การทดลองจิตเร็วกว่าความเร็วของแสง

จิตไว้กว่าแสงแน่นอนถ้าตัวคนเราใหญ่เท่ากาแล็กซี่ แสงใช้เวลาหลาย100ปีกว่าจะวิ่งได้ครึ่งแต่จิตรเราสามารถไปได้เลยแบบสั่งปุปไปถึงปับ สั่งขยับแขนก็ขยับได้เลย

 

จิตเร็วกว่าแสง?

จิตเร็วกว่าแสงจริงในแง่ของความเชื่อแต่ในทางวิทยาศาสตร์หรือทางฟิสิกส์แบบนิวตัน ไม่ใช่แน่นอนเพราะไม่มีระยะทางไม่มีค่าความเร็ว ไม่สามารถวัดออกมาคำนวณได้ เพียงแต่ความคิดจินตนาการเราจึงถึงที่หมายในวินาทีที่เราคิดว่าใช่ หรือถึงที่หมายที่เราต้องการเพียงคิดแต่มิได้เคลื่อนไหว..
ผู้ด้อยความรู้ทางธรรม ผิดพลาดเสนอแนะด้วยค่ะ

 

ลองปฎิบัติดูเห็นว่าจิตก็เป็นกิเลส เป็นความอยากแบบเดียวกับความอยากกิน นอน สบาย อยู่รอด รับไม่ได้กับการดับสูญของตัวเรา เมื่ออยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่สัมผัสทั้ง5ตอบสนองไม่ได้ จึงเกิด จิต ขั้นตอนการตอบสนองของจิตนี้เลยซับซ้อน สติจะทำให้เราคิดได้ว่าจิตมันอยู่ใหน มันจะทำอะไร มันอยากดับทุกข์ อยากเหนือกว่าสัตว์มนุษย์ อยากรู้นั้นรู้นี้ อยากถอดจิตถอดกาย กิเลสแบบละเอียดมาก ไม่เข้าใจแล้วเราคงจะหลงอยู่กับมัน เพราะตัวมันชอบด้วยศีล สมาธิ และปัญญา หากได้ใช้จิตเป็นเพียงเครื่องมือในการรู้ทุกซอกจักรวาล ด้วยเพียงแค่รู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า จิตก็ถูกควบคุมได้ แล้วไม่ต้องใช้มันอีก จิตเร็วกว่าแสงหรือไม่ ก็คงเป็นคำถามเดียวกับที่ว่ากิเลสเร็วกว่าแสงหรือไม่นั่นเอง (จิต กิเลส เป็นอาวุธที่ทรงอนุภาพ ต้องใช้ ต้องดูแล และเก็บวางให้เป็น)

 

จิตเร็วกว่าแสง

เห็นด้วยกับคุณ Ambient....

 

เห็นด้วยกับคุณ KnowledgeEater& Ambient & คุณติ่ง บางนา

 

จิตเร็วกว่าแสงหลายเท่า ดังนั้นหากจะตรวจวัดคลื่นจิต ต้องหาค่าความถี่หรือความเร็ว ให้ได้ก่อน น่าจะเป็นสมการ ครับ ดังนั้นที่ใช้เครื่องมือวัดคลื่นพลังงานวิญญาณในปัจจุบัน ให้ตรวจดูว่าเครื่องมือที่วัดวัดกันมีค่าวัดความเร็วเหนือกว่าแสงหรือต่ำกว่าแสงครับ เครืองมือวัดน่าจะเป็นสนามพลังงานไฟฟ้าสถิต แทนวัตถุ เหมือนกับการยิงอนุภาคลงบนแผ่นทองคำ เปลี่ยนจากแผ่นทองคำเป็นสนามไฟฟ้าสถิตย์ (เรียนแบบคลื่นหัวใจอาจจะใช้ค่าความถี่เดียวกันเป็นสนามพลังงานรองรับ) เมื่อปล่อยพลังจิต (ใช้การเพ่ง หรือไซบอล) ยิงเข้าสู่สนามทำให้สนามพลังงานไฟฟ้าสถิตย์เปลี่ยนค่าความถี่ หรือเกิดสภาพหักเห (น่าจะคล้ายๆสตาร์เกท) นั่นแสดงให้เห็นว่าพลังจิตมีจริง แล้วหาค่าความถี่ครับ

 

ถ้าท่านทำได้อย่างที่ว่ามา ทำไมท่านไม่ถอดจิตไปซื้อลอสตอรี่ซะเลยละค้าบ

 

น่าสนุกอ่าครับ

 

อยากทำแบบนั้นบ้างจัง แต่คงไม่มีวาสนาหรอกเน้าะ

 

-เมื่อจิตหยุดนิ่ง แสงจะกลายเป็นคลื่นต่อเนื่องนำข้อมูลจากอดีตหรืืออนาคตอันไกลโพ้น
มาหาเรา
-เมื่อเราให้ตำแหน่งที่จะไปหยุดนิ่ง จิตจะเป็นอนุภาคไม่มีมวลเคลือนที่เร็วกว่าแสงไปหาตำแหน่งที่เราจะไป

 

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย

 

ความรู้ใหม่..........................

 

อย่าหลงความคิด ความคิดเกิดดับเป็นล้านๆต่อวันต่อคืน
ความคิดไวจริง แต่จิตยังตามความคิดทัน จิตยังคุมจิตอีกที
มาคิดกันเล่น ๆ ถ้าไม่มีจิตมนุษย์จะเดินทางได้เร็วแค่ไหน

 

สำหรับผู้ที่ปฏิบัติและเข้าถึงอภิญญานั้น จิตนั้นเดินทางได้เร็วกว่าแสงหลายเท่าครับ

อธิบายแสงนั้นไม่สามารถส่องผ่านสิ่งกีดขวางบางอย่างได้ ส่วนจิตที่มีจิตมีอานุภาพนั้น

ย่อมไปใด้ทุกหนทุกแห่งและเร็วมากครับ โดยสามารถผ่านทะลุสิ่งกีดขวางได้ทุกชนิด

ครับ

 

จากเรื่องเล่าของหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ที่ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟัง ท่านเคยไปดวงอาทิตย์ ก็คงไปด้วยจิตนะคะท่าน

 

พระสารีบุตร นับเม็ดฝนที่ตกทั่วทั้งโลกในเวลาไม่ถึงเศษ1 วินาที และยังบอกว่าฝนตกช้า นั่นก็จบแล้วคับ ว่าจิตไวขนาดไหน

 

ลืมบอกไปใครฝึก สมาธเยอะๆ สามารถลงไปดูจักรวาล หรือที่ไหนก็ได้ แม้แต่ ดูอดีตชาติ แต่ต้องเห็นดวงสีครบก่อน ได้ ญาน ฌาน หมุนจนเป็นวสีก่อน แล้วอภิญญาจะมาเอง

 

ลองไปเล่นกันดูนะ ถอดจิตออกมาตอนนอน กำหมดสถานที่จะไปเพียงแค่ คิดก็ถึง ไปที่ไหนก็ได้ ไปทำเชี่ยไรก็ได้ (rw) กลับตอนกลับนึกถึงตัวเอง แล้วจะรู้ว่าแมร่งไวชิบหๅย

ผมไม่อยากฝันเลยวะ การฝันคือการมีความรู้สึกแบบหมุนษ อยู่

 

อืมผมก็ว่ายังงั้นเหมือนกันครับ สมองไวกว่าจิต แต่สมองก็ต้องใช้จิตเป็นตัวควบคุมเหมือนกันครับ และที่สำคัญผมมองว่า ความไวของเรา มาจากดวงตา อันน้อยๆ ของพวกเรานี้เอง

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เรื่องของความคิด กับการถอดจิต มันแตกต่างกัน ซึ่งการถอดจิตนี้พระพุทธเจ้าก็เคยทำมาแล้วไง ก่อให้เกิดปัญญา รู้แจ้งในด้านต่างๆ รู้อดีต รู้อนาคต เพราะการถอดจิตไง ไม่ใช่เพราะความคิด