ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

กราบขอบพระคุณพี่ช้าง ท่านรอง และสมาชิกทุกท่าน
อาจารย์พี่ช้างเป็นผู้ดำริและริเริ่มท่านแรกในการจัดสร้างสติกเกอร์สามสมเด็จ
ท่านรองท่านช่วยดูเรื่องของแบบ และทุกท่าน ได้ร่วมกันทำบุญจัดสร้าง

จึงทำให้มีรูปแบบ และจัดสร้างผ้ายันต์นี้ขึ้นมาค่ะ
อนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ

 

สวัสดี คุณนวล และเพื่อนๆชาวพลังจิต

 

อ่านเจอมาค่ะ...

การสร้างบุญกุศล
ด้วยการทำบุญ ทำทาน

การเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก เกิดมาใช้กรรมเก่า สร้างบุญใหม่ อย่าประมาทในชีวิตเวลาในโลกมนุษย์นั้นน้อย ทำบุญ ทำทาน ให้มากหนีกรรมเก่า สร้างบุญใหม่ ชีวิตจะมีแต่ความสุขเจริญ

คนเราตายแล้วไม่สูญตายแล้วยังเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน ตราบใดยังต้องปราบกิเลสในตัวเองยังไม่หมด ก็ยังต้องเกิดอีก กรรมดีกรรมชั่วทำแล้วมีผลแน่นอนและจะส่งผลทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ไม่หายไปไหน นรกสวรรค์มีจริงอยู่

การทำบุญที่จะได้ผลบุญ ต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการคือ
-วัตถุบริสุทธิ์ คือ ไม่ได้โกงใครเขามา
-เจตนาบริสุทธิ์ ถึง แม้วัตถุบริสุทธิ์ไม่ได้ขโมยใครมา แต่ที่ไปทำบุยไม่ใช่ต้องการได้บุญ แต่ต้องการได้ประโยชน์จากเขา เช่น ถวายของให้เจ้าอาวาสเพื่อประจบจะได้ฝากลูกเข้าทำงานใบริษัทของโยมอุปัฏฐานของท่านอย่างนี้ไม่ได้บุญเพราะเจตนาไม่บริสุทธิ์เท่ากับติดสินบน
-ผู้ให้บริสุทธิ์ คือตัวผู้ทำบุญมีศีลตามเพศภาวะของตนคือเป็น ฆราวาสก็ต้องมีศีล 5
-ผู้รับมีศีล ถ้าพระภิกษุรับทาน รักษาศีล 227 ข้อ ได้บุญเต็ม
-คนที่โกงเขามาทำบุญเจตนาต้องการได้บุญ ภิกษุผู้รับถือศีลเคร่งครัดไม่รู้ว่าคนถวายไปโกงเขามา ขาดไป 2 ส่วน เวลากรรมส่งผล ได้ของมาก็ถูกเขาชิงไปเสียเป็นบุญปนบาป
หักล้างกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต่างรอจังหวะส่งผลกันอยู่ สุดแต่ว่าฝ่ายไหนแรงมากกว่า ฝ่ายนั้นก็ส่งผลก่อน

การทำบุญควรให้เป็นบุญล้วนๆ คือครบองค์ประกอบทั้ง 4 และทำให้สม่ำเสมออย่าเปิดโอกาสให้บาปเก่าๆ ในชาติก่อนๆ ส่งผลชีวิตของเราจะได้มีความสุข

โบสถ์มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับงาน 2 งานใหญ่ของสงฆ์ คือ

-เป็นที่ทำสังฆกรรมหรือทำพิธีของสงฆ์ โบสถ์เป็นเหมือนจำลองเอาตนนิพพานมาไว้บนพื้นมนุษย์ เพื่อให้สงฆ์ทำสังฆกรรมกันด้วยความรู้สึกเหมือนอยู่เฉพาะพระพักต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระภิกษุทุกรูปต่างต้องชำระศีลของตนให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าโบสถ์เพื่อทำสังฆกรรม เพราะฉะนั้นผู้สร้างโบสถ์จึงได้รับบุญใหญ่

-โบสถ์ใช้เป็นที่สำหรับบวชพระในพระวินัยกำหนดว่าพระต้องบวชในโบสถ์บวชนอกโบสถ์ไม่ได้ โบสถ์จึงเหมือนกับเป็นที่ยกระดับจิตใจของคน คือยกระดับจากคนธรรมดาให้เป็นพระซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย

ลูกนิมิตเป็นส่วนประกอบหนึ่งของโบสถ์ สร้างโบสถ์แล้วก็ต้องฝังลูกนิมิต แสดงอาณาเขตและอาณาเขตของโบสถ์ เป็นเงื่อนไขความสมบูรณ์ในการทำสังฆกรรมหลายอย่างตามพระวินัย

บุญ 2 อย่างนี้ มีอนิสงส์ เกิดกี่ภพกี่ชาติ จะมีบุญติดตัวไป ทำความดีเมื่อใด จะกลั่น กาย วาจา ใจ ให้ใสหมด

 

ฝากภาพ หลวงพ่อทวด ที่รักยิ่ง

 

สวัสดีค่ะ...พระหลวงปู่งดงามค่ะ ด้านหลังเป็นยันต์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ใช่ไหมคะ

ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องยันต์


ค้นเจอมาค่ะ

"ในพุทธศาสนามีพระเจ้าด้วยหรือ?" ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า "พระเจ้า" เป็นคำใช้เรียก "พระพุทธเจ้า" และพระภิกษุสงฆ์มาแต่โบราณ เช่น พระเจ้าพระสงฆ์ พระเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกัปมีพระพุทธเจ้าโปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์ ตาม ลำดับดังนี้

๑.พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๔ หมื่นปี มีเขมวตีนนครของพระเจ้าเขมะเป็นราชธานี

๒.พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๓ หมื่นปี มีโสภวตีนนครของพระเจ้าโสภะเป็นราชธานี

๓.พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๒ หมื่นปี มีพาราณสีนครของพระเจ้ากิงกิเป็นราชธานี

๔.พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๘๐ ปี มีกบิลพัสดุ์นครของพระพุทธเจ้าสุทโธทนะเป็นราชธานี

และ ๕. พระศรีอริยเมตไตรย์ จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัททกัป จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปี ซึ่งงเป็นที่มาของ คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า 'แม่ธาตุใหญ่'

ส่วนที่มาของพระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ และระหว่างเขียนตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์บริกรรมดังนี้

นะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากุกกุสันโธ องค์แรกในภัทรกัปนี้ เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “นะ กาโรโหติสัมพโว พระกุกกุสันโธ จงมาบังเกิดเป็นตัว นะ”

โม เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าโคนาคม องค์ต่อมาใช้เขียนแทนธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “โม กาโรโหติสัมพโว พระโคนาคม จงมาบังเกิดเป็นตัว โม”

พุท เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากัสสปะ องค์ถัดมา ใช้เขียนแทนธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “พุท กาโรโหติสัมพโร กัสสปะเถระ จงมาบังเกิดเป็นตัวพุท”

ธา เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “ธากาโรโหติสัมพโว พระสมณโคดม (บางครั้งใช้พระศรีศากยะมุณี ในอดีตจะใช้ว่า พระศิริศากยมุณี) จงมาบังเกิดเป็นตัว ธา”

ยะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง
พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือ
บริกรรมว่า “ยะ กาโรโหติสัมพโว พระศรีอริยเมตไตรย (บางครั้งใช้ พระศรีอริยะเมตเตยโย) จงมาบังเกิดเป็นตัว ยะ”

เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ การลงอักขระเลขยันต์นี้ เท่าที่มีการบันทึกจำกันได้ ก็ในสมัยพระร่วงเจ้า ที่ขอมดำดินมาเพื่อจะทำร้ายพระร่วง ขณะนั้นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ ขอมดำดินก็โผล่ขึ้นมาถามหาพระร่วง พระร่วงเจ้าก็เลยใช้วาจาสิทธิ์สาปพวกขอมจนกลายเป็นหิน เป็นเวลาร่วมพันปี เพิ่งจะมีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของขอมให้ไปเกิดใหม่

การตั้งนะโม ๓ จบ โดยให้ว่าคาถาดังนี้

นะ ทรงฟ้า
โม ทรงดิน
พุทธ ทรงสินธุ์
ธา ทรงสมุทร
ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด
ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ

นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง

ทั้งนี้มีคติความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ก่อนนอน ก่อนออกเดินทางจากบ้าน หรือเข้าในที่คับขัน เผชิญหน้ากับศัตรู ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีก ป้องกันภัยอันตรายได้สารพัด วิเศษนักแล "

เคยเชพไว้ ...

อนุโมทนาบุญ ท่านที่เขียนบทความไว้ค่ะ

ขออภัยค่ะ หาลิงค์ไม่เจอ....

 

***คุณ นวล ครับ พักผ่อนบ้างนะครับ
เดินทางทัวร์บุญไม่ยอมหยุดเลยครับ
พี่ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหมด ของ คุณ นวลด้วยจ้า
รวย 100ล้านไปเลยนะครับ***

 

ตำนานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

อ่านที่ลิงค์นี้ค่ะ...

http://palungjit.org/threads/ตำนานพระพุทธเจ้า-5-พระองค์.207891/

 

ดีมากครับ ขอนำเอาไปเผยแพร่ต่อ

 

ขอบคุณพี่รุ่งค่ะ...
เมื่อวานได้สนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาสวัดสีหยัง
ท่านพูดถึงคณะกองบุญแก้วมณีธรรมด้วยค่ะ

พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเป็นพิธีสำคัญมาก
วันที่ 16 กพ. จะมีคณะญาติธรรมมาทำบายศรี
และเตรียมงานให้กับทางวัดค่ะ....
ท่านบอกผู้เกี่ยวข้องคณะทำงานให้สวมชุดขาว....

อยากร่วมทำบุญกับทางวัดค่ะ เพราะเป็นพิธีสำคัญ....
อิ่มบุญค่ะพี่รุ่ง

*ไว้ทัวร์วัด ปัตตานี ไปแจกผ้ายันต์ทหารกันอีกนะคะพี่รุ่ง

 

ถ้าแจกทหารหมดแล้ว รุ่นที่ ๒ ก็จะสร้างแบบสติกเกอร์ ด้านหน้ามีหลวงปู่ทวดถือลูกแก้ว พระศรีอาริยเมตตรัย และสมเด็จองค์ปฐม แต่เป็นโลหะ ขนาดเหรียญ 10 บาท ด้านหลังยังนึกไม่ออก ท่านนวลพรรณ ลองคิดดู

 

***เดี๋ยว จะร้องตามคุณคุณนวลไปอีก เพราะ สนุก และ ได้ บุญด้วยครับ***

 

***เอาไงก็เอากันครับ อ.ช้าง***

 

อนุโมทนาบุญ อาจารย์พี่ช้างและพี่รุ่งค่ะ

เป็นความไฝ่ฝันที่อยากจะสร้างเหรียญ ไว้คุ้มครอง ปกป้องพี่น้องทหาร
ไว้สักรุ่นค่ะ......

เรื่องพิธีทางใต้ จะนำเข้าพิธีให้ค่ะ
-เจอท่านที่ช่วยเขียนผ้ายันต์หลวงพ่อทวดขึ้นใหม่ท่านก็เป็นลูกหลานที่เกิดใน
ดินแดนหลวงพ่อทวดค่ะ
-หากมีแบบด้านหลัง ทุกอย่างก็จะเริ่มงานบุญขึ้นค่ะ
และจะมีพิธีสำคัญในเดือนกพ.57 ไว้แล้ว
สมโภชน์องค์หลวงพ่อทวดรุ่นเหนืออุบัตภัย....

 

กำลังจะให้ช่างท่านเขียนภาพหลวงพ่อทวดปางธุดงค์ (ทำเป็นผ้ายันต์อีกหนึ่งงานบุญค่ะ)
ถ้าหากด้านหลังเหรียญเป็นปางธุดงค์ อาจารย์พี่ช้างกับพี่รุ่งเห็นว่าได้ไหมคะ

 

เมื่อวานท่านเจ้าอาวาสวัดสีหยัง ท่านชมผ้ายันต์รวมจัดสร้าง

ได้ถวายเพียงสติกเกอร์และภาพหลวงพ่อทวดเมื่อครั้งที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ในโบสถ์วัดสีหยัง
เมื่อวันที่ 9 กย.55
ครั้งนั้นท่านยังไม่เห็นผ้ายันต์ค่ะ เพราะผ้ายันต์อยู่ในกล่องวัตถุมงคล
เลยยังไม่ได้ถวายผ้ายันต์

และเมื่อครั้งไปเชียงใหม่ท่านเจ้าอาวาสวัดสีหยังท่านได้เดินทางไปร่วมงานที่วัดร้องวัวแดงเชียงใหม่และอธิษฐานจิตก่อนงานพิธียกองค์หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่จ.เชียงใหม่ในวันที่
4 ธ.ค.55
ท่านก็ได้กล่าวว่า เรื่องผ้ายันต์สามสมเด็จไว้
พูดถึงเรื่องผ้ายันต์ว่ามีทั้งสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตย และสมเด็จหลวงพ่อทวด

เมื่อวานจึงได้นำถวายให้กับทางวัด

และท่านก็ได้มอบหนังสือมาหนึ่งเล่มค่ะเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม
และบอกบุญมาว่าทางวัดกำลังจะอัญเชิญองค์สมเด็จองค์ปฐมมาไว้ที่วัดสีหยัง
เพื่อให้ญาติโยมได้กราบสักการะบูชา
และจะทำพิธีสรงน้ำในวันสงกรานต์ค่ะ...

 

ต่อเรื่องการทำบุญค่ะ....

การทำบุญในพระพุทธศาสนา มี 3 วิธี

-ให้ทาน ได้แก่ แบ่งปันทรัพย์สิ่งของที่เป็นประโยชน์ให้แก่บุคคลที่ควรได้รับทานนั้นโดยไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วชาวพุทธนิยมทำบุญด้วยการให้ร่วมบุญกับพระภิกษุ และผู้มีศีลเป็นประจำสม่ำเสมอ

-รักษาศีล คือ การสำรวม กาย วาจา ไม่ทำความเดือดร้อน ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งอย่างน้อย ต้องรักษาศีล 5 เป็นประทุกวัน

หากมีโอกาสในวันโกน วันพระหรือวันหยุดงานประจำสัปดาห์ ชาวพุทธนิยมรักษาศีล 8 เพื่อให้ได้บุญเพิ่มพิเศษขึ้นมาอีก

-เจริญภาวนา จะได้แก่การทำบุญด้วยการฝึกใจให้ผ่องใส เป็นสมาธิด้วยการศึกษาธรรมะและสวดมนต์ไหว้พระ เพื่อทำใจให้สงบ ปลอดโปร่ง แจ่มใสเป็นประจำ ก่อนนอนอย่างน้อย 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

เมื่อได้สร้างบุญเป็นประจำอย่างนี้แล้ว ชีวิตไม่มีวันตกต่ำ อนาคตจะมีแต่ความก้าวหน้า สิ่งใดที่คนปราถนาก็จะได้สิ่งนั้นมาโดยง่าย ด้วยอำนาจของบุญที่ทำมาดี ทั้ง 3 ประการ

การสร้างพระพุทธรูป ได้ยกใจของประชาชนและชาวโลกให้สูงขึ้น ให้พ้นจากกิเลสตัณหา ให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความคิดที่ดีจะทำให้โลกนี้สงบร่มเย็น กุศลในการสร้างพระพุทธรูป
-ตัวของผู้สร้างพระพุทธรูป มีจิตใจสูงส่งตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไปคือมีความใฝ่ดีเป็นพื้นฐานของใจตั้งแต่ชาตินี้เลย

-เนื่องจากเป็นผู้ยกใจ บุญนี้จึงส่งผลให้ต่อไปว่าจะเป็นที่เคารพกราบไหว้ในทุกถิ่นฐานไม่ใช่เฉพาะมนุษย์กราบไหว้เท่านั้น เทวดาก็มาไหว้ด้วย

-ผู้สร้างพระพุทธรูปจะละโลกไปนานเท่าไร มีผู้มากราบไหว้พระพุทธรูปที่เขาสร้างได้บุญที่สร้างพระก็ยังส่งผลให้เขาเป็นที่เคารพบูชาของบุคคลทั้งหลายในภพภูมิที่เขาไปเกิดตลอดไป

-จะเกิดกี่ภพกี่ชาติ นอกจากจะเป็นที่กราบไหว้ เป็นที่เคารพ หากว่าใจของเขาเกิดไปคิด พูด ทำ ชั่ว เป็นอกุศลจิต เพียงชั่ววูบ หรือมีเรื่องกระทบอะไรก็ตาม ที่ทำให้ใจขุ่นมัว เพียงระลึกถึงพระพุทธรูปที่คนสร้างไว้ อกุศลจิตทั้งหลาย บาปทั้งหลายก็จะหลุดออกจากใจของเขาได้โดยง่ายดาย

-จะเกิดกี่ภพกี่ชาติ ไม่ห่างจากพระพุทธศาสนา มีโอกาสใกล้ชิดพระศาสนาตลอดไปพระพุทธศาสนา จะเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่ไหน เขาก็จะไปเกิดอยู่ที่นั้น เมื่อถึงคราวปฏิบัติธรรมจะเข้าถึงพระธรรมกายได้โดยง่ายดาย

-ขณะที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฎฎสงสาร ทรัพย์สมบัติจะเกิดแต่เขาได้โดยง่าย โดยไม่ต้องทำมาหากินด้วยความยากลำบาก ค้าขาย รับราชการก็จะเจริญรุ่งเรืองโดยรวดเร็ซ เจริญทั้งทางโลก เจริญทั้งทางธรรม บรรลุผลนิพพานได้ง่าย เวลาใส่บาตรและจะอธิษบานหรือไม่อธิษฐานก็ได้บุญ โบราณท่านสอนให้เราอธิษฐานนั้นเป็นการตั้งเจตนาแน่วแน่ลงไป คนที่ทำอย่างนั้นเมื่อถึงคราวบุญส่งผลได้ผลตรงตามที่เราปราถนา เช่น เราเป็นคนที่ให้ทานถึงคราวส่งผลก็จะทำให้เราเป็นคนร่ำรวย ถ้าเราเป็นคนที่มีความเห็นผิด เป็นคนเจ้าโทสะ เมื่อคราวบุญส่งผลเราก็รวย แต่เราก็ยังเจ้าโทสะอยู่

ท่านสวอนให้อธิษฐานด้วยเมื่อทำบุญ เพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไว้ จะได้ไม่ถลำไปทางไม่ดีไม่งาม เช่น อธิษฐานว่าด้วยอำนาจทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ขอให้บุญกุศลนี้ส่งให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีโทสะ

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรางจัดให้การอธิษฐานเป็นบารมีอย่างหนึ่งในบารมี 10 ทิศ เรียกว่า
อธิษฐานบารมี การที่พระองค์มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้พระองค์มาด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน คือทรงจิตตั้งมั่นแล้วพยายามทำตามเส้นทางที่หวังไว้

การอธิษฐานคือการตั้งโครงการเป็นโครงการระยะยาวที่มีเป้าหมายเด่นชัด การอธิษฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการทำบุญทุกครั้ง

การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาลได้อานิสงส์ ร่างกายหลังตายแล้ว นักศึกษาแพทย์เอาศพไปศึกษาหาความรู้เรื่องโรคต่างๆ เพื่อหาทางรักษาคนไข้ คนอื่นๆ เจ้าของร่างกายจะได้บุญ ถ้าต้องการได้บุญมากๆ ต้องให้ขณะเป็นๆ คือยังมีชีวิตอยู่ จะได้บุญมหาศาล เพราะเหมือนกับให้ชีวิตเป็นทาน

การให้ชีวิตเป็นทาน หมายถึง การให้เลือด ให้เนื้อ ให้อวัยวะ เป็นทาน
การถวายสังฆทาน คือ การถวายทานแด่คณะสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงลงรูปใครรูปหนึ่งทำได้ 2 ลักษณะ

-ไปพบพระรูปรูปหนึ่ง แล้วตั้งใจกล่าวถวายเป็นสังฆทาน ให้ท่านนำไปถวายต่อแก่พระรูปอื่นด้วย ให้ท่านแบ่งปันกันเองในหมู่สงฆ์ ไม่เฉพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง

-การถวายสังฆทานได้บุญมากรองจากการนั่งสมาธิ เวลาเราไปทำบุญที่วัดเวลาถวายอาหารพระมรรคถายกจะกล่าวถวายสังฆทาน

"ทำบุญทานการกุศล
ขอทุกคนมีจิตคิดเลื่อมใส
พระพุทธองค์ท่านทรงนำทางไป
สุขกายใจสว่างเบาสบาย
สร้างความดีเอาไว้ในวันนี้
กายใจมีแต่สุขทุกข์นั้นหาย
อย่าลืมว่าวันหนึ่งเราต้องตาย
เตรียมบุญไปจิตมุ่งสู่พระนิพพาน"

วัฎฎะแห่งกรรมหลายชีวิต สายเสียแล้ว
โดย...ธ.ภัทรพล

ที่มาจาก "หนังสือย้อนรอยกรรม"
ฉบับพศจิกายน-7ธันวาคม 2555

 

ก่อนรอชมพระหลวงพ่อทวดจากเพื่อนสมาชิก

ขอเล่าเรื่องจากหนังสือ ย้อนร้อยกรรม ค่ะ
108 สยองขวัญ

โดย: ส. อติพโล

เผชิญผีหัวขาด:boo:

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตัวผมเองได้มีโอกาสบวชเป็นพระภิกษะใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์มานานหลายพรรษา ด้วยมีความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระพุทธศาสนา ตลอดถึงบวชทดแทนพระคุณบุพการี และมีความตั้งใจมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมวินัย ข้อวัตรปฏิบัติอย่างจริงใจ
ซึ่งนอกเหนือจากพระธรรมวินัยแล้ว ผมได้ศึกษาและฝึกฝนจิตด้วยวิปัสสนากรรมฐาน อีกทั้งยังได้ออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรตามแบบอย่างพระธุดงค์ ที่ออกเดินธุดงค์ช่วงออกพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรม เจริญภาวนาตามป่าตามเขา เพื่อค้นหาโมกจธรรมและมักจะได้เผชิญกับเหตุการณ์ชวนให้ตื่นตระหนกอยู่เป็นประจำ

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อยู่ในช่วงออกพรรษา ผมได้ออกจาริกธุดงค์เช่นเคย ซึ่งจะมักไปตามลำพัง โดยมุ่งหน้าเดินธุดงค์ไปทางเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังจากที่ได้ออกธุดงค์ไปหลายแห่งหลายที่มาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นก็ได้เดินไปถึงเขาค้อจวนใกล้ค่ำก็เลยจัดแจงหาที่เหมาะเพื่อบำเพ็ญภาวนาตรงบริเวณผลาญหินที่กว้างพอสมควรเห็นว่าเหมาะสมเงียบสงัดเป็นที่สัมปายยะ โดยด้านบนเป็นปากถ้ำขนาดใหญ่ หลังทำการกิจเรียบร้อยดีแล้วก็ได้เข้าไปในถ้ำปักกลดเสร็จก็เข้าไปนั่งสวดมนต์ทำวัตรเย็นแปลใช้เวลาไม่นาน ก็ได้พักผ่อนตามปกติภายในถ้ำนั้น

ครั้นพอตกช่วงกลางดึกสงัด ราวๆ ตี 1 คืนนั้น ก็ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักเสียงฝนตกกระหน่ำ จนได้ยินเสียงของฝนปากถ้ำเข้ามาชัดเจน ผมจึงได้ลุกขึ้นมานั่งกรรมฐาน และเห็นแสงเทีนนเล่มใหญ่ที่จุดเอาไว้ ปักอยู่ที่หน้ากลดบน ชะง่อนหินปากเหว ภายในถ้ำ สูงขึ้นไปแลเห็นปากถ้ำ บางครั้งมีแสงฟ้าแลบแปลบปลาบสว่างวาบลงมา ซึ่งบริเวณหน้าถ้ำมีต้นจันทน์ใหญ่อยู่ต้นหนึ่งกับต้นไทรใหญ่อีกต้นหนึ่ง ต้นไม่ใหญ่รับน้ำฝนและลมฝนที่พัดผ่านไหวพริ้วตลอดเวลา อากาศในถ้ำเย็นยะเยือกครั้นเมื่อเริ่มเข้ากรรมฐาน พอจิตสงบทันใด ! ก็บังเอิญเสียงหนึ่ง ก็บังเกิดเสียงหนึ่งเสมือนคนผลักก้อนหินจากปากถึ้ลงมายังกลด ที่กางอยู่เสียงครืนใหญ่ไถลงลงมาข้างกลด ผมจึงได้รวบรวมจิตใจให้สงบนิ่งไม่ยอมลืมตาดูในใจคิดว่า "เราได้มาบวชพระบวรศาสนาแล้วก็ขอยอมตายในผ้าเหลือง
หากเกิดอะไรขึ้นมา" ทำให้เกิดความกล้าขึ้น

 

สักพักหนึ่ง ก็มีเสียงคล้ายกับคนกระโดดลงมาแล้วไถลลื่น ได้ยินเสียงกิ่งไม้หักชัดเจน เสียงนั้นตกลงมาใกล้ๆ กับกลด แล้วก็ยังได้กลิ่นหอมของดอกแก้วและกลิ่นสาบสางของคนตายปะทะเข้าจมูก ด้วยความอยากรู้และสงสัยว่าเป็นอะไรผมจึงได้ลืมตาออกมาดูนอกกลด ด้วยความอยากรู้และสงสัยว่าเป็นอะไรผมจึงได้ลืมตาออกมาดูนอกกลด สายตาเพ่งมองผ่านแสงเทียนหน้ากลด แลเห็นร่างคนนั่งอยู่ไกลพอประมาณจากหน้าผาเป็นทางยาวลึกลงไปในเหว แสงจากเทียนพรรษาเล่มใหญ่ที่จุดอยู่มองเห็นภาพที่อยู่ออกไป ยิ่งเพ่งสายตาก็ยิ่งเห็นว่าภาพที่เห็นเป็นร่างของหญิงสาวชัดเจนขึ้น แต่ทว่า! อะไรกันนั้น! ร่างของหญิงสาวเห็นอยู่ไกลๆ นั้นส่วนหัวของเธอไม่มี โอ้! ผีหัวขาด โดยในจิตกล่าวก้องขึ้นมาว่า ใช่กับภาพที่เห็นเบื้องหน้า ผมตกตะลึงชั่วขณะ พยายามตั้งสติทำสมาธิให้มั่นคง แล้วก็แผ่เมตตาออกไปทันที

"หากบุญบารมีแต่อดีตชาติที่เราได้สั่งสมไว้ ขอผลบุญนั้นจงให้เจ้าของร่างที่เห็นอยู่เบื้องหน้าได้รับผลบุญอานิสงส์จากเราด้วยเถิดและขอให้ได้ไปผุดไปเกิด ณ บัดนี้ "
จากนั้นผมก็ได้นั่งหลับตาตั้งสมาธิไว้ให้มั่นคงในดวงจิต กำหนดจิตใหม่ หายใจเข้า-ออกกำหนด "พุทธ-โธ" สักพักก็ได้มีตัวต่อกับผึ้งโพรงหลายสิบตัว มาบินรอบๆ กลดส่งเสียงดังหึ่ง หึ่ง หึ่ง! โดยที่ตัวต่อตัวแรกบินมาชนกลดที่กางอยู่ จึงกำหนดจิตได้ในทันที ผมจึงได้หรี่เปลือกตาดูก็เห็นตัวต่อพากันบนมาตอมกลด โดยมีผึ้งโพรงบินเข้ามาสบทบด้วย

ตามปกติแล้ว ผึ้งโพรงจะออกหากินในช่วงตอนกลางวัน แต่นี่กลางคืนแล้ว ยังมีผึ้งโพรงและตัวต่อ มาบินรอบๆตัวกลดอยู่เลย เป็นที่อัศจรรย์ใจยิ่งนัก แล้วก็ยังมีผึ้งโพรงตัวหนึ่งบินมาถูกศีรษะของผมเข้าให้อีก กำหนดรู้ได้ชัด ไม่รู้ว่ามันหลุดเข้ามาในกลดได้อย่างไร?
เจ้าผึ้งนั้นบินวนเวียนเหมือนจะทำให้ตบ! ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ยอมตบ แล้วตั้งจิตอธิษาน เอามือยื่นออกไปเตะที่กลดแล้วกล่าวในใจว่า "หากท่านมจะมาทดสอบเรา ไม่ว่าจะเป็นเทวดาองค์ใด ขอให้ท่านนั้นได้รับผลบุญจากเรา" แล้วจึงกำหนดพุท-โธ เดินลมหายใจเข้าออกให้เป็นปกติ กำหนดรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่ให้ร่างกายเอนซ้าย เอนขวา หายเข้ารู้หายใจออกรู้ จนไม่รู้ว่าลมหายใจกระทบปลายจมูก แล้วเหล่าตัวต่อและฝึ้งโพรงก็พากันบินหายไปหมดสิ้น

 

ฟังข่าวใจหายอีกแล้ว ทหารที่รามัน จ.ยะลา
โดนระเบิดเสียชีวิต 5 นาย...

ขอดวงวิญญาณของทหารกล้าทุกท่านไปสู่สุขติ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=7LI-pC2dmyI"]?????????????????? - YouTube[/ame]
ขอบารมีหลวงพ่อทวดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทรงคุ้มครองพี่น้องประชาชน ตำรวจ-ทหาร และผู้ปฏิบัติหน้าที่ใน พื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดและทุกที่
มีความปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง