จังหวัดไหนน่าอยู่ที่สุด

พอดีผมได้เครื่องมือเล่นใหม่ คือที่วัดระดับพื้นดินทั่วประเทศไทยที่คุณniranam2008 นำมาตั้งกระทู้ไว้ ก็เลยสอบวัดจนเกือบทั่วประเทศไทย จึงทำให้รู้ว่าแต่ละจังหวัดสูงต่ำอย่างไร
เอาเฉพาะพื้นที่กลางเมืองนะครับ ดูจังหวัดภาคเหนือที่ทุกคนคิดว่าสูงที่สุด

เหลือเชื่อ แม่ฮ่องสอนสูงกว่าระดับน้ำทะเลแค่ 270 เมตร เชียงใหม่ตั้งแต่ 306 เมตรขึ้นไป ลำพูนแค่ 290 เมตร ลำปาง 240 เมตร เชียงราย 400 เมตร พะเยา 390 เมตร (กลางกว๊านเลยครับ) น่านแค่ 200 เมตร แพร่เหลือเชื่อ แค่ 160 เมตร ลำปาง 240 เมตร อุตรดิตถ์ 60 เมตร สุโขทัย 50 เมตร ตาก 125 เมตร พิษณุโลก 48 เมตร พิจิตร 41 เมตร นครสวรรค์ 30 เมตร ลพบุรี และ สระบุรี 20 เมตร อยุธยา 5 เมตร

เหลือเชื่อครับ เราวิ่งรถจากสระบุรีขึ้นอีสาน พบมวกเหล็กก่อนสูงตั้ง 220 เมตรแน่ะ ใจกลางปากช่อง 300 เมตร แต่ตรงที่ผมอยู่ข้างถนนบายพาส 340 เมตร สูงกว่าเชียงใหม่อีกนะครับ พื้นที่ปากช่องทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 300 เมตร ที่ระดับน้ำเขื่อนลำตะคอง 270 เมตร เขื่อนป่าสัก 40 เมตร

จากปากช่องขึ้นอีสาน พบสีคิ้วก่อน 230 เมตร สูงเนิน 220 เมตร กลางเมืองโคราช 180 เมตร พิมาย แม่น้ำลำตะคองและแม่น้ำมูลพบกัน 150 เมตร บุรีรัมย์แม่น้ำมูลไหลผ่าน แต่วัดกลางเมือง 160 เมตร (แม่น้ำไหลผ่านที่ต่ำกว่า) แม่น้ำมูลไหลลงแม่น้ำโขงที่โขงเจียม สูง 95 เมตร

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ทุกจังหวัดทั่วอีสานล้วนต่ำกว่าปากช่องนะครับ เหลือเชื่อจริง ๆ มิน่าล่ะทำไมอากาศที่ปากช่องถึงดีตลอดปี ผมไปมาทั่วประเทศชอบที่นี่ที่สุด ตั้งใจไว้ว่าขอให้ได้มาอยู่ปากช่อง ในที่สุดผมก็มาอยู่ที่นี่จริง ๆ ตั้งแต่ปลายปี 2549 เหลือเชื่ออีกเช่นกัน ส่วนท่านล่ะครับอยากหนีจากที่ลุ่มไปอยู่จังหวัดไหนดี[/FONT]

 

เป็นผมนะ หนีไปอยู่รัฐฉาน แต่ถ้ารวย ๆ จะหนีไปอยู่เนปาล รับรองไม่กลัวน้ำท่วมแน่นอน ฮ่า ๆ ๆ

 

555 คิดผิด...เพราะถึงน้ำท่วมไม่ถึงแต่รัฐฉานก็มีแผ่นดินไหวบ่อยมากเพราะตั้งอยู่บนรอยเพื่อนอันทรงพลัง ส่วนเนปาลถึงฤดูหนาวก็หนาวมาก หลายครั้งหิมะตก แห้งแล้ง ยากจน อยู่ลำบากครับ แต่ถ้าชอบความสวยงามของบรรยากาศก็เอาเถอะ แต่บรรยากาศมันกินไม่อิ่มนะสิ

 

ขอไม่หนีดีกว่าครับ ...........

จะรอดหรือไม่รอดขึ้นอยู่กับบุญ-กรรม ถ้าจะตาย หนีไปไหนก็ตาย (ขอตายอย่างสงบด้วยใจสมาธิดีกว่า ยิ่งดิ้นรน ใจยิ่งไม่สงบ ยิ่งพบทางสว่างลำบาก)

 

ถ้าน้ำท่วมถึงนครสวรรค์ ป่านนั้นอุณหภูมิโลกก็จะเปลี่ยนไปแล้วล่ะครับ เส้นลองกิจูดของนครสวรรค์อยู่เหนือกรุงเทพ เพราะฉะนั้นเมื่อน้ำทะเลไปถึง สภาพภูมิประเทศมันก็จะเปลี่ยนไปหมด เหมือนในหนัง 2012,Armegedon,Deep Impact นั่นแหละครับ

ส่วนเรื่องรอยเลื่อน ผมไม่กลัวหรอกครับ เพราะรัฐฉานมันไม่มีตึกสูงเลยสักหลัง ในตองยีเมืองเอก จะมีตึกสูงเกิน 10 ชั้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย

ที่เขากลัวแผ่นดินไหว เพราะอยู่ในตึกสูง และอยู่ในเมืองที่มีความเจริญมาก อย่างเช่นกรณีแผ่นดินไหวใน USA และ โกเบ ญี่ปุ่น คนตายเยอะ เพราะคนไปกระจุกตัวอยู่มาก และมีตึกสูงเยอะ ในรัฐฉานมันมีคนอยู่เยอะ หรือตึกสูงมากไหมล่ะครับ ?

เขื่อนในพม่าที่กลัว ๆ กัน ก็คือเขื่อนมิตซง ก็ยังไม่ได้สร้างต่อ แล้วจะต้องกลัวอะไรล่ะครับ ?

ส่วนเนปาล หนาวก็เฉพาะบางหน้าครับ น้ำก็พอมี และที่สำคัญ ถ้าน้ำทะเลท่วมไปขนาดนั้น อากาศน่าจะอุ่นขึ้นด้วยซ้ำไปครับ


ถ้าจะมอง ก็ต้องมองบนพื้นฐานความเป็นไปได้ด้วยครับ

 

คือน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วม มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า พื้นที่นั้นอยู่สูงแค่ไหนหรอกครับ
เพราะสาเหตุจากน้ำท่วมไม่จำเป็นต้องมาจากน้ำทะเลเสมอไป

น้ำท่วมนั้น อาจจะมาจาก
น้ำป่า, น้ำจากเขื่อนไทยหรือจีนแตก, น้ำจากพายุต่างๆ ฯลฯ ถึงอยู่สูงก็ไม่ได้
หมายความว่าจะปลอดภัยหรอกครับ

กรรมเค้าจัดสรรมาแล้ว ว่าใครจะต้องไปอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง ที่เหมาะกับกรรมนั้นๆ
คนที่เค้าอยู่พื้นที่ต่ำๆ ถ้าเค้ายังไม่ถึงเวลาตาย เค้าก็ไม่ตายหรอกครับ
แต่คนที่อยู่ในที่สูงเมื่อถึงคราวตาย ยังไงก็ตายครับ

 

กอร์ดอน ไมเคิล สคัลเลียน












แผนที่โลกใหม่ หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)






แผนที่ประเทศไทยหลังจากปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555)





เรื่องที่กลายเป็นประเด็นสาธารณะ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางที่สุดใน พ.ศ.นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง
"น้ำท่วมโลก"ที่จะกลายเป็น "วันสิ้นโลก" ตามที่มีผู้เคยทำนายทายทักไว้ว่า จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2012 ผนวกกับ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มนุษย์โลกได้เผชิญกับสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ ก็ยิ่งทำให้
คนตื่นตระหนกกับ "วันสิ้นโลก" มากขึ้นเป็นเท่าตัว
ฉะนั้นแล้วจึงไม่แปลก หากคนจะกลับมาพูดถึงเรื่อง"แผนที่โลกใหม่"(Future Map of the World) ที่เคยมีผู้
ทำนายเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะเหลือประเทศใดบ้างหลังผ่านเหตุการณ์ภัยพิบัติของโลกในปี ค.ศ.2012 ไปแล้ว

และผู้ที่ทำนายเรื่อง "แผนที่โลกใหม่" ไว้ก็คือ นายกอร์ดอน ไมเคิล สคัลเลียน ชายชาวอเมริกัน ซึ่งเคย
เกือบเสียชีวิตไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่กลับฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากนั้น เขาก็อ้างว่าได้รับพรสวรรค์เรื่องการ
หยั่งรู้อนาคต และยังเคยทำนายเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ถูกต้องหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลอสแองเจ
ลิส แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535), เหตุการณ์แผ่นดินไหวในแลนเดอร์ส (Landers)
และ บิ๊กแบร์ (Big Bear) แคลิฟอร์เนีย เมื่อ 17 มกราคม ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) รวมทั้งแผ่นดินไหวที่เมืองโกเบ
ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ.1995 (พ.ศ.2538) เป็นต้น

สำหรับเรื่อง "น้ำท่วมโลก" นั้น นายกอร์ดอน บอกว่า ตนได้มองเห็นตัวเองอยู่สูงขึ้นไปในอวกาศ แล้วมอง
กลับลงมาบนโลกเห็นแผนที่ใหม่ของโลก จนเมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายปี เขาก็ยังเห็นภาพเดิมๆ อีก จึงได้สร้างแผนที่
โลกใหม่ หรือ Future Map Of The World ขึ้นมา เมื่อปี ค.ศ.1978 (พ.ศ.2521) และจัดพิมพ์ในปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.
2525)
โดยระบุว่าจะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ๆในโลกระหว่างปี ค.ศ.1998-2012 (พ.ศ.2541-2555) ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขา
ไฟระเบิด รวมไปถึงเหตุการณ์น้ำท่วมโลก จนทำให้หลายประเทศหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศ
ที่เป็นเกาะอยู่แล้วจะจมน้ำทั้งหมด และมีประชากรหลงเหลือเพียงแค่ 10% เท่านั้น


และเมื่อพิจารณา "แผนที่โลกใหม่" ของนายกอร์ดอนแล้ว จะเห็นได้ว่า


แต่ละทวีปเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดย

ทวีปเอเซีย หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)​

ทวีปเอเชีย

ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะอยู่ในแนว "วงแหวนแห่งไฟ" และเขตรอยต่อของเปลือกโลก นายกอร์ดอน
​

ทำนายไว้ว่า จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ ประเทศ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไล่ขึ้นไปถึง ทะเลแบริ่ง ที่เป็นช่องแคบ อยู่ระหว่าง
รัฐอลาสกา กับประเทศรัสเซีย ทำให้เกาะของประเทศญี่ปุ่นจมทั้งหมด เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็กๆ เท่านั้น เช่นเดียวกับ
ฟิลิปปินส์ที่จะถูกน้ำกลืนไปทั้งหมด
​

ส่วน ไต้หวัน และ เกาหลี ส่วนใหญ่จะจมหายไปในทะเลด้วย ขณะที่แนวฝั่งของประเทศจีนจะเลื่อนเข้าไปในแผ่นดิน
อีกหลายร้อยไมล์ ด้านอินโดนีเซียจะเกิดเกาะใหม่ๆขึ้นมาแต่เกาะที่มีอยู่ก่อนหน้าก็จะจมหายไปด้วยเช่นกันซึ่งทั้งหมด
นี้เกิดจาก แผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนตัว ทำให้เกิดการมุดตัว ยกตัวของแผ่นดิน

สำหรับ ประเทศไทย นายกอร์ดอน ทำนายไว้ว่า จะเหลือเพียงแค่ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบาง
ส่วน และภาคกลางตอนบนเท่านั้น จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก จะกลายเป็น
ชายฝั่งทะเล ขณะที่จังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขงคือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม หนองคายจะจมทะเล
ไปหมด และแม่น้ำโขงจะเปลี่ยนเป็นทะเลไปด้วย

ขณะที่ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้ง กรุงเทพมหานครภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ จะถูก
น้ำท่วมจมหายไปจนหมดเช่นกัน

​

ทวีปออสเตรเลีย หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)


ทวีปออสเตรเลีย

ประเทศ ออสเตรเลีย จะสูญเสียแผ่นดินไปประมาณ 25% เพราะน้ำท่วมชายฝั่งเกือลหมด และจะเกิดแผ่นดินไหว
ขึ้นมาที่นอกชายฝั่งที่บริเวณช่องแคบบาสส์เชื่อมกับเกาะ ทาสเมเนีย ส่วนประเทศนิวซีแลนด์ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเพราะเกิด
จากการยกตัวของแผ่นดินที่เป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ และมีแผ่นดินบางส่วนเชื่อมต่อกับประเทศออสเตรเลียด้วย





ทวีปยุโรป หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)



ทวีปยุโรป

ประเทศ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และ เดนมาร์ก จะถูกน้ำท่วม เหลือเพียงเกาะเล็กๆน้อยๆนับร้อยเกาะ ขณะที่
สหราชอาณาจักร ตั้งแต่ สกอตแลนด์ จนถึงช่องแคบจะจมหายไปในทะเลทั้งหมด เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็ก ๆ เท่านั้น
​

ประเทศ รัสเซีย จะแยกตัวออกจากทวีปยุโรป เพราะ ทะเลสาบแคสเปียน ทะเลดำ ทะเลคารา ทะเลบอสติก จะมา
รวมเข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นทะเลขนาดใหญ่แห่งใหม่ ถูกแบ่งด้วยเทือกเขาอูราล ยาวไปถึงแม่น้ำเยนิเซ ใน ไซบีเรีย ตรงนี้
อุณหภูมิจะอบอุ่นขึ้น กลายเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ในอนาคต

ประเทศ บัลแกเรีย และโรมาเนีย จะจมอยู่ใต้น้ำเพราะ ทะเลดำ ขยายตัวไปรวมกับทะเลทางตอนเหนือ ประเทศ
ฝรั่งเศส จมน้ำทั้งหมดเหลือแค่เกาะในกรุงปารีส และเกิดทางน้ำใหม่แยกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ออกจากประเทศฝรั่งเศส
ส่วนประเทศอิตาลี ซึ่งมีพื้นที่ต่ำอยู่แล้วจะจมน้ำทั้งหมด ยกเว้นนครรัฐวาติกันที่อยู่ที่สูงจะปลอดภัยและแผ่นดินสูงๆจะกลาย
เป็นเกาะ เกิดแผ่นดินใหม่ทอดยาวจากเกาะซิซิลิ ไปจนถึงเกาะซาร์ดิเนีย

นอกจากนี้ นายกอร์ดอนยังทำนายด้วยว่าจะเกิดสงครามศาสนาในดินแดนโปแลนด์ เรื่อยไปถึงตุรกี แต่สงคราม
จะยุติลงด้วยความบริสุทธิ์ของแผ่นดินโดยไฟและน้ำ ขณะที่ตุรกีด้านตะวันตกจะจมอยู่ในน้ำ เกิดแนวชายฝั่งใหม่ จากเมือง
อีสตันบูลถึงไซปรัส ส่วนใหญ่ของสมรภูมิในสงครามโลกครั้งที่สองจมลงสู่ใต้ทะเล ก่อให้เกิดเกาะเล็กๆ ขึ้น
​

​

ทวีปแอฟริกา หลังปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)

ทวีปแอฟริกา

ทวีปแอฟริกา จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยมีแม่น้ำไนล์ ซึ่งกว้างกว่าเดิมมากเป็นตัวแบ่งเขต โดยแม่น้ำไนล์นี้
จะวางอยู่ในรูปตัว Y ของกลางทวีป และไหลผ่านเส้นทางใหม่ คือ ไหลจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตรงปากแม่น้ำไนล์ ผ่าน
ประเทศซูดาน และมีต้นกำเนิดแม่น้ำอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

ขณะที่ ทะเลแดง ซึ่งอยู่ตอนเหนือของทวีปจะขยายกว้างขึ้น ทำให้กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และเกาะมาดากัสการ์
เกือบทั้งหมดจมลงสู่ทะเล ทะเลสาบวิคทอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบนยาซาไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย

นอกจากนี้ ยังมี แผ่นดินใหม่เกิดขึ้นในทะเลอาหรับ บริเวณตอนใต้ของประเทศโอมาน และยังมีแผ่นดินขนาดใหญ่เกิด
ขึ้นบริเวณทางเหนือและตะวันตกของเมืองเคปทาวน์ ด้วย


ทวีปอเมริกาเหนือ

อ่าวฮัดสัน ในประเทศ แคนาดา จะขยายตัวออกกลายเป็นทะเลปิดในประเทศ พื้นดินบริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียง
เหนือจะต้องถอยร่นเข้ามาในแผ่นดินอีก 200 ไมล์ เพราะพื้นที่เก่าถูกน้ำท่วมไปจนหมด ส่วนชาวเมืองที่อาศัยแถบ บริติช
โคลัมเบีย และอะลาสกา จะต้องอพยพมาอยู่ในควิเบก ออนตาริโอ มานิโตบา ซาสแกนเซวัน แอลเบอร์ตา จะกลายเป็น
ศูนย์กลางผู้ที่รอดพ้นหายนะระหว่างการเปลี่ยนแปลงในตอนต้น

ส่วนที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นที่แรกของโลก โดยแผ่นทวีปอเมริกาเหนือจะเกิดการโก่งตัว
เกิดหมู่เกาะแคลิฟอร์เนีย ขึ้นอีก 150 เกาะ ต่อมาแผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่งที่มุดตัวลงไปใต้อีกแผ่นหนึ่ง จะทำให้เกิดแนวโก่ง
ตัวและรอยแยก นำไปสู่อุทกภัย ทำให้ ฝั่งทะเลด้านตะวันตกหดลงไปทางตะวันออกสู่รัฐเนเบรสกา ไวโอมิง และ โคโลราโด
ส่วนทะเลสาบเกรทเลค (ประกอบด้วยทะเลสาบสุพิเรีย, ฮูรอน, มิชิแกน, อิรี และออนแตริโอ) และ แม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ จะ
เชื่อมต่อเข้ากับแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ไหลลงสู่อ่าว

ขณะที่ประเทศ เม็กซิโก น้ำจะท่วมจากชายฝั่งเข้ามาในแผ่นดิน ทำให้คาบสมุทรแคลิฟอร์เนียกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
หมู่เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่ของ ยูคาทาน พีนิซูลา จะหายไปในทะเล และจะเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ต่อเนื่องยาวนานถึง
25 ศตวรรษ

ประเทศใน อเมริกากลางและแคริบเบียนจะเกิดอุทกภัย จำนวนเกาะลดลง จะมีเส้นทางน้ำใหม่เกิดขึ้นจากอ่าวฮอนดูรัส
ไปออกที่เอลซัลวาดอร์ ส่วน คลองปานามา จะกลายเป็นคลองตัน


ทวีปอเมริกาใต้

เนื่องจากมีหลายประเทศอยู่ในพื้นที่ "วงแหวนแห่งไฟ" ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใน ทวีปอเมริกาใต้ มากไม่แพ้
ทวีปเอเชีย โดยจะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดในประเทศเวเนซุเอลา โคลัมเบีย และบราซิล จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ใน
ลุ่มน้ำอะเมซอนที่ประเทศเปรู และโบลิเวีย กลายเป็นทะเลในภายในทวีป ส่วนประเทศซานวาดอร์ เซาเปาโล ริโอดอร์จาเนโร
และบางส่วนของ อุรุกวัย จะจมหายไปในทะเล

ส่วนเมือง ซัลวาดอร์ เซาเปาโล ริโอเดอร์จาเนโร ของประเทศบราซิล และบางส่วนของประเทศอุรุกวัย จะจมหายไป
ในทะเล ขณะที่ประเทศอาร์เจนตินา จะเกิดทะเลปิดขึ้นในตอนกลางของประเทศ และยังเกิดแผ่นดินขนาดใหญ่ทางตะวันตก
ของทวีป บริเวณประเทศชิลี รวมทั้งเกิดทะเลปิดขึ้นในบริเวณนั้นอีกแห่งด้วย

ดูจากคำทำนายของ นายกอร์ดอน ที่ระบุไว้เป็น "แผนที่โลกใหม่" นี้ก็คงต้องยอมรับว่าหากเป็นจริงคงจะน่ากลัวไม่น้อย
แต่ ณ วันนี้ เราก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะนี่เป็นเพียงคำทำนายเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว โปรดใช้ดุลพินิจในการไตร่ตรองคำ
ทำนายต่าง ๆ จะดีที่สุด


แผนที่แสดงระดับความสูงทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย


โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม มองลงมาจากอวกาศ ที่ระดับความสูง 1000 กม จากพื้นดิน
กำหนดระดับความสูงด้วยสีต่างๆ เพื่อใช้ในการพยากรณ์พื้นที่น้ำท่วมทั่วประเทศ



สมมติว่า...

- มีน้ำท่วม 10 เมตร ท่านต้องหลบไปให้พ้นพื้นที่สีชมพูอ่อน
- หากมีน้ำท่วม 20 เมตร ท่านต้องหลบไปให้พ้นพื้นที่สีชมพูเข้ม เป็นต้น





<table style="border-collapse:collapse;border-color:rgb(136,136,136);border-width:1px;margin-left:40px" border="1" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="width:284px;height:403px"></td><td style="width:322px;height:403px">

ระดับความสูง



น้อยกว่า 1 เมตร สีน้ำเงินอ่อน

1 เมตร สีม่วงเข้ม
5 เมตร สีแดง
10 เมตร สีชมพูอ่อน
20 เมตร สีชมพูเข้ม
30 เมตร สีเขียวอ่อน
50 เมตร สีเขียวเข้ม
100 เมตร สีเหลืองอ่อน
200 เมตร สีเหลืองเข้ม
400 เมตร สีส้ม
800 เมตร สีน้ำตาล
1000 เมตร สีขาว



</td></tr></tbody></table>



1. ประเทศไทย มองจากระดับความสูง 1000 กม.
2. กรุงเทพ มองจากระดับความสูง 100 กม.
3. กรุงเทพ มองจากระดับความสูง 200 กม.



<table style="border-collapse: collapse; border-color: rgb(136, 136, 136); border-width: 1px; margin-left: 40px; width: 4px; height: 245px;" border="1" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="width:284px;height:403px">
</td></tr></tbody></table>

 

น้ำจากเขื่อนจีนแตก มาไม่ถึงนครสวรรค์หรอกครับ เพราะมันแม่น้ำคนละเส้นเลยครับ

น้ำจากเขื่อนสามผาของจีน มันจะมาตามแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำโขงไม่ได้ไหลผ่านนครสวรรค์แต่อย่างใด ต่อให้น้ำโขงล้น มันก็ท่วมเชียงราย หรือท่วมทางภาคอิสานซึ่งมีภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งมันก็ไม่มีทางมาถึงนครรสวรรค์ได้อยู่ดี เพราะต่อให้อิสานท่วม มันก็จะมาติดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นที่สูง แล้วน้ำมันจะไหลมาถึงนครสวรรค์ได้อย่างไรล่ะครับ ???

ที่ จขกท บอกมาไม่ต้องเดาให้ยาก มันคือน้ำทะเลท่วมไปถึงนครสวรรค์ครับ ไม่ใช่น้ำฝน ไม่ใช่น้ำจากเขื่อนอย่างที่เดาหรอกครับ

 

ถ้าจะมอง ก็ต้องมองบนพื้นฐานความเป็นไปได้ด้วยครับ

พื้นฐานความจริงที่เป็นไปคือ เมื่อเกิดภัยโกลาหลขึ้นกับโลก แต่ละประเทศก็หวงแหนแดนดินกันมาก ไทยก็กันไม่ให้พม่าเข้ามา พม่าก็กันไม่ให้ไทยเข้าไป โดยเฉพาะพม่าเหลือพื้นที่อยู่น้อยมาก คนพม่าส่วนมากจึงอพยพไปอยู่รัฐฉาน จ้างมันก็ไม่ยอมให้คุณแบกเสื่อผืนหมอนใบเข้าไปได้ ถ้าเอาสมบัติไปมันก็ฆ่าคุณทิ้งแล้วยึดเอาทรัพย์สมบัติ ถ้าคุณจะไปอยู่เนปาลคุณต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ ถ้ารอถึงตอนนั้นไม่มีเครื่องบินให้คุณนั่งหรอกครับ

 

ถ้ามันกันได้ง่าย ๆ ก็คงไม่มีคนไทยไปรุกที่จนโดนพม่าจับตามที่เป็นข่าวหรอกครับ อีกอย่างในรัฐฉาน พม่าก็ไม่ได้ครอบครองเสียทั้งหมด

ยังมีกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ สร้างฐานที่มันของตัวเองไว้ ไทยเองก็หนุน SSA-S อยู่อย่างลับ ๆ ฐานที่มั่นใหญ่ของ SSA-S ก็คือดอยไตแลง ซึ่งก็สามารถเดินทางเข้าไปจากไทยได้

ถ้าทาง SSA-S อาจจะขอความช่วยเหลือจากไทยก็เป็นได้ ทำให้อิทธิพลของ SSA-S มีมากขึ้น แค่นี้คนไทยบางส่วนก็สามารถเข้าไปในรัฐฉานได้สบาย ๆ ครับ จะบอกว่าเข้าไปไม่ได้เลยก็คงจะไม่ใช่

SSA-S ของเจ้ายอดศึก ก็แสดงออกให้เห็นชัดเจนมาตลอดว่าเข้าข้างไทยมาตลอด แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป บางทีรัฐไทยไม่หนุนออกนอกหน้า แต่ทัพรัฐบาลพม่าก็ไม่สามารถจะโค่น SSA-S ได้เลยสักหนครับ

นี่ไม่รวมพวก KNU , โกะทูเบลอ ของ นะคะมวย นะครับ


ส่วนเรื่องเนปาล จะรีบไปทำไมครับ เพราะผมไม่เคยคิดจะไปอยู่แล้ว ในเมื่อคุณสมมติปัญหาขึ้นมา ผมก็สมมติคำตอบให้คุณครับ ไม่จำเป็นเสมอไปว่าผมจะต้องไป เพราะการที่น้ำทะเลมันจะท่วมขนาดนั้นได้ มันไม่มีความเป็นไปได้เลยในตอนนี้สักนิด


เพราะปรากฎการณ์เอลนินโญ มันก็จะหมุนไปสลับกับลานินญา เพราะฉะนั้นบางปีมันก็จะแห้งแล้งจัด บางปีน้ำก็จะมากหน่อย

และโดยปกติจากสถานการณ์ธรรมชาติตอนนี้ ป่าไม้แทบจะไม่เหลือเท่าไรในโลกแล้ว น้ำแข็งละลาย ก็เป็นการบ่งบอกว่าโลกร้อนขึ้น

เมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำโดยธรรมชาติ มันก็จะระเหยขึ้นไป แล้วมันจะท่วมได้นานขนาดไหนกันครับ ?

เมื่อ 2500 ปีก่อน ตอนน้ำทะเลยังสูง ก็ยังมาหยุดแค่สระบุรีเท่านั้นเอง ต่อมาน้ำทะเลค่อย ๆ ลดลงจนกรุงเทพโผล่ขึ้นมา ยุคนั้นไม่มีสาร CFC ป่าไม้ยังสมบูรณ์ 100 % และก็ไม่มีโลกร้อนนะครับ


แล้วน้ำทะเลมันหายไปไหน ทำไมกรุงเทพถึงโผล่มาจากทะเลได้ ?

นี่ก็ดูจากความเป็นจริงเหมือนกันครับ

 

หากมาถึงขั้นนั้นจริงๆ ระบบรัฐบาล ล่ม ระบบการเมืองไม่มี ทหารกับพลเรือน สถานะเดียวกัน ไม่มีใครฆ่าใครเพราะหวงแหนประเทศหรอกครับ ณ เวลานั้นที่ทุกคนหวงและห่วงที่สุดก็คือการมีชีวิตรอด (ตัวใครตัวมัน ประเทศไหนไม่สำคัญขอให้มีอาหารและสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้) ในภายหลังหลายๆประเทศจะถูกรวมอารยธรรมเข้าหากันหมด ไม่มีขอบเขตแน่นอนเหมือนทุกวันนี้ (เพราะไม่มีระบบการเมือง ไร้ระบบรัฐบาล)

 

ยิ่งถ้าจะว่าถึงพิบัติภัย ถ้าดูจากตำนานต่าง ๆ ทั้งตำนานความเชื่อทางศาสนา หรือความเชื่อจากนิยายปรัมปรา

ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า จะมีไฟประลัยกัลป์มาล้างโลก กันเกือบจะทุกความเชื่อเลย

จะ โนอา , จะของจีน ที่มีดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 7 ดวง จนวีรบุรุษอย่างโฮ่วอี้ ต้องเอาธนูมาสอยดวงอาทิตย์ทีละดวง ฯลฯ

ก็จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่โลกจะร้างไปเพราะไฟ ไม่ใช่น้ำครับ

ในพระพุทธศาสนาก็บอกไว้ว่า มีไฟประลัยกัลป์มาล้างโลก แล้วก็เกิดฝนตกเป็นหมื่น ๆ ปี จนน้ำท่วม ต่อมาน้ำก็แห้ง แล้วอาภัสราพรหมก็ลงมากินง้วนดินจนบินกลับไม่ไหวกลายเป็นคน ก็คล้ายตำนานอดัมกับอีฟของฝรั่งอีกนั่นแหละ

เพราะฉะนั้น ถ้าจะกลัวผมว่ากลัวดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ที่กำลังเกิดขึ้นแล้วจะโตมากกว่านี้ จนทำให้พื้นโลกร้อนระอุ แล้วไฟประลัยกัลป์ของจริงเผาโลกจะดีกว่าครับ

 

ผมไปปลูกบ้านไว้ที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง วัดความสูงได้ 358 เมตร ไม่ได้กลัวน้ำท่วมนะ
ชอบตรงที่อากาศดี เย็นสบายตลอดปี แต่ก็ได้ไปอยู่ตอนน้ำท่วมนานหน่อย ปกติจะไปเดือนละ 1-2 ครั้ง
มีโอกาสอาจจะได้เจอคุณ kingkong1 อยากย้ายไปอยู่ถาวร แต่ยังไม่พร้อม

 

อยู่สูงต้องเตรียมเรื่องหนาวดีๆนะครับ ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ แกนโลกเปลี่ยน เราจะเป็นเหมือนแคนนาดา บนที่สูงมีหิมะแน่ๆครับ

 

คุณนี่สุดยอดจริง ๆ ความรู้เยอะครับ

 

ครับ น่าจะเป็นเช่นนั้นนะ

 

ด้วยความยินดีครับคุณทวีชัย ทุกวันนี้โลกมันแคบ เดินไปเดินมาเดี๋ยวก็ชนกันไม่รู้ตัว คุณอยู่ซอยเข้าวัดเทพพิทักษ์หรือเปล่าครับ แต่แถวนั้นคนรวยไปซื้อที่อยู่กันเยอะ ผมท่องไปทุกซอกมุมแหละครับ

 

ผมอยู่ซอยเทศบาล 14 ตรงข้ามสวนลุงเฮง ปลูกพริก มะเขือมะละกอ แก้วมังกร
ไว้พอได้กินแจกญาตินิดหน่อย
คุณ kingkong1 อยู่บายพาสปากช่องตรงไหนครับ
ช่วงน้ำท่วผมตระเวนปากช่องอยู่เดือนกว่า อยากจะหาทางตั้งรกรากอยู่

 

อยู่แถวเยื้อง ๆ กับสำนักงานขนส่งจังหวัด(ที่ทำงานเกี่ยวทะเบียนรถ) ช่วงวันหยุดยาวเมษายน ซอยบ้านผมจะเต็มไปด้วยรถที่แวะพักเพราะรถติด บ้างหาที่ถ่ายทุกข์ บ้างหาน้ำกินน้ำใช้ แต่แถวนั้นมีบ้านผมเท่านั้นครับ ส่วนมากเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ผมจึงเรียกบ้านผมว่าบ้านสวนบายพาส มีต้นยูคาล้อมรอบ หาง่ายครับ ใครผ่านไปทางนั้นก็เชิญแวะดื่มน้ำชากาแฟนะครับ ขอต้อนรับทุกคน

 

รวมรูปบรรยากาศปากช่อง ถ้าจะดูให้มากกว่านี้ต้องคลิกที่ลิ๊งค์ Panoramio - Photo of A Path of Pakchong seeing from Wat Kaowanchai
ภาพเหล่านี้ถ่ายจากศาลาอเนกประสงค์วัดเขาวันชัย สาขาวัดหนองป่าพง ใครอยากไปฝากตัวนั่งภาวนาที่นั่นก็สะดวกทุกอย่างนะครับ หรือไม่ก็รอไปอยู่อาศรมจิตราวนาปรัสถ์ของท้าวกุเวร (ท้าวเทพจิตรา) ที่ตำบลดงพยาเย็น หลังมวกเหล็ก