เพื่อการกุศล "พ่อพระกาล(กาฬ)ฝังเบี้ยแก้"กัดกินอาถรรพ์อัปมงคลเสนียดจัญไรฯเนื้อชนวนมี 4 องค์(น.6)

บูชา"พ่อพระกาล(กาฬ)ฝังเบี้ยแก้" กัดกินอาถรรพ์อัปมงคลสิ่งชัวร้ายอุปสรรคเสนียดจัญไรจากสิ่งภายนอกที่เข้ามากระทบและสิ่งชั่วร้ายร้ายไม่ดีภายในตัวเรา...แก้ไขพลิกดวงชะตาบารมีจากร้ายให้กลับเป็นดี...

ซึ่งถือว่าเป็น"เทพที่มีมหาอำนาจมหาปราบดุดัน...เพื่อปราบกำราบสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้น..พิทักษ์ปกปักรักษา"

ด้านหลังฝัง"เบี้ยแก้" ที่บรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะ"เบี้ยแก้อายุ 174 ปีที่ฝังอยู่หน้าบันโบสถ์วัดเทพธิดาราม....ที่มีอานุภาพสถิตย์ด้วย"มนตราที่คณะภิกษุสงฆ์ได้ สวดปาฏิโมกข์ ทำวัตรเช้าวัตรเย็น อุปสมบท พิธีปลุกเสกวัตถุมงคลฯ กระทั่งสายวัดสุทัศน์ฯ รู้ข่าวมาเอาไปเยอะ.....จนกระทั่งเทวดาไปบอกพระอาจารย์เอกในฝัน...ท่านจึงเดินมาดูและได้เก็บกลับไว้จำนวนหนึ่ง...และคณะลูกศิษย์หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต(หลวงปู่ท่านบอก)ให้มาบูชาและได้กันไปแล้วคนละตัว...จะมาเอาอีกทั้งหมด แต่มีเหตุที่ผมได้มาบูชามาหมดแล้ว(ของดบอกจำนวน)

ผมจึงมาป่นผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์.....ทำเบี้ยแก้มาจำนวนหนึ่ง มีทั้ง ตัวเล็ก ตัวกลาง ตัวใหญ่"ถวายพระอาจารย์เอกไปจำนวนหนึ่งในงานทอดกฐิน...เมื่อ ปี 2554 ยังคงมีเบี้ยตัวเล็กจำนวนหนึ่ง....จึงได้นำมาฝังอยู่ด้านหลังองค์"พ่อกาล(กาฬ)"

ทำพิธีหล่อแยกออกเป็น 2 เนื้อ คือ

1.เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาท ค่าส่ง 50 บาท

2.เนื้อชนวนผสม มีจำนวน 150 หน้า ให้บูชาเพียง 120 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 299 บาท ค่าส่ง 50 บาท

..............................................................................
เงินทำบูชาจะแบ่งออกทำบุญในโครงการ"กองทุนคุณบิดามารดา(ผู้มีพระคุณ)"
1.ซื้อเครื่องกฐินประทาน 100 ปีสมเด็จพระสังฆราช ทอดกฐินวันที่ 26 ตุลาคม 56 วัดป่าท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
2.สร้างพระผงหลวงปู่ทวดพร้อมกล่องแจกงานตามข้อ 1 จำนวน 3,000 องค์
3.ทุนต่อเติมศาลาโลกอุดร ณ.เวียงนาคราช ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆตามความจำเป็น
.......................................
สามารถโอนเงินทำบุญบูชาได้ตั้งแต่วันนี้และสามารถจัดส่งได้ตั้งแต่วันที่ 25 กค.56 จะทำพิธีสวดมนต์วันอาสาฬหบูชาอีกครั้งครับ

****ร่วมทำบุญได้ที่.. 1.นายศรัณย์ธร ยกเชื้อ เลขบัญชี 385-0-02093-2 ออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย ส.กระทรวงพาณิชย์ โทร.มือถือ 081-875-4903

 

ไม่ใช่นึกต้องการที่จะสร้างหรือทำขึ้นมาได้ง่ายๆ มันมีที่มาที่ไปซับซ้อนพอสมควร...และมีแรงอาถรรพ์แรงครูบาอาจารย์สายเทพ.....ถ้าใครไม่ได้สัมผัสด้วยตนเองก้อไม่รู้หรอกครับ......

ผมก้อไม่ได้นึกว่าจะมีเหตุที่ได้สร้าง"องค์พ่อพระกาล(กาฬ)" แต่เมื่อท่านเมตตาอนุญาตให้จัดสร้างเพื่องานบุญและลูกหลานของท่าน....ที่ยังอยู่อาศัยดำรงสังขารทำมาหากินเลี้ยงชีพมีครอบครัว.....ให้แก้ไขเบาบางจากอุปสรรคอาถรรพ์อัปมงคลเสนียดจัยไร ที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการทำมาหากิน ทำอะไรก้อไม่เจริญรุ่งเรือง มีศัตรูจ้องจองล้างผลาญ เป็นต้น นอกเหนือจากคุณงามความดีที่เราได้ประพฤติปฎิบัติ...ท่านจะมาช่วยเสริมส่งช่วยเหลือเกื้อกูล....ให้รวดเร็วขึ้น

*สร้างจำนวนน้อย เพราะไม่ใช่สร้างกันง่ายๆ และสิ่งสำคัญ "สัจจะ" คนเราจะเจริญหรือไม่ต้องประกอบด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน

อย่ามาถามว่าให้ครูบาอาจารย์องค์ไหนปลุกเสก...บอกได้เลยครับ มีครับแต่เป็นครูบาอาจารย์ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อ.....เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นพลังเหนือธรรมชาติ

ผ่านพิธีแช่น้ำมนต์...สวดมนต์อธิษฐานจิตเนื่องๆในห้องพระก่อน.....ทำพิธีอธิษฐานจิต วันจันทร์ ที่ 15 กรกฎาคม 2556 ขึ้น 8 ค่ำเดือน 8 (8+8=16 กำลังโสฬสความสำเร็จ) จันทร์ซ้อนจันทร์ กำลังมหาเสน่ห์มหานิยมมหาเมตตา..นานปีมีสักครั้ง (ตามภาพด้านบน)

ผ่านพิธีแช่น้ำมนต์...สวดมนต์อธิษฐานจิตเนื่องๆในห้องพระ ก่อน

 

จองอย่างละ 1 หน้าครับ

1.เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาท ค่าส่ง 50 บาท

2.เนื้อชนวนผสม มีจำนวน 150 หน้า ให้บูชาเพียง 120 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 299 บาท ค่าส่ง 50 บาท

 

หน้ากาฬ หรือ เกียรติมุข
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายไว้ว่า

เกียรติมุข (อ่านว่า เกียด-มุก) น. อมนุษย์บริวารพระศิวะ ทำเป็นรูปหน้ายักษ์ปนหน้าสิงห์ ตากลมถลน ไม่มีคาง ปากแสยะ ไม่มีขากรรไกรล่าง ไม่มีร่างกาย ไม่มีแขนขา เชื่อกันว่า เป็นเทพเจ้ารักษาธรณีประตู เป็นเครื่องป้องกันบ้านเรือน ขับไล่เสนียดจัญไร และคอยคุ้มครองนับถือพระศิวะ มักทำเป็นลวดลายแกะสลักหรือปูนปั้น เช่นที่ทับหลังปราสาทหินบางแห่ง ตามซุ้มปรางค์หรือเจดีย์และที่ฐานพระพุทธรูป , กาฬมุข หรือ หน้ากาฬ ก็เรียก.

 

ประวัติ เกียรติมุข หรือหน้ากาฬ เป็นลวดลายปูนปั้นที่ใช้ประดับซุ้มหน้าบันของโบราณสถาน โดยทั่วไปมักทำคู่กับลายมกร โดยทำลายมกรออกมาทั้งสองข้างของเกียรติมุข ลักษณะของเกียรติมุขจะทำเป็นรูปหน้ายักษ์ปนหน้าสิงห์ หรือใบหน้าของอสูรที่ดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลม และถลน ปากกว้างเห็นฟันและเขี้ยว ไม่มีฟันล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะ
คติความเชื่อเกี่ยวกับเกียรติมุข ได้รับความนิยมอย่างมากในอินเดีย ทั้งในศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ใช้เป็นสิ่งประดับตามเทวสถานและพุทธสถาน เพื่อแสดงความเป็นเกียรติและเป็นมงคล และขจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ มิให้เข้ามาสู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณภายใน
ที่มาของเกียรติมุข เข้าใจว่ากำเนิดในประเทศอินเดียก่อน บางท่านกล่าวว่ามีการกำเนิดในประเทศใดประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย อาจจะได้มาจากประเทศธิเบต บางท่านก็ว่ากำเนิดที่ประเทศจีน มีรูปแบบซึ่งเรียกว่า เต้าเจ้ ปรากฏอยู่ ภาชนะสำริดของจีน สมัยช่วง 850 - 880 ปีก่อนพุทธกาล เป็นทำนองเดียวกับเกียรติมุขของอินเดีย หมายถึงเทพเจ้าผู้ตะกละ จากนั้นได้แพร่ไปทางบกไปยังประเทศอินเดีย ปรากฏอยู่ในศิลปะอินเดียสมัยอมราวดีและคุปตะ
ในประเทศไทย สันนิษฐานว่า เกียรติมุขคงแพร่เข้ามาในสมัยทวารวดีและศรีวิชัย โดยได้พบหลายแห่ง เช่น ที่ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ที่เจดีย์วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ทำเป็นรูปประดับลายกาบที่เชิงซุ้มเจดีย์ สำหรับที่สุโขทัย พบที่ทำเป็นลายประดับยอดซุ้มหน้าบัน วัดมหาธาตุ เมืองเก่าสุโขทัย

 

ตำนานอินเดียเล่าถึงกำเนิดของหน้ากาฬนี้ว่า ครั้งหนึ่งมีพญายักษ์ชื่อ ชลันธรบำเพ็ญตบะแก่กล้า จนได้รับพรจากพระศิวะไม่ให้ผู้ใดต่อกรด้วยได้จึงเกิดความลำพองทำร้ายข่มเหงทั้งยักษ์ เทพ และมนุษย์
ต่อมา ยักษ์ชลันธรได้ให้พระราหูไปบอกพระศิวะให้มารบกับตน หากพระศิวะแพ้จะริบตัวนางปารพตีมเหสีเป็นของตน
พระศิวะได้ฟังดังนั้นก็พิโรธเกิดมียักษ์หน้าสิงห์โตกระโดดออกจากหว่างพระขนงจะกินพระราหู พระราหูเห็นดังนั้นก็ตกใจขอให้พระศิวะช่วย พระศิวะทรงห้ามยักษ์ไม่ให้ทำร้ายพระราหู
ยักษ์กล่าวว่าถ้าอย่างนั้นขอให้กินสิ่งอื่นแทนพระราหู พระศิวะตรัสให้ยักษ์นั้นกินแขนขาของตัวเอง ด้วยความหิวโหยยักษ์ได้กัดกินแขนขาของตนหมดแล้วยังไม่อิ่ม จึงกัดกินท้องและอกจนหมดสิ้นเหลือเพียงส่วนหัว
พระศิวะเห็นเช่นนั้นก็เกิดความสงสาร ตรัสให้พรยักษ์นั้นให้อยู่ที่ประตูวิมานของพระองค์ตลอดไป ผู้ใดไม่เคารพจะไม่ได้รับพรจากพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จไปปราบยักษ์ชลันธรได้สำเร็จ
สมัยโบราณถือว่าหน้ากาฬนี้เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่กินทุกสิ่งแม้แต่ตัวเอง รวมทั้งเป็นผู้ที่คอยดูแลฝูงปศุสัตว์เนื่องจากพระศิวะได้รับการยกย่องเป็นปศุบดี ผู้เป็นใหญ่ในฝูงสัตว์ หน้ากาลอันเปรียบเสมือนบุตรของพระองค์คงจะมีฤทธิ์ปกป้องสัตว์เลี้ยงได้ ลายหน้ากาลนี้สามารถพบเห็นได้ทั้วไปในเทวสถานของฮินดู และนิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในอินโดนีเซีย

 

เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาท ค่าส่ง 50 บาท
จอง 1 องค์ คับ

 

เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาท ค่าส่ง 50 บาท
จอง 1 องค์ครับ
โอนได้ถึงเมื่อไหร่ครับ

 

รับทราบและขออนุโมทนาสาธุครับ

 

กำลังรออยู่เลยครับ

 

1.เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง 1องค์
2.เนื้อชนวนผสม 1องค์

 

เบี้ยแก้

***การจัดสร้างเบี้ยแก้ชุดนี้...อาจเป็นการจัดสร้างที่แตกต่างไปจากของครูบาอาจารย์ต่างๆ เพราะภายในตัวหอยไม่ได้ใส่ปรอทและอุดด้วยชันโรง..ตามตำราที่สืบกันมา แต่เป็นการจัดสร้างโดยการนำผงเบี้ยแก้อายุ 174 ปี ที่ฝังอยู่บนหน้าบันพระอุโบสถวัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ โดยนำเบี้ยแก้ตัวที่ชำรุดมาบดเป็นผงบรรจุในตัวหอยและปิดร่องฟันตัวหอยด้วยผงศักดิ์สิทธิ์มากกว่า 3,000 ชนิด(ตามภาพ) เฉพาะเพียงแค่ตัวผงเบี้ยแก้ที่ฝังอยู่หน้าบันพระอุโบสถนั้น มีพลังอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ครอบถ้วนทุกด้านอยู่แล้ว ที่ตลอดระยะเวลา 174 ปี ในพระอุโบสถคณะสงฆ์ได้เข้าไปประกอบพิธีทางศาสนาทุกวัน สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น สวดปาติโมกข์ พิธีอุปสมบท พิธีพุทธาภิเษก เป็นต้น กระแสพลังงานแห่งพุทธคุณได้แผ่สถิตเข้าสู่กระจายไปทั้งพระอุโบสถรวมทั้งตัวเบี้ยแก้....>>

ปฐมเหตุ....เนื่องจากพวกพี่ๆในคณะไปกราบพระอาจารย์เอก ที่วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ ได้ทราบจากพระอาจารย์เอกว่าได้เก็บเบี้ยแก้ที่ฝังอยู่หน้าบันพระอุโบสถระหว่างที่มีการบูรณะพระอุโบสถครั้งที่ผ่านมาได้มาจำนวนหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์เล่าให้ฟังว่ามีอยู่วันหนึ่งท่านคล้ายกับฝันไปว่า “มีเทวดาลอยลงมาจากหน้าบันพระอุโบสถลงมาด้านล่าง” ท่านมีความสงสัยว่ามีอะไรหรือเปล่าจึงได้เดินไปที่หน้าพระอุโบสถ...เมื่อไปถึงจึงได้รู้ว่ามีเบี้ยแก้ที่คนสมัยก่อนได้นำหอยเบี้ยมาฝังไว้ที่หน้าบันพระอุโบสถและตามสถานสำคัญภายในวัด...ท่านเก็บเบี้ยแก้ได้มาจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเบี้ยแก้ชุดสุดท้ายแล้ว.......ต่อมาได้กราบเรียนพระอาจารย์เอกขออนุญาตนำเบี้ยแก้ทั้งหมดนี้มาขัดแต่งเฉพาะตัวที่สมบูรณ์ให้ดูดีขึ้นเพื่อส่วนหนึ่งจะเก็บรักษาให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน...ว่าอุปเท่ห์อันใดที่เอาหอยเบี้ยมาฝังไว้หน้าบันพระอุโบสถ และในส่วนที่ชำรุดจะบดเป็นผง...เพื่อจัดสร้างเบี้ยแก้ชุดใหม่ถวายพระอาจารย์เอกจำนวนหนึ่ง>>


มวลสารศักดิ์ที่มีมากกว่า 3,000 ชนิด ขอกล่าวที่สำคัญบางส่วนเช่น ผงเบี้ยแก้อายุ 174 ปีวัดเทพธิดาราม ,ผงสมเด็จวัดระฆัง,ผงสมเด็จบางขุนพรหม,ผงพระวังหน้า,ผงดินที่พักศพหลวงปู่ทวด,ผงดินกากยายักษ์,ผงพระธาตุสิวลี,ผง วิภูติ,ผงไม้งิ้วดำ,ผงแร่พญานาค,ผงแร่ไหลไพร่ดำ,ดินใต้รอยพระพุทธบาสี่รอย จ.เชียงใหม่,น้ำมนต์ส่วนกะโหลกศีรษะหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,ผงพระธาตุ,ทรายพระธาตุสายสิญจน์อธิฐานงานเททองหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม,ผ้าห่มองค์หลวงพ่อโต(ซัมปอกง)วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา,จีวรหลวงปู่ท่อน ญาณธโร,น้ำมนต์จากสังเวนียสถาน อินเดีย,ผงมหาจักรพรรดิ หลวงปูดู่ วัดสะแก อยุธยา เป็นต้น


พระคาถาบูชา

“สัมปะจิตฉามิ เมตตาคุนัง อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ยะสะสุมัง”.......................................................................
รูปภาพด้านล่าง..ในวันเททองหล่อองค์พระเกื้อหนุนค้ำชูดวงชะตา วันที่ 19 พฤศจิกายน 2554

 

บูชา"พ่อพระกาล(กาฬ)ฝังเบี้ยแก้" กัดกินอาถรรพ์อัปมงคลสิ่งชัวร้ายอุปสรรคเสนียดจัญไรจากสิ่งภายนอกที่เข้ามากระทบและสิ่งชั่วร้ายร้ายไม่ดีภายในตัวเรา...แก้ไขพลิกดวงชะตาบารมีจากร้ายให้กลับเป็นดี...

ซึ่งถือว่าเป็น"เทพที่มีมหาอำนาจมหาปราบดุดัน...เพื่อปราบกำราบสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้น..พิทักษ์ปกปักรักษา"


ทำพิธีหล่อแยกออกเป็น 2 เนื้อ คือ

1.เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้าคงมี 37 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาท ค่าส่ง 50 บาท
1.1 ชาวประมง 1 หน้า
1.2 moremax 1 หน้า
1.3 victorvee 1 หน้า
1.4 totto99 1 หน้า

2.เนื้อชนวนผสม มีจำนวน 150 หน้า ให้บูชาเพียง 120 หน้าคงมี 118 หน้า
ทำบุญบูชาองค์ละ 299 บาท ค่าส่ง 50 บาท
2.1 ชาวประมง 1 หน้า
2.2 totto99 1 หน้า

 

ทำพิธีหล่อแยกออกเป็น 2 เนื้อ คือ

1.เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง มีจำนวน 50 หน้า ให้บูชาเพียง 40 หน้า ทำบุญบูชาองค์ละ 499 บาทค่าส่ง50 บาท

2.เนื้อชนวนผสม มีจำนวน 150 หน้า ให้บูชาเพียง 120 หน้า ทำบุญบูชาองค์ละ 299 บาทค่าส่ง50 บาท

ขอจองรายการ 1-> 1 องค์
รายการ 2-> 1 องค์
โอนแล้วจะแจ้งที่อยู่ทาง pm ครับ

 

จองเนื้อชนวนผสม 1 องค์ครับ โอนแล้วแจ้งครับ

 

โทษที่ครับ 2เนื้อที่ว่ามีความแตกต่างกันตรงไหนบ้างครับ
ขอบคุณครับ

 

มีแบบทั้งองค์ไหมครับ

 

เนื้อชนวนล้วนออกทองแดง บูชา 1 หน้า
เนื้อชนวนผสม บูชา1 หน้า

 

เนื้อแรก...เป็นเนื้อชนวนล้วนแก่ทองแดง
เนื้อสอง...เป็นเนื้อผสมชนวน

ความศักดิ์สิทธิ์มีเท่ากันครับ...แต่ความพิเศษอาจจะมีต่างกันและความสวยของเนื้อโลหะครับ (พิจารณากันเอาเองครับ)

 

ไม่มีครับ....