เรื่องราวอารยธรรมวัฒนธรรมตำนานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกิณกะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 28 กรกฎาคม 2010.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]
    "มหาวชิราวุธ"ลักษณะกลมรี รูปวชิราวุธ มีรัศมีประดิษฐานบนพานทอง ๒ ชั้น ตั้งอยู่เหนือตั่ง มีฉัตรปริวาร ๒ ข้าง (วชิราวุธ หมายความถึงศัตราวุธของพระอินทร์)

    เท้าเมื่อเดินติดดิน กลิ่นจะหอม ใจที่รู้จักเสียสละ สีจะขาว
    เท้าเมื่อเดินติดดิน กลิ่นจะหอม ใจที่รู้จักเสียสละ สีจะขาว

    [​IMG]

    [​IMG]
    4 พฤษภาคม 2493วันเริ่มการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเฉลิมพระราชมณเทียร..
    รูป การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ในหลวงผู้ทรงมีพระอินทราธิราชทรงอาวุธคือสายฟ้า วชิราวุธรักษาพระเศวตฉัตรเหนือพระราชบัลลังก์

    [​IMG]
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]
    แฮรี่กับรอยแผลเป็นปริศนา รูปสายฟ้าบนหน้าผาก เมื่อแฮร์รี่อายุได้ 11ปี แฮร์รี่จึงทราบว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นผู้วิเศษที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก
    [​IMG]

    http://palungjit.org/posts/6077541
    "ประโยชน์ของความล้มเหลว"
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]
    วันที่ 4 พฤษภาคม 2493 เป็นวันเริ่มการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเฉลิมพระราชมณเทียร
    รูป การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    Thai Heritage Treasury

    การพระราชพิธีมีอยู่ที่พระมหามณเทียร คือพระที่นั่งจักพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย กับพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และที่ทำพิธีพราหมณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม เชิญพระพุทธพรรณี และพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร ประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ตั้งพระอภิรุมชุมสาย 1 สำรับ ภายในพระที่นั่ง
    บนพระที่นั่งมหาเศวตฉัตร ตั้งพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ เป็นบรมราชบัลลังก์ที่ประทับ เวลาเสด็จออกมหาสมาคม มีโต๊ะทองสำหรับตั้งเครื่องราชูปโภคทั้ง 2 ข้าง ที่มุมพระที่นั่งมหาเศวตฉัตร ตั้งต้นไม้เงินทอง 4 มุม ๆ ละต้น และปักพระมหานพปฎลเศวตฉัตรไว้พร้อม ตั้งพระราชอาสน์ตรงหน้าพระที่นั่งมหาเศวตฉัตร เป็นที่เสด็จออกประทับ ข้างหลังพระราชอาสน์ทอดพระแสงง้าวและพระแสงปืน
    ตรงเสาคู่หน้าพระที่นั่งเศวตฉัตร ติดพระสูตรทอง สำหรับไขเวลาเสด็จออกมหาสมาคม
    ตรงหน้าพระสูตรออกไป ระหว่างเสาท้องพระโรงด้านตะวันออก ตั้งอาสนสงฆ์ 4 แถว สำหรับพระสงฆ์ 45 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ตรงข้ามอาสนสงฆ์ตั้งเก้าอี้หมู่ สำหรับข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ริมผนัง ด้านเหนือตั้งพระแท่นสำหรับพระสงฆ์ 4 รูปสวดภาณวาร และตั้งเตียงพระราชาคณะนั่งปรก หน้าพระแท่นสวดภาณวาร ตั้งกระโจมเทียนชัย (ใช้ขี้ผึ้งหนัก 36 กิโลกรัม ไส้ 108 เส้น)
    พระแท่นมณฑล พระแท่นมณทลน้อย ตั้งอยู่ด้านตะวันออก มุมผนังด้านเหนือพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นพระแท่นสำหรับตั้งเครื่องมงคลต่าง ๆ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับว่าเป็นพระแท่นสำคัญ มีเครื่องตั้งไว้เป็นหมวด ๆ คือ
    หมวดสิ่งสักการะ มีอยู่ 10 รายการ
    หมวดพระราชสิริ มีอยู่ 3 รายการ
    หมวดเครื่อง พระมุรธาภิเษก มีอยู่ 13 รายการ
    หมวดเครื่องต้น มี 9 รายการ
    หมวดพระแสง มี 30 รายการ
    หมวดเครื่องสูง มี 10 รายการ
    พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ตั้งอยู่ด้านตะวันออกริมผนังด้านใต้ หน้าพระทวารที่ลงจากหอ พระสุลาลัยพิมาน เคียงพระแท่นมณฑล ปักพระบวรเศวตฉัตร 7 ชั้น ณ ท่ามกลางพระที่นั่ง ตั้งตั่งอัฐทิศ 6 เหลี่ยม บนตั่งอัฐทิศตั้งเทวรูป นพเคราะห์ประจำทิศในษุษบกลายทอง พื้นสีตามนพเคราะห์ ด้านหน้าตั้งเทวรูปอธิไทโพธิบาต
    พระที่นั่งภัทรบิฐ ตั้งอยู่ด้านตะวันออก หน้าพระทวารที่ลงจากพระธาตุมณเทียร ปักนพปฎลมหาเศวตฉัตร ตั้งโต๊ะทองข้างพระที่นั้งสองข้าง สำหรับตั้งเครื่องราชูปโภค ตรงที่ประทับบนพระที่นั่งภัทรบิฐ พราหมณ์ทำพิธีลาดหญ้าคา โรยแป้งข้าวสาลี และข้าว 5 สี ( แดง เหลือง เขียว ขาว ดำ ) ปูแผ่นทอง สลักรูปราชสีห์ทับ แล้วลาดพระยี่ภู่
    วิมานพระสยามเทวาธิราช ประดิษฐาน ณ ตอนกลาง พระที่นั่งไพศาลทักษิณด้านเหนือ ตรงลับแลทวารเทวราชมเหศวร
    ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณนี้ มียันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อักขระขอมตัวทองพื้นขาว แขวนห้อยอยู่กับระย้าแก้วไฟฟ้า มียันต์พระอริยสาวก อักขระคาถาตัวทอง แขวนที่สายสิญจ์ติดผนังตามแนวลวดบัวประจำทิศทั้ง 8
    ท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ตั้งหมู่เก้าอี้ สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ท้าวนาง เถ้าแก่เฝ้า ฯลฯ ตั้งพระแท่นบรรทมในพระฉากด้านตะวันออกห้องเหนือ มีนพปฎลเศวตฉัตรแขวนลอยบนเพดาน เหนือพระแท่นบรรทม บนพระแท่นบรรทมตั้งม้าหมู่ประดิษฐาน พระชัยนวโลหะรัชกาลที่ 5 ตั้งเครื่องเฉลิมพระราชมณเทียร
    ในพระฉากด้านใต้ ห้องทรงเครื่อง ตั้งพระแท่นลาดพระราชอาสน์ มีนพปฎลเศวตฉัตร แขวนลอยเหนือพระแท่น

    มณฑปพระกระยาสนาน
    ปลูกที่ชาลาชานพักท้องพระโรงหน้า ด้านตะวันออก ตั้งพระมณฑปพื้นขาว ฐานยกพื้นขาวตั้งตั่งไม้อุทุมพรหุ้มผ้าขาว ข้างตั่งไม้อุทุมพรตั้งโต๊ะทอง 2 ชั้น บนโต๊ะตั้งครอบมุรธาภิเษก ที่ยกพื้นฐานมณฑป ตั้งราชวัตรพื้นขาวลายทอง มีเครื่องสูงทองแผ่ลวด 3 ชั้น สีทอง นาก เงิน ปักทั้ง 4 มุม ๆ ละ 3 องค์
    ด้านตะวันออกและตะวันตกมณฑปพระกระยาสนาน ตั้งบุษยกน้อย สำหรับประดิษฐานพระชัยนวโลหะและพระคเณศร์ ซึ่งจะได้เชิญนำเสด็จสู่พระมณฑป วันสรงมุรธาภิเษก เชิญพระชัยนวโลหะไปประดิษฐาน ณ บุษบกด้านตะวันออก เชิญพระคเณศร์ไปประดิษฐาน ณ บุษบกด้านตะวันตก
    ตั้งศาลพระอินทร์ ที่ชาลาตรงทางขึ้นลงมณฑปทิศตะวันออก บนพื้นมณฑปมีศาลเทวดาจตุโลกบาลทั้ง 4 คือ
    ท้าวธตรฐจอมภูติอยู่ทิศตะวันออก ท้าววิสุฬหกจอมเทวดาอยู่ทิศใต้ ท้าววิรูปักษ์จอมนาคอยู่ทิศตะวันตก ท้าวกุเวรจอมยักษ์อยู่ทิศเหนือ
    ศาลทั้ง 4 ตั้งที่มุมราชวัตรทั้ง 4 มุม
    ที่ชาลาทิศตะวันออกของมณฑปพระกระยาสนาน หน้าศาลพระอินทร์ ตั้งโต๊ะเครื่องสังเวยเทวดากลางหาว ข้างโต๊ะบูชาตั้งฆ้องชัย สำหรับโหรบอกพระฤกษ์สรงพระมุรธาภิเษก ตั้งโต๊ะทองปูผ้าเยียระบับ ข้างทางขึ้นลงมณฑปพระกระยาสนานด้านตะวันออก สำหรับวางสังข์และพระเต้าต่าง ๆ ซึ่งจะถวายในเวลาสรงมุรธาภิเษก

    สถานที่ทำพิธีพราหมณ์
    ตั้งสถานที่ทำพิธีที่ศาลาสหไทย ตั้งราชวัตรขาว 4 มุม มีฉัตรธงกระดาษ 5 ชั้น ตั้งเตียงมณฑลเล็ก มีโต๊ะทอง ตั้งพระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ พระลักษมี พระมเหศวรี พระพรหม พระมหาพิฆเนศ กับตั้งโต๊ะเทวดานพเคราะห์ โต๊ะเบญจคัพย ตั้งหม้อกุณฑ 9 หม้อ ตั้งเตาโหมกุณฑ วงด้ายสายสิญจ์รอบราชวัตร และแขวนพรหมโองการทั้ง 8

    พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    มีเทียนพระมหามงคลวันละคู่หนึ่ง เทียนเท่าพระองค์วันละคู่หนึ่ง ตั้งเครื่องนมัสการทองใหญ่สำหรับบูชา และพระแท่นทรงกราบ ในวันพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]

    Take a good look at an apple tree.

    Take a good look at an apple tree. มองดูต้นแอปเปิ้ลต้นหนึ่งให้ดี

    There might be five hundred apples on the tree, each with ten seeds. That’s a lot of seeds!

    มันอาจจะมีผลแอปเปิ้ลอยู่ 500 ผล แต่ละผล มีเมล็ดพันธุ์อยู่ 10 เมล็ด มันจึงเมล็ดพันธุ์จำนวนมากมาย

    We might ask, “Why would you need so many seeds to grow just a few more trees?”

    เราอาจจะถามว่า “ทำไมคุณถึงต้องใช้เมล็ดพันธุ์มากมายเพื่อที่จะปลูกต้นแอปเปิ้ลเพียงไม่กี่ต้น

    Nature has something to teach us here. It’s telling us: “Most seeds never grow.

    ธรรมชาติมักจะบอกอะไรเราบางอย่าง.. มันกำลังบอกเราว่า “มีเมล็ดพันธุ์จำนวนมาก ไม่ได้เจริญงอกงาม”



    So if you really want to make something happen, you had better try more than once.”

    ฉะนั้น ถ้าคุณปรารถนาจะให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น คุณน่าจะลองทำสิ่งนั้นมากกว่าแค่ 1 ครั้ง

    This might mean: นี่อาจจะหมายถึง

    You’ll attend twenty interviews to get one job.

    คุณอาจจะต้องสอบสัมภาษณ์ถึง 20 ครั้งเพื่อจะให้ได้งานสักงานหนึ่ง

    You’ll interview forty people to find one good employee.

    คุณอาจจะต้องสัมภาษณ์คน 40 คนเพื่อที่จะได้ลูกจ้างดี ๆ สักคน

    You’ll talk to fifty people to sell one house, car, vacuum cleaner, insurance policy, idea……

    คุณอาจจะต้องพูดกับคน 50 คนเพื่อจะได้ขายบ้านหนึ่งหลัง, รถยนต์, เครื่องดูดฝุ่น, กรมธรรม์ประกัน หรือไอเดีย

    And you might meet a hundred acquaintances to find one special friend.

    และคุณอาจจะได้พบปะคนเป็นร้อยเป็นร้อยเพื่อที่จะเจอเพื่อนดี ๆ สักคน

    When we understand the “Law of the Seed”, we don’t! get so disappointed.



    เมื่อเราเข้าใจ "กฎของเมล็ดพันธุ์" เราก็จะไม่ต้องมาคอยผิดหวัง

    We stop feeling like victims. Laws of nature are not things to take personally. We just need to understand them and work with them.

    เราจะไม่รู้สึกว่าเราเป็นเหยื่อ กฎของธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาใช้ได้เองตรงๆ เราเพียงแค่ต้อง เข้าใจและลองค่อย ๆ ปฏิบัติดู





    IN A NUTSHELL สั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ

    Successful people fail more often. They plant more seeds.

    ผู้คนที่ประสบความสำเร็จก็ล้มเหลวได้บ่อย แต่พวกเค้าก็ใช้เมล็ดพันธุ์มากกว่า (ถึงจะประสบความสำเร็จ)

    When Things Are Beyond Your Control here’s a recipe for permanent misery……….

    เวลาอะไร ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด…สูตรสำเร็จของคนที่ไร้ซึ่งความสุขก็คือ

    a) Decide how you think the world SHOULD be. a) ตัดสินว่า โลกมันควรจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้

    b) Make rules for how everyone SHOULD behave. b) ตั้งกฎเกณฑ์ว่าผู้คนควรจะทำตัวยังไง



    Then, when the world doesn’t obey your rules, get angry! That’s what miserable people do!

    และเมื่ออะไร ๆ ไม่เป็นไปตามกฎของคุณ… ก็โกรธซะ !! นั่นแหละ คือสิ่งที่คนไร้ความสุขเค้าทำกัน

    Let’s say you expect that: เอาเป็นว่า ถ้าคุณคาดหวังว่า

    Friends SHOULD return favours. เพื่อน ควรจะตอบแทนอะไรคุณบ้าง

    People SHOULD appreciate you. ผู้คนควรจะชื่นชมคุณ

    Planes SHOULD arrive on time. เครื่องบินน่าจะลงตรงเวลา

    Everyone SHOULD be honest. ทุก ๆ คนควรจะซื่อสัตย์

    Your husband SHOULD remember your birthday. สามี (แฟน) ควรจะจำวันเกิดคุณได้

    These expectations may sound reasonable. ความคิดพวกนี้ ฟังดูเหมือนมีเหตุผล

    But often, these things won’t happen! So you end up frustrated and disappointed.

    แต่บ่อยครั้ง สิ่งพวกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น และมันก็จบลงที่.. คุณรู้สึกรำคาญใจและผิดหวัง



    *.:。✿*゚’゚・✿.:* ✿.:* «-(¯`v´¯)«¸¸.ஐ …¤¸¸.·´¯`·.¸·.>>–»



    There’s a better strategy. Have less demand. Instead, have preferences!

    มันมีหลักเกณฑ์ที่ดีกว่านี้ ลดความต้องการให้น้อยลง แล้วเปลี่ยนเป็นความชอบแทน

    For things that are beyond your control, tell yourself: สำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกินคาด ก็บอกตัวเองว่า

    ”I WOULD PREFER AN “A”, BUT IF “B” HAPPENS, IT’S OK TOO!”

    เราอยากจะให้เป็น เอ มากกว่า แต่ถ้าเป็น บี … ก็โอเคได้เหมือนกัน



    *.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・✿.。.:* «-(¯`v´¯)«– ..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ …¤¸¸.·´¯`·.¸·.>>–»



    This is really a game that you play in your head. It is a shift in attitude, and it gives you more peace of mind …

    มันเป็นแค่เกมของความคิดในหัว คือเปลี่ยนอุดมการณ์ มันจะทำให้จิตใจคุณสุขสงบขึ้น

    You prefer that people are polite … but when they are rude, it doesn’t ruin your day. You prefer sunshine … but rain is ok!

    คุณอยากให้ผู้คนสุภาพ แต่ถ้าเค้าเกิดหยาบคายขึ้นมา.. มันก็ไม่ได้บ่อนทำลายวันของคุณ คุณอาจจะอยากให้ท้องฟ้าสดใส แต่ถ้าฝนเกิดตก.. ก็โอเค

    To become happier, we either need to ถ้าอยากจะมีความสุขมากขึ้น เราก็เลือกที่

    a) change the world, or เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ หรือ

    b) change our thinking. It is easier to change our thinking! เปลี่ยนแปลงความ คิดเราเอง เปลี่ยนความคิดของเราเอง ง่ายกว่านะ



    *.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:* ✿.。.:* «-(¯`v´¯)«– ..·.¸¸·´¯`·.¸¸.



    IN A NUTSHELL สั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ

    It’s not what happens to you that determines your happiness.

    สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ไม่ใช่สิ่งที่จะกำหนดความสุขของคุณ

    It’s how you think about what happens to you.

    แต่มันเป็นความคิดของคุณเองต่างหาก ความคิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ

    คัดลอกมาจาก Social network
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    [​IMG]


    Savages คนเดือดท้าชนคนเถื่อน (UIP)

    กำหนดฉาย : 20 กันยายน 2555
    แนว : ทริลเลอร์
    นำแสดง : เทย์เลอร์ คิทส์ช (Taylor Kitsch), เบลค ไลฟ์ลี (Blake Lively), แอรอน จอห์นสัน (Aaron Johnson), จอห์น ทราโวลตา (John Travolta), อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman), เบนิซิโอ เดล โทโร (Benicio Del Toro), ซัลมา ฮาเย็ค (Salma Hayek), เอมิล เฮิร์สช์ (Emile Hirsch), เดเมียน บิเชียร์ (Demian Bichir)
    กำกับ : โอลิเวอร์ สโต (Oliver Stone)
    เขียนบท : ดอน วินสโลว์ (Don Winslow), เชน ซาเลอร์โน (Shane Salerno), โอลิเวอร์ สโตน (Oliver Stone)
    บทภาพยนตร์ : ดอน วินสโลว์ (Don Winslow)
    อำนวยการสร้าง : มอริทซ์ บอร์แมน (Moritz Borman), อีริค โคเปลอฟ (Eric Kopeloff)
    ควบคุมงานสร้าง : ท็อดด์ อาร์นาว (Todd Arnow), เชน ซาเลอร์โน (Shane Salerno)

    เรื่องย่อ Savages คนเดือดท้าชนคนเถื่อน

    ผู้กำกับเจ้าของสามรางวัลออสการ์ โอลิเวอร์ สโตน กลับคืนจออีกครั้งพร้อมภาพยนตร์ทริลเลอร์รุนแรงสุดขีด เรื่อง Savages ซึ่งเต็มไปด้วยทีมนักแสดงระดับซุป'ตาร์อย่าง เทย์เลอร์ คิทสช์ (Battleship), เบลก ไลฟลี่ (The Town), แอรอน จอห์นสัน (Kick-Ass), จอห์น ทราโวลต้า (Pulp Fiction), เบนิซิโอ เดล โทโร่ (Traffic), ซัลม่า ฮาเย็ก (Frida), เอมิล เฮิร์สช์ (Into the Wild) และเดเมี่ยน บิเชอร์ (A Better Life) ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายเบสท์เซลเลอร์แนวอาชญากรรมของ ดอน วินสโลว์ ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 หนังสือยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 ของ The New York Times




    ลากูน่า บีช รีสอร์ทริมทะเลที่ส่องประกายระยิบระยับในออเร้นจ์ เคาน์ตี้, แคลิฟอร์เนีย คือบ้านของเหล่าไฮโซขี้เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีเวลาว่างมากเกินไป แถมยังมีรายได้มากมาย รวมไปถึงชายและหญิงที่ดูอ่อนเยาว์ตลอดกาล เพราะฝีมือมีดหมอศัลยกรรมพลาสติก ทั้งหมดนี้ต่างเดินทางมายังเมกะประจำเมือง ซึ่งก็คือช้อปปิ้งมอลล์สุดหรูอลังการ สภาพอากาศสุดสบายริมทะเลและชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่น้ำทะเลสดใสเป็นประกาย ช่างสวยงามแสนสบาย โอ (ไลฟลี่) รู้จักทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นอย่างดี เธอคือสาวท้องถิ่นหน้าตาน่ารักที่คุ้นเคยดีกับข้อบกพร่องและมนต์เสน่ห์ของเมืองบ้านเกิดของเธอ



    โอ คือชื่อย่อของ โอฟีเลีย เธอมีเหตุผลของเธอ เธอมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านของเธอ เบน (จอห์นสัน) และชอน (คิทสช์) ผู้ประกอบกิจการที่ลากูน่า บีช ทั้งสามคนที่แบ่งปันความรักให้กันและกันเป็นหนึ่งเดียว เบน คือนักพฤกษศาสตร์ผู้รักสงบที่ฝันอยากจะกู้โลก ชอน เพื่อนสนิทของเขา คืออดีตหน่วยนาวิกโยธินและอดีตทหารรับจ้าง ผู้ไม่แน่ใจว่าโลกนี้มีค่าพอจะรักษาเอาไว้หรือไม่ เบน, ชอน และโอ ผูกพันกันอย่างมาก จนเป็นเหมือนครอบครัวยุคใหม่ พวกเขามีความสุขกับวิถีชีวิตเรียบง่าย เป็นอิสระ เงียบสงบ ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยธุรกิจที่ทำกำไรอย่างงดงามของเบนและชอน นั่นคือการหาเงินจากกัญชารสเลิศที่สุดเท่าที่เคยมีคนผลิตออกมา ทั้งสามคือฮีโร่ประจำเมืองที่จัดหาสินค้าที่ผู้คนต้องการ



    แต่ธุรกิจของเบนและชอน ก็เก็บตัวเงียบอยู่ได้ไม่นาน เพราะกัญชาที่ขึ้นทำเนียบตำนาน และธุรกิจที่ทันสมัยของพวกเขา เกิดไปสะดุดความสนใจของแก๊งค้ายาเม็กซิกัน ซึ่งมีผู้นำอย่าง เอลีน่า ลา ไรน่า (ฮาเย็ก) ที่ไร้ความเมตตา, ลาโด้ (เดล โทโร่) นักเลงสุดโหดของเธอ และ อเล็กซ์ (บิเชอร์) หัวหน้าทีมทนายที่ไร้ศีลธรรม เอลีน่าเรียกร้องขอทำธุรกิจร่วมหุ้นกับเบนและชอน และไม่เคยมีใครปฏิเสธ ลา ไรน่า ได้ โดยไม่ต้องเสียสิ่งที่พวกเขารักที่สุดไป

    แต่แก๊งค้ายาประเมินความผูกพันที่แน่นเหนียวของเพื่อนทั้งสามคนนี้ต่ำเกินไป เบน, ชอน และโอ จึงเปิดศึกที่พวกเขาไม่น่าจะเป็นฝ่ายชนะ กับแก๊งยาเสพติด โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างไม่เต็มใจนักจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดฉ้อฉลที่ชื่อ เดนนิส (ทราโวลต้า) และนักบัญชีมือฉมังที่ชื่อ สปิน (เฮิร์สช์) นั่นคือจุดเริ่มต้นของอุบายที่เลวร้ายและวิกฤตการณ์เดิมพันสูงในการทำศึกที่ร้ายแรงโหดร้าย



    ที่เข้ามาร่วมทำงานหลังกล้องกับสโตน ก็คือ กองทัพทีมผู้สร้างภาพยนตร์ชั้นแนวหน้าของวงการ ซึ่งนำทีมโดย ผู้กำกับภาพ แดน มินเดล (Star Trek, Mission : Impossible III), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ โทมัส ว็อธ (Wanted, Pirates of the Caribbean : On Stranger Tides), ผู้ลำดับภาพสองรางวัลออสการ์ โจ ฮัทชิ่ง (JFK, Born on the Fourth of July) และทีมผู้ลำดับภาพ สจ๊วตต์ เลวี่ย์ (Any Given Sunday, Wall Street : Money Never Sleeps) และ อเล็กซ์ มาร์เกซ (Any Given Sunday, Alexander), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ซินดี้ อีแวนส์ (Memento, Thirteen) และผู้แต่งดนตรีประกอบ อดัม ปีเตอร์ส (South of the Border)

    สร้างจากนิยายของ ดอน วินสโลว์ (The Kings of Cool : Prequel to Savages, The Power of the Dog) จากบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย เชน ซาเลอร์โน่ (Armageddon, Shaft) และ ดอน วินสโลว์ และ โอลิเวอร์ สโตน Savages อำนวยการสร้างโดยผู้ที่เคยร่วมงานกับสโตนมานาน มอริทซ์ บอร์แมน (W., Alexander, World Trade Center) และ เอริค โคเพลอฟฟ์ (W., Wall Street: Money Never Sleeps)

    ภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่องนี้ อำนวยการสร้างบริหารโดย เฟอร์นันโด ซูลิชิน (South of the Border, The Killer Inside Me), เชน ซาเลอร์โน่ และ ท็อดด์ อาร์นาว (Battleship, Master and Commander : The Far Side of the World)








    เบลค ไลฟ์ลี่ ควบสองหนุ่ม เทย์เลอร์ คิทส์ช และ แอรอน จอห์นสัน ในหนังแอ็คชั่นสุดเดือดของผู้กำกับมือเก๋า โอลิเวอร์ สโตน

    โอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับเจ้าของสามรางวัลออสการ์ ได้หวนคืนสู่จอเงินอีกครั้งด้วยทริลเลอร์ดุเดือด Savages ที่นำแสดงโดยทีมนักแสดงระดับแนวหน้าซึ่งประกอบไปด้วย เทย์เลอร์ คิทส์ช, เบลค ไลฟ์ลี, แอรอน จอห์นสัน, จอห์น ทราโวลตา, อูมา เธอร์แมน, เบนิซิโอ เดล โทโร, ซัลมา ฮาเย็ค, เอมิล เฮิร์สช์ และ เดเมียน บิเชียร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากนิยายอาชญากรรมขายดีโดยดอน วินสโลว์ ที่ติดหนึ่งในท็อป 10 หนังสือแห่งปี 2010 ของนิวยอร์ก ไทม์

    เบน (แอรอน จอห์นสัน) นักธุรกิจจากลากูนา บีช ชาวพุทธผู้รักสงบและใจบุญสุนทาน และเพื่อนสนิทของเขา ชอน (เทย์เลอร์ คิทส์ช) อดีตนาวี SEAL และทหารรับจ้าง ได้ร่วมกันดำเนินธุรกิจในท้องถิ่นที่ได้กำไรงาม ด้วยการปลูกดอกฝิ่นพันธุ์ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการพัฒนาขึ้นมา นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังมีความรักที่พิเศษสุดให้กับหญิงงาม โอฟิเลีย (เบลค ไลฟ์ลี) เหมือน ๆ กันด้วย ชีวิตของพวกเขาในเมืองทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียช่างสมบูรณ์แบบ...จนกระทั่งแก๊งค้ายาชาวเม็กซิกันย้ายเข้ามาและเรียกร้องให้ทั้งสามคนเป็นหุ้นส่วนกับเขา

    เมื่อ เอเลนา (ซัลมา ฮาเย็ค) หัวหน้าผู้ไร้ปรานีของแก๊งค้ายาเม็กซิกันและ ลาโด (เดล โทโร) ลูกสมุนผู้โหดเหี้ยมของเธอ ประเมินค่าความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนสามคนต่ำไป เบนและชอน ภายใต้ความช่วยเหลือแบบจำยอมจาก เจ้าหน้าที่ยาเสพติดที่โกงกิน (จอห์น ทราโวลตา) จึงได้เริ่มต้นทำสงครามที่ดูราวกับไม่มีหนทางชนะกับแก๊งค้ายา และนี่เองยังเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการและลูกไม้ที่ร้ายกาจขึ้นเรื่อย ๆ ในการประชันหน้าความเสี่ยงสูงที่แสนดุเดือด


    [​IMG]
    ตอนจบของหนังอาจจะเฉพาะตอนนี้ครับ
    เพราะตำรวจ(จอห์น)โลกบาล เอาหน้าประจบประชาชนแก้ไขพลิกแผน ทำให้
    เจ้าแม่เม็กซิกันผู้รักลูกสาว(อดเป็นว่าที่เจ้าแม่ใหม่?)ไม่ตาย แต่ติดคุกแทน
    โดยลูกน้องทรยศ(ของเจ้าแม่) 2คนสืบทอดวงศ์ต่อไป(รักและรบของเจ้าแม่เดิม)
    สาวที่มีแววเจ้าแม่อนาคตดีหลบไปกับคู่รัก(พุทธสงบ)-ยม(รบนาวิกโยธิน)หลบไปอยู่อินโดนีเซีย (ฮินดู พุทธมหายาน?) คอยกลับมามีอิทธิพลสร้างวงศ์ในมายาแห่งโลกต่อไป
    ู^_^
    หวังว่าพุทธศาสนาคงอบรมวงศ์เจ้าแม่ใหม่ในอนาคตเพื่อความสงบสุขของโลกต่อไปคร้าบบบ ^_^
    :cool:

    [​IMG]
    รัก(สันติ)

    [​IMG]
    (นัก)รบ(เก่า)

    [​IMG]
    ว่าที่เจ้าแม่อนาคตไกล

    [​IMG]
    อารยธรรมมายัน

    [​IMG]
    อารยธรรมบรมพุทโธ พุทธมหายาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    รักยม ตำนานรักยมและประวัติการกำเนิดของรักยม

    รักยมดีทางเมตตามหานิยมแคล้วคลาด

    รักยมเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านนิยมกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย โดยเฉพาะในหมู่พ่อค้าแม่ค้า และคนที่ทำงานกลางคืน แม้กระทั่งนักนิยมพระก็ยังแสวงหากัน เพราะเป็นเครื่องรางของขลังจากวิชาไสยศาสตร์อีกชนิดหนึ่งเล่นกันจนถึงทุกวันนี้

    รักยมเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยใดไม่ปรากฏในฐานะที่เราเป็นประชาชนชาวไทยคนหนึ่งที่นิยมเครื่องรางของขลังเคยพบเคยเห็นกันเป็นประจำส่วนมากเท่าที่ผู้เขียนเคยพบเห็นอยู่บ่อยรักยมจะเกิดแถวสนามพระทั่ว ๆ ไป แต่ที่แน่แถวท่าพระจันทร์และวัดราชนัดดาเองนี่เอง ถ้าผู้อ่านลองแวะเข้าไปในสนามพระก็จะเห็นรักยมนอนอยู่ในขวด
    เล็ก ๆ เรียงรายเป็นร้อย ๆ เป็นพันส่วนมากเจ้าของแผงจะนั่งหลาวตกแต่งเองขายเอง ทำความร่ำรวยอย่างมหาศาลมา
    แล้วหลายราย

    ลักษณะของรักยมคล้ายกุมารเล็ก ๆ ยืนพนมมือยกถึงคาง มีด้วยกัน 2 ร่าง อยู่ในขวดแช่น้ำมันจันทร์ที่หอมกรุ่นอยู่ตลอดเวลาชอบทองหยิบ – ทองหยอดผลไม้และของเล่นเด็กพร้อมด้วยน้ำหนึ่งแก้ว อานิสงฆ์ก่อนผู้ที่จะนำไปใช้จะนำไปให้กับคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหรือหมอที่เล่นเครื่องรางของขลังนำไปปลุกเสกเสียก่อนแล้วจึงนำไปใช้การนำ
    ไปใช้นั้นก็ต้องใช้ในทางที่ถูกบางท่านได้นำไปบูชา แล้วร่ำรวยมหาศาลมาแล้วก็มีในด้านอภินิหาร ประสบการณ์ก็เคยเกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงมาแล้วมากมาย (ผู้เขียนขอบอกว่ายังไม่เคยเลี้ยงมากก่อนอาศัยถามคณาจารย์เก่า ๆ ที่มีความเชื่อมั่นว่ารัก – ยมมีจริง ผมจึงได้นำมาเขียนถ้าผิดถลาดขอให้ผู้รู้และผู้อ่านช่วยชี้แนะด้วย)

    มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยหนึ่ง ในป่าหิมวันต์ เมืองเมืองหนึ่ง เมืองนี้เป็นเมืองเงียบสงบ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าทั้งนั้น ในป่านั้นก็มีพระฤๅษีชีไพรนั่งบำเพ็ญตะบะเต็มไปหมด ในขบวนเหล่าฤๅษีนั้นก็มีพระพหลฤๅษีอยู่องค์หนึ่งทึ่เป็นใหญ่กว่าฤๅษีทั้งหลาย

    อยู่มาวันหนึ่งฤๅษีพหลนั้นได้เดินออกจากสถานที่บำเพ็ญตะบะนั้นเพื่อออกแสวงหาผลไม้ในป่ามาฉันท์ขณะที่เดินผ่านสระน้ำในป่านั้น ก็มีดอกบัวชูช่อยู่ดาษดื่นฤๅษีพหลก็ เหลือบไปเห็นกุมารน้อยคู่หนึ่งนอนในดอกบัวนั้นจึงได้เก็มาเลี้ยงไว้ที่อาศรม ฤๅษรพหลจึงตั้งชื่อสองกุมารน้อยว่ารัตตะกุมาร กับ ยมกะกุมาร ต่อมากุมารน้อยทั้งสองก็ได้
    ร่ำเรียนวิชา กับพระอาจารย์ดาบสองค์นั้นจะมีความสามารถรอบรู้หมดทุกอย่าง ส่วนฤๅษีพหนลนั้นก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้อย่างหมดสิ้นในที่สุด รัตตะกุมารกับยมกะกุมารก็เจริญเติบโต จนเป็นหนุ่มใหญ่สมชายชาตรีทุกอย่าง สรุปแล้ว รัตตะกุมารก็คือ เจ้ารัก ส่วนยมกะกุมาร ก็คือ เจ้ายม

    สำหรับเจ้ารักนั้นเป็นผู้เลอโฉม รวมทั้งหน้าตาลักษณะท่าทางมองแล้วเหมือนมานพน้อยมีรูปร่างมองแล้วไม่เบื่อตาเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นทั่วไป ส่วนยมนั้นเล่าความหล่อเหลาด้อยกว่าเจ้ารักหน่อย เพราะคนเราเกิดมารูปธรรมนามธรรมเหมือนอย่างกับเจ้ายมถึงแม้จะรูปชั่วตัวดำไปนิด ถึงกระนั้นฤๅษีพหลก็ยังมีความรัก ความสงสารยิ่งขึ้น จึงมอบวิชาต่าง ๆ ให้กับเจ้ายมเป็นพิเศษ

    เป็นอันว่า เรื่องเชี่ยวชาญในเชิงขบวนยุทธจักร และเวทย์มนต์คาถาต้องยกให้เจ้ายมคนเดียวยุคนั้นวันหนึ่ง รัตตุมาร (เจ้ารัก) กับยมกะกุมาร (เจ้ายม) สองพี่น้องก็คิดอยากจะไปเที่ยวหัวเมืองต่าง ๆ จึงได้กราบลาพระอาจารย์เพื่อออกแสวหาประสบการณ์ต่าง ๆ จึงได้ออกเดินทางจนไปถึงเมืองใหญ่แห่งหนึ่งด้วยความ
    ปรีชาสามารถต่าง ๆ ของกุมารน้อยทั้งสอง จึงได้เข้ารับราชการกับพระราชาเมืองนั้น

    อยู่ต่อมาไม่นานพระราชาจึงแต่งตั้งให้รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) เป็นทหารเอาไปครองแคว้นเมือง เมืองหนึ่ง ส่วนยมกะกุมาร (เจ้ายม) นั้น พระราชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับในด้านหัวเมืองต่าง ๆ ระหว่างที่รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) รับราชการอยู่นั้นเพราะความหล่อเหลามานพน้อย จึงเป็นที่หมายตาต้องใจของพระธิดาลูกเจ้าเมืองนั้นทั้งสอง
    จึงเกิดความรักใคร่กัยิ่งนานวันความรักยิ่งประทับแนบแน่นยิ่งขึ้น

    ต่อมาพระราชาได้ทราบข่าวของคนทั้งสองจึงไม่พอพระทัยทรงขัดขวางความรักทั้งสองอยู่ตลอดเวลา พระราชา ทรงตรัสว่า “เจ้ารักกับราชนิกุลไม่ควรคู่กัน” พระราชาต้องการให้พระธิดาอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอีกเมือง
    หนึ่ง ซึ่งเป็นราชตระกูลกษัตริย์เท่าเทียมกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระราชาจึงตัดสินใจส่งพระธิดาไปฝากไว้กับเจ้าเมือง ๆ หนึ่ง

    รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) ทราบข่าวว่าพระราชาได้แยกคนรักของตนไปอยู่เมืองอื่น จึงเกิดความแค้นเคืองเป็นยิ่ง
    นักเจ้ารักจึงวางแผนฆ่าพระราชาอยู่ตลอดเวลาส่วนเจ้ายมคนน้องถึงแม้จะปมด้วยของชีวิตแต่ก็เป็นคนรอบคอบเป็นคน
    อารมณ์เย็นจึงได้มายับยั้งการวางแผนฆ่าพระราชาเพราะมันจะมีความผิดอย่างมหันต์

    สามวันผ่านมาเจ้ารักก็กินไม่ได้นอนไม่หลับจะนั่งจะเดินก็กระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาเพราะด้วยพิษรักอันแสนเสน่หาของพระธิดาองค์นั้น จึงหน้ามืดตามัว คิดจะปลงพระชนม์จึงได้ลอบเข้าไปในพระราชวัง จนถึงห้องบรรทมของพระราชาและได้ใช้อาวุธคู่มือ สับพระราชาอย่างไม่มีชิ้นดี จนพระราชาสิ้นพระชนม์

    เมื่อฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ทราบข่าวการกระทำของ รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) จึงเกิดความโกรธแค้นเคืองยิ่งนัก ที่ศิษย์ของตนละเมิดคำสั่งสอน จึงได้เรียกกุมารทั้งสองกลับมาเมื่อกุมารทั้งสองเดินทางกลับมาถึงอารมของฤๅษีพหลผู้เป็นอาจารย์ เจ้ารักจึงได้สำนึกผิดและได้สารภาพต่อผู้เป็นพระอาจารย์และมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ละเมิดคำ
    สั่งสอนของพระอาจารย์ฤๅษีพหลจึงได้ตัดสินใจให้รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) สละเพศฆราวาส ให้บวชประพฤติตนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อลบรอยมลทินที่ได้สร้างมาจนกว่าจะสิ้นชีวิตจากโลกไป

    ส่วนยมกะกุมารหรือเจ้ายมนั้น ครั้นเมื่อสู่วัยชราจึงได้สละเพศฆราวาสได้ออกบวชตามพี่ชาย (เจ้ารัก) เพื่อบำเพ็ญศีลภาวนา ตามอาศรมของพระฤๅษีในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป ต่อมาฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ถึงวัยชราใกล้ถึงการอายุขัย ย่อมหนีกฏแห่งกรรมไม่พ้นคือ มีเกิดก็ต้องมีดับเหมือนกันทุกชีวิต ฤๅษีพหลจึงเรียกสองนักบวชผู้เป็นศิษย์มาพบอีกครั้งหนึ่งเมื่อสองพระกุมารมาพบพระอาจารย์ฤๅษีพหลจึงถามศิษย์ทั้งสองว่า “อยากได้อะไรที่เหนือกว่าโลกนี้” สองจะปฏิบัติตามคำอาจารย์หมดทุกอย่าง” ฤๅษีพหลจึงให้พรว่า “เจ้าทั้งสองแม้จะไปเกิดชาติปางใดก็ตามขอให้เสน่ห์เป็นที่รักของคนทั่ว ๆ ไป จะไม่มีศัตรูทั้งปวงจะไปเกิดบนโลกมนุษย์ไม่ได้ ท่านทั้งสองจะต้องเป็นวัตถุ แต่ไม่มีชีวิตจิตใจวัตถุสิ่งนั้นจะต้องดังมีชื่อเสียงก้องยืนนาน”

    เมื่อฤๅษีพหลกล่าวพรจบทานก็ถึงกาลกิริยาวิญญาณ ก็ออกจากร่างไป ณ ที่นั้น พระกุมารทั้งสองจึงได้ทำการขุดหลุมฝังศพของฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ในที่นั้น ต่อมาไม่นานหลุมฝังศพของฤๅษีพหลก็เกิดมีไม้ชนิดหนึ่งขึ้นมา มีดอกซ้อนแพรวพราวอันสวยงาม แถมยังเป็นไม้ที่ปวงชนรักใคร่กันทั่วไป ดังประชาชนที่เรียกกันทุกวันนี้ว่า
    ต้นรักซ้อน

    ต่อมาก็ได้มีพันธ์ไม้อีกชนิดหนึ่งได้ขึ้นคู่เคียงกับต้นรักซ้อนมีผลชูช่ออันตระกานตาจนภายหลังมีชื่อขานนามว่ารักยม ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกกันว่ามะยมด้วยข้อมูลที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นนักปราชญ์ คณาจารย์ต่างคิดค้นทำรักยกกันขึ้นมา นี่แหละครับความเป็นมาของรักยมรวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว

    รักยม ตำนานรักยมและประวัติการกำเนิดของรักยม
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    My name is Love : เค้าเรียกผมว่าความรัก
    หนังใหม่ my name is love หนัง เค้าเรียกผมว่าความรัก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    My name is Love : เค้าเรียกผมว่าความรัก
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ทางการภาพยนตร์ My name is Love : เค้าเรียกผมว่าความรัก

    กำหนดฉาย : 11 ตุลาคม 2555
    แนว : โรแมนติก - คอมเมดี้
    นำแสดง : เป้ อารักษ์, โบ ธัญยัสุภางค์, สตาร์บัค, แจ๊ส ชวนชื่น, ค่อม ชวนชื่น และ เอเอ พีรวัชร์
    กำกับ : วศิน ปกป้อง
    เขียน : วศิน ปกป้อง

    "เคยรู้มั้ยว่ามีกามเทพแฝงตัวอยู่ในหมู่พวกเรา และคอยช่วยให้พวกเรารักกัน"

    รู้ได้ไงว่าการที่เราได้เจอน้องน่ารักคนนั้น...!! จะไม่มีพวกเค้าคอยช่วยอยู่...!?

    รู้ได้ไงว่าวันที่ของตกกระจายบนรถไฟฟ้า แล้วมีพี่คนนึงมาช่วยเก็บ...ไม่ใช่ฝีมือพวกเค้า

    รู้ได้ไงว่าเพื่อนที่ช่วยเราจีบหญิงมาตลอด...ไม่ใช่พวกเค้า

    นี่คือเรื่องราวของ "พวกเค้า"

    ภาพยนตร์โรแมนติก - คอมเมดี้ ที่จับมือร่วมกันโดย เอ็ม พิคเจอร์ส และ อินดิเพ็นเดนท์ ฟิล์ม ที่จะทำให้ทุกๆ หัวใจพองโตและยิ้มได้อีกครั้ง อีกหนึ่งงานแสดงที่ท้าทายความสามารถของพระเอกมาดเซอร์ เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ ควงคู่มากับนางเอกน้องใหม่หน้าใสกิ๊ก โบ - ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ พร้อมด้วย แจ๊ส ชวนชื่น, ค่อม ชวนชื่น, สตาร์บัคส์ ,เอเอ พีรวัชร์ ฯลฯ ที่จะมาพร้อมมาดกวน ๆ และเสียงฮา ๆ และภารกิจที่พวกเค้าต้องผ่านพ้นไปให้ได้ เอาใจช่วยพวกเค้าได้ใน เค้าเรียกผมว่าความรัก My Name is Love

    เรื่องย่อ My name is Love เค้าเรียกผมว่าความรัก

    ตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่น คิว (เป้ - อารักษ์) เป็นหนุ่มหล่อ เท่ห์ และป๊อปปูล่าที่สุดในโรงเรียน อยู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงตัวอ้วน ๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะข้างบ้านอย่าง เก้อ (โบ - ธัญญะสุภางค์) มาแอบสารภาพรัก เขาจึงล้อเธอและแกล้งเธออย่างไม่ใส่ใจความรู้สึกของเก้อเลยแม้แต่น้อย วินาทีนั้นทำให้เก้อเสียใจมากจนถึงกับประกาศก้องว่า... ถ้าวันใดที่เธอสวย ขึ้นมาเธอจะไม่มีวันรับรักคิวเด็ดขาด ซึ่งคิวก็เชื่อว่าจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน จนเมื่อเก้อโตขึ้นเธอสวยราวกับนางฟ้า หนุ่ม ๆ ต่างรุมล้อมเธอผิดกลับคิวเมื่อโตขึ้นความฮอต ความป๊อปปูล่าที่เคยมีก็กลับหดหาย กลายเป็นแค่หนุ่มเซลล์แมนห่วย ๆ คนหนึ่งในบริษัทฯ ของบิ๊ก เพื่อนเก่าสมัยประถมที่เคยถูกคิวแกล้งจนต้องย้ายโรงเรียนหนี

    จนวันหนึ่งที่คิวเผลอคลิกเว็บไซต์หนึ่งเข้าไปแบบไม่ตั้งใจ เขาถูกชักชวนให้เข้าไปประชุมลับกับองค์กรกามเทพ โดยกฎเหล็กขององค์กรนี้มีอยู่ว่า... กามเทพมีหน้าที่ทำให้คนอื่นรักกันเท่านั้น และไม่มีสิทธิ์ที่จะรักกับใครได้เลย อ้าว!! งานเข้าคิวแล้วล่ะซิ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเขาจะรักกับเก้อได้ยังไง!? แล้วกามเทพมือใหม่อย่างคิวจะทำภารกิจต่าง ๆ ได้สำเร็จหรือไม่?? ติดตามคำตอบได้ใน เค้าเรียกผมว่าความรัก ภาพยนตร์รักที่จะมาทำให้หัวใจทุกดวงได้พองโต

    11 ตุลาคมนี้ ความลับ & ความรัก ทุกอย่างจะถูกเปิดเผย
     
  9. White Fox

    White Fox เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +12,433
    สวัสดีขอรับท่านพี่...

    ไม่ได้มาคุยเสียนานเลย...

    เอารูปอะไรมาฝากดีหนอ...

    V
    V
    V

    ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะได้ไปกราบองค์ท่าน เสาร์นี้ อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน สวัสดีครับ
    อยากจะฝากข่าวบุญเชิญชวนคุณ White Foxทอดกฐินสร้างพระพุทธรูปครับ แล้วจะไปบอกข่าวครับ
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    “งานนี้หนาวแน่ – Big C Cool Winter Collection 2012”

    [​IMG]

    ดาราตลกสาวแห่งวงการ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน ควงพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ มาในชุดทหาร พร้อมเหล่านางแบบนายแบบกว่า 300 ชีวิต ท่ามกลางพายุฝนที่เทกระหน่ำ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง รายรอบด้วยประชาชนนับหมื่นรายล้อมรอบอนุสาวรีย์ ชมแฟชั่นโชว์ “งานนี้หนาวแน่ - บิ๊กซี คูล วินเทอร์ คอลเลคชั่น 2012” ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (25 ก.ย 2555)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สร้างความตื่นตาตื่นใจสุดพิเศษ ด้วยการเนรมิตเกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นเวทีแคตวอล์ค โดยจัด อั้ม-อธิชาติ และ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน นำขบวนนายแบบนางแบบกว่า 300 คน ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ภายใต้แคมเปญ “งานนี้หนาวแน่ – Big C Cool Winter Collection 2012”
    อวดโฉมคอลเลคชั่นเสื้อผ้าฤดูหนาวสุดเก๋ไก๋กว่า 1,000 รายการ ราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท

    คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บิ๊กซี เน้นจุดแข็งในการสร้างความตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมสนุกๆ ให้กับลูกค้าเป็นประจำ ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประเทศ ที่มีการเนรมิตอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้เป็นแคตวอล์คกลางแจ้ง จัดงานเปิดตัวแคมเปญ “งานนี้หนาวแน่ – Big C Cool Winter Collection 2012” โดยมีดาราสุดเท่ห์ คือ อั้ม-อธิชาติ และสาวสุดฮา คือ ตุ๊กกี้-ชิงร้อยชิงล้าน มาสร้างความหนาวกันสนั่นเมือง”
    “แฟชั่นโชว์ครั้งนี้ เริ่มที่เหล่านางแบบนายแบบ 300 คน แต่งคอลเล็คชั่นหน้าหนาวของบิ๊กซีเต็มสตีม ยกขบวนขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม ไปยังสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าสู่เกาะกลางอนุสาวรีย์ฯ จากนั้น ตุ๊กกี้และอั้ม เปิดตัวบนรถเปิดประทุน วนรอบอนุสาวรีย์ฯ ก่อนร่วมเดินแฟชั่นกับกองทัพนายแบบนางแบบ ด้วยเสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูหนาวสุดเก๋ของบิ๊กซี กว่า 1,000 รายการ”
    ด้านเซเลบดารา อั้ม-อธิชาติ กล่าวว่า “แฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นเสื้อผ้าหน้าหนาวจากบิ๊กซี แปลกตาและน่าตื่นเต้นมาก กับเวทีแคตวอล์คที่อลังการกับโลเกชั่นที่พิเศษสุดๆ รอบอนุสาวรีย์ฯ และเหล่านางแบบนายแบบที่แต่งตัวอย่างสวยงามมากถึง 300 คน อั้มคิดว่า เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนที่เห็น และยังเปิดโอกาสให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก ร่วมถ่ายภาพแฟชั่นโชว์และโพสต์ลงในเฟสบุ๊คของตัวเอง และทำการถ่ายภาพ (Capture) จากหน้าวอลล์โพส (Wall Post) ส่งมาลุ้นรับบัตรของขวัญบิ๊กซี มูลค่า 200 บาท จำนวน 100 รางวัลด้วย นอกจากนั้นนะครับ หลังจากวันนี้ไป เค้ามีแคมเปญให้เรารวมกลุ่มกันให้ครบ 5 คน แล้วถ่ายคลิปวิดีโอเดินแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นฤดูหนาวโดยแต่งกายด้วยคอลเล็คชั่นหน้าหนาว (Cool in the City) ของบิ๊กซี ที่คิดว่า Cool และตื่นตาตื่นใจที่สุด ส่งมาชิงแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 5 คืน มูลค่ารางวัลละ 100,000 บาท 5 รางวัล ที่เฟซบุ๊คของบิ๊กซีด้วยครับ”
    ส่วนอีกเซเลบสุดฮา ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กล่าวว่า “ตุ๊กกี้ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะที่ได้มาเดินแบบ ชุดฟินาเล่ บนเดินบนแคตวอล์กสุดอลังการท่ามกลางพี่น้องประชาชนคับคั่งรอบๆ อนุสาวรีย์ฯ ในวันนี้ ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ชุดในคอลเล็คชั่นก็สวยๆ ทั้งนั้นนะคะ ได้มาเดินแบบที่โลเกชั่นสุดพิเศษแบบนี้ ไม่พลาดที่จะโพสต์รูปตัวเองลงอินสตาแกรมแล้วค่ะ”
    คุณวรวรรณฯ ปิดท้ายว่า “บิ๊กซี คัดสรรสิ่งดีดีและคุ้มค่าสุดให้กับลูกค้าเสมอ คอลเลคชั่นฤดูหนาวเก๋ๆ ครั้งนี้ มีเสื้อผ้า เครื่องประดับ และรองเท้ามากกว่า 1,000 รายการ ด้วยคอนเซปต์มิกซ์แอนด์แม็ทช์ สีสันสดใส เน้นเสื้อสวมด้านนอก (outerwear) เช่นแจ๊คเก็ต เสื้อกั๊ก ที่นำไปใส่ได้กับเสื้อผ้าที่ลูกค้ามีอยู่แล้วได้หลายสไตล์ นอกจากนั้น ยังมีราคาสุดคุ้มค่า เครื่องประดับเริ่มต้นที่เพียงชิ้นละ 59 บาท เสื้อผ้าเริ่มต้นที่เพียงตัวละ 99 บาท เท่านั้น เพื่อให้ทุกคนได้แต่งเสริมเติมสวยหล่อกันได้อย่างเต็มที่ในฤดูหนาวนี้ ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ”


    :cool::cool::cool: พุทโธ ธัมโม สังโฆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468

    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%91%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B0.275235/page-6
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    มีฐานของกรรม ตั้งมั่นด้วยมีสติพิจารณาเห็นกายในกาย

    เข้าไปให้ลึกละเอียดยิ่งขึ้นไป เป็นอิทธิบาทภาวนา

    ถึงระดับสามารถเข้าไปมีกรรมสังขารปรุงแต่งรูปที่ละเอียดในกายได้ (ถ้าควบคุมได้ถึงระดับกลาปรูปจะเป็นเช่นไร?) ด้วยกุศลกรรมหยาบละอียด หรือลมหายใจแห่งปราณที่มีพละ (ที่สุดแห่งกายสังขารคือลมหายใจ)


    ร่างกายมนุษย์เราสามารถอุปมาเป็นชั้นๆ คล้ายดั่งชั้นของปล้องหญ้า หรือเปลือกกระพี้แก่นต้นไม้ หากสามารถเปลี่ยนปรุงแต่ง กระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อในแต่ละชั้นได้ ตามสมควรแก่ธรรม ด้วยกำลังลมปราณศักดิ์สิทธิ์ อิทธิบาทภาวนา หรืออนันตรยิกรรม ย่อมสามารถปรับเปลี่ยนมีผลต่ออดีตสังขารวิบาก ให้เป็นไปตามกำลังกรรมภาวนา เกิดเป็นกายสังขารวิบากใหม่ได้
    กระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เยื่อ ในแต่ละชั้นปล้อง ก็สามารถ ปรับเปลี่ยนตามความหยาบ ยากง่ายของแต่ละชั้นกาย และกำลังสังขารภาวนาที่จะมาปรุงแต่ง

    เส้นเอ็นกระดูกจึงน่าจะสามารถย้ายสับเปลี่ยนพัฒนาคุณภาพ มากบ้างน้อยบ้าง ยาวนาน ตามหลักกฏของกรรม เช่น อาจิณกรรม อนันตริยกรรม ฝ่ายบุญ ฯลฯ นั่นแล ^_^

    แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะสร้างกรรมปรุงแต่งระดับสูงได้


    พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง
    พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
    เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ด้วย


    http://palungjit.org/threads/ว่าด้วย-เคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น.365190/page-4#post6893157

    ถึงตรงนี้แล้วนึกขึ้นมาได้ว่า
    มีเรื่องบันทึกไว้ว่า คุณแม่ชีทองสุข (ถ้าจำไม่ผิด) ท่านสามารถเดินวิชชาตามแนวธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ จนร่างกายเส้นเอ็นกล้ามเนื้อท่านเปลี่ยนจาก กายหญิงเป็นชายได้ครับ
    ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาด้วย


    พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง
    พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ
    เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ด้วย
    __________________
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    เมื่อแม่ชีวัดปากน้ำฯ ฝึกวิชชา..เปลี่ยนแปลงเพศ

    เมื่อแม่ชีวัดปากน้ำฯ ฝึกวิชชา..เปลี่ยนแปลงเพศ..

    [​IMG]
    ภาพแม่ชีผู้เป็นครูธรรมกาย

    อุบาสิกาผู้ซึ่งได้ปลงผมบวชวันเดียวกับแม่อาจารย์ทองสุข ได้เล่าให้ฟังว่า เรื่องการจะเปลี่ยนแปลงเพศนี้ ได้มีการทำจริงๆ และทำอยู่นานหลายเดือน สาเหตุที่คิดจะเปลี่ยนเพศหญิงให้เป็นเพศชายนี้เนื่องจากหลวงพ่อเป็นห่วงลูกผู้หญิงว่าจะถูกคนข่มเหง ตอนดึกๆ เปลี่ยนเวรเข้าห้องทำสมาธินั้น ท่านเอาใจใส่ สั่งให้ระวังประตูปิดเปิด อย่าให้ใครแปลกปลอมเข้าไปในห้องทำสมาธิได้ ในท้องทำสมาธิซึ่งเรียกว่า "โรงงาน" นั้น ทางฝ่ายหญิง(แม่ชีหรืออุบาสิกา)มีประตูออกทางด้านหลังศาลาเรียนธรรมหลังเก่า ส่วนทางฝ่ายชาย(พระภิกษุ และอุบาสก)มีประตูออกทางด้านหน้าโบสถ์

    ภายในโรงงานนั้นหญิงชายจึงไปมาหาสู่กันไม่ได้ เพราะมีฝาห้องกั้นตลอด แต่เวลาหลวงพ่อท่านสั่งงานจะได้ยินเสียงท่านลอดมาตามฝาห้องซึ่งตอกตะปูไว้ด้วยฝีมือห่างๆ เวลาจำเป็นก็แอบดูหลวงพ่อสอนและสั่งงานได้เพียงนัยต์ตาเท่านั้นเอง

    หลวงพ่อท่านเป็นห่วงทางประตูผู้หญิงเกรงจะมีคนร้ายลักลอบเข้าไปทำความเสียหาย จึงสอนวิชาแปลงเพศให้ ท่านบอกว่า ให้เดินเครื่องเก็บให้หมด คือหมายเอาว่าให้เก็บเพศหญิงให้หมดก่อน เมื่อเก็บหมดแล้ว จึงจะเดินอีกเครื่องหนึ่ง ปล่อยเพศชายที่ต้องการให้ปรากฏออกมา(นี่เป็นวิชชาทางสมาธิภาวนายากแก่ผู้ไม่เคยสัมผัสทางวิชชาธรรมกายจักเข้าใจ)

    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ได้มีการสอนกันตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ เวลานั้น มีอุบาสิกาเรียนอยู่ประมาณสิบกว่าคน เป็นเรื่องที่น่าขบขันมาก ที่ไม่มีใครเขาอยากแปลงเพศเลยเพราะทุกคนพอใจในเพศหญิงของตนอยู่แล้ว เมื่อหลวงพ่อถามว่า "เปลี่ยนหรือยัง ๆ" ก็จะมีคนตอบค่อยๆ ว่า "ยังเจ้าค่ะ ๆ" นอกจากแม่อาจารย์ทองสุขคนเดียวเท่านั้น ที่มีคำตอบแปลกที่สุด ก็ตอบว่า "เกือบแล้วค่ะ ๆ" อุบาสิกกาท่านหนึ่งเล่าว่า "ของคนอื่นเก็บไม่ได้แต่ของพี่สุขเก็บได้ พี่สุขบอกว่าหน้าอกของผู้หญิงแห้งลงไปมาก จนวันหนึ่งเขาจึงตั้งใจทำมากยิ่งขึ้น ตอนดึกรู้สึกว่าได้ผล เกือบเก็บหมดแต่พี่สุขเกิดตกใจ เห็นท่าทางมันจะเป็นจริงขึ้นมา เลยเกิดกลัวหลวงพ่อจะบอกให้ใครๆ รู้เพราะเป็นของแปลกประหลาดมาก ยิ่งคิดเขายิ่งตกใจ เลยเดินเครื่องกลับเป็นผู้หญิงอย่างเก่า"

    ท่านเล่าติดตลกว่า "อยากเป็น(ชาย)ก็อยากเป็น แต่เผื่อเป็นจริงๆ ใครๆ มา หลวงพ่อมิจับฉันแก้ผ้าให้ใครๆ ดูเรอะ เมื่อคืนมันจะเป็นจริงๆ ฮึ ! เป็นออกมาหน่อยแล้ซี ฉันรีบตาเหลือก เดินเครื่องกลับ ขืนปล่อยไว้ช้าเดี๋ยวเลยกลับไม่ได้ ฉันมิได้เป็นคนแปลกประหลาดอยู่คนเดียวหรือ เดี๋ยวใครมันจะได้เอาไปออกงานภูเขาทอง อายเขาตายกัน"

    เมื่อแม่ชีวัดปากน้ำฯ ฝึกวิชชา..เปลี่ยนแปลงเพศ..
    เมื่อแม่ชีวัดปากน้ำฯ ฝึกวิชชา..เปลี่ยนแปลงเพศ..
     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    ฝึกวิชชา..เปลี่ยนแปลงเพศ..

    [​IMG]

    http://palungjit.org/threads/ฝึกวิชชา-เปลี่ยนแปลงเพศ.367191/

    ภาพแม่ชีผู้เป็นครูธรรมกาย

    อุบาสิกาผู้ซึ่งได้ปลงผมบวชวันเดียวกับแม่อาจารย์ทองสุข ได้เล่าให้ฟังว่า เรื่องการจะเปลี่ยนแปลงเพศนี้ ได้มีการทำจริงๆ และทำอยู่นานหลายเดือน

    สาเหตุที่คิดจะเปลี่ยนเพศหญิงให้เป็นเพศชายนี้เนื่องจากหลวงพ่อเป็นห่วงลูกผู้หญิงว่าจะถูกคนข่มเหง ตอนดึกๆ เปลี่ยนเวรเข้าห้องทำสมาธินั้น ท่านเอาใจใส่ สั่งให้ระวังประตูปิดเปิด อย่าให้ใครแปลกปลอมเข้าไปในห้องทำสมาธิได้

    ในห้องทำสมาธิซึ่งเรียกว่า "โรงงาน" นั้น ทางฝ่ายหญิง(แม่ชีหรืออุบาสิกา)มีประตูออกทางด้านหลังศาลาเรียนธรรมหลังเก่า ส่วนทางฝ่ายชาย(พระภิกษุ และอุบาสก)มีประตูออกทางด้านหน้าโบสถ์

    ภายในโรงงานนั้นหญิงชายจึงไปมาหาสู่กันไม่ได้ เพราะมีฝาห้องกั้นตลอด แต่เวลาหลวงพ่อท่านสั่งงานจะได้ยินเสียงท่านลอดมาตามฝาห้องซึ่งตอกตะปูไว้ด้วยฝีมือห่างๆ เวลาจำเป็นก็แอบดูหลวงพ่อสอนและสั่งงานได้เพียงนัยต์ตาเท่านั้นเอง

    หลวงพ่อท่านเป็นห่วงทางประตูผู้หญิงเกรงจะมีคนร้ายลักลอบเข้าไปทำความเสียหาย จึงสอนวิชาแปลงเพศให้

    ท่านบอกว่า ให้เดินเครื่องเก็บให้หมด คือหมายเอาว่าให้เก็บเพศหญิงให้หมดก่อน เมื่อเก็บหมดแล้ว จึงจะเดินอีกเครื่องหนึ่ง ปล่อยเพศชายที่ต้องการให้ปรากฏออกมา
    ...............................
     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

    [​IMG]

    5. คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
    สโมสร "คนมีคลาส" อาหารสมองชั้นเยี่ยมพร้อมเสิร์ฟฟรี !!! ถึงบ้าน: +++10 สุดยอดวรยุทธ์ ผลงานกำลังภายในของ “กิมย้ง”+++

    คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น (จีนตัวเต็ม: 易筋經; พินอิน: Yì Jīn Jīng)
    วิชานี้พบได้ในนิยายกำลังภายในหลายเรื่องโดยเฉพาะนิยายกำลังภายในยุคเก่า

    รวมทั้งนิยายกำลังภายในของกิมย้งด้วยเช่นเดียวกัน ที่ปรากฏเห็นเด่นชัดที่สุด
    คือ นิยายเรื่อง มังกรหยก, มังกรหยก ภาค 2, ดาบมังกรหยก,
    แปดเทพอสูรมังกรฟ้า, และ กระบี่เย้ยยุทธจักร

    จากหลักฐานที่ผ่านมาของนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ทำให้เชื่อว่า
    คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเป็นวิชาที่ได้ดัดแปลงมาจากโยคะสูตรของอินเดีย
    โดยปรมาจารย์ตั๊กม้อ
    สาเหตุที่ทำให้ปรมาจารย์ตั๊กม้อต้องคิดวิชานี้ขึ้นมา
    เนื่องจากนิกายชยาน(เซ็น...มุ่งเต็มใจ)นั้นเน้น
    การปฏิบัติสมาธิสูงมากเพื่อให้ไปถึงจุดที่เรียกว่า โพธิจิต

    ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติธรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรมาจารย์ตั๊กม้อจึง
    ได้บัญญัติวิชาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพชนิดนี้ขึ้น


    คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นปรากฏตัวขึ้นอย่างเด่นชัดครั้งแรกในนิยายเรื่อง
    แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ถูกใช้โดยตัวละครปริศนาที่ไม่มีชื่อเรียกหา
    แต่นักอ่านได้เรียกกันทั่วไปว่า หลวงจีนหอไตร,หลวงจีนกวาดลานวัด,
    หลวงจีนนิรนาม บ้างล่ะ ซึ่งก็สามารถเข้าใจกันได้เป็นอย่างดีไม่ว่า
    จะใช้คำเรียกแบบไหนไหน และสาเหตุที่ทำให้วิชานี้เป็นหนึ่งใน
    สุดยอดวิชาของกิมย้งนั้น เนื่องมาจากสาเหตุการใช้วิชานี้โจมตียอดฝีมืออย่าง
    เซียวเอี้ยวซัว และ ม่อย้งผัก ภายในกระบวนท่าเดียว

    สโมสร "คนมีคลาส" อาหารสมองชั้นเยี่ยมพร้อมเสิร์ฟฟรี !!! ถึงบ้าน: +++10 สุดยอดวรยุทธ์ ผลงานกำลังภายในของ “กิมย้ง”+++
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
    วัฒนธรรมชาวม้งกับพระพุทธศาสนาครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    สาวน้อยชาวม้ง มักมีข้อสงสัยในพระพุทธศาสนาบ่อยครั้ง ^__^

    เชิญร่วมกันมอบหนังสือธรรมะ หรือหนังสือต่าง ถวายแด่สำนักสงฆ์บ้านธารทอง
    http://palungjit.org/posts/6922103
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468

แชร์หน้านี้

Loading...