ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

เตียมซอง..พร้อมส่งเพชรพญานาค (ที่มีอันน้อยนิด [Embarrass ) ให้คุณ phuya แถมนัดแนะกะน้องสาว
ให้ช่วยไปส่งที่ไปรษณีย์หน่อย (เพราะไม่ค่อยสะดวกในการเดินทาง) ปรากฏว่า วันนี้ฝนเทลงมา
อย่างหนักเลยเชียว

 

ว๊าวววว อนุโมทนาบุญจ้า คุณมิก

สงสัยท่านคงปลื้มปิติกับคุณมิก และโมทนาบุญด้วยแน่ๆจ้า

 

ขอบคุณค่ะคุณจี๊ด...กลับมาถึงบ้าน รีบเสนอหน้ารายงานผล เอาความดีความชอบที่หน้าหิ้งพระเรียบร้อยแล้วค่ะ อิอิ

***
มิกส่ง EMS EJ189950112TH ไปให้คุณ Phuya เรียบร้อยแล้วนะคะ

 

โมทนาบุญกับน้อง mukmik นะคะ การทำความดีก็ต้องมีอุปสรรคบ้าง แต่มันคงยับยั้งความตั้งใจของน้องมุกไม่ได้ ขอให้อานิสงค์นี้ส่งผลให้สวย ให้รวย ให้เก่งนะจ๊ะ

 

นำภาพพระขรรค์มาให้ชมคั่นเวลาค่ะ...
พอไม่ได้จักรแก้ว ท่านก็เลยยอมคายพระขรรค์มาให้แต่โดยดี อิอิอิ

​

 

อีกสองรูปค่ะ

 

ตอนนี้ก็เลยมีเทวดาดุ ๆ มาอยู่ด้วยเพิ่มค่ะ
ท่านไม่ค่อยทำอะไร เห็นเดินถือพระขรรค์ไปมา....
บางครั้ง...เวลานั่งสมาธิ ก็จะเห็นว่า มายืนล้อมสี่องค์ทั้งสี่ทิศเลยค่ะ

สงสัยจะกลัวเด็กใจแตกหนีเที่ยว ฮิฮิฮิ

 

โอ้โฮ....สวยวิ้งงงงงง เลยตาลจ๋า
งามขนาดดดดด(good)(good)

 

โมทนาบุญด้วยจ๊ะ มีเทวดาดูแลก็ดีแล้วจ๊ะ เท่ากับว่าเรายังมีความดีอยู่ ถ้าเทวดาหายหมดนะซิ.. (cry)
กะลังปั่น ประวัติพระขรรค์ ภาค ๒ ตอน ๓ อยู่นะ
บุญรักษาจ๊ะ
Numsai

 

...พระขรรค์นาคราช ๙ สี ภาค ๒ ตอน ๓...

​

สำหรับเครื่องบรรณาการที่พญาสุตรมงคลนาคราช ส่งให้นางสิริวิมลมาลานั้น นอกจากแก้วแหวนเงินทอง แล้วยังมีพระขรรค์สีชมพู เดิมเป็นของพญาสุตรมงคลนาคราช ได้มอบแต่เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช ซึ่งเป็นรัชทายาท ได้ครองราชย์ต่อจากพระองค์
แม้มีนางนาคมาณวิกาที่งดงามจากเมืองอื่น เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช หาได้สนใจไม่ เจ้าชายสุทธสีห์นาคราชนั้น มีความเสน่หาต่อนางสิริวิมลมาลาเพียงผู้เดียว
ด้วยแรงอธิษฐานติดตามนางสิริวิมลมาลามาแต่ครั้งสมัยก่อนสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า ซึ่งชาตินั้นเคยเป็นคู่หมั้นของนางสิริมาลา บุตรสาววิมุติเศรษฐี ครั้งนั้นเคยหมั้นกันไว้
แต่ก็โดนปฐพีวิศาทนาคราช พระโอรสแห่งพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราชได้นำกลับไป เนื่องจากนางสิริมาลา เคยเป็นพระชายาในอดีตของปฐพีวิศาทนาคราช
หลังจากนั้น ทั้งสามต่างเวียนว่ายตายเกิดตามบุญกรรมของตน มาบัดนี้ก่อนถึงยุคของพระสมณโคดมพุทธเจ้า นางสิริมาลาได้มาเกิดเป็นนางนาคมาณวิกาอีกครั้ง นามว่า เจ้าหญิงสิริวิมลมาลา ตามนามเดิมของนางในอดีต
ส่วนอุปการมานพ อันเป็นคู่หมั้นของนางในอดีต ซึ่งก่อนตรอมใจตายได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า..

“เกิดชาติหน้าหนใดขอให้ได้เป็นคู่ครองของนางสิริมาลา ได้รักและครองคู่กับนางในอนาคตกาล”

มาชาตินี้ก็ได้เกิดเป็นพญานาค นามว่า ““เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช”พระโอรสของพญาสุตรมงคลนาคราชผู้มีความเชี่ยวชาญในกสินไฟ สามารถพ่นไฟแต่ศัตรูได้ย่อยยับภายในพริบตาเดียว เจ้าชายสุทธสีห์นาคราชนั้น ได้มีพระฤาษีตาไฟ นามว่า “พระศิลปัตรฤาษี” เป็นพระอาจารย์ ในบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ถือว่า เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช เป็นศิษย์เอกมือหนึ่ง แต่อุปนิสัยของเจ้าชายสุทธสีห์นั้นเป็นคนใจร้อนบุ่มบ่าม และมีพลังมหาศาล
พระศิลปัตรฤาษีจึงส่งให้ไปเรียนกับพระสหายของท่าน คือ พระสุทธโสมฤาษี ผู้มีจิตเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระสุทธโสมฤาษีนั้นได้เป็นพระอาจารย์ของพญาอัคคีตาปะนาคราชเช่นกัน ท่านเชี่ยวชาญเรื่องการแผ่เมตตา และรู้ภาษาสัตว์ ศิษย์เอกของพระสุทธโสมฤาษีนั้น คือ พญาอัคคีตาปะนาคราชนั่นเอง
เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช หลังจากจบการเรียนวิชาต่าง ๆ จากพระสุทธโสมฤาษีแล้วได้กลับเมืองของตน เมื่อทราบข่าวเรื่องของนางสิริวิมลมาลา ด้วยบุพกรรมเก่าในอดีต จึงได้หลงรักนางอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จึงได้รบเร้าให้พระบิดา ส่งเครื่องบรรณาการ ไปยังพญาศุภราชนาคราช เพื่อเป็นเครื่องหมั้นหมายนางไว้
และพญาศุภราชนาคราช ก็ทรงยินยอม ด้วยเห็นว่า เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช เป็นผู้มากด้วยความสามารถเหมาะสมจะเป็นผู้ดูแลนางต่อไป

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้นี้ด้วยดีตลอดมาค่ะ
Numsai
ปล. ขณะที่พิมพ์เรื่องนี้ มีเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่ามา ๒ ครั้ง บริเวณใกล้ ๆ แต่ไม่มีฝนตกค่ะ <O

 

พี่น้ำใสสู้ ๆ พี่น้ำใสสู้ตาย

chearrchearrchearr


ปล. มีเทวดามาคุมก็ดีอยู่หรอกค่ะพี่
แต่หมู่นี้คุมหนักมากค่ะ ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาเลยทีเดียว
แถมไม่คุยเล่นด้วยอีกต่างหาก ถามชื่อท่านยังไม่บอกเลยค่ะ ดุจังดุจริง
แปลกมาก ๆ ค่ะ ดูเหมือนจะมีอะไรซักอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไร...

 

ตามที่พญาสัตตนาคราชบอกไว้จ๊ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทาน ศีล ภาวนาเท่านั้นจะช่วยเราได้ อีกอย่างความกตัญญูต่อบิดามารดาก็เป็นบุญที่ช่วยได้เช่นกัน ขอให้มั่นคงในการทำความดีเข้าไว้ค่ะ เราจะปลอดภัยค่ะ

พี่เองก็พูดอะไรไม่ได้มาก ช่วงนี้ท่านสั่งพูดให้น้อย ๆ เลยใช้เขียนเอา อิอิ..

บุญรักษาจ๊ะ

Numsai

 

...พระขรรค์นาคราช ๙ สี ภาค ๒ ตอน ๔ ..

​

กล่าวพญาสหัสสนัยเวณไตย พระโอรสองค์โต ของพญาสหัสสนัยเวณฑุ ซึ่งมีพระโอรส ๓ องค์นามว่า สหัสสนัยเวณไตย , สวินฑุกะ และสไวยกันตา ซึ่งพญาสหัสสนัยเวณฑุ และสุวินฑุกะได้จุติไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากพญาสหัสสเวณไตยได้จุติไปไม่นาน พระมเหสีก็ทรงจุติตามอายุขัย ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์<O</O
พญาสหัสสนัยเวณไตยได้ขึ้นครองราชย์แทน มีพระมเหสีนามว่า “พระนางกันตาเทวี” มีพระสิริงดงาม พระนางกันตาเทวี มีพระกนิษฐานามว่า“เจ้าหญิงกันตมายาเทวี”และ”“เจ้าหญิงกรนิชยาเทวี” มีนิสัยขี้เล่น มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่างจากครุฑทั่วไป คือนางไม่ชอบกินนาคทั้งหลาย อีกทั้งยังชอบกินผลไม้แต่อย่างเดียว เนื่องจากนางได้รับการเลี้ยงดูมาจากพระสุมนตฤาษี อันเป็นพระอาจารย์ของพญาครุฑทั้งหลายนั่นเอง
พญาสหัสสนัยเวณไตย และทรงได้แบ่งเขตแดนให้แก่สไวยกันตา พระอนุชาให้ปกครองเมืองทางทิศตะวันออก ภายหลังได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางกันตมายาเทวี ปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบสุขตลอดมา

<Oเวลา ๑ ปีผ่านไป(ตามเวลาเมืองครุฑยุคนั้น) หลังจากพญาสหัสสนัยเวณไตยได้ทรงสุบิน(ฝัน) ถึงพญาสหัสสเวณฑุ พระบิดาถึงเรื่องราวในอดีตชาติ
เมื่อตื่นจากบรรทม จึงได้เข้าสมาธิตรวจดูว่า เหตุการณ์นี้เป็นจริงหรือไม่ประการใด ทรงระลึกได้ว่า...

“ย้อนหลังก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า พระองค์ทรงเสวยชาติเป็นพญานาคราชนามว่า “พญาปฐพีวิศาทนาคราช” มีพระมเหสีเป็นมนุษย์นามว่า “พระนางสิริมาลา”ครั้งหนึ่งตนได้สู้รบกับพญาครุฑเมืองหนึ่งและพ่ายแพ้ ได้หนีมาและได้สลบไปในเขตเมืองของพญาสหัสสนัยเวณฑุ ซึ่งในชาตินั้นท่านได้เสวยชาติเป็นพญาครุฑนามว่า ““พญาเวชพลมานินทร์”
ขณะนั้นพญาพญาเวชพลมานินทร์ได้บินมาจากการเฝ้าพระฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ ได้พบพญานาคบาดเจ็บ จึงเกิดความเมตตาได้ใช้ยาวิเศษรักษาพญาปฐพีวิศาทนาคราชจนหายดี แล้วมิได้ทำร้าย

ธรรมดาแล้วพญาครุฑย่อมทำร้ายพญานาคเมื่อมีโอกาส แต่ในเมืองของพญาเวชพลมานินทร์นั้น มีกฎห้ามทำร้ายนาคบาดเจ็บ หรือนาคเด็ก มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างหนัก

พญาปฐพีวิศาทนั้น ซาบซึ้งในความเมตตาของพญาเวชพลมานินทร์เป็นอย่างมาก ก่อนจะจากลาจาก จึงได้ตั้งสัจจะว่า ..

“หากชาตินี้ ข้าพเจ้าไม่สามารถตอบแทนบุญคุณท่านได้ ขอให้ได้มาตอบแทนบุญคุณท่านในชาติต่อ ๆ ไปด้วยเถิด”

และได้มอบสร้อยสังวาลประจำกาย เป็นที่ระลึกในความดีของพญาเวชพลมานินทร์ และได้ลากลับเมืองของตน

ในชาตินั้น หลังจากพญาปฐพีวิศาทได้ถวายดวงแก้วมณีแก่สมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้าและได้รับการพยากรณ์จากพระองค์ว่า..

“พญาปฐพีวิศาทนาคราชนี้ หากยังไม่ละความปรารถนาจะได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล”

ครั้นละโลกจากชาตินั้นแล้ว ได้เวียนว่ายตายเกิด มาครองคู่กับพระนางสิริวิมลมาลาอีกหลายพันชาติ ในชาตินี้จึงได้มาจุติเป็นพระโอรสแห่งพญาสหัสสนัยเวณฑุ หรือพญาเวชพลมานินทร์ในอดีตนั่นเอง

นอกจากนี้พระองค์ทรงระลึกได้ว่า แท้จริงแล้วเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา พระธิดาพญาศุภราชนาคราชนั้น ก็คือ พระนางสิริวิมลมาลา คู่บารมีของตนในอดีตนั่นเอง (ยังมีต่อ..)

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

หนูก็ตะหงิด ๆ แล้วว่าสุทธสีห์นาคราช...นี่...คุ้น ๆ
ชาตินี้ยังเหมือนชาติที่เป็นนาคเลยค่ะ
ชอบเอากสิณไฟไป....จุด ๆ...คนอื่น

เนื้อเรื่องชักเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
รักสามเส้า เอ๊ะ หรือสี่ ...นับนิ้วม่ายยถูก
รอติดตามต่อค่ะ....

 

...พระขรรค์นาคราช ๙ สี ภาค ๒ ตอน ๕ ..

ด้วยความรักความผูกพันที่มีมาหลายแสนชาติในอดีต ทำให้พญาสหัสสนัยเวณไตย ต้องการจะได้เจ้าหญิงสิริวิมลมาลามาครอบครอง เมื่อตรวจดูด้วยญาณทัสสนะทราบว่า พญาศุภราชนาคราชนั้น ได้สร้างหอคอย ๗ ชั้น เป็นที่อยู่ของเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา และมีเวรยามเฝ้าคอยระวังอย่างดี และทราบว่า อันพญาศุภราชนาคราชนั้น ได้ใช้ไหมฟ้าร้อยไว้โดยรอบหอคอยนั้น เพื่อป้องกันภัยให้แก่พระธิดา

จึงได้ไปกราบพระสุมนตฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ของตน พระสุมนตฤาษีนั้น ทราบว่า เหตุทั้งหลายนี้เกิดจากบุพกรรมเก่าที่เคยเป็นมา แม้ตนไม่บอกหนทางการแก้ไข พญาสหัสสนัยเวณไตย ก็ต้องหาหนทางจนพบ จึงได้บอกใบ้ว่า..

“ในมหานทีสีทันดร มีบัวชมพูนุชที่บานเวลากลางคืน ซึ่งเป็นของพญานาคสัตตบงกช หากท่านหาบัวนั้นได้ บัวนั้นใช้โบก ๗ ครั้งจะสามารถคลายไหมฟ้านั้นได้”

พญาสหัสสนัยเวณไตยนั้น ถูกความรักบังตาไม่ได้ ลืมเรื่องศีลธรรมอันดีไปหมดสิ้น และลืมไปว่า ตนเคยไม่ชอบใจที่พระบิดาเคยนำทัพไปรบกับพญานาค เพียงเพื่อความงามของนางนาคมาณวิกานั้น และนึกเพียงว่า หากนำตัวเจ้าหญิงสิริวิมลมาลามาได้จะเป็นการแก้แค้นแทนพระบิดาของตนได้

ทั้งนี้เกิดจากวิบากกรรมเก่าที่เคยทำกันมา จึงดลบันดาลให้พญาสหัสสนัยเวณไตยเห็นผิดเป็นชอบได้ จึงได้บินไปยังมหานทีสีทันดรนั้น และพบบัวชมพูนุชที่บานสะพรั่งเวลากลางคืน ทำให้นาคพิภพแห่งนี้สว่างไสว

<Oครั้นเมื่อไปถึง ก็ได้สู้รบกับเหล่านาค ผู้ดูแลบัวชมพูนุท จนได้รับชัยชนะ และได้นำบัวชมพูนุชไปได้สำเร็จ จากนั้นได้บินไปยังเมืองสัตตวิริยนคร อันเป็นที่พำนักของเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา และได้นำบัวชมพูนุทโบก ๗ ครั้ง ไหมฟ้าที่ตรึงอยู่ได้คลายออก ด้วยอำนาจของบัวชมพูนุท ทำให้ผู้ดูแลเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา ต่างสลบไสล

พญาสหัสสเวณไตยจึงได้นำเจ้าหญิงสิริวิมลมาลาไปได้สำเร็จ และได้ใช้ฤทธิ์สร้างเมืองใหม่คล้ายเมืองมนุษย์ให้นางอยู่ เมื่อเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา ได้ตื่นจากบรรทมพบว่า ตนไม่ได้อยู่เป็นหอคอยแล้ว พบว่า มีบุรุษหนึ่งอยู่เคียงข้างตน จึงร่ำไห้เสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยวิบากกรรมเก่า ก่อนยุคสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า พญาสหัสสนัยเวณไตยได้เสวยชาติเป็นพญานาค และได้ทอดทิ้งนางไปเข้าสมาบัติเป็นเวลานาน ถึง ๖๑ กัป เพื่ออธิษฐานจักรแก้ว ทำให้นางน้อยใจ และมีความชิงชังต่อพญาสหัสสนัยเวณไตยเป็นอย่างมาก แม้พญาสหัสสนัยเวณไตยจะทำดีเพียงใด นางก็คอยหาโอกาสหนีออกจากเมืองตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถทำได้

โปรดติดตามตอนต่อไป
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..พระขรรค์นาคราช ๙ สี ภาค ๒ ตอน ๖...

​

กล่าวถึงพญาศุภราชนาคราช แห่งเมืองสัตตวิริยนคร เดิมทีได้ปกครองเมืองนาคเล็ก ๆ เมืองหนึ่งภายหล้งเมื่อพญาสัตยาบรรณนาคราช ได้จุติ จึงได้กลับมาปกครองเมืองนี้ต่อจากพระบิดา ต่อมาพระอินทรปัตต์ฤาษีได้เรียกประชุม และได้ให้หาทางป้องกันเมืองไว้อย่างดีแล้ว กลับถูกผู้บุกรุกชิงตัวเจ้าหญิงสิริวิมลมาลาชิง ตัวไป ถึงกับกระอักพระโลหิต และประชวรอย่างหนัก กาลต่อมาก็ได้จุติทันที

เหล่าเสนาอำมาตย์จึงได้ส่งสาส์นไปยังพญาสุตรมงคลนาคราช และเจ้าชายสุทธสีห์นาคราช ถึงการจุติของพญาศุภราชนาคราช และการถูกลักพาตัวของเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา และได้ส่งสาส์นไปยังเมืองอื่น ๆ ทั้ง ๗ เมือง

พญาเวณจพลแห่งเมืองชลปัทมนคร ได้ยกทัพมายังเมืองสัตตวิริยนคร เพื่อช่วยเหลือ อีกทั้งยังช่วยแต่งตั้งผู้รักษาการณ์แทนในระหว่างที่ไม่มีผู้ปกครอง โดยแต่งตั้งให้ สิทธิมังตราเสนานาค เป็นผู้รักษาการเมืองนี้ไปก่อน

สิทธิมังตราเสนานาค นั้นเป็นผู้ที่มีความสามารถ เปรียบเสมือนขุนพลแก้วของพญาศุภราชนาคราช และได้รับการถ่ายทอดวิชาทั้งหมดจากพญาศุภราชนาคราชด้วยเช่นกัน

ต่อมาพญาโภคนาคราชได้ส่งพญาอัคคีตาปะนาคราช พระโอรสองค์โตยกทัพมาช่วยเช่นกัน,พญาศิลปะมงคล แห่งเมืองสัปปริสวาสนคร ส่งเจ้าชายศิลปะชลนาคราช พระโอรสองค์โต พร้อมกองทัพ มาช่วย ฝ่ายพญาปัญจรส ส่งแม่ทัพมือดี นามว่า สิริเกษมนาคราช พร้อมกองทัพ มาช่วยในครั้งนี้

ส่วนเมืองอื่น ๆ ที่เหลือยังไม่ได้รับการตอบรับมา เมื่อรวมพลได้แล้ว มีการประชุมกัน และโดยพญาอัคคตาปะนาคราช เป็นผุ้ใช้ญาณทัสสนะตรวจสอบดูว่า ขณะเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา ถูกลักพาตัวอยู่ที่ใด และใครเป็นผู้ลักพาตัว

จึงทราบว่า แท้จริงแล้วพญาสหัสสนัยเวณไตย พระโอรสแห่งพญาสหัสสเวณฑุเป็นผุ้ลักพาตัวไป เพราะมีจิตเสน่หากับเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา ซึ่งเป็นคู่ครองกันมาแต่อดีต จึงไม่ได้นึกถึงศีลธรรมอันดี พญาอัคคตาปะนั้นจัดว่า เป็นพญานาคราชที่อาวุโสที่สุดในขณะนั้น ได้ทราบถึงบุพกรรมระหว่างพญาสหัสสนัยเวณไตย เจ้าชายสุทธสีห์นาคราช และเจ้าหญิงสิริวิมลมาลา เป็นอย่างดี แต่ไม่อาจจะกล่าวในที่ประชมได้

จึงขออาสาไปเจรจากับพญาสหัสสนัยเวณไตยก่อน เพื่อไม่ให้เสียกำลังพลจากเมืองอื่น ๆ ซึ่งพญานาคต่าง ๆ ในที่ประชุมจึงเห็นชอบด้วย

พญาอัคคีตาปนาคราชจึงใช้ฤทธิ์แทรกแผ่นดินไปยังบริเวณใกล้เคียง เมืองจำลองที่พญาสหัสสนัยเวณฑุได้สร้างไว้ (ยังมีต่อ..)
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยนะ พระขรรค์สวย และ ใส ม๊ากๆ จ้า

สมบัติของแม่นางน้อยต่าน ต้าน :VO ช่างง๊ามๆงาม

จันทรกาล

 

ท่านเจ้าเมืองหายไปหลาย เพลา ....... พอกลับมาก็มี ธรรมทานให้เราได้อ่านกันอย่างจุ ใจเลยนะค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าเมือง พี่น้ำใสด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


อย่าหักโหมนะค่ะ อาเป็งหว่งเจ้าค่ะ

จันทรกาล

 

เพิ่งเห็น กลายเป็นแม่นาคไปแล้วเรา แล้วพี่มากอยู่ไหน ?

คุณจี๊ด ขอเป็นส่ง SMS เตือนภัยนะจ๊ะ แบบว่า ที่ทำงานเข้าพลังจิตโหลดไม่เคยได้ ตอนนี้เนตที่บ้านก็อาการน่าเป็นห่วง กระพริบตลอดโหลดอะไรก็ไม่ค่อยขึ้นเลย

วันนี้เกิดเข้าได้โดยคอม เลยขอสักจิดนึงนะ

 

เอะ เว็บกลับมาแล้ว...
ถ้าเข้าจาก Fire Fox เข้าได้สะดวกโยธิน...
แต่ถ้าเข้าจาก...Internet Explorer เข้าไม่ได้เฉยเลย...มีใครเป็นมั่ง?

ว้า...เลยอดอ่านภาคต่อเลย...พี่น้ำใสหายจ้อย อิอิ