บางครั้งเนี่ยการออกงานสังคมเพื่อทำงานกับเจ้านายเราต้องผิดศีล 5 !!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 2 ตุลาคม 2013.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ถ้ากินเหล้า เบียร์ ไวน์ มันผิดแน่นอนแหละครับ ศีล 5

    แต่ถ้าเกิดในอนาคตผมมีความจำเป็นจริงๆไม่สามารถกินแป๊บซี่แทนได้หรือน้ำเปล่าได้ ถ้าพยายามจิ๊บสุรานิดๆ แต่ไม่ให้เมา หรือจิ๊บไวน์นิดๆ เพื่อเป็นการป้องกันการขาดสติที่สุด แบบนี้จะบาปน้อยกว่าคนที่กินเหล้าเมายา เสเพล ทำร้ายผู้อื่นไหมครับ แล้วเยอะไหมครับ

    ปล.แต่ถ้าหลีบเลี่ยงได้ผมก็หลีกเลี่ยงสุดๆแหละครับ

    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ
     
  2. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ใช้วิธีบอกเค้าว่าเราแพ้แอลกอฮอล์ครับ กินไม่ได้เลย
     
  3. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ถ้าไปงานเลี้ยงบริษัทก็ต้องทำใจครับ นิดๆ อย่าให้เมา กลับมาบ้านก็ค่อยขอขมาพระรัตนตรัย แล้วอาราธนาศีล5 ใหม่

    แต่ถ้าเป็นคนที่รับยันต์เกราะเพชรมา หยดเดียวก็ไม่ได้ ไม่งั้นยันต์เสื่อม
     
  4. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ก็บอกเจ้านาย ไปตรงๆๆเลยครับ ว่า.. ไม่กิน
    เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองนะครับ
     
  5. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    มารคืออะไร
    คำว่า “มาร” หมายถึงสิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากความดีหรืออุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้บรรลุความดี

    บารมี ๑๐
    • ทาน ได้แก่ การให้ การเสียสละ

    • ศีล ได้แก่ การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย มีความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย

    • เนกขัมมะ ได้แก่ การออกบวช การปลีกตัวปลีกใจจากกาม

    • ปัญญา ได้แก่ ความรอบรู้ ความหยั่งรู้ เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง

    • วิริยะ ได้แก่ ความเพียร ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่

    • ขันติ ได้แก่ ความอดทน ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประพฤติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบ ไม่ลุอำนาจกิเลส

    • สัจจะ ได้แก่ ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ

    • อธิษฐาน ได้แก่ ความตั้งใจมั่น การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่วแน่

    • เมตตา ได้แก่ ความรักใคร่ ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ

    ๑๐.อุเบกขา ได้แก่ ความวางใจเป็นกลาง ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอเที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้ายหรือชอบชัง

    บารมีนั้น ท่านกล่าวว่าจะบำเพ็ญให้บริบูรณ์ต้องครบ ๓ ขั้น คือ
    • บารมี คือบารมีระดับสามัญ เช่น ทานบารมี ได้แก่ ทรัพย์สินเงินทอง สมบัตินอกกาย
    • อุปบารมี คือบารมีระดับรองหรือจวนจะสูงสุด เช่น ทานอุปบารมี ได้แก่ การเสียสละอวัยวะเป็นทาน
    • ปรมัตถบารมี คือบารมีระดับสูงสุด เช่น ทานปรมัตถบารมี ได้แก่ การสละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น

    เมื่อต้องการสร้างบารมีทั้ง 10 หรือ ด้านใดด้านหนึ่ง มันก็ต้องมีมารมาขวางอยู่แล้ว ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกถือศีล 8 ใช่ไหม มันก็ถูกต้องแล้วไง ที่มารก็มาขัดขวาง คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วว่าจะสู้หรือถอย

    ในแวดวงของสังคมไทยระบบระบบอุปถัมภ์ได้ฝังรากหยั่งลึกหลายร้อยหลายพันปี ด้วยมีความคิดว่านี้พวกข้านั้นพวกเอ็ง เริ่มแรกเขามาชวนกินเหล้า ภายภาคหน้าไปเขาก็มาชวนคดโกง อยู่กับเขาไม่ได้ก็ไม่มีอนาคต มันก็เป็นไปตามขั้นของบารมีนั้นเอง ถ้าไม่กลัวตายเอาชีวิตเข้าแลกกับความถูกต้องก็กลายเป็นปรมัตถบารมี ตอนนี้ยังเรียนอยู่และอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเริ่มสั่งสมบารมี บททดสอบที่ท่านอาจารย์มารให้ก็ง่ายหน่อย
     
  6. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    สรุปแล้วไม่ว่าจะดื่มมากดื่มน้อยก็ผิดศีลทั้งสิ้น

    ให้แสดงเจตนาและบอกตรง ๆ ไปเลยว่าไม่ดื่ม
    ดีกว่าเลี่ยงบาลีดีไม่ดีผิดข้อมุสาเข้าไปอีก

    ผมก็ไม่ดื่ม ไปงานไหน ๆ ก็บอกตรง ๆ ว่าไม่ดื่ม
    แรก ๆ ก็ได้ยินเสียงแซวบ้าง เสียงว่ากระทบมาบ้าง
    ก็เฉย ๆ บางทีก็หยอกกลับว่า "ไม่ดื่มก็ดีแล้วจะได้ไม่มีคนแย่ง"

    เมื่อประพฤติเป็นประจำเขาก็จะรู้เอง
    แม้แต่ไปร่วมกับกลุ่มอื่น ๆ หากมีคนในคณะเดียวกันอยู่ด้วย
    เขาจะคอยบอกเพื่อน ๆ ที่มาใหม่ให้รู้ว่า "คนนี้ไม่ดื่ม"

    เราก็อาจจะหยอกนิดหยอกหน่อยทีเล่นทีจริงว่า
    "คนที่ดื่มมักไม่ค่อยมีคนกินกับแกล้ม
    จะคอยกำจัดกับแกล้มให้จะได้ไม่เหลือทิ้ง"

    แต่ส่วนใหญ่พอไม่ดื่มก็ไม่ค่อยได้ออกงานสังคมเท่าไหร่
    สุดท้ายมันก็เบื่อ ๆ ไปเอง คนที่รู้เขาก็ไม่ค่อยเชิญเพราะเกรงใจเรา
    ที่ต้องไปอยู่ร่วมโต๊ะกับเขา
     
  7. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เพื่อนวิศวกรฝรั่งคนหนึ่งนับถือพุทธ เ ขาประพฤติศีล๕มั่นคง บ่อยครั้งต้องเดินทางไปติดตั้งเครื่องจักรกลในประเทศต่างๆนานๆ ..

    ครั้งหนึ่ง ไปไต้หวัน หลังจบงาน เจ้าของโรงงานเชิญไปเลี้ยงอาหารเย็นที่เรสตัวรองหรู..เจ้าของโรงงานถามเขาว่าจะดื่มเบียร์หรือวิสกี้ ...เขาตอบว่าน้ำเปล่า เจ้าของโรงงานถามเขาว่าทำไมไม่ดื่มเหล้า.(มีเพื่อนวิศกรอื่นๆร่วมด้วยและทุกคนสั่งเบียร์)..ผมถือศีล๕ตามคำสอนในพระพุทธศาสนา..โอววาว น่าสนใจมาก ศีล๕ มีอะไรมั่ง เกิดมาไม่เคยได้ยินเลย..ฝรั่งได้โอกาสบรรยายศีล๕..แล้วสรุปตบท้ายว่า..


    ."เมื่อดื่มสุราแล้ว สติสัมปชัญญะย่อมเสียไป เป็นเหตุให้ฆ่าคนอื่นได้ หยิบฉวยของคนอื่นมาโดยไม่ได้รับอนุญาตได้..เที่ยวนอกใจภรรยาได้ ..กล่าวเท็จได้..และขาดปัญญาทำได้แต่สิ่งน่าละอายเสียหายได้ทุกอย่าง..ไม่มีขีดจำกัด .."

    พอบรรยายจบ ฮูหยิน(ภรรยาเจ้าของโรงงาน)ยิ้มกว้างขวางเเสดงความชื่นชมฝรั่ง. ..เม้นท์ว่า "..มิน่าล่ะ ยูจึงดูหนุ่มกว่าอายุมาก(ข้อนี้มีคนอื่นจำนวนมากรับรองเพราะคนอายุรุ่นเดียวกันที่ดื่มสุราหน้าแก่ตาแดงดูโทรมกว่าเขาเยอะ!)..

    ฮูหยิน :"เอ้อ แล้วยูแต่งงานละยัง?."...ฝรั่งตอบ แต่งมาได้๒๐ปีแล้ว..

    ฮูหยิน : เอ๊ะ แล้วเวลายูต้องไปทำงานต่างแดนนานๆ เมียยูไม่มีปัญหากังวลอะไรๆบ้างหรือ..?? .(.ฝรั่งเดินทางคนเดียว เมียดูแลลูกเล็กอยู่บ้าน)

    ฝรั่ง: ผมกับเมียเป็นพุทธอยู่กันด้วยศีลนี่แหละ คนเราถ้าขาดศีลเสียแล้ว ความไว้วางใจหรือซื่อสัตย์ต่อคู่ครองก็มีไม่ได้ จนป่านนี้แม้ผมจะเดินทางไปทำงานครั้งละนานๆ มี๓-๙เดือนเป็นประจำ ก็ยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องนอกใจกันเพราะต่างกลัวไปเกิดเป็นกะเทยหรือเป็นสัตว์เดรัจฉานจับใจ...

    ฮูหยิน :..วาว วาว วาว ..อะเมซิ่งจริงๆ..(หันไปค้อนปะหลับปะเหลือกเสี่ยสามี พลางว่า)...ดูสิเฮีย ฝรั่งคนนี้ทำได้ถึงขนาดนี้..เฮียควรเอาอย่างเขานะ...(ค้อนปะหลับปะเหลือกอีกหลายตระลบ ด้วยความคับแค้นใจในนิสสัยเจ้าชู้ของเสี่ยที่คงมีอีหนูรอบบ้าน..!)..

    เสี่ย :..ยิ้มแห้งๆ (ดูไม่ค่อยอินกะศีล๕เท่าไรเลย...หน้าแตกไปบางส่วนเพราะถูกฮูหยินตักเตือนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนั้น)..กล่าวชมฝรั่งว่างานติดตั้งเครื่องจักรนั้นเรียบร้อยเพอร์เฝ็กมาก...แท็งค์กิ้วมากนะ.(วันนั้นแกจิบเบียร์ยังไม่ถึงครึ่งแก้วเลย อันเป็นสิ่งผิดวิสัยเสี่ยยิ่งนัก..)...

    ฝรั่งมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังฟังบอกว่า นี่เเหละพลังของศีลยังแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วย อย่างน้อย เสี่ยคงคิดถึงสิ่งที่ได้ฟัง บ้างไม่มากก็น้อย..บางที ฮูหยินจะช่วยเตือนความทรงจำดีๆนี้ให้เสี่ยได้หลายครา ใครจะรู้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  8. นาย หวังดี

    นาย หวังดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,272
    ก็บอกไปว่ารักษาศิลไม่กินครับ แค่นั้นจบคิดไรมากมาย
     
  9. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ตอบห้วนไป เดี๊ยวเงินเดือนไม่ขึ้นนะ ขอบอก
    โดนมาแล้ว อิอิ
     
  10. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ก็บอกไปสิครับ แพ้เหล้าเบียร์ ทานไม่ได้ เป็นโรคอะไรก็ว่าไป ปวดหัวมาก ท้องเสีย ฯลฯ
    ไม่ใช่โกหก แต่ผมเป็นจริงๆ ใครกินก็เป็นทั้งนั้น คุณก็เลือกเอาอาการไหนบอกไปว่า แพ้กินไม่ได้เลย ขนาดได้กลิ่นยังเวียนหัว
     
  11. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ผมว่าหัวหน้าจะรักเราและไว้ใจเรา มากกว่านะ ถ้าเจ้านายไปกินเหล้า เราไม่กินเราขับรถส่งนายกลับบ้านได้ เราไม่กินเหล้าไม่เมาสุรา เรามีสติ พุดจาอะไรก็น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ การงานที่มอบหมายสำเร็จเสร็จตามเป้าหมาย เพราะ มาทำงานตรงเวลา ทำงานด้วยสติที่รอบครอบ มีแต่ความก้าวหน้า โลด
     
  12. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ที่จริงก็ไม่อยากกินหรอกครับ แต่ก็กลัวเงินเดือนไม่ขึ้น 5555+

    จะพยายามเลี่ยงแบบสุดๆเลยแหละครับ แต่เคยเห็นรุ่นใหญ่ๆที่เขาทำงานกันเขาไปงานเลี้ยงบริษัทที่ผับเงี้ย แป๊บซี่นี่เป็นสิ่งหายากจริงๆครับ

    อันนี้ตามตรงเลยแหละ อิอิ

    เล่าสู่กันฟังครับ ^_^
     
  13. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    Coca Cola ผสมน้ำเปล่า สีจะใกล้เคียง

    โขงเบ้ง..!

    [​IMG]
     
  14. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    สำนักนาป่าถึกเค้าสอนกันว่า พระโสดาบันดื่มเหล้าได้ เหอะ เหอะ เหอะ
     
  15. ปรมัตถนาม

    ปรมัตถนาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +70
    อย่างนี้เสมือนตีหนูให้งูกิน เพราะจขกท.ต้องการรักษาศีล 5 ครับ หากกลัวผิดศีลข้อสุรา โดยการผิดศีลข้อมุสา ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับเพราะผิดศีลอยู่ดี.....

    บอกไปตรง ๆเลยครับ "ผมถือศีล" คนที่ไม่ชอบคุณหรือไม่พอใจคุณนั่นก็แสดงว่าเค้าเป็นคนไม่ดีครับ คนที่ชื่นชมคุณนั่นก็แสดงว่าเค้าเป็นผู้มีปัญญา (จะดีหรือไม่ดีนั่นอีกเรื่อง) สำหรับผมอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่กินเหล้าทุกคน และจะคะยั้ยคะยอให้ผมกินประจำ แต่ผมพูดคำเดียวว่า "แค่พวกนายกินเหล้านั่นก็บาปแล้ว ยังจะบังคับหรือส่งเสริมให้คนถือศีลกินอีกหรอ บาปสุด ๆเลยนะนั่น" แค่นี้ครับง่าย ๆหยุดทันทีไม่กล้าชวนอีก แถมเพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักผมมาชวนกินเหล้า เพื่อนคนอื่นจะรีบบอกแทนให้ทันทีครับ บ้านเราเมืองพุทธ เกือบทุกคนจะรู้จักศีล 5 พูดไม่ยากหรอกครับ อีกอย่าง ถ้าคุณกลัวงานไม่ก้าวหน้านะครับ นั่นคุณคิดผิดถนัดเลยครับ ลองคิดกลับกันถ้าคุณเป็นเจ้านายและมีลูกน้องที่ถือศีล (แปลว่าเค้าเป็นคนดี) กับลูกน้องที่ไม่มีศีลมีธรรม คุณจะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าครับ การที่เราถือศีล มีธรรมะ ทำความดี เป็นคนดีเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมินะครับ มีแต่คนเลื่อมใสศรัทธาครับ (ยกเว้นคนเลว) ขออนุโมทนากุศลแห่งการถือศีลของคุณนะครับ รักษาให้มั่นไว้ให้ได้ครับ
     
  16. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    บางครั้งความเถรตรงเกินไปอาจกลายเป็นดาบสองคม จนกลายเป็นคนมีอัตตาสูง เอาอีโก้มาถือศีลแทนใจ

    เมื่ออยู่ในสังคมของคนประมาท หากขาดไหวพริบปฏิภาณในจุดมุ่งหมาย ไม่รู้จักผ่อนผันสั้นยาว
    ไม่แน่ว่าจะถูกเจ้านายคนประมาท เกิดอาการโกรธไหลย้อนเข้าได้
    การถือศีล งานอาจจะเข้าขึ้นเป็นกอง ให้เสี่ยงต่อการละเมิดศีลธรรม โดนลองของ

    ในยุคนี้ เพราะสังคมของคนประมาทมีอยู่เยอะแยะ ในเกือบทุกองค์กร อย่าได้ใฝ่ฝันเป็นใหญ่เป็นโต นั่งเก้าอี้หรู

    เพราะจะต้องเสี่ยงในการตอดเล็กตอดเยอะ ในเรื่องงบประมาณ เบิกจ่ายรายทาง
    ตกอยู่สถานะการณ์ภาวะใจจำยอม ทั้งที่รู้ว่าผิด
    จนกลายเป็นความเคยชินช่ำชองในพฤติกรรมเลี่ยงไม่ได้ ในข้อครหา "อทินนา.." โดยไม่รู้ตัว

    หากจะบำเพ็ญศีลบารมีกันจริงๆ เพื่อให้ถึงเข้า "ศีลเลนะ นิพพุติง ยันติ" มีข้อความว่า

    "ฆราวาสนั้น เป็น ที่คับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี
    ส่วนการบรรพชาเป็นโอกาสที่สว่าง
    เราพึงปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาดจากรากไม้
    ออกจากเรือน บวชเป็นผู้ไม่มีประโยชน์เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด"

    หรือหากจะบำเพ็ญศีลบารมีถือศีลพรต คุณก็ต้องอยู่ป่า เป็นฤาษีชีไพร ไปเลย

    อย่างที่กล่าวไป เราอยู่ในสังคมของคนประมาท ทั้งที่ตนเองก็ยังประมาทอยู่เยอะ

    เราจะถือศีลพรตแบบเถรตรงเกินไป ทั้งที่ใจไม่มีเจตนา โลกไม่ช้ำธรรมไม่ขุ่น เราจะทำอย่างไร
    ลองมาดูในไหวพริบปฏิภาณ "สมเด็จพระนารายณ์มหาราช" ในยุคล่าอาณานิคม
    เพื่อจะให้เข้ารีตคริสตจักร พระองค์ตอบไว้ว่าอย่างไรกับชาวคริสต์

    "การที่ผู้ใดจะนับถือศาสนาใดนั้น ย่อมแล้วแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ จะบันดาลให้เป็นไป
    ถ้าคริสต์ศาสนาดีจริงแล้ว และเห็นว่าพระองค์สมควร ที่จะเข้าเป็นคริสตศาสนิกชนแล้ว
    สักวันหนึ่งพระองค์ จะถูกดลใจให้เข้ารีตจนได้"

    แน่นอน ศาสนาพุทธชี้ทางให้เชื่อในเรื่องกรรมการกระทำ การมีพระเจ้ามาดลบันดาลให้ในสิ่งต่างๆ
    ดูจะเป็นการเห็นผิดจากคลองธรรม แต่นั่นเป็นปรีชาญาณ ในการย้อนเกล็ด สรรพคุณของคริสต์

    แผนการยึดเมืองไทยของฝรั่งเศส โกรธไหลย้อน ก็เลยไม่เกิดขึ้น
    ปืนใหญ่ก็เลยไม่ตู้มต้าม ทั้งได้สัมพันธไมตรี บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น พูดๆง่ายคือได้ใจฝรั่ง
    ทั้งยังรักษาเมืองไว้ได้ การค้าเจริญรุ่งเรือง ชาวประชามีสุข

    เป็นชาวพุทธ เรามีหลักคำสอนให้พากันละ โดยไม่บังคับเป็นกฏหมาย

    มันก็เลยเป็นวัฒนธรรมของการมอมเมาสังคมใต้โต๊ะ ส่งส่วยส่งเสริมบรรณาการ มิจฉาชีพผิดมรรคผิดทาง

    ในเรื่องน้ำเมา น่าอายชาวมุสลิมอิสลาม ซึ่งไม่เกี่ยวกับใบกระต๊อบ
    มันเกี่ยวกันที่ โคผู้นำฝูง ผู้นำองค์กรเป็นคนดีมีศีลธรรม บริวารก็มีศีลธรรม
    ก็พากันข้ามฝั่งไปได้สบายๆ ไม่เยื้อแย่งแข่งขัน

    บำเพ็ญศีลพรต ก็ต้องละศีลพรต ต่อพวงดอกไม้แห่งมารในกามคุณทั้ง5
    นั่นแหละศีลจึงจะบริสุทธิ์ ได้ด้วยอายตนะ คือใจที่มั่นคง

    ล่ะโขงงเบ้งงง..! Coca Cola

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2013
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทำอะไรต้องศึกษาดูสถานการณ์ให้ดี แม้เราจะรู้ดีว่าจิตเราไม่ข้องแวะในอบายมุขเหล่านั้นแล้ว

    แต่การที่เราอยู่ในสังคม โดยเฉพาะหน้าที่การงานเพื่อเราจะได้ทำงานอย่างไม่ติดขัดหรือมีปัญหา จึงควรศึกษาจิตวิทยาของเจ้านาย ลูกค้า แขก ลูกน้อง คนรอบข้างที่เกี่ยวข้อง เมื่อรู้ใจเขาเหล่านั้นแล้ว เราก็ควรมีปัญญาฉลาดมากพอในการที่จะพูดบอกความจริงไปว่า เราไม่สามารถดื่มเหล้าได้ ไม่มีใครตำหนิหรือเลิกคบเราเพราะเราไม่ดื่มเหล้าเหมือนเขาหรอกครับ แต่วิธีการอื่นๆความจริงใจและเป็นมิตรอื่นๆคือวิธีการที่ต้องมีและเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาไว้ซึ่งสัมพันธภาพที่ดี

    จำไว้นะครับไม่ว่าเราจะทำอะไร เราต้องรู้ว่า
    1 เราละกิเลสของเราถูกต้องดีงามตามที่ควรจะเป็นหรือยัง
    2 หากจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งไม่ดีอบายมุข ต้องคิดให้รอบคอบว่าจะหลบหลีกอย่างไร และต้องรู้ว่าควรฉลาดคิด พูด และทำอย่างไร เพื่อบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ในบางครั้งเราก็ไม่ควรจะไปกล่าวตำหนิ ผู้อื่นอาจเป็นการกล่าวที่ผิด กาละ เทศะ และบุคคลได้ จะเกิดโทษแก่เรา
    3 ต้องเข้าใจและยอมรับกับสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนควบคุมไม่ได้
    4 สุดท้ายหากไม่สามารถแก้ไขอะไรใดๆได้ และพิจารณาดูแล้วว่าสังคมการทำงานที่นี่เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยวาง
    5 หากพิจารณาโดยรวมแล้วสภาพแวดล้อมไม่ดีงานไม่ดี คนไม่ดี เงินไม่ดี สวัสดิการไม่ดี ก็ควรหาแหล่งที่ทำงานใหม่ครับ อย่าไปเสี่ยงเดินอยู่บนปากเหวเพราะท่านอาจพลาดตกลงเหวได้อุปมาว่า
    หากมีพนักงานที่เป็นคนดีเป็นสามีที่ดีรับผิดชอบครอบครัวดีมาก ไม่เคยดื่มสุรา แต่มีงานเลี้ยงบริษัท สังคมที่ีทำงานต้องดื่มสุรา ก็เลยต้องดื่ม เพราะขัดไม่ได้เพราะขาดปัญญาแก้ไข แต่การดื่มสุราครั้งแรกครั้งเดียวทำให้ ตอนขับรถกลับบ้าน ด้วยสุราที่ดื่มไปทำให้ขาดสติ รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าทำให้ด้าหน้าของรบยุบมากระแทกกับลำตัวและขาหักกระดูกแตกช่วงหัวเข่า ทำให้ต้องขาพิการ กลายเป็นโศกนาฏกรรมของเขาอันเป็นบทเรียนที่ล้ำค่า ชีวิตคนเราทำผิดแค่ครั้งเดียวก็ตายได้ พิการได้ สูญเสียได้ไม่มากก็น้อยทั้งชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน ดังนั้นจึงไม่ควรประมาทครับ เพราะมันไม่คุ้มกันเลยครับ

    เช่นนั้นทุกวันนี้ทุกย่างก้าวของชีวิต จะทำอะไรจึงควรคิดตริตรองให้มากๆนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2013
  18. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    ��纵��ҡ��ҹ����º���� ������͹����¹ ���� - ˹�� 6 - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع
     
  19. palati

    palati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +432
    เป็นวิธีเลี่ยงที่ดีที่สุดครับ และอย่ากลัวว่าจะผิดศีลข้อมุสาเลยครับ เพราะแม้เราจะตอบเลี่ยงแบบนี้แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้พูดเท็จเพื่อหวังให้ผู้อื่นเสียหายแต่อย่างใด ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดครับ เห็นด้วยครับผม
     
  20. อริยะบุคคล

    อริยะบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +476
    เคยได้ยินว่าสมเด็จพระพุทธาจารย์โตก็เคยลองดื่มเหล้า เพราะสงสัยว่ามันดีอย่างไรทำไมคนต้องดื่มกินกันนัก ท่านดื่มจนเมาสุดท้ายท่านเข้าใจและก็ไม่ดื่มอีก การถือศีลไม่ได้อยู่ที่ตัวหนังสือที่บัญญัติครับ แต่ให้นับถือที่ใจ แม้ท่านดื่มแต่มีสติหรือเพื่อสุขภาพก็ไม่ผิดศีลครับ ทุกวันนี้บางอาชีพต้องเลี้ยงรับรองลูกค้า ต้องพาไปอาบน้ำ สารพัดทางอบายแต่ถ้าเรายึดมั่นในศีลไม่ตึง ไม่หย่อนเกินไป ก็สามารถใช้ชีวิตทางโลกได้ครับ แต่ถ้าชีวิตต้องเจอคู่แข่งที่เขากิน ดื่ม เที่ยว ตอนนี้แหละเขาเรียกว่าธรรมลองใจ คือถ้าไม่ตามกันชีวิตการงานอาจไม่รุ่ง ตอนนี้ต้องเลือกว่าอยากเวียนว่ายตายเกิดต่อไปหรืออยากออกจากตรงนี้ ชีวิตไม่ง่ายอยู่ที่เป้าหมายครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...