<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

พระสมเด็จวัดสะพานสูง บางซิ่อ กรุงเทพฯ

พระสมเด็จวัดสะพานสูง เนื้อบางขุนพรหมจัดๆ ใช้แทนสมเด็จวัดบางขุนพรหมได้สบาย พระสมเด็จที่พระอาจารย์เชื้อหนูเพชร วัดสะพานสูง บางซื่อ กรุงเทพฯ สร้างประมาณปี2505 ผงที่นำมาผสมได้แก่ พระผงแตกหักชำรุดของพระสมเด็จบางขุนพรหม ผงที่ได้รับจากองค์สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ อาจารย์เชื้อหนูเพชร วัดสะพานสูง ท่านเป็นศิษย์ในสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ ท่านมีความรู้เชี่ยวชาญในการสร้างพระเนื้อโลหะและลบผงได้ผลดียิ่งนัก

​

ให้บูชา 850บ.ครับ

 

พระกรุหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี

พระกรุหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี แตกกรุออกมาเมื่อปี 2534 มีทั้งพิมพ์ปิดตานิยมของท่านคือ พิมพ์ชะลูดและพิมพ์ตะพาบ และพระเนื้อผงร่วมกรุอย่างน้อย 7 พิมพ์ จากข้อมูลหลายๆ แหล่งและประสบการณ์ทำให้ปัจจุบันได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และเซียนระดับหลายท่านหันมารับเข้าและจัดให้บูชาแล้ว เนื้อพระจะเป็นเนื้อปูนเปลือกหอยบดผสมผงพุทธคุณ ออกมาจากกรุบางองค์มีคราบบางๆ บางองค์ก็หนา แล้วแต่พื้นที่ๆพระอยู่ และพระมีความแห้งสูงมาก มีทั้งเนื้อขาวและเนื้อดำซึ่งจะหาได้ ยากกว่ามาก พุทธคุณเท่าที่ปรากฏประสบการณ์ ไม่แตกต่างจากพระปิดตา วัดสะพานสูง เพราะผู้ที่ประจุพุทธคุณนั้นเป็นองค์เดียวกัน เป็นพระที่น่าเก็บมาก เพราะยังมีคนรู้น้อย แต่อีกไม่นานน่าจะติดลมบน เพราะหันมาสนใจมากขึ้น สำหรับพระกรุนี้เนื้อหาความแห้ง ความคมชัดของตราดอกจันทร์ ซึ่งจะมีมิติความลึกได้ไม่เท่ากัน ความสมบูรณ์ของพิมพ์ทรงเป็นจุดบ่งบอกความแท้ได้เป็นอย่างดี สำหรับ ตราดอกจันทร์ บางองค์ก็มี บางองค์ก็ไม่มี พื้นที่จะเก็บหา พิมพ์ชลูดและ พิมพ์ ตะพาบ แบบที่ไม่มีตราดอกจันทร์ เพื่อ ยัดให้เป็น หลวงปู่กลิ่น ยุคต้นๆ แต่จุดสังเกตุ จะสังเกตุได้จาก ขอบล่างของพระปิดตา หากมีขอบ เป็นเส้น ที่ด้านล่าง และ มีคราบกรุ จะเป็นพระชุดที่แตกกรุออก เมื่อปี 2534 แต่สมัยนั้นยังไม่ค่อยแพร่หลาย เพิ่งมาเริ่มแพร่หลาย เมื่อประมาณ ปี 2540 พระเนื้อผง หลวงปู่เอี่ยม กรุวัดสะพานสูง เป็นพระเนื้อผงที่ถูกบรรจุกรุเจดีย์ใหญ่ที่สร้างโดยหลวงปู่เอี่ยม แต่สร้างเจดีย์ยังไม่ทันเสร็จ หลวงปู่เอี่ยมก็มรณภาพเสียก่อนเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2430 หลวงปู่กลิ่นซึ่งเป็นศิษย์จึงสร้างต่อแล้วบรรจุพระชุดนี้เข้าไปในเจดีย์ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นปัญหาว่าพระชุดนี้หลวงปู่เอี่ยมสร้างรอไว้เพื่อบรรจุกับเจดีย์หรือ หลวงปู่กลิ่นสร้างเพื่อบรรจุเจดีย์ เมื่อเจดีย์เสร็จในสมัยท่าน ในปี 2439 พระชุดนี้ถูกบรรจุโดยหลวงปู่กลิ่น ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่กลิ่นท่านอายุพียง 31ปี พระชุดนี้เสกแล้วโดยหลวงปู่เอี่ยมแน่นอน ผงวิเศษที่ผสมก็น่าจะเป็นผงโสฬสมงคลเช่นเดียวกับที่สร้างพระปิดตาท่าน เมื่อพระแตกออกมาประมาณปี 2534 พระส่วนมาก จะ เนื้อหาและคราบคล้ายกับกรุบางขุนพรหม และกรุวัดเงินคลองเตย พระก็ถูกจำกัดวงแคบอยู่นาน จนปัจจุบันเริ่มแพร่หลาย พุทธคุณเรื่อง เมตตามหานิยม เรียกว่าสุดยอด

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
​

 

​

พระพรหมหลวงปู่สี วัดสะเเก

พระพรหมสี่หน้า เนื้อดินผสมผง สร้างขึ้นในเนื่องในงานพิธีครอบครูให้อาจารย์วันชัย โดยหลวงปู่สี เมื่อปี๒๕๒๓ และได้ตั้งไว้ให้หลวงปู่สีช่วยอธิฐานจิตอยู่หลายพรรษา

​

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]

 

ปิดรายการนี้ให้พี่นอกเว็ปครับ

รายการที่153.>>>สุดยอดแห่งกุมารหล่อเนื้อตะกั่ว ของครูบากฤษดา แห่งวัดสันพระเจ้าแดง จังหวัดลําพูน>>>[FONT=&quot]ให้บูชา 1,900บ.[/FONT]/ หน้า76.

 

ปิดรายการเหล่านี้ครับ มีพี่ๆบูชาไปแล้วครับผม

รายการที่49.>>>[FONT=&quot]พระสามเหลี่ยม เนื้อผงเกษร [FONT=&quot]108 ผสมผงสมเด็จวัดระฆัง พิธี 25 ศตวรรษ ท่านพ่อลี วัด อโศการาม[/FONT][/FONT]>>>[FONT=&quot]ให้บูชาองค์[/FONT][FONT=&quot]ละ[/FONT][FONT=&quot] 2,450[FONT=&quot]บ.[/FONT][/FONT] / หน้า37.


รายการที่74.>>>พระหลวงปู่ทวด รุ่นทะเลซุง ปี2508>>>[FONT=&quot]มีหลายองค์ ให้บูชาองค์ละ 150บ.[/FONT]/ หน้า49.


รายการที่75.>>>เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง จ.นราธิวาส ปี 2511>>>[FONT=&quot]ให้บูชาองค์ละ 300บ.[/FONT]/ หน้า49.


รายการที่101.>>>หลวงปู่ทวด กดมือ เนื้อขาว วัดวิสุทธิยาราม(ศาลาบางปู) จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ.๒๕๕๑>>>[FONT=&quot]ให้บูชาองค์ละ 250บ.[/FONT]/ หน้า62.


รายการที่134.>>>พระสมเด็จรัศมีแหวกม่านเปิดโลก "เนื้อดินยุคต้น" หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย>>>[FONT=&quot]ให้บูชา 950บ.[/FONT]/ หน้า71.

 

​

พญาไก่ฟ้ามหาลาภ หลวงปู่เช้า จ.นครสวรรค์ เนื้อทองทิพย์ตัวครู ใต้ฐานอุดผงพญาเลี้ยง(ผิวสีทอง) ตัวครู หรือจ่าฝูง หากินเก่ง ใต้ฐานฝังตะกรุดสาลิกาคู่ ฝังข้าวเปลือกเสก 1 เมล็ด

พญาไก่หลวงปู่เช้า หากินเก่ง คุ้ยเขี่ย หาแก้วแหวนเงินทอง โภคทรัพย์ ยศถาบรรดาศักดิ์ มาให้เจ้าของอยู่เรื่อย ก็ท่านเสกด้วยมหามนต์เมตตา พญาไก่ฟ้า เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง หมายถึงเจ้าของหากรับราชการก็เจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง หากมีอาชีพทางค้าขาย ก็จะขายของดีมีกำไร มีลูกค้าหมั่นซื้อ หมั่นหาอยู่ตลอด เหมือนพญาไก่ที่คุ้ย เขี่ยหาอาหารอยู่ตลอดเวลา ไม่เหนื่อย ไม่หยุด ไม่เกียจคร้าน การบูชา ให้หาน้ำเปล่า ข้าวเปลือกสักกำ เลี้ยงไก่อย่าให้ขาด แล้วคอยสังเกตดู ร้านค้าที่ว่าเงียบจะมีคนเข้ามา มีลูกค้ามากขึ้น เป็นนักธุรกิจ นักเจรจา พ่อค้าพานิช นายหน้า นายธนาคาร ติดต่อการงาน จะราบรื่น ได้เงินก้อนใหญ่ ได้งานชิ้นโต เหนื่อยน้อยได้มาก ผิดกับเมื่อก่อนที่เหนื่อยมากได้น้อย ทรัพย์สินเงินทองบริบูรณ์ขึ้น หากินง่ายขึ้น ถ้ารับราชการจะเจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง บูชาไว้ที่บ้าน ที่ร้านค้า ที่บริษัท จะร่มเย็นเป็นสุข มีโภคสมบัติหลั่งไหลมาสู่สถานที่นั้นมิได้ขาดแล ยิ่งวันไหน เห็นข้าวเปลือกกระจาย คล้ายไก่เขี่ยกิน ลองเสี่ยงโชค ลาภลอยสักหน่อย ท่านว่า จะมีโชคดีนัก

​

[FONT=&quot]ให้บูชา 1,050บ. ครับ[/FONT]

 

เห็นตกไปหลายหน้า upให้ครับ

 

ขอบคุณมากครับท่าน แวะมาเยี่ยมชมบ่อยๆ นะคร้าบบบบบ

 

รูปหล่อลอยองค์ รุ่นแรก (ลอยองค์จิ๋ว) หลวงปู่เป็งหรือหลวงปู่ครูบาคำเป็ง เป็นรุ่นแรกที่เป็นรูปหล่อ นับว่าเป็นสุดยอดอีกชุดหนึ่ง เป็นยอดแห่งการขอ ศิษย์บางคนเรียกรุ่นนี้ว่าแก้วสารพัดนึก มีผู้นำไปใช้ได้อธิฐานขอเนื่องจากหมดตัวแล้ว ปรากฎว่าพลิกพื้นอย่างไม่น่าเชื่อ

​

ให้บูชาองค์ละ 850บ.ครับ

 

เหรียญหลวงพ่อสด วัดหลวงพ่อสดธรรมากายาราม รุ่นลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุข ด้านหลังพระแก้วมรกต เนื้อทองแดง เหรียญสวยตอกโค๊ตชัดเจน

​

ให้บูชาองค์ละ 250บ.ครับ

 

พระผงหลวงพ่อสด จนทสโร รุ่นสมบัติจักรพรรดิ์ พันล้าน รวยตลอดชาติ อายุวัฒนมงคล108 พร้อมกล่องเดิม

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

สมเด็จพระธรรมกาย" ปี2541 รุ่น"ลาภผลพูลทวี ฝัง เหล็กไหล ตาน้ำ 3เม็ด วัด หลวงพ่อสด ธรรมกายาราม

พระธรรมกาย พิมพ์สี่เหลี่ยม เนื้อผง รุ่นลาภผลพูลทวี (ใครที่ชอบพวกธาตุกายสิทธิ์ตระกูลเหล็กไหลแนะนำรุ่นนี้เลยครับ ) ด้านหลังฝังธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลตาน้ำ มีแบบฝัง 1เม็ด , 2เม็ด , 3 เม็ด วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี ปี 2541 (ที่วัดหมดไปนานแล้ว) ลป.วีระ (พระราชพรหมเถระ) รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (ผู้ปลุกเสกพระปากน้ำ รุ่น4-7) และหลวงป๋าองค์ปฐมเจ้าอาวาส วัดหลวงพ่อสด อธิษฐานจิตตามแนววิชาธรรมกาย สายลพ.สด วัดปากน้ำ
พิมพ์ที่ ๓ สีเขียว สร้างเมื่อ พ.ศ 2541 ฝังธาตุกายสิทธิ์ ๓ เม็ด
มวลสารพระรุ่นนี้ ประกอบด้วย ผงมงคลศักดิ์สิทธิ์ 9 อย่าง ดังนี้

1.ผงเก่าพระปากน้ำ รุ่น 1-2-3
2.ดินกากยายักษ์ มีธาตุกายสิทธิ์(พญาสมิงเหล็ก)
3.ดินพระธาตุ
4.ดินน้ำนมแม่ธรณี
5.ผงเกสรดอกไม้ และใบไม้มงคล 9 ชนิด
6.ผงว่านพญาท้าวเอว
7.เกศาลป.วีระ (พระราชพรหมเถระ) รองเจ้าอาวาสและพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (ผู้ปลุกเสกพระปากน้ำ รุ่น4-7)
8.เกศา หลวงป๋า องค์ปฐมเจ้าอาวาส วัดหลวงพ่อสด
9.ข้าวแม่พระโพสพ(ข้าวสารหิน)

และที่สำคัญ บรรจุเหล็กไหลตาน้ำ ไว้ถึง 3 องค์
รุ่นนี้มีประสบการณ์
เรื่องมีอยู่ว่า มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อสด เนื่อในเทศกาลสงกรานต์ และได้รับพระรุ่นนี้ จึงนำไปไว้ที่กระเป้าเป้สะพายหลัง ที่ตนเองสะพายอยู่ จากนั้นจึงได้อยู่ร่วมสรงน้ำพระที่วัดหลวงพ่อสด ขณะที่กำลังเข้าแถวอยู่นั้นมีป้าคนนึงมาต่อข้างหลังและดันแถวไปข้างหน้าหลายครั้ง แต่ไม่ได้สนใจ เพราะคนเยอะ และใจจดจ่ออยู่กับการสรงน้ำพระ หลังจากสรงน้ำพระเสร็จแล้วได้เปิดกระเป๋าดูก็ต้อง ตกใจ เมื่อพบว่ากระเป๋า มีรอยถูกมีดกรีด 3-4 รอย ขนาดใหญ่เท่ากับมือลอดเข้าไปได้ จึงรีบสำรวจ ทรัพย์สินในกระเป๋าเป้ ประกอบไปด้วย กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และเอกสารสำคัญหลายอย่าง ปรากฏว่า ทรัพย์สินทุกอย่างยังอยู่ครบ อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งโยมผู้หญิงท่านนี้ คิดว่า ต้องเป็นด้วยอำนาจของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระผง รุ่นลาภพลพูนทวี ที่อยู่ในกระเป๋าอย่างแน่นอน ที่ช่วยบังตามิจฉาชีพไว้ ให้ล้วงเข้าไปและไม่เจอทรัพย์สินใดๆในกระเป๋าเลย
หมายเหตุ พระรุ่นแบบนี้ที่วัดทำบุญ 2,000บ.ครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

พระผงของขวัญหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่นหก พระไตรปิฏก พิมพ์สังฆาฏิเรียบนิยม เนื้อเหลืองฟักทอง

พิมพ์เถ้าแก่ เป็นพิมพ์นิยมในชุดแม่พิมพ์เหล็ก สวยมาก องค์นี้เนื้อเหลืองหลังขาวหรือเนื้อฟักทองนิยม หายาก แม่พิมพ์เหล็ก เนื้อนี้หายากครับ
พิมพ์นี้เป็นพิมพ์นิยมอันดับหนึ่งในชุดแม่พิมพ์ทองเหล็ก สวยที่สุด และหายาก ถ้าไม่มีแป๊ะยิ้ม องค์นี้ได้เลยครับ พระพิมพ์นี้คล้ายกับพิมพ์ เจ้าสัว แต่ไม่มีเส้นพาดสังฆาฎิบริเวณหน้าอก
พระวัดปากน้ำรุ่นหก หรือรุ่นพระไตรปิฎก จำนวนการสร้างทั้งหมด สามล้านองค์ กับพระคะแนนรุ่นนี้อีก สามหมื่นองค์ เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2532 ซึ่งเป็นวันเกิดหลวงพ่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำรูปปัจจุบัน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2533 รวมเวลา 7 เดือนเต็ม เปิดให้บูชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2533 อันเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงพ่อวัดปากน้ำครับ

​

ให้บูชาองค์ละ 450บ.ครับ

 

พระผงวัดปากน้ำ รุ่น 4 พระธรรมขันธ์

เมื่อพระของขวัญรุ่น 3 ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้สร้างไว้เป็นรุ่นสุดท้ายได้หมดลงแล้ว และปรากฏว่ายังมีผู้นิยมต้องการพระวัดปากน้ำอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางวัดปากน้ำโดยคณะศิษยานุศิษย์จึงได้ทำการจัดสร้างพระขึ้นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง นับเป็นรุ่นที่ 4 ต่อจากรุ่นที่ 3 ที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ ทางวัดได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นโดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสเป็นประธาน และได้มอบหมายให้พระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม) อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระดำเนินการจัดสร้างพระผงธรรมขันธ์รุ่น 4 ขึ้นมามีจำนวน 800,000 องค์ (แปดแสน) โดยได้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา และได้เริ่มนำออกให้เช่าบูชาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และได้จำหน่ายหมดในปี พ.ศ. 2527 พระรุ่น 4 นี้มีชื่อเรียกว่า “พระธรรมขันธ์”

มีคำชี้แจงตอนหนึ่ง ของพระเดชพระคุณพระภาวนาโกศลเถร ในสมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูภาวนาภิรมเป็นคำชี้แจงที่พิมพ์ห่ออยู่กับพระธรรมขันธ์ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า

....เนื่องด้วยพระของขวัญของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่นได้แจกหมดไปแล้วเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2514 ทางวัดจึงได้จัดทำพระผงขึ้นใหม่ เรียกว่า “พระธรรมขันธ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ” โดยนำผงพระของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง 3 รุ่น คือรุ่น 1 รุ่น 2 รุ่น 3 ผสมรวมกันเพื่อทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และนำเข้าพิธีโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้วิชาธรรมกายทำพิธีตลอดไตรมาสสามเดือนในพรรษาและได้เริ่มแจกในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2515 อันเป็นวันออกพรรษา เมื่อท่านทั้งหลายได้รับไปแล้ว จงเก็บรักษาไว้ให้ดี เมื่อมีอุปสรรคอันใดเกิด่ขึ้น จงตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิด...

ส่วนผสมรุ่น 4
พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ มีส่วนผสมหลายอย่างจะกล่าวพอเป็นสังเขปดังนี้
1.ปูนขาว ที่ทำจากเปลือกหอย
2.กล้วยน้ำว้า
3.ดอกไม้ต่างๆ โดยเฉพาะดอกมะลิ
4.ผงพระของขวัญรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3
5.อัญมณีบางส่วน
6.เส้นเกศาของหลวงพ่อ (โดยเฉพาะพระคะแนน)
7.น้ำมันตั้งอิ๊ว
8.และอื่นๆ

เนื้อพระรุ่น 4
พระธรรมขันธ์รุ่น 4 นี้ แยกประเภทของเนื้อพระออกโดยทั่วๆ ไปเป็น 4 ประการคือ
1. เนื้อสีขาว 3. เนื้อสีคล้ำหม่น
2. เนื้อสีเหลือง 4. เนื้อเกล็ดสีขาว (สังขยา)

พระเนื้อสีขาว ลักษณะของเนื้อจะเป็นสีขาวนวลไม่ใช่ขาวซีด อีกประการหนึ่งจะเป็นสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ พบมากโดยทั่วไป

เนื้อสีเหลือง เนื้อพระชนิดนี้มีทั้งชนิดสีเหลืองอ่อน สีเหลืองเข้มและสีลักษณะเหลืองใสคล้ายเนื้อเทียน เนื้อพระชนิดนี้จะเป็นที่นิยม

เนื้อสีคล้ำหม่น ลักษณะคล้ายๆ จะเป็นสีดำๆ หรือน้ำตาลปึกแก่ๆ สีเนื้อชนิดนี้มีพบอยู่ไม่มากนัก

เนื้อเกล็ดสีขาว พระเนื้อเกล็ดหรือที่รู้จักกันเรียกันโดยทั่วไปว่า “เนื้อสังขยา” นี้ เป็นพระที่มีเนื้อแปลกแตกต่างออกไปจากเนื้ออื่นๆ ลักษณะของเนื้อพระจะขึ้นเป็นเกล็ดขาวๆ เต็มไปทั่วทั้งองค์ หากถูกจับถูบ่อยๆ หรือถูกความเปียกชื้น เกล็ดนี้ก็จะหลุดล่อนออกได้ สีของเนื้อพระด้านในที่เป็นสีเหลืองก็มี ที่เป็นสีคล้ำๆ ดำๆ คล้ายสีน้ำตาลปึกก็มี พระเนื้อเกล็ดนี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีจำนวนอัญมณีผสมรวมอยู่มาเป็นพิเศษ

​

ให้บูชาองค์ละ 2,250บ.ครับ

 

พระปรางค์อุ้มบาตร พระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ พิธีอินโดจีน ปี2484 มวลสารสุดยอด

พระปางอุ้มบาตรหลังยันต์ พระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี 2484 เนื้อหาจัดจ้าน นุ่มนึก หายากส์ครับพิมพ์นี้

หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ ท่านเป็นพระลูกวัดของวัดสุทัศน์ในยุคพระสังฆราชแพ และพระครูลมูล อีกทั้งท่านยังสนิทสนมกันมากกับหลวงปู่นาควัดระฆัง ได้รับชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จวัดระฆังโดยตรงจากหลวงปู่นาคอีกด้วย ท่านเก็บสะสมพระแตกหักต่างๆที่คนเอามาทิ้งไว้ที่วัด นำมาบดละเอียดเป็นมวลสารในการสร้างพระขึ้นมาสืบต่อศาสนา โดยแจกให้กับลูกศิษย์ลูกหาของท่าน บางส่วนได้หลงเหลืออยู่ที่วัดสุทัศน์(ในสมัยโน้น)หลวงพ่อสุพจน์ท่านเป็น พระเกจิที่สันโดษมาก ทำให้คนรู้จักจักกันน้อย ++++หนังสือบางเล่มลงว่าพระผงของหลวงพ่อสุพจน์เป็นเนื้อสมเด็จวัดระฆังล้วน โปรดใช้วิจารณญาณ

สมัยก่อนพระชำรุดแตกหัก คนจะนำไปถวายไว้ที่วัด หลักการเดี่ยวกันกับวิธีการสร้างพระของพระครูลมูล สันนิษฐานว่าหลวงพ่อสุพจน์เองคงมีวิชาไม่น้อยเพราะได้อยู่ที่วัดสุทัศน์ ได้ร่วมพิธีการสร้างพระกริ่งต่างๆมากมาย พระของท่านน่าจะได้เข้าร่วมในพิธีปลุกเสกพระกริ่งรุ่นต่างๆของทางสายวัด สุทัศน์ด้วย

พระสมเด็จชุดนี้จัดสร้างโดยลพ.สุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ (ตำราโบราณของพระครูลมูล วัดสุทัศน์) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆัง จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุก เสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 84 (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมา ถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ เช่น พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆัง พระสมเด็จพิมพ์วัดบางขุนพรหม พระสมเด็จพิมพ์วัดเกษไชโย วัดเงินคลองเตย วัดพลับ วัดสามปลื้ม วัดโพธิ์ ขุนแผนบ้านกร่าง หลวงพ่อโตบางกระทิง พระลีลา เปิดโลก และพิมพ์ต่างอีกมากด้านมีทั้งปั๊มยันต์พุฒซ้อน และยันต์ตรี พร้อมได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธี นั้นพร้อม ๆ กับวัตถุมงคลต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริง ๆ

สมัยก่อนพระแตกหักคนโบราณเขาไม่เอาเข้าบ้านกันถ้ามีพระแตกหักเขาจะนำไปไว้ที่วัด เพราะฉะนั้นเมื่อปี2480กว่าๆนั้นชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆัง นั้นยังไม่มีราคา หลวงพ่อจึงได้รวบรวมจากตามวัดและลูกศิษย์นำมาถวายนำมาบดและกดพิมพ์เป็นพระ พิมพ์ต่างๆ และยังได้นำเอาเข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ๆเช่นพิธีอินโดจีน วัดสุทัศน์ปี84-85 พิธีวัดประสาทปี06 จึงได้แจกให้แก่ลูกศิษย์นำไปบูชากัน
แต่พระพิมพ์นี้เป็นพิมพ์พระยืนอุ้มบาตร เหมือนพระยืนที่วัดอินทร์ครับมีจำนวนที่สร้างน้อยและหาชมได้ยากอีกพิมพ์หนึ่งครับ
เข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ๆเช่นพิธีอินโดจีน วัดสุทัศน์ปี84-85 พิธีวัดประสาทปี 06 จึงได้แจกให้แก่ลูกศิษย์นำไปบูชากัน

พิธีปลุกเสก พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี 84-85 ซึ่งพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ได้นำเอาประสมเด็จพิมพ์ต่างๆของท่านเข้าร่วมพิธีด้วย
1.สมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์
2.2.ท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์
3. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง
6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู
7.หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
8. หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง
10.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
14.หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ
17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์
19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส
21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ
22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์
23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา
24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้
25.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้
29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี
30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง
31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ
32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม
33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม
34.หลวงพ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ
35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน
36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน
37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด
38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ
40.หลวงพ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์
41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ
42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ
43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง
44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน
45.หลวงพ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ
46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ
47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ
48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ
49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม
50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์
51.หลวงพ่อปลอด วัดหลวงสุวรรณ
52. หลวงพ่ออิ่ม วัดชัยพฤกษ์มาลา
53.หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก
54. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน
55.หลวงพ่อครุฑ วัดท่อฬ่อ
56.หลวงพ่อกลีบ วัดตลิ่งชัน
57.หลวงพ่อทรัพย์ วัดสังฆราชาวาส
58.หลวงพ่อแม้น วัดเสาธงทอง
59.หลวงปู่รอด วัดวังน้ำว
60.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
61.หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตาคาม
62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง
63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก
64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ
65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง
66.หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ
67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว
68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง
69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า
70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง
71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา
72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง
73.หลวงพ่อสอน วัดลาดหญ้า
74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี
75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ
76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม
77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม
78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์
79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว
80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง
81.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง
82.หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร
83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ
84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ
85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก
86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ
87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา
88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ
89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม
90.หลวงพ่อทองคำ วัดปทุมคงคา
91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม
92.หลวงพ่อกรอง วัดสว่างอารมณ์
93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง
94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม
95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง
96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง
97.หลวงพ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร
98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร
99.หลวงพ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ
100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด
101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย
102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ
103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ
104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง
105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา
106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น
107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ
108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (ตัวท่านไม่ได้มาร่วมปลุกเสก แต่จารแผ่นทองเหลือง ทองแดงมาร่วมพิธี)

​

ให้บูชาองค์ละ 1,250บ.ครับ

 

​

อาจารย์พล วัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

หากจะไม่กล่าวถึงวัดนาประดู่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นธรรมนัก เพราะ วัดแห่งนี้กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เป็นวัดที่สร้างพระเกจิอาจารย์ชั้นยอดของเมืองไทยถึง ๓ รูปด้วยกัน คือ

อาจารย์ทิม หรือ พระครูวิสัยโสภณ แห่งวัดช้างไห้ ปฐมบทผู้สร้างตำนานพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้ลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งประเทศ จนกลายเป็นพระเครื่องของ มหาชน อย่างไม่หยุดหย่อน

อีกรูปคือ อาจารย์นอง หรือ พระครูธรรมโกศล แห่งวัดทรายขาว เป็นผู้สืบทอดตำนานพระเครื่องสมเด็จหลวงทวดเหยียบน้ำทะเลจืดให้สืบเนื่องต่อ จากอาจารย์ทิม หลังจากท่านได้ละสังขารไปแล้วภารกิจอันสำคัญนี้อาจารย์ปฏิบัติจนสิ้นลมหายใจ ไปตามวัฏจักรโลก

และอีก รูปหนึ่ง คือ อาจารย์พล หรื่อ พระครูอาทรศุภการ แห่งวัดนาประดู่ท่านเป็นทายาทรูปสุดท้ายสายตรงของอาจารย์ทิมที่มีโอกาสได้ เรียนรู้กระบวนสร้างพระเครื่องสุดยอดของประเทศ คือ สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณรด้วยฝีไม้ลายมือในทางพุทธศิลป์และเวทมนต์เข้มขลัง ล้วนแต่ตกผลึกอยู่ในตัวท่าน แต่ด้วยความสมถะ เรียบง่าย จึงไม่ปรากฏสู่สาธารณะมากนัก

หากผู้ใดมีสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดจากเกจิอาจารย์ ทั้งสามรูปไว้กับตัว จะเป็นมงคลโดยแท้

เพราะท่านทั้งสาม คือ ศิษย์สายตรงของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดสายสันกาลาคีรี

พระหลวงพ่อทวดย่อยๆ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ ทายาทสืบทอดการปลุกเสกหลวงพ่อทวดรูปเดียว ยุคที่ ๓ ต่อจาก อ.ทิม อ.นอง พระของท่าน ราคาเบาๆ สบายๆ ทำบุญให้วัด ท่านไม่เน้นพุทธพาณิชย์ ไม่ให้ใครสร้างเด็ดขาด ท่านสร้างเอง เสกเอง ส่วนใหญ่เน้นแจก ท่านจึงไม่ดังในสายตาเซียน เพราะเซียนขอสร้างท่านไม่ให้สร้าง แต่ขอโทษพุทธคุณพระหลวงพ่อทวดเปี่ยมล้น ครับ

พ่อท่านพล วัดนาประดู่ครับ ท่านได้รับการครอบครูจาก อ.ทิม วัดช้างให้ ครอบตอนเป็นสามเถร เพราะพ่อท่านพล เป็นหลานแท้ๆ ของอาจารย์ทิม วัดช้างให้
พ่อท่านพล วัดนาประดู่ครับ ในปี 39 พ่อท่านพล ได้รับการครอบครูจากอาจารย์นอง วัดทรายขาว และเป็นผู้สืบทอดพระคาถาในการปลุกเสกหลวงพ่อทวด เพียงรูปเดียวในประเทศไทย ดังนั้น ไม่ว่าวัดช้างให้จะจัดพิธีปลุกเสกทุกครั้ง ต้องนิมนต์พ่อท่านพลมาปลุกเสกหลักทุกครั้ง ซึ่งจะขาดพ่อท่านพล ไม่ได้ ซึ่งท่านก็มาปลุกเสกทุกครั้ง แม้กระทั่งพระประจำปีของวัด และพระที่สร้างเป็นกรณีพิเศษของวัดช้างให้ เช่น เหรียญเลื่อน ปี 53 รุ่น 2 พ่อท่านพลก็ปลุกเสกแน่นอน ราคาเล่นหาก็โดดเด่นในยุคปัจจุบัน 2553 - 2555 ครับ นับได้ว่าท่านเป็นว่า พระเกจิอาจารย์ เป็นศิษย์สายตรงปลุกเสกหลวงพ่อทวด ต่อจาก อ.ทิม อ.นอง อย่างแท้จริง ปกติวัตถุมงคลของวัดนาประดู ซึ่งเป็นเนื้อว่านส่วนใหญ่ท่านจะแกะบล็อก ผสมว่าน กดเองกับมือ และปลุกเสกเองที่วัดนาประดู รวมทั้งหากวัดช้างให้มีพิธีพุทธาภิเษก ท่านจะนำหลวงพ่อทวดว่านที่ท่านสร้าง เข้าพิธีปลุกทุกครั้ง พระท่านไม่แพง ส่วนใหญ่เน้นแจกประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งทหาร ท่านแจกมาตั้งแต่ ปี 2547 ซึ่งหลวงพ่อทวดว่านของท่านใช้แทนพระเครื่องที่ท่านอ.ทิม และอ.นอง ปลุกเสกได้เลย ทำบุญให้วัดต่อองค์ไม่แพง ขอท่านท่านก็เมตตามอบให้ ครับ ใครมาขอสร้างพระหลวงพ่อทวด ท่านไม่ให้ใครสร้าง วัดนาประดู่จะสร้างเอง ท่านไม่ชอบการโฆษณาโอ้อวด ไม่ชอบพุทธพาณิชย์ ใดๆ ทั้งสิ้น

พ่อท่านพลเป็นพระเกจิอาจาย์ น่ากราบไหว้ที่สุดในยุคนี้ ถือเป็นยุคที่ 3 สืบทอดจากอ.ทิม และอ.นองโดยแท้ พุทธคุณพระหลวงพ่อทวดที่ท่านสร้างสุดยอดจริง คนในพื้นที่เขาทราบดี โดยเฉพาะชาวตำบลนาประดู่ และอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ครับ

เหรียญรุ่นแรก ปี 49
กำลังมาแรงในพื้นที่ หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ท่านพล วัดนาประดู่ปัตตานี เนื้อว่านยุคแรกๆๆ ผสมว่าน 97 หลังแร่ พ่อท่านพลแกะพิมพ์พระ และกดเอง กับมือทุกองค์ครับ พระของท่านสร้างแจกเท่านั้น ไม่มีจำหน่าย เคยมีเซียนใหญ่หลายคนไปขอสร้างพระในวัด แต่ท่านไม่ให้สร้าง

ทายาทอาจารย์ทิม วัดช้างให้ คือใคร?
เป็นที่ยอมรับกันว่า พระครูวิสัยโสภณหรืออาจารย์ทิม คือ ต้นตำหรับของการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด แต่ในความสำเร็จนั้นย่อมมีที่มาและเกี่ยวเนื่องกับบุคคคอื่น
เป็นที่ยอมรับกันว่า ปรมาจารย์สำคัญในการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแห่งวัดช้างไห้นั้น มีอยู่สามรูป คือ

พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิมแห่งวัดช้างไห้) อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

พระราชปัญญารังสี (เนื่อง) เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

พระครูธรรมกิจโกศล (นอง) เจ้าอาวาสวัดทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

ทั้งสามท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านที่มีต่อพระพุทธศาสนานั้นเหลือคณานับ พระราชปัญญารังสี (เนื่อง) นั้นเป็นหลานของอาจารย์ทิมและอาจารย์นองนั้นเป็นศิษย์และเป็นหลานผู้สืบทอด วิทยาการ

โดยเฉพาะพระครูวิสัยโสภณหรืออาจารย์ทิมนั้น ท่านเป็นพระวิปัสสนาญาณสูง สมาธิแก่กล้าสามารถนิมิตเห็นเรื่องราวได้ พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแห่งวัดช้างไห้รุ่นแรก จึงเป็นประติมากรรมที่ได้เกิดจากการดลใจของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

การปลุกเสกพระ เครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้างไห้ กระทำพิธีปลุกเสกมีเพียงอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างไห้เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสก อาจารย์นองเป็นเพียงพี่เลี้ยง ไม่มีคนอื่นมาร่วมพิธี

พิธีที่เข้มขลังมีเพียงเท่านี้จริงๆและไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก จึงนับเป็นการปลุกเสกท่ามกลางธรรมชาติ

ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ทิมมีอยู่หลายคนแต่ที่ใกล้ชิดที่สุด คือ อาจารย์นอง หรือพระครูธรรมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดทรายขาว และ พระราชปัญญารังสี เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ เพราะมีศักดิ์เป็นหลานของอาจารย์ทิม ในระหว่างบวชอยู่ที่วัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และได้ติดตามอาจารย์ทิมไปช่วยบูรณะวัดช้างไห้มาโดยตลอด

พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ปลุกเสกโดยอาจารย์นองหลังจากอาจารย์ทิมไดมรณภาพไปแล้ว

ท่านเจ้าคุณพระราชปัญญารังสี (เนื่อง จันทพิมล) อดีตเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว เมื่อ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๓๕ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอาจารย์ทิมเช่นเดียวกัน บวชร่วมกันที่วัดนาประดุ่ แต่ได้แยกจากกันเมื่ออาจารย์ทิมไปจำพรรษาที่วัดช้างไห้ แต่ท่านเจ้าคุณยังจำพรรษาอยู่ที่วัดนาประดู่มาโดยตลอด แต่ก็มีส่วนร่วมในการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมา ด้วยเช่นเดียวกัน

อาจารย์พล อาสโภ หรือ พระครูอาทรศุภการ เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ในปัจจุบัน ชาวบ้านเรียกท่านว่า ท่านพล ท่านมีศักดิ์เป็นหลานตาของอาจารย์ทิม ติดสอยห้อยตามอาจารย์ทิมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งบวชเณรที่วัดนาประดู่ เป็นผู้หนึ่งที่ช่วยอาจารย์ทิมพิมพ์พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำ ทะเลจืด เนื้อว่านรุ่น พ.ศ. ๒๕o๔ เพื่อมอบให้แก่ผู้ศรัทธาที่บริจาคเงินสร้างกำแพงวัดนาประดู่

ในขณะเดียวกัน อาจารย์ทิมก็ได้มอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินงานการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อปาน อดีตเจ้าอาวาสวัดนาประดู่ขึ้น ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาศวัดนาประดู่

ทุกครั้งที่มีการปลุกเสกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้าง ไห้ ท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญทีเดียว เพราะท่านเป็นทายาทคนสุดท้ายของอาจารย์ทิมที่มีภูมิรู้ในการสร้างและปลุกเสก พระเครื่องสายตรงจากอาจารย์ทิมเช่นเดียวกับอาจารย์นอง

ท่านพลเป็นพระที่พูดน้อย แต่พูดไพเราะ เคร่งครัดพระธรรมวินัยมีความสามารถในทางช่างไม้และแกะสลัก ท่านสามารถสร้างแบบพิมพ์พระเครื่องได้ด้วยตัวเอง แม้กระทั่งแกะพระด้วยมือก็สามารถทำได้

ด้วยความสามารถดังกล่าว จึงได้รับมอบหมายจากอาจารย์ทิมให้สร้างสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างไห้ จำนวนสองพันองค์ เพื่อมอบให้แก่ญาติโยมที่บริจาคเงินสร้างกำแพงวัดนาประดู่และสร้างพระ เครื่องหลวงพ่อปาน อดีตเจ้าอาวาศวัดนาประดู่

ถัดจากนั้นในปีพ.ศ. ๒๕๓๔ ได้สร้างสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างไห้ รุ่นอนุสรณ์อินเดีย ต่อมาปีพ.ศ. ๒๕๓๙ สร้างพระเครื่องเนื้อว่านรุ่นเสาร์ ๕ คือ พระสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และ พระเครื่องหลวงพ่อปานวัดนาประดู่พิมพ์สี่เหลี่ยมเนื้อว่าน

พระทุกพิมพ์ออกแบบพิมพ์เอง ปลุกเสกเองอย่างต่อเนื่องทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นต้นไป

พระเนื้อว่านองค์ที่นำมาให้บูชานี้ ท่านกดพิมพ์เองทุกองค์ ด้านหลังโรยแร่ มีส่วนผสมของมวลสารปี 2497 ที่ท่านอาจารย์ทิมมอบให้แก่วัดนาประดู่ ที่เก็บไว้ใต้ฐานพระประธานของวัดนาประดู่ ปัจจุบันวัดของท่านจะมีชาวต่างชาติ เช่น มาเลย์ และสิงค์ไปร์ นิยมเข้ามาเพื่อบูชาพระหลวงปู่ทวดที่สร้างที่วัดนี้ และนำกับไปบูชาที่ต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก เคยมีคำกล่าวว่า "มีผู้ไปขอสร้างพระหลวงพ่อทวดกับท่านแต่ท่านปฏิเสธหมดครับ จริงๆ แล้วท่านดังตั้งนานแล้ว ครับ แต่ท่านอยู่อย่างพอเพียง สมถะ ไม่โอ้อวด แม้จะเป็นสายตรงหลวงพ่อทวดก็ตาม คนมาเลเซีย มาเช่าหาหลวงพ่อทวดของท่านมาก นะครับ คนไทยบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ครับ นี่คือเรื่องจริง" พระดีๆ ไปอยูมาเลย์ ก็มากครับ พระที่วัดนาประดู่ที่พ่อท่านพลสร้าง ราคาไม่แพง ไม่มีพุทธพาณิชย์มาเกี่ยวข้อง จึงไม่ค่อยมีเซียนเชียร์ ราคาเช่าหาในตลาดจึงไม่ค่อยแพง แต่พุทธคุณสูงจริงๆ เหมือนวัดช้างให้ทุกประการ อีก 1 วัดที่แขวนขึ้นคอได้อย่างสนิทใจครับ ถ้าไม่ดีจริง คงไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาบูชาพระที่วัดท่านจำนวนมากแต่ละปี

องค์นี้เป็นพิมพ์ 5เหลี่ยมใหญ่ครับ

​

*ปิดรายการนี้ครับ

 

​

อาจารย์พล วัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

หากจะไม่กล่าวถึงวัดนาประดู่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นธรรมนัก เพราะ วัดแห่งนี้กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เป็นวัดที่สร้างพระเกจิอาจารย์ชั้นยอดของเมืองไทยถึง ๓ รูปด้วยกัน คือ

อาจารย์ทิม หรือ พระครูวิสัยโสภณ แห่งวัดช้างไห้ ปฐมบทผู้สร้างตำนานพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้ลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งประเทศ จนกลายเป็นพระเครื่องของ มหาชน อย่างไม่หยุดหย่อน

อีกรูปคือ อาจารย์นอง หรือ พระครูธรรมโกศล แห่งวัดทรายขาว เป็นผู้สืบทอดตำนานพระเครื่องสมเด็จหลวงทวดเหยียบน้ำทะเลจืดให้สืบเนื่องต่อ จากอาจารย์ทิม หลังจากท่านได้ละสังขารไปแล้วภารกิจอันสำคัญนี้อาจารย์ปฏิบัติจนสิ้นลมหายใจ ไปตามวัฏจักรโลก

และอีก รูปหนึ่ง คือ อาจารย์พล หรื่อ พระครูอาทรศุภการ แห่งวัดนาประดู่ท่านเป็นทายาทรูปสุดท้ายสายตรงของอาจารย์ทิมที่มีโอกาสได้ เรียนรู้กระบวนสร้างพระเครื่องสุดยอดของประเทศ คือ สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณรด้วยฝีไม้ลายมือในทางพุทธศิลป์และเวทมนต์เข้มขลัง ล้วนแต่ตกผลึกอยู่ในตัวท่าน แต่ด้วยความสมถะ เรียบง่าย จึงไม่ปรากฏสู่สาธารณะมากนัก

หากผู้ใดมีสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดจากเกจิอาจารย์ ทั้งสามรูปไว้กับตัว จะเป็นมงคลโดยแท้

เพราะท่านทั้งสาม คือ ศิษย์สายตรงของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดสายสันกาลาคีรี

พระหลวงพ่อทวดย่อยๆ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ ทายาทสืบทอดการปลุกเสกหลวงพ่อทวดรูปเดียว ยุคที่ ๓ ต่อจาก อ.ทิม อ.นอง พระของท่าน ราคาเบาๆ สบายๆ ทำบุญให้วัด ท่านไม่เน้นพุทธพาณิชย์ ไม่ให้ใครสร้างเด็ดขาด ท่านสร้างเอง เสกเอง ส่วนใหญ่เน้นแจก ท่านจึงไม่ดังในสายตาเซียน เพราะเซียนขอสร้างท่านไม่ให้สร้าง แต่ขอโทษพุทธคุณพระหลวงพ่อทวดเปี่ยมล้น ครับ

พ่อท่านพล วัดนาประดู่ครับ ท่านได้รับการครอบครูจาก อ.ทิม วัดช้างให้ ครอบตอนเป็นสามเถร เพราะพ่อท่านพล เป็นหลานแท้ๆ ของอาจารย์ทิม วัดช้างให้
พ่อท่านพล วัดนาประดู่ครับ ในปี 39 พ่อท่านพล ได้รับการครอบครูจากอาจารย์นอง วัดทรายขาว และเป็นผู้สืบทอดพระคาถาในการปลุกเสกหลวงพ่อทวด เพียงรูปเดียวในประเทศไทย ดังนั้น ไม่ว่าวัดช้างให้จะจัดพิธีปลุกเสกทุกครั้ง ต้องนิมนต์พ่อท่านพลมาปลุกเสกหลักทุกครั้ง ซึ่งจะขาดพ่อท่านพล ไม่ได้ ซึ่งท่านก็มาปลุกเสกทุกครั้ง แม้กระทั่งพระประจำปีของวัด และพระที่สร้างเป็นกรณีพิเศษของวัดช้างให้ เช่น เหรียญเลื่อน ปี 53 รุ่น 2 พ่อท่านพลก็ปลุกเสกแน่นอน ราคาเล่นหาก็โดดเด่นในยุคปัจจุบัน 2553 - 2555 ครับ นับได้ว่าท่านเป็นว่า พระเกจิอาจารย์ เป็นศิษย์สายตรงปลุกเสกหลวงพ่อทวด ต่อจาก อ.ทิม อ.นอง อย่างแท้จริง ปกติวัตถุมงคลของวัดนาประดู ซึ่งเป็นเนื้อว่านส่วนใหญ่ท่านจะแกะบล็อก ผสมว่าน กดเองกับมือ และปลุกเสกเองที่วัดนาประดู รวมทั้งหากวัดช้างให้มีพิธีพุทธาภิเษก ท่านจะนำหลวงพ่อทวดว่านที่ท่านสร้าง เข้าพิธีปลุกทุกครั้ง พระท่านไม่แพง ส่วนใหญ่เน้นแจกประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งทหาร ท่านแจกมาตั้งแต่ ปี 2547 ซึ่งหลวงพ่อทวดว่านของท่านใช้แทนพระเครื่องที่ท่านอ.ทิม และอ.นอง ปลุกเสกได้เลย ทำบุญให้วัดต่อองค์ไม่แพง ขอท่านท่านก็เมตตามอบให้ ครับ ใครมาขอสร้างพระหลวงพ่อทวด ท่านไม่ให้ใครสร้าง วัดนาประดู่จะสร้างเอง ท่านไม่ชอบการโฆษณาโอ้อวด ไม่ชอบพุทธพาณิชย์ ใดๆ ทั้งสิ้น

พ่อท่านพลเป็นพระเกจิอาจาย์ น่ากราบไหว้ที่สุดในยุคนี้ ถือเป็นยุคที่ 3 สืบทอดจากอ.ทิม และอ.นองโดยแท้ พุทธคุณพระหลวงพ่อทวดที่ท่านสร้างสุดยอดจริง คนในพื้นที่เขาทราบดี โดยเฉพาะชาวตำบลนาประดู่ และอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ครับ

เหรียญรุ่นแรก ปี 49
กำลังมาแรงในพื้นที่ หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ท่านพล วัดนาประดู่ปัตตานี เนื้อว่านยุคแรกๆๆ ผสมว่าน 97 หลังแร่ พ่อท่านพลแกะพิมพ์พระ และกดเอง กับมือทุกองค์ครับ พระของท่านสร้างแจกเท่านั้น ไม่มีจำหน่าย เคยมีเซียนใหญ่หลายคนไปขอสร้างพระในวัด แต่ท่านไม่ให้สร้าง

ทายาทอาจารย์ทิม วัดช้างให้ คือใคร?
เป็นที่ยอมรับกันว่า พระครูวิสัยโสภณหรืออาจารย์ทิม คือ ต้นตำหรับของการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด แต่ในความสำเร็จนั้นย่อมมีที่มาและเกี่ยวเนื่องกับบุคคคอื่น
เป็นที่ยอมรับกันว่า ปรมาจารย์สำคัญในการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแห่งวัดช้างไห้นั้น มีอยู่สามรูป คือ

พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิมแห่งวัดช้างไห้) อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

พระราชปัญญารังสี (เนื่อง) เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

พระครูธรรมกิจโกศล (นอง) เจ้าอาวาสวัดทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

ทั้งสามท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านที่มีต่อพระพุทธศาสนานั้นเหลือคณานับ พระราชปัญญารังสี (เนื่อง) นั้นเป็นหลานของอาจารย์ทิมและอาจารย์นองนั้นเป็นศิษย์และเป็นหลานผู้สืบทอด วิทยาการ

โดยเฉพาะพระครูวิสัยโสภณหรืออาจารย์ทิมนั้น ท่านเป็นพระวิปัสสนาญาณสูง สมาธิแก่กล้าสามารถนิมิตเห็นเรื่องราวได้ พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแห่งวัดช้างไห้รุ่นแรก จึงเป็นประติมากรรมที่ได้เกิดจากการดลใจของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

การปลุกเสกพระ เครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้างไห้ กระทำพิธีปลุกเสกมีเพียงอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างไห้เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสก อาจารย์นองเป็นเพียงพี่เลี้ยง ไม่มีคนอื่นมาร่วมพิธี

พิธีที่เข้มขลังมีเพียงเท่านี้จริงๆและไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก จึงนับเป็นการปลุกเสกท่ามกลางธรรมชาติ

ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ทิมมีอยู่หลายคนแต่ที่ใกล้ชิดที่สุด คือ อาจารย์นอง หรือพระครูธรรมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดทรายขาว และ พระราชปัญญารังสี เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ เพราะมีศักดิ์เป็นหลานของอาจารย์ทิม ในระหว่างบวชอยู่ที่วัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และได้ติดตามอาจารย์ทิมไปช่วยบูรณะวัดช้างไห้มาโดยตลอด

พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ปลุกเสกโดยอาจารย์นองหลังจากอาจารย์ทิมไดมรณภาพไปแล้ว

ท่านเจ้าคุณพระราชปัญญารังสี (เนื่อง จันทพิมล) อดีตเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว เมื่อ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๓๕ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอาจารย์ทิมเช่นเดียวกัน บวชร่วมกันที่วัดนาประดุ่ แต่ได้แยกจากกันเมื่ออาจารย์ทิมไปจำพรรษาที่วัดช้างไห้ แต่ท่านเจ้าคุณยังจำพรรษาอยู่ที่วัดนาประดู่มาโดยตลอด แต่ก็มีส่วนร่วมในการสร้างพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมา ด้วยเช่นเดียวกัน

อาจารย์พล อาสโภ หรือ พระครูอาทรศุภการ เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ในปัจจุบัน ชาวบ้านเรียกท่านว่า ท่านพล ท่านมีศักดิ์เป็นหลานตาของอาจารย์ทิม ติดสอยห้อยตามอาจารย์ทิมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งบวชเณรที่วัดนาประดู่ เป็นผู้หนึ่งที่ช่วยอาจารย์ทิมพิมพ์พระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำ ทะเลจืด เนื้อว่านรุ่น พ.ศ. ๒๕o๔ เพื่อมอบให้แก่ผู้ศรัทธาที่บริจาคเงินสร้างกำแพงวัดนาประดู่

ในขณะเดียวกัน อาจารย์ทิมก็ได้มอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินงานการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อปาน อดีตเจ้าอาวาสวัดนาประดู่ขึ้น ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาศวัดนาประดู่

ทุกครั้งที่มีการปลุกเสกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้าง ไห้ ท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญทีเดียว เพราะท่านเป็นทายาทคนสุดท้ายของอาจารย์ทิมที่มีภูมิรู้ในการสร้างและปลุกเสก พระเครื่องสายตรงจากอาจารย์ทิมเช่นเดียวกับอาจารย์นอง

ท่านพลเป็นพระที่พูดน้อย แต่พูดไพเราะ เคร่งครัดพระธรรมวินัยมีความสามารถในทางช่างไม้และแกะสลัก ท่านสามารถสร้างแบบพิมพ์พระเครื่องได้ด้วยตัวเอง แม้กระทั่งแกะพระด้วยมือก็สามารถทำได้

ด้วยความสามารถดังกล่าว จึงได้รับมอบหมายจากอาจารย์ทิมให้สร้างสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างไห้ จำนวนสองพันองค์ เพื่อมอบให้แก่ญาติโยมที่บริจาคเงินสร้างกำแพงวัดนาประดู่และสร้างพระ เครื่องหลวงพ่อปาน อดีตเจ้าอาวาศวัดนาประดู่

ถัดจากนั้นในปีพ.ศ. ๒๕๓๔ ได้สร้างสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างไห้ รุ่นอนุสรณ์อินเดีย ต่อมาปีพ.ศ. ๒๕๓๙ สร้างพระเครื่องเนื้อว่านรุ่นเสาร์ ๕ คือ พระสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และ พระเครื่องหลวงพ่อปานวัดนาประดู่พิมพ์สี่เหลี่ยมเนื้อว่าน

พระทุกพิมพ์ออกแบบพิมพ์เอง ปลุกเสกเองอย่างต่อเนื่องทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นต้นไป

พระเนื้อว่านองค์ที่นำมาให้บูชานี้ ท่านกดพิมพ์เองทุกองค์ ด้านหลังโรยแร่ มีส่วนผสมของมวลสารปี 2497 ที่ท่านอาจารย์ทิมมอบให้แก่วัดนาประดู่ ที่เก็บไว้ใต้ฐานพระประธานของวัดนาประดู่ ปัจจุบันวัดของท่านจะมีชาวต่างชาติ เช่น มาเลย์ และสิงค์ไปร์ นิยมเข้ามาเพื่อบูชาพระหลวงปู่ทวดที่สร้างที่วัดนี้ และนำกับไปบูชาที่ต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก เคยมีคำกล่าวว่า "มีผู้ไปขอสร้างพระหลวงพ่อทวดกับท่านแต่ท่านปฏิเสธหมดครับ จริงๆ แล้วท่านดังตั้งนานแล้ว ครับ แต่ท่านอยู่อย่างพอเพียง สมถะ ไม่โอ้อวด แม้จะเป็นสายตรงหลวงพ่อทวดก็ตาม คนมาเลเซีย มาเช่าหาหลวงพ่อทวดของท่านมาก นะครับ คนไทยบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ครับ นี่คือเรื่องจริง" พระดีๆ ไปอยูมาเลย์ ก็มากครับ พระที่วัดนาประดู่ที่พ่อท่านพลสร้าง ราคาไม่แพง ไม่มีพุทธพาณิชย์มาเกี่ยวข้อง จึงไม่ค่อยมีเซียนเชียร์ ราคาเช่าหาในตลาดจึงไม่ค่อยแพง แต่พุทธคุณสูงจริงๆ เหมือนวัดช้างให้ทุกประการ อีก 1 วัดที่แขวนขึ้นคอได้อย่างสนิทใจครับ ถ้าไม่ดีจริง คงไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาบูชาพระที่วัดท่านจำนวนมากแต่ละปี

พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์เตารีด อาจารย์พล วัดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มีส่วนผสมของมวลสารปี2497ครับ

​

ให้บูชาองค์ละ 1,250บ.ครับ

 

จองคับท่านน

 

รับทราบครับท่าน น่าบูชามากเลยครับผม

 

​

หลวงปู่แก้ว วัดสะพานไม้แก่น เทพเจ้าแห่งป่าช้าควนข้าวแห้ง ดินแดนที่ร่ำลือกันว่าผีดุ

หลวงปู่แแก้ว พื้นเพเดิมท่านเป็นคน บ้านฉาง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ท่านเป็นศิษย์ของ พระครูวิรัชโสภณ หรือ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์
ท่านออกธุดงควัตรมาตั้งแต่สมัยเป็นพระหนุ่ม บางครั้งก็แวะจำพรรษาตามป่าช้าในวัดต่างๆ จนเวลาล่วงเลยมาหลายปี
ร่างกายท่านไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ท่านจึงตัดสินใจจำพรรษา ที่วัดสะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา
หลังจากที่ท่านมาจำพรรษาที่วัดสะพานไม้แก่น ท่านได้พัฒนาอารามแห่งนี้จากสำนักสงฆ์เล็กๆ ให้กลายเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในเวลาเพียงไม่กี่ปี

ปัจจุบันท่านอายุกว่า 100 ปี ถือได้ว่าท่านเป็นเกจิซึ่งบรรลุญาณวิเศษ แก่กล้ามหาเวทย์พุทธาคมและไสยศาตร์

วัตถุมงคลของหลวงปู่แก้วมีพุทธคุณเข้มขลังในทางมหาอุดคงกระพัน และแคล้วคลาด
เกิดประสบการณ์มากมายจากเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้
ชาวไทย และชาวมาเลเซียต่างเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านมากมายครับ

เหรียญ รุ่นแรก หลวงปู่แก้ว "เทพเจ้าป่าช้าควนข้าวแห้ง" จ.สงขลา รุ่น สยบมาร ปี 2545 เนื้อทองแดงเถื่อน ผสมทองแดงยอดพระธาตุ ชนวนพระปิดตาพังพะกาฬ และปลอกกระสุนปืนสงคราม โลหะอถรรพเวทโครตขลัง ตอกโค๊ตที่สังฆาฎิ พระเกจิ ซึ่งบรรลุญาณวิเศษ แก่กล้ามหาเวทย์พุทธาคมและไสยศาตร์ พระเครื่องของท่านเกิดประสบการณ์มากมายหยุดปืน หยุดระเบิด สะกดพลังสยบภูต ผีปิศาจจอมมารร้ายกระทั่งสัตว์ป่าอสรพิษ เหรียญดีมีประสบการณ์ จากเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้มาแล้ว

​

เหรียญที่1 *ปิดรายการนี้ครับ

ประสบการณ์จากวัตถุมงคลของหลวงปู่ครับ
พ่อค้ายางพาราโดนคนร้ายใช้ M16 ยิงถล่มพรุนทั้งรถ แต่รอดตายมาได้ครับผม

​