การถูกฆ่าข่มขืนเป็นเรื่องกฎแห่งกรรมหรือเรื่องกฎหมาย(อ่อน)??

เพื่อนของแฟนผม เขาเป็นคนธรรมะธรรมโม ทำไมต้องมาจบชีวิตแบบนี้ด้วย อยากรู้นะครับ เป็นกฎของกรรมหรือกฎหมายบ้านเรามันออ่นนะ?? ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยครับ

 

กฎแห่งกรรม

 

เป็นกฎแห่งกรรมที่ทำและมีต่อกันมา ถึงเวลามาบรรจบกันก็ชดใช้กันไป
ทางกฎหมายก็ส่วนของทางโลก..ว่าไปตามความจริง(ที่เห็น) อาจสอดแทรกเหตุผลทางคดีที่มีผลให้โทษทางโลกลดหย่อนไปตามการพิพากษา

แต่เพื่อนของแฟนจขกท.ก็เหมือนจะรู้ตัว(ล่วงหน้า)..หรือไม่รู้ อาจเป็นสัญญาที่ติดมา..เธอจึงได้สนใจในพระธรรมในชาตินี้ จิตวิญญาณของเธอคงไม่คิดอาฆาตพยาบาทคู่กรณี..เพราะเป็นการชดใช้และอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

ด้วยพลังของพุทธานุภาพ..ธรรมานุภาพ..สังฆานุภาพขอให้ดวงจิตวิญญาณเธอไปสู่ภพภูมิที่ดีหมดซึ่งความพยาบาท..จองเวรต่อกัน สาธุ

 

ไม่มีใครหลบหลีกหนีกรรมที่ตนทำไว้ได้หรอกครับ.. แม้พระภิกษุณีอุบลวรรณาเถรี เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีฤทธิ์ ผู้เป็นพระอรหันต์ยังถูกชายใจชั่วข่มขืน..
..

เรื่องโดยย่อ..


เมื่อพระเถรีสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เที่ยวจาริกไปยังชนบทต่าง ๆ แล้วกลับมาพัก
ที่ป่าอันธวัน สมัยนั้นพระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงบัญญัติห้ามภิกษุณีอยู่ในป่าเพียงลำพัง ประชา
ชนได้ช่วยกันปลูกกระท่อมไว้ในป่าพร้อมทั้งเตียงตั่งกั้นม่านแล้วถวายเป็นที่พักแก่
พระเถรีนั้น

บวชแล้วยังถูกข่มขืน
ฝ่ายนันทมาณพ ผู้เป็นลูกชายของลุงของพระเถรีนั้น มีจิตหลงรักนางตั้งแต่ยังไม่บวชเมื่อ
ทราบข่าวว่าพระเถรีมาพักที่ป่าอันธวันใกล้เมืองสาวัตถี จึงได้ถือโอกาสขณะที่พระเถรีเข้าไป
บิณฑบาตในเมืองสาวัตถีนั้น ได้เข้าไปในกระท่อมหลบซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง เมื่อพระเถรีกลับมา
แล้ว เข้าไปในกระท่อมปิดประตูแล้วนั่งลงบนเตียง ขณะที่สายตายังไม่ปรับเข้ากับความมืดใน
กระท่อม นันทมาณพก็ออกมาจากใต้เตียงตรงเข้าปลุกปล้ำข่มขืนพระเถรี ถึงแม้พระเถรีจะร้อง
ห้ามว่า:-
“เจ้าคนพาล เจ้าอย่าพินาศฉิบหายเลย เจ้าคนพาล เจ้าอย่าพินาศฉิบหายเลย”
นันทมาณพ ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ได้ทำการข่มขืนพระเถรีสมปรารถนาแล้วก็หลีกหนีไป พอ
เขาหลบหนีไปได้ไม่ไกล แผ่นดินใหญ่ก็มีอาการประหนึ่งว่าไม่สามารถจะรองรับน้ำหนักของเขา
เอาไว้ได้ จึงอ่อนตัวยุบลงแล้วนันทมาณพก็จมดิ่งลงในแผ่นดิน ไปเกิดในอเวจีมหานรก
ฝ่ายพระอุบลวรรณาเถรี ก็มิได้ปิดบังเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้บอกแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นกับตน
นั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลาย ต่อจากนั้นเรื่องราวของพระเถรีก็ทราบถึงพระบรมศาสดา พระพุทธองค์
ได้ตรัสพระคาถาภาษิตว่า:-
“คนพาล ย่อมร่าเริงยินดีในบาปกรรมลามกที่ตนกระทำ
ประดุจว่าดื่มน้ำผึ้งที่มีรสหวาน
จนกว่าบาปกรรมนั้นจะให้ผล
จึงจะได้ประสบกับความทุกข์ เพราะกรรมนั้น”

http://www.84000.org/one/2/03.html

ส่วนกฏหมายนั้น แม้จะหนักกว่านี้ก็ไม่อาจช่วยให้กรณีเช่นนี้หมดไปได้ เพราะกิเลสตัณหาในใจปุถุชน ไม่อาจถูกกฏหมายใดๆในโลกระงับหรือกำจัดออกไปได้ นอกจากตนเองจะระงับขัดเกลาตนเองด้วยศีลและภาวนาแล้ว ไม่มีทางอื่นเลย..

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ขออุทิศกุศลผลบุญมีสังฆทานที่ข้าพเจ้าทำไว้ด้วยดีแล้วแก่เพื่อนผู้วายชนม์...ขอให้ท่านรับรู้และอนุโมทนารับเพื่อความสำเร็จในสิ่งประสงค์ทุกประการเทอญ..

 

บางทีมันก็น่าคิดนะครับสำหรับกรณีนี้ว่า มันเป็นกรรมเก่า (เพราะเคยทำมาก่อน ตอนนี้ถึงได้โดนทำบ้าง) หรือเป็นกรรมใหม่ที่จะสร้างเป็นวงจรใหม่ต่อไปไม่สิ้นสุด

ผมเชื่อว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีจริง เพราะมันคือกฎของธรรมชาติ เป็นพลังงานสะท้อนกลับ ทำอะไรไว้ได้อย่างนั้น แต่ที่ผมรู้สึกอนาถในสังคมไทยคือ หลายครั้งเวลาที่กฎหมายจัดการคนเลวแบบนี้ไม่ได้ เราก็มักจะบอกว่ามันเป็นกรรมเก่า คืออะไรก็ยกกรรมเก่ามาอ้าง คนพูดน่ะรู้กรรมตัวเองหรือเปล่ายังไม่รู้เลยครับ

ผมไม่ได้บอกว่าไม่ควรเชื่อเรื่องกรรม แต่สังคมไทยควรจะพัฒนาได้แล้ว ควรที่จะลงมือจัดการอย่างจริงจัง จะด้วยกฎหมายหรือกำลังส่วนตัวหรือศาลเตี้ย ก็ควรทำครับ เพราะมีคนจำนวนมากที่คิดว่ามันเป็นเรื่องของกรรมให้ปล่อยผ่านไป คนชั่วจำนวนหนึ่ง (ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ) จึงได้ใจที่มีคนงมงายกันเยอะขนาดนี้ จึงพากันทำชั่ว จับได้แป๊ป ๆ ก็ปล่อย แล้วก็วนทำผิดอยู่ซ้ำซาก ทำไมจะต้องมีคนดีจำนวนมากที่จะต้องกลายเป็น "วงจรกรรมชั่วใหม่" ล่ะครับ

เวลามีปัญหาฆ่าข่มขืน ก็ตัดตรงนั้นทิ้งเลย หรือไม่ก็ฉีดยาให้มันฝ่อไปเลย หรือประหารชีวิตไปเลยโดยไม่ต้องอุทธรณ์ลดหย่อนโทษครับ ความเด็ดขาดในการลงโทษขนาดนี้ไม่ทำให้ปัญหามันหมดไปได้หรอกครับ แต่มันจะลดลงไปได้แน่นอน ซึ่งก็จะมีคนดีคนปกติจำนวนนึงที่ไม่ต้องเป็นเหยื่อของคำว่า "กรรมเก่าเค้าทำมา" อีกต่อไปครับ

 

ขอโมทนาทุกความคิดเห็นครับ ผมก็เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม แต่ก็มีความรู้สึกคล้ายๆ กับคุณปลาแมวนะครับ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องกฎหมายหรือไม่นะ เช่น ประเทศสิงคโปร์ ประชาชนเขาไม่มีกรรมแบบนี้หรือเปล่า ไม่ค่อยเห็นมีการฆ่าข่มขืน เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเขาหรือเปล่า เปรียบเทียบกับประเทศเราอะ ความเด็ดขาดไม่มีในด้านกฎหมาย ฆ่าข่มขืน ตัดสินจำคุก 20 ปี สารภาพ ลดกึ่งนึง 10 ปี ติดจริง 5 ปี ถึงปะ ผิดถูกอย่างไรขออภัยครับ สงสารครอบครัวน้องเขามากๆ

 

ผู้ทีกระทำชำเราข่มขืนเขา เป็นการที่ไม่ได้ทำกุศลกรรม แต่กลับไปทำอกุศลกรรมอีก เป็นการเริ่มภพภูมิที่น่าเวทนา จองเวรจองกรรมกันไม่รู้จักจบสิ้น ไม่มีศาสนาอยู่ในหัวจิตหัวใจ เป็นสัตว์โลกที่น่าสงสาร ก็เลยต้องอยู่ในวังวนนี้ต่อไปๆๆๆๆ

 

เพิ่งได้มีโอกาสไปวัดหลวงพ่อสดมา เจอพระ(ไม่ทราบชื่อ) ท่านได้อธิบายเรื่องของศีล ๕ และที่ตรงกับัวข้อกระทู้ เลยขออนูญาตินำธรรมของท่านมาเผยแพร่โดยย่อ

ตัวอย่างในหัวข้อของการผิดศีล การที่เราโดนปล้น โดยโขมย เพราะเราเคยผิดศีลข้อที่ ๒ ถ้าเขาเห็นเราสวย(หรือแม้จะไม่สวย)แต่คนปล้นจู่ๆ เกิดอารมณ์กามราคะขึ้นมาเลยทำการข่มขืน เพราะเราเคยผิดศีลข้อที่ ๓ มา และพอข่มขืนเสร็จก็ลงมือฆ่าปิดปาก ก็เพราะเราเคยทำผิดศีลข้อที่ ๑ มา แล้วในระยะเวลาที่กรรมทั้งสามข้อส่งผลพร้อมกัน จึงเกิดการปล้นจี้+ข่มขืน+ฆ่าปิดปาก ...

ท่านอธิบายไว้ว่า คนบางคนเดินใส่โรแล็กซ์ราคาเป็นล้านแต่ไม่เคยโดนหมายตาแม้เดินในที่เปลี่ยว บางคนเปิดบ้านไม่ได้ใส่กุญแจแล้วออหกไปทำธุระนอกบ้าน กลับมาทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผิดกับคนที่เดินทางเปลี่ยวก็ตาม ไม่เปลี่ยวก็ตาม หรือปิดประตูบ้านอย่างหนาแน่น ก็ยังมีคนหมายตา และเกิดการโจรกรรมทรัพย์สินในที่สุด คนที่ไม่เคยไปผิดศีลข้อที่ ๓ เลย ต่อให้สวยนุ่งสั้น ทางเปลี่ยว ใครก็ไม่มีจิตอยากข่มขืน (ขออธิบายประมาณนี้)

สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา สีเลนะ นิพุติงยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย

ศีลคือเกราะป้องกันภัยทั้งชาตินี้และชาติหน้า การไปเกิดในที่ต่างๆคือผลของกรรมนำส่ง อยู่เมืองไทยก็ปลอดภัยได้ถ้าอยู่ในศีล

ไม่ผิดกฎทางโลก ไม่ผิดกฎทางธรรม นั่นคือหนทางของความสงบสุข

ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมยิ่งแล้วค่ะ สาธุ

 

อนุโมทนา สาธุด้วยนะครับ ถ้าเรารักษาศีล ศีลก็จะรักษาเราครับ ขอยืนยัน

 

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

ธรรมะธรรมโมแค่ไหนก็หนีกฎแห่งกรรมชาติก่อนไม่พ้นหรอกครับ

แต่การธรรมมะธรรมโมของเพื่อนคุณอาจทำให้ตอนนี้ไปสู่สุคติภูมิแล้วก็เป็นได้

 

ถ้าเชื่อเรื่องกรรมก็ขอบอกว่า กรรมที่เคยทำนำมาให้ประสบพบเจอความทุกข์ที่เคยได้ทำไว้ แต่ว่าบททดสอบที่แท้จริงคือ เราจะอโหสิกรรมให้เขาได้หรือเปล่า ส่วนตัวของคนชั่วนั้นเขาก็หนีไม่พ้นกรรมของตนทั้งในโลกนี้และโลกหน้า คำสั่งศาลในโลกนี้แสดงเพียงแค่ตัวอย่างของการลงโทษทำชั่วได้ชั่วเท่านั้น แต่ยังไม่ใช่ผลของการสะท้อนกลับ น้องผู้หญิงเขาเดินมาถูกทางแล้วที่เป็นคนธรรมะ เวลาของเขามีน้อยแต่เชื่อว่า สิ่งนี้จะเป็นนิสัยตามส่งให้เขาในโอกาสต่อไป คนดีตายมีแต่คนสงสาร เห็นใจ สรรเสริญ แย่งกันทำบุญไปให้ คนชั่วตาย คนสาปแช่ง สมน้ำหน้า ไม่มีใครทำบุญให้ นี่คือสิ่งที่เห็นได้ด้วยตัวของเจ้าของกระทู้เอง พิจารณาเอาเถอะนะ

 

ไม่มีกฏไหนจะยุติธรรมเท่ากฎแห่งกรรมอีกแล้ว
คนปฏิบัติธรรมถ้าไม่เชื่อกรรมก็ไปไม่รอด
กรรมยุติธรรมเสมอเพียงแต่เรานั้นจำมิได้ว่าเคยกระทำมาก่อน
โลกนี้มันก็ ทุกข์มาก ทุกข์น้อย มีแต่ทุกข์
โดนข่มขืนก็เป็นทุกข์ เห็นใจจ๊ะ ขอให้รักษาจิตให้มั่นนะจ๊ะ จิตมิได้โดนข่มขืนไปด้วยจ๊ะ
อย่าไปยึดร่างกายว่าเป็นเรา ร่างกายจิตใจมีไว้ศึกษาเสมือนพระไตรปิฏกเคลื่อนที่ฉบับพ้นทุกข์

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
- กฏแห่งกรรมอันนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้

- แต่ถ้าเป็นกรรมใหม่ล่ะ จะรู้ได้อย่างไง ว่าเป็นกรรมที่ผู้กระทำสร้างขึ้นอีก รึเป็น กฏแห่งกรรมที่ผู้โดนกระทำ ได้รับการชดใช้

- ทุกวันนี้ การศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรม ให้กับเด็กๆ น้อยมาก อย่างไร

- นายทุนโลภมาก ผลิตยาบ้า จำหน่าย , ผลิตหนังโป๊มากมาย , พ่อแม่ไม่เวลาสั่งสอนลูกมั่วแต่ทำงานหาเงิน เด็กไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี

- ติดยา , บ้ากาม , หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะยาเสพติดมีฤทธิ์ต่อจิตประสาทมาก

- ก็ทำการข่มขืน กลัวความผิด ก็ฆ่าให้ตาย

- มันเป็นกรรมใหม่ได้รึป่าวครับเนี้ย

 

กฏแห่งกรรมเป็นสิ่งที่ยากต่อการเข้าใจที่สุดเรื่อง หนึ่งเลย แม้แต่องค์พระพทุทธเจ้าท่านยังตรัสเลยว่ายากต่อการทำความเข้าใจนับประสาอะไรอย่างคนธรรมดาอย่างเราๆกันครับ

 

สิ่งที่มนุษยือย่างพวกเราจะทำได้ก็คือ การหลุดพ้นกฏแห่งกรรมคือการนิพพานจะยากน่้อยกว่าการไปทำความเข้าใจในเรื่องของกฎแห่งกรรมครับ

 

นี่แหละ น่าเก็บไปไตร่ตรองว่า คนที่เขาถูกฆ่า ข่มขืน ทำไมเขาไม่ได้เกิดที่สิงคโปร์ล่ะ ทำไมเขาต้องเกิดที่นี่

 

มันเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งใหม่ เก่า เช่น มีความแค้นส่วนตัวมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ พอมาเจอชาตินี้ เลยฆ่าเขาเสีย เพราะคนนั้นเคยฆ่าเราไว้ นี่กรรมเก่าให้ผลคนนั้น แต่กรรมใหม่เราก้เกิดขึ้นตอนที่เราฆ่าเขาในชาตินี้ ยังไงล่ะ !!!

 

เห็นด้วยกับท่าน พระธรรมะอย่างถึงที่สุดครับ

 

สาธุ!!! พอเราทำกรรมใหม่เสร็จแล้ว ทีนี้ก้เตรียมรับผล ต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เป็นผู้ถูกกระทำ) ที่ใครเขาบอกว่า ทำไมกรรมถึงไม่เป็นธรรม ถึงมีแต่เราโดน ขอบอกนะถ้ายังไม่หลุดพ้น ก้จะมีวันนึงที่ได้เอาคืน อย่างสาสม เพียงแต่ว่าแต่ละคน ต่างก้จำไม่ได้

 

ถ้าตีความแบบนี้ แปลว่าประเทศเราเป็นแดนนรกสำหรับการลงโทษของคนที่บุญไม่เพียงพอหรือเปล่าครับ?

อย่างที่ผมบอกครับ ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม กฎแห่งธรรมชาติ แต่ถ้าเราเฝ้าแต่พร่ำบอกว่า นี่คือกฎแห่งกรรมเค้าทำมา นั่นคือสิ่งที่เค้าต้องโดน ถ้าผู้ที่พูดสิ่งนี้คือพระพุทธเจ้าหรือพระอริยเจ้าจริง ๆ ผมจะไม่สงสัยในสิ่งที่ท่านได้พบเห็นเลย แต่เราเห็นการพูดแบบนี้จากคนทั่วไปที่ไหนก็ไม่รู้ ถ้าเราเอาแต่โยนให้กฎแห่งกรรมรับผิดชอบ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องมานั่งเจียมตัวว่านี่เป็นเพราะเราทำไว้โน่นนี่ (โดยที่ไม่รู้เลยว่าเคยทำจริงหรือไม่) แบบนี้มันไม่เข้าข่ายงมงายหรือครับ? ถ้าเราดำรงสังคมกันแบบนี้ เราจะมีกฎหมายเพื่ออะไรครับ มีไปก็ทำโทษคนเลวไม่ได้จริง หรือไมอย่างนั้นก็เลือกปฏิบัติ

ผมมองว่าสังคมไทยต้องสมดุลย์ทั้ง 2 ด้านครับ ทั้งในด้านธรรมและกฎหมาย ไม่งั้นโจรก็วิ่งปล้นฆ่าข่มขืนให้พล่าน พอโดนจับโดนดำเนินคดีก็บอกว่า อ้าว มันเป็นกรรมเก่า เค้าเคยทำผมมาก่อน ผมก็เลยมาทำเค้ากลับ ฟังดูมันอุบาทว์ดีมั้ยครับ?