อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. Enjjoy

    Enjjoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +184
    พุทธวจนแนวฮาร์ดคอร์หรือไงนี่
     
  2. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ต่อไปจะมีคนยกตัวอย่างเรื่อง ในยุคสมัยกึ่งพุทธกาล
    ผู้ถือทิฏฐิ ยอมแปลงสวดปาติโมกข์จากที่คณะสงฆ์ดำเนินมา227ข้อเป็น150ข้อ
    ผู้ถือทิฏฐิ อ่านบาลีไม่แตกฉาน ต้องพึ่งพาเอกสารขั้นทุติยภูมิ แต่อ้างว่านั่นคือคำพูดของพุทธองค์
    ผู้ถือทิฏฐิ ยกคำครูจารย์ไว้เบื้องหลังข้างใต้ต่ำสุด โดยอ้างว่าทำไมต้องฟังคำครูจารย์ถ้ามีคำพระพุทธองค์แล้ว (โดยตนเองบาลีไม่แตกฉาน ต้องพึ่งครูจารย์ผู้แปลบาลีออกมาให้ ... ไหนว่าอย่าไปเชื่อครูจารย์ไงล่ะ)
    ผู้ถือทิฎฐิ เชื่อผู้ถือทิฏฐิ ตั้งเป็นหมู่คณะผู้ถือทิฏฐิ พร้อมให้เกิดสังฆเภท

    ทานศีลภาวนา ศีลสมาธิปัญญา ขั้นพื้นฐานน่ะ ครูจารย์ผู้อ่านตัวหนังสือไม่ออก ท่านปฏิบัติจนถึงที่สุดแล้วนะ
    แต่หนอนแทะพระไตรปิฎก ยังหาสามารถก้าวข้ามทิฏฐิตรงนี้ไม่
     
  3. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ช่วยอธิบายหน่อยว่า พุทธทาส สอนถูกต้องไหมครับ สอนไว้ในหนังสือของท่านว่า

    การเวียนเกิด นั้น อาจจะกล่าวได้ว่าไม่มีในหลักของพุทธศาสนา หรือไม่ใช่หลักของพุทธศาสนา ......
    การที่จะมากล่าวว่าพุทธศาสนามีหลักในเรื่องการเกิดใหม่ในทำนองนั้น เป็นสิ่ง่าหัวเราะเยาะอย่างเดียวกัน........

    สรุปแล้วพุทธศาสนา ไม่มีเวียนเกิด ไม่มีการเกิดใหม่ หรือครับ หรือว่าตายแล้วสูญเลยครับ
    ที่มาหนังสือตัว ตัวกู-ของกู หน้า 4-5 ถ้าใครว่าถูกช่วยอธิบายด้วย ใครว่าผิดก็ช่วยอธิบายหน่อยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    จากหนังสือ พุทธทาสลิขิต ฉบับลายมือของ พุทธทาส หน้า 111 และ 112

    พุทธทาสเขียนด้วยลายมือตนเองว่า ไม่ยอมรับ วินัยปิฏก(ทั้งหมด) ,อภิธรรมปิฏก(ทั้งหมด) มหาสติปัฏฐาน และอื่นๆอีกมากในพระไตรปิฏก ฯลฯ แล้ว พุทธทาส กำลังยอมรับอะไร กำลังยอมรับเฉพาะสิ่งที่เป็นตัวกูของกูอย่างเดียวหรือเปล่า
    ตามหลักฐานที่แนบมาด้วยนี้เลยครับ
    ถ้าไม่รับขนาดนี้แล้วยังเป็นภิภษุอยู่ไหม เพราะวินัยปิฏก(ทั้งหมด)เป็นสิ่งที่ภิกษุต้องน้อมรับ ???
    สิ่งที่ พุทธทาส สอนเราควรเชื่อถือไหม ???
    แล้ว พุทธทาส ยังมีความเป็นภิกษุไหม ???
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    พระไตรปิฎก ฉบับของพุทธทาส เราสามารถเชื่อถือได้ไหม ??? เห็นพุทธทาส เก่งพระไตรปิฏก มีออกหนังสือเป็นฉบับของพุทธทาสด้วยครับ
    เก่งพระไตรปิฏกแต่ไม่ปฏิบัติเลยเป็นแบบนี้หรือเปล่า ??? (ไม่ยอมรับ วินัยปิฏก(ทั้งหมด) ,อภิธรรมปิฏก(ทั้งหมด) มหาสติปัฏฐาน และอื่นๆอีกมากในพระไตรปิฏก) แล้วจะเขียนพระไตรปิฎก ฉบับของพุทธทาส ขึ้นมาทำไหม ฉบับตัวกู-ของกูคนเดียวเปล่า ???
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ถ้ากล้ารู้เลยองค์สมเด็จฯเเละครูอาจารย์เเล้ว!!?!คงไม่มาฟังคำเตือนใครเเล้ว!!
    เพราะเป็นหน่วยกล้าพลีชาติเพื่อชีพไปเเล้ว!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2013
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมว่าท่านเข้าใจผิดอะไรแล้วล่ะมั้งครับ ไม่มีใครเขาต้องการทำอะไรๆที่มันทำร้ายศาสนาหรอกครับ เพียงแต่เขาทำกันไปเพราะหลักฐานความจริง มีอะไรก็ถกกัน ไม่ใช่กล่าวหาว่าทำสังฆเภท ไม่เคารพครูอาจารย์ เขากำลังสาวหาความจริงว่าที่จริงแลัวเราสมควรจะยืนอยู่จุดใดของการดำเนินชีวิต

    และการปฎิบัติให้ตรงต่อศาสนาที่แท้จริงเพื่อรักษาพระศาสนาให้ยืนนานเท่าที่จะทำได้ ที่กล่าวว่าไม่เชื่อครูอาจารย์มีใครกล่าวครับ เพียงแต่ครูอาจารย์ท่านอาจจะรู้บ้างไม่รู้บ้าง ก็ตรวจกันให้มันถูกต้อง ในเมื่อเราเชื่อว่าแปลอย่างนั้น และก็มีคนแปลอย่างนั้นจริงๆ มันก็เป็นสิ่งที่อ้างอิงได้ แล้วทำไมต้องบอกว่าไหนไม่เชื่อครูอาจารย์ ก็ตรงกันจะให้ทำอย่างไร มันก็ถูกแล้วนี่ครับ แล้วจะมาเปลี่ยนแปลงความถูกต้องได้อย่างไร

    ท่านเสียสละทั้งชีวิต ทั้งหน้าที่การงาน รักษาพรหมจรรย์ ตั้งแต่เป็นทหาฝึกหนักแต่กินข้าวมื้อเดียว ทำงานจนเจ้านายรักไว้ใจเป็นคนดี คนที่มีความอดทนขนาดนี้ก็ถือว่าน่ายกย่องแล้วครับ ท่านรู้มั้ยว่าการทานอาหารวันล่ะมื้อมันยากขนาดไหน ไหนจะอดทนด้านอื่นอีกมากมาย ผมนะชื่นชมเพศสมณะมาก ไม่ว่าจะเป็นใคร ยิ่งหลวงปู่ หลวงตา หลวงน้า ที่บวชกันตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าท่านจะตรงบ้างไม่ตรงบ้างกับพุทธวจน ผมก็นับถือท่านมากแล้ว

    เพราะอะไรรู้มั้ยครับ เพราะท่านมีความอดทนมีความพยามมาก เราๆท่านๆแสนสบายกว่าท่านเยอะ ไม่มีใครรู้อะไรหมด มันก็มีิผิดบ้างถูกบ้าง แม้แต่พระอรหันต์ พอท่านมาบวชก็เสียสละตนรับใช้พระศาสนาค้นพบพุทธวจนสืบต่อจากท่านพุทธทาสที่ไม่มีใครทำ ให้ชาวพุทธได้รู้ความจริงมากขึ้น และได้ตระหนักในหน้าที่ชาวพุทธว่าจะต้องทำตนอย่างไรต่อพระศาสนาเท่าที่ฐานะเราจะทำได้ตามกำลังความพร้อมของตนเอง

    แนน่นอนความเห็นต่างย่อมมีเกิดขึ้นได้ท่านเคยมั้ยครับที่จะฟังความสองข้างเข้าไปนั่งใกล้พูดคุย มาตำหนิได้ประโยชน์อะไร พอเราเข้าใจเราจะรู้ว่าเราควรวางใจอย่างไร คำว่าสรณ คืออะไร คำว่ายึดมั่นต่ออาจารย์ของเราคืออย่างไรเชื่อเถอะครับคนที่เคารพในพระพุทธธรรมพระสงฆ์นั้นย่อมรู้ว่าสมควรวางตนอย่างไร
     
  8. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    โอ้ สมัยก่อนมีพระรูปหนึ่งพูดว่าวิญญาณเวียนว่ายตายเกิด พระพุทธเจ้าดุเสียอย่างแรง ว่าเธอยังเป็นภิกษุในธรรมวินัยอยู่อีกเหรอ เป็นโมฆะบุรุษเลย มันก้ตรงกับท่านพุทธทาสนี่ครับ ท่านอาจจะยังไม่เข้าใจประเด็นนี้ มันลึกซึ่งมากครับค่อยๆศึกษาไป ถ้ามีเวลาฟังคำสอนได้ที่นี่ครับ มีเรื่องที่ท่านต้องการทราบครับพุทธวจนสถาบัน : วัดนาป่าพง
     
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านพุทธทาสนั้นเป็นปราชญ์เอกของโลกนะครับท่าน ใจเย็นๆก่อน เรื่อไตรปิฎกนั้นมีการแต่งเติมใหม่มากมาย ฉบับพุทธทาสนั้นเป็นฉบับที่เลือกเอามาจากหลักฐานที่เก่าที่สุดคือบาลีสยามรัฐครับซึ่งเป็นตำราที่เก่าที่สุดเท่าที่เราจะมีมา และพระไตรปิฎกที่มีอยู่ในปัจจุบันก็อ้างอิงว่าเอามาจากบาลีสยามรัฐครับ
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ............ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า เป็นพหูสูตรผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตรผู้ทรงธรรม ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอพระเจ้าข้า.....ดีจริงดีจริง ภิกษุ ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฎิภานงดงาม คำถามสวยสลวย ภิกษุ เธอถามเราว่า เป็นพหูสูตร ทรงธรรมกันได้ด้วยเหตุเท่าไรดังนั้นหรือ ............อย่างนั้นพระเจ้าข้า.....ภิกษุ เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป้นสุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุติกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ ภิกษุ ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแม้เพียงสี่บท แล้วปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั้นแหละควรจะเรียกว่า เป็นพหูสูตรผู้ทรงธรรม ...............สาธุพระเจ้าข้า.....ดีจริงดีจริง ภิกษุ ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฎิภานงดงามคำถามสละสลวย ภิกษุ เธอถามเราว่า ผู้มีการศึกษา มีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส(นิพเพธิกปัญญา)เป็นกันได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ดังนั้นหรือ ....อย่างนั้นพระเจ้าข้า.......ภิกษุ ในกรณีนี้ ภิกษุ มีการศึกษาอยู่ว่าอย่างนี้ เป็นความทุกข์ ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี มีการศึกษาอยู่ว่า อย่างนี้เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์ ดังนี้แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี มีการศึกษาอยู่ว่า อย่างนี้เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ดังนี้แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ก้ดี ภิกษุ อย่างนี้แล ชื่อว่าผู้มีการศึกษา มีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส ...........สาธุ พระเจ้าข้า......ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มีคำกล่าวกันอยู่ว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญามาก ดังนี้นั้น เปนได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ.................ดีจริงดีจริง ภิกษุ ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฎิภานงดงาม คำถามสละสลวย ภิกษุ เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญามาก เป็นกันได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ดังนี้หรือ ...........อย่างนั้นพระเจ้าข้า.....ภิกษุในกรณีนี้ ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่คิดไปในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่คิดไปในทางทำให้ผู้อื่นลำบาก ไม่คิดไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก เมื่อจะคิด ย่อมคิดเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง ภิกษุ อย่างนี้แล ชื่อว่าผู้เป็น บัณฑิตมีปัญญามาก----จตุกก.อํ.21/241/186...:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2013
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...................แหม เป็นชาวพุทธ...จะหยุดอกุศลธรรม ไม่ใช่หยุดที่คนอื่น.....มันต้องเย็นด้วยตนเอง ดีกว่าาาาา...:cool:
     
  12. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    นี่ใช่พุทธวจนไหมครับ?
    4 благородных истинах. 4 Ευγενείς Αλήθειες. 4 Edele Waarheden.
    شریف حقایق.4 4 四聖諦。 حقائق نوبل.4 4 Nobles Vérités. 4 Verdades Nobles.
    4. Yüce Gerçek. 4 племените истине. 4 Diệu Đế.
    4 Edlen Wahrheiten.


    เป็นพุทธวจน หรือ พระสาวกวจน ?

    พระรัตนตรัย
    สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ ฯ
    ลืมอะไรไปหรือเปล่า พระสงฆ์ พระสาวก พระอริยเจ้า ไม่ใช่หรือที่เผยแผ่พุทธวจน ใครเป็นผู้พิสูจน์ ผู้ปฏิบัติตามจนสำเร็จมรรคผล และเผยแผ่พระธรรม ถ้าไม่เป็นผู้ปฏิบัติตามพุทธวจน จะมีพระอริยเจ้า จนถึงทุกวันนี้หรือ ท่านเหล่านั้นคิดเองได้หรือ
    ท่านปฏิบัติจนสำเร็จผล มรรคผล เป็นตัวบ่งชี้ผู้นั้นอยู่แล้วว่าท่านนั้นเข้าถึงธรรม ซึ่งเป็นธรรมเดียวกับที่พระองค์ตรัสสอน
    การที่เราไม่เข้าใจ เข้าถึงในสิ่งที่ท่านย่อ หรือ ขยายพระธรรมนั้น อย่าได้หมายว่าที่ท่านสอนไมใช่พุทธวจน
    ที่เข้าใจว่าไม่ใช่พุทธวจนนั้นเพราะไม่เข้าใจธรรมที่พระอริยเจ้าท่านเข้าถึงนั่นเป็นธรรมเดียวกัน เช่นเดียวกับหลายๆภาษาข้างบนที่ยกตัวอย่างนั้น พุทธวจนไม่ได้หมายถึงต้องเขียนเหมือนกันจากเดิมสมัยพุทธกาล ย่อ ขยายอักษร หรือใช้ภาษาอื่นไม่ได้
    พระอริยเจ้า พระสาวกท่านใช้เทคนิคการสอน ใช้ภาษา ใช้วิธิ ที่ย่อ ขยายเฉพาะตน ที่อยู่ในธรรมเดียวกัน จุดประสงค์เดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน ธรรมเดียวกันกับที่พระองค์สอน
    (ผมบอกให้คุณ กิน ยัด แดก เปิบ eat ใบ้ภาษามือตักใส่ปาก พูดว่าตักใส่ปาก เคี้ยว กลืน ฯลฯ หลังจากนั้นหลายคนที่รับสื่อนี้
    อิ่มท้องแล้ว ส่วนคนที่ไม่เข้าใจที่ผมสื่ออยู่ ยังหิวอยู่ ยังลังเลสงสัยอยู่ ไม่เข้าใจอยู่ ผมสื่อตั้งหลายแบบหลายคนแต่หลายคน เข้าใจ กริยากิน แล้วได้กินจนอื่มเหมือนกัน อุปมาดังที่กล่าวนี้ การที่เราไม่เข้าใจ เข้าถึงในสิ่งที่พระสาวก ท่านย่อ หรือ ขยายพระธรรมนั้น อย่าได้หมายว่าที่ท่านสอนไมใช่พุทธวจน จึงให้ดูที่ผลการปฏิบัติของท่าน พระธรรมนั้นลึกซึ้งเราต้องน้อมเขามาใส่ใจ ตัวอย่างอุปมานี้ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆเรื่องการสื่อสาร ไม่ได้หมายถึงพระธรรมจริงๆ)

    ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าทุกคนต้องมีครูอาจารย์ทั้งนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็มีครูในชาติก่อนๆ คือมีการพบพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆในชาติก่อนๆ เรียนธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ จนตรัสรู้ด้วยพระองค์เองในชาติสุดท้าย พระธรรมเดียวกัน
    อย่างเราๆ หรือพระสาวก จึงต้องมีครูอาจารย์สอน จึงจะสำเร็จ พระอริยเจ้า พระอรหันต์ ก่อนจะสำเร็จเรียนกับใครหละในสมัยที่พระองค์ปรินิพพานแล้ว เกจิอาจารย์ทุกท่านที่ผ่านมามีครูอาจารย์ทั้งนั้นมีหลายท่านด้วย สมัยนี้ เราอาจจะไม่มีโอกาสเรียนกับบางท่านโดยตรง เราอาจเรียนจากหนังสือ ฟังสื่อต่างๆ ความรู้ที่ท่านเผยแผ่เราน้อมมาปฏิบัติ นั่นเราก็นับถือท่านเป็นอาจารย์แล้วนะ
    ดังนั้นสาวกผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์ ก็ต้องหาอาจารย์ที่สอนได้ อาจารย์ที่สำเร็จมรรคผล ซึ่งเป็นบทสรุปอยู่ในตัวแล้วว่าท่านปฏิบัติตามพระองค์ ส่วนการหาครูอาจารย์มันก็ขึ้นอยู่กับบารมีที่เราสะสมมาด้วย ถ้ามันขาดๆล้นๆก็มีโอกาสได้แบบนั้น
    ถ้าครึ่งๆกลางๆก็พบแบบนั้น ถ้าถึงเวลาแล้วก็พบผู้ที่สามารถสอนให้ละวางกิเลสได้ ถ้าตัวเรามันไม่ใช่ ถึงจะได้พบได้ฟังจากท่านผู้รู้ผู้สามารถ แต่เราก็ไม่ชอบหรือไม่สามารถรับ เข้าใจคำสอนท่านอยู่ดี บางคนตั้งใจตั้งสัจจะจะต้องไปเรียนกับท่านผู้นี้แต่ด้วยกรรมที่ฆ่าพ่อ เมื่อมาถึงวัดแล้วก็ได้แต่ขับรถวนรอบวัด ไม่ลงรถเข้าวัดเพราะรู้สึกร้อนอันเนื่องจากกรรมนั่นเอง บางคนไปเรียนแล้วก็ว่าที่นี่ไม่ดี ที่นั่นไม่ดี ที่โน่นไม่ดี ที่นี่ดี ที่นั่นดี
    คนที่เขามีปัญญา เขาคงไม่ต้องไปถาม เป็น อริยเจ้าไหม อรหันต์หรือยัง ? ไม่เห็นกับตากับใจจะไม่เชื่อ แล้วจะเอาอะไรไปดูท่านหละ พระอริเยจ้าเบื้องต้นยังดูโครตยากเลย เพราะผิวเผิน กิริยาเหมือนปุถุชนนั่นแหละ ส่วนที่ต่างคือใจ เราเอาอะไรไปดูหละถ้าไม่เข้าถึงด้วยตัวเอง แต่คนมีปัญญาเขามีวิธีพิจารณากลั่นกรอง โดย ชื่อเสียงทาง ธรรม วิชชา จริยา ที่ยาวนาน มีแต่ความเจริญ ความดีกระจอนกระจาย จนเขาเหล่านั้นก็รู้โดยนัยเอง ยืนยันจากอาจารย์สู่อาจารย์เป็นต้น
    แยกแยะ วิเคราะห์ เข้าถึง เข้าใจ รู้ไหม ส่วนไหนในพระไตรปิฏกเป็นพุทธวจน ส่วนไหนคือพระธรรมที่ท่านตรัสจริง แปลภาษาได้ถูกต้องตามที่ท่านสื่อ แปลความหมายได้ถูกตามที่ท่านสอน ปฏิบัติได้ถูกต้องตามที่แปลความหมายไหม
    ถ้าเข้าใจ เข้าถึงจริงด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ต้องมีใครสอน อ่านเอง เรียนเอง ทำเองบระลุเองไปเลย ไม่ต้องมีพระสาวกเป็นครูอาจารย์ แต่แน่ใจนะ ทำได้แน่นะ แน่ใจนะเป็นพุทธวจน
    พระอริยเจ้า พระอรหันต์ ท่านเข้าถึง เข้าใจแล้ว ท่านสอนเราได้แน่นอน ไม่ต้องลังเลสงสัย ท่านเหล่านี้สำเร็จผลอันเนื่องจากพุทธวจนแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่ที่เราแล้วหล่ะ
     
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ประเด็นท่านจะเสนออะไรครับ จะถกเรื่องอะไร เข้าใจว่าการเผยแผ่พุทธวจนเป็นคำสั่งใครเหรอครับ ผู้ที่เผยแผ่คือใครครับ ก็สากไม่ใช่เหรอครับและสาวกเป็นใครครับ ไม่ใช่พระทุกรูปและเราๆทุกเหรอครับ และพระทุกรูปและพวกเราแต่งคำสอนขึ้นเองได้มั้ยครับ เพิ่มเติมได้มั้ยครับ ตัดทอนได้มั้ยครับ แต่ถ้าขยายความพุทธวจนให้ครบไม่ให้ขาดผิดถูกก็ว่ากันไปเพื่อให้ตรงต่อคำสอนนั้นๆก็ไม่ได้นี่ครับใครจะตำหนิไม่ฟังครับ ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า ทุกวันนี้แต่งเติม ตัดต่อ จนไม่รู้ว่าอะไรคือคำสอนที่ถูกต้องแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนั้นถูกหรือตรงประการใด ท่านตั้งจิตใหม่นะครับ อย่าพยามคิดว่าพวกเราที่เผยแผ่พุทธวจนนั้นไม่สนใจครูอาจารย์เลยครับ แต่ถ้ามันจะเป็นส่วนบุคคนไหนนั้นสิทธิของเขาชีวิตเขาครับ และผมก็เชื่อว่าบุคคลที่มีใจหยั่งงลงมั่นในคำสอนพระพุทเจ้านั้นไม่มีทางตำหนิติเตียนพระสงฆ์ได้หรอกครับ เพียงแต่เขาวางใจอย่างไรเท่านั้นเอง ท่านลองดูซิครับหยั่งลงมั่นหรือยัง
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ความจริงแล้วถ้าเราศึกษาคำตถาคตอย่าเดียวนั้นเราจะเข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะทุกวันนี้พวกเรามักจะยึดติดครูอาจารย์กันซะเป็นส่วนใหญ่ ครูฉันสอนถูก ครูฉันเก่ง จนทุกวันนี้เจอหน้ากัน เธอมาจากสายไหน ฉันสายพุทธโธ ฉันสายสัมมาอรหัง ฉันมาจากสายหนอ ฯลฯ มันเลยทำให้ชาวพุทธแยกกันไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง ผมเองโชคดีหน่อยตั้งแต่ศึกษาธรรมะความคิดเหล่านี้ไม่มีเลยตั้งแต่ไหนแต่ไร ฟังหมด สันติอโศก ธรรมกาย สายวัดป่า สายสวนโมกข์ แต่พวกที่ลดน้ำมนต์ เสกของขลัง นี่ไม่ถนัดไม่ไปเลย จนวันหนึ่งมาเจอพุทธวจนแล้วเข้าใจเลยว่าพระพุทธองค์ เป็นผู้รู้โลกอย่าแจ่มแจ้งจริงๆ ทำไมถึงให้ฟังแต่คำตถาคต เอาละ่แต่ในความเป็นจริแล้วคเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนเป็นเช่นนั้นเพราะ อยู่ในกฎไตรลักษณ์ สัพเพธรรมา อนิจจัง สัพเพธรรมา ทุกขัง สัพเพธรรมา อนัตตา ทั้หมดทั้งสิ้นมันก็เป็นแบบนี้ ที่นี้มันอยู่ที่บุคคลแล้วล่ะ ทุกคนสะสมมาแตกต่างกันมันอยู่ที่อินทรีย์ของแต่ล่ะคน คนทำหน้าที่ก็ทำกันไปมากน้อยตามกำลังของตนเอง ชาวพุทธทุกคนคงไม่มีใครคิดทำร้ายศาสนามันคเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ การมีพระรัตนตรัยเป็นสรณ กับการยึดในครูอาจารย์นี่มันเป็นเส้นบางๆกลั้นจริง อยากคนที่จะเข้าใจได้ถูกต้องและตรแท้จริงๆ
     
  15. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ที่อ้างๆพระพุทธวัจจนกันทุกวันนี้ ก็อ้างตามครูบาอาจารย์ อ้างตามอรรถกถาทั้งสิ้น
    แม้แต่ครูบาอาจารย์ที่พยายามสอนให้ใช้พระพุทธวัจจนะ ก็กลับอธิบายพระสูตรซะเอง
    อ้างพระสูตรขึ้นมาแล้วก็อธิบาย ไม่รู้หรือว่ากำลังสร้างอรรถกถาอยู่

    อรรถกถาของสาวกในพระไตรปิฏก กับอรรถกถาของสาวกสมัยปัจจุบัน
    ดีงามเลิศเลอหรือไม่วัดกันที่ตรงไหน

    ความรู้สึกของผมนั้น แม้อรรถกถาก็สร้างพระอริยเจ้าได้
    การรักษาศีล ๕ ไม่จำเป็นต้องอ้างพระสูตรใช่มั้ยเวลาบอกกล่าวใคร
    อ่านพระไตรปิฏกให้เยอะๆจะเข้าใจมากขึ้น
    แล้วถ้ามีโอกาสบวชแล้วก็เรียนบาลีซะ แล้วจะรู้เองว่าอะไรเป็นอะไร

    มีหนังสือที่พยายามรวบรวมพระพุทธวัจจนะมากมาย
    แต่คำถามคือ อื่นใดที่ไม่ได้รวมอยู่ในหนังสือนั้นๆ แน่ใจหรือว่าไม่ใช่พระพุทธวัจจนะ

    ลองไปหาฟังดูได้นะครับ จับเวลาดู
    ว่าพระที่อ้างพระพุทธวัจจนะนั้น ในหนึ่งชั่วโมง ท่านกล่าวถึงพระพุทธวัจจนะกี่นาที
    และท่านอธิบายกี่นาที
    อรรถกถาทั้งนั้น จะว่าเป็นฏีกานี่ก็ยังไม่แน่ใจว่าได้หรือเปล่า
     
  16. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทำความเข้าใจเยอะๆฟังเยอะๆ
     
  17. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ศิษย์ พระ คึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง ได้แสดงว่าทางวัด ได้ตัด ปาฏิโมกข์ ๒๒๗ ข้อ ให้เหลือเพียง ๑๕๐ ข้อโดยเอา ๗๗ ข้อ ทิ้ง ออกไปใส่รวมกับ ศีลส่วนที่ทำให้เลื่อมใสทั่วไป ที่มี ประมาณ ๒๐๐๐ ข้อแล้วก็จะได้ไม่ต้องสวด  คือ สวดแค่เพียง ๑๕๐ ข้อก็พอที่เหลือ ก็ไปรักษากันเอาเองในสองพันข้อ------------------------------------------------------------------------------------เหตุผลที่มาของการตัด คือ วัดนาป่าพง  อ้างจาก วัชชีปุตตสูตร และ เสขสูตร   ในอังคุตรนิกาย ติกนิบาต ข้อ [๕๒๔]ซึ่งแสดงตัวเลขของ ปาฏิโมกข์ไว้ว่า ๑๕๐ท่านเจ้าคุณปยุตโตได้อธิบายไว้ว่า เมื่อมีปัญหา หลายฉบับแปลไทยไม่ตรงกัน ก็ควรยึดตาม ฉบับบาลีเป็นหลักสูงสุด ซึ่ง "สาธิกัง" แปลว่า เกินกว่า ๑๕๐แต่ประเด็นนี้ ขอข้ามไปก่อน เพราะ อีกประเด็นที่ท่านเจ้าคุณปยุตโตได้อธิบายไว้  น่าสนใจกว่า นั่นก็คือ------------------------------------------------------------------------------------นั่นก็คือ......วัดนาป่าพง หารู้ไม่ว่า    ในพระสูตรนี้ เป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นช่วง"กลางพุทธกาล" ตอนประมาณพรรษาที่ ๒๕  ซึ่งตอนนั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติปาฏิโมกข์มาเรื่อยๆจนได้เพียง ๑๕๐  ข้อ แต่ๆๆๆๆๆๆหลังจากนั้น พระพุทธองค์ ก็ยังบัญญัติ พระปาฏิโมกข์ เพิ่มต่อไปเรื่อยๆ จนได้ ๒๒๗ ข้อ เมื่อสิ้นพุทธกาล(ฟัง คลิ๊ปท่านเจ้าคุณที่ 33:06 และให้ดู อรรถกถา วัชชีปุตตสูตร)------------------------------------------------------------------------ปาฏิโมกข์ นั้น จึงมี ๒๒๗ ข้อ   ดังที่แสดงใน ---------------------------------------------------------------------พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒มหาวิภังค์ ภาค ๒  ข้อ [๘๘๑] ---------------------------------------------------------------------[๘๘๑] ท่านทั้งหลาย นิทานข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคือปาราชิก ๔ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้วธรรมคือสังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคืออนิยต ๒ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคือนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคือปาจิตตีย์ ๙๒ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคือปาฏิเทสนียะ ๔ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคือเสขิยะทั้งหลาย ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว.ธรรมคืออธิกรณสมถะ ๗ ประการ ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้วแล.สิกขาบทของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น มีเท่านี้ มาในพระปาติโมกข์นับเนื่องในพระปาติโมกข์ มาสู่อุเทศทุกกึ่งเดือน.พวกเราทั้งหมดนี้แล พึงเป็นผู้พร้อมเพรียงกัน ร่วมใจกันไม่วิวาทกัน ศึกษาในพระปาติโมกข์นั้น เทอญ.
    http://84000.org/tipitaka/read/?2/881
    (เสขิยะ มี ๗๕)-------------------------------------------------------------------------บวกรวมกันง่ายๆดังนี้คือ4 + 13 + 2 + 30 + 92 + 4 + 75 + 7 = 227-------------------------------------------------------------------------สรุปว่า ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของทางวัดนาป่าพงไม่รู้ว่า ในพระสูตรที่อ้างนั้น กล่าวเมื่อไหร่  ไม่ได้ศึกษาอรรถกถาจึงเป็นเหตุให้หลงผิด ไปตัดทำลาย ปาฏิโมกข์ อันวิเศษ ในพุทธศาสนานี้ผู้ใดทำลาย ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า บิดเบือนพระธรรมทำสงฆ์ให้แตกแยก ผู้นั้นได้ชื่อว่าทำบาปกรรมอันหนักจึงขอให้ได้นำไปพิจารณา เพื่อที่จะได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดให้เป็นถูกนะครับ

    PANTIP.COM : Y10662595 กรณีวัดนาป่าพงตัดปาฏิโมกข์ 227 เหลือ 150 - สรุปว่า 150 พระพุทธองค์ตรัสไว้ช่วงกลางพุทธกาล{แตกประเด็นจาก Y10660106} []
     
  18. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    หิงห้อยกำลังจะอับแสง เพราะพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น
    โธ่ลุงหยิบยกมาซะเยอะเลยน่าสงสาร คนที่เขาศึกษาพุทธวจนะเขาก็ไม่เอาหนังสือที่ท่านพุทธทาสแต่งเหมือนกันเขาเอาเฉพาะ 5 เล่มจากพระโอษฐ์เท่านั้น เพราะนั่นไม่ใช่หนังสือที่ท่านพุทธทาสแต่ง แต่เป็นหนังสือเรียบเรียงและแปลจากบาลีสยามรัฐ you know
     
  19. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    คือ ในพระสูตรที่ว่า 150 ข้อถ้วนนั้น แปลมาจากคำว่า สาธิกัง
    คือ สะหะ +อธิกัง สะหะแปลว่าพร้อมด้วย อธิกังแปลว่า ส่วนที่เกิน

    ต้องแปลว่า 150 ข้อพร้อมส่วนที่เกิน (150 กว่าข้อ)

    ผมแปลกใจว่าในเมื่อยึดตามพระพุทธพจน์จริง ทำไมไม่ยึดในพระวินัยปิฎก เพราะ ในพระวินัยปิฎก ระบุชัดว่า 227 ข้อดังความเห็นที่แล้ว
     
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คุณก็ชื่อว่า"สาธิกัง แปลว่ากว่า ใครแปลว่ากว่าครับ ในเมื่อหมาเถรก็แปลว่าถ้วน ในบาบีเทคโซไซตี้ก็แปลว่าถ้วน ส่วนที่ท่านบอกว่าพรรษาที่25ที่ท่านกล่าวว่า150ข้อ หลังจากนั้นมีเพิ่ม มีเท่าไหร่ล่ะ ถ้ามีเพิ่มแล้วทำไมไม่มีพระสูตรในบาลีสยามรัฐ เรื่องการมีเพิ่มนั้นเป็นจริงได้ แต่ก็ไม่ได้ต้อสวดเป็นปาฎิโมกข์ก็ได้ ถ้า227ก็ต้องมีในบาลีสยามรัฐซิ แล้วเอามาจากไหนกัน ลอพิจารณาดููนะครับ ในเมื่อหลักฐานเล่มที่เก่าที่สุดไม่มี แล้วเอาหลักฐานมากจากไหนอธิบายให้ดูหน่อยซิ (ขอย้ำในบาลีสยามรัฐไม่มีแล้วเอา227มาจากไหน) และที่บอกว่ากว่านั้นกว่าเท่าไร 160 180 190 หรือกว่า2400ข้อ ทำไมไม่มีคำว่า200กว่าล่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...