ถามเรื่องเกี่ยวกะการใช้wi-fi หน่อยครับ

คือ บ้านข้างๆเค้าปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ต +wi-fi มา แล้วผมก้ไปใช้โดยที่ไมได้ขอเจ้าของบ้านข้างๆ โดยการใช้นั้นใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ แต่ใช้แค่แป๊ปเดียว จะถือเป็นการผิดศีลข้อ 2 ห้ามลักทรัพย์ หรือไม่ ช่วยตอบหน่อยนะครัช ประมาณว่าไปแอบเขาใช้นั้นหละ -..-

 

เป็น

เป็น ขาดตั้งแต่ คิด แล้วลงมือทำ จนสำเร็จแล้ว

ทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้

ง่ายๆนะ เจ้าของไม่ได้ให้ ไม่ได้อนุญาติ ครับ


ยกตัวอย่างเช่น มีโทรศัพท์ หรือ คอมพิวเตอร์ แอบไปต่อไฟฟ้าใช้ ในสถานที่ต่างๆ ที่เค้าไม่ได้อนุญาติ ตามร้านต่างๆ ตึกต่างๆ หรือสถานที่ต่างๆนาๆ

ขาดกระเด็นครับ

.

 

เขาคงอยากเผื่อแผ่มั้งครับ เพราะไม่ได้ใส่รหัสไว้ ผมว่าเล็กน้อยมาก เรื่องขี้ปะติ๋ว

 

อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับเพื่อนบ้านเจ้าของสัญญาณ ถ้าเค้ามีเจตนาเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ใช้ร่วมกับเค้า
คุณporozazaก็ไม่บาป

แต่ถ้าเพื่อนบ้านคนนั้นเผลอหรือตั้งค่าในเร้าท์เตอร์ผิด(ซึ่งโอกาสน้อยมากๆเพราะช่างจะเป็นคนเซ็ตค่าเร้าท์เตอร์ให้ในการติดตั้งครั้งแรก) ไม่ได้ตั้งใจเผื่อแผ่สัญญาณ ก็ เข้าข่ายในการผิดศีลข้อลักทรัพย์ ส่วนมากการไม่ใส่รหัสป้องกัน จะเป็นเพราะ การแชร์สัญญาณไวไฟระหว่างเครื่องคอมกับอุปกรณ์อื่นๆมันมีปัญหา คืออุปกรณ์อื่นเช่น มือถือ เครื่องเกม โน๊ตบุ๊ค มันไม่สามารถเชื่อมต่อได้เนื่องจากเกิดปัญหาจากระบบถอดรหัสสัญญาณไวไฟ ก็เลยต้องปิดการเข้ารหัส เพื่อตัดปัญหา ซึ่งการตั้งค่าตรงนี้ค่อนข้างยุ่งยากนิดนึง

ความบาปมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่า ขณะที่คุณใช้สัญญาณร่วมกับเพื่อนบ้าน คุณได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับเค้ารึป่าว เช่น โหลดหนัง โหลดเกม ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆ โดยใช้โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดต่างๆ เพราะมันจะไปดึงความเร็วเน็ตมาใช้แบบเต็มๆ ทำให้เพื่อนบ้านเน็ตเค้าจะอืดสุดๆ หรือ อาจไม่สามารถเข้าเว็บไรได้เลย ถ้าแบบนี้ล่ะบาปมาก

หรือ ถ้าใช้แค่ส่งเมล์เช็คเฟส แป๊ปๆ อันนี้เพื่อนบ้านไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ ว่ามีคนมาแชร์สัญญาณร่วมกับเค้า อันนี้บาปนิดนึง

ถ้าคุณกลัวบาปผมขอแนะนำ 2 ข้อ
1. ไปขอติดตั้งเน็ตมาใช้เองเลย เดี๋ยวนี้ก็ถูกมากประมาณ 600/เดือน ได้ความเร็วเน็ต 10 M - 13 M แล้วแต่โปรโมชั่นและยี่ห้อเน็ต

2. ไปบอกเพื่อนบ้านว่าขอใช้สัญญาณเน็ตด้วยโดยจะช่วยจ่ายค่าเน็ตให้กี่บาทต่อเดือนก็ว่าไป แล้วแต่ตกลงกัน (ถ้าจะให้ดีเราควรจ่ายค่าเน็ตที่เราแอบใช้ตอนแรกด้วย จะได้ไม่ต้องติดค้างกันไปถึงชาติหน้า)

 

ก็ขอเค้าใช้ตรงๆ สิครับ

เออะ ถ้าบ้านเค้าเปิดประตูทิ้งไว้ คุณจะเข้าบ้านเค้าไปเดินดูข้างในโน้นนี่ .. คุณว่ามันเหมาะมั้ย
อันที่จริง เราควรแนะนำให้เค้าปิดประตูบ้านจะดีกว่า . ว่ามั้ยครับ

 

บาปค่ะ ผิดศีลข้อ 2 เต็มๆ เพราะเจ้าของไม่อนุญาติ

ส่วนตัวเคยโดนแอบใช้ ทั้งๆที่ตั้งรหัส แต่เป็นรหัสที่ติดมากับเครื่อง ไม่รู้ว่าเขาแฮกได้ยังไง ทั้งๆ ที่เพื่อนจะใช้ wifi บ้านเรายังต้องถามรหัส ตอนหลังเลยเปลี่ยนรหัส ก็ไม่ถูกแอบใช้อีกเลย

เคยมีคนบอกว่า ความน่ากลัวของการถูกแอบใช้ ไม่ใช่การที่เน็ตอืด หรือหลุดบ่อยอย่างเดียว แต่เป็นการถูกนำไปใช้โพสข้อความหมิ่นประมาท ว่าร้ายผู้อื่นอื่นอย่างรุนแรงจนอาจถึงคดีความ เพราะเวลาเจ้าหน้าตำรวจจะมาตามหาตัวคนทำ เขาก็ต้องเริ่มตามที่เจ้าของ wifi ก่อนจะไปไล่หาตัวเจ้าของเครื่องที่โพส ดีไม่ดีหาว่ามีความเกี่ยวข้องกันอีก แบบนี้เจ้าของก็ซวยไป

 

Good point .. การแอบใช้อินเตอร์เน็ตอื่ม แบบนี้ พรบ กฏหมายก็ยังไม่ลัดกุมพอ

 

อย่างที่ท่านด้านบนบอกนะครับ, ขอเขาก่อนดีไหม.. ในเมื่อเราดูแล้วเจ้าของเขาไม่ใส่รหัสก็น่าจะมีเจตนาเผื่อแผ่อยู่แล้ว
แต่เพื่อการรักษาสัจจะ รักษาศีลที่เราตั้งใจแล้ว ควรทำให้ถูกต้องครับ ถ้าเจ้าของอนุญาตแล้ว ก็ไม่ใช่การทำบาป เจ้าของก็
จะได้บุญจากการเอื้อเฟื้อด้วย.. ผมว่าดีกว่าท่านแอบทำ แล้วรับบาปไปเองแบบนี้ไม่น่าจะใช่ทางออกที่ดีนะครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

ผมว่าขึ้นกับเจตนาเจ้าของ WiFi นะครับ

เหมือนการที่ใครเอาน้ำดื่มใส่โอ่งเล็กๆ ไปตั้งหน้าบ้าน ไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครรู้ก็ได้ว่าเป็นการแจกน้ำดื่ม ใครผ่านไปผ่านมาจะดื่มก็ไม่มีใครว่า ไม่บาป เจ้าของได้บุญ

สำหรับ Wifi ของข้างบ้าน
ผมแนะนำว่าคุณเดินไปบอกเค้าดีกว่าว่า Wifi เค้าไม่ได้ใส่รหัส
แล้วบอกว่า ผมแอบใช้ไปนิดหน่อย ขอโทษเค้าซะ จะได้ไม่เป็นกรรมติดตัว เพราะเจ้าของ Wifi พอรู้แบบนี้ ก็น่าจะให้อภัย

แล้วอาจจะแนะนำวิธีการตั้งรหัสผ่านกับเขาก็ได้

สุดท้ายเพื่อเป็นการป้องกัน ก็อาจบอกเค้าว่า ขอใช้บ้างในบางวัน

และการทำแบบนี้ คุณอาจจะได้คำตอบที่เหนือคาดหมายก็ได้ เช่นที่ผมเจอมาแล้ว
นั่นก็คือ

"บ้านเค้าไม่ได้ใช้เน็ต ติดเอาไว้ดู TV ที่ไม่ได้ใส่รหัส เพราะใครแถวนี้จะใช้ก็ใช้ เนื่องจากสัญญาณของเค้าเป็น Super Hi-Speed แถวนี้บ้าน 4-5 หลัง สัญญาณไม่ตกหรอก"

แล้วเจ้าของสัญญาณก็หัวเราะเดินเข้าบ้านไป

 

เรื่อง wifi นี้ ฟังดูก็เหมือนเรื่องใหม่นะ .. แต่จริงๆแล้ว
มันก็มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ที่คอยท้าทายจิตใจเราอยู่ครับ

เช่น สมัยก่อนบ้านคนชอบปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง เป็นต้น
จะเห็นว่าหลายบ้านเลย ที่เวลาลูกมันออก บางทีมันจะออกยื่นมานอกบ้าน

ทีนี้ พอคุณเห็นคุณจะคิดว่ายังงัย ?
1) คิดเอาเองว่า อุย มันยื่นมานอกรั้วแล้วคงไม่มีเจ้าของแล้ว
ถ้าเจ้าของหวง เค้าคงเก็บไปแล้ว
และหากเก็บมาสักลูก ก็คงไม่เป็นไร ก็เห็นยังมีอีกหลายลูก
และอีกอย่าง ก็คงไม่มีใครรู้หรอก หายไปลูกสองลูกเอง
2) ยับยั้งจิตใจครับ มองว่ามันเป็นของเจ้าของบ้าน
ก็ไม่ไปเก็บเอามาเอง .. แต่ถ้ากล้าหน่อยก็เดิน
ไปเคาะประตูถามเจ้าของบ้านว่าผลไม้เต็มเลย
ขอกินสักลูกจะได้มั้ย เป็นต้น

คุณจะเลือกแบบไหน?

 

ถ้าคิดว่าตัวคุณขโมย จิตก็เศร้าหมองแต่ความรู้สึกนั้น
คุณเดินไปบอกเขาเลยว่า วายฟาย ไม่ได้ใส่รหัส ผมสามารถใช้ได้
คนอื่นก็สามารถใช้ได้ ถ้าเขาบอกว่าใส่รหัสไม่เป็น คุณก็บอกวิธีให้เขาไป
แต่ถ้าเขานิ่งเฉย และวันต่อมาก็ยังไม่ได้ใส่รหัส คุณก็เข้าไปเล่นได้เลย
ถือว่าเขารู้แล้ว เราก็ได้บอกให้เขารับทราบแล้ว
จิตที่เศร้าหมองแห่งอาการที่คิดว่าขโมยมันก็หายไป
โทษมันก็ไม่มีแล้ว เพราะละความยึดมั่นไปแล้ว
บาปจะมีอิทถิพล ก็สำหรับผู้ที่รู้สึกผิดอยู่เสมอ และกระทำชั่วอยู่เสมอเท่านั้น
ผิดแล้วรู้แก้ ฝอกจิตให้ใสให้สะอาด ก็ชื่อว่าบริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ครับ

 

ยังงี้ มันก็เหมือนกับมีมินิมาร์ทเปิดขายของ

แต่เจ้าของขี้เกียจมาก ชอบนอนหลับ เวลาเฝ้าร้าน

แล้วมีคนอยากได้ของในร้าน เดินมาบอก คุณอย่าหลับซิ เดี๋ยวคนอื่นขโมยของนะ แต่เจ้าของร้านไม่สนใจ หลับเป็นตายเหมือนเดิม (แค่ขึ้เกียจ แต่ถ้าถามว่าอยากให้ขโมยของในร้านไหม ก็ไม่อยากนะ แต่ขี้เกียจ)

คนอยากขโมย คิดเองเออเองว่า ก็เราบอกแล้ว เขาไม่สนใจ ไม่รับรู้ ไม่ป้องกันเอง งั้น เราก็มีสิทธิ์ขโมยของเขาได้ซินะ

เพราะฉะนั้นควรถามเขาก่อนดีกว่า ว่าจะอนุญาตให้เราใช้บางทีได้ไหม

 

ไม่รู้ว่าเจ้าของเขาหวงไหมน่ะครับ เพราะเขาไม่ได้ล๊อครหัส

ถ้าล๊อครหัสแสดงว่าหวง ... ถ้าไม่ได้ล๊อครหัส

สัญญาณของเขามันเข้ามาบ้านเราเองนิ เหมือนส่งมาให้เราใช้เอง

เขาอาจจะไม่หวง หรือ หวง ก็ได้


ดังนั้น องค์ประกอบการผิดศีลข้อลักทรัพย์นั้นยังไม่ครบองค์

ผมว่าศีลข้อลักทรัพย์ยังไม่ขาด แต่ศีลด่างพร้อยครับ


ป.ล. ถ้าเรารู้ว่าเขาหวงแหน ไม่อยากให้แชร์Wi-Fi แต่เขาล๊อครหัสไม่เป็น หรือไม่ล๊อค

เรายังไปแชร์ของเขามาใช้ แบบนี้ครบองค์ประกอบ 5 ข้อ ของการลักทรัพย์




.

 

เห็นด้วยกับ เฮียครับ

 

งั้นถ้าผมไปถามเขา ว่าวายฟาย ไม่ได้ล็อคสัญญาณไว้แต่ บอกเขาว่าวันนั้นได้แอบใช้วายฟายในการskype กะคนอื่น ราวๆ 10 นาที ถ้าเขาบอกว่าไม่เป้นไร ใช้ไปเหอะ เรายังจะศีลขาดหรือด่างอยู่หรือไม่ครับ เพราะสัญญาณมันขยายกว้างมาถึงบ้านที่อยู่ แต่ผมว่าเขาน่าจะเปิดอินเตอร์เน็ตไว้ตลอด อะนะครับ เพราะพี่ผมก็ใช้มือถือ เล่นบ่อยๆ - -* ที่บ้านก็มีเน็ตใช้ครับแต่เร้าเต่อมันเป็นแบบเก่าซึ่งไม่มีเสาสัญญาณเลยไม่สามารถเล่นเน็ตในมือถือได้

 

ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไรแต่ว่า ผมก็ไม่ได้ล็อครหัสและจุดประสงค์ก็เพื่อให้ใครก็ได้ที่อยากใช้ก็ใช้ไปแล้วถ้าเพื่อนบ้านอยากใช้ก็ตามสบาย ใช้สัญญาณของผมก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพลดลง อีกอย่างถ้าผมหวงผมก็ล็อคไปแล้ว ถ้ามีบาปก็ไม่น่าจะมากมาย แต่ถ้าจะบาปมากก็เพราะเราเป็นผู้คิด ถ้าไม่สบายใจก็อย่าใช้หรือก็ไปบอกเค้าว่าขอช่วยค่ารายเดือนซักส่วนหนึ่งก็ได้น่าจะดีสุด

 

เขาบอกว่าไม่เป็นไรใช้ไปเหอะ ... เขาไม่ได้หวงของ

ไม่มีใครเดือดร้อน ... ศีลอยู่ครบครับ

 

หากต้องการใหคนอื่นใช้ฟรี .. ลองตั้งชื่อ ssid ที่ต่อท้ายว่า _free ด้วยสิคับ
คนข้างบ้านจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาถามด้วย

ยังงัยก็คิดถึงการนำ ip ไปใช้กระทำผิดกฏหมายทางคอมพิวเตอร์ด้วยนะคับ
หากเว็บเจ้าปัญหามีการ log-in คนให้ใช้เน็ตคงไม่เป็นไร
แต่ เอ ปกติสัญญา adsl เค้าให้ใช้ได้แค่บ้านเดียวหรือป่าวคับ
เราให้เพื่อนบ้านอะคงได้ แต่หากมีคดี เค้าจะว่างัย มันอยู่ตรงนี้

 

เห็นด้วยครับ ลักษณะแบบนี้ผมว่าเขาไม่ได้หวงของ และไม่มีใครเดือดร้อน ไม่ต้องไปวิตกครับ

 

ไม่น่าบาปนะ ไม่ได้ขโมย มันมาเองนิ เราใช้โน๊ตบุ๊ค wifi เข้ามาบ่อยมาก