เมื่อจิตเสื่อมลงๆ ไม่เจริญ ต้องมีเหตุใช่ไม๊ครับ ?

อะไร มาแมวหงาย มันมีที่ไหน แมวหงาย ทรงจำมาผิด อะเป่า

*********************

เห็นชอบยก หลวงพ่อชามา ปฏิบัติแบบ อานาปานสติ มาหรือเปล่า

หาก ปฏิบัติแบบอานาปานสติ เจริญ และ เสื่อม เขาให้ระลึกเห็น
จิตที่ปราศจากไตรสิกขา กับ จิตมีไตรสิกขา โดยเป็นจิตที่มีการ
สมาทานสิกขาเอง ( สมาธิไม่มีวิตกวิจาร )

แล้วไม่ใช่เอา การเห็นจิตมีสิกขา หรือ จิตไม่มีสิกขา มาพิจารณา
เห็นเป็นจิตเจริญ จิตเสื่อมนะ

ให้ยกเอา "จิตที่ทำหน้าที่ระลึกสำรวจ" ว่าขณะนั้น จิตมีสิกขา หรือ
ระลึกได้ว่าไม่มีสิกขา ให้เอา "จิตที่ทำหน้าที่ระลึกสำรวจ" นั้น
ขึ้นมายกเห็นอีกที จึงจะเรียกว่า จิตในจิต

ยก จิตในจิต พิจารณาได้ตาม อานาปานสติ กรรมฐาน ค่อยว่ากัน
เรื่อง เจริญ และ เสื่อม

ยกจิตในจิต ขึ้นเห็นไม่ได้ เขาไม่เรียกว่า เจริญ

หากยกได้ เขาเรียกว่า เจริญหนึ่งราตรี แค่ ขณะที่ยก มีผลเท่าหนึ่ง ราตรี
[ หากเคยยกได้ จะเห็นเลยว่า ทั้งวันเนี่ยะ จะมี ปิติ แฉลบสุข ปนตลอดวัน
หากไป งับสุข แน่นหน้าอกเป็นวิบากทันทีเลยนะ ลองสังเกตดู แต่ถ้า
ไม่เคยยก หรือ อะไรว๊ะ ไม่เคยได้ยิน ก็ ยกไปเลยนะ แต่ถ้าเคย จะรู้
เลยว่า ไม่ได้หลอก มรรคย่อมเป็นมรรค และ ย่อมกล่าวให้เห็นตามได้ ]

ส่วนเสื่อม คือ ลืมไปเลยว่า เขาภาวนายังไง ยกยังไง มันจะ ลืมหมด แม้
แต่จะจงใจยก ก็ยกไม่ได้ ลืมหมด เนี่ยะ ............... เสื่อม

พอเสื่อมแล้ว มันถึงจะเกิด กระบวนการ เฝ้นหาธรรมที่ยังไม่ได้ทำ ธรรมที่
รักษาไว้ไม่ได้ ธรรมที่ทำให้เกิดปัจจัยของการเจริญ พอเฝ้นตรงนี้ได้
ก็จะเป็นเรื่อง ธรรมในธรรม เกิดการครบรอบสติปัฏฐาน แล้วมันจะปัก
หมุดเข้ามานะ เข้ามาเสพธรรม เพื่ออิ่มธรรม สำรอกธรรม


************

แล้ว ย้ำนะว่า เสื่อม ไม่ได้แปลว่า หมดตูด หายจ้อย เสียไป ไม่ใช่นะ

เสื่อม คือ มันเอามาระลึกไม่ได้ เอามาอาศัยระลึกไม่ได้ เพราะจิตมัน
ไปอธิโมกกับอะไรบางอย่าง มันจมภพบางอย่างอยู่ ตรงนี้จึงต้องอาศัย
กุศลอกะไรก็ได้ มาประครองไว้ จนกว่าจิตมันจะหลุดจากภพที่ไปติด

พอหลุดออกมา ทุกอย่างก็ปรากฏเหมือนเดิม ระลึกได้เหมือนเดิม ไม่ได้
ได้อะไรมา และ ไม่ใช่เรื่องเสียอะไรไป มันเป็ยเรื่อง ปัจจัย อธิปัจจัย ทั้งหมด

 

ผู้ที่มีความเห็นต่างจากผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ จัดได้ว่าผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ
เมื่อเป็นมิจฉาทิฏฐิ สมาธิก็ย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา

ปุถุชนจัดได้ว่าเป็นผู้ไม่มีปัญญาทางธรรม ดังนั้น เมื่อพบเจอคำสอนใดที่ไม่ตรงกับใจ ก็ควรเปิดใจรับฟังอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ
รับฟังไว้ให้มาก เมื่อปฏิบัติถึงแล้วจึงจะทราบได้ว่าคำสอนใดนั้นถูกต้องที่สุด

ความเสื่อมของท่านเสขะ บุคคล เป็นไปตามคาดไว้ตั้งแต่แรก ท่านจำได้หรือไม่ว่าท่านปฏิเสธคำสอนใคร มาอธิบายในครั้งนี้เพื่อสงเคราะห์ท่านเสขะ บุคคลโดยเฉพาะ
การปฏิเสธคำสอนของผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ ย่อมไม่สามารถเข้าถึงสัมมาทิฏฐิ ได้ด้วยวิธีการใดๆ มีสมาธิก็ย่อมเสื่อมจากสมาธิโดยเร็ว

คำสอนของผู้เข้าถึงสัมมาทิฏฐิ เป็นทั้งประโยชน์อย่างมาก เพื่อให้ผู้ฟังบรรลุธรรม และเป็นโทษอย่างมหันต์ คือ ปิดกันมรรคผลทั้งหมด
เท่าที่อธิบายและสอนธรรมในที่นี้ ส่วนมากที่ปุถุชนจะได้รับ คือปุถุชนจะได้รับโทษมากกว่าประโยชน์ จึงเป็นสาเหตุไม่อธิบายธรรมบ่อยครั้ง
เพราะพื้นฐานของจิตปุถุชน มีจิตเป็นมิจฉาทิฏฐิเดิมอยู่แล้ว

ท่านเสขะ บุคคล ปรารถนารู้วิธีการแก้ไขหรือไม่ ขอแจ้งท่านไว้เลยเพราะไม่มีเวลามากนัก
ท่านไปขอขมาพระรัตนตรัย ที่ประกอบไปด้วยพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์
ผู้ที่ท่านปฏิเสธคำสอน เป็นผู้เข้าถึงซึ่งสัมมาทิฏฐิ และเข้าถึงความเป็นพุทธะมานับครั้งไม่ถ้วน เข้าถึงได้ด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ใดสั่งสอนและธรรมที่เข้าถึงนั้นตรงกับคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทุกประการ ในกึ่งพระพุทธศาสนานี้ ผู้อธิบายนี้เป็นหลักของผู้ที่สอนธรรมขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้บรรลุมรรคกันมาก การปฏิเสธธรรมของผู้อธิบายจะเป็นเหตุให้ท่านไม่สามารถบรรลุมรรคผลในกึ่งพุทธกาลนี้ได้

ท่านเสขะ บุคคล ขอขมาพระรัตนตรัย แล้วนึกถึงองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า และผู้เข้าถึงพุทธะทั้งหมด ซึ่งจัดอยู่ประเภทพระพุทธะ อานิสงค์ไม่ดีก็จะไม่เกิดกับท่าน ส่วนท่านอื่นที่ไม่แน่ใจว่าเคยปรามาสผู้อธิบายหรือไม่ก็ทำแบบเดียวกันกับสิ่งที่อธิบายนี้ ท่านจะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่ไม่มีประโยชน์อันใดที่ต้องมานั่งพิมพ์เพื่อโกหกพวกท่าน ซึ่งเสียเวลาพิมพ์เป็นอย่างมาก

ถ้าท่านปรารถนาได้ฟังผู้อธิบายแสดงธรรมในกึ่งพุทธกาลนี้ ท่านปฏิบัติดังนี้ ข้อ 1.พระรัตนตรัย บิดามารดา ผู้มีอุปการคุณ ข้อ 2.มีเมตตาต่อสัตว์ทั้งหลาย ข้อ 3.มีศีล ข้อที่ 4 ถ้าท่านมีสมาธิ ท่านจะง่ายต่อการเข้าถึงธรรมในกึ่งพุทธกาลนี้

 

ขอบคุณครับ รับไปพิจารณาครับ

 

สัมมาทิฏฐิ เป็นอย่างไรครับ ?
หากผมประมาทพลาดพลั้งต่อท่านแต่กาลใดก็ขอขมา ขอท่านอภัยต่อกันเถิดนะขอรับ

 

ทำความเข้าใจให้ดีๆนะ

แล้วจะเห็นว่า " เสื่อม " แบบพุทธ เนี่ยะ ศีล สมาธิ ปัญญา
ยังประกอบอยู่หน่าคร้าบ แต่เป็นการประกอบ เพื่อ ประครอง
เอาไว้แก้เก้อ ยามที่จิตมันไป จมอยู่ในภพอาสวะบางอย่าง
เกิด อธิโมก เกิด นิกันติ บางอย่างเข้า ผู้ภาวนามองไม่เห็น
หรอกว่าติดอะไร

ยกเว้น เก่งอานาปานสติ จริงๆ อาสวะขยับปั๊ป เห็นได้

แต่ถ้าเป็น ผู้ไม่เก่งอานาปานสติ เป็นแค่สาวก ไม่ต้องไปยก
เห็นหน่าคร้าบ ไม่ใช่ ฐานะจะยกพิจารณา ไม่จำเป็น แค่ประครอง
ไว้แล้ว รอมันหลุดออกมา ก็พอ

การเห็น อาสวะทั้งหมด กำจัดอาสวะ ละนิสัยได้ทั้งหมด มันเป็น
เรื่องของคนบางคนที่หาได้ยากเท่านั้น

ดังนั้น สาวกเวลาหลุดจากภพ ก็มักสำคัญว่า เพราะตัวเองบริกรรม
อย่างนั้นอย่างนี้ ว่าไปเรื่อย ซึ่งมันไม่ผิด มรรค ว่าด้วยการประครองไป
แก้เก้อ

 

เอ้ยนี้ คุณ เสขะ ของพี่ กะลาเกิด ถามไรหน่อยจิ

อย่าว่าอย่างงู้นอย่างงี้เลยนะ จะหาว่าผมโง่ ก็ได้

จะถามว่า

คุณ มีสายยางใส่ๆ แบบ ที่เขาหาซื้อมาติดบ้าน รึ จยัง!

เผื่อว่า พรุ่งนี้ จะอีกนานไหม พรุ่งนี้ ใบไม้มันผลิกคว่ำผลิกหงาย
ก็จะได้เอา สายยางมาจัดเต็ม..............ให้พอแก้วิกฤติใบไม้
ผลิกคว่ำผลิกหงาย......ชุ่มชื้นใจกันไป

ฮิวววววส์


ปล. กรุณาอ่านแปลหลายๆรอบ

 

​

พี่มุขเยอะ ผมตามไม่ทัน
ที่บ้านมีแต่สายยางนี้ได้เป่า

 

ฮั่นแน่ เสือซ่อนเล็บ นะนี่

แปลความได้ ก็แปลให้ดีๆ ละกัน

แต่ไม่เอาเรื่อง เท้าหน้าขวา นะเว้ยเฮ้ย

เพราะเดียว รา(RA) ขึ้นมา พอราขึ้นนี่
นอกศาสนาทันที เลย

 

ศีล คือข้อบังคับเว้นจากความชั่ว เป็นเหตุให้เกิดความปกติของใจ
ความปกติของใจเป็นเหตุให้เกิด ความสงบ เป็นสมาธิ
สมาธิ เป็นเหตุให้เกิดสติตั้งมั่นเห็นไตรลักษณ์ เห็นแปรปรวน เห็นอนิจจังทุกขังอนัตตา
คือเกิดปัญญา

ศีลเสื่อมเพราะลูบคลำ เหลาะแหละ ไม่หนักแน่นในความดี
กิเลสปปั้นเหตุผลสร้างความชอบธรรมหลอกไปทำชั่ว แล้วไม่มีสติไม่ยับยั้ง
ไม่เพียรเผากิเลส ไม่หนักแน่นในความดีนี่คือเสื่อม

แบบโลกๆก็เอาว่า ไม่ทำชั่ว ไม่เบียดเบียน ระงับอกุศลไว้ให้ได้ก่อน
จิตแพทย์แก้คนขี้โมโห บอกก่อนจะทำร้าย ด่าทอ ให้นับเลขให้ถึง100ก่อน ค่อยทำอะไรต่อ กว่าจะนับถึงร้อยโกรธมันคลายตัว->ตัดภพของการทำร้าย ก่อคดี อันนี้เป็นระดับสมถะแม้ไม่ถึงระดับปัญญานะครับ แต่ก็ย่อมจะดีขึ้นเรื่อยๆ

ในทางกลับกัน คนที่มักทำร้ายสัตว์ ใจก็มืดบอด ต่ำช้า เลวทรามลงได้เรื่อยๆ
พูดโกหก ลักขโมย โกง ผิดชู้ กินของมึนเมาขาดสติเห็นว่าเล็กน้อยในขณะเดียวกันกิเลสก็สะสมกำลังไว้ทำชั่วใหญ่ๆต่อไปได้อย่างปกติของใจอันมืดมิด นี่คือ ศีลทะลุลงนรกอเวจี

 

นิวรณ์ทั้งหลาย ก็คือ สภาวะธรรม

สภาวะธรรมทั้งหลาย ล้วนแสดงสภาวะไตรลักษณ์

กำหนดสติไปเรื่อยๆ ให้ถึงที่สุด พอจิตมันกำหนดรู้ในทุกสภาวะที่ผ่านเข้ามาได้ นิวรณ์ตัวใดๆ ก็แล้วแต่ ก็เป็นครูสอนเราให้เห็นถึงไตรลักษณ์ทุกตัว

หรือก็คือ ธรรมานุปัสสนา ในสติปัฏฐาน 4 นั่นเอง

แต่เคล็ดลับตรงนี้คือ การกำหนดเข้าไปทีละชั้น

สติปัฏฐาน อุปมาก็คล้ายๆ ลอกเปลือกกะหล่ำปลี

ชั้นนอกที่สุด หยาบที่สุด ก็คือกาย ต้องกำหนดรู้ก่อน ให้ชำนาญก่อน
แล้วก็ตามมาด้วยเวทนา จิต ที่มันละเอียดลงไปทีละชั้นๆ

สภาวะในชั้นหยาบ จะบังสภาวะในชั้นละเอียด ต้องค่อยๆ ลอกมันทิ้งออกไปทีละขั้นๆ จนถึงเนื้อในสุด...

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=BPcr-fLAZ0s"]?????????????-????????????????? - YouTube[/ame]

สุสฺสุสํ ลภเต ปญฺญํ
ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา​

 

อ๊ะ..ผมเป็น พญาสัมเวสีนะครับ พี่เสขะ.จะกล้าคบผมรึครับ.. จะใช่กัลยา ณ มิตไหมครับ อิอิ:'(

 

อิงแอบอ้างจาก : Tboon ( Ten Boon )


*************

นั่นแหละๆ ฟังธรรมเนี่ยะ ต้องฟังธรรมให้เป็น ขั้นแรกเลย คือ อย่าฟังแล้ว
ไปตั้งความรู้สึกว่า กำลังฟังจาก หลวงพ่อนั้น หลวงปู่นี้

หากใครใจหยาบ ปัญญายังทราม มันจะฟังแล้วรู้สึกว่า กำลังฟังธรรมจาก หลวง
พ่อนั้น หลวงปู่นี้ ....เรียกว่า ฟังไปก่ออกุศลมูลจิตไป ฟังแล้ว ก็ยัดข้อหา
ดีดไข่ใส่สี หลวงพ่อนั้น หลวงปู่นี้ โดยไม่รุ้ตัว คือ ไปยก หลวงพ่อนั้น หลวงปู่นี้
เป็น ภิกษุโจร เสียนี่

เพราะ ผู้หมุนธรรมจักรนั้น มีแต่ พระศาสดาเพียงผู้เดียว ดังนั้น เวลาฟังธรรม
ต้องยกจิตให้ถูก ยกจิตไม่ถูก มึงอยู่ศาสนาไหนตอนนั้น ไม่รู้เลยนะ ศาสนาใคร
ก็ไม่รู้ มาปล้อนเอาดื้อๆ

ฉะนั้น เวลาฟังธรรมแล้ว ตั้งความรู้สึกไว้ว่า กำลังฟังธรรมจากพระพุทธองค์ อย่าง
น้อย ธรรมกีดกัน ทั้งหลาย จะไม่เข้ามาสิงสู่ใจ จะไม่โดนมารหลอกใช้ จะไม่มี
เรื่องเสียสามัคคีธรรม เด็ดขาด

ธรรมใดฟังแล้ว เกิดหลวงพ่อนั้น หลวงปู่นี้ ยุบยับ กระโดดขึ้นมาขโมยธรรม ตอน
กลับไปบ้าน โอ้ยดีใจได้ฟังธรรมมาแต่ หลวงพ่อนั้น หลวงปู่นี้ เนี่ยะ สันดานโจร !!!
มันถูกก่อให้เกิดโดยไม่รู้ตัว

 

นั่นๆๆๆๆ..ไอ้มะกอกสามตระกร้า ของคนพุทธ ต้องตัวเองกล่าวธรรมเท่านั้นจึงจะถูก ของคนอื่นนี่เจือก ..คิดแทน..ปรุงสัญญาเป็นสมมุติ มันก็ปรุงเป็น เอ้อ..
ไปโลดหมด ..เฮ้อ..ปีใหม่แล้ว จะส่งอะไรให้ดูดดีนะ..หัวนิ้วป้งตีนไหม อิอิ:boo:

 

..ดูมัน..ปรุงสัญญาให้เป็น..สมมุติ..ของตัวเอง ให้คนอื่นอ่าน มันก็ทำเป็น อิอิ
เล่าปัง..เอ้ยยส์..ธรรม ..ของคุณเก็บไว้ใช้เองเน๊าะ อิอิ:boo:

 

..พี่เสขะ..หมดกิเลสแล้ว จริงเหรอ..จึง..หงาย หงาย หมาให้เล่าปังดู
เอ้ย..หงายแมวน้ำ..อิอิ:boo:

 

หงายโชว์ ำ กันบ้างจะเป็นไร ปีใหม่แล้ว อิอิ
pig_cryy2

 

พี่เกิดนี่ ชัยยา มิต ไชยของผมเบย (k)

 

..ไอ้สันขวาน..ปีใหม่แล้วลืมเลยรึ..มะอึง..มรึง..!
ปีก่อน ปีที่แล้วมา..มะอึง..มรึง..มึงด่าพระไปหลายองค์ ถึงกับอัดเทป เสียงถ่มน้ำลายท่าน มาเปิดในเวปนี้ ..มะอึงมรึง ทำเป็นลืมซินะ ..ชิมิ มิใช่รึ อิอิ:boo:
นั่น..มะอึง มรึง ฟังเทศน์ พระพุทธองค์รึ อิอิ