เชิญร่วมบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหม มวลสารดาบฟ้าฟื้นเหล็กสัตตะวชิระโลหะเพื่อ ๖ งานบุญ

รับทราบการจอง ขออนุโมทนาบุญครับ

 

รับทราบการจองขออนุโมทนาบุญครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณโอ๋ จ. ภูเก็ต ร่วมเป็นเจ้าภาพจอง พระขรรค์เนื้อสัมฤทธิเดช 4 เล่ม
เนื้อเงิน 1 เล่ม

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ รัตนศักดิ์
ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์เล่มยาวจำนวน ๑ เล่มครับ

 

วันนี้ไปรับเหล็กสัตตะวชิระพรหมครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ โก๋ ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์ยาว จำนวน ๒ เล่ม

 

ผมขอจอง พระขรรค์มหาวชิระพรหม เนื้อสัมฤทธิเดช 1 เล่ม หมายเลข 39 ครับ

 

รับทราบการจอง ขออนุโมทนาบุญครับ

 

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้หรือส่งเมล์มาได้ที่ Worachaiku58@gmail.com


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วรชัย 081-1901125

 

ผมขอจอง พระขรรค์มหาวชิระพรหม เนื้อสัมฤทธิเดช 2 เล่ม หมายเลข 549,559 ครับ

 

รับทราบการจองขออนุโมทนาบุญครับ

 

พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ท่านสร้างศาสตราวุธ รุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายที่จะให้บูชา เป็นการหลอมเหล็กสัตตะิระโลหะที่มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากเหล็กยอดเจดีย์พระธาตุดอยตุง, พระธาตุจอมกิตติ, พระธาตุพนม, องค์พระปฐมเจดีย์, ตะกั่วเก่าวัดพระแท่นดงรังที่นำไปทำพระร่วงรางปืน หลอมรวมเป็นสุดยอดแห่งมวลสารเหล็ก

ครั้งนี้รุ่นสุดท้ายพลาดแล้วจากนี้สืบไปในภายหน้า จักไม่มีให้บูชากันอีกแล้ว

พระขรรค์ที่ได้รวบรวมมวลสารจากทั่วทุกภาค รวบศาสตราจากทุกทิศ ผสมผสานด้วยวิชาจากทั้ง 3 ตำรา อธิษฐานจิตบารมีบรมมหาโพธิสัตว์ น้อมนำด้วยพุทธบารมี สร้างครั้งนี้ทิ้งทวนให้สมนามพระขรรค์"มหาวชิระพรหม"

 

คืนนี้ผมจะนำเรื่องประสบการณ์ของดาบวชิระพรหม รุ่นก่อนมาให้อ่านกันครับ

 

เรื่องที่ ๔ กลองสะบัดชัย

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ที่อยู่ จ. กาญจนบุรี คนนี้เขาได้รับดาบวชิระพรหมชุดแรกไปแล้วเขาก็พกดาบฯ ติดตัวไว้ตลอด แล้วมีอยู่วันหนึ่งลูกศิษย์ท่านนี้เดินทางไปทำบุญทางภาคเหนือ ซึ่งวัดที่ลูกศิษย์ท่านนี้ไปร่วมทำบุญด้วยนั้นได้จัดให้มีการแสดงการตีกลองสะบัดชัย ในระหว่างที่การแสดงกำลังดำเนินอยู่ ลูกศิษย์ท่านนี้รู้สึกว่าในกระเป๋าที่ตนเองหิ้วนั้นมันมีอะไรสั่นๆ อยู่ภายใน ที่แรกก็คิดว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแต่ตนเองก็ห้อยโทรศัพท์ไว้ที่คอ จึงเปิดกระเป๋าหาดูว่าอะไรกันน่าที่สั่น จนในที่สุดก็มาเจอต้นเหตุภายในกระเป๋าหิ้วนั้นมีกระเป๋าถือลูกเล็กอยู่ใบหนึ่งซึ่งกระเป๋าลูกนี้ลูกศิษย์คนนี้จะเก็บสิ่งมีค่าและดาบวชิระพรหมเล่มเล็กไว้ด้วย ลูกศิษย์คนนี้จึงกำดาบอยู่ในมือจึงประจักษ์ว่า

ดาบวชิระพรหมสั่นได้และสั่นตามเสียงจังหวะการตีกลองสะบัดชัย

ที่แรกลูกศิษย์ท่านนี้ก็ยังไม่ปักใจเชื่อคิดว่าตนเองอาจจะรู้สึกไปเองจึงดาบฯ ออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะให้คนอื่นๆ ได้ดู ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจครับว่าทุกคนก็เห็นว่าดาบฯ สั่นตามจังหวะกลองสะบัดชัยจริงๆ
ทุกวันนี้ลูกศิษย์ท่านนี้พกดาบฯ ติดตัวตลอดไม่ห่างกายเลยครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ สุภชัย จ. เชียงใหม่
ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" เนื้อสัมฤทธิเดช หมายเลข ๒๓๔๕

 

เรื่องที่ ๕ ช่วยคนโดนของ

ท่านเจ้าภาพท่านหนึ่งมาร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของพระอาจารย์ในวันที่ ๒๙ ธ.ค. ๕๕ ที่ผ่านมาและได้ร่วมเป็นเจ้าภาพดาบวชิระพรหมด้วย นอกจากจะมาร่วมงานแล้วยังนำอาหารมาเลี้ยงโรงทานอีกด้วยครับ

ท่านเจ้าภาพท่านนี้ได้รับดาบฯ ในวันงานหมายเลข ๑๒ ได้มีประสบการณ์การใช้ดาบฯ คือ เจ้าภาพท่านนี้เป็นครูบาอาจารย์สอนลูกศิษย์ตามแนวปฏิปทาตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอยู่แล้ว และมีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งมีอาการปวดที่หัวเข่าแบบไม่ทราบสามารถมาหลายปีแล้ว รักษาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่หายและมาทราบว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะโดนกระทำคุณไสย

เมื่อทราบเช่นนี้เจ้าภาพท่านนี้ก็พยายามที่จะช่วยเหลือลูกศิษย์ของตนแต่แล้วก็มิอาจจะสามารถช่วยเหลือให้หายอาการเจ็บป่วยได้ จนมาได้รับดาบฯ ในวันที่ ๒๙ ธ.ค. จึงขออาราธนาบารมีของครูบาอาจารย์ให้ช่วยเหลือลูกศิษย์ของตนให้หายจากอาการเจ็บป่วย

คนที่ถูกกระทำคุณไสยคนนี้ก็ไม่ธรรมดาครับมโนมยิทธิแจ่มใสเมื่อเจ้าภาพท่านนี้เอาดาบฯ มาแตะที่ศีรษะ เขาเห็นเป็นลำแสงสว่างจ้าลงมาจากข้างบนลงมายังดาบฯ เป็นแสงสว่างประกายพรึก จากนั้นเจ้าภาพท่านนี้ก็ไล่มีดจากศีรษะเรื่อยไปจนถึงหัวเข่าด้านที่เจ็บปวดอยู่

ปรากฏว่ามีตะปูขนาดประมาณ ๔ นิ้ว งอๆ เป็นสนิมนิดๆ กระเด็นล่วงลงมา จากนั้นอาการปวดหัวเข่าของลูกศิษย์ท่านนี้ก็หายโดยทันทีทันใด

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ท่านเจ้าภาพท่านนี้จะไปไหนมาไหนก็ตามต้องพกดาบฯ วชิระพรหมตลอด และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ดาบวชิระพรหมครับ

 

พระขรรค์ "มหาวชิระพรหม"

เป็นชื่อเรียกขานพระขรรค์รุ่นใหม่ของพระอาจารย์ยุคลธรณ์ ผู้สร้าง "ดาบวชิระพรหม" ซึ่งเกิดจากการรวบรวมมวลสารเหล็กสัตตะโลหะเข้ากับมวลสารวชิระโลหะ อาทิ เช่น

เหล็กยอดเจดีย์พระธาตุดอยตุง
ชิ้นนี้ถือว่าได้มายากมากๆ เพราะเป็นเวลานานมากกว่าที่จะมีการบรูณะยอดเจดีย์พระธาตุ และเหล็กชื้นนี้เป็นส่วนที่อยู่ตรงยอดเจดีย์ขององค์พระธาตุ

เหล็กยอดเจดีย์พระธาตุจอมกิตติ
ชิ้นนี้ก็หายากยิ่งอีกชิ้นหนึ่ง เหตุเพราะยอดองค์พระธาตุจอมกิตติเกิดการบิดงอทรุดจากแผ่นดินไหวในประเทศพม่าเมื่อต้นปี ๒๕๕๖ ที่ผ่าน

เหล็กยอดเจดีย์องค์พระปฐมเจดีย์ จ. นครปฐม
ชิ้นนี้ก็หายากยิ่งเช่นเดียวกัน ที่ได้มาเพราะองค์พระปฐมเจดีย์ได้ทำการบรูณะครั้งใหญ่เริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ แล้วเสร็จในปี ๒๕๕๕ เป็นการบรูณะครั้งใหญ่ในรอบ ๑๖๐ ปี

เหล็กยอดเจดีย์สร้อยทอง วัดสร้อยทอง พิธียกฉัตรยอดเจดีย์ที่วัดสร้อยทอง จ. นนทบุรี

เหล็กเจดีย์พระธาตุพนม จ. นครพนม เมื่อครั้งล้มลงมาปี พ.ศ. ๒๕๑๘

เหล็กยอดปราสาท, ยอดเจดีย์โลหะสัมฤทธิ์โบราณ

มีดหมอคณาจารย์ต่างๆ

ดาบฟ้าฟื้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รุ่น ภ.ป.ร. ส.ก. จำนวน ๖ เล่ม
ดาบฟ้าฟื้นที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านตีขึ้นมาเองกับมือ
ตีในถ้ำเขต จ. กาญจนบุรี เป็นที่เดียวกับที่ขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้นกล่าวกันว่าสร้างขึ้นมาเพียง ๔ เล่มเท่านั้น ขนาด ๒ นิ้วครึ่งไม่มีการตอกลายอะไรทั้งสิ้น พระอาจารย์ท่านนำมาหลอมไปแล้วครับทั้งเล่ม

มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ. นครสวรรค์ จำนวนกว่า ๔๕ เล่ม
มีดหมอด้ามฤาษี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี
มีดหมอหลวงปู่หมุน
ขนาด ๕ นิ้ว จำนวน ๒ เล่ม
ขนาด ๒ นิ้วครึ่ง จำนวน ๒ เล่ม ทั้ง ๔ เล่ม
ดาบฟ้าฟื้นหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ทำมาจากเหล็กน้ำพี้ พิธีเสาร์ ๕ เมื่อท่านมีอายุ ๑๐๖ ปี
มีดหมอครูบานันตา
มีดหมอเทพศาสตราอาจารย์ชุมไชยคีรี จำนวน ๓ เล่ม
มีดหมอโบราณและมีดเหน็บโบราณทางภาคเหนือ
มีดดาบฟ้าฟื้น (ดาบขุนแผน) พระครูโสภณวีรนุวัตร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ. สุพรรณบุรี
ดาบฟ้าฟื้น แม่นิภา คงสุข
มีดหมอหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ. กาญจนบุรี
มีดหมอหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองศรีนวล จำนวน ๑ เล่ม ดาบ ๑ เล่ม
มีดตัดหวายลูกนิมิต วัดห้วยพัฒนา อ. เขาสมิง จ. ตราด
มีดโลหะ ๑๐๐ ปี สร้างจากตะปูวิหารศักดิ์สิทธิ์ วัดโตนดเตี้ย อ. อุทัย จ. อยุธยา
มีดหมอหลวงพ่อทบ วัดชนแดน

ประเภทตะกรุดครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่ใช้หลอมลงไปในเหล็กสัตตะวชิระโลหะ

ตะกรุดหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ตะกรุดหลวงตาพวง สุขินทริโย จารมือ
ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ. อยุธยา
ตะกรุดสำริดโบราณ สมัยอยุธยา
ตะกรุดครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ. ลำพูน
ตะกรุดเม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี
ตะกรุดหนีบสังวานร ตะกรุดนี้มีแต่เฉพาะแม่ทัพ
ตะกรุดเดินป่า
ตะกรุดครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย จ.ลำพูน
ตะกรุดจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ. อยุธยา
ตะกรุดยันต์เกราะเพชร และยันต์ นะ มหากลับ พระครูวินัยธรยุคลธรณ์
ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ. อยุธยา
ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ตะกรุดสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ

มวลสารศักดิ์สิทธิ์

กลั่นมีดดาบวชิระพรหม, มวลสารเหล็กสัตตะวชิระพรหมที่หลอมครั้งก่อน
หอกใบข้าวโบราณ ,เหล็กตะปูหัวเห็ด, ใบหอกสัมฤทธิ์โบราณ, กระดิ่งลมวัดพระธาตุดอยตุง
มีดหมอทิเบต, เหล็กจาร ด้ามเทพเพชรพญาธร, ดาบซามูไรเก่า, พระขรรค์สัมฤทธิ์โบราณ
หอกปลายปืนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ,ลูกปืนเหล็กสมัยโบราณ,

เหล็กจากขวานฟ้าผ่า

เหล็กชนิดนี้นับว่าหาได้ยากมาก ๆ เพราะเป็นเหล็กที่เกิดขึ้นจากการที่สายฟ้าผ่าลงมาที่ผืนดิน ตามคำบอกเล่าจากท่านผู้รู้หลาย ๆ ท่านได้เคยกล่าวไว้ว่าทุกครั้งที่มีสายฟ้าผ่าลงมาที่พื้นดินจะมีขวานฟ้าผ่าฝังอยู่ ณ จุดนั้น แต่มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่อเกิดฟ้าผ่าลงที่พื้นดินแล้วต้องรีบไปขุดขวานขึ้นมาโดยทันทีมิเช่นนั้นแล้วจะมีเทวดามาเก็บขวานไป

และเจ้าของเหล็กชิ้นนี้ก็เชื่อคำบอกเล่าอันนี้ เมื่อมีโอกาสเจอฟ้าผ่าลงมาที่พื้นดินตนจึงรีบไปยังที่ตรงนั้นแล้วก็พบกับขวานฟ้าผ่าเข้าจริง ๆ และได้เก็บรักษามาจนทุกวันนี้ การที่พระอาจารย์ท่านได้เหล็กชิ้นนี้มาก็นับว่าเป็นความบังเอิญอย่างมากเพราะท่านได้มาตอนที่ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์หลาย ๆ คนฟังเกี่ยวกับการที่ท่านอยากจะรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะนำไปทำเหรียญและมีดหมอในอนาคต ตอนนี้ท่านก็จะรวบรวมไปเรื่อย ๆ และก็มีน้องทหารคนหนึ่งที่มาช่วยงานวัดได้บอกกับพระอาจารย์ว่าลุงของตนมีขวานฟ้าผ่าเก็บไว้นานมากแล้วเขาจะนำมาให้ และแล้วน้องทหารคนนั้นก็กะเทาะเหล็กขวานฟ้าผ่ามาให้ชิ้นหนึ่ง

ขวานสัมฤทธิ์โบราณ, เหล็กขนันผีตายพรายตายท้องกลม, กำไรสัมฤทธิ์โบราณ
แหวนสัมฤทธิ์โบราณและเหรียญเงินสมัยฟูนัน, ตะบันหมากสัมฤทธิ์โบราณ,เงินโบราณ (สตางค์รู)

กระพรวนช้างศึกของสมเด็จพระนเรศวร

พระอาจารย์ท่านได้มาโดยโยมท่านหนึ่งนำมาถวาย โยมท่านนี้ได้กระพรวนนี้บริเวณอ. พนมทวน จ. กาญจนบุรี ที่พบก็เพราะว่าฝันเห็นมีคนมาบอกให้ไปงมของที่อยู่ในน้ำ ตนก็ไปตามที่ฝันเห็นแล้วก็เจอกระพรวนดังกล่าวจริงๆ จึงนำมามอบให้กับพระอาจารย์

ครกบดยาหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
บล็อกยันต์เกราะเพชร เข้าพิธีเสาร์๕ วัดท่าซุง ปี ๒๕๕๓

เหล็กไหล

ชิ้นนี้พระอาจารย์ท่านได้มาเมื่อสมัยเป็นสามเณรติดตามอาจารย์ผู้เรืองเดชท่านหนึ่งเข้าไปในถ้ำเพื่อตัดเหล็กไหล

แผ่นเงินไส้ตะเกียงมหารัตนประทีป เป็นวิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ขวานหลวงปู่เจี๊ยะ มอบให้หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ. เชียงใหม่ จากนั้นหลวงพ่อประสิทธิ์ท่านได้อธิษฐานจิตอีกครั้ง
วัชระโลหะจากประเทศธิเบต อาวุธแห่งองค์เทพ
แผ่นยันต์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ. นครราชสีมา, ดาบสะหรี่ศรีกันชัย, ปรอทกรอ
เงินพดด้วง สมัยพระเจ้าทรงธรรม อยุธยา, แผ่นเงิน ทอง นาก จารยันต์ต่างๆ

กระบี่ด้ามหัวช้างสมัยรัชกาลที่ ๕
ขวานปลายมีดโบราณ
เหล็กตะปูหัวเห็ด, เหล็กปลายหอก, เหล็กปลายดาบ, ดาบซามูไร,เหล็กตรึงโบสถ์, เหล็กยึดช่อฟ้าใบระกาของโบสถ์วัดพระธาตุดอยตุง

เงินจากเหล็กจารของพระอาจารย์ยุคลธรณ์

เหล็กจารเล่มนี้พระอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าท่านได้มาเมื่อครั้งเป็นสามเณรแล้วออกธุดงค์เข้าไปในป่า จนได้พบกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง ชื่อว่าพระหยอด ท่านเป็นพระที่ถืออิทธิบาทธรรมอยู่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

พระขรรค์โสฬตเก่า หลวงปู่ศุข, พระขรรค์เก่าขุดพบที่พระปรางค์ ๓ ยอด จ. ลพบุรี
วัชระทำมาจากเงินจากประเทศญี่ปุ่น, ยอดเจดีย์สำริด จากประเทศพม่า, ยอดซุ้มพระอัศฐารส
ตะปูสังขรวานร
เหล็กสารพัดบิ่น ๑๐๘ เช่น มีด จอบ เสียม ที่ผ่านการใช้แล้วเกิดการบิ่น หัก แตก

ประเภทห่วงจากเหรียญต่างๆ

๑. เหรียญท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปี ๒๕๑๖ วัดท่าซุง
๒. เหรียญเอกราช (๑๐๐ ปีหลวงพ่อปาน) ปี ๒๕๑๘ วัดท่าซุง
๓. เหรียญเงินรุ่นสุขใจ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
๔. เหรียญกรมหลวงชุมพร หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์
๕. เหรียญหลวงปู่ดี วัดเหนือ(วัดเทวสังฆาราม) ปี ๒๕๑๖
๖. เหรียญหลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต จ. หนองคาย
๗. เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ. นครราชสีมา
๘. เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ. ชลบุรี
๙. เหรียญหลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ. ชัยนาท
๑๐. เหรียญปู่หลักคำ วัดกลางเมืองเก่า จ. ชัยภูมิ
๑๑. เหรียญสมเด็จพระสังฆราช (อาสน)
๑๒. เหรียญหลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า จ. กาญจนบรี
๑๓. เหรียญหลวงพ่อโสธร วัดโสธร จ. ฉะเชิงเทรา
๑๔. เหรียญหลวงพ่อจันทร์ จน.โท วัดอาวุธอิกสิตาราม จ. กรุงเทพฯ
๑๕. เหรียญพระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ. ลำพูน
๑๖. เหรียญธรรมจักรพระอาจารย์ยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ. กาญจนบุรี
๑๗. เหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ. เชียงใหม่
๑๘. เหรียญครูบาศรีวิชัย วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ. เชียงใหม่
๑๙. เหรียญหลวงพ่อช้อย วัดนนทรี จ. อยุธยา
๒๐. เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ. ระยอง
๒๑. เหรียญหลวงพ่อนิสิต วัดซับน้อยธรรมรังสี
๒๒. เหรียญหลวงพ่อถนอม วัดโรงธรรม
๒๓. เหรียญหลวงพ่ออ่อน วัดน้อย (วัดมัชฌันติการาม)
๒๔. เหรียญหลวงพ่อหล่อ วัดคลองยาง จ. นครราชสีมา
๒๕. เหรียญครูบาคันธวงค์ วัดทุ่งแคว จ. แพร่
๒๖. เหรียญหลวงพ่อศรีโคตรบูร วัดกกต้อง จ. นครพนม

ตามตำราของ

ดาบฟ้าฟื้นวิชาของขุนแผน
วิชามีดหมอหลวงพ่อเดิมสายวัดประดู่ทรงธรรม
วิชาพระขรรค์โสฬสหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า

ทั้ง ๓ วิชานี้ได้ถูกรวมมาไว้ในพระขรรค์มหาวชิระพรหมเพียงเล่มเดียว และที่เหนือไปกว่านั้นพระอาจารย์ท่านได้อธิษฐานจิตให้ดาบวชิระพรหมทรงไว้ซึ่งพุทธบารมีและมหาบารมีของพระโพธิสัตว์จึงทำให้ดาบวชิระพรหมมีอานุภาพมากมายมหาศาล

 

พระอาจารย์ท่านจึงดำริที่จะสร้างพระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" ให้กับผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้บูชาดาบวชิระพรหมในคราวก่อน ประกอบกับทางสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ ต. หนองบัว อ. เมือง จ. กาญจนบุรี ยังมีโครงการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดอีกมากมายที่ยังไม่แล้วเสร็จ เช่น

๑. ปลดหนี้ค่าที่ดินวัด
๒. มหาอุโบสถขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒ ไร่
๓. สร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก ๖ เมตร
ประดิษฐานเป็นพระประธานในมหาอุโบสถ
๔. โรงทาน, หอฉันทาวิสุทธิ์ เพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม
๕. โครงการสร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก จำนวน ๑๐๘ องค์
๖. สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก ณ วัดวังโพธิการาม อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี

เนื่องด้วยสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ (วัดป่าเขาดิน) เป็นวัดที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่เป็นระยะเวลากว่า ๓ ปี จากพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อเป็นสถานที่ประพฤติปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และทางวัดต้องทำการขยายพื้นที่ให้เพียงพอกับผู้คนที่จะเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรมในอนาคต พระอาจารย์ท่านจึงต้องซื้อที่ดินเพิ่มอีกหลายแปลง จำเป็นต้องใช้ปัจจัยอีกมากดังนั้นการสร้างพระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" ครั้งนี้จะนำปัจจัยไปใช้เพื่อปลดหนี้ที่ดินวัดและสร้างฐานสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๖ เมตร พร้อมด้วยเสนาสนะต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ

 

ในการสร้างพระขรรค์มหาวชิระพรหมครั้งนี้พระอาจารย์ท่านจะสร้างใน ๒ ลักษณะ คือ

๑. พระขรรค์เล่มเล็กขนาด ๕ เซนติเมตร ใบทำจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะ ด้ามทำด้วยโลหะมีด้วยกัน ๕ ชนิด คือ

๑.๑ เนื้อสัมฤทธิเดชสร้างจำนวน ๕,๕๕๕ เล่ม ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑,๕๕๕ บาท
๑.๒ เนื้อเงินสร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒,๕๕๕ บาท
๑.๓ เนื้อนวะโลหะสร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๓,๕๕๕ บาท
๑.๔ เนื้อนากสร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๕,๕๕๕ บาท
๑.๕ เนื้อทองคำสร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๕๕๕ บาท

๒. ดาบเล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๗,๗๗๗ บาท
๓. พระขรรค์เล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๙,๙๙๙ บาท
ความยาวของดาบและพระขรรค์จะทำตามโฉลกดาบที่เป็นมงคลของเจ้าของดาบและพระขรรค์ ส่วนเรื่องรายละเอียดของโฉลกดาบจะนำมาแจ้งในภายหลังครับ

พระขรรค์มหาวชิระพรหมใบทำจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะซึ่งได้นำมวลสารของดาบวชิระพรหมมาหลอมรวมกับสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากอีกหลายชิ้น
ท่านสามารถร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหมมาได้ที่

บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธ. กสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วรชัย 081-1901125

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้หรือส่งเมล์มาได้ที่Worachaiku58@gmail.com

 

ผมขอจองร่วมบุญ พระขรรค์มหาวชิระพรหม เนื้อสัมฤทธิเดช 1 เล่ม หมายเลข 92 ครับ