รวมสุดยอดสายวิชาแหวนนพสูรย์+ปรอทกินทอง

ขอสอบถามครับ
</o</o</o
<o<o<oแหวนตัวเรือนสัตตโลหะ หัวเมฆสิทธิ์ ยันต์นะหน้าทอง
และ</o</o</o
แหวนตัวเรือนฟิวเตอร์ (โลหะผสมดีบุก) หัวเมฆสิทธิ์

ที่ทำบุญกับหลวงปู่ดีนั้นเป็น ในราชาฤกษ์ หรือ ในเพชฌฆาตฤกษ์

ขอบคุณครับ

 

แหวนสัตตะที่ถวายหลวงปู่ดีไปเป็นแหวนที่หล่อในราชาฤกษ์
ส่วนแหวนฟิวเตอร์ไม่ได้ทำในฤกษ์ครับ เพราะวันนั้นราชาฤกษ์มีกำหนดระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมง
จึงหล่อเฉพาะเนื้อเงินและเนื้อสัตตะ
ส่วนแหวนฟิวเตอร์หล่อพ้นจากฤกษ์ไปแล้ว แต่จะถือว่าเป็นฤกษ์ต่อเนื่องของราชาฤกษ์ก็ได้

 

แหวนเนื้อสัตตะ ใส่แล้วเนื้อจะกลับ เหมือน พวกเนื้อนวะ หรือใส่ยังไงสีก็ยังเหมือนเดิมครับ

ขอบคุณครับ

 

เสร็จจากวัดหลวงพ่อตี๋ ก็ตั้งใจว่าจะไปหา ลพ.โฉม วัดเขาปฐวี ต่อ
แต่ปรากฏว่าระหว่างทางที่จะไปวัด ลพ.โฉม เจอป้ายบอกทางแยกไป ลป.เร่ง วัดดงแขวนก่อน
ก็เลยเปลี่ยนใจไปกราบ ลป.เร่ง วัดดงแขวน แทน



หลวงปู่เร่ง ฐานธัมโม วัดดงแขวน ต.สว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี
อายุ 85 ปี ท่านมีศักดิ์เป็นหลายชายของ ลพ.เคลือบ วัดหนองกระดี่ และได้รับถ่ายทอดวิชาทำตะกรุด 3 กษัตริย์มา
นอกจากท่านยังเป็นศิษย์ ลป.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส อุทัยธานี สืบทอดวิชาตะกรุดโทนสายวัดหลวงราชาวาส
วัตถุมงคลท่านจึงเด่นทางด้านมหาอุดและคงกระพัน โดยเฉพาะตะกรุดต่างๆ ท่านๆ ทำไม่ทันเลยทีเดียว
และของทุกอย่างของท่านมีประสบการณ์มาก คนเอาไปลองยิงปืนแตกมาหลายรายแล้ว
วัตถุมงคลที่วัดท่านก็มีหลากหลายชนิด บางส่วนก็เป็นของโหลที่เหมาจากอ.พยุหะ มาเสกแบบเดียวกับวัดอื่นๆ ในแถบนี้
แต่ที่น่าสนใจก็มี รูปถ่ายหุ้มดีบุกหลังจาร ตะกรุดหนังเสือ เล็บเสือ กระโหลกเสือ มีดหมอ สิงห์ ฯลฯ<O</O



คณะพวกเราไปถึงวัดดงแขวนก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว
เป็นเวลาที่พระกำลังจะทำวัตรสวดมนต์เย็นกันพอดี
ท่านก็เลยให้พวกเรายกวัตถุมงคลไปตั้งไว้ที่หน้าพระประธานพร้อมโยงสายสิญจน์เรียบร้อย
แล้วตัวหลวงปู่พร้อมพระทั้งวัดก็ได้สวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์เย็น
ทำให้วัตถุมงคลทั้งหมดได้เข้าพิธีในครั้งนี้ด้วย



เสร็จแล้วท่านก็ยังเมตตานั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวต่อให้อีกพักใหญ่
ส่วนใหญ่ท่านก็จะเสกไปทางมหาอุดตามที่ท่านถนัด แต่ที่ได้ยินและรู้จักก็คือ คาถาบารมี 30 ทัศน์
ลักษณะท่านเป็นคนที่มีตบะอำนาจมาก เหมือนคนดุแต่จริงๆ แล้วท่านเมตตามาก
คณะเราเป็นคณะสุดท้ายที่ท่านรับแขกก่อนจะปิดประตูกุฏิพักผ่อน เพราะวันนี้ท่านรับแขกทั้งวัน



เรียกได้ว่าการนำแหวนไปเสกในครั้งนี้ ครูบาอาจารย์ต่างตั้งใจเสกให้แบบเป็นพิธีการแทบทุกรูป
ไม่ได้เป่าพ้วงเดียวประเดี่ยวประด๋าว
นับเป็นความเมตตาและความโชคดีของผู้ที่ได้ร่วมสร้างแหวนถวายหลวงปู่ดีในครั้งนี้จริงๆ
</O

 

วัดสุดท้ายของทริปการเดินทางในวันเสาร์ครั้งนี้ คือ วัดโรงโค เพื่อไปกราบ ลป.อั้น
พวกเราไปถึงวัดก็ทุ่มกว่าๆ แล้ว แต่ท่านก็ยังเมตตารับแขกพวกเรา

พระครูอุทัยธรรมสาร (อั้น อภิปาโล) วัดธรรมโฆษก (โรงโค) ต.สะแกกรัง อ.เมือง อุทัยธานี
อายุ 79 ปี สุดยอดพระเกจิที่ชาวอุทัยธานีขนานนามท่านว่า
“ พระจี้กงแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง ” หรือ “ หลวงพ่ออั้นเทวดา ”หรือ " เทวดาตาทิพย์ "
ท่านสืบสายวิชา ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จากท่านเจ้าคุณพุฒ (พระราชอุทัยกวี) วัดมณีสถิตย์ฯ อุทัยธานี
และร่ำเรียนวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ อาทิ ครูบาศรีวิชัย ลพ.เดิม วัดหนองโพธิ์ ลพ.จันทรา ชัยนาท
ลป.พลอย วัดห้วยขานาง อุทัยธานี ซึ่งเก่งทางเล่นแร่แปรธาตุและตะกรุดโทนเข้มขลัง
ลพ.เคน วัดดงเศรษฐี อุทัยธานี เก่งด้านเมตตามหานิยมและวิชาตำรับจักรพรรดิพุทธคุณครบเครื่อง
ลพ.เคลือบ วัดหนองกระดี่ พระอภิญญาผู้เสกเหล้าเป็นน้ำ
ลพ.พูน วัดหนองตางู อุทัยธานี พระผู้โด่งดังด้วยการใช้พลังจิตผสานกับสมุนไพรสยบความเจ็บป่วยให้หายได้อย่างอัศจรรย์



เมื่อกราบเรียนท่านถึงความประสงค์แล้ว ท่านก็เมตตาเสกให้อย่างดี
อีกทั้งยังจุดเทียนทำน้ำมนต์ให้เป็นพิเศษอีกด้วย
ก่อนจะกลับท่านยังเมตตาแจกพระให้คนละองค์เป็นที่ระลึก
อ้อ...ก่อนกลับท่านบอกหวยงวดนี้ให้ด้วย...555

ส่วนเสาร์ที่จะถึงนี้ก็มีโปรแกรมไปทางสุพรรณบุรี ที่ลิสต์ไว้ในใจก็มี
ลพ.สมคิด วัดเขาวงศ์ ลป.นาม ลป.น่วม ลป.นิ่ม ลป.หริ

 

แหวนสัตตะใส่ไปนานๆ เนื้อจะกลับเหมือนนวะนะครับ
แต่สีของแหวนสัตตะจะเปลี่ยนไปตามดวงชะตาของผู้ใส่เหมือนกับหัวเมฆสิทธิ์ด้วยครับ

 

ขอบคุณครับครับ พี่anuchang

 

เมื่อวันอังคารที่ 11 ที่ผ่านมา ทางคุณธรรมประทีปก็รับภาระนำแหวนไปให้ ลพ.สิริ ท่่านอธิษฐานจิตเป็นครั้งที่ 3
แต่คราวนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/b771ec1987e23807d0cc6966d191e0a9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ib/o6111.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>




มีภาพกองวัตถุมงคลก่อนหลวงพ่อสิริเสก ให้ชมครับ
(สังเกตุ กล่องกระดาษขาว มีหมึกจารสีน้ำเงินของหลวงพ่อเกิด วัดเขาดิน เมื่อ 8 ก.ย.)





<a href="http://pic.free.in.th/id/fd0d37936a6f2f09732a5653c5d3c89a" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ir/gj112.jpg" alt="image by free.in.th" /></a>




เพราะขณะเสกน้ำมนต์ ทุกคนนั่งทำสมาธิ ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูป



*** กล่องพลาสติกใส่พระ ที่วางบนสุดเหนือกล่องแหวน
เดี๋ยวจะมีข่าวดีแจ้งครับ ติดตามในกระทู้พระเพื่อการกุศล เร็วๆนี้

...
​

 

ขออนุโมทนาบุญ กับ คุณหมอ และคุณธรรมประทีป ด้วยนะครับ ตั้งหน้าตั้งตารอแหวนอย่างใจจดใจจ่อครับ ไม่รู้จะกล่าวอย่างไร นอกจาก เป็นกำลังใจให้นะครับและขอบคุณมากๆครับ

 

เมื่อวานนี้ (วันเสาร์ที่ 15 กันยายน) ก็ได้เดินทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี
ออกเดินทางกันตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง ไปกันแค่ 2 คน เล่นเอาทุลักทุเลพอสมควรตอนขนของขั้นและลง
ตอนก่อนออกเดินทางคิดว่าสงสัยคราวนี้คงจะลำบากต้องเจอฝนระหว่างทางเป็นแน่
เพราะเห็นฟ้ามืดครึ้มมาแต่เช้าแล้ว แต่พอเข้าเขตสุพรรณฯ ท้องฟ้ากลับเปิดแดดออกดี
เสมือนเป็นสัญญาณนิมิตหมายที่ดี




วัดแรกที่แวะไปเป็นวัดแรกคือ วัดชีปะขาว ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ซึ่งมี พระครูสุวรรณพัฒนโกศล (ทองเหมาะ ธมฺมธีโป) อายุ 74 ปี 53 พรรษา เป็นเจ้าอาวาส
ลพ.ทองเหมาะ ท่านมีปู่เป็นนักเลงเรืองอาคม เพราะปู่ท่านเป็นศิษย์ ลพ.เนียม วัดน้อย
แถมยังได้รับตำราที่เกี่ยวกับการลงตะกรุด เลขยันต์ วิชาคงกระพันชาตรี จากหลวงพ่อเนียมถึง ๓ เล่ม ซึ่งก็มีวิชาเด่นๆ อยู่มากมาย
เช่น วิชาเสือมหาอำนาจ วิชาตรีนิสิงเหที่ ลพ.เนียม ใช้ลงตะกรุดมหาอุด วิชาหัวใจพระกัสสป (สี่เกลอ) ที่นำมาลงเป็นตะกรุดสังวาลย์เพชร วิชาลบผงต่างๆ
วิชาเหล่านี้ลพ.ทองเหมาะและพี่ชายของท่าน ท่าน คือ พระครูสุวิบูลย์สังฆกิจ (ประจวบ สมฺปณโณ) วัดบางใหญ่ ได้สืบทอดไว้จนหมดสิ้นตั้งแต่ก่อนบวช
และท่านมีความชำนาญในการผูกพยนต์เสือ โดยท่านผูกและเลี้ยงเสือไม้ตัวใหญ่ของท่านไว้เอง ๒ ตัวมาเนิ่นนาน ชื่อ ไอ้เหลือง กับ ไอ้ดำ
หลังบวชแล้วได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ ลพ.ครื้น วัดสังโฆ ได้รับถ่ายทอดการสร้างเครื่องรางรูปสัตว์ต่างๆ
เรียนวิชาการทำน้ำมนต์เดือดและวิชาธรรมกายจาก ลพ.เล็ก วัดลาดหอย ศิษย์ ลพ.สด วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นหลวงลุงของท่าน
เรียนวิชาสาย ลพ.อ่ำ วัดชีปะขาว จากอาจารย์หล่อ
เรียนวิชาสักจากอาจารย์ยิ้ม ฆราวาสหนังเหนียว





ลพ.ทองเหมาะท่านเป็นพระที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด ขนาดเจ็บป่วยอะไรท่านก็ไม่เคยปรืปากบอกใคร
ดวงตาของท่านดูเป็นคนที่มีอำนาจ ตบะเดชะมาก เหมือนคนดุแต่จริงๆ แล้วท่านเป็นพระที่ใจดีมีเมตตามาก
วัดของท่านดูเป็นวัดเล็กๆ มีถนนลูกรังเล็กๆ กั้นระหว่างวัดกับบ้านชาวบ้าน
แต่ขนาดวัดเล็กๆ แบบนี้ กลับปรากฏว่าในตู้วัตถุมงคลของท่านก็มีวัตถุมงคลของศูนย์มาสร้างให้ท่านไว้
มีพระโคอุศุภราชเนื้อผง ตุ๊กแกเนื้อผงตำรับลพ.ครื้น วัดสังโฆ เสือไม้กระท้อนแกะ และรูปหล่อเหมือนห้อยคอ
และมีเหรียญหล่อโบราณหูขวางย้อนยุคที่ทางวัดสร้างเองอยู่รุ่นหนึ่ง
ด้านหน้าเป็นรูป ลพ.อ่ำ วัดชีปะขาว อดีตเจ้าอาวาสที่เลื่องชือ ด้านหลังเรียบ
เลยทำบุญกันมาคนละเหรียญไปให้ท่านจารด้านหลังให้
เมื่อกราบเรียนถุึงวัตถุประสงค์แล้วท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตให้
พอดีไปกันแค่ 2 คน เลยขลุกขลักพอสมควร ทำให้ไม่ทันได้จับภาพตอนท่านถือสายสิญจน์เสกแหวนให้<O</O

 

หลังจากนั้นก็แวะไปกราบรูปหล่อเหมือน ลพ.เนียม วัดน้อย
ตอนกราบก็บอกท่านในใจว่าลูกมากราบขอบารมีหลวงปู่ ช่วยเสกแหวนในรถให้ด้วย
ไม่รู้อุปาทานไปเองป่าว จู่ๆ ก็หนาวยะเยือกจนขนลุกขึ้นมาซะงั้น

ออกจากวัดลพ.เนียมไปได้สัก 5 กม. ก็ถึงวัด ลพ.ปริ่ง วัดโพธิ์คอย ที่เคยโด่งดังในเรื่องการเป่ายันต์เกราะเพชร
พระครูสิริจันทสาร (ปริ่ง สิริจันโท) วัดโพธิ์คอย ต.ท่าระหัด อ.เมือง สุพรรณบุรี
ท่านเป็นศิษย์ ลพ.โบ้ย วัดมะนาว เชี่ยวชาญในการเป่ายันต์เกราะเพชร
เพราะเรียนมาจาก ลพ.โบ้ย ซึ่ง ลพ.โบ้ย เรียนต่อมาจาก ลพ.ปาน วัดบางนมโค อีกที
ลพ.ปริ่งท่านจะเป่ายันต์เกราะเพชรปีละครั้ง ซึ่งแต่ก่อนโด่งดังมาก
แต่ที่มาเงียบหายไปก็เพราะท่านป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แต่ตอนนี้ท่านเกือบเป็นปกติแล้ว



ท่านเป็นพระที่เมตตามาก ท่านแจกพระยังกะแจกของฟรี
เพราะพระของท่านเลี่ยมกรอบทองไมครอนพร้อมสร้อยสำหรับแขวนได้เลย
เรียกได้ว่าต้นทุน ค่าเลี่ยม ค่ากรอบ ค่าสร้อย ก็คงไม่ใช่น้อยแล้ว



ก่อนเสกท่านก็ให้หยิบแหวนมาให้ท่านดู พอท่านเหลือบไปเห็นแผ่นยันต์ที่ลพ.ทองเหมาะจารให้
ท่านถึงกับทักว่า โว๊ย...ของใครละนั่น เลยคิดว่าน่าจะมีอะไรไปกระทบกับจิตท่าน
ท่านเสกพระให้นานเกือบ 10 นาที ในรูปจะเห็นเข่งใบใหญ่
ในนั้นเป็นพระของท่านที่มีคนบูชาจนต้องใส่เข่งยกกันเลย
สงสัยจะมีประสบการณ์ดีมาก ถึงได้เช่ามากขนาดนั้น

ปรากฏว่าพอเสกเสร็จท่านก็เอ่ยปากขอแหวนไว้แจกบ้าง
แต่พอดีแหวนที่เอาไปนี่เป็นส่วนที่มีคนจองไว้ทั้งหมดแล้ว
โชคดีที่คุณธรรมประทีปติดเหรียญพระศรีอาริย์หลังลป.ทวดที่ทำถวายวัดนาอุดมไป
ก็เลยเอาเหรียญถวายท่านแทน เลยทำให้รอดจากการขายหน้าไปได้
ถ้าใครอยากจะสร้างพระเพื่อแจกเอาบุญ ขอแนะนำวัดนี้เลย
รับรองได้ว่าพระที่ท่านสร้างจะได้แจกสมใจท่านแน่ๆ
ตอนนี้ท่านก็กำลังหาทุนถมดินถนนในวัดอยู่
ก่อนกลับท่านยังเมตตาแจกเรือมาให้บูชาลำหนึ่ง
นับได้ว่าท่านเป็นพระที่แจกและเมตตาจริงๆ

 

ขอเพิ่มเติม รูปภาพในวันเสาร์ที่ 15 ก.ย.ให้ครับ


<a href="http://pic.free.in.th/id/cab25621d20e75cca7e0a305447beda5" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ij/xbx81.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>


และขอแนะนำ สถานที่ดี ที่หลายคนมองข้าม
ซึ่งอยู่ข้างๆรูปหล่อจากภาพด้านบนครับ
เป็ยกุฏิพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเนียม


<a href="http://pic.free.in.th/id/0c069423c499441b7cac8c21ba75aaba" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ij/qnlx2.jpg" alt="image by free.in.th" /></a>



<a href="http://pic.free.in.th/id/ec379223ef1d51fc4df76c693f2db401" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ib/hcer3.jpg" alt="image by free.in.th" /></a>



<a href="http://pic.free.in.th/id/15e5a3b8c706805f647a402ff4db7604" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ib/xpl84.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

น้อมกราบหลวงพ่อเนียม วัดน้อยครับ


...
​

 

หลังจากนั้นก็ได้ไปต่อที่วัดเขาวงศ์
ลพ.สมคิด ปโยคจิตโต วัดเขาวงศ์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
ลพ.สมคิด ท่านเป็นพระป่าปฏิบัติสายกรรมฐาน เป็นลูกศิษย์ ลป.ฝั้น อาจาโร
ท่านอยู่กับลป.ฝั้นจนลป.ฝั้นมรณภาพ แล้วจึงได้ไปอยู่กับลป.เทศน์ เทสรังสี ช่วงที่อยู่กับลป.ฝั้นนั้นท่านได้รับการฝึกให้เขียนลบผงจนทะลุกระดานได้
หรือลงตะกรุดแผ่นเดียวติดไปอีก 4-6 แผ่น และสามารถเป่าทองทะลุกระดาษโดยไม่ต้องสัมผัสเลย
อีกทั้งท่านยังมีญาณหยั่งรู้อันน่าอัศจรรย์
(ฟันของท่านและเกศาก็ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว)

ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ลป.ฝั้นท่านเคยแสดงวิชาเหล่านี้ให้ดู
โดยเขียนยันต์ไว้ที่ฝ่ามือแล้วสามารถเป่าให้ไปติดที่ไหนก็ได้ แม้แต่แผ่นทองก็เช่นกัน
เคยมีโยมนิมนต์ลป.ฝั้นไปเจิมบ้านให้ เตรียมหาบันไดมาให้ท่านปีนขึ้นไปเจิมเหนือประตูบ้าน
แต่ลป.ฝั้นท่านบอกไม่ต้อง แล้วท่านก็เอาแผ่นทองวางบนมือแล้วเป่าให้ไปติดที่เหนือประตูได้อย่างน่าอัศจรรย์
เคล็ดของวิชานี้ท่านบอกว่าอยู่ที่จิตอย่างเดียว
ถ้าใครอยากเรียนท่านไม่หวง สอนให้ได้

นอกจากนี้ท่านยังเล่าว่า ลป.ฝั้นท่านเก่งมาก ท่านสามารถเรียกปรอทจากใต้ดินขึ้นมาได้
ลป.ฝั้นท่านยังทำพระปรอทไว้อยู่จำนวนหนึ่ง เวลาท่านธุดงค์ไปไหนท่านก็จะเอาพระปรอทติดย่ามไปองค์หนึ่ง
พระปรอทของท่านกันไข้ป่าได้ชะงัดนัก
ลพ.สมคิดท่านก็เลยสั่งให้ผมหาพระของ ลป.เนียม วัดน้อย ให้ท่านองค์หนึ่ง
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ต้องไปแวะที่วัดน้อยเพื่อกราบรูปหล่ลป.เนียมก่อน

ลพ.สมคิดท่านเล่าให้ฟังว่าพระของลป.เนียมท่านจะผสมปรอทเอาไว้
พระของท่านจึงกันไข้ป่าได้ ท่านจึงอยากได้มาติดย่ามไว้สำหรับกันไข้ป่าเวลาเดินธุดงค์
เพราะท่านมีแพลนว่าจะออกธุดงค์ในต้นปีหน้านี้
ซึ่งจริงๆ ท่านตั้งใจจะธุดงค์ตั้งแต่เมื่อกลางปีก่อนแล้ว
แต่พอดีท่านมาอาพาธด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษกำเริบเสียก่อน
ตอนนี้สุขภาพท่านแข็งแรงดีขึ้นมาก ท่านจึงคิดจะออกธุดงค์ไปทางอีสานในต้นปีหน้า

ก็ถามท่านว่าแล้วเบี้ยแก้ใช้แทนไม่ได้เหรอ (คือพระลป.เนียมแพงง่ะ)
ท่านบอกว่าไม่เหมือนกัน พลังจิตของลป.เนียมท่านสูงมาก
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่าลป.เนียมท่านเก่งมาก ท่านแค่เอานิ้วเคาะๆ กับพื้นปรอทจากใต้ดินก็จะขึ้นมาหาท่านเลย
ซึ่งพระเครื่องเนื้อชินตะกั่วของท่านจะผสมปรอทด้วยเสมอ
และเวลาเสกท่านจะเสกเน้นไปทางมหาอุดอย่างเดียวเลย
ท่านเล่าว่าเพื่อนท่านสมัยเป็นฆราวาสเคยโดนจ่อยิงที่ขมับ
แต่กระสุนไม่ออกรอดตายได้ก็เพราะพระของลป.เนียมนี่แหละ

ส่วนสาเหตุที่ท่านวานให้ผมหาพระลป.เนียมให้ท่านก็เพราะคราวหนึ่ง
ผมได้นำวัตถุมงคลต่างๆ ที่เก็บสะสมไว้ไปให้ท่านอธิษฐานจิตให้
พอเสกเสร็จท่านก็ลงมือรื้อกองวัตถุมงคลตรงหน้าท่าน
แล้วก็หยิบพระเครื่ององค์หนึ่งขึ้นมาแล้วก็บอกว่าแท้
ท่านบอกว่าตอนเสกท่านเห็นแสงสว่างพุ่งออกมาจากพระองค์นี้
ซึ่งก็คือพระของลป.เนียมนั่นเอง

 

ก่อนจะเข้าเรื่องของการนำแหวนไปให้ท่านเสกในครั้งนี้
ก็ขอเล่าประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้เจอท่านเมื่อ 3 ปีก่อนสักหน่อย
ตอนนั้นคุณอู่ทองได้เอาประวัติท่านมาลงในเว็บพลังจิต
ก็เลยรวบรวมสมัครพรรคพวกไปกราบท่านกัน
ระหว่างนั่งรถไปก็คุยเรื่องท่านให้ลุงๆ ป้าๆ ที่ยังไม่รู้จักท่านให้ฟังพอเป็นสังเขป
แล้วก็เลยมาถึงเรื่อง พระถ้ำเสือ กรุเขาวงศ์ ตามประสาคนชอบของขลัง
ก็เล่าให้คณะที่ไปด้วยกันฟังว่า ท่านมีพระถ้ำเสือกรุ แจกกฐิน มีประสบการณ์มาก
แต่เห็นว่าหมดแล้วมีแต่คนอยากได้กัน
พี่คนหนึ่งที่ไปด้วยกเลยบอกว่าเดี๋ยวลองไปขอท่านดูเผื่อจะโชคดีได้บ้าง
ในใจผมก็คิดว่าไม่มีเหลือหรอก มีแต่คนหากันจะตายจากองค์ละพันเป็น 4-5 พันเลยในตอนนั้น
แล้วผมก็เลยโชว์ผอบที่เตรียมมาบอกว่าจะขอเกศาท่านไปไว้บูชา

พอไปถึงวัดท่านก็ทักผมก่อนเลยว่าหมอความงามมาแล้ว
นี่แค่เพิ่งเจอหน้าครั้งแรกก็เจอไปหนึ่งดอก
พอก้มกราบพระกัน ท่านก็ทักพี่คนหนึ่งที่ไปด้วยว่าสมาธิจิตดี
เพราะตอนที่โยมก้มกราบ ความรู้สึกของโยมมาเกิดที่ตัวท่านด้วย
แล้วท่านก็ให้ดูขนแขนท่านที่ลุกชันขึ้นมา
เลยทำให้นึกถึงเรื่องที่หลวงปู่ดู่ท่านประสิทธิ์พระให้กับลูกศิษย์คนหนึ่ง
ที่พอหลวงปู่ดู่ท่านมอบพระให้ลูกศิษย์คนนั้นก็น้อมใจรับและนึกนำพระเข้าหาตัว
หลวงปู่ดู่ท่านก็เลยชมว่า " เออ..เอ็งนี่รับพระใข้ได้ น้อมนำพระเข้าหาตัวอย่างนี้ถูกแล้ว"
ลูกศิษยคนนั้นก็สงสัยว่าหลวงปู่รู้ได้อย่างไร
ท่านก็บอกว่า "ก็ความรู้สึกที่เกิดกับเอ็ง มันก็มาเกิดที่ข้าเหมือนกัน"

กลับมาเรื่องลพ.สมคิดกันต่อ
เนื่องจากเป็นการไปครั้งแรกยังไม่ค่อยรู้จริตท่าน
จึงตั้งใจว่าเดี๋ยวนั่งคุยไปสักพักหนึ่งพอได้โอกาสค่อยกราบเรียนขอเกศาท่าน
เท่านั้นแหละ ท่านก็หยิบตลับไส่เกศาของท่านยื่นให้เลยพร้อมกับบอกว่า
" เอ้า..ที่ขอไว้ในรถอ่ะเตรียมไว้ให้แล้ว ปกติเราไม่เคยให้เกศาเรากับใครเลย
แต่นี่พิจารณาดูแล้วเห็นว่าคณะนี้ให้ไปไม่มีโทษอันใด
เก็บบูชาไว้ดีๆ ไม่แน่อาจจะกลายเป็นพระธาตุก็ได้นะ"
คราวนี้เริ่มทึ่งในญาณรู้ของท่านขึ้นมาแล้ว

หลังจากนั้นก็สนทนากับท่านเรื่องการปฏิบัติ
เป็นอะไรที่ทึ่งอีกแล้วที่ท่านสามารถทักถูกว่าคนไหนใช้คำบริกรรม องค์ภาวนาว่าอะไร เพราะขนาดผมเองยังนึกว่าใช้พุทโธกันหมด
ปรากฏว่ามีหลากหลายมาก ทั้ง พุทโธ สัมมาอะระหัง ยุบหนอพองหนอ
ท่านก็บอกได้ถูกคน ทั้งบอกวิธีปรับแก้ไขให้ถูกกับจริตของแต่ละคนอีกด้วย

แต่ที่ผมทึ่งและยอมรับท่านมากที่สุดก็คือ
จู่ๆ ท่านก็ทักผมว่า อย่าลืมนะ 55 มาบวช
ตอนแรกผมก็นึกว่าท่านชวนผมบวชตอนอายุ 55
หรือเราไปบนบวชที่ไหนแล้วลืมแก้บนป่าวหว่า
ก็มานั่งนึกว่าไม่เคยไปบนบวชที่ไหนนี่นา
ก็เลยบอกท่านไปว่าผมจำได้ว่าผมไม่เคยบนบวชเลยนะครับ
ท่านก็บอกว่า อ้าว....แล้วที่ตั้งความปรารถนาไว้ตอนเด็กๆ นั่นอะไรล่ะ
โห....พอท่านพูดแบบนี้เข้า สัญญาความทรงจำเก่าๆที่ลืมไปแล้วผุดขึ้นมาเลย
จิตคนเรานี่เปรียบเสมือนแผ่นดิสต์ดีๆ นี่เอง บันทึกเก็บข้อมูลทั้งหมดทั้งที่เราจะจงใจหรือไม่จงใจ เจตนาหรือไม่เจตนา มันบันทึกไว้หมด
ขนาดตัวเองลืมแล้วแท้ๆ พอโดนจี้จุดเท่านั้นแหละ ไอ้ที่ว่าลืมมันกลับดันจำขึ้นมาได้ซะงั้น
นี่แหละกรรมดีกรรมชั่วทั้งหมดที่เรากระทำไว้มันก็บันทึกอยู่ในนี้นี่เอง
ถ้าไปเจอคนอ่านแผ่นดิสต์ได้ จะโกหกยังไงก็ไม่ได้
ที่ทึ่งท่านมากก็เพราะความปรารถนาอันนั้น ตั้งไว้ตอนยังเป็นเด็กๆ สัก ป.4-ป.5 ได้

สมัยเด็กๆ แค่นั้นผมก็เริ่มอ่านหนังสือธรรมะแล้ว เล่มแรกที่อ่านคือ โอวาทสี่ท่านเหลี่ยวฝาน
โดยไปอ่านเในหนังสือนิตยสารขวัญเรือนเล่มเก่าๆ ที่ลงไม่จบ
แต่พอได้อ่านแล้วกินใจมากอยากจะหาอ่านต่อให้จบ
จนไปได้หนังสือแจกจากโรงเจมาอ่าน
หลังจากนั้นก็อ่านเต๋า เว่ยหลาง ฮวงโป จวงจื๊อ ศิษย์โง่ไปเรียนเซน วงเวียนกรรมสัตว์โลก
เที่ยงเมืองสวรรค์-นรก ที่ท่านจี้กงพาดวงวิญญาณนายหยางเซิงไปสัมภาษณ์ดวงวิญญาณต่างๆ แล้วมาบันทึกไว้
คือ ที่อ่านของทางมหายานก็เพราะผมไปขอหนังสือธรรมทานที่เขาแจกตามโรงเจมาอ่าน
สมัยก่อนนั้นของไทย หินยานเราไม่ค่อยมีใครพิมพ์แจกกัน ที่พิมพ์แจกกันมักจะเป็นบทสวดมนต์ซะมากกว่า

สมัยเด็กตอนนั้นจิตยังไม่ค่อยวุ่นวาย อ่านแล้วก็ปฏิบัติตามหนังสือ
จิตมันมีความฮึกเหิม จนกระทั่งยกมือตั้งสัจจะอธิษฐานตั้งความปรารถนาเอาไว้
ซึ่งเรื่องนี้มันนานมากจนตัวเองก็ลืมไป ไม่คิดว่าลพ.สมคิดท่านจะรู้ได้
พอท่านทักมาอย่างนี้ยิ่งทำให้เชื่อมั่นในตัวท่านจนยกให้ท่านเป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งเลยทีเดียว

ยังไม่หมดแค่นี้ ไปครั้งแรกท่านจัดเต็มให้
นั่งคุยกันไปได้พักใหญ่ผมก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว<O</O
ก็นั่งคิดว่าเสร็จจากท่าน แล้วจะไปกราบองค์ไหนต่อ<O</O
แล้วก็คิดว่าถ้ามีเวลาเหลือก็อยากจะไปวัดจีนที่กาญจน์วัดหนึ่ง<O</O
เท่านั้นแหละท่านก็ซัดมาอีกดอก"เอ้า..หมอเขาจะพาไปที่อื่นต่อเห็นว่าจะพาไปกาญจน์ด้วยนะ"<O</O
โห...โดนไปเต็มๆ อีกแล้ว เพิ่งคิดแหม่บๆโปรแกรมก็เพิ่งคิดเดี่ยวนั้น<O</O
คนในคณะที่ไปด้วยยังไม่รู้เลยว่าผมจะพาไปไหนอีก<O</O
ก่อนกลับท่านก็แจกพระถ้ำเสือที่หมดไปตั้งแต่ตอนกฐินให้คนละองค์<O</O
แต่พอดีมีไม่ครบคนท่านก็เลยนั่งพนมมือเรียกสักพักก็ีมีพระมาอยู่ในมือที่ท่านพนมอยู่<O</O
เจอเข้าไปแบบนี้ไม่ศรัทธาท่านก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว<O</O

 

เอาล่ะคราวมามาเข้าเรื่องการไปให้ท่านเสกแหวนคราวนี้เสียที
ไปถึงท่านก็เรียกเลย หมอๆ ไหนๆ มีอะไรจะเอามาถวาย
555...เป็นอันรู้กันว่าท่านทวงพระลป.เนียม
ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้เตรียมมาหรอกแต่ได้ติดต่อพี่คนหนึ่งที่มีอยู่หลายองค์ว่าจะเช่าจากเขาถวายท่าน
แต่พอดีพี่คนนี้เขาก็รู้จักท่านเขาก็เลยขอถวายให้ท่านฟรี
ผมก็เลยโชคดีไป ท่านรับไปพิจารณาแล้วก็บอกว่าแท้แล้วก็เก็บใส่อังสะข้างในติดตัวไว้เลย



<O</Oแล้วท่านก็ขอชมแหวนที่สร้างพอท่านรับไปปุ๊บท่านก็บอกว่า เสกมาแล้วนี่
ก็เลยกราบเรียนท่านไปว่า ยังไม่เต็มครับหลวงพ่อ ยังขาดเมตตาโชคลาภอยู่เลย ตอนนี้มีแค่มหาอุด เจริญรุ่งเรืองกับหนุนดวงชะตาเท่านั้นเอง
ท่านก็เลยเสกให้พักใหญ่เลยทีเดียว
โดยท่านให้โยงสายสิญจน์จากองค์พระพุทธรูปที่อยู่ข้างหน้าท่านมาที่กองวัตถุมงคลทั้งหมด
พอเสกเสร็จท่านก็ถามว่านอกจากแหวนแล้วยังมีอะไรอยู่อีก
ก็เลยบอกท่านไปว่าก็มีหนุมานไม้แกะและก็พระพนัสบดีหินแกะ<O</O
ท่านก็ถามว่ามีพลอยมาเสกด้วยไหม
ก็เลยบอกท่านว่า อ๋อ...มีครับเป็นพลอยนพเก้าที่บรรจุอยู่ในหัวแหวนครับ<O</O
ท่านก็เลยบอกว่าตอนเสกท่านเห็น พลอยเม็ดเบ้อเร่อลอยขึ้นมาก่อนเพื่อนเลย ส่องแสงสีสวยงามมาก
เป็นอันว่าคราวนี้ได้โภคทรัพย์สมความตั้งใจ

<O</O

 

กว่าจะเรื่องลพ.สมคิดจบเล่นเอาหืดขึ้นคอ
ครั้งแรกพิมพ์ไปชม.กว่าจนเสร็จ
พอจะโพสเน็ทดันหลุดเสียนี่ ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์ใหม่อีกเป็นชม.
คราวนี้โพสไปแล้ว โพสไม่ได้อีกมันบอกข้อความยาวไปจำกัดแค่ 20,000 ตัวอักษร
เลยตัดทอนเป็น 2 ส่วนก็ยังยาวไปอีก
ต้องมาแยกใหม่เป็น 3 ส่วน แต่ก็ยังโพสไม่ได้
มันบอกมีรูปภาพเกิน 30 รูป เลยต้องมานั่งไล่ลบพวกตัวอักษรอีโมชั่นที่เว้นวรรคออก
เล่นเอาเสียเวลาไปกว่า 2 ชม.กว่าจะโพสได้

เสร็จจากหลวงพ่อสมคิดก็ไปกราบ ลป.นาม ต่อ
พระครูสุวรรณศาสนคุณ (นาม ปัชโชโต) วัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
อายุ 91 ปี พรรษา 70 (ปี 2555) ท่านเป็นศิษย์ พระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง
ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของท่าน เรียนมูลกัจจายน์ บาลี อักษรขอม ไทยน้อย อักษรลาว<O</O
เรียนวิชาสาย ลพ.เฒ่า วัดค้างคาว ลพ.อิ่ม วัดหัวเขา จาก ลป.ขำ อดีตเจ้าอาวาสวัดน้อยชมภู่<O</O
เรียนวิชาสาย ลพ.เนียม วัดน้อย ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว จาก ลป.เหมือน พระอภิญญาสามารถเสกใบไม้เป็นตัวต่อได้<O</O
เรียนวิชากับ ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ จน ลพ.ฉาบ วัดคลองจันทร์ ชัยนาท บอกคนมาขอพระเครื่องท่านว่า
" ที่สุพรรณ หมดลพ.มุ่ย ต้องไปหาพระอาจารย์นาม วัดน้อยฯ เขาเก็บไว้หมด " <O</O





ไปถึงท่านกำลังว่างจากแขกพอดี ก็กราบเรียนท่านๆ ก็จำได้ว่าเคยไปเสกให้ตอนไปทำพิธีที่สิงห์บุรีแล้วหนหนึ่ง
ท่านเสกให้ไม่นานมากแป๊บเดียวตามสไตล์ท่าน
พรุ่งนี้จะมาต่ออีก 3 รูปที่เหลือในทริปสุพรรณในครั้งนี้


</O

 

กฐินวัดเขาวงศ์ มีเบอร์บัญชีให้ร่วมบุญไหมครับ
ขอบคุณครับ

 

อนุโมทนาบุญกับคุณหมอด้วยนะครับ
ได้ฟังเรื่องเล่าของ หลวงพ่อสมคิด แล้วผมอยากจะไปกราบท่านจริงๆ
ผมได้ได้ยินเรื่องท่านเป่าทองทะลุกระดาษโดยไม่ต้องสัมผัส ค่าครูถ้าจำไม่ผิด 10 สตางค์ ใช่มั้ยครับ( ผิดพลาดประการใดกราบขออภัยด้วยครับ )

ขอบคุณครับ

 

เรื่องเป่าทองทะลุกระดาษนี่ผมเองก็ยังไม่เคยเป่า แต่รู้ว่าท่านทำได้จริง
เพราะพรรคพวกไปเป่ากันมาแล้ว ที่ไม่ได้เป่าเพราะท่านทำเฉพาะวันจันทร์ข้างขึ้นเท่านั้น
แต่ช่วงหลังๆ นี่สุขภาพท่านไม่ดี ก็เลยงดไป เพราะเป่าแต่ละครั้งต้องใช้กำลังมาก และทำทีละคน
สมัยก่อนคนไปรอเป่ากันตั้งแต่ตี 5 ท่านเป่าได้สัก 50 คนท่านก็หมดแรงแล้ว
ท่านจะให้เหรียญสตางค์รูโบราณ มาวางทับบนแผ่นทองที่จะเป่า โดยให้เราทำเอง
ท่านจะไม่แตะต้องเลย แล้วเป่าผ่านรูเหรียญสตางค์ไป
เสร็จแล้วก็คืนเหรียญสตางค์ท่านไป เหรียญสตางค์นั่นคือค่าครู
ส่วนใครจะเข้ากี่แผ่นนี่ไม่เท่ากันแล้วแต่จิตของคนรับด้วยว่าทำจิตให้สงบได้มากน้อยแค่ไหน

วันนี้ท่านโทรฯ มาหา บอกว่าแหวนดีมาก เมื่อคืนท่านลองนั่งพิจารณาแบบละเอียดดู
ท่านบอกว่าครูบาอาจารย์ที่เอาไปเสกมาแต่ละองค์ เก่งๆ ดีๆ ทั้งนั้น
เลยถามท่านว่าแล้วครบทุกด้านหรือยัง
ท่านบอกว่าครบหมดแล้ว
ซึ่งปกติเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ถามท่านจะไม่พูดเอง
แต่นี่ท่านถึงกับออกปากเรื่องแหวนเอง แสดงว่าคงจะดีมากจริงๆ