ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ธุดงค์ ****

    เดินด้วยขาตนเอง
    เดินเรื่อยๆ เดินไปทั่วประเทศ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ ไม่ละเมิดหรือก้าวก่ายกัน !!!

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ....หลังการประชุมที่เทวสภาเสร็จสิ้น ผลคือทุกเหตุการณ์ของโลกมนุษย์มีผลตามเดิม คือตามกฎแห่งกรรมใหม่ (กฎแห่งกรรมถูกเปลี่ยนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2553) ฝ่ายสัมมา-ฝ่ายมารยุติด้วยดี และมีมติเป็นเอกฉันท์ ตามข้อตกลงของ ฝ่ายเทพผู้รักษา-ฝ่ายสัมมาปฏิบัติ-ฝ่ายมารผู้ทำลาย-ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ไม่ละเมิดหรือก้าวก่ายกัน ในการรักษา-และทำลาย"ธรรมชาติทั้งภายนอก-ภายใน..ไม่มีการล้ำเส้นกัน สำคัญที่มนุษย์ทั้งหลายจะทำได้หรือไม่.เพื่อรักษาโลกมนุษย์-รักษาธรรม-รักษาธรรมชาติ....

    ..กฎเห่งกรรมใหม่ คือเจ้ากรรม-นายเวรของแต่ละคนจับมือกันกับพญามาร ร่วมกันทำลาย-คนตายหมู่-ไม่ค่อยมีตายเดี่ยว-ภัยธรรมชาติทำลายพร้อม ๆ กันในหลายพื้นที่ในเวลาเดียวกัน-ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่-ภัยจากน้ำมือมนุษย์มีมากขึ้นพอ ๆ กับภัยธรรมชาติ-รุนแรงมากขึ้น...

    เปลี่ยนกฏแห่งกรรมใหม่ เพราะ"ธรรมชาติเปลี่ยนไป-เปลี่ยนไปทั้งภายนอก-ภายใน..เหตุการณ์ของโลกมนุษย์มีผลตามเดิมคือ ภัยพิบัติธรรมชาติล้างมวลมนุษย์-สรรพสัตว์ ครั้งใหญ่และสำคัญ ไม่เลื่อนออกไป..มีขึ้นตามกำหนดเดิมคือ ปี 2558-2559-2560....เพื่อปรับสมดุลธรรมชาติ...เว้นคนที่ศีลดีพอ.(ธรรมชาติภายนอก-ภายใน)

    ..ก่อนหน้านั้นพญามารจะทำลายล้างมวลมนุษย์-สรรพสัตว์ ในปีนี้ 2555-ปี 2558 และปี 2560-และสุดท้ายปี 2580 มี 4 ช่วง ไม่เว้นไว้แม้แต่คนเดียว-ชีวิตเดียว ล้างหมด...และผลสรุปมีมติเป็นเอกฉันท์ มีผลตามเดิม คือ ปี 2560 เว้นคนที่ศีลดีพอ

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา กระทู้สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ

    เกษม สมาชิก

    ณ.เวลานี้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไป ด่าว่าใครเป็นฝ่ายมาร หรือใครเป็นฝ่ายเทพ อีกแล้วครับ เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ฝ่ายทำลายล้างเพื่อปรับความสมดุลของธรรมชาติ ก็ต้องทำตามหน้าที่ของเขาไป ฝ่ายฟื้นฟูและก่อร่างสร้างบ้านเมืองขึ้นมาใหม่ ก็ต้องทำตามหน้าที่ของเขาไป

    พวกเราในฐานะชาวโลก ก็ต้องมีหน้าที่ชำระล้างจิตใจของตนเองให้ใสสะอาด ด้วย ทาน ศีล ภาวนา ให้จิตใจปราศจากความเห็นแก่ตัว ปราศจากความเห็นแก่ได้ ปราศจากความโกรธเกลียดชิงชังในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หันกลับมามีความเมตตาปราณี ต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย จึงจะสมกับที่ได้มีโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้ครับ
     
  3. chatmongkon

    chatmongkon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +839
    "ตัวดำทะมึน"
    ปรากฎกายพร้อมกับสายฟ้า และ สายน้ำ
     
  4. สงสัยรู้

    สงสัยรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +58
    ขอบคุณท่านเกษมที่นำมาเผยแพร่เพิ่มขึ้นครับ ท่าทางผมจะมาช้ากว่าคนอื่นๆเข้าเยอะ น่าจะมีอะไรหลายๆอย่าง

    ขอบคุณคุณมณีส่องแสงด้วยครับ สำหรับการสรุปหลายๆอย่าง

    ท่าน chatmongkon เหมือนเคยเห็นท่านอยู่ในกระทู้ท่านฮั้วโต๋หรือเปล่าครับ คล้ายๆว่าท่านเคยสนทนากับคุณกระปุกกาที่บอกว่าเป็นมารด้วย จริงหรือไม่ครับ แล้วถ้าท่านเคยติดต่อโดยตรง ไม่ทราบท่านมีความเห็นเรื่องมารอย่างไรครับ เขามีลักษณะอย่างไร จริต อารมณ์อย่างไรครับ
     
  5. chatmongkon

    chatmongkon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +839
    ขอบคุณครับ
    ในกระทู้อ.ฮั้วโต๋ ผมเองก็ติดตามมาเรื่อยๆ
    ส่วนคุณกระปุกกา เป็นเพียงแค่การพูดคุย
    ผ่านทาง PM เท่านั้นเองครับ
    สำนวนการสนทนา เป็นลักษณะปกติทั่วๆไป
    ซึ่งภายหลังจากที่อ.ฮั้วโต๋เปิดเผยเรื่องมาร
    สำนวนของคุณกระปุกกาที่อยู่ในกระทู้
    ก็เปลี่ยนไปเป็นภาษาอีกแบบ
    เป็นภาษาคล้ายกับในยุคเมื่อสมัยก่อน

    คุณกระปุกกาให้ความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติมาก
    เพราะหน้าที่ของท่านคือการปรับสมดุล

    ผมได้สนทนากับคุณกระปุกกาไม่มากนัก
    และไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร มาจากไหน
    ท่านบอกแค่เพียงว่า ท่านเป็นมาร ครับ
     
  6. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    ในภาพคู่กันกับ มณีส่องแสงอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. สงสัยรู้

    สงสัยรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +58
    ขอบคุณครับ ผมเองก็ตามๆอ่านเอาจากในกระทู้นั้นแหละครับ ไม่ทราบเบื้องลึกยังไงเหมือนกัน ทราบแต่เพียงว่าเวลาที่ท่านกระปุกกาสอนอะไรในกระทู้เป็นอะไรที่ผมติดใจจริงๆครับ ไม่ทราบหรอกครับว่าถูก หรือผิดอย่างไรเพราะไม่มีความรู้ ความสามารถไปวิจารณ์ครับ แต่ที่ติดใจคือการมองอะไรแบบง่ายๆของเขา ที่บางทีมันน่าทึ่งน่ะครับ อ่านไปก็ทั้งสะดุ้งที่เหมือนเขาพูดมันเรื่องง่ายๆที่เรามองข้ามไปแต่ก็น่าสงสัยในทีเหมือนกันว่าเราสามารถคิดแบบนั้น ทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ

    แนวคิดในการรักษาธรรมชาตินี้น่าสนใจเหมือนกัน แต่ผมไม่เห็นมากนักในกระทู้ ส่วนมากมีเรื่องปาฎิหารย์ หรือเรื่องอะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้มากกว่า นี้คือเหตุผลที่ในตอนแรกไม่ค่อยใสใจเรื่องมาร แม้จะติดใจวิธีการคิดของเขาก็เถอะ

    คุณ chatmongkon ได้คุยกันมีเน้นไปที่เรื่องธรรมชาติเยอะเหรอครับ แล้วเขาเองจ้องทำลายทุกอย่างให้หายเลยเหรอครับ

    ขอบคุณคุณ chatmongkon มากครับที่เผยแพร่ข้อมูล

    ป.ล.น่าสนใจน่ะครับ ทำไมบอกว่าตัวเป็นมาร ความจริงบอกว่าเป็นเทพ เป็นพระ คนน่าจะฟังกันมากกว่าอีก (ความเห็นส่วนตัวครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** แก้ไข เรื่องศาสนาและชาติบ้านเมือง ****

    รหัส... ลูกช่วยพ่อ = หนทาง
    ลูกช่วยพ่อ แล้วให้ลูกของลูก ช่วยพ่ออีกที

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** แก้ไข เรื่องศาสนาและชาติบ้านเมือง ****

    รหัส... ลูกช่วยพ่อ = หนทาง
    ลูกช่วยพ่อ แล้วให้ลูกของลูก ช่วยพ่ออีกที

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    สนุกดี...

    มาตามอ่านคุณมณี....แต่เธอ...ไปแล้ว...สนุกดี...
    มาเจอ...คุณ...สักคน...ที่สงสัยเรื่องมาร....
    ว่าจะไม่ตอบ...แต่...กลางหน้าอกเจ็บ...
    ถ้าตอบแล้วหายเจ็บ...คงจะดี...เขียนให้อ่านเล่น ๆ สักหน่อยแล้วกัน...สนุกดี

    เรา...เคยวิ่งหนีมาร...
    เรา...เคยบอกคนอื่น ๆ ถึงมารนั้น...
    เรา...เคยเห็นคนอื่น ๆ ที่รู้ถึงสิ่งที่เราบอก...ไม่เชื่อ...
    เรา...เห็นเค้าประกาศตนเอง...ว่าคือมาร...คนอื่นก็เชื่อ...
    สนุกดี....

    วันนี้...เรา...ไม่กลัวมาร...
    วันนี้...เรา...ไม่หนีมาร...
    วันนี้...เรา...ไม่รังเกียจมาร...
    วันนี้...เรา...ไม่ลังเลสงสัย...ในตัวมาร...
    สนุกดี...

    ผ่านประัสบการณ์ชีวิต...ช่วงหนึ่ง...ที่ย้ิอนมองแล้ว..สนุกดี..

    มาร...มีในตัวคนทุกคนอยู่แล้ว...จะหนีทำไม จะรังเกียจทำไม จะกลัวทำไม จริงมัย..
    ใครที่ยอมให้จิตมารควบคุมตัวเองได้...ตอนนั้น เค้าก็เป็นมาร...
    แต่เมื่อใดที่จิตบุญของเค้ากลับมาได้...ตอนนั้น เค้าก็เป็นเทพ...
    ทุกคน..เหมือน...ไม่เห็นต่าง...
    อยากเป็น...ไม่อยากเป็น...ก็ไม่ต่างกัน...
    อยู่ที่ จิต-ใจ...ใครจะบริสุทธิ์...เห็นสิ่งนั้นได้ตรง...ไม่เอียง....

    ชอบมารมัย...แล้วทำไม ต้องชอบ ไม่ชอบ
    เค้าแค่ทำหน้าที่...ของเค้า...
    จริง ๆ เค้าแค่ทดสอบ..จิต..ญาณ..คัด..แยก.."ผู้ใดถึงพร้อม"....
    เค้าสนุก...เมื่อเห็นเรา "หลง"...
    หลงกลัว หลงเกรง หลงเหลิง หลงเพลิด หลงไหลบ้าอำนาจ...สนุกดี...
    ยิ่งหลงยึดติดกับ...วจีสวย สวย คำเยินยอหรู...ยิ่งสนุกดี...
    ความกลัว...ใช้..ควบคุมคน จิตอ่อน...(ไม่ถึงขั้น)...ได้สนุกดี...
    แต่บางคนไม่กลัว...เพราะโง่...ปากกล้า...แต่จิตเละ...(ไม่ถึงขั้น)...สนุกดี...

    เลือกเอา...จิตใครก็จิตใคร...
    ปากคนเป็นล้าน..ยืนยันว่า..คุณใช่...ถ้ามันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่...เค้าดูกันที่จิต...
    จิตมาร...จิตเทพ...จิตจิปาถะ...คุณค่าเท่ากัน...
    แย-แส สิ่งใด....มีสิ่งใดให้ แย-แส...

    ดูจิตตนให้ถึงทั่วพร้อม...มีคุณค่ายิ่ง...
    ดีไม่ติด...เลวไม่ติด...มารไม่ติด...เทพไม่ติด...พรหมไม่ติด...
    สุดท้าย...ว่างไปในนภาอากาศ...เป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง...
    รวมใจไว้ใน ธรรม (มะ ชาด)....
    น้อมจิต...พิราบ กราบ แทบ บาท เบื้อง บน...จิต..จักรวาล..ว่าง..เปล่า...

    ต้องสนใจสิ่งใด...

    ธรรมชาติอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว....
    ใช้ใจมองสิ...แล้วคุณจะเห็นความสวยงาม...
    ความรักจะบังเกิดในใจ...รอยยิ้มจะผลิบาน...
    ต่อให้มารยืนตรงหน้า...คุณก็ "รัก"...เหมือนเดิม...
    แค่นั้น...
    ความจริงอยู่ตรงหน้า...รอบกายคุณ..จะสนใจในสิ่งอื่นทำไมกัีน

    มาร/เทพ/พรหม...ไม่สำคัญ...

    จากคนที่เคย....มาร.....
     
  11. สงสัยรู้

    สงสัยรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +58
    ขอบคุณครับ ที่เล่าสู่กันฟัง....

    ชอบที่สุดกับคำว่า "ธรรมชาติอยู่ตรงหน้าแล้ว ใช่ใจมอง" นี้แหละครับ
    เอาจริงๆก็เพราะสิ่งนี้แหละครับ ที่ทำให้ตัวเองเป็นเจ้าหนูจำไหมอยู่แบบนี้ เพราะธรรมชาติตรงหน้ามันเกินความเข้าใจ จริงต้องออกมาเก็บเกี่ยวความเข้าใจกับคนรอบๆข้างแบบนี้แหละครับ

    เกินความเข้าใจที่ว่ามีคนประกาศว่าตัวเองเป็นมารด้วย ...

    เกินความเข้าใจได้ในฐานะที่เติบโตมากับพระพุทธศาสนาตั้งแต่เด็กว่ามีคนยอมรับว่าตัวเองเป็นมาร

    เกินความเข้าใจว่าเขามีสภาวะจิตยังไงแน่...

    ไม่เข้าใจ...เคยเห็นคนโดนจิตที่เต็มด้วยกิเลส โดนจิตมารควบคุมโดยไม่รู้ตัว
    แต่ไม่เคยเห็นหรือได้ยินในชีวิตว่ามีคนที่รู้ตัวว่าตัวเองมีกิเลส และพร้อมยอมรับให้มันควบคุมเข้าด้วย

    ยิ่งไม่เข้าใจในธรรมชาติเข้าไปใหญ่ ... เมื่อเห็นว่าคนที่เรานึกว่าเขาโดนกิเลสควบคุมกลับเข้าใจมัน และใช้มันได้ดีกว่าเราที่พยายามจัดการกิเลสเสียอีก..

    ไม่เข้าใจที่สุดคือ การที่ยืดอกยอมรับว่าตัวเองเลว เป็นมาร ... มีด้วยเหรอคนที่ภูมิใจในความเลว และเป็นมารของตัวเอง

    เพราะธรรมชาติที่แสดงออกแบบนี้เลยสงสัย เลยไม่เข้าใจ จนต้องหาความรู้เพิ่ม หาความเข้าใจเพิ่ม...

    คนที่ไม่รู้ตัวว่ามีกิเลสคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ผมว่าไม่แปลกมีมากมาย คนที่รู้ว่ามีกิเลสพยายามจัดการมันก็มีอยู่ ที่รู้ว่ามีกิเลสวางเฉยต่อมันด้วยความเข้าใจ จนมันหายไปก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ไอ้ประเภทเข้าใจในกิเลส อยู่กับมันด้วยความภูมิใจนี้ไม่เคยเห็น และไม่เคยฝันว่ามีแบบนี้ด้วย เป็นอะไรที่ไม่เข้าใจ...

    ป.ล.ความรู้สึกเหล่านี้ค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากมีมาร มาสนทนากับเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งในกระทู้ท่านฮั้วโต๋... การสนทนาว่าด้วยเรื่องธรรมชาติที่แตกต่างของมนุษย์เป็นอะไรที่ผมรับไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่บอกว่าเป็นมาร เข้าใจธรรมชาติของคนมากขนาดนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โลกุตตระธรรม ****

    หนทางหลุดพ้น...คือ ไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เอาดีเอาชั่ว คือ นิสัย ****

    เป็นนิสัยสันดานสัตว์โลก
    เมื่อเห็นก็อยากได้ ก็็ปพยายามไปเอามาครอบครอง
    คนอื่นเห็นบ้างก็อยากได้บ้าง พอของมีน้อย ก็แกร่งแย่งกัน
    ใช้ความได้เปรียบไปแย่งเขามา พอไม่พอใจ ก้็ช้กำลังกัน
    เบียดเบียน ทำร้าย ทำลาย ใส่ร้ายป้าสี สาดกันเลอะเทอะไปหมด
    พอเสียเปรียบสู้ไม่ได้ ก็ถอย ไปพึ่งอวิชชา ตัวกระทำชั่ว แบบพวกภูติผีปีศาจ
    เอาพลังงานตัวกระทำชั่ว เอาพลังงานตัวกระทำดี ที่มองไม่เห็นตัวมาสู้กัน
    กลายเป็นแบ่งแยกพวกกัน ทั้งที่เดิมก็ดีบริสุทธิ์ด้วยกันทุกคน ทุกดวงจิตวิญญาณ
    แล้วก็เรียกกันไปว่า เทพ มาร พวกสวรรค์ พวกมาจากนรก
    แท้ที่จริง อยู่บนโลกด้วยกันทั้งสิ้น
    คือ นิสัยของสัตว์โลก

    พระพุทธจึงไม่เข้าข้างใคร ไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว
    ถือสัจะ เราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  14. chatmongkon

    chatmongkon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +839
    ความจริงแล้ว ผมอยากจะขออนุญาตจากคุณกระปุกกา
    ก่อนที่จะนำเรื่องราวที่คุณกระปุกกาสื่อสารไว้มาแบ่งปันกัน
    แต่ตอนนี้ผมติดต่อกับคุณกระปุกกาไม่ได้แล้ว
    จึงขออนุญาตถือวิสาสะเล่าด้วยตนเอง
    - หากทำให้คุณกระปุกกาไม่สบายใจ ผมก็ขออภัย
    และโปรดอโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ -
    ........................................................

    คุณกระปุกการับภาระหน้าที่ในการปรับสมดุลธรรมชาติครับ
    และเข้าใจว่ายังมีอีกหลายๆท่านที่ได้รับภาระหน้าที่นี้

    ปกติแล้ว หากธรรมชาติในพื้นที่ใดถูกทำลายไม่มาก
    ธรรมชาติก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยใช้เวลาไม่กี่ปี
    แต่ที่ผ่านมา เราทำลายธรรมชาติ จนธรรมชาติเสียสมดุลไปมาก
    ฝ่ายที่ดูแล ได้ให้โอกาสเราในการแก้ไขมาหลายต่อหลายครั้ง
    ธรรมชาติเองก็ส่งสัญญาณเตือนเราด้วยภัยพิบัติมาตลอด
    แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจ
    ยังปล่อยให้ธรรมชาติถูกทำลายไปเรื่อยๆ

    เมื่อใดที่ธรรมชาติไม่สามารถปรับสมดุลได้ทันแล้ว
    ธรรมชาติก็จะเปลี่ยนไปใช้การ "ล้าง" ด้วยภัยใหญ่แทน
    แต่ภัยใหญ่จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีหลายปัจจัยเป็นองค์ประกอบ
    ซึ่งคุณกระปุกกา ก็จะเป็นผู้ที่ "เร่ง" ให้กระบวนการนี้สัมฤทธิ์ผล
    โดยอาศัยวิธีการหลายๆวิธี บางครั้งก็อาศัยสิ่งที่เราเรียกกันว่า อภิญญา
    แต่ที่ชอบและชำนาญมากที่สุดคือการใช้ "คน"
    เล่นกับกิเลส ความโลภของ "คน"
    ให้ "คน" ไปทำลายธรรมชาติให้มากขึ้น จนทุกอย่างพัง
    เมื่อพังหมดแล้ว ธรรมชาติก็จะก่อให้เกิดภัยใหญ่ตามมาเอง

    (พื้นที่ใดมีผู้ที่มีศีลมีธรรมอยู่กันมาก
    พื้นที่นั้นจะไม่ค่อยมีความโลภ กิเลสจะเหลือน้อย
    เมื่อกิเลสครอบงำใจน้อยลง การกระทำทั้งหลายอันเกิดจากความเห็นแก่ตัว
    ที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติก็จะน้อยลง ธรรมชาติก็จะถูกทำลายน้อยลงไปด้วย
    ผมคิดว่านี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น
    ว่าเหตุใดครูบาอาจารย์จึงต้องย้ำกับพวกเรามาตลอด ว่าให้ตั้งอยู่ในความดี
    เมื่อครูบาอาจารย์ท่านทราบล่วงหน้าว่าภัยใหญ่มีวี่แววกำลังจะเกิด)

    คุณกระปุกกาไม่ได้กังวลใจหรอกครับว่าการ "ล้าง" ด้วยภัยใหญ่
    จะส่งผลกระทบเพียงใดต่อสิ่งมีชีวิต
    หน้าที่ของท่านคือดูแลธรรมชาติให้เป็นธรรมชาติ
    เมื่อธรรมชาติเสียหาย ท่านก็ต้องทำให้สมบูรณ์ดังเดิม เท่านั้นเอง
    ส่วนสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไร นั่นเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม
    ยกเว้นเสียแต่มีผู้ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่ามนุษย์สามารถดูแลธรรมชาติได้
    เมื่อนั้น การ "ล้าง" ก็จะเปลี่ยนเป็นการ "ปรับธาตุ" แทนครับ

    ทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่คุณมณีส่องแสงเอ่ยถึงก็เป็นไปได้ครับ
     
  15. สงสัยรู้

    สงสัยรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +58
    น่าสนใจมากครับ... ท่าน chatmongkon เคยถามคุณกระปุกกาไหมครับ ว่าไอ้การใช้คนของเขานี้ทำแบบใด... แบบใช้จิตดลใจคนแบบนั้นเหรอครับหรือวิธีการอื่นๆ ผมว่าจุดนี้เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญมากที่เดียว ยิ่งถ้าเขาบอกว่าวิธีที่เขาชอบสุดคือให้คนปรับธรรมชาติเอง ให้กิเลสเร่งการเกิดภัยใหญ่ อันนี้มันเกี่ยวเนื่องยังไงครับ

    ความจริงผมก็สงสัยมานานละแต่ยังไม่เคยได้คำตอบชัดๆสักทีว่ากิเลส ความชั่วมันทำให้เกิดภัยยังไง อย่าบอกว่าพลังงานด้านลบน่ะครับ ผมว่ามันเลื่อนลอยไปพิสูจน์ไม่ได้ ... ถ้าคุณกระปุกกาเป็นตัวเชื่อมตรงนี้จริงๆ ผมก็อยากทราบครับ ว่ากิเลส... เกี่ยวกับภัยยังไง

    คุณ chatmongkon พอมี idea หรือได้ถามคุณกระปุกกาไหมครับ
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ทางพ้นทุกข์ ****

    ไม่ตกเป็นทาสผู้อื่นด้วยประการทั้งปวง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวอย่างชาวโลก ****

    ปัจจุบัน...
    ยังไม่มีประเทศใดในโลก นำผู้คนในชาติด้วยสัจจะ
    ถ้าไทยทำได้ ก็จะได้เป็นผู้นำของโลก
    นำในสิ่งที่ดี นำให้เกิดสันติธรรมขึ้นในโลก
    ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของโลก
    เมื่อมีสิ่งดีงาม มีคุณธรรมเกิดขึ้นเป็นวัฒนธรรม
    ดอกบัวก็คลี่แผ่ขยายกางออกไป
    หมู่แมลงก็เข้ามาเก็บเกี่ยวน้ำหวาน
    คนชาติต่างๆจะเดินทางเข้ามา
    มาเรียนรู้จากไทย มาเรียนภาษาไทย
    ชาติเป็นกลาง ภาษาจึงเป็นกลางเช่นกัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  18. chatmongkon

    chatmongkon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +839
    เท่าที่คุณกระปุกกายกตัวอย่าง
    คุณกระปุกกาใช้กิเลสของมนุษย์ให้เป็นประโยชน์
    เป็นตรรกะง่ายๆที่เราก็พอจะเข้าใจ ไม่ได้ใช้พลังเหนือธรรมชาติ
    เช่น มีคนอยากได้เงินมากๆ แล้วก็มีที่ดินที่หน้าดินเริ่มเสื่อม พังทลาย
    คุณกระปุกกาก็เสนอให้ปลูกต้นยูคาลิปตัส ซึ่งให้ค่าตอบแทนดี
    แต่มันกลับยิ่งทำให้หน้าดินพังทลายมากยิ่งขึ้น
    เมื่อหน้าดินพัง ดินเสื่อมโทรม ฝนตก น้ำมา น้ำก็ท่วม กวาดเอาไปหมดจนโล่ง
    แล้วก็รอเวลาให้ดินฟื้นฟูตัวเอง
    หรือเมื่อคุณกระปุกกาต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
    ต้องการให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และ คาร์บอนมอนออกไซด์มากๆ
    เพื่อทำลายชั้น ozone
    คุณกระปุกกาก็อาจจะ...
    "เสนอ campaign ให้กับทางภาคเอกชนบางแห่ง
    ที่เขาทำหน้าที่ทำลายขยะไปเสนอกับรัฐบาลสักแห่งหนึ่ง
    ที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบว่า เราจะรับผิดชอบขยะที่ล้นเมืองของคุณให้
    แต่คุณต้องให้เราเผาขยะทิ้งนะ แต่ไม่ต้องห่วง เป็นการเผาครั้งเดียวเท่านั้น
    หลังจากนั้นเราจะใช้วิธีเป็นมิตรกับธรรมชาติคือ recycle
    เหมือนเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้ประเทศคุณเลย
    ราคาไม่แพง แถมรัฐบาลได้หน้า คุณเอาไหม? ถ้าเอาก็เริ่มเผาเลย แน่นอนครับ เผายังไงมันก็ไม่ได้สารพิษมากมายหรอก
    แต่ถ้าสมมติมันพอดีล่ะครับ เช่น
    สารพิษที่จะทำลายโลกได้มันต้อง 100 ส่วน ปัจจุบันมีแล้ว 99 ส่วน
    แล้วพอดีการเผานั้นมันเพิ่มได้ 1 ส่วนในวันนั้นพอดี
    คิดว่าชายคนที่นำเสนอแผนนี้ต้องรับผิดชอบไหมครับ
    เขารับผิดชอบต่อการเกิดภัยธรรมชาติหรือเปล่า
    หรือมันก็แค่บังเอิญซวย..."

    ส่วนวิธีการอื่นๆ ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ

    แต่คุณกระปุกกาก็ไม่ได้จะเอาแต่ทำลายเสียอย่างเดียวนะครับ
    จุดใดที่ช่วยกันดูแล พอจะฟื้นฟูด้วยตนเองให้ดีได้
    คุณกระปุกกาก็จะสนับสนุนให้ช่วยกันดูแลเช่นกัน
     
  19. สงสัยรู้

    สงสัยรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +58
    พอเข้าใจแล้วครับ ว่าที่คุณกระปุกกาใช้คน ใช้ยังไง.... ดูเหมือนไม่น่าจะทำได้ แต่ถ้าเขาสามารถกระตุ้นได้ถูกจุด ล่อกิเลสได้ถูกตัวก็คงไม่ยากที่จะทำในคนหมู่มาก.... เป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจครับ แต่ก็น่ากังวลเช่นกัน

    ขอบคุณคุณ chatmongkon ที่ให้ความกระจ่างครับ ผมคงต้องค่อยๆหาเวลาทบทวนและทำความเข้าใจบางสิ่งมากขึ้น ขอบคุณครับ
     
  20. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    ความจริงมันเจ็บปวด..........มากๆๆๆๆๆ
    เพราะมันทำลายศรัทธาที่เราเชื่อ......ที่เรามี
    ไก่กับไข่ เกิดพร้อมกันครับ คนที่รู้จริงคงอมยิ้ม
    จะว่าไปสิ่งที่ผมรู้มาบ้ากว่าเนื้อหานิทานที่คุณมณีส่องแสงเล่ามาหลายเท่า แต่เล่าไม่ใด้มันไม่ใด้ต้องห้ามหรือความลับจักรวาลอะไรหรอก แต่มันสวนทางความเชื่อชาวพุทธอย่างกลับหัวคว่ำคะมำหงาย อาจถูกตื้บคาเวป อีกอย่างคือไม่มีคนยอมรับและพยายามเข้าใจ ทั้งที่เรื่องมันเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนเหมือนของท่านอื่นๆ
    อยากบอกว่าอะไรที่มันดูมีแบบแผนหรือเหมือนละครดราม่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่รูปแบบให้เราทำให้เวลาหมดเปลืองไปเท่านั้น
    คนยุคนี้ไม่มีกำลังพอที่จะทำ(กำลังไม่พอต่างจากไม่รู้วิธีนะครับ ส่วนสาเหตุก็ต้องไปหาเอาเอง)
    มารมันไม่ทำลายคนมากๆด้วยภัยพิบัติหรอกครับ เพราะมันเพาะเลี้ยงเราไว้
    ตรงกันข้ามหากเรากำจัดมันหมด เรานั่นแหละจะตายเพราะขาดภาคผู้เลี้ยง ภัยพิบัติต่างๆจะมาตอนนั้น ถ้าใครมาพูดว่าเป็นผู้มาล้างโลกอันนี้จึงไม่จริงอย่างยิ่ง เพราะจะล้างใด้เปลี่ยนยุคใด้ต้องข้ามศพมารไปก่อน
    ตั้งแต่ตั้งโลกมา ยังไม่มีใครชนะมาร ไม่มีใครเคยเห็นจะจะว่ามีมาร ไม่รุ้ว่ามันอยู่ที่ไหน เลยยิ่งสงสัยว่ามันมีหรือไม่มีกันแน่ เลยไม่รู้จะสู้กะสิ่งไม่มียังไง แล้วจะมีใครชนะ......
    ยิ่งยุคนี้เชื่อกันมากว่ามารอยู่ในใจก็จบเห่เลย
    ทำสิ่งที่เชื่อกันไปเถิด มันง่ายดี ดูดราม่าดี ลำบากพากเพียรสักวันจะพบทางสว่าง ศรีอาริยะ สบายใจดีก็ทำกันไป
    จริงๆไม่คิดจะแผยแพร่อะไร แต่เห็นเวปนี้คนแยอะดีมีพวกชอบพัฒนาจิต เผื่อมีคนมีของเก่าๆจะใด้มีไอเดียต่อทางกันไป
    ถ้ามีพวกคิดจะปราบมาร กำจัดมาร พวกนี้แหละคือพวกที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ คือบทสรุปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...