พระอาจารย์ตอบปัญหา ครั้งที่ ๕

Sakchai tha
ถาม ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาศีลอยู่หนึ่งข้อคือข้อ ๔ เรื่องของวาจานะครับ โดยปกตินอกจากการไม่โกหก แล้วคือ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดเท็จ
ผมพยายามไม่พูดเท็จให้มากที่สุด แต่ข้ออื่นๆ ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าผมโกหกทุกอย่างนะครับ หมายความว่างานที่ผมทำต้องพูดคุยกับลูกค้า บางเรื่องเราไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมด เราก็ไม่ได้โกหก แต่พยายามไม่บอกความจริง เช่น ลูกค้าถามว่า "คุณซ่อมโทรศัพท์ให้ฉันหรือยัง ?" ผมยังไม่ได้ทำ แต่บอกว่า "กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการครับ"
ผมติดอยู่ศีลข้อนี้ข้อเดียว เพราะบางทีถ้าผมบอกความจริงทั้งหมด ก็จะทำให้งานเสียได้ แต่ถ้าพูดอ้อมๆ ก็กลัวศีลจะขาด ย้ำนะครับ ผมพยายามไม่โกหก แต่บางครั้งต้องทำ แต่สิ่งที่โกหก ไม่ได้มีเจตนาทำให้ใครเดือดร้อนและประทุษร้าย รบกวนให้ความคิดเห็นหน่อยครับ ผมอยากมีศีลที่บริสุทธิ์ แต่ติดเรื่องนี้เรื่องเดียว
ตอบ การโกหกนั้น ถ้าประกอบด้วยเหตุดังนี้
๑. เรื่องนั้นเป็นเรื่องไม่จริง
๒. เรารู้แน่ชัดว่าว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องไม่จริง
๓. เราตั้งใจโกหก
๔. เราโกหกสำเร็จ
ถ้าเป็นเช่นนี้จะผิด ๑๐๐ % ถ้าขาดส่วนใดไป โทษก็ลดน้อยลง การโกหกที่มีโทษมากคือ การหลอกลวงเขา แล้วผลประโยชน์ในการหลอกลวงนั้นได้แก่เราเอง

WebSnow
ถาม ๑. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องให้มีการบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ ?
ตอบ เป็นเรื่องจำเป็นมาก แต่กว่าจะได้ตอบปัญหาทุกอย่างก็จบไปแล้ว ต้องขออภัย

๒. ทางเบื้องบน เช่น เทวดา นางฟ้า และท่านอื่นๆ ท่านเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไหมครับ ?
ตอบ มีทั้งเห็นด้วย (ฝ่ายรักษาพระพุทธศาสนา) มีทั้งไม่เห็นด้วย(ฝ่ายรักษาผู้คัดค้าน) มีทั้งปล่อยวาง(ท่านที่เป็นพระอริยเจ้า)

๓. ผู้ที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะได้รับกรรมแบบไหนบ้างครับ ? ขอให้ท่านช่วยยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจด้วยครับ ?
ตอบ โทษการคัดค้านในสิ่งที่ดีจริงว่าไม่ดี ในสิ่งที่บริสุทธิ์ว่าไม่บริสุทธิ์ โดยเฉพาะในเรื่องพระพุทธศาสนานั้น มีโทษหลายประการ ดังนี้
๑. ลงอเวจีมหานรกแบบพระเทวทัต หลุดมาได้ต้องผ่านนรกทุกขุมตามกรรมอื่นที่เคยกระทำไว้
๒. พ้นจากนรกมาเป็นเปรตที่มีไฟเผาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
๓. พ้นจากเปรตมาเป็นอสุรกายที่อดอยากหิวโหย หาอะไรกินไม่ได้
๔. พ้นจากอสุรกายมาเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ต้องการอะไรก็ไม่ได้ดังใจ
๕. เกิดมาเป็นมนุษย์จะถูกผู้อื่นใส่ร้ายให้โทษ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่ควรได้ก็ไม่ได้
(พึงให้ผู้ปกครองพิจารณาคำตอบนี้ อย่าเชื่อว่าจะเป็นตามนี้ทีเดียว)

pallop
ถาม กราบเรียนท่านช่วยเมตตา บอกคาถาบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพด้วยครับ แต่ละที่มีหลายบทหลายความ ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี ?
ตอบ บทใดก็ได้ ขอให้จิตยึดมั่นจริง ๆ มีผลทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้ดี ต้องรู้ว่าท่านมีความดีดังนี้
๑. ท่านเป็นผู้มากด้วยความละอาย จึงไม่กล้ากระทำความชั่ว
๒. ท่านเป็นผู้เกรงกลัวว่าความชั่วจะส่งผลไม่ดีต่อท่าน
๓. ท่านเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์
๔. ท่านทรงฌานสมาบัติได้ตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์
๕. ท่านตั้งใจช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์
แล้วเราศึกษาและปฏิบัติตามคุณธรรมเหล่านี้ ท่านจะรักมากและให้การสงเคราะห์เราได้อย่างเต็มที่

พระหลวงพ่อ
ถาม กราบเรียนถามพระอาจารย์เล็กครับว่า การเป็นพระโสดาบันนั้น ต้องรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ คิดว่าสังขารไม่ยั่งยืน ยังไงก็ต้องตาย ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ไม่ลังเลสงสัย และ มีเป้าหมายอยู่ที่นิพพาน
ที่ผมเข้าใจนั่นถูกต้องไหมครับ มีข้ออื่นๆ อีกหรือไม่ ? และถ้าเราถึงความเป็นโสดาบันแล้ว จะมีนิมิตหรือความรู้สึกแตกต่างจากที่ยังไม่ถึงอย่างไรครับ ?
ตอบ ถูกต้องแล้วนะคร้าบบบบบ..! ถ้าถึงความเป็นพระโสดาบันจริง ๆ จะมีความรู้สึก ดังนี้
๑. รักศีลยิ่งกว่าชีวิต ตัวตายซะยังดีกว่าศีลขาด
๒. รักพระนิพพานอย่างแน่นแฟ้นไม่คลอนคลาย
๓. เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๔. มีเครื่องรู้เกิดขึ้นว่าเรามีคุณสมบัติเหล่านี้ครบ
ข้อสุดท้าย ถ้าเป็นสายสุขวิปัสสโกจะไม่เกิดขึ้นครับ

ชายsmfe
ถาม ๑. ผมมีสมาธิไม่ค่อยดีครับ ถ้าทำถึงปฐมฌาน แล้วใช้วิปัสสนาญาณจะมีผลหรือไม่ครับ ?
ตอบ มีผลเป็นพระอริยเจ้าได้ ทั้งพระโสดาบัน และ พระสกทาคามี ขอให้ทำจริงเท่านั้น

๒. การพิจารณาตัดร่างกาย ต้องใช้ มโนมยิทธิเป็นวิปัสสนาญาณตัวสุดท้ายใช่ไหมครับ ? มีผลแน่ใช่ไหมครับ ? (ตัดความลังเลสงสัยเสียด้วยใช่ไหมครับ ?)
ตอบ พิจารณาได้หลายวิธี ดังนี้
๑. แบบไตรลักษณ์ (เห็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้)
๒. แบบอริยสัจ ๔ (หาเหตุของการเกิดทุกข์ให้พบ แล้วเลิกสร้างเหตุนั้น)
๓. แบบวิปัสสนาญาณ ๙ (อุทยัพยานุปัสสนาญาณ ถึง สัจจานุโลมิกญาณ)
มโนมยิทธินั้น ถ้าส่งใจไปอยู่ที่พระนิพพาน จะเป็นการตัดร่างกายแบบอัตโนมัติ เพราะไม่ได้เกาะกับร่างกายอยู่แล้ว

๓. ผมรู้สึกว่าตัวเองจะปรารถนาพุทธภูมิ แต่ไม่อยากจะเกิดมามีทุกข์อีกต่อไปแล้วครับ ถ้าอยากจะลาต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ ถ้าได้ อภิญญา หรือ มโนมยิทธิ ขึ้นไปทูลลากับพระพุทธเจ้าโดยตรง ถ้าไม่ได้ ให้ใช้บัวขาว ๕ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม บูชาที่หน้าหิ้งพระ อธิษฐานขอละความปรารถนาเดิม ขอปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อเข้าพระนิพพานในชาตินี้

๔. อยากจะเรียนถามถึงข้อแนะนำเพื่อถึงความหลุดพ้นจากพระอาจารย์ด้วยครับ ?
ตอบ ในเบื้องต้นให้ปฏิบัติดังนี้
๑. รักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงให้ผู้อื่นล่วงศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นล่วงศีล
๒. เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างมั่นคง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๓. รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย เมื่อตายแล้วขอไปพระนิพพานแห่งเดียว
ถ้าทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วมาถามใหม่ จะบอกวิธีเพิ่มเติมให้

Nothingness11
ถาม ตอนนี้ได้เริ่มฝึกสมาธิแบบจริงจังค่ะ แต่ว่าผลการทำสมาธิที่ได้นั้น ไม่เป็นไปตามที่คนอื่นๆ เค้าพูดกัน ที่ว่าจะมีอารมณ์สบาย กลับเป็นอารมณ์เครียดมากกว่าค่ะ ทั้งที่จิตก็มีความเป็นสมาธิ และรู้สึกสงบนะคะ แต่ทำไมถึงไม่เคยมีความรู้สึกที่ว่าสบาย หรือมีความสุขเลยค่ะ
หลายครั้งที่ร่างกายมีอาการโยกโคลง แต่ก็จะลงท้ายด้วยการรู้สึกเครียด หรือรู้สึกว่าตัวเองนั้นจมดิ่งลงไปค่ะ รบกวนท่านช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรจะแก้ไขอย่างไรดี ไม่ทราบว่าปฏิบัติผิดตรงไหนไปหรือไม่ ?
ตอบ ๑. ถ้าทำมากไป ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอก็ทำให้เครียดได้
๒. จิตทรงเป็นฌาน โดยเฉพาะฌาน ๓ ถ้าไม่ชินกับความตึงแน่นแบบนั้น ก็อาจจะคิดว่าเป็นความเครียดได้
๓. การโยกโคลงของร่างกาย เป็นโอกกันติกาปีติ
๔. การจมดิ่งลงไป เป็นจิตที่เริ่มเป็นปฐมฌาน แต่สติตามไม่ทัน จึงพลัดจากฌานลงมา

nuza
ถาม เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนได้พาดิฉันไปพบพระรูปหนึ่ง ท่านเป็นพระหนุ่ม ตอนแรกดิฉันก็เลื่อมใสศรัทธา แล้วเพื่อนดิฉันก็เอาเบอร์ดิฉันให้ท่านไป เพราะดิฉันกับเพื่อนได้ช่วยกันทำงานต่างๆ ให้ท่าน อาทิ หนังสือสวดมนต์
แล้วคืนหนึ่งท่านโทรหาดิฉันเป็นครั้งแรก ดิฉันก็แปลกใจ แต่ในใจคิดว่า ท่านมีงานอะไรจะให้ช่วยทำหรือเปล่า โดยส่วนตัวดิฉันเป็นคนที่พูดคุยสนุกสนาน ติดตลก แล้วก็เป็นกันเอง
ดิฉันกลัวพระท่านจะเกรงใจที่จะใช้งาน เลยพูดจาติดตลกให้พระท่านสบายใจ กล้าใช้งานดิฉัน แต่พระท่านก็ไม่ได้ใช้ให้ทำอะไร ท่านคุยกับดิฉันนานนับชั่วโมง ดิฉันอยากวาง แต่ไม่กล้าวางสายก่อน เพราะเกรงใจพระ กลัวท่านเคือง
ในตอนแรก ท่านบอกว่าคุยกับดิฉันแล้วถูกจริตดี ชมว่าดิฉันพูดจาน่ารัก ดิฉันก็งง เพราะพูดตามปกติ ท่านอ้างว่า ดิฉันมีความเกี่ยวข้องกับท่านในอดีตชาติ และถามว่าดิฉันรู้สึกกับท่านยังไง เห็นท่านแล้วรู้สึกยังไง
ดิฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี เพราะกลัวท่านโกรธ เลยบอกก็รู้สึกท่านมีบารมี ผิวพรรณผ่องใส ท่านก็ว่าดิฉันปากหวาน ท่านถามถึงครอบครัวดิฉันในทำนองที่ว่า มีสามีไหม ? ถ้ามี เวลาคุยกับท่าน สามีจะหึงไหม ?
ดิฉันไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ก็บอกไปว่า คุยกับพระ คงไม่มีใครคิดอกุศลมั้งคะ ท่านบอกว่าท่านเมตตาดิฉัน ให้ดิฉันอย่าทอดทิ้งท่าน ถ้าท่านเรียกใช้งานก็ให้ไปหา ให้ดิฉันพูดจากับท่านแบบวันนี้
ในระหว่างที่คุยกัน ดิฉันจะถามตลอดว่า มีงานอะไรจะให้ดิฉันช่วยทำไหม ท่านไม่ว่าอะไร คุยไป หัวเราะไป ชมดิฉันไปไม่ขาดปาก จนท่านถามว่ากินข้าวหรือยัง ดิฉันได้ทีเลยตอบว่ายังคะ ท่านเลยวางสายไป
ดิฉันไม่สบายใจเลยคะ ไม่เข้าใจเจตนาในคำพูดของพระรูปนี้ ท่านอาจจะเมตตาดิฉันจริงๆ อย่างบริสุทธิ์ใจ หรือว่ามีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ?
ในคืนต่อมาตอนดึก พระรูปนี้ก็โทรมาหาดิฉันอีก แต่ดิฉันไม่ได้รับสาย เพราะดิฉันกลัว และไม่สบายใจอย่างยิ่ง ดิฉันไม่อยากทำให้พระศาสนามัวหมอง ดิฉันอยากช่วยงานท่าน ในส่วนที่ได้ส่งเสริมพระศาสนา แต่กลัวว่าเหตุการณ์จะไม่เป็นอย่างที่คิด
อยากถามท่านว่า การที่พระรูปนี้ปฏิบัติต่อดิฉันแบบนี้ มันเหมาะสมหรือไม่ ? ถ้าเจตนาของท่านบริสุทธิ์จริง ดิฉันคิดในด้านลบ ดิฉันจะบาปไหม ?
ถ้าท่านโทรมาอีกดิฉันจะทำอย่างไรดี ? จะคุยหรือจะไม่รับสายดี ? กลัวว่าถ้าไม่รับสาย พระท่านจะเคือง ดิฉันจะได้รับบาปตรงนี้ ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะ ไม่สบายใจเลย
ตอบ ภิกษุคือลูกชาวบ้าน เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องแบบ เปลี่ยนกติกาในการดำเนินชีวิตเท่านั้น ถ้าไม่ตั้งใจบวชเพื่อละจริงๆ แล้ว กิเลสก็พอกันกับเรานี่แหละ
ถึงท่านบริสุทธิ์ใจก็ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง ถ้าท่านปล่อยวางได้ ก็เป็นการปล่อยวางลงบนหัวคนอื่น..เลิกไปหา เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสีย โทรมาอย่ารับสาย สตรีกับสตางค์พานักบวชพังมานักต่อนักแล้ว..!

Pong10500
ถาม ผมกำลังฝึกกสิณครับ เวลาปฏิบัติผมทำภาพเอง โดยนำภาพมาลงบนจอคอมพิวเตอร์ แล้วปิดไฟฟ้าในห้องให้มืด นั่งเพ่งมอง โดยมีข้อสงสัย ๒ ข้อครับ
๑. ถ้าเป็นภาพสมเด็จองค์ปฐม เมื่อปิดไฟฟ้าในห้องแล้ว จะเห็นเฉพาะองค์สมเด็จองค์ปฐมเรืองแสงสว่างสีเหลืองทอง เป็นอาโลกสิณ หรือ วรรณกสิณ หรืออะไรแน่ครับ ?
ตอบ เป็นพุทธานุสติควบปีตกกสิณ(สีเหลือง)

๒. ผมทำวงสีขาว พื้นเป็นสีดำ เมื่อปิดไฟในห้องแล้ว จะเห็นวงสีขาวเรืองแสง เป็นอาโลกสิณ หรือโอทาตกสิณครับ ?
ตอบ เป็นโอทาตกสิณ (สีขาว)

-๑ไร้IดีeJสา๑-
ถาม ผมฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออก ตอนฝึกแรกๆ ก็เจอปัญหาว่า รู้สึกว่ากายจะพอง กระเพื่อม ตัวจะบิดหมุนรอบเป็นเกลียว แต่ก็ผ่านมาได้
กำหนดลมจนรู้ว่าละเอียดกว่าแรกๆ หายใจเบาลงๆ จนมาเจอทางตัน เพราะรู้ตัวว่าลมหายใจหายไป เลยกลัวอึดอัด ต้องขึ้นมาจากอารมณ์นั้น ไม่กล้าสงบลงไปอีก เพราะลงไปก็เป็นอีก
ผมนั่งได้พอชำนาญ ไม่เมื่อยเหมือนตอนแรกๆ ทนเจ็บได้จนไม่รู้สึก แต่มาเจอแบบนี้ตันครับ และผมก็ไม่ได้พยายามฝืนบังคับให้สงบด้วย เวลานั่งก็ไม่ได้สนใจนิมิตอะไรๆ เลย เป็นเพราะอะไรครับ ?
๔ ปีแล้วครับ ยังแก้ไม่ได้ อาการนี้ได้มาจากตอนบวชครับ บวชอยู่ ๘ เดือน มีโอกาสศึกษา เลยเลือกนั่งสมาธิ พอลาสิกขาออกมาก็ทำงาน แต่เน้นเริ่มมากำหนดรู้เอาอารมณ์ตัวเองมาพิจารณาแทนครับ เพราะเลิกงานดึก งานก็เครียด เพราะต้องควบคุมงานให้ตรงตามแผนงาน เพราะถ้างานไม่เสร็จทันกำหนดก็โดนปรับ มีผลต่อตำแหน่ง ต้องอยู่ในสถานการณ์จริง
ผมฝึกดูใจ (รู้) ตัวเองอยู่ ควบคู่กับการกำหนดลมหายใจ และตอนนี้ปัจจุบันเวลานั่งสมาธิ เวลาลมหายใจเริ่มหาย ผมจะรู้สึกว่ามันไม่หาย แต่มันเบาลงๆ แต่ละเอียดกว่าเดิมจากที่หายไป ยังรู้สึกในตอนที่หายลงไปอีกได้ บางทีนอนทำเอา ก็รู้สึกแค่หัวใจมันเต้นตุ้บๆ รู้อยู่แค่นั้นมันเบามากๆ และอยู่ได้นานกว่าเดิมมาก ผมไม่สนใจเรื่องฤทธิ์เดชอะไรเท่าไรครับ ผมเห็นแนวทาง แต่ยังไปไม่ค่อยถูกครับ ที่ศึกษามาเองก็มาได้ประมาณนี้ครับ
โชคดีตอนบวช ได้หลวงพี่ท่านแนะนำฝึกเรื่องดูใจ (รู้) มาด้วยของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล แต่ตอนนี้ท่านออกปฏิบัติธรรม เลยไม่รู้จะปรึกษาผู้รู้ท่านใด บางที่เขาบอกให้ไปรับขันธ์ฝึกกรรมฐาน
ผมไม่แน่ใจเลยไม่ตาม เรื่องมันอาจจะยาวซักหน่อย แต่อยากขอความเมตตาจากท่านช่วยหาทางแก้ไขให้ด้วยครับ
แต่หลวงพี่ท่านเคยบอกผมมาว่า สติยังอ่อนอยู่ ตอนเป็นครั้งแรกครับ ท่านบอกให้รักษาศีลให้ดีด้วย เป็นคำแนะนำตอนสมัยที่บวชอยู่ครับ
ตอบ ๑. อาการพองกระเพื่อม เป็นผรณาปีติ
๒. กลัวอึดอัดคือกลัวตาย เลิกกลัวตายจะข้ามไปได้
๓. การกำหนดรู้อารมณ์ตัวเอง อยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตร ข้อ จิตในจิต และ ธรรมในธรรม
๔. ลมหายใจไม่ได้หายไปไหน ถ้าจิตละเอียดจริงจะจับได้ แต่อาการภายนอกเหมือนไม่หายใจ

ปัญญวัฒน์
ถาม ๑. ถ้าหากเรายังไม่เป็นพระอริยเจ้า จะถือศีลและนึกเว้นเอาเองในใจ โดยไม่ได้สมาทานกับพระสงฆ์หรือพระพุทธรูปจะได้หรือไม่ ? และหากนึกเว้นเอาเองในใจ โดยไม่ได้สมาทานเป็นภาษาบาลีจะได้หรือไม่ ?
ตอบ การสมาทานเป็นแค่การศึกษาว่าศีลมีอะไรบ้าง ศีลจะเป็นศีลหรือไม่อยู่ที่ตั้งใจงดเว้น

๒. จำเป็นต้องถือครบทั้ง ๕ ข้อหรือเปล่าครับ ?
ตอบ ข้อใดขาดจะมีโทษลงอบายภูมิ ตัดสินใจเอาเองว่าจำเป็นต้องถือครบหรือไม่ ?

๓. ระหว่างการไม่ละเมิดศีล เพราะมีจิตคิดละเว้น เพราะถือว่าทำไปจะเป็นการผิดศีล กับการไม่ละเมิดเพราะว่าเป็นปกตินิสัยของผู้นั้นเอง ที่ไม่ชอบทำแบบนั้น ทั้ง ๒ กรณีนี้แบบไหนดีกว่า? และแบบที่ ๒ จะมีอานิสงส์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ แบบแรกเป็นแบบโลกิยะ อานิสงส์ระดับกามาวจรและรูปาวจร แบบที่ ๒ เป็นแบบของพระอริยเจ้า อานิสงส์ถึงพระนิพพาน

๔. พระอริยเจ้าท่านมีศีลตลอดเวลา อยากทราบว่าท่านต้องสมาทานก่อนตอนเช้า หรือว่าท่านไม่ต้องสมาทานครับ ?
ตอบ ศีลทรงตัวโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปเสียเวลาสมาทาน เพราะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศีลอยู่แล้ว

๕. ที่วัดสระพัง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เห็นมีหล่อสมเด็จองค์ปฐมเหมือนวัดท่าขนุน อยากทราบว่ามีความเกี่ยวพันกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ ท่านพระครูไพโรจน์ภัทรคุณ วัดสระพัง มีความเกี่ยวเนื่องกัน คือ
๑. นับถือและปฏิบัติตามแบบของหลวงพ่อวัดท่าซุง
๒. เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนพุทธศาสตร์บัณฑิต
๓. เป็นทหารร่วมกองทัพธรรม

ลูกตอ
ถาม ผมเอาเงินในบาตรวิระทะโย ที่ตั้งใจถวายเป็นค่าอาหารพระ ไปเช่าจตุคามรามเทพ ของวัดถ้ำเสือ ที่หาทุนสร้างพระเจดีย์จนหมด จะสมควรหรือไม่ ? เป็นหนี้สงฆ์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ เงินในบาตรวิระทะโย เป็นสังฆทาน เอาไปใช้ใน วิหารทานและ ธรรมทานได้

อัจฉราภรณ์ ภูดินดาล
ถาม ๑. พระปัจเจกพุทธเจ้าสามารถสงเคราะห์สัตว์โลกด้วยวิธีใดได้บ้างคะ ?
ตอบ ๑. สอนใน ทาน ศีล ภาวนา เบื้องต้น (ไม่สอนถึงมรรคผล)
๒. เข้านิโรธสมาบัติแล้วเสด็จไปโปรดผู้ที่วาระบุญส่งผล
๓. ผู้ที่เคารพบูชาท่าน ย่อมมีลาภผลมากกว่าปกติ

ถาม ๒. พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นหญิงได้ไหมคะ ?
ตอบ ไม่ได้ เพราะผู้ที่จะได้เกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
๑. ต้องเกิดเป็นผู้ชาย
๒. ต้องเป็นนักบวช
๓. ต้องได้อภิญญา ๕
๔. ต้องได้สร้างบุญใหญ่ในพระพุทธศาสนา
๕. ต้องตั้งความปรารถนาว่าผลบุญนี้จงส่งให้เป็น ฯลฯ
แค่ข้อแรกก็แปลว่าต้องเป็นปรมัตถบารมี ซึ่งถ้าไม่ตั้งความปรารถนาว่าจะเป็นเนื้อคู่พระโพธิสัตว์ หรือเป็นพระพุทธมารดา ย่อมต้องเกิดเป็นผู้ชายเท่านั้น

ถาม ๓. ข้าพเจ้าควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะไม่ลงอบายภูมิ ?
ตอบ ๑. รักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงให้ผู้อื่นล่วงศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นล่วงศีล
๒. เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างมั่นคง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๓. รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย เมื่อตายแล้วขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ถาม ๔. พระอนิตยโพธิสัตว์มีโอกาสลงอบายภูมิไหมคะ ?
ตอบ นิยตโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้ว่าจะตรัสรู้) อย่างโตไทยพราหมณ์ ยังลงนรก แล้วอนิยตโพธิสัตว์ที่หาความเที่ยงไม่ได้ ยากนักที่จะไม่ลง

bannawat
ถาม ทำมาค้าขายไม่มีกำไรครับ ไม่ทราบว่ามีทางแก้ไขได้หรือไม่ ?
ตอบ ภาวนาคาถาเงินล้าน จะช่วยได้เป็นอย่างมาก

Grisana-2006
ถาม เสียงเล็กแหลม ๆ ใส ได้ยินทุกวันเลยครับ เสียงที่ได้ยินนั้น บางครั้งจะมีอาการหัวสั่นแรงมาก บางครั้งผมก็กำหนดตามเสียงไป ยิ่งตามก็ยิ่งสั่นมาก ควบคุมร่างกายแทบไม่ได้ จะต้องอาราธนาพระท่านก่อนจึงจะนอนได้ เป็นอย่างนี้มาประมาณ ๑๐ กว่าปีแล้ว ตั้งแต่บวชเป็นเณร หลวงปู่ท่านบอกว่าเป็นเพราะเรามีศีลที่บริสุทธิ์ พระท่านก็เลยให้เกิด
แต่อาการหัวสั่นนี้ไม่ได้เป็นทุกวัน เป็นปีหนึ่งประมาณ ๒ - ๓ ครั้ง แต่กลัวมากครับ ยิ่งเวลาที่ไม่มีใครอยู่ด้วย จึงอยากถามว่า ผมจะต้องทำอย่างไรต่อดีครับ ? เพราะทุกวันนี้ก็เป็นอยู่ ทุกวันนี้ก็นั่งสมาธิทุกวันครับ บางครั้งก็ได้ยินเสียงเด็กและคนแก่ เวลาที่เราอธิษฐานจิตตอนสวดมนต์อยู่ ไม่ทราบว่าอาการดังกล่าว เป็นเพราะอะไรกันแน่ครับ ?
(ผมชื่อ กฤษณรงค์ แก่นสาร เกิดปีวอก ๕ พ.ค. ๒๕๒๓ บวชเณร อายุ ๑๕ปี ครับ ๑ ปีกว่า ตอนเรียนจบปริญญาตรี ทำงานครับ พอดีได้ไปร่วมงานเป่ายันต์ที่วัดท่าขนุน เห็นมีกระทู้นี้ เลยถามผ่านกระทู้ครับ )
ตอบ น่าจะเกิดจากอาการปีติ (หัวสั่น ตัวสั่น) ซึ่งเป็นช่วงของอุปจารสมาธิพอดี ทำให้สามารถสัมผัสความเป็นทิพย์ได้ (ได้ยิน ได้เห็น) ถ้าเลิกกลัว ปล่อยให้เป็นเต็มที่ไปสักครั้ง (บางท่านกระโดดโลดเต้นตึงตังเลยก็มี) ก็จะผ่านไปและไม่กลับมาเป็นอีก


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐




.

 

ใช่ครับ..ตอบไม่เหมือนใครจริง ๆ ดูที่ท่านตอบซิครับ

"..ถูกต้องแล้วนะคร้าบบบบบ..!.."

เคยเจอที่ไหนบ้างละครับ..?

 

ตามความเห็นของผมนะครับ ผู้ที่ท่องคาถาเงินล้านด้วยความเคารพ เชื่อมั่น และศรัทธาด้วยความจริงใจ แม้ใจไม่ดี คิดแต่จะได้ฝ่ายเดียว (เป็นธรรมดาของคน) บุญกุศลไม่ค่อยได้ทำ ก็ย่อมมีผลเช่นเดียวกัน แต่ผลที่ได้อาจจะไม่เท่ากับผู้ที่จิตใจดีและหมั่นสร้างบุญกุศลอยู่เสมอครับ


.

 

ช่วยได้ครับพี่ แต่ช่วยให้ "ไม่ได้" ต่อไปครับ ถ้าจิตดี ไม่คิดเอาแต่ได้ ก็จะช่วยให้ "ได้" ครับ

ขอกลับไม่ได้ ไม่ขอกลับได้ สวดเพราะเป็นสมบัติที่พ่อให้มา (ความรวยขึ้นกับกุศลเก่าที่ทำมา) อย่าสวดเพราะหวังรวยนะครับ

ขออนุโมทนา