พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 1 กันยายน 2012.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มาแว้วววว...จัดให้ก่อน 1 เรื่องคร้า...าาา

    <center>
    [FONT=ms Sans Serif,] ความหลัง [/FONT]

    [FONT=ms Sans Serif,]โดยท่านอาจารย์วศิน อินทสระ

    [/FONT][FONT=ms Sans Serif,]ดูก่อนภราดา ตามที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่าบัณฑิตในกาลก่อน จะเห็นว่าบัณฑิตในกาลก่อนย่อมสลดในเรื่องที่ควรสลด และพอใจในการดำเนินตาม แบบอย่างที่ของท่านผู้รู้ ผู้สงบ ท่านได้บรรลุธรรมกันมาก พระศาสดาของเรานั้น ทรงมีพระอัธยาศัยในทางบรรพชามานานแสนนาน ไม่เพียงแต่ในชาติปัจจุบันเท่านั้น ดังเรื่องต่อไปนี้

    วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายสนทนากัน ณ ธรรมสภาแห่งเชตวันวิหาร เมืองสาวัตถีว่า เป็นการอัศจรรย์ที่พระศาสดาผู้สมบูรณ์ด้วยความสุขอย่างพระราชาทุกอย่าง แล้วเสด็จออกบรรพชา พระผู้มีพระภาคเสด็จมาแล้วตรัสว่า การที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีอย่างเต็มเปี่ยม แล้วเสด็จออกบรรพชาในบัดนี้ไม่เป็นสิ่งอัศจรรย์ แม้ในกาลก่อนก็ทรงสละราชสมบัติออกบวชมาแล้ว ทรงเล่าเรื่องในอดีตอันเป็นความหลังให้ภิกษุทั้งหลายฟังดังนี้

    ในอดีตกาล พระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดในท้องของภรรยาหลวงของราชปุโรหิต คลอดวันเดียวกับพระราชโอรสของพระราชา พระโพธิสัตว์มีชื่อว่า สุสีมกุมาร ส่วนพระราชโอรสทรงพระนามว่า พรหมทัตกุมาร ทั้งสองเจริญวัยแล้วมีรูปงาม มีพลานามัยสมบูรณ์ไปศึกษาศิลปวิทยาด้วยกันที่เมืองตักกศิลา สำเร็จแล้วกลับมา พระราชกุมารดำรงตำแหน่งอุปราช ทรงเสวย ดื่ม ประทับนั่ง และบรรทมร่วมกับพระโพธิสัตว์

    เมื่อพระชนกสิ้นพระชนม์แล้ว อุปราชก็ได้ขึ้นเสวยราชย์เป็นพระราชา ทรงตั้งพระสหายสุสีมะไว้ในตำแหน่งปุโรหิต มีหน้าที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน วันหนึ่งเสด็จเลียบพระนคร ประทับบนคอช้างมงคล ให้พระโพธิสัตว์นั่งด้านหลัง

    สมเด็จพระราชชนนีประทับยืนที่ช่องพระแกลด้วยตั้งพระทัยว่าจักมองดูพระราช โอรสและขบวนเลียบพระนคร ทอดพระเนตรเห็นพระโพธิสัตว์นั่งอยู่เบื้องหลังของพระราชโอรส ทรงมีพระทัยปฏิพัทธ์อย่างมาก ราคะได้กลุ้มรุมพระทัยอย่างที่ไม่อาจจะทรงหักห้ามได้ เสด็จเข้าห้องบรรทมไม่ยอมเสวยพระกระยาหาร ตั้งพระทัยว่าจะยอมสิ้นชีวิตด้วยวิธีนี้ถ้าไม่ได้พระโพธิสัตว์ พระราชาผู้เป็นพระราชโอรสเมื่อไม่เห็นพระชนนีก็เสด็จไปเยี่ยม ทราบว่าทรงประชวรแต่เมื่อตรัสถามว่าทรงประชวรเป็นอะไรก็ไม่ทรงเล่า เพราะทรงละลายเกินไปในเรื่องเช่นนี้ พระราชาจึงเสด็จกลับรับสั่งให้พระมเหสีเข้าเฝ้า ขอร้องให้ทูลถามพระราชชนนีว่าทรงประชวรเป็นอะไร
    [/FONT]
    </center>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.8 KB
      เปิดดู:
      27
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=ms Sans Serif,][FONT=ms Sans Serif,]พระมเหสีเสด็จไปเฝ้า ทรงนวดพระปฤษฎางค์ (หลัง) พลางทูลถามไปพลาง โดยทั่วไป หญิงจะเปิดเผยความลับทำนองนี้กับหญิงด้วยกัน ดังนี้พระราชชนนีจึงตรัสบอกความจริงกับพระสุณิสา (หญิงสะใภ้) จนหมดสิ้น

    พระราชาทรงทราบเรื่องนั้นแล้ว มิได้ทรงพิโรธแม้แต่น้อย ทรงเป็นบัณฑิต ทรงเข้าพระทัยในชีวิตมนุษย์ได้ดี จึงตรัสกับพระมเหสีว่าขอให้ไปกราบทูลพระราชชนนีว่า ขอให้ทรงเบาพระทัยเถิดจะทรงตั้งปุโรหิตเป็นพระราชาและทรงตั้งพระราชชนนีเป็น พระราชินี

    พระราชาทรงปรารภเรื่องนี้แก่ปุโรหิต คือพระโพธิสัตว์และขอร้องว่าจงช่วยให้ชีวิตแก่เสด็จแม่เถิด ขอท่านจงเป็นพระราชา เสด็จแม่เป็นอัครมเหสี ส่วนข้าพเจ้าเองจักเป็นอุปราช พระโพธิสัตว์คัดค้านอย่างแข็งขันว่า จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง มันเป็นการผิดศีลธรรมมิใช่หรือ?

    พระราชาทรงอ้อนวอนพระโพธิสัตว์ให้เห็นแก่มนุษยธรรม คือเมตตา กรุณาที่จะต้องช่วยชีวิตของพระราชชนนี และสนองพระคุณของท่าน ให้ท่านมีความสุขในสิ่งซึ่งไม่เหลือวิสัยที่จะช่วยได้ พระราชชนนีก็ทรงเป็นหม้าย สหายเล่าก็เป็นโสด จะเป็นความผิดอะไรในด้านศีลธรรมและมนุษยธรรม สิ่งที่น่าวิตกก็เพียงแต่คำติเตียนของคนทั้งหลายซึ่งอาจจะมีบ้างในตอนแรก ๆ แต่เมื่อเขาเข้าใจเหตุผลแล้วก็คงจะเห็นใจ เข้าใจ และให้อภัยไปเอง

    เมื่อถูกอ้อนวอนบ่อยเข้า พระโพธิสัตว์ก็ยินยอมเพื่อสนองความดีของพระราชาซึ่งเป็นทั้งสหายรัก และผู้มีอุปการะคุณ แต่ต้องฝืนใจเป็นอันมากในการทำเช่นนั้น
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=ms Sans Serif,][FONT=ms Sans Serif,]พระโพธิสัตว์ได้รับอภิเษกให้เป็นพระราชา พระราชชนนีเป็นพระราชินีหรืออัครมเหสี พระราชาทรงลดพระองค์เป็นอุปราชเหตุการณ์ก็ปกติสุขเรื่อยมา แต่พระโพธิสัตว์ก็ทรงฝืนพระทัยไปได้ไม่นานนัก ทรงเบื่อหน่ายในการครองเรือน ทรงรู้สึกเหมือนอยู่ในเรือนจำ เหมือนไก่ที่ถูกขังอยู่ในกรง ไม่ทรงยินดีอยู่ในกามคุณ จึงพอพระทัยในการอยู่ผู้เดียว ยืน เดิน นั่ง นอน แต่ผู้เดียว

    พระอัครมเหสีทรงหวาดหวั่นพระทัยว่า จะถูกทอดทิ้ง ข้อนี้ทรงได้หวั่นพระทัยมาแต่ต้นแล้ว ทรงดำริว่า "เราแก่แล้ว มีหงอกบนศีรษะ ส่วนพระราชายังหนุ่มแน่นแข็งแรงและรูปงาม คงจะทรงเบื่อเป็นแน่แท้"

    พระราชินีทรงหาอุบายได้อย่างหนึ่ง วันหนึ่งขณะทรงสนิทสนมใกล้ชิดกัน พระราชินีแหวกพระเกศาของพระราชาเล่น ทรงทำเป็นตกพระทัยว่า เกศาหงอกปรากฏบนพระเศียรของพระราชาแล้ว

    "หงอกแล้วหรือ" พระราชาตรัสถาม ทรงสะดุ้งเล็กน้อย "ไหนลองเอาออกมาให้ดูซิ" ทรงแบพระหัตถ์ออกรับ

    "นี่เพคะ" พระราชินีทรงส่งพระเกศาเส้นหนึ่งถวายทอดพระเนตร อันที่จริงทรงถอนพระเกศาจากพระเศียรของพระราชาเส้นหนึ่งแล้วทิ้งไป เส้นที่ทรงส่งถวายนั้นเป็นพระเกศาของพระนางเอง

    พระราชาทอดพระเนตรแล้วทรงเชื่อ ทรงสะดุ้งพระทัยจนพระเสโทไหลจากพระนลาฏ ทรงสังเวชสลดพระทัยอย่างยิ่ง ทรงโอวาทพระองค์เองว่า

    "สุสีมะ บัดนี้เจ้าแก่แล้ว มีเกศาหงอกแล้ว อย่าจมอยู่ในการครองเมืองเลย จงหาทางละกามคุณออกบวชประพฤติพรหมจรรย์เถิด"
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=ms Sans Serif,][FONT=ms Sans Serif,]เมื่อเหตุการณ์กลับตรงกันข้ามกับที่หวังไว้เช่นนี้ พระราชินีก็ทรงตกพระทัย จึงทรงสารภาพความจริงออกมาว่า

    "ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ผมหงอกนั้นเป็นของหม่อมฉันเองหาใช่ของพระองค์ไม่ หม่อมฉันได้ทูลคำเท็จต่อพระองค์ เพราะความเห็นแก่ประโยชน์ของตน มุ่งประโยชน์ของตน ขอพระองค์ได้ทรงโปรดประทานอภัยให้ด้วยเถิด มหาราช พระองค์ยังทรงเป็นหนุ่ม มีพระโฉมน่าทัศนา ยังทรงอยู่ในปฐมวัย เหมือนตองกล้วยแรกผลิ ฉะนั้นขอพระองค์ได้เสวยราชย์ต่อไป ดูแลหม่อมฉันให้เป็นสุขด้วยเถิด อย่างเพิ่งประพฤติพรหมจรรย์เลย" พระโพธิสัตว์ทรงสดับแล้วตรัสว่า

    "ถึงอย่างไร ๆ ทุกคนก็แก่ เจ็บ และตาย ผมซึ่งเคยดำนี้อีกหน่อยก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนใยป่าน ความหนุ่มสาวย่อมลงท้ายด้วยชรา และในที่สุดก็ต้องตาย กุมารีรุ่นสาว มีรูปร่างสวยงาม ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา ทรวดทรงเฉิดฉาย อ่อนละมุนละไมเหมือนเถาวัลย์ต้องลมโชย ต่อไปเขาก็ต้องแก่ถือไม้เท้า ตัวสั่นงันงกอยู่ ถ้ามีอายุยืนยาวไปถึง ๘๐-๙๐ ปี ก็ต้องเป็นอย่างนี้เหมือนกันทุกคน

    "ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงคุณและโทษของรูปกายอยู่อย่างนี้ จึงพอใจในการยืน เดิน นั่ง นอนเพียงอย่างเดียว ไม่ปรารถนากามคุณไม่อาลัยในกามคุณอันเป็นเสมือนเครื่องผูกมัดที่ตัดยาก"

    พระโพธิสัตว์ เมื่อกล่าวธรรมด้วยพุทธลีลาอันประเสริฐเช่นนี้ แล้วได้มอบราชสมบัติคืนให้แก่สหาย แล้วออกบวชเป็นฤๅษีทำฌานและอภิญญาให้เกิดขึ้น เมื่อสิ้นชีพแล้วไปบังเกิดในพรหมโลก
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=ms Sans Serif,][FONT=ms Sans Serif,]ดูก่อนท่านผู้แสวงหาสัจจะ พระโพธิสัตว์ในครั้งนั้นก็คือพระตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานี่เอง พระอัครมเหสีคือมารดาแห่งพระราหุล พระราชาผู้เป็นสหาย คือพระอานนท์ พุทธอนุชานั่นเอง

    ดูก่อนภราดา บัณฑิตแต่โบราณย่อมสลดใจในเรื่องที่ควรสลดอย่างนี้ ท่านเป็นผู้มีใจใฝ่ธรรมอยู่เสมอ เห็นสิ่งใดได้ฟังสิ่งใดก็น้อมใจเข้าไปหาธรรม หรือน้อมธรรมเข้ามาในตน จึงเป็นอันเดียวกันกับธรรมและไม่เสื่อมจากธรรม

    เมื่อภิกษุทั้งหลายสนทนากันมาได้เพียงเท่านี้ เสียงระฆังในอโศการามก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้ภิกษุทั้งหลายเตรียมตัว เข้าประชุมฟังโอวาทของพระสังฆเถระ ซึ่งถือเป็นกิจวัตประจำวัน ลมเย็นโชยมาเบา ๆ หอบเอากลิ่นดอกไม้หอมเป็นต้นว่าพิกุลมาด้วยทำให้รู้สึกชื่นบาน และที่ชื่นบานกว่านั้นก็คือดวงใจของภิกษุจากวรรณไวศยะผู้ได้ธัมโมทก น้ำคือธรรมกถาของเพื่อนพรหมจารีมาโสรจสรงดวงใจซึ่งเร่าร้อนกระวนกระวายให้ สงบเย็นลง ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ มองเห็นแสงสว่างในทางชีวิตบนเส้นทางที่เดินยาก แต่ร่มเย็นเป็นสุขสำหรับผู้ที่เดินเป็น

    ท่านประคองอัญชลี นมัสการเพื่อนพรหมจารี จากวรรณะพราหมณ์ ซึ่งได้เสียสละเวลาอันมีค่าในการบำเพ็ญเพียรทางจิตมากล่าวธรรมกถา เพื่อระงับความกระวนกระวาย จัดเป็นบุญกิริยาอันน่าสรรเสริญและควรอนุโมทนา ดังพระพุทธวาจาที่ว่า "การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง และความสิ้นตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง" ดังนี้
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=ms Sans Serif,][FONT=ms Sans Serif,]ความหลังแห่งจริยาของพระศาสดา ได้ช่วยลบรอยแห่งความทุกข์ความกระวนกระวาย ความเศร้าหมองในดวงใจของท่านให้เบาบางลง

    และคงจะมีสักวันหนึ่งที่รอยนั้นถูกลบให้หายไปโดยสิ้นเชิงไม่มีเชื้อเหลือโดย การซึมซาบแห่งน้ำคือ ธรรมเข้ามาเอิบอาบอยู่ในดวงจิต ออกฤทธิ์กำจัดอาสวะคือ อธรรมที่หมักหมมในใจนานแสนนานให้ปลาสกนาการ นำความเบ่งบานชื่นสุขอย่างแท้จริงมาสู่ชีวิตโดยไม่ต้องกลับกลายเป็นทุกข์อีก นี่คือยอดปรารถนาแห่งชีวิตทุกชีวิตที่อุบัติขึ้นในโลกนี้

    เอวังคร้า..าา
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  7. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ขอบคุณนิทานดีๆจากพี่นุ๊กค่าาาา... :cool:
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นึกว่าแอบไปหลับไปนอนกันหมดแล้วซะอีกนิ
    ฟ้ามุ่ย ไม่มีเรื่องเล่ามาฝากบ้างเหรอ รออ่านหนอคร้า..าา
     
  9. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ช่วงนี้แห้งเหี่ยว เหมือนไข่เจียวค้างคืนค่ะ ไม่มีเรื่องอะไรมาเล่าเลย..

    อ้อ!!! เพิ่งนึกได้ ว่าเมื่อเที่ยง เพื่อนเล่าเรื่องของคุณมิตรไชย บัญชาให้ฟังค่ะ เป็นลางก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

    ว่าวันนั้นก่อนจะต้องแสดงโหนเฮลิคอปเตอร์นั้น วันนั้นตัวแสดงแทนลืมเสื้อที่จะต้องใส่ให้เหมือนกันมาด้วย ช่วยไม่ได้ คุณมิตรเธอเลยต้องแสดงเอง แล้วเธอก็สั่งให้คนในกองไปไล่ชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณจอมปลวก ให้ออกไป ... ทีมงานก็ งง ว่า ไหนล่ะ ไม่มีใครเลย คุณมิตรเธอหมายถึงใคร

    สักพักคุณมิตรกตะโกนอีกว่า ไปไล่เขาไป เราจะถ่ายแล้ว เดี๋ยวมีเขาติดมาในกล้อง... ทีมงานก็ งง กว่าเดิม เพราะมองไปเห็นแต่จอมปลวก ไม่เห็นคนเลย

    คุณมิตรโมโห เลยเดินไปหยิบปืนที่ใช้ในการแสดงมายิงขู่ค่ะ แล้วสองคนนั้นก็หายไป ถึงได้เริ่มถ่ายทำกันได้
     
  10. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    พอจังหวะที่ต้องโหนบันไดที่ห้อยลงมาจากเฮลิคอปเตอร์นั้น จริงๆที่เกาะมันต้องหนาๆ แต่วันั้นมันเป็นแค่ลวดสลิงค่ะ เนื่องด้วยข้อมือคุณมิตรมีแผลที่เกิดจากสังกะสีบาดระหว่างถ่ายทำหนังอยู่แล้วที่ข้อมือ สลิงไปบาดซ้ำจุดเดิม ทำให้เอ็นขาด มือข้างนั้นเลยข่วยพยุงตัวเองไม่ได้ สักพักร่างคุณมิตรก็ร่วงลงมาตกอยู่ใกล้ๆจอมปลวกนั้น

    และอีกประมาณ 10 ปีต่อมา พื้นที่บริเวณนั้นก็กลายแหล่งน้ำค่ะ เพื่อนบอกว่า ถ้ามิตรตกลงมาตอนนี้ คงไม่ตายเพราะข้างล่างเป็นน้ำไปหมดแล้ว

    **************************

    เพื่อนมานึกถึงความฝันที่ฟ้ามุ่ยเล่าถึงหญิงชายคู่หนึ่งให้ฟัง ก็เลยนำเรื่องนี้มาเล่าด้วยค่ะ

    จบแล้วจ้าาาา หวังว่าพอคั่นเวลาไปได้บ้างล่ะเน้อออ :cool:
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อุย....ตั้งหลายสิบปีแล้วนะเนี่ย เพิ่งรู้ความจริงวันนี้นี่เอง
     
  12. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ถ้าเพื่อนไม่เล่าให้ฟัง ฟ้ามุ่ยเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่นุ๊ก เพราะความฝันตัวเองทำให้เพื่อนนึกถึง เลยเล่าให้ฟังค่ะ ฮ่าๆๆๆ แอบสยองเล็กน้อย
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เดี๋ยวนี้นอนภาวนาแล้วคำภาวนาหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว
    (แสดงว่าขาดสติ)
    ภาวนาไป...ภาวนามา กลายเป็นสวดองค์แม่เฉยเลย
    เมื่อคืนนะ รู้สึกตัวตอนไหน ก็สวดองค์แม่ตอนนั้นยันเช้า
    (แต่อย่างนี้เรียกว่า มีสติ)
    วันนี้ก็เลยไม่มีเรื่องมาเล่าให้อ่านกันหนอ
     
  14. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    บ่ายๆ อากาศครึ้มๆ ฝนจะตกแหล่ มิตกแหล่ ลมพัดแรง อากาศเริ่มเย็น

    ความง่วงเข้าครอบงำจิตใจแล้วค่าาาา :cool:
     
  15. Tatojang

    Tatojang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +1,401
    สวัสดีตอนบ่ายๆค่ะ ที่นี่ฝนตกแรงค่ะอากาศเย็นสบายดีค่ะsleeping_rbน่านอนมาก
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไปนอนจิ ฟ้ามุ่ย ไม่มีอารมณ์เล่าอะไรเลยอ่ะ...วันนี้
    สงสัยแบตน่าจะชาร์ตติดตอนเย็นๆ
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน )
    nouk, NEOMAI, hastin, 9999nui, fahmui, Upson, AO_N2001, wanjai99

    อยู่กันครบหรือเปล่าหนอ....ขอเีสียงหน่อยคร้า..าาา
     
  18. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440

    ฟุบนอนตอนนี้ มีสิทธิ์โดนประเมินต่ำและไล่ออกได้ค่าพี่นุ๊ก อิอิ :cool: ...

    ฝนตกๆ หยุด มาตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้หยุดแล้ว เดี๋ยวพอจะกลับบ้าน ตกอีกแน่ๆเลย
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มาอ่านตำนานแก้ง่วงกันดีกว่าหนอ...

    ตำนานแม่น้ำชี

    แม่น้ำที่ยาวที่สุด คือ แม่น้ำชี มีต้นธารจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลผ่าน จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดมหาสารคาม จนไปบรรจบกับแม่น้ำมูล ในเขตจังหวัดอุบลราชธานีรวมความยาวทั้งสิ้น 765 กิโลเมตร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ปิง.jpg
      ปิง.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.8 KB
      เปิดดู:
      27
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ชื่อของแม่น้ำชี เกิดจากแม่หม้ายคนหนึ่งอยู่กับลูกสาว สามีของนางเสียชีวิตนานแล้ว วันหนึ่งนางไปหาหน่อไม้บนภูเขาซึ่งมีหน่อไม้มาก วันนั้นนางหาหน่อไม้ได้มากกว่าทุกวันนางจึงได้นำหน่อไม้ที่หาได้ไปขายในตลาดกับลูกสาวของนาง ปรากฏว่าหน่อไม้ของนางขายดีได้เงินมาเป็นจำนวนไม่น้อย


    เมื่อได้เงินจากการขายหน่อไม้นางได้พาลูกสาวของนางไปซื้อเสื้อผ้าซื้อของที่ลูกของนางอยากได้ เมื่อนางและลูกสาวซื้อของเสร็จกำลังจะออกจากร้าน เจ้าของร้านก็ได้บอกนางว่า "ผู้หญิงคนนี้สวยจริง ๆ เลย" ต่อมามีคนพูดว่า "ลูกสาวของป้าสวยอย่างนี้ทำไมไม่ให้เข้าไปอยู่ในวังจะได้สบาย"​

     

แชร์หน้านี้

Loading...