มโน! ผู้วิเศษจอมปลอม: เงิน สาวก ชื่อเสียง แม้แต่เซ็กซ์! อันตรายถึงชีวิต!!!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย itsame, 4 มีนาคม 2014.

?
  1. เห็บเหาสังคม ทำลายชาติศาสนา

    0 vote(s)
    0.0%
  2. ดีมาก ให้เข้าไปเป็นสาวก

    0 vote(s)
    0.0%
  1. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    [​IMG]

    ผู้วิเศษจอมปลอม เจ้าลัทธิ มีมาช้านานและมีมาทั่วโลก อันตรายถึงชีวิต เสียเงินทอง และแม้แต่เสียตัว มีเป็นข่าวดังมาแล้วทั่วโลก มีทั้งสร้างลัทธิเล็กๆ ถึงใหญ่ๆ และอาจจะไม่มีชื่อลัทธิเป็นทางการ เกิดกันมากมายขึ้นทุกที ผมได้นำเรื่องราวของลัทธิอันตรายต่างๆ จากทั่วโลกมาลงเป็นกรณีศึกษา

    สิ่งที่ผู้วิเศษจอมปลอมจะได้ อาจจะได้บางอย่างหรือทั้งหมด

    1. ego boost- ได้รู้สึกมั่นใจ ข้าวิเศษ ดีเลิศกว่าชาวบ้าน เรื่องอื่นอาจจะธรรมดา หรือไม่ได้ดีเลิศ แต่คนเชื่อว่าข้าวิเศษ หรือข้าเชื่อว่าข้าวิเศษ ย่อมรู้สึกดี
    2. followers - ได้สาวก มาคอยตาม คอยไหว้ คอยชม คอยถามนั่นนี่ หรืออาจมีของฝาก อบอุ่น เป็นดาราน้อยๆ นี่เอง
    3. money - ได้เงิน เงินบริจาคมั่ง บ้างอ้างไม่ได้ขอเขาให้เอง บ้างก็ขอตรงๆ
    ไปออกรายการบ้าง จัดสัมนาบ้าง ขายของวิเศษบ้าง ขายหนังสือบ้าง ดูดวงบ้าง
    4. fame - ได้มีชื่อเสียง จากคนธรรมดา กลายเป็นผู้วิเศษ คนกล่าวถึง ท่านนี้เป็นผู้วิเศษ เรื่องอื่นอาจไม่มีอะไรเด่นดัง แต่ความวิเศษไม่ค่อยมีใครจะมี ถึงแม้จะไม่ได้มีจริงก็ตาม
    5. sex - ได้เมีย ผู้วิเศษผู้ชายก็จะพูดจาหว่านล้อมลูกศิษยที่ถูกใจ หรือแม้แต่บอกว่ามีเซ็กซ์กับตนนั้นดีจะทำให้ชีวิตดี อย่างไรเขาก็เห็นเราวิเศษแล้ว ก็หาเมียจากผู้ติดตามนี่แล มีเยอะแยะเห็นถมไป มันเข้าทางผู้วิเศษบ้ากาม ถูกใจนักแล

    สุดท้ายก็รับกรรมกันไป ใครทำเลวอะไรไว้ก็ได้รับกรรมตามนั้น ตามนี้แล เรื่องจริง พูดตรง

    อยากให้ทุกคนได้ศึกษาบทความต่อไปนี้ เพื่อจะได้รู้ทันผู้นำลัทธิ และความอันตรายของลัทธิต่าง เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  2. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    [​IMG]
    ตายหมู่เพราะลัทธิ People's Temple

    cult หรือลัทธิ มักจะมีผู้นำคนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ โดยเฉพาะเป็นผู้ถูกเลือก แม้กระทั้งเป็นคนสำคัญทางศาสนากลับชาติมาเกิด เช่น บอกว่าเป็นพระเยซู กลับชาติมาเกิด พระศรีอาริย์ และอื่นๆ (แท้จริง คนที่บอกว่าตัวเองเป็นพระศรีอาริย์มาเกิดนั้นมีประวัติมานานเป็นพันปีแล้ว และมีทั่วโลก ไม่ใช่จะเพิ่งมีในเว็บพลังจิต)

    บางลัทธิ จุดจบคือตายหมู่อย่างน่าอะนาจ ความเชื่อนั้นสามารถเป็นสิ่งน่ากลัว ถ้าเอาศรัทธาไปฝากไว้กับผู้วิปลาส
    อย่าลืมว่าลัทธิ อาจจะไม่ได้มีชื่อลัทธิอย่างเป็นทางการ อาจจะเป็นเพียงมีผู้นำ และมีกลุ่มที่เป็นสาวกเพียงไม่กี่คน

    สมัยนี้เป็นยุค social media ดังนั้นลัทธิ อาจจะไม่มีที่ทำการที่เป็นอาคาร อาจจะเป็นที่ๆ หนึ่งในเว็บที่สาวกจะมาชุมนุมกัน และอื่นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  3. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    บทความเกี่ยวกับลัทธิชื่อดังต่างๆ ด้านล่าง มาจาก เว็บ dek-d.com เขียนโดย Cammy ผมเลือกเฉพาะลัทธิที่ผมเห็นว่าตรงประเด็นมาลงเว็บพลังจิต

    ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีกลุ่มความเชื่อที่ผิดไปจากหลักศาสนามากมาย คนพวกนี้มักอ้างความคิด แนวคิดที่แปลกประหลาด และพยายามทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนมาศรัทธาลัทธิของตน และใช้ผลประโยชน์จากบุคคลเหล่านั้นเพื่อตนเอง เช่น ผู้นำลัทธิมักมากในกาม ก็สอนว่ามีภรรยาได้หลายคน สาวกสาวอยากเข้าใกล้พระเจ้าต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้นำ ผู้นำอยากดัง คืออยากมีชื่อเสียง ผู้นำอยากสบาย สาวกต้องหาเงินทองมาสนับสนุนเป็นต้น หรือบางคนมีความต้องการหลายๆอย่างร่วมกันและสาวกไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบพฤติกรรม เหล่านั้นเพราะเป็นสิทธิที่ผู้นำได้รับจากพระเจ้า เป็นต้น(อันดับจัดตามใจคนเขียนครับ)


    Jeffrey Lundgren

    [​IMG]

    เจฟฟรีย์ ลุนด์เกรน(เกิด 3 พฤษภาคม 1950) เป็นเจ้าลัทธิ ที่เขาก่อตั้งในปี 1984 ในบ้านพักบนถนน ชิลลิโคเท โอไฮโอ โดยใช้หลักคำสอนผิดๆ โดยเขาประกาศว่าเขาได้ยินเสียงพระเจ้าให้เขาเผยแพร่ "คำพยากรณ์สุดท้ายแห่งพระเจ้า" นำสาวกไปต้อนรับการเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ของพระคริสต์เจ้า (โดยเขาย้ายที่อยู่ไปเรื่อย)มีหลายคนเชื่อเขาและขอเป็นสาวก ซึ่งเขาขอเงินจากผู้สนับสนุนหลายคนยินดีออนเงินจนได้หลายพันดอลลาร์ และเขาก็มีหลายคดีในการฆาตกรรรมสังหารล้างครัวเดนนิส อาเวรี หนึ่งในสาวกของเขาเองที่ไม่สนับสนุนและขัดขวางเขาโดยเขาและสาวกได้ใช้อาวุธปืนยิงเดนนิสกับภรรยาและลูกสาวของเขารวม 5ศพอย่างโหดเหี้ยม สุดท้ายเขาเสียชีวิตเมื่อ 24 ตุลาคม 2006 จากการถูกพิพากษาประหารชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  4. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    Restoration of the 10 Commandments

    [​IMG]

    หรือชื่อเต็มคือ Movement for the Restoration of the Ten Commandments of God แปลว่า การเคลื่อนไหวเพื่อการบูรณะบัญญัติสิบประการของพระเจ้า เป็นลัทธิที่แตกมาจากคริสตจักรโรมันคอทอลิค ก่อตั้งโดยนางซีเครโดเนีย มเวรินเดและนายโจเซฟ คิบเบเทียร์ ก่อตั้งในปลายทศวรรษ 1980 ในหมู่บ้านปาลา ยูกันดา โดยนางซีเคนโดเดนียเคยเป็นสาวบาร์มาก่อนเธอได้อ้างว่าเธอสามารถติดต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์ได้ ซึ่งเขาได้เข้าหานายโจเซฟซึ่งเป็นนักการเมืองว่าเขาได้ถูกรับเลือกในการเป็นศาสดา และนายโจเซฟก็เชื่อ ทั้งสองได้ก่อตั้งลัทธิหนึ่งเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง และมีอำนาจเหนือชาวบ้านทั้งๆ ที่ชาวบ้านมีสภาพความเป็นอยู่ที่แล้งแค้น โดยเป้าหมายของลัทธินี้คือการเคลื่อนไหวเพื่อการบูรณะบัญญัติสิบประหารของพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบัญญัติสิบประการและทั้งสองออกกฎแปลกๆ เช่น อย่าพูดสื่อสารกันให้ใช้ภาษามือ และให้กินอาหารหนึ่งมื้อในวันศุกร์และจันทร์ พวกเขาได้อ้างว่าพระแม่บอกว่าโลกจะแตกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสองเลยเฉไฉไปว่า พระเจ้ายังไม่ทรงต้องการทำลายโลก แต่เลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มีนาคม ปีเดียวกัน และตามบทบัญญัติแห่งลัทธิบอกว่ามนุษย์ควรกำจัดตนเองให้สูญสิ้นจากโลกก่อนที่โลกนี้จะถึงจุดพินาศย่อยยับในปี 2000 ส่งผลทำให้ชาวยูกันดาหลายพันคนฆ่าตัวตายประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเด็กที่ถูกฆ่าด้วยยาพิษ กากไม่ตายก็จะถูกทุบหัวด้วยกระบองหรือแทงด้วยมีด ซึ่งกลางปี 1999 มีการสังหารหมู่หลายครั้งหลายคราวในในหมู่บ้านคานังกู ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ซีเครโดเนีย

    และเมื่อถึงในที่ 17 มีนาคม 2000 นางซีเครโดเนียได้นัดหมายสาวกของเธอให้ไปรวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงนาในปาลา สมาชิกกว่า 600 คนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้หญิงและเด็กได้เข้าพิธีสวดมนต์ทั้งคืนและรับประทานอาหารมือสุดท้ายคือข้าวโอ๊ตผสมนมและน้ำตาล โดยคำสั่งสุดท้ายของเจ้าลัทธิคือให้การเผาโบสถ์โดยทำการประตูหน้าต่างปิดมิดชิดไม่ให้สาวกหนีออกมาได้ ส่งผลทำให้มีศพผู้เสียชีวิตที่เป็นตอตะโกจำนวน 513 ศพรวมทั้งศาสดาคิบเวเทียร์(ความจริงไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นศพของเขาหรือเปล่า แต่กระนั้นก็ไม่พบร่องรอยว่าเขามีชีวิตอยู่ หากมีเขาคงฆ่าตัวตายไปแล้ว) นอกจากนี้ยังมีการพบศพจำนวน 265 ศพถูกฝังไว้ใต้ดินในที่ดินที่นายคิบเวเทียร์ครอบครองอยู่แต่ละศพมีร่องรอยการถูกแทงไม่ก็ถูกวางยาพิษรวมอยู่ด้วย ส่วนแม่ซีเครโดเนียถูกจับในเดือนเมษายน 2000




    NeoNazi

    [​IMG]

    th.wikipedia.org/wiki/นีโอนาซี

    ลัทธินีโอนาซี เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแสวงหาการฟื้นฟู นาซีนิยม เกิดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกเขาเชื่อว่า “คนขาวที่เป็นเยอรมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุด” พวกนีโอนาซีมักจะโกนหัว ไว้ทรงผมสกินเฮด คล้ายพังค์ สักลายสวัสดิกะ หรือ สัญลักษณ์นาซีไว้ที่ตัว

    นโยบายของลัทธินีโอนาซีมีความแตกต่างกันไปจากลัทธินาซีเดิม แต่กระนั้นเนื้อหาโดยรวมยังเหมือนเดิม พวกเขาจะสวามิภักดิ์ต่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ,เหยียดเชื้อชาติต่างๆ,เหยียดสีผิว,เทิดทูนคนอารยันเยอรมัน,เหยียดเกย์ เยียดยิว สลาฟ อังกฤษ ฯลฯ โดยปัจจุบันสมาชิกลัทธินี้มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งส่วนมากเป็นยุโรป พบมากในแถวชายแดนระหว่างประเทศที่ติดกับเยอรมัน โดยเฉพาะในรัสเซียพบมากที่สุดใน กรุงมอสโก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ได้แก่ ยิว สลาฟ เอเชีย ตาตาร์ ยูเครน เบลารุส นิโกร ลูกครึ่ง มักถูกทำร้ายจนตาย บางประเทศในยุโรปมีกฎหมายห้ามลัทธินาซี การเหยียดผิว และการเหยียดเชื้อชาติ

    http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=275
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  5. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    [​IMG]

    ก่อนที่จะเอาลัทธิดังๆ ในตำนานมาโพสต์ต่อ จขกท จะยกตัวอย่างเด่นๆ ของเจ้าลัทธิ เพิ่มเติมให้คนคิดดีๆ เวลาจะไปร่วมลัทธิ บางทีไปร่วมลัทธิ ตัวเองยังไม่รู้ตัวจนสักพักเพิ่งจะรู้ตัว อ้าวนี่มันลัทธินี่หว่า

    แค่เห็นคนๆ นั้นพูดจาดี มีเหตุผล พูดเก่ง น่าศรัทธา น่าเชื่อถือ ก็หลงไปเป็นสาวกลัทธิอย่างไม่รู้ตัว เมื่อคุณให้ความศรัทธากับเขาไปแล้ว คุ็ณก็เป็นสาวกเจ้าลัทธิแล้ว คุณก็จะยอมเขาต่างๆ นาๆ ระวังตัวให้ดี!!

    1. เจ้าลัทธิมักจะบิดเบือน - ลัทธิมักจะเป็น spin-off คือบอกว่าลัทธิตัวเองมีหลักการมาจากศาสนาหลักๆ ของโลก เช่นเป็นคำสอนจาก พุทธ หรือ คริสต์ แต่ฟังไปฟังมาคำสอนบิดเบือน หรือแม้แต่เอาศาสนาหลายๆ ศาสนามายำๆ รวมกัน โดยเฉพาะบิดเบือนเข้าข้างตัวเอง ความคิดตัวเอง คิดเองเออเอง คำสอนที่พูดเกินคำสอนเดิมในศาสนามักจะเยอะ ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาศาสนาของแท้อย่างจริงจังมักจะไม่ทันเกม

    2. เจ้าลัทธิ พูดอะไร สอนอะไร เขาว่าเป็นความจริงทั้งสิ้น - เถียงคำสอนของเจ้าลัทธิไม่ได้ เพราะเขาว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ถึงจะไม่ตรงกับคำสอนของศาสนา แต่ลัทธิว่าเป็นอย่างนั้นต้องตามนั้น บ้างก็อ้างคำสอนเดิมนั้นผิดในจุดนี้จุดนั้น หรือตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว สวรรค์เขามีมัตติใหม่แล้วเป็นต้น

    เจ้าลัทธิมักจะบอกว่าตนไม่เคยผิด ไม่ผิด ทำนายไม่ผิด พูดไม่ผิด ถ้ากำหนดวันแล้วไม่เกิด อาจเพราะตนเป็นคนทำให้ไม่เกิด (classic explanation) หรือเลื่อน หรือไปเกิดที่อื่นเป็นต้น แต่ไม่มีพูดผิดแน่นอน (เพราะเขาเป็นผู้วิเศษ สิ่งที่เข้าพูดไม่มีผิด)

    3. ห้ามใครสงสัย ตั้งคำถามแนวว่า คำสอนเจ้าลัทธิอาจจะคิดผิด สอนผิด คิดไปเอง (จะโดนขู่) - เจ้าลัทธิไม่ชอบพวก critical thinker ให้เชื่ออย่างเดียว เจ้าลัทธิว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เจ้าลัทธิชังพวกไม่ศรัทธา พวกนี้ให้ถือว่าปรามาส บาปกรรม ใครสงสัย ถามซอกแซก เขาจะโดนคำขู่ เช่น ทำร้ายทางทิพย์ จะไม่สบาย ไม่บรรลุ จะโดนพระเจ้าลงโทษ ตกนรก เป็นต้น ทั้งๆ ที่ความจริงทำไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะมโนไปเอง แท้จริงอ่อน กระจอก ไร้สาระ และมีปมด้อยอย่างมาก ข่มขู่เพื่อปกป้องสถานะและความน่าเชื่อถือของตัวเอง ให้คงอยู่เป็นเจ้าลัทธิต่อไป

    4. เจ้าลัทธิมักจะมีปมด้อย - ถ้าสืบประวัติเจ้าลัทธิ มักจะพบว่าเป็นผู้ไม่ประสบความสำเร็จ ในชีวิต เอาดีไม่ได้ มีปมด้อย เลยหันมาเป็นผู้วิเศษจอมปลอม เพราะวิธีนี้จะทำให้ตัวเองรู้สึกดี มั่นใจ เพราะเอาดีทางโลกไม่ได้ เลยหันมาเอาดีทางความวิเศษ

    5. เจ้าลัทธิ มักจะพูดให้คิดว่าตนวิเศษ แบบเนียนๆ - การที่ออกมาพูดตรงๆ ว่าตัวเองวิเศษ อาจจะได้รับการต่อต้าน แต่การนำเรื่องมาเล่าว่าเกิดนั่นนี่แก่ตน ตนได้พบนั่นนี่ หรือ พูดว่ารู้นั่นนี่ ทางโลกวิญญาณ ทางทิพย์ ทางพระเจ้า ก็ทำให้คนคิดไปว่า คนนี้วิเศษ เทียบกับเทคนิค advertising คือ การทำ infomercial น้อยๆ พูดเหมือนให้ความรู้แต่จริงๆ เป็น ad นั่นเอง พอคนศรัทธาแล้วคราวนี้จะพูดอะไรก็ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ จะว่าตัวเองวิเศษ อย่างไรสาวกก็เชื่อกันหมด ค่อยๆ ล่อให้ศรัทธา

    6. เจ้าลัทธิไม่ชอบคู่แข่ง - เจ้าลัทธิจอมปลอมมักจะเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะความหวนแหนซึ่งศรัทธา (ความงมงาย) และความรักของสาวกของเขา ไม่ชอบใครวิเศษกว่าตน ไม่ชอบสาวกพูดชื่นชม คนอื่นๆ เขามักจะโจมตีผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่เด่นดังเกินไป ทั้งทางตรงทางอ้อม เขาย่อมอย่ากเป็นที่หนึ่งในความวิเศษ เช่น มีคนมาถามถึงคู่แข่ง ชื่อ ... เป็นไง เขาก็จะพูดแบบ discredit ว่าไม่ดีมั่ง ว่าธรรมดามั่ง กระจอกมั่ง หรือพูดอ้อมๆ ให้คิดว่าธรรมดาๆ ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องเป็นต้น

    7. เจ้าลัทธิมักจะพูดเก่ง พูดดี วางตัวดี น่าเชื่อถือ - ผู้หัวอ่อนมักจะโดนหลอกให้คล้อยตามวาทะศิลป์ของเจ้าลัทธิได้ง่าย เพราะสิ่งสำคัญของการเป็นเจ้าลัทธิ เป็นผู้วิเศษจอมปลอม การจะทำให้คนคล้อยตามได้นั้น คือการพูดที่เก่ง พูดดูดี น่าเชื่อถือ มีจิตวิทยา ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการจะเป็นผู้นำลัทธิ เหมือนกับ salesman ขายของเก่งเพราะพูดเก่ง เมื่อเจ้าลัทธิพูดเก่ง ก็ย่อมเขียนหนังสือเก่งเป็นธรรมดา จึงเขียนหนังสือขายได้ไปด้วย หรือพิมพ์ข้อความในเน็ตสั่งสอนต่างๆ ตอบคำถามตางๆ ดูดีได้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  6. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    Charles Manson and The family

    [​IMG]


    http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=161

    ชาร์ลส แมนสันเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1934 เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยปัญหา เขาก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อย เข้าคุกเป็นว่าเล่น เมื่อออกจากคุกเขาหันมาเป็นพวกฮิปปี้ และได้รวบรวมกลุ่มคนโดยใช้ชื่อลัทธิว่า “แมนสันและครอบครัว” โดยเขาได้พูดถึงวันสิ้นโลกไว้ว่า "ในไม่ช้าจะเกิดสงครามระหว่างคนขาวกับคนดำจะเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่สงครามปรมาณู คนดำจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีความสามารถในการปกครอง แมนสันและครอบครัวโดยมีข้าเป็นผู้นำจะเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอด และกลายเป็นผู้ปกครองโลกตลอดกาล"

    ฟังดูไร้สาระ แต่ในเมื่อชาร์ลสเชื่อ สาวกก็เชื่อด้วย จากตรงนี้เองที่พวกเขาเริ่มคิดถึงการก่ออาชญากรรมแล้วป้ายความผิดให้กับคนผิวดำเพื่อให้สงครามเกิดขึ้นเร็วๆ และกำจัดบุคคลที่เขาขัดขวางพวกเขา ส่งผลทำให้มีผู้เป็นเหยื่อของลัทธินี้หลายราย และบางรายถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยกรณีดังที่สุดคือ ในวันที่ 8 สิงหาคม 1969ภรรยากำกับหนังคนดังชื่อ โรมัน โปแลนสกี้และดาราสาว ชื่อ ชารอน เทท อายุ26 ปี และเพื่อนที่มาร่วมงานดินเนอร์แบบเป็นกันเอง 3 คน ถูกสาวกของชาร์ลสก็ฆ่าทุกคนตายเรียบ แต่ชารอน เททหนักสุด เพราะเหล่าสาวกรุมแทงเธอถึง 16 แผล จากนั้นก็ใช้มีดผ่าท้องของเธอจนเหวอะหวะ และถูกไม้ตีที่ศีรษะซ้ำยังไม่สะใจ พวกมันจับเธอ มัดโยงกับเพดานแขวนไว้ พวกมันตัดเต้านมของเธอทิ้งทั้งเป็น แล้วใช้มีดเล่มนั้นชำแหละกรีดตั้งแต่บริเวณยอดอก จนถึงหัวหน่าวเลือดสดๆของเธอกระจายเต็มบ้าน มิหนำซ้ำ ยังใช้แปลงจุ่มเลือดเขียนคำว่า "PIG"ตัวโตไว้ที่บานประตูบ้านสุดท้ายในวันที่ 13 เดือนธันวาคม 1969 ทั้งหมดถูกจับได้ยกลัทธิรวมทั้งชาร์ลส์ แมนสัน

    ทุกวันนี้ ชาร์ลส์ แมนสัน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุก ที่แคลิฟอร์เนีย และบรรดาสาวกก็แก่เป็นคุณปู่ คุณยายไปหมดแล้ว แต่กระนั้นก็มีเหล่าบรรดาสาวกใหม่ของชาร์ลส์ที่มีทั้งของแท้และของเทียมและแฟนพันธุ์แท้ที่ยังเชื่อคำสอนของเขายังคงมีอิทธิพลอยู่ในเจ้าลัทธิต่างๆ ในปัจจุบัน

    http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=275
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  7. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    Asahara and the Aum Supreme Truth

    [​IMG]

    http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=118

    ญี่ปุ่นนี้เป็นประเทศที่มีลัทธิต่างๆ มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เพราะความสับสนทางศาสนาในยุคปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีความรู้สึกว่าตัวเองนับถือศาสนาใดอย่างเฉพาะเจาะจงนัก เวลางานแต่งงานใช้ศาสนาคริสต์ งานศพใช้ศาสนาพุทธ ทำให้มีลัทธิใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย บางลัทธิดีก็ดีไป แต่บางลัทธิไม่ดีนะสิก็เป็นปัญหาเหมือนกัน อย่างลัทธิอาซาฮาระ โชโค(เกิดเมื่อ 2 มีนาคม 1955) ซึ่งอดีตเป็นแค่ลูกช่างทำเสื่อ ไร้การศึกษาและตาบอด แต่เขาหลงในเรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆ จึงเริ่มฝึกโยคะและวิชาเซียนที่อินเดีย อ้างว่าตัวเองไปที่เทือกเขาหิมาลัยและ"หลุดพ้น"(ตรัสรู้?)ที่นั่น และ ปี 1987 ได้ก่อตั้งเป็นฃ"โอมชินริเคียว"หมายถึง"การสร้างสรรค์" "การคงอยู่" และ"การทำลาย"ของจักรวาลซึ่งรวมทั้งหมดแล้วหมายถึง "อนิตยา" (ความไม่เที่ยงแท้) โดยมีความเชื่อหลักของกลุ่มว่า ประเทศสหรัฐจะเป็นผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ ๓ และจะนำไปสู่วันสิ้นสุดของโลก โดยในวันนั้นมนุษย์จะหมดไปจากโลกและยังเชื่อว่าวันดังกล่าวจะมาถึงอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อให้เป็นการเร่งให้วันดังกล่าวมาถึงเร็วขึ้น จึงสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อก่อให้เกิดวันสิ้นสุดของโลก โดยมีเขาเป็นศูนย์กลางและสาวกทั้งหมดจะรอดเมื่อถึงวันนั้น

    ลัทธินี้มีฐานใหญ่อยู่ที่เมืองฟูจิมิยะ จังหวัดชิสึโอกะ และมีการขยายสาขาไปทั่วประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศกว่า 49,000 คน สาวกส่วนใหญ่ มีอายุอยู่ในช่วง 20-30 ปี บางคนเป็นถึงด็อกเตอร์ ศาสตร์จารย์มหาลัย หรือผู้มีอิทธิพลต่างๆ โดยทั้งหมดเชื่อหลักคำสอนลัทธินี้เพราะว่ามีการใช้เรื่องเหนือธรรมชาติมาเป็นตัวโฆษณา

    ส่วนหลักคำสอนของลัทธินี้เด่นๆ ก็เช่นฆ่าคนชั่วไม่มีความผิด ทรัพย์สินสาวกทั้งหมดต้องให้เจ้าลัทธิ ห้ามกินเน้นกินนี้(แต่เจ้าลัทธิสามารถกินได้) ซึ่งหลายข้อสาวกทำไม่ได้เลยพยายามตีตนออกห่าง ทำให้มีการฆ่าปิดปากสาวกเหล่านั้นเพื่อไม่ให้เรื่องเหล่านี้เปิดเผย โดยมีคดีดังที่เกี่ยวข้องกับลัทธิหลายคดี จนกฎหมายเริ่มจับตา จนเป็นเหตุทำให้เกิดคดีปล่อยแก๊สซารินที่สถานีรถไฟใต้ดิน 5 สายขึ้นเพื่อเป็นการเบนข่าวลัทธินี้ โดย20 มีนาคม 1995 เวลา 8 โมงเช้า ในรถไฟใต้ดินโตเกียวจำนวน 5 สาย (สาวกของลัทธินํากระเป๋าซึ่งบรรจุแก๊สซารินเหลวมายังสถานีรถไฟใต้ดินในชั่วโมงเร่งด่วน จากนั้นก็ทําการเจาะกระเป๋าให้ แตกออกโดยใช้ ร่มปลายแหลมและแล้วซารินจำนวนมากเกิดเป็นแก๊สพิษทำให้คน 12 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 5,510 คน เป็นคดีฆาตกรรมอย่างไม่เลือกตัวครั้งใหญ่ที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และสร้างความตื่นตระหนกไปจนทั่วโลก

    หลังเหตุการณ์แก๊สซาริน ทำให้เจ้าหน้าทีตำรวจตัดสินใจบุกลัทธิโอมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม และสามารถจับกุมอาซาฮาระพร้อมแกนนำได้ อาซาฮาระปฏิเสธเกือบข้อหา ในศาล เขามักจะแสร้งทำตัวพูดไม่รู้เรื่องหรือแกล้งบ้าเพื่อจะได้พ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีความสามารถในการรับผิดชอบ และตัวเขาก็ถูกตัดสินโทษประหารด้วยการแขวนคอ ส่วนสาวกได้รับโทษประหารชีวิตแบบเดียวกัน และยังมีสาวกอีกหลายคนอยู่ระหว่างการหลบหนีจนปัจจุบันนี้ และลัทธิโอมถูกประกาศว่าเป็นลัทธิอันตราย และถูกสั่งให้ยกเลิก แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ยังศรัทธาลัทธิอยู่ และได้ตั้งชื่อใหม่เป็น “กลุ่มแอลป์” และปฎิบัติตามคำสอนของลัทธินี้อยู่จนถึงปัจจุบัน



    Heaven’s gate


    [​IMG]

    "เฮฟเวน'สเกต" หรือ "ประตูสู่สวรรค์ " เป็นลัทธิศาสนาที่เชื่อเรื่องยูเอฟโอ ฐานใหญ่อยู่ในซานดิเอโก ก่อตั้งโดยมาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์(1931-1997) เจ้าลัทธิหัวหลอดไฟที่หน้าตาเหมือนมนุษย์ต่างดาว โดยประวัติความเป็นมาของลัทธินี้เริ่มขึ้นเมื่อตัวมาร์แชลล์ได้ฟื้นตัวจากอาการหัวใจวายซึ่งเมื่อรอดตายมาได้เขาอ้างว่าเขาได้พบมนุษย์ต่างดาว จากนั้นเขาก็ได้เขียนหนังสือถึงประสบการณ์นั้นแม้ว่าจะไม่ประสบผลสำเร็จอะไรมากมายแต่ก็สามารถทำให้คนหลายคนจากทั่วประเทศเดินทางมาหาเขาและเริ่มก่อตั้งลัทธิ “ประตูสวรรค์” ขึ้น โดยมีความเชื่อมนุษย์หาได้มาจากการสร้างของพระเจ้า หากแต่มาจากพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว และดาวเคราะห์โลกกำลังจะถูกรีไซเคิล(ทำความสะอาดขึ้นมาใหม่ หรือฟื้นฟูสภาพ)โอกาสเดียวที่จะรอดคือการออกไปจาโลกทันทีและต้องทำโดยเร็วด้วย โดนวิธีการฆ่าตัวตายโดยทิ้งร่างกายไว้ โดยจะมียานอวกาศมารับบรรดาวิญญาณ เพื่อเดินทางไปยังดาวต้นกำเนิดที่อยู่ด้านหลังของดาวหาง เฮล-บ็อบซึ่งความเชื่อนี้นำมาซึ่งเหตุฆ่าตัวตายหมู่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1997 ที่บ้านพักคฤหาสน์ เมืองซานดิเอโก สหรัฐ ในช่วงดาวหาง ฃเฮล-บ็อบมายังโลก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปพบร่างผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตายถึง 39 คน ศพชาย 18คน และหญิง 21 คน รวมไปถึงนายมาแชล แอปเปิ้ลไวท์ อายุ 66 ปีขณะนั้นรวมอยู่ ทั้งหมดตายด้วยวอดก้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรงให้ดื่ม แล้วนอนตายอย่างสงบบนเตียงของแต่ละคน

    [​IMG]

    หลังจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของลัทธิประตูสวรรค์ส่งผลทำให้คำสอนของลัทธินี้เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในสื่อต่างๆ ทำให้มีหลายลัทธิได้นำเรื่องยูเอฟโอมาใช้โฆษณาเรียกสาวกเข้ากลุ่มมากยิ่งขึ้น และกรณีนี้ได้กลายเป็นตัวอย่าง การฆ่าตัวตายทางศาสนาที่น่าเป็นเครื่องเตือนใจเป็นอย่างดี
    http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=118
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  8. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    Branch Davidians

    [​IMG]

    http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=406

    Branch Davidians หรือ กิ่งก้านแห่งดาวิเดียน แต่เดิมลัทธินี้มีชื่อ Davidian Seventh Day Adventists ("ดาวิเดียน") ซึ่งตอนแรกหลักคำสอนเดิมของลัทธินี้คือ “วันพิพากษโลกจะเกิดขึ้นเมื่อปี 22 เมษายน 1959 แต่ปรากฏว่าคำทำนายนี้ไม่เป็นจริง ทำให้ในปี 1955 นิกายนี้ได้สร้างใหม่โดย เดวิด โคเรช มาเป็น “ลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียน” พร้อมหลักคำสอนใหม่ว่า อีกไม่นานโลกจะถึงยุค “อมาเกดอน” หรือวันวิบัติโลก ซึ่งเขาผู้รับคำสั่งจากเบื้องบนมาปลดทุกข์ เขาคือตัวแทนของเหล่าพระองค์ที่มาหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ของมนุษย์ ภายหลังวันพิพากษาโลก เผ่าพันธุ์ใหม่(หรือสาวกของเขา)เหล่านี้จะเป็นผู้รอดชีวิตและฟื้นฟูโลกใหม่ ก่อนที่จะปิดท้ายว่าพระเจ้ากำหนดให้เขาต้องมีภรรยา 140 คน

    ด้วยหลักคำสอนนี้ทำให้เดวิดนั้นสามารถมีภรรยาหลายคน ซึ่งภรรยาส่วนใหญ่นั้นเคยเป็นภรรยาของสาวกของเขานั้นเอง นอกจากนี้เขายังชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ส่งผลทำให้ลัทธินี้เริ่มเสื่อมศรัทธาจากหลายๆ ประเทศ ที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังไปถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาบัดนี้กลายเป็นลัทธิเล็กๆ เท่านั้น แต่กระนั้นก็มีสาวกหลายคนยึดมั่นในตัวเดวิดอยู่ เนื่องจากเดวิดใช้วิธีการสอนสมาชิกด้วยวิธีล้างสมอง โดนเริ่มใส่โปรแกรมภาพความรุนแรง ความโหดร้ายต่างๆ จากภาพยนตร์และสารคดีให้แก่สมาชิกได้ชมทุกๆ วัน เพื่อให้มีความเชื่อฝังหัวว่าวาระสุดท้ายของโลกใกล้มาถึงแล้ว

    Branch Davidians เป็นที่จับตาของกฎหมายมาหลายปี เนื่องจากมีคดีทารุณต่อเด็กและสตรีและสะสมอาวุธสงครามมาครอบครอง ทำให้ทางราชการต้องสู้รบกับสมาชิกต่อเนื่อง จนกระทั้งในปี ค.ศ.1993 เอฟ.บี.ไอ.ไล่ต้อนสาวกของลัทธินี้จนมุมที่เมืองวาโค รัฐเท็กซัส และผู้นำลัทธิเดวิด และผู้ติดตามได้ฆ่าตัวตายโดยการจุดไฟเผาเนื่องจากไม่อยากให้เจ้าหน้าที่บุกจับ ส่งผลให้เขาและสาวกตายกว่า 83 คน(จากรายงานของทางราชการพบศพ 79 ศพ)สิ่งที่สลดอย่างที่สุดคงจะเห็นไม่เกินซากศพมากจำนวนหนึ่งในห้องที่มีผนังคอนกรีตหนาและสูง(ห้องหลบภัย) คาดว่าเป็นสมาชิกของเด็กและผู้หญิงที่ทั้งหมดเอามารวมกันไว้อยู่ในสภาพไหม้เกรียมซึ่งมีมากถึง 41 ศพและเหตุการณ์เหล่านี้ได้ถูกสื่อมวลชนมากมายถ่ายทอดให้ประชาชนชาวอเมริกันนับล้านคนได้ดูทางทีวี



    The People’s Temple

    [​IMG]

    http://www.mythland.org/v3/viewthread.php?action=printable&tid=2739

    เรื่องราวลัทธินี้ได้กลายเป็นตำนานที่กล่าวถึงคนธรรมดาที่อยากเป็นใหญ่แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวและกลายเป็นโศกนาฏกรรมสังหารหมู่คลั่งศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก

    จิมส์ โจนส์ เกิดเมื่อ 13 พฤษภาคม 1931 ในครอบครัวยากจนที่รัฐอินเดียน่า ประเทศอเมริกา ในครอบครัวที่แม่เชื่อว่าเขาเป็นนักบุญมาตั้งแต่เกิด เขาจึงเติบโตขึ้นเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์อย่างแรงกล้า และเขาได้ก่อตั้งลัทธิโบสถ์มวลชน และได้เริ่มทำการเผยแพร่ศาสนาเป้าหมายคือคนผิวสี ด้วยความมีพรสวรรค์ในการเทศน์ทำให้มีผู้ศรัทธาในตัวเขาจึงเพิ่มขึ้น เขาช่วยเหลือผู้ยากจน มีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วยการอวดอ้างคุณงามความดีที่เขาทำให้ กับสังคม ในขณะเดียวกันก็ใส่ร้ายให้โทษลัทธิอื่นๆโดยกล่าวหาว่าลัทธิอื่นเป็นศาสน พาณิชย์ มุ่งแต่หาผลประโยชน์ กอบโกยเงินทองโดยไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน มีแต่ลัทธิเขาเท่านั้นที่ดี ด้วยการพูดเช่นนี้ส่งผลทำให้โบสถ์มวลชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว เขามีสาวกในมือมากราวกับเป็นกิจการขนาดใหญ่ สร้างเส้นสายในหมู่นักการเมืองซึ่งทำให้โบสถ์มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้สมัยนั้นจะเป็นยุคเหยียดสีผิวก็ตาม

    เมื่อจิมส์ โจนส์ ตั้งสิทธิตนเองได้ เขาประกาศว่า "ในไม่ช้าโลกจะถูกปรมาณูฆ่าล้างผลาญ มีแต่ผู้อยู่ในเวโลโอริซอนเด้ในบราซิลและยูเกียในแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่จะรอดชีวิต" เขาสอนให้ดำรงชีวิตแบบสังคมนิยม ปลูกผักเลี้ยงสัตว์บริโภคกันเองสังคมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

    แต่กระนั้นเมื่อนานเข้าลัทธินี้ก็ไม่ชอบมาพากลเมื่อมีข่าวว่าจิมส์เริ่มมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสาวก (ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย) ทำเขาสร้างฮาเร็มขึ้นในหมู่สาวก แต่กลับตั้งกฎให้งดเว้นการมีเซ็กซ์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวอ่อนลง เด็กๆถูกแยกจากพ่อแม่ เขาสั่งให้สาวกเรียกตัวเองว่า"บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์"จิมส์ชักชวนให้สาวกบริจาคสมบัติทั้งหมดแก่โบสถ์และมาใช้ชีวิตในโบสถ์ โดยบอกว่านี่เป็นการสร้างหนทางสู่สวรรค์ และเริ่มเทศน์ว่าท้ายที่สุดนั้น สาวกทุกคนต้องฆ่าตัวตายพร้อมกัน เพื่อที่วิญญาณของทุกคนจะได้เป็นหนึ่งเดียวและได้รับความสุขอันเป็นนิรันดรที่ดาวดวงอื่น

    ปี 1973 จิมส์เริ่มวางแผนจะย้ายสาวกไปยังกีอาน่าในอเมริกาใต้และสร้าง"โจนส์ทาวน์"ขึ้นบนพื้นที่กว่า 300 เอเคอร์“วิหารเทวาลัย” เป็นจุดศูนย์กลาง โดยในปี 1978 มีผู้อยู่อาศัยในโจนส์ทาวน์ 1,000 คน ดินแดนแห่งนี้ตัดขาดจากโลกภายนอกไม่รับอนุญาตให้คนนอกเข้า ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนเมืองในระบบเผด็จการของจิมส์ กฎมากมายถูกกำหนดขึ้น คนที่จำไม่ได้ คนที่ไม่ปฏิบัติตามและคนที่ทำท่าจะหนีออกไป ถูกลงโทษอย่างรุนแรงซึ่งยกระดับขึ้นเรื่อยๆ จากการใช้กำลังเป็นการทรมาน และจากการทรมานเป็นการใช้กำลังทางเพศหากถูกจับได้จะถูกนำมาทิ้งที่บ่อลึก ซึ่งรู้จักในชื่อ “โพรงแห่งทุกข์ทรมาน” โดยจะโยนทิ้งในเวลาเที่ยงคืน จากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นหน้าผู้เคราะห์ร้ายนั้นอีกเลย กลางป่าลึก โดยมี

    ค.ศ.1978 ลีโอ รายอัน สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กับผู้สื่อข่าว ได้เข้าไปที่โจนส์ทาวน์เนื่องจากได้รับคำร้องเรียนจากอดีตสาวกและครอบครัวของสาวกที่ยังอยู่ที่นั่น รายอันได้แอบนำสาวกที่เปลี่ยนใจซ่อนตัวออกมาเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ แต่ความแตก บรรดาสาวกที่บ้าคลั่งพากันขับรถตามมาสังหารรายอันกับสาวกที่แปรพักตร์และผู้สื่อข่าวอีก 3 คนตายเกลี้ยง

    วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1978 หลังจากเกิดการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จิมส์รู้ดีว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดอวสาน ตำรวจไม่ปล่อยเอาไว้แน่ เขาเรียกประชุมสาวกทั้งหมดมาที่โจนส์ทาวน์

    จิมส์ประกาศผ่านลำโพงกระจายเสียง “ถ้าหากเราไม่สามารถอยู่อย่างสันติได้ก็ขอตายอย่างสันติ” สิ้นเสียงประกาศเหล่าสมาชิกก็ปรบมือขานรับอย่างกึกก้อง

    คริสติน มิลเลอร์ (Christine Miller) หนึ่งในสาวกไม่เห็นด้วย เธอบอกกับจิมว่า “หากชีวิตยังไม่สิ้นก็ยังคงมีความหวัง”

    จิมสวนกลับทันทีว่า “ทุกคนต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง”

    จากนั้นก็มีเสียงตะโกนออกมาจากกลุ่มสมาชิกว่า “ถูกต้อง ถูกต้อง”

    คริสตินไม่ละความพยายาม “ถ้าอย่างนั้นขอให้ปล่อยเด็กๆ”

    จิมปฏิเสธคำร้องขอของคริสติน “การตัดสินครั้งสำคัญที่เราจะให้ได้ก็คือการลาจากโลกที่เส็งเคร็งใบนี้” แล้วเสียงปรบมือสนับสนุนดังลั่นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สั่งให้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมไซยาไนด์อย่างแรงเพื่อฆ่าตัวตาย (เสียงบทสนทนาโหลดที่ Play / Download the mp3 (20.4mb))


    และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น สาวกของจินอยู่อยู่ด้านนอกของโจนส์ทาวน์ต่างพากันฆ่าตัวตายถี่ขึ้น และมีหลายรายมีรายงานว่า “ถูกบังคับให้กินยาพิษ” ถ้ามีผู้ปฏิเสธก็จะถูกยิง รัดคอ หรือไม่ก็ถูกจับฉีดไซยาไนด์เข้าเส้นเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสำรวจพบว่ามีคนตายทั้งหมด 914 กว่าคน คนที่เสียชีวิตนั้น คาดการณ์ว่ามีถึง 300 กว่าคนที่ถูกฆ่าโดยคนอื่น มีทั้งศพที่ถูกยิงจากข้างหลัง และศพที่อยู่ห่างจากแก้วยาพิษจนไม่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเอื้อมไปถึง เกือบ 300 ศพจากทั้งหมดเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีส่วนศพของจิมส์ถูกพบบนแท่นเวที ที่ศีรษะด้านขวามีรอยกระสุน ไม่ทราบว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมกันแน่ แต่ดูจากสถานการณ์โดยรวม คนส่วนใหญ่ต่างก็ลงความเห็นว่านี่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า และนี้คือเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย ที่ได้รับการบันทึกประวัติศาสตร์ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหมู่โดยเจตนามากที่สุดในโลก!!

    http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=406
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  9. 123go

    123go เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +302
    แฉ! ธรรมกายโปรเจกต์ “ล้างสมองครู - ยึดครองประเทศ”

    มาถึงตอนนี้แผนการเบื้องลึกเบื้องหลังของลัทธิที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบมาพากลนี้คืออะไรกันแน่?

    ไม่ได้จัดในธรรมกาย...แต่จัดโดยธรรมกาย

    จากการให้ข่าวล่าสุดของ ดร.อรทัย มูลคำ ที่ปรึกษา สพฐ. ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการที่ออกมาปฏิเสธว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับธรรมกาย โดยให้สัมภาษณ์ว่า

    “ที่ผ่านมา สพฐ.ได้จัดอบรมไปแล้วหลายรุ่น ซึ่งทุกรุ่นจะต้องไปปฏิบัติธรรมในวัด หรือศูนย์ปฏิบัติที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งทุกคนต้องถือศีล 8 และทำกิจกรรมตามตารางที่กำหนด ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับต้องไปปฏิบัติธรรมในวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด ซึ่งจากเสียงตอบรับของผู้เคยเข้าร่วมบอกชัดว่าโครงการดังกล่าวนี้ดี

    “ผู้บริหารและครูนำแนวทางที่ได้จากการอบรมไปปรับแนวทางการบริหารจัดการเรียนการสอน เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ไปส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่นักเรียน รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้ตามนโยบาย สพฐ.เพราะฉะนั้น จึงไม่อยากให้คิดหรือพูดว่า สพฐ.บังคับให้ครูต้องมาร่วม แต่เป็นการขอความร่วมมือจากทุกคนมากกว่า โดยเฉพาะโรงเรียนในฝันและโรงเรียนดีศรีตำบล จะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป”

    และแม้ว่าเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการก็ไม่ปรากฏชื่อของธรรมกาย แต่ทว่าในเอกสารกำหนดการของโครงการกลับพบชื่อของ พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ และ พระครูธรรมธรอารักษ์ ญาณารกฺโข 2 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมกายและ พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นวิทยากรในโครงการ กิจกรรมช่วงหนึ่งยังมีชื่อของกลุ่ม v - star ซึ่งเป็นชื่อโครงการบ่มเพาะเยาวชนของวัดธรรมกาย นอกจากนี้เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของลัทธิธรรมกายด้วย

    ทั้งนี้ ความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้องย้อนกลับไปถึงจุดแรกเริ่มของโครงการร่วมระหว่างธรรมกายกับสพฐ.นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน(2553) ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่ได้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอร่วมด้วยนักวิชาการ 43 คน มีหนังสือคัดค้านที่นำโดย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ทำให้การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่างสพฐ. กับสมาคมพุทธศาสตร์สากลในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ลัทธิธรรมกาย เป็นอันต้องตกลงไป

    พูดให้ชัดคือ ธรรมกายเคยมีความพยายามที่เข้ามาแทรกแซงระบบการศึกษามาก่อนแล้ว มาถึงตอนนี้ จากบุคลากรในชุดเดิม และรูปแบบของโครงการเดิม กับรัฐบาลชุดใหม่ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป โครงการเก่าที่ถูกค้านตกไปกลับมาใหม่ในชื่อโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติธรรมเรียนดีศรีตำบล กับโรงเรียนในฝัน

    ล้างสมองครองโลก

    หลังจากโครงการอบรมจริยธรรมครูถูกยกเลิกเมื่อสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อเข้าสู่รัฐบาลยิ่งลักษณ์โครงการดังกล่าวก็กลับมาอีก ทางฝ่ายที่เห็นค้านกับโครงการก็เคลื่อนไหวเช่นเดิม โดยมีการรวบรวมเอกสารหลักฐานหลายอย่างไว้ เพื่อส่งให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แม้แต่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อหาช่องทางคัดค้าน

    แต่ทว่านัด (นามสมมติ) 1 ในแอดมินเพจ คัดค้านโครงการเหลือบ “โรงเรียนดีศรีตำบล” นอมินีธรรมกาย ครอบงำการศึกษาไทย เผยถึงการทำงานที่เป็นไปได้ยากเนื่องจากการดำเนินงานของโครงการครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะนโยบายนั้นถูกสั่งตรงมาจากนายกรัฐมนตรี กลายเป็นนโยบายของรัฐซึ่งต่างจากครั้งก่อนที่จะมีจดหมายเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับวัดธรรมกาย นอกจากนี้เมื่อส.ว.ลงไปตรวจสอบกลับพบว่า มีการให้พระจากวัดอื่นมาทำโครงการด้วย ไม่ใช่แค่วัดธรรมกายอย่างเดียว จึงไม่สามารถจัดการอะไรได้

    “ถ้ามันมาจากธรรมกายประสานกับสพฐ. มันจะมีจดหมายเชื่อมโยง แต่ตอนนี้มันไปไกลกว่านั้น ใช้วิธีการให้นายกรัฐมนตรีสั่งการเป็นเส้นตรงมาเลยกลายเป็นนโยบายรัฐ มันไม่ใช่โครงการร่วมที่เราสามารถเข้าไปแทรกแซงได้”

    เมื่อเทียบกับโครงการที่ถูกคัดค้านตกไป โครงการนี้ถือว่ามีการรับลูกส่งต่อกันตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี เขาบอกเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มาจากความเชื่อมโยงหลายๆ จุด ทั้งฝ่ายการเมือง ข้าราชการในสายการศึกษา กับลัทธิธรรมกาย ที่ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปตรวจสอบได้

    “ถ้าเกิดมันแตกนอกสายไม่เป็นไร...แต่นี่มันเป็นสายเดียวของธรรมกายหมดเลย มันเลยไม่มีข้อมูลรั่วออกมาเลยแม้แต่น้อย”

    จากการติดตามความเคลื่อนไหวในประเด็นเกี่ยวเนื่องกับลัทธิธรรมกายมาอย่างต่อเนื่อง เขาถึงกับออกปากว่า ลัทธิธรรมกายมีแผนที่จะครองโลก! แม้จะฟังดูเกินจริง แต่แผนการที่ถูกวางไว้ในขั้นแรกของลัทธินี้ก็คือการล้างสมองเด็กๆ และเยาวชน โดยแผนดังกล่าวนั้นเคยถูกเปิดโปงมาแล้วในช่วง 3 ปีก่อนที่ธรรมกายเข้าไปแฝงตัวอยู่ในชมรมพุทธตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังมีโครงการ V - Star หรือโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก หรือแม้แต่โครงการธรรมทายาท

    เขาเห็นว่า โครงการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการล้างสมอง สร้างสาวก บิดเบือนคำสอนของพุทธศาสนาทั้งสิ้น จนถึงตอนนี้การเข้าถึงโรงเรียนในระดับประถม เขามองว่าเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่ธรรมกายต้องการจะเข้ามา และเหล่าครูตามโรงเรียนก็ถือเป็นกลไกหนึ่งที่ถูกแทรกแซงได้

    จนถึงตอนนี้มีการอบรมไปทั้งหมด 11 รุ่น เขาเผยว่า ครูที่ไปเข้าร่วมนั้นต้องพบกับข้อบังคับหลายอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้าที่ต้องซื้อกับทางวัด อาหารการกินที่ห้ามกินข้าวเย็นซึ่งทำให้ครูบางคนที่มีอาการป่วยต้องทานยาในมื้อเย็นไม่สามารถทานยาได้ ส่งผลให้ล้มป่วยหลังกลับจากโครงการก็มี นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมให้แบบเฉพาะอย่างการตักบาตรแบบธรรมกายที่ไม่เหมือนที่อื่น และยังมีการพูดถึงการชำระล้างพระไตรปิฎก

    “หลังจากตื่นมานั่งสมาธิทำบุญ เปิดวิดีโอล้างสมองช่วงเช้า เสร็จมีเจ้าหน้าที่มาพูดช่วงหนึ่ง เปิดวิดีโอล้างสมองช่วงสาย เสร็จปุบ ล้างสมองช่วงบ่าย พูดแป๊บหนึ่งล้างสมองช่วงเย็น จากนั้นก็นั่งสมาธิ มันเป็นแบบนี้ทุกวัน”

    เนื้อหาที่ฉายในการอบรมเขาเผยว่า สามารถดูได้จากChange The World ซึ่งเป็นสื่อของธรรมกาย การอบรมดังกล่าวใช้เวลา 3 - 4 วัน และหากไม่ผ่านจะต้องกลับมาซ่อมด้วยการอบรมใหม่อีกครั้ง

    นอกจากนี้ ยังมีโครงการอุปสมบทครูแก้วภาคฤดูร้อน และโครงการบรรพชาสามเณรม.ปลายภาคฤดูร้อน โดยให้ครูและนักเรียนเข้าบวชกับธรรมกายเป็นเวลา 15 - 30 วันอีกด้วย โดยผู้ที่ผ่านการบวชจะถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของลัทธิธรรมกาย

    ทั้งนี้ แม้จะมีเสียงตอบจาก สพฐ.ว่า การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ ทว่าในทางปฏิบัติแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะจากที่ผ่านมาเขาเผยว่า หากโรงเรียนไหนมีครูที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมจะส่งผลให้โรงเรียนนั้นไม่ผ่านหลักเกณฑ์และจะทำให้ไม่ได้รับเงินสนับสนุน

    “ครูใหญ่ก็ต้องอยากได้เงินเป็นธรรมดา พอเป็นแบบนี้ก็เลยมีมาตรการบีบให้ครูเข้าร่วมกิจกรรม หากไม่เข้าก็อาจจะถูกตั้งกรรมการสอบ ที่ผ่านมาก็เคยมีถึงขั้นไล่ออกจากที่ครูบางคนไม่พอใจกับการร่วมโครงการ อาจจะออกมาพูดบางอย่าง พอโดนไล่ออกไปคนหนึ่ง ครูหลายคนเลยไม่กล้าออกมาพูดเรื่องนี้”

    ภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับโครงการที่ชะงักไป เขามองว่าเป็นผลมาจากการตรวจวัดคุณภาพของโครงการ แต่คงหยุดพักเพียงชั่วคราวเท่านั้น

    “ผมคิดว่าโครงการคงกลับมาเดินหน้าต่อ ตราบใดที่คนกลุ่มนี้ยังทำงานอยู่ เพราะมันมีความเชื่อมโยงทั้งกำลัง ฐานเสียง และการเงิน แม้แต่ตัวส.ว.ที่เราเข้าไปขอให้ตรวจ เขายังบอกเองว่า มันเป็นเรื่องใหญ่มากจนเขารู้สึกว่า ต้องทำเรื่องอื่นก่อน ไม่งั้นเจอเรื่องนี้แล้วจะน็อกไปก่อนได้”

    เสรีภาพทางศาสนา

    โครงการที่มีหลักการส่งเสริมคุณธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การบังคับให้ครูต้องเข้าร่วมโดยที่ไม่สมัครใจนั้น ครูหยุย - วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก และอดีต ส.ว. เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทั้งยังขัดต่อรัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา

    ในฐานะที่เขาเป็นบุคลากรที่ทำงานในแวดวงของการศึกษามาอย่างช้านาน ทำให้เห็นว่าโครงการนี้ถูกผลักดันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เขาตั้งข้อสังเกตว่า ในสพฐ.นั้นมีผู้ใหญ่ระดับสูงที่มีความรู้จักมักคุ้นกับธรรมกายอยู่เยอะ

    “ยุคนี้โครงการเดิมมันมาโผล่อีก มันก็อยู่ในกลุ่มเครือข่ายสพฐ.เดิมที่นำเอาโครงการนี้มาปัดฝุ่นผลักดันกันใหม่” เขาเอ่ยพร้อมอธิบาย “การให้ครูไปอบรมจริยธรรมเป็นความคิดที่ฟังแล้วดูดี แต่ในคำสั่งบังคับให้ไปฝึกกับธรรมกาย...อันนี้เจ๊งเลย มันขัดรัฐธรรมนูญที่บอกว่า เรามีสิทธิเสรีภาพที่จะนับถือศาสนาใดก็ได้”

    เขาเห็นว่า พุทธศาสนาในประเทศไทยนั้นก็มีหลายแนว ปัญหาตรงนี้ทำให้ครูหลายคนเดือดร้อนด้วยเพราะศรัทธาที่ไม่เหมือนกัน เขายกตัวอย่าง ครูแถวอีสานจะศรัทธาสายวัดป่า อาทิเช่น หลวงปู่ชา สุภัทโท หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ครูทางใต้จะนับถือแนวพุทธทาส

    “แล้วยิ่งพวกเคร่งมากเขานับถือแนวสันติอโศก ไปบังคับครูให้ไปแนวธรรมกาย มันผิดอย่างแรง เขาร้องเรียนกันเยอะจนบอกมาที่ผม ตอนนี้มันสะดุดแล้ว คนรู้ทันก็เลยหยุด ตอนนี้มีคำสั่งใหม่ให้ทำอะไรก็ได้ ไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็จบไป”

    อย่างไรก็ตาม เขายังมองว่า หน่วยงานราชการไม่สามารถพูดลอยๆ ได้ ควรมีจดหมายจากกระทรวงศึกษาธิการแจ้ง นอกจากนี้เขายังเสนอว่า หากโครงการดังกล่าวจะดำเนินการต่อก็ควรให้ครูในโรงเรียนจับกลุ่มกันตามแต่ศรัทธาเพื่อไปตามวัดที่ตัวเองอยากไปปฏิบัติธรรม

    “ในหนึ่งโรงเรียนครูก็อาจจะชอบไม่เหมือนกันก็ได้ 10 คนอาจจะไปหลวงพ่อคูณ 10 อาจจะไปสันติอโศก อีก 10 คนจะไปธรรมกายก็ได้แล้วแต่ศรัทธา ที่สำคัญคือเรื่องของศาสนาห้ามบังคับกัน”

    …..

    ท้ายที่สุดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติธรรมจะจบลงอย่างไร? ครูทั่วประเทศจะต้องจำทนกับภาวการณ์ของเงื่อนไขที่ไม่สามารถขัดขืนต่อไปหรือจะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น?

    เครือข่ายลัทธิธรรมกายที่เต็มไปด้วยข้อครหาจากสังคม หากวันใดลทธินี้สามารถแทรกตัวเองเข้ามาสู่ระบบการศึกษาที่เป็นเสมือนฐานรากอันสำคัญของประเทศได้สำเร็จ ถึงวันนี้เราคงหัวเราะไม่ออก กับความคิดที่ว่า ลัทธินี้พยายามจะครองโลก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  10. Deacon

    Deacon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +272
    ทีกระทู้ดีๆคุณภาพแบบนี้ไม่ยอมขึ้นแนะนำ แฉผู้วิเศษซะกลายเป็นแบคทีเรียไปเลย
     
  11. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    เห็นได้เป็นกระทู้แนะนำ ด้วยครับ อยู่หมวดวิทย์

    เว็บบอร์ด พลังจิต
     
  12. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632


    น่าเบื่อมาก หลังจากผ่านโรงเรียนดีศรีตำบล เหมือนตกเป็นอาณานิคมของสำนักนี้
    มีหนังสือเข้าตลอดว่าต้องเข้าร่วมโครงการเด็กดีวีสตาร์ ส่งครูและนักเรียนไปอบรมเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมโครงการ
    นี่ก็มีหนังสือเข้าให้ส่งเด็กที่จบม.๓ บวชสามเณรภาคฤดูร้อน ให้ครูผู้ชายต้องไปบวชเพื่อดูแลเด็ก เด็กผู้หญิง ครูผู้หญิงต้องไปบวชอุบาสิกาแก้ว ๑ เดือน
    พระตัวแทนสำนักนี้มาถึงโรงเรียนก็ยื่นใบสมัครให้พร้อมขอรายชื่อ หากไม่ได้รายชื่อก็ไม่ยอมกลับ เฝ้าเร่งรัดรุกเร้ารบเร้าเอาจนน่าหงุดหงิด

    ไอ้ที่บอกว่า

    โครงการดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับธรรมกาย โดยให้สัมภาษณ์ว่า

    “ที่ผ่านมา สพฐ.ได้จัดอบรมไปแล้วหลายรุ่น ซึ่งทุกรุ่นจะต้องไปปฏิบัติธรรมในวัด หรือศูนย์ปฏิบัติที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งทุกคนต้องถือศีล 8 และทำกิจกรรมตามตารางที่กำหนด ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับต้องไปปฏิบัติธรรมในวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด ซึ่งจากเสียงตอบรับของผู้เคยเข้าร่วมบอกชัดว่าโครงการดังกล่าวนี้ดี

    “ผู้บริหารและครูนำแนวทางที่ได้จากการอบรมไปปรับแนวทางการบริหารจัดการเรียนการสอน เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ไปส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่นักเรียน รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้ตามนโยบาย สพฐ.เพราะฉะนั้น จึงไม่อยากให้คิดหรือพูดว่า สพฐ.บังคับให้ครูต้องมาร่วม แต่เป็นการขอความร่วมมือจากทุกคนมากกว่า โดยเฉพาะโรงเรียนในฝันและโรงเรียนดีศรีตำบล จะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป”


    เป็นคำพูดโกหกตอแหลแถเหงือกอย่างหน้าด้าน ๆ จนเดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่า ธรรมกาย เป็นเจ้านาย หรือกระทรวงศึกษาเป็นเจ้านายกันแน่ มีหนังสือสั่งเอา ๆ ยังกะเราเป็นขี้ข้า โครตเซ็งจริง ๆ

     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    การเรียนการสอนวิชาสามัญก็ยังไม่ค่อยทันอยู่เเล้วเพราะกิจกรรม
    ในโรงเรียนก็เยอะเเยะ ที่ครูเเละนักเรียนต้องใช้ ชม.การเรียนการ
    ลงมาทำกิจกรรม บางวิชาจึงสอนไม่ครบจบไม่ทัยตามหสักสูตร

    ความจริงวิชาพระพุทธฯในปัจจุปันก็ไม่อยู่ในสายตาของผู้ควบคุม
    ระบบการศึกษาอยู่เเล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่พยายามถอดออกจากหลัก
    สูตร เเต่อยู่ๆ ก็ขานรับกับนโยบายของธรรมกายเฉยเลย

    เหล่าครูบาอาจารย์ฝ่ายดี ต้องช่วยกันพิจารณา ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
    ตรงจ๊ดใดบ้าง!?
    หาไม่เเล้วนอกจากการศึกษาจะไม่ยกระดับขึ้นมาเเล้ว
    ศีลธรรมเชิงธุรกิจอาจเป็นการสร้างปัญหาปมใหม่
    ขึ้นมาถมทับให้กับสัมคมไทยซ้ำหนักเข้าไปอีก!!
     
  14. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    ผู้อ่านเห็นว่ากระทู้ของกระผมมีประโยชณ์หรือไม่? เป็นสิ่งที่ผู้คนควรรับรู้จะได้บอกต่อๆ กันให้ระวังหรือไม่ กระทู้ผมควรหรือไม่แก่เว็บพลังจิต โปรดลองพิจารณา เหตุผลต่อไปนี้

    1. เว็บพลังจิต เป็นเว็บเพื่อพุทธศาสนา ชาวพุทธถือพระรัตนตรัยเป็นสารณะ
    2. ลัทธิ ผู้วิเศษจอมปลอม ไม่ใช่พุทธศาสนา ไม่ใช่พระรัตนตรัย
    3. มีเหตุผลสิ่งใดที่เว็บพลังจิตจะต้องไปสนับสนุน ลัทธิ รวมไปถึงผู้วิเศษจอมปลอม และต้องไปเกรงกลัว เกรงใจ ในเมื่อเขาก็รู้กันไปทั่วโลก ถึงความอันตรายของลัทธิอันตรายต่างๆ การออกมาเตือน ออกมาให้ข้อมูลเพื่อให้ระวังควรหรือไม่ เมื่อลัทธิหล่าวนี้สามารถทำให้ชีวิตฉิบหายไปต่อหน้าต่อตา
    4. ชาวพุทธย่อมนับถือพระรัตนตรัยเป็นสารณะ ก่อนพระพุทธองค์ทรงปรินิพพาน พระศาสดากล่าวว่า

    "ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และ
    บัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นพระศาสดาของพวกท่านสืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไป
    แล้ว"


    5. ดังนั้น การที่คนไปนับถือผู้วิเศษ กับคำสอนบิดเบือน มันเป็นพุทธศาสนาตรงไหน ในเมื่อแท้จริงแล้ว ชาวพุทธควรนับถือพระรัตนตรัย ควรศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นพระศาสดา ​

    ดูจากผลโวทด้านบนสรุปได้ว่า ผู้วิเศษจอมปลอม คือเห็บเหาสังคม หากินกับความงมงาย ความไม่รู้ ความกลัว ขายของ อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง มีมาตั้งแต่ยุคโบราณ knowledge is power ควรจะให้คนได้รู้ประวัติศาสตร์ เพื่อจะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาด

    ผมหวังอย่างยิ่งว่ากระทู้ผมจะช่วยให้คนหูตาสว่าง และไม่ทำผิดพลาด เหมือนสาวกจำนวนมากในอดีต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2014
  15. comfx22

    comfx22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +234
    อันนี้สิครับ อาจเข้ากันได้บ้าง

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=a5Zjp68gCH8]รู้ว่าเขาหลอก - น้ำอ้อย พรวิเชียร - YouTube[/ame]
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ
    เพราะมีจริงๆ และเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
    ใครให้ตังค์ขึ้นสวรรค์
    ใครยอมเป็นเมีย สารพัดกล่าวอ้าง
    มีผู้เสียหาย ตั้งแต่เจ้าของธุรกิจ ข้าราชการ ยันผู้ปฏิบัติธรรม
    นางพยาบาลแทบทั้งโรงบาล เพื่อนชักชวนไป
    ตามกฎหมาย เอาผิดไม่ได้ เพราะเป็นการให้ด้วยคุณศรัทธาคะ
     
  17. อสุนีบาต

    อสุนีบาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +237
    อ่านแล้ว เอิ่ม
     
  18. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    :cool:(k)({):cool:(k)ขอบคุณจขกท.ที่นำเสนอเรื่องนี้ออกมาให้แสดงความคิดเห็น ในเชิงหลากหลาย และเห็นด้วยกับแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ที่บอก"ทะเลาะกันได้ แต่อย่าโกรธกัน"เพราะต่างมาจากร้อยพ่อพันแม่ ย่อมคิดต่างกันได้ แต่ไม่ควรใช้กำลังเข้าห่ำหั่นกัน ทุกวันนี้มีการปลุกปั่นให้จงเกลียดจงชังกัน เช่น"เผามันเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง"แล้วเสวยสุขเป็นอำมาตย์ ทำให้ชาวนาผูกคอตาย เป็นต้น ยุคนี้ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองให้หลายๆรอบ ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อมีหลากหลาย ไม่ควรผูกขาดด้านใดด้านหนึ่ง ควรเป็นสากลที่มีเป้าหมายรู้รักสามัคคีบนพื้นฐานที่มีธรรมนำพา เป็นต้น เอวัง...:cool::cool::cool:(k)(k)(k)({)({)({)
     
  19. Deacon

    Deacon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +272
    ในขณะที่บอกว่าไม่อยากให้เกิดความแตกแยก โพสนี้ก็เป็นการยกวลีเด็ด
    ของอีกฝ่ายเพื่อเสี้ยมให้อีกฝ่ายเกิดความเกลียดชังอยู่ดี

    โพสประเภทนี้ในเวปนี้มีอยู่เยอะอ่านแล้วเหมือนจะสวย หล่อ เท่ห์ ดูดี มีศีล
    มีธรรม เป็นคนดี เป็นผู้ปฏิบัติ แต่แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากคนธรรมดาทั่ว
    ไปตรงไหนเลย แถมยังยุยงปลุกปั่นส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชังในสังคมอีก
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้าเมียๆ ไม่ทะเลาะกันสามัคคีกัน
    ก็โอเค ลัทธิอะไรก็ดีหมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...