พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    เมื่อพระยาปลัมมะโฆษา เจ้าเมืองทราบข่าว ปรารถนาจะได้ธิดาแฝดไปเป็นมเหสีซ้ายขวา ก็จัดขบวนวอทองไปรับสองธิดาแฝดที่ดอยผาสามเส้าขณะที่แม่หมาไม่อยู่ ธิดาแฝดบัวตองผู้น้องแสดงความเสียใจร้องไห้คร่ำครวญถึงแม่หมา ส่วนผู้พี่มีทีท่าตื่นเต้นที่มีวาสนาจะได้เข้าไปอยู่ในวัง พระยาปลัมมะโฆษา เจ้าเมืองได้สร้างปราสาทสองหลังให้นางเจตะกาและนางบัวตองอยู่คนละหลัง ฝ่ายแม่หมาเมื่อกลับมาถึงผาสามเส้าก็พบว่าลูกสาวหายไป แม่หมาก็เห่าหอนและตะกุยหน้าผาจนเป็นรอยคล้ายเล็บเท้าฝังในเนื้อหินผา ที่ชาวบ้านเรียกว่ารอยตีนหมาขนคำร้องไห้หาลูกสาว มาจนทุกวันนี้ ร้อนถึงพระอินทร์เวทนาแม่หมาจึงเนรมิตให้แม่หมาพูดได้ แม่หมาจึงเดินทางติดตามหาลูกสาวถึงในเมือง แม่หมาได้ถามไถ่ชาวบ้านมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงปราสาทของนางเจตะกา ทหารได้ซักถามแม่หมาว่ารู้จักและเกี่ยวข้องกับนางเจตะกาอย่างไร แม่หมาก็บอกว่านางเจตะกาเคยเป็นนายเก่ามาก่อน ครั้นเมื่อทหารนำความมาแจ้งแก่นางเจตะกา นางเจตะกากลัวว่าจะอับอายที่มีแม่เป็นหมา จึงสั่งให้ทหารทำร้ายแม่หมาจนได้รับบาดเจ็บจนต้องวิ่งหนีไป
     
  2. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    แม่หมาได้รับบาดเจ็บก็วิ่งมาถึงปราสาทนางบัวตอง นางบัวตองรีบวิ่งมารับแม่หมานำเข้าไปในปราสาทเพื่อเยียวยารักษา ให้ข้าวให้น้ำแก่แม่หมา นางบัวตองได้ทูลขอหีบขนาดใหญ่จากสวามีโดยบอกว่าจะเอาไปขนสมบัติที่ผาสามเส้าภายในกำหนดเวลาเจ็ดวัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นางบัวตองได้นำหีบไว้เป็นที่ซ่อนของแม่หมาในวัง เมื่อครบเจ็ดวันแล้ว แม่หมาทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็สิ้นใจตาย พระอินทร์ได้เนรมิตร่างแม่หมาให้กลายเป็นแก้วแหวนเงินทอง เมื่อพระยาเจ้าเมืองพบว่ามีแก้วแหวนเงินทองเต็มหีบ พระองค์ก็โปรดปรานนางบัวตองเป็นอันมาก พระองค์ก็ให้นางบัวตองไปขนสมบัติที่ผาสามเส้าอีกครั้งหนึ่ง นางบัวตองมีความเสียใจที่แม่หมาเสียชีวิต นางจึงคิดจะกระโดดหน้าผาเพื่อฆ่าตัวตาย แต่บริเวณข้างล่างของหน้าผาเป็นที่อยู่ของยักษ์ซึ่งป่วยเป็นฝีกลัดหนองเจ็บปวดมาก เมื่อนางบัวตองกระโดดลงไปกระทบกับร่างของยักษ์ทำให้ฝีแตก ยักษ์จึงหายปวดเป็นปลิดทิ้ง ยักษ์จึงมอบทรัพย์สมบัติให้นางบัวตองเป็นอันมาก นางบัวตองจึงนำสมบัติกลับวังมาถวายพระยาปลัมมะโฆษา
     
  3. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ฝ่ายนางเจตะกา เมื่อทราบข่าวว่านางบัวตองไปขนสมบัติที่ผาสามเส้า นางก็รู้สึกอิจฉานางบัวตอง นางจึงอาสาพระยาปลัมมะโฆษา จะไปขนสมบัติที่ผาสามเส้าบ้าง เมื่อไปถึงผาสามเส้านางเจตะกาก็กระโดดหน้าผาตามที่นางบัวตองแนะนำ ด้วยความที่นางเจตะกามีบาปหนาฆ่าแม่ของตัวเอง ยักษ์จึงจับนางเจตะกากินเป็นอาหาร แล้วยักษ์ก็ไล่กินขบวนช้างม้าตายเกลื่อนเป็นจำนวนมาก สถานที่แห่งนี้จึงเรียกว่าโทกหัวช้าง ซึ่งในปัจจุบันเป็นชุมชนอยู่ในเขตอำเภอเมืองลำปาง และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า นายพรานคนนั้นหลังจากสิ้นชีวิตลงได้เกิดมาเป็น พระเทวทัต แม่หมาขนคำได้เกิดมาเป็น นางปฏาจารา นางบัวตองได้เกิดมาเป็น พระนางพิมพายโสธรา นางเจตะกาได้เกิดเป็น นางจิญจมาณวิกา ผู้ใส่ร้ายพระพุทธเจ้า ทำให้โดนแผ่นดินสูบลงมหานรกอเวจี ส่วนพระยาปลัมมะโฆษานั้นได้เกิดมาเป็น พระตถาคต แห่งเราทั้งหลาย…สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าให้บรรดาพระพุทธสาวก เทพ เทวดา มนุษย์ ที่มาเฝ้า ณ ที่นั้นได้รับทราบ…ถึงตำนานที่มาของหมาขนคำแห่งนี้

    ที่มา : http://www.banmuang.co.th/wp-content/uploads/2012/07/ม่วงคำ3.jpg

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...55-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/page-3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  4. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    วัดพระธาตุม่วงคำ ตำบลพระบาท อำเภอเมือง

    พระธาตุม่อนจำศีล (วัดม่อนจำศีล) เกศาพระธาตุ
    ตำบลพระบาท อำเภอเมือง


    เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระเจ้าทันใจ” ซึ่งศักดิ์สิทธิ์มาก เรียกว่า หากอยู่ในศีลในธรรม ขอสิ่งใดได้
    สิ่งนั้นแทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็มีหลายคนที่ใกล้เกลือกินด่าง “พระเจ้าทันใจ” เป็นพระพุทธรูปที่ใช้เวลาสร้างได้สำเร็จภายใน 1 วัน กล่าวคือ จะเริ่มพิธีตั้งแต่หลังหกทุ่มเป็นต้นไป จนสามารถสร้างองค์พระได้สำเร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนเวลา 18.00 น.) ของวันถัดไป ถ้าสร้างไม่เสร็จถือเป็นพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้ในเย็นอีกวันหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปนั้น มักจะมีขั้นตอนและพิธีกรรมที่ละเอียดซับซ้อน การสร้างพระพุทธรูป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้สำเร็จภายใน 1 วัน จึงถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะพระพุทธานุภาพ และอานุภาพแห่งเทพยดาที่บันดาล ให้พิธีกรรมสำเร็จโดยปราศจากอุปสรรค ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงถือว่าพระเจ้าทันใจเป็นพระพุทธรูปที่จะบันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้อธิษฐานขอพรได้อย่างทันอกทันใจ การสร้างพระเจ้าทันใจนั้น มีลักษณะที่แปลกกว่าการสร้างพระพุทธรูปอื่น ๆ กล่าวคือจะมีการบรรจุหัวใจพระเจ้าคล้ายกับหัวใจของมนุษย์ ตลอดจนการบรรจุวัตถุมงคลสิ่งของมีค่าไว้ในองค์พระพุทธรูปด้วย ละในช่วงระยะเวลาที่กำลังปั้นจะต้องมีการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ตลอดทั้งคืนจนสว่างด้วย “พระเจ้าทันใจ” จะมีหลายองค์ในวัดทางภาคเหนือ


    วัดพระบาท (รอยพระพุทธบาท)ต.พระบาท อ.เมือง 
    http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta17mini44.html
    ที่มา ป้าหนุ่ย..พามาสักการะ.พระธาตุกัน

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...พ-ย-2555-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 857_3.jpg
      857_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.8 KB
      เปิดดู:
      79
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2013
  5. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุม่อนพญาแช่ วัดม่อนพญาแช่
    (พระเกศาธาตุ ๘ เส้น, พระบรมธาตุเล็บ, พระบรมธาตุน้ำบ้วนพระโอษฐ์)
    ตำบลพิชัย อำเภอเมือง


    ประวัติ พระธาตุม่อนพระยาแช่

    ในกาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาเทศนาสั่งสอนสัตว์โลก ลุมาถึง
    กุกกุตตะนครในเมืองเวียงดิน (ปัจจุบัน คือวัดศรีล้อม) พร้อมด้วยพระฤาษี
    5 องค์ได้ติดตามอุปฐากพระองค์มาแต่ลังกาทวีป พระองค์ทรงฉันภัตตาหาร
    ณ ที่นั้น เมื่อทรงฉันเสร็จแล้ว ก็ทรงบ้วนพระโอษฐ์ (บ้วนปาก) พระฤาษี
    ทั้ง 5 ได้นำเอาภาชนะแก้วผลึก มารองรับ ในทันใดนั้นเอง
    น้ำบ้วนพระโอษฐ์ก็เกิดกระด้างกลายเป็นพระธาตุแข็งขึ้นมา พระฤาษีทั้ง 5
    เห็นดังนั้นก็เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก จึงเกิดความเลื่อมใสและมีความปิติยินดียิ่ง
    จึงทูลถามพระพุทธองค์ว่า "ภันเต ภควาข้าแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ
    ภาชนะแก้วผลึกที่เต็มไปด้วยพระธาตุนี้ จะให้พวกข้าพระองค์นำไปประดิษฐาน ณ ที่ตรงไหน จึงจะสมควร" พระพุทธองค์จึงทรงพิจารณา
    ส่องญาณ เล็งเห็นว่า ต่อไปข้างหน้าสถานที่นี้จะเป็นบ้านเมืองมีผู้คนมากมาย
    พระพุทธองค์ทรงใคร่ครวญ ที่จะให้เป็นประโยชน์และเป็นที่พึ่งแก่คนทั้งปวง
    จึงตรัสแก่พระฤาษีทั้ง 5 ว่า ทางทิศตะวันออกของตัวเมืองนี้มีภูเขาลูกหนึ่งชื่อว่า
    เขลางค์บรรพต สมควรที่ท่านทั้งหลายจะเอาพระธาตุนี้ไปบรรจุไว้ ณ ที่นั้น
    ครั้นแล้วพระองค์ทรงอธิษฐานถอดเอาพระนขา (เล็บ) และพระเกศา (ผม)
    ให้แก่พระฤาษีทั้ง 5 เพื่อเอาไปบรรจุไว้ด้วยกัน และเพื่อให้เป็นประโยชน์
    แก่ผู้คนซึ่งมีความเลื่อมใส ได้สักการะบูชาต่อไป เมื่อพระพุทธเจ้า
    ตรัสเช่นนี้แล้ว พระฤาษีทั้ง 5 พร้อมด้วยพระอินทร์ก็รับเอาพระธาตุ
    จากพระหัตถ์พระพุทธองค์แล้วก็ทูลลา มุ่งหน้าไปสู่เขลางค์บรรพต
    ม่อนพระยาแช่ พระอินทร์ได้เนรมิต สถานที่บรรจุพระธาตุ อยู่บนภูเขาสูง
    เป็นช่องลึก 100 วา กว้าง 8 ศอก ส่วนพระฤาษีทั้ง 5 ก็ผลัดเปลี่ยนกัน
    อุปฐาก รักษาพระเจดีย์ในที่ต่างๆดังนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • v6-1.jpg
      v6-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.6 KB
      เปิดดู:
      46
  6. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระฤาษีองค์ที่1 เป็นผู้พี่ให้รักษายังต้นศรีมหาโพธิ์ วัดศรีล้อม
    พระฤาษีองค์ที่ 2 ให้รักษายังพระมหาชินะธาตุเจ้า วัดม่อนคีรีชัย
    พระฤาษีองค์ที่ 3 ให้รักษายังพระมหาชินะธาตุเจ้า พระธาตุดอยแล
    พระฤาษีองค์ที่ 4 ให้รักษายังพระมหาชินะธาตุเจ้า วัดพระธาตุดอยสุเทพ
    พระฤาษีองค์ที่ 5 ให้รักษายังพระมหาชินะธาตุเจ้า ดอยยัสสะกิตติ(เขลางค์บรรพต วัดม่อนพระยาแช่)

    ที่มาของชื่อ "ม่อนพระยาแช่"


    พระฤาษีองค์ที่ 5 นามว่า "สุพรหมฤาษี" น้องสุดท้องนั้นท่านเป็นผู้มีวิชา ปัญญาอัน
    เฉลียวฉลาดยิ่งนัก มีความสามารถทำทองได้และรู้จักวิธีผสมยาสามารถชุบคนแก่
    ให้กลายเป็นคนหนุ่มได้ ในขณะนั้น ยังมีพระยาลัวะคนหนึ่ง ชื่อพระยาวุฑโฒ มีอายุได้
    100 ปี อยู่ขุนแม่ระมิงค์เชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจากพรานป่าว่า พระฤาษีน้องสุดท้อง
    ท่านมีความสามารถชุบคนแก่ให้กลายเป็นคนหนุ่มได้ พระยาวุฑโฒก็มีใจอยากจะเป็นหนุ่ม
    จึงสั่งให้เตรียมไพร่พลโยธาและให้พรานป่าเป็นผู้นำทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ
    ครึ่งเดือนจึงเดินทางมาถึงวัดม่อนพระยาแช่ พอมาถึงพระฤาษีจึงถามว่า
    "พระองค์เสด็จมาที่นี้ด้วยมีธุระประสงค์สิ่งใด" พระยาวุฑโฒตอบว่า "ข้าพเจ้าทราบว่า
    ท่านสามารถชุบคนแก่ให้กลายเป็นคนหนุ่มได้" พอวันรุ่งขึ้น พระฤาษีก็จัดแจงผสมยา
    ขนานต่าง ๆ รวมได้ 4 ขนาน ใส่หม้อดินต้มทิ้งไว้ให้เย็น แล้วพระฤาษีจึงบอกให้
    พระยาวุฑโฒลงไปนอนในอ่างยา พระยาวุฑโฒเห็นดังนั้นก็เกิดความกลัวไม่ยอมลง
    ขอให้พระฤาษีทดลองให้ดูก่อน ก่อนจะลงท่านพระฤาษีก็ได้อธิบายให้พระยาวุฑโฒ
    ให้รู้จักวิธีผสมยาจนเป็นที่เข้าใจ โดยให้ใส่ยาเป็นระยะดังนี้
     
  7. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ระยะที่1 พอนอนลงไปในอ่างยาแล้วเนื้อตัวละลาย ให้เอาขนานที่ 1 ใส่
    จะกลายเป็นน้ำขุ่นข้นขึ้นมาเหมือนข้าวยาคู
    ระยะที่2 แล้วเอายาขนานที่ 2 ใส่ลงไปก็จะเป็นตัวไหวดิ้นขึ้นมาได้
    ระยะที่3 ให้เอายาขนานที่ 3 ใส่ลงไปก็จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อย่างเก่า
    ระยะที่4 ให้เอายาขนานที่ 4 ใส่ลงไป พอใส่ยาแล้วจะรู้จักพูดจาได้และกลับกลาย
    เป็นหนุ่มขึ้นมาเลย

    พระฤาษีได้อธิบายให้พระยาวุฑโฒ ถึง 2-3 ครั้ง จนเข้าใจแล้ว พระฤาษีก็ลงนอนใน
    อ่างยาแล้วสลบละลายกลายเป็นน้ำไป พระยาวุฑโฒก็เอายาขนานที่ 1 ใส่ลงไป
    น้ำนั้นก็ขุ่นมัวเหมือนข้าวยาคู แล้วก็เอายาขนานที่ 2 ใส่ลงไป พระฤาษีก็ไหวตัวดิ้นเป็น
    เกลียวเหมือนงูเกี้ยวกัน ชูคอขึ้นมาเหมือนงูเห่า พระยาวุฑโฒเห็นดังนั้นก็ตกใจกลัว
    จนตัวสั่น ก็เกิดความประหม่า เลยหยิบยาผิดหยิบเอายาขนานที่ 4 ใส่ลงไป เนื้อตัว
    พระฤาษีก็เกิดกระด้างไปเลย ไม่ไหวติงกาย พระยาวุฑโฒก็เอายาขนานที่ 3 ใส่ลงไปอีก
    พระฤาษีก็แน่นิ่งไปไม่ไหวติงกายแต่ประการใด เป็นอันว่าพระฤาษีสิ้นใจตายอยู่ ณ ที่นั้น

    ส่วนพระยาวุโฒเห็นดังนั้นก็มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ก็เกิดโรคาพาธมีอาการ
    กระวนกระวาย จิตใจก็ระลึกถึงแต่เหตุการณ์ที่ได้กระทำมานั้น จิตใจคิดอยากกลับมายัง
    ที่อยู่ของพระฤาษีตลอดเวลา ในที่สุดก็เดินทางกลับมายังดอยยัสสะกิตติ
    (เขลางค์บรรพต) เมื่อมาถึงแล้วก็ให้คนตักน้ำใส่อ่างยา แล้วตนเองก็นอนแช่
    ก็รู้สึกว่าสบาย พอลุกขึ้นจากอ่างยา ก็ร้อนกระสับกระส่าย ทำอยู่อย่างนี้หลายครั้ง
    จนทนไม่ไหว ก็บอกเสนาว่า เรานี้เห็นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่รอดแล้ว เวลาเราตายไปแล้ว
    ขอให้เอาศพไปเผาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ครั้นสั่งเสร็จแล้วก็สิ้นใจตาย สถานที่ที่
    พระยาวุฑโฒนอนแช่ตายอยู่นั้น จึงเรียกว่า "ม่อนพระยาแช่" มาจนถึงทุกวันนี้
     
  8. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุม่อนคีรีชัย วัดม่อนคีรีชัย
    ตำบลพิชัย อำเภอเมือง


    มีพระธาตุและวิหารศิลปล้านนา น่าชมยิ่ง ห่างจากตัวลำปางเพียง 3 กม. บนยอดเขาติดถนนพหลโยธิน สายลำปาง-งาว ระหว่างกิโลเมตรที่ 604 กับ 605

    พระธาตุวัดพระเจ้าทันใจ (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลสันต้นธง อำเภอเมือง


    ในวัดสำคัญทางภาคเหนือ นิยมสร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “พระเจ้าทันใจ” ซึ่งหมายถึง พระพุทธรูปที่ใช้เวลาสร้างได้สำเร็จภายใน 1 วัน กล่าวคือ จะเริ่มพิธีตั้งแต่หลังหกทุ่มเป็นต้นไป จนสามารถสร้างองค์พระได้สำเร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนเวลา 18.00 น.) ของวันถัดไป ถ้าสร้างไม่เสร็จถือเป็นพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้ในเย็นอีกวันหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปนั้น มักจะมีขั้นตอน และพิธีกรรมที่ละเอียดซับซ้อน การสร้างพระพุทธรูป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้สำเร็จภายใน 1 วัน จึงถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะพระพุทธานุภาพ และอานุภาพแห่งเทพยดาที่บันดาลให้พิธีกรรมสำเร็จโดยปราศจากอุปสรรค ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงถือว่าพระเจ้าทันใจเป็นพระพุทธรูปที่จะบันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้อธิษฐานขอพรได้อย่างทันอกทันใจ

    ที่มา Untitled Document
    http://th.wikipedia.org/wiki/พระเจ้าทันใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2012
  9. คนกระบี่

    คนกระบี่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +87
    กระบี่มีบ้างปะเนี้ยหาอ่านไม่เจอตาลาย
     
  10. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    พระธาตุวัดกู่คำ ตำบลสันต้นธง อำเภอเมือง



    วัดพระธาตุหมื่นครื้น ตำบลสันต้นธง อำเภอเมือง



    วัดพระธาตุเสด็จ บ้านเสด็จ ตำบลเสด็จ อำเภอเมือง


    สถานที่อันเป็นที่ตั้งวัดพระธาตุเสด็จในปัจจุบัน เดิมเรียกว่าดอนโพยง หรือดอนโพง เพราะพื้นที่มีลักษณะเป็นที่ดอนและเป็นป่าช้าสำหรับฝังซากศพของชาวบ้าน ตอนกลางคืนจะมีหมา มีแร้งมาแทะกินซากศพ และที่บริเวณนี้จะมีต้นขะจาวใหญ่อยู่ต้นหนึ่งในคืนวันพระ ๘ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำจะมีดวงไฟพุ่งเป็นแสงสว่างออกไปให้ชาวบ้านได้เห็นและชาวบ้านแถวนี้เข้าใจ ว่าเป็นแสงของผีโพง ที่มากินซากศพตอนกลางคืน จึงเรียกชื่อสถานที่นี้ว่า ดอนโพยงหรือ ดอนโพง

    ตำนานวัดพระธาตุเสด็จ

    เรื่องตำนานวัดพระธาตุเสด็จนี้ เกิดขึ้นสมัยเมื่อเมืองลำปางมีชื่อ ศรีนครชัย และ สัมพะกับปะนคร ซึ่งมี ๒ แห่งด้วยกันวัดพระธาตุเสด็จนี้นับว่าเป็นโบราณสถานอันสำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดลำปาง ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติแล้ว ดังจะได้กล่าวถึงตำนานของวัดพระธาตุเสด็จอันมีอยู่ในใบลานดังต่อไปนี้

    หลังจากพระพุทธเจ้าได้นิพพานไปได้ ๒๑๘ ปี พระยาศรีธรรมกาโสกราช เสวยราชเป็นพระยาเจ้าเมืองอยู่ในชมภูทวีปประเทศอินเดีย ได้ให้ท้าวพระยาทั้งหลาย ทำมหาเจดีย์ ๘,๒๐๐๐ ดวง และโปรดให้ชุมนุม พระอรหันต์ทั้งหลายและให้ช่างคำได้ทำโกฏทองคำ ช่างเงินทำโกฏเงิน ช่างแก้วทำโกฏแก้ว แล้วเอาพระธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในโกฏทั้ง ๓ แล้วทำการฉลองสักการระบูชากันเป็นการใหญ่ครบ ๗ วัน แล้วพร้อมกันอธิฐานว่า “เมื่อพระพุทธองค์มีพระชนม์อยู่ได้เสด็จไปสู่ที่ใดก็ขออาราธนาให้พระบรมธาตุ ไปสู่ที่นั้นเถิด” หลังจากนั้นพระธาตุของพระพุทธเจ้า ก็เสด็จลอยไปทางอากาศไปสู่ที่ต่างๆ อันสมควรที่พระพุทธองค์ทรงทำนายไว้และมาประดิษฐานอยู่ที่ดอยโผยง(ผะโหยงหมาย ถึงอาการที่ดวงพระธาตุเปล่งรัศมีขึ้นๆลงๆ )นี้แห่งหนึ่ง(ตรงที่ตั้งวัดพระธาตุเสด็จในปัจจุบัน)


    ที่มา ตำนานวัดพระธาตุเสด็จ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ยังไม่ถึงคิวรอไปก่อนค่ะ ยังไงภาคใต้ก็ปลอดภัยน้อยทีสุด
    จากกระบี่มาตรังขับรถแป๊ปเดียว อย่างไรจุดรวมพล
    ก็คือวัดนาเมืองเพชร ทางผ่านก่อนเข้าตรังอยู่แล้วค่ะ

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...พ-ย-2555-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/
     
  12. ม่วงโมรี

    ม่วงโมรี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีคะ คุญ ไ ราชบุรี กับ นครปฐม แล้ว ชลบุรีคะ ตาลายเหมือนกันหายังไม่เจอคะ
    มีที่ปลอดภัยไหมคะขอ 3 จังหวัดนี้ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ
     
  13. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ไอยเองก็อยากจะลงข้อมูลให้มากที่สุดในทุก ๆ วัน
    แต่งานมากจริง ๆ ค่ะ ทั้งงานทางโลก ทางธรรม มีไอยเป็นแม่หัวเรือใหญ่
    ทำงานเป็นตัวยืนอยู่คนเดียว คนอื่นทำงานแทนเราก็ไม่ได้ มีเวลาว่างก็ช่วง
    กลางคืน กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน ตี 1ทุกคืน วันไหนงานรัดตัวทำงานถึงเช้าก็บ่อย
    และการหาข้อมูลก็ไม่ใช่ง่าย ๆ ต้องใช้มันสมองในการวิเคราะห์อีกต่างหาก
    โดยเฉพาะในบางเรื่องที่ทำอย่างไรถึงจะให้ทุกคนปลอดภัย โดย safe
    ค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด หรือไม่ต้องใช้เงินเลย ดังนั้นการทำงานของไอย
    ไม่ใช่เอาเวปนั้นมาโพส เวปนี้มาโพสแต่ต้องแก้ปัญหาและหาหนทางให้กับ
    ทุกคนให้อยู่รอดปลอดภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของ
    บุคคลนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งบ่นหรือเบื่อที่ไอยโพสช้าเลยค่ะ
    ลำพังทุกวันนี้ใครโทรศัพท์เข้ามา ไอยจะขอโทษเลยว่า ไม่มีเวลาคุยจริง ๆ
     
  14. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    สักพักหนึ่งไอยจะรวมทำเป็นเล่ม เพราะข้อมูลใหม่ ๆ
    ก็มีเพิ่มเข้ามาเรื่่อย ๆ เช่นกัน ไว้ทำตอนนั้นทีเดียวเลย
    แจกเป็นวิทยาทาน และ ธรรมทานให้ฟรี เก็บไว้ติดตัว
    เผื่อจังหวะนั้น ๆ เราไปอยู่ในที่อื่น ๆ และเกิดภัยขึ้นมา
    จะได้เตรียมตัวหาจุดปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดได้ทัน
     
  15. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    วัดพระธาตุคว่ำหม้อ
    ม.๗ ตำบลเสด็จ อำเภอเมือง



    วัดม่อนเขาแก้ว
    ตำบลเสด็จ อำเภอเมือง


    เป็นวัดที่สร้างมานานกว่า 500 ปี มีพระธาตุศิลปล้านนา อยู่บนยอดเขา
    ห่างจากตัวเมืองลำปาง 6 กิโลเมตร ทางด้านทิศเหนือ


    ที่มา http://www.thaitambon.com/tambon/ttrvList.asp?ID=520111
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระเจดีย์ซาวหลัง วัดพระเจดีย์ซาวหลัง
    ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง


    จากประวัติมีว่า เมื่อ ๕๐๐ ปี หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีพระอรหันต์จากอินเดียสองรูป ได้จาริกเผยแผ่พระพุทธศาสนามาถึงยังบริเวณนี้ เห็นสถานที่เงียบสงบเหมาะที่จะบำเพ็ญธรรม จึงใช้เป็นที่พำนักอาศัยปฏิบัติวิปัสนา และอบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชนในละแวกนั้น จนมีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น

    ในครั้งนั้นพญามิลินทรผู้แตกฉานในหลักธรรม ได้มาสนทนาซักถามปัญหาธรรมกับพระอรหันต์เถระทั้งสองรูป และมีความประสงค์จะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา พระอรหันต์ทั้งสองรูปได้ใช้มือลูบศีรษะ มีเส้นเกศาติดมือมารูปละสิบเส้น แล้วมอบให้พญามิลินทร

    พญามิลินทรได้สร้างเจดีย์ขึ้นยี่สิบองค์ แล้วนำเอาเส้นเกศาบรรจุในเจดีย์องค์ละเส้น ต่อมาคนทั้งหลายจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดเจดีย์ซาวหลัง

    เจดีย์ทั้งยี่สิบหลังนี้ ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปางเสร็จเรียบร้อย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๖
    "ซาว" แปลว่า 'ยี่สิบ' และ "หลัง" แปลว่า 'องค์' วัดพระเจดีย์ซาวหลัง แปลว่า วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์


    วัดพระบาทเมืองมาย (รอยพระพุทธบาท) ต.บ้านแลง อ.เมือง


    ที่มา http://www.dhammathai.org/watthai/north/watchedi20.php
    ผลการค้นหารูปภาพโดย Google สำหรับhttp://www.lampang.go.th/travel/weblp/picture/page8_clip_image001.jpg

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...55-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/page-3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2013
  17. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    พระธาตุวัดดอนป่าตาล (พระเกศาธาตุ) (ดอยม่อนวัวนอน)
    ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน


    ชาวอำเถอเถินถือว่าพระธาตุสำคัญเสด็จขึ้นที่วัดตวงที่หนึ่ง, วัดดอยป่าตาล หรือม่อนงัวน้อยที่หนึ่ง และอีกที่คือที่บริเวณป่าเขต ต.แม่ถอด บริเวณขุมแก้วที่เรียกกันว่าโป่งข่ามหลวง พระธาตุดอยป่าตาล ซึ่งแต่เดิมชื่อม่อนงัวน้อย หมายถึงวัวน้อยพระโพธิสัตว์เดินทางกลับจากที่ประสูติกลางป่าแห่งหนึ่ง หมดเรี่ยวแรงนอนพักที่นั่น ราว ๗ วัน จึงเรียกว่าม่อนงัว

    ที่มา http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta26mini8.html
    ประวัติอำเภอเถิน www.pongkamstone.freetzi.com
    ๑) หนังสือมณีรัตนะ จากพระแม่ธรณี
    ๒) บริษัท เอเชีย เทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด 2006
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2012
  18. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    พระธาตุวัดเวียง (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน


    จากตำนานในใบลานได้กล่าวไว้ว่า ปางเมื่อพระพุทธเจ้าได้เสวยชาติเป็นพระโคอุสุภราช นั้นได้มาประสูติยังบริเวณที่ตั้งพระธาตุวัดเวียงในปัจุบันนี้ หลังจากที่พระองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพานไปแล้ว

    ต่อมาหลักจากนั้นพระพุทธเจ้าได้ดัยขันปรินิพานไปนานแล้ว ๒๕๐ ปี พระยาอโศกราชได้สร้างเจดีย์ขึ้นจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ และได้ส่งทูตมาบรรจุอัฐิตามคำสั่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ให้บรรจุไว้วัดเวียงชื่อ พระธาตุเล็บมือ
    ขนานที่ทูตนำผอบบรรจุพระอัฐิของพระพุทธเจ้ามานั้นก็ได้มาพักอยู่ที่จวนของเจ้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณพระธาตุวัดเวียงปัจจุบันนี้

    เจ้าเมืองได้ถามทูตว่าจะนำอัฐิพระพุทธเจ้าไปบรรจุไว้ที่ใด ทูตบอกว่าจะนำไปบรรจุไว้ที่วัดดอยต้อก ( วัดศิลาวารี ) พอพูดจบ พระอัฐิซึ่งบรรจอยู่ในผอบแก้วก็ลอยออกจากผอบล่วงลงสู๋พื้นดินก็สลุบ ( ยุบลง ) ทูตจึงสั่งให้เจ้าเมืองสร้างเจดีย์ครอบไว้ เจ้าเมือจึงย้ายจวนออกแล้วทำการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบไว้ แต่ก็ไม่ใหญ่โตเช่นปัจจุบัน

    ที่มา 109wat.com :
    Thaitambon.com �µӺŴͷ�
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุวัดดอยอุ้มลอง (พระเกศาธาตุ)
    ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน


    ประวัติและที่มา http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta25mini9.html

    http://www3.cdd.go.th/thoen/images/formamphurs.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    วัดพระธาตุดอยแดง
    บ้านเหล่า ม.๕ ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน


    พระธาตุสบเติน
    บ้านทุ่งเจริญ ตำบลแม่ถอด อำเภอเถิน


    วัดพระธาตุปางม่วง (พระเกศาธาตุ)
    บ้านปางม่วง ม.๙ ตำบลห้างฉัตร อำเภอห้างฉัตร


    ประวัติและที่มา http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta25mini5.html



    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/page-5#post7144820
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...