไม่ขาด หรือสัตว์เล็ก ๆ มันมาเกาะกินเลือดของเรา เราไม่คิดจะฆ่ามัน
ถ้ามันเกาะนานเกินไปก็ค่อย ๆ เอามือลูกให้มันหนีไป แต่บังเอิญมันหนีไม่ทัน ไปถูกมันตาย อย่างนี้ศีลไม่ขาดเพราะไม่มีเจตนาจะฆ่า

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

รักษาศีล ๘ ดู ที.วี.

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>รักษาศีล ๘ ดู ที.วี. ได้หรือเปล่าคะ......?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ดู ที.วี.ได้ แต่ห้ามเต้นตาม ที.วี. เดี๋ยว ๆ อีหนู เอ้าอย่ารำคนเดียวซิ ข้าจะช่วยรำ เสร็จ เต้นไปเต้นมา ที.วี.เลิกเมื่อไหรไม่รู้เต้นเพลิน ดู ที.วี.ความจริงก็ไม่เป็นไร ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติกรรมฐาน ดูได้ทุกอย่าง ดูอย่างนักกรรมฐานดูนะ ถ้าเป็นละครชีวิต มีสุขบ้างมีทุกข์บ้าง ทะเลาะกันบ้าง ก็ดูว่าภาวะอันนี้เป็นความจริงของโลก คนที่เกิดมาในโลก ถ้าเราเกิดมามันต้องประสบอาการอย่างนี้ เวลานี้เขาทะเลาะกันให้เราดู เขาแสดงการทะเลาะ เรายังไม่ได้ทะเลาะ สักวันหนึ่งข้างหน้าเราอาจจะทะเลาะกับใครก็ได้ อย่างที่เขาเรียกว่า ดูเป็นกรรมฐาน

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

ศีล ๕ ไม่บริสุทธิ์เจริญพระกรรมฐาน

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>หลวงพ่อคะ คนที่มีศีล ๕ ไม่บริสุทธิ์ ถ้าจะเจริญพระกรรมฐานจะได้ผลไหมคะ....?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้ามีศีล ๕ ไม่บริสุทธิ์เจริญไปก็ไม่มีผล ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะว่ายังลงนรกอยู่ เจริญสมาธิเท่าไร มันก็ไม่พ้นนรก เพราะศีล ๕
นี่มันปิดทางนรก ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งตัวที่ขาด นี่มันจะเข้ามาขวางเวลาที่เราจะตายเป็นกรรมที่เป็นอกุศล
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

รักษาศีล ๖ ศีล ๘

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>ฆราวาสถือศีล ๖ ได้ไหมคะ.......?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ได้ ศีล ๑ ยังได้เลย ศีลข้อที่ ๖ อะไรล่ะ.....?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>วิกาลโภชนา ค่ะ แต่ว่าหนูทำงานเลิกเที่ยงแล้วอย่างนี้จะรักษาศีลข้อนี้ได้ไหมคะ.....? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าเที่ยงแล้วเรายังไม่เลิกงาน ก็ถือว่าเราจะกินข้าวไม่เกินบ่ายโมง หรือบ่ายสองโมง ตั้งเวลาไว้เลย ใช้ได้ ไม่ใช่ ๒ ชั่วโมงกิน ๆ ก็ต้องคิดเหมือนกัน </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าหากเป็นพระ ฉันอาหารเลยเที่ยงได้ไหมคะ.........? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>เวลาเดิมของพระจริง ๆ ตามวินัยนี่ มันไม่ใช่เลิกฉันเที่ยง พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าพระอาทิตย์ตรงศีรษะเริ่มฉันได้ แต่อย่าให้ เงาพระอาทิตย์เลย ๒ นิ้ว ความจริงท่านสั่งฉันเที่ยง แต่เงาเลยไป ๒ นิ้ว ไม่ได้ ๒ นิ้วไม่ใช่น้อยนะ มาตอนหลังเลื่อนเข้ามาฉัน ๕ โมงเลิกเที่ยงเวลานี้ไปถือตามพระวินัยแบบนั้น ชาวบ้านเขาถือว่าเลยเวลาเที่ยงไปแล้วฉันไม่ได้ หากว่าพระกินเลยเวลา </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ที่จริงหนูอยากถือเพิ่มอีกหนึ่งข้อ คือข้อ นัจจคีตะวา แต่ว่าหนูยังชอบดู ที.วี. อยู่คะ" </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ดู ที.วี. ก็ดูอย่าง พระโมคคัลลาพระสารีบุตร ดูมหรสพซิ ดูไปก็คิดว่าไอ้นี่มันทุกข์ ชีวิตของมนุษย์เต็มไปด้วยความทุกข์ พยายามพิจารณาบ่อยๆ ถ้าจะให้ดีก็ถือให้ครบ ๘ เลย เพิ่มข้อมาลาคันธะ ไปด้วย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>รู้สึกว่าหนูจะทำไม่ได้ค่ะ เพราะว่ายังแต่งตัวทาหน้าอยู่ค่ะ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ก็ให้ถือว่า การเอาแป้งทาหน้า น้ำหอมใส่ตัวนี่เราทำเพื่อสังคม ถ้าในสังคมนั้น ๆ จำจะต้องแต่งตัวกันอย่างนั้นก็แต่งไป เราไม่แต่งเพื่อกิเลส
เราแต่งเพื่อความเหมาะสมในสังคม เพื่อความไม่เก้อเขิน ถ้าจิตเราตั้งอยู่แบบนี้ ศีลมันไม่ขาด </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>แล้วข้อที่ห้ามนอนที่นอนสูงใหญ่ แต่ว่าพื้นที่นอนเป็นหินอ่อน เราเอาผ้าห่มรองตัวอย่างนี้ได้ไหมคะ...? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ได้...ที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ยัดด้วยนุ่นและสำลี อันนี้เขาป้องกันความลุ่มหลง ความฟุ่มเฟื่อย ถ้าจิตมันไม่คิดไปในด้านกิเลศ ฉันว่าทำได้ ไม่เห็นแปลก"ศีล ๘ นี่เป็นตัวธรรมะเสีย ๔ ข้อ เป็นตัวศีลเสีย ๔ ข้อ ถ้าผิดข้อปาณา,อทินนา,มุสา,สุรา ลงนรกแน่ แต่ตัวธรรมะคืออพรัหม,วิกาล,นัจจคีตะวา, มาลาคันธะ,อุจจาสยนะ ถ้าพลาดมันไม่ลงนรกนะ
ข้ออพรัหมจริยาเวรมณี ถ้าเราละเมิดเฉพาะสามีภรรยาของเรา ไม่ได้ประพฤติล่วงเกินสามีภรรยาผู้อื่น ไม่ได้ขาด กาเมตัวนี้เป็นธรรมะ ข้อวิกาลโภชนาเวรมณี ข้อนี้เราไม่ได้ฆ่าสัตว์ มันบาป ที่ไหนล่ะ
ข้ออุจจาสยนะ คือ ไม่นอนในที่นอนสูง ที่นอนใหญ่
ข้อมาลาคันธะ คือ ไม่ทัดดอกไม้และของหอม อันนี้ทำได้ทำอะไรใคร
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

โกหกสามี

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>หลวงพ่อคะ ดิฉันไปซื้อดอกไม้แถวสนามหลวงราคา ๑๕๐ บาท พอกลับถึงบ้าน บอกกับสามีว่าต้นไม้ราคา ๕๐ บาท ที่บอกอย่างนั้นเพราะเกรงว่าสามีจะดุเอา ตอนหลังมานึกดูรู้สึกเสียใจค่ะ ไม่น่าโกหกเขาเลย อย่างนี้ศีลจะขาดไหมคะ.....?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>อย่างนี้เป็นการรักษาประโยชน์ไว้ ไม่ได้ทำลายประโยชน์ ข้อมุสาวาท จะขาดมันต้องทำลายประโยชน์ของบุคคลอื่น แต่นี่เป็นการพูดเพื่อรักษากำลังใจเขา มันมีประโยชน์แต่ว่าไปโกหกอย่างอื่นเอาเรื่องนะ อย่างเช่น ของเลวบอกว่าของดี ของราคาถูกบอกของราคาแพง อันนี้มันทำลายประโยชน์
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

ขโมยเงินพ่อแม่

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>หลวงพ่อคะ ขโมยเงินพ่อแม่นี่บาปไหมคะ มีคนเขาบอกว่าขโมยเงินพ่อแม่นี่ไม่บาป เพราะพ่อแม่ต้องจ่ายอยู่แล้วค่ะ
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ไอ้บาปนี้แปลว่าชั่ว การขโมยเงินมันเป็นบาปทั้งหมด ถ้าเราขโมยท่าน ท่านไม่ชอบใจ ท่านก็ทำเฉย การขโมยของพ่อแม่ท่านชอบไหมล่ะ การกระทำอย่างนี้ชั่ว ฉะนั้นจึงบาป
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าหากท่านเห็นเล่าคะ แล้วเราหยิบไปเลย อย่างนี้บาปไหมคะ........? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ก็สาธุก็แล้วกัน ดีแล้วที่ไม่ว่าฉัน ถ้าเราหยิบไป ท่านเห็นแล้วไม่ห้ามปราม ไม่ว่าอะไรก็ไม่เป็นไร ถ้าหากท่านไม่ให้ ท่านห้ามเราก็ไม่หยิบก็หมดเรื่องไป การขโมยนี่จิตมันเริ่มชั่ว ตั้งแต่ก่อนที่จะกระทำ คิดจะขโมยน่ะ จิตมันชั่วแล้วนะ </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

ค้าขายอาวุธ - จำหน่ายสุรา

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>หลวงพ่อครับ การเป็นตัวแทนจำหน่ายสุรา ศีลขาดไหมครับ.......?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>สุรา เขาห้ามกินนนะ แล้วคุณกินหรือเปล่าล่ะ...?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>เปล่าครับ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ไม่กินก็ยังไม่ขาด พระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็น มิจฉาวาณิชชา แปลว่าไม่ควรขายของที่มันผิดศีล </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>และถ้าหากว่าค้าขายอาวุธ ศีลจะขาดไหมครับ..........? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถามว่าศีลขาดไหม ก็ขอตอบว่า ศีลไม่ขาด ถ้าเป็นอาวุธเราไม่ได้ไปฆ่าเขา คนอื่นเขาเอาไปฆ่าก็เป็นเรื่องของเขา แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควร </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

เอาเหล้ามาผสมเพื่อเป็นกระสายยา

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>หลวงพ่อครับ ถ้าหากเอาเหล้ามาผสมเพื่อเป็นกระสายยา ดื่มเข้าไปแล้วศีลจะขาดไหมครับ......?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>อย่างเอามาผสมเป็นกระสายนี่ ถ้าไม่ปรากฏรส ปรากฏกลิ่น นี่ไม่มีโทษ แต่ประเภทกินยาดองใช้ยา ๑ ช้อนกาแฟ ผสมเหล้า ๑ ไห อย่างนี้ไม่ผิดศีล
ชนศีลพังไปเลย อย่างนี้ให้อภัยไม่ได้
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าหากว่าผสมตามสูตรเล่าคะ คือว่าไม่ใช้ยา ๑ ช้อน เหล้า ๑ ไห นะคะ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ทำตามสูตรเขาไม่เป็นไร ไม่ผิดโยม พระเขายังไม่ห้ามเลย แต่ว่าต้องไม่ปรากฎรส ปรากฎกลิ่นนะ"
การถือศีล ถ้าเคร่งเกินไปก็เดือดร้อน พระพุทธเจ้าท่านให้ปฎิบัติในทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฎิปทา อย่าให้มันเป็น อัตตกิลมถานุโยค คือเบียดเบียนตนเกินไป ต้องดูแต่พอเหมาะพอดี พอควร ในอุทุมพริกสูตร พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับนิโครธปริพาชก บอกว่า "จงอย่าทำลายศีลด้วยตนเอง อย่ายุยง ส่งเสริมบุคคลอื่นให้ทำลายศีล
และจงอย่ายินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว" ท่านแนะนำอย่างนี้นะ
</TD></TR></TBODY></TABLE>




<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

บวชชีชั่วคราวหรือตลอดชีวิตดี

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=56>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=440>การที่ลูกถือเนกขัมมะ คือศีล ๘ กับการที่ลูกจะลาจากงานไปบวชตลอดชีวิต จะได้อานิสงส์เท่ากันไหมคะ.</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ไม่เท่า เพราะว่าบวชตลอดชีวิตได้เวลามากกว่า ถ้าบวชเฉพาะเวลา เวลามันน้อยกว่า มีเงินไหม..ถ้าลาไปแล้วมีเงินใช้ก็ใช้ได้ ใช่ไหม..เราอยู่บ้านเราก็ถือศีล ๘
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วันธรรมดาเรารักษาศีล ๕ วันเสาร์-อาทิตย์เราก็รักษาศีล ๘ แต่ว่าถ้ามีกำลังมั่นคงออกไป ถือตลอดชีวิตก็ดี เพราะว่าคนที่จะรักษาศีล ๘ ได้จริง ต้องมีกำลังใจแท้ ต้องเป็นวิสัยของอนาคามี นิสัยอนาคามีเริ่มเข้า รักษาศีล ๘ จึงรักษาได้ ถ้าอารมณ์ถึงจริงๆไอ้ตัวนั้นมันเริ่มมาแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

ศีลบริสุทธิ์

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>ผลที่เห็นชัด ๆ ว่าเราได้ถือ ศีลบริสุทธิ์แน่ ๆ เราพอจะรู้ไหมครับว่าตอนไหน....?
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>เมื่อเราตั้งใจเว้นแล้ว เราก็เว้นจริง ๆ ไม่ทำ
อย่างข้อที่ ๑ ปาณาติบาต สัตว์ที่ควรจะฆ่าเราไม่มีจิตคิดจะฆ่า ถ้าเรารักษาได้จะเป็นปัจจัย ให้เกิดเป็นคนสวย เพราะศีลข้อนี้เราจะรักษาได้ก็ต้องอาศัย เมตตา เป็นปัจจัย และศีลข้อนี้นี่แหละจะทำให้เรามีโรคภัยไข้เจ็บน้อย เพราะว่ามันเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์ ที่ว่าน้อยก็เพราะว่า เราเคยเบียดเบียนกันมาบ้าง เมื่อเข้ามาในเขตรักษาศีล บางทีเราเผลอไปบี้มดเข้าบ้างนั่นเป็นเรื่องของการเผลอ เป็นอาการของความเคยชิน แต่ว่าอารมณ์ส่วนใหญ่เราระมัดระวังอยู่ในศีล นอกจากดังที่กล่าวมาแล้ว การักษา ศีลข้อที่ ๑ ผู้ที่รักษาได้จะทำให้เป็นคนที่มีอายุยืนยาวนาน อาจจะเต็มอายุขัยหรือเลยอายุขัยไปนิดหน่อย"
ข้อที่ ๒ เห็นของที่ควรจะขโมยได้ เราก็ไม่ขโมย ถ้าเรารักษาได้ จะมีอานิสงส์เป็นพิเศษกว่าปกติ หรือทรัพย์สินของท่านทั้งหมดที่มีอยู่จะไม่มีภัยจากไฟไห้ จากน้ำท่วม จากโจรขโมยแล้วก็หาความยากจนไม่ได้
ข้อที่ ๓ เห็นโอกาสที่เราจะทำกาเมสุมิจฉาจารได้ เราก็ไม่ทำ ถ้าเรารักษาไว้ได้ คนในปกครองหรือใน คณะทั้งหมด จะเป็นคนที่อยู่ในโอวาท คือไม่ว่ายากสอนยาก คนในบังคับบัญชาจะไม่ล่วงละเมิดในแบบแผน หรือกฏระเบียบที่เรามีอยู่
ข้อที่ ๔ เราจะโกหกได้ เราก็ไม่โกหก ถ้าเรารักษาได้ตามพระบาลีท่านบอกว่า จะเป็นคนปากหอม (แต่อย่างไปดมเข้านะถ้าแกลืมแปรงฟันละก็หงายท้องเชียวนะ) คำว่าปากหอมในที่นี้หมายความว่า พูดแล้ว มีคนอยากฟังอยากเชื่อ
ข้อที่ ๕ มีเหล้ากิน มีสุราดื่ม เราก็ไม่กิน ถ้าเรารักษาได้ ก็จะกลายเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เมื่อเราประสบแล้วเราไม่ทำ
คือเว้นได้จริง ๆ ตอนนี้บริสุทธิ์แน่ และจะได้รับอานิสงส์ดังที่กล่าวมาแล้ว"

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ถ้าอย่างนี้ การสมาทานศีล หรือรับศีลเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่บริสุทธิ์ใช่ไหมครับ...? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>การสมาทานศีล ไม่ได้หมายถึงศีลบริสุทธิ์นี่คุณ นั่นเป็นคำขอ จะบริสุทธิ์ได้ต่อเมื่อจิตตั้งใจงดเว้น จริง ๆ ตัวตั้งใจงดเว้นตัวนี้แหละเป็นตัวศีล</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>แล้วอย่างชาวประมงที่เขามีอาชีพหาปลา โดยตรงจะทำยังไงล่ะครับ....? </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>อาชีพเขาจริง แต่เวลาที่ก่อนจะตาย เขาคิดถึงบุญกุศล อย่าง ท่านสุปติฏฐิตะเทพบุตร เห็นไหม ทำชั่วทุกประตูเลย วันดีไม่ละวันพระไม่เว้น
พอจะตายขึ้นมา นึกถึงพระพุทธเจ้าขึ้นมา ไปเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ แล้วก็พบพระพุทธเจ้าอีกทีหนึ่ง ฟังเทศน์จบเดียวเป็น พระโสดาบัน </TD></TR></TBODY></TABLE>
***จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
ฉบับพิเศษ เล่ม ๑

 

อนุโมธนา สาธุ ครับผม

#สุโขสุขี ผมชอบรูป อวาตา ของท่านจัง ฮ่าๆ

 

กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาดีแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ผิดชอบ ชั่วดี ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้และการให้นั้น ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า “การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อของลูกๆเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ลูกจะจดจำคำสอนสั่งใส่ไว้เหนือหัวจนวันตาย และจะปฏิบัติตามตลอดไป....


สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง