พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

ง่วงนอนจร้า...าา เมื่อคืนนอนเกือบตีสอง
ตื่นมาทำไมก็ไม่รู้แต่เช้า ขอตัวไปสลีปอะโลนก่อนน้า
ไม่มีนิทานแก้ง่วงเล้ยยยยยยยยยย

 

ทักทายตอนเที่ยง เมื่อคืนฝันว่า บินได้อีกแล้ว กางมืออกแล้ว กระพือเหมือนปีกนก แล้วก็ลอยสูงขึ้นๆไป แค่นี้แหละคร้าบ

 

สวัสดียามบ่ายๆ ค่ะ คุณ tuk187 เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ

อยากให้เล่าเรื่องพญานาคที่เคยประสบมาค่ะ

 

แล้วพบกันค่ะ คุณคุรุวาโร

 

มาแว้วววว...เด็กๆ หายไปไหนกันหมด
ตั้งใจไปนอนแต่นอนไม่หลับเพราะไม่เคยนอนกลางวันค่ะ
ก็เลยนอนสมาธิซะเลย....ไม่มีใครเม้าท์อารายไว้ให้อ่านกันเลยหนอ

 

สวัสดีทุกท่าน ทุกนามค่ะ... วันนี้นำบุญมาฝากนะคะ

เมื่อเช้านำผลไม้และนมไปตักบาตรมาค่ะ รวมถึงสวดมนต์ทำวัตรเช้าและฟังเทศน์ด้วยจ้ะ

ช่วงแผ่เมตตานั้น มีความรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมานิดหน่อย แล้วหายไปค่ะ ... ก็รู้สึกปลื้มใจ อิ่มใจที่ได้ทำบุญวันนี้จ้าาาา

ปล. ไม่มีอะไรมาเล่า เพราะเข้าสู่โหมดความจำเสื่อมอีกแล้วจ้ะ อิอิ

 

เชียงใหม่...ฝนตกแล้วจร้า..าา
วันนี้ หายไปไหนกันหมดเนี่ย
เราก็ขี้เกียจเล่าซะด้วย อยากจะโม้
แต่ก็ไม่รู้จะโม้อารายยยย...
น้องใหม่โม้หน่อยซิคะ...รออ่านหนอ

 

กระทู้ร้างจริงๆ ด้วย
น้องโอ๋...โม้ให้อ่านหน่อยจิ คุณพี่ขอร้อง

ได้ใหม่แล้วก็พากันทิ้งของเก่า...เซงงงงเรย

 

รอพี่นุ๊กโม้อยู่ค่าาาาา

 

วันไหนที่พี่หยุดโม้..วันนั้นก็คือถึงกาลปาวสาน ชิมิ

 

สวัสดีคะท่านประธาน พี่รั้ง พี่นุ๊ก พี่มิก พี่ฟ้ามุ่ย พี่จี๊ด พี่แต และพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกท่านคะ

นู๋อุตส่าห์แอบๆ ซะแว้บๆมานะคะ ยังเห็นอีกหรอ 555

นู๋ไม่มีอะไรจะโม้คะ เพราะสัญญาณเนตนู๋ไม่เป็นใจเอาซะเรยยยยย:'(

แค่อ่านยังยากเลยคะ พี่นุ๊ก

ปล. นุ๋ไม่เข้าใจคะ ได้ใหม่แล้วลืมเก่า นู๋ งง เอิ๊กๆๆ

 

น้ำตกอีกัวซู บราซิล/อาร์เจนตินา

ชื่อ อีกัวซู มาจากคำว่า Guarani แปลว่า น้ำ และคำว่า uasu แปลว่า ใหญ่ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า สมัยนนั้นพระเจ้าทรงวางแผนจะแต่งงานกับ Naipi สาวพื้นเมืองแสนสวย แต่สาวเจ้าหนีไปด้วยเรือ canoe กับชายคนรักชื่อ Taroba ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ พระองค์จึงตัดแม่น้ำออก ทำให้เกิดเป็นน้ำตกใหญ่มหึมา และสาบแช่งคู่รักสองคนนั้นให้ตกลงไป ในน้ำตกนั้นชั่วกัลปาวสาน น้ำตกอีกัวซูมีความสูงเฉลี่ย 62 - 82 เมตร โดยมีน้ำตกขนาดเล็กและใหญ่ทั้งสิ้น 275 น้ำตก เรียงรายอยู่ในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน และมีความยาวทั้งสิ้น 2.7 กิโลเมตร

 

น้องๆก็คงห่อเหี่ยวกันล่ะค่ะ... ฮ่าๆๆๆ

 

เมื่อตอนบ่ายตั้งใจเข้าไปนอน เพราะง่วงมาก
แต่พอนอนจริงๆ ก็ไม่ยอมหลับ เพราะนอนสมาธิภาวนา
ถ้าภาวนาอย่างเดียวก็จะไม่ได้อะไร นอกจากฌาน
ก็เลยเดินปัญญาพิจารณาธรรม พิจารณากาย

เริ่มจากขน-ผม ได้เห็นวัฏฏจักรของขน-ผม ที่ไม่สิ้นสุด
เส้นนี้หลุดไป เส้นใหม่ก็งอกขึ้นมาแทน
เพราะมันมีลักษณะเหมือนปลอกเป็นชั้นๆ
ฟันก็เหมือนกัน ฟันน้ำนมหลุดไป ฟันแท้ก็ขึ้นมาแทน
ผิวหนังของคนก็เหมือนกัน มันจะทับถมเป็นชั้นๆ ขึ้นมา
ว้า...อธิบายยากอ่ะ ลองไปพิจารณาดูกันเองแล้วกันน้า
พิจารณาแค่ระยะเวลาสั้นๆ ค่ะ ยังไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่
แต่ก็ได้เห็นส่วนหนึ่ง เหตุแห่งการเกิด เหตุแห่งการดับ
มันมารวมลงที่อิทัปปัจจยตา เป็นธรรมชาติีที่เป็นเช่นนั้นเอง

เคยเห็นใบสนทะเลมั้ย ขนและผมของเรามีลักษณะอย่างนั้น

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
nouk, แหมบศรี, NEOMAI

เหลือกันอยู่แค่นี้ เล่นอะไรกันดีหนอ...?

 

มีนิทานมาฝากคร้า..าา เหลือกันอยู่แค่นี้ก็คุยกันแค่นี้เนาะ

ที่จังหวัดสุพรรณบุรีมีคลองอยู่คลองหนึ่ง เรียกว่า “คลองสองพี่น้อง” ปัจจุบันอยู่ในท้องที่อำเภอสองพี่น้อง

 

เด๋วนู๋โม้ เองคะ นู๋โม้เก่งจะตาย อิอิ

 

เรื่องนี้มีนิทานเล่ากันมาแต่โบราณว่าสมัยหนึ่ง มีชายสองคนพี่น้องอาศัยอยู่ที่คลองนี้ ทั้งสองมีอาชีพทำไร่ทำสวน ฐานะค่อนข้างมีอันจะกิน และรูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ เป็นที่หมายปองของสาวในบ้านเดียวกัน

แต่ชายหนุ่มทั้งสองหาสนใจไม่ ต่อมาไม่นานทั้งสองได้ข่าวว่ามีสาวงามสองคนอยู่ในตำบลท้องที่อำเภอบางปลาม้า หญิงทั้งสองนี้สวยงามมาก ชายทั้งสองพี่น้องจึงคิดต้องการนางมาเป็นคู่ครองทั้งสองคน

ต่อมาสองพี่น้องได้จัดเถ้าแก่ไปสู่ขอ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเมื่อได้ฟังคุณสมบัติของฝ่ายชายก็ไม่รังเกียจ และเห็นว่าลูกสาวของตนอายุสมควรที่จะมีคู่ครองได้แล้วจึงตอบตกลง “เมื่อมาสู่ขอลูกสาวของฉันไปตกไปแต่งทั้งที ก็ขอให้สมกับหน้าตา ฐานะหน่อยหนึ่งจะได้ไหม” พ่อขอฝ่ายหญิงกล่าวกับเถ้าแก่ ฝ่ายหญิงต้องการให้จัดขบวนขันหมากลงเรือสำเภาให้ใหญ่โต จะได้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวบ้านแถวนี้

 

ครั้งถึงวันกำหนดนัด ฝ่ายชายก็จัดเครื่องขันหมากและเครื่องใช้ในการแต่งงานลงเรือสำเภา มีมโหรีปี่พาทย์ครบครัน

เมื่อได้ฤกษ์ขบวนขันหมากพร้อมทั้งเจ้าบ่าวทั้งสอง ก็เริ่มเคลื่อนที่จากคลองสองพี่น้อง ออกไปทางแม่น้ำสุพรรณขึ้นไปทางเหนือมุ่งหน้าไปบ้านเจ้าสาวขณะที่เรื่อแล่นไป นักดนตรีก็เล่นดนตรีดังไปตลอดทาง

จนถึงตำบลหนึ่ง เมื่อนักดนตรีเปลี่ยนเพลงมาเล่นซอ ชาวบ้านจึงเรียกที่แห่งนี้ว่า “บางซอ” เพราะนักดนตรีไปเล่นซอที่นั่น เมื่อแล่นไปอีกไม่นานเสียงดนตรีก็ยิ่งดังครึกครื้น สนุกสนาน ผู้คนในเรือก็ร้องรำกันไม่ได้หยุดที่แห่งนี้จึงเรียกว่า “บ้านสนุก”

เมื่อเรือขบวนขันหมากเลยบ้านสีสนุกไปได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์อย่างไม่คาดคิดขึ้น คือ เรือสำเภาที่บรรทุกทั้งคนทั้งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับงานแต่งงาน ได้เกิดอุบัติเหตุอับปางล่มลง คนที่มากับขบวนขันหมาก และสิ่งของเครื่องใช้จมหายไปในน้ำหมด

ดังนั้น ตรงที่เรือสำเภาล่มนั้นปัจจุบันจึงเรียกว่า “สำเภาทลาย” ส่วนเจ้าบ่าวสองพี่น้องจมน้ำตายทั้งคู่ ฝ่ายเจ้าสาวทั้งสองสมกับเป็นเจ้าสาวรอขบวนขันหมากด้วยใจระทึก ต่างคนก็คิดถึงเจ้าบ่าวของตนเองว่าหน้าตาหล่อเหลาแค่ไหน

แต่เมื่อมีคนมาส่งข่าวว่าขบวนเรือขันหมากของสองพี่น้องล่มลงกลางแม่น้ำเสียแล้ว และเจ้าบ่าวของเธอก็จมน้ำตายด้วย หญิงทั้งสองเสียใจมาก เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา

ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกบ้านทีหญิงทั้งสองอยู่ว่า “บ้านแม่หม้าย” ซึ่งปัจจุบันก็ขึ้นอยู่กับอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

 

รออ่านหนอคร้า...าาา นู๋จาโม้ได้ยังอ่ะ