"สุริยวงษ์" : ตะกรุดจักรพรรดิล้านนา ตะกรุดประจำตัว จัดสร้างเสร็จสิ้น ยังมีให้บูชา

รับทราบครับ จัดส่งด่วนให้พรุ่งนี้เช้าครับผม

 

เฉพาะกิจ!! เปิดจองตะกรุดประจำตัว "มหาจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา"​

ขนาด 7*10 cm. ม้วนแล้วยาว 7 cm.​

ตะกรุดที่ทำการรวบรวมยันต์และคาถาที่ถือว่าดีที่สุดตำหรับหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ตามตำหรับตำราโบราณล้านนา เรือนยันต์และคาถาหลักที่นำมาใช้นั้นในอดีตอาณาจักรล้านนา "พระเปนเจ้า" หรือกษัตริย์จะเป็นผู้ใช้คาถาเหล่านี้อยู่เสมอ เพราะความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพุทธคุณที่เห็นให้ประจักษ์ครอบจักรวาล ดังมีคำกล่าวว่า "ใช้ได้พันช่อง" คือครบทุกๆด้านนั่นเอง เนื่องจากเป็นคาถาและยันต์ที่ใช้กับกษัตริย์มหาจักรพรรดินั้นจึงเป็นที่มาของชื่อตะกรุด "มหาจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา"

องค์ประกอบของตะกรุด

1.มหาคาถาปโชตา เป็นคาถาโบราณที่สืบมาแต่เมืองลังกาโดยมหาเถรเจ้าไชยมังคละ ผู้จำอยู่วัดพระธาตุหริภุญไชย เมื่อครั้งเดินทางไปกราบพระเขี้ยวแก้ว แล้วจึงนำมาถวายพระเจ้าติโลกราช ผู้มีสมญาว่า ธัมมจักรพรรดิราชแห่งล้านนา หรือที่โบราณเรียกว่า พระเปนเจ้า พระองค์ทรงสวดและถือคาถานี้เป็นคาถาประจำพระองค์เพราะประจักษ์ถึงพุทธคุณดังที่ในจารึกโบราณกล่าวไว้ว่า "พระเจ้าติโลกราชได้จำเริญสวาดธิยายไหว้พระประจำเนืองนิจ พระองค์ก็จำเริญในสิริราชสมบัติยั่งยืนนาน อายุก็ยืนหาพยาธิโรคามิได้ ทั้งยังมีชัยเหนืออริราชศัตรูทั้งปวง และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในล้านนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้นเสนาอามาตย์ เจ้าขุน ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ไหร่ราษฎร์ทั้งมวล หากจำเริญยังพระคาถา ๑๔ บทนี้ ก็จักบริบูรณ์ด้วยเข้าของสมบัติ ยศ สิริ เดช อายุ วัณณะ สุขะ พละ ทุกประการ อีกทั้งสมณเพศ มีชีป่ามหานาคเจ้า หากสร้างเป็นยันต์ไว้กับตนก็หากวุฒิจำเริญด้วยสิกข์โยมคุรุอุปัฏฐากมากนัก" ได้นำมาล้อมไว้เป็นกรอบของตะกรุดวิเศษนี้

2.ยันต์ ปฐมะ......(เป็นความลับเฉพาะ) เป็นยันต์เทียนวิเศษตำหรับล้านนา มีที่มาว่าลืบมาแต่มหาราชครูเมืองอังวะ โบราณผู้ที่สามารถใช้เทียนที่สร้างจากไส้เทียนลงเรือนยันต์นี้ได้ต้องเป็น พญา กษัตริย์ เจ้าเมือง และมหาอำมาตย์ชั้นสูงเท่านั้น เพราะมีพุทธคุณสูงใช้ได้พันช่องคือครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้ง ครูบาเจ้าศรีวิไชย ต้องอธิกรณ์ครั้งแรกนั้น ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ทราบข่าวนี้ได้ทำเทียน ปฐมะ..... นี้ขึ้นแล้วจุดบูชาพระประธานในวัดสวดให้แก่ครูบาเจ้าศรีวิไชย กาลล่วงมาเมื่อครูบาศรีวิไชยพ้นอธิการณ์แล้วได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์หลวง วันหนึ่งขณะนั่งอยู่บนวิหาร ครูบานันตา ได้เดินทางเข้ามายังวัดพระสิงห์หลวง เมื่อครูบาเจ้าฯเห็นเข้าจึงลุกขึ้นพูดว่า "ครูบาต๋นนี้แลต๋ามเตียนหื้อเฮาพ้นอธิกรณ์" ทั้งๆที่ทั้ง 2 ท่านไม่เคยเจอกันมาก่อน เป็นข้อพิสูจน์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของยันต์บทนี้

3.ยันต์โสฬสมงคล ลงตำหรับแบบล้านนา ยันต์โสฬสมงคลและยันต์มหาโสฬสมงคลจัดเป็นยันต์ชั้นสูง ทำเป็นตัวเลข ๓ ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข ๑๖ ตัว (โสฬส แปลว่า ๑๖ ชั้นฟ้า มีความหมายถึงภูมิชั้นอรูปภูมิอันเป็นถิ่นที่อยู่ของพระพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น และหมายถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๖ ประการ) พระมหายันต์นี้ปรากกฏหลักฐานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงตั้งศาลหลักเมืองโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญยันต์มหาโสฬสมงคลประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองและมหามงคล ณ เสาหลักเมือง พระยันต์นี้แม้แต่ สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศนฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศีรษะตลอดเวลา จนกระทั่งท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๗ ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้พบแผ่นยันต์วางใว้ใต้หมอนของท่าน

4.ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ โดยหลวงพ่อพระครูธรรมธรเล็ก วัดท่าขนุน กล่าวไว้ว่า ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ เรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยมีคาถากำกับว่า "จะตุโร นะวะโม ทะเวโช ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ อัฏฐะ เอโก ฉะวัจฉะราชา" กาลคราวนี้นำมาลงด้วยอักขระตำหรับล้านนาล้วน เพื่อความเป็นมงคล ร่ำรวยๆ

5.คาถาล้านนาจาก ครูบากฤษดา สุเมโธ (เป็นตัวหนังสือลายมือท่านโดยตรง) ท่านว่าเป็น อักขระ 7 ตัวบ่มีไม้อยู่ใต้กรณี(บทกรณีเมตตาสูตร) หรือ เรียกสั่นๆ ว่า หัวใจกรณี 7 ตัว ท่านว่าดีทุกๆทาง สมัยก่อนครูบาอินทจักรโก(แก้ว) วัดป่าลาน ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของครูบาหลวง(ครูบาโสภา) วัดฝายหิน พระมหาสังฆราชาแห่งนครพิงค์เชียงใหม่ และท่านเป็นอาจารย์ของครูบาขันแก้ว อุตตโม อีกที ครูบาอินทจักรโกนี้ ท่านเก่งอรรถบาลี (สตานกปาก) สามารถรู้ภาษานกกาได้ ท่านก็ใช้พระคาถาบทนี้เป็นประจำ พุทธคุณฝอยท้วมหลังช้าง "ส๊ะ ห๊ะ ว๊ะ ส๊ะ ตะ ส๊ะ น๊ะ" และครูบาอินทจักรโก รูปนี้เท่าที่ทราบมา ท่านเป็นผู้ที่เปลี่ยนชื่อวัดสันพระเจ้าแดงเป็นวัดป่ายาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ช่วงฤดูแล้งของทุกๆปีจะมีไฟไหม้ไฟลามเข้าหมู่บ้านและวัดสันพระเจ้าแดงเสมอๆ จนครูบาขันแก้วท่านต้องไปปรึกษาครูบาอินทจักรโก ถึงปัญหาไฟไหม้ไฟลามตรงนี้ ครูบาอินรจักรโก(แก้ว) ในคืนนั้นท่านเข้ากรรมฐานนับประคำตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุใด จนท่านได้คำตอบจากจิตอันแน่ชัด จึงได้ให้ครูบาขันแก้วเปลี่ยนชื่อวัดเสียเรื่องร้ายๆจะกลายเป็นดี โดยจากเดิมชื่อวัดสันพระเจ้าแดง ให้เปลี่ยนใหม่เป็น วัดป่ายาง จนมาถึงทุกๆวันนี้
และ คาถาหนุนธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สืบมาจากตำหรับพม่าคือคาถา สะตะปะวะ ที่มหาฤาษีภูภูอ่อง ราชครูแห่งพระเจ้าบุเรงนอง เหาะขึ้นไปลงไว้บนคอระฆังมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ตำหรับครูบากฤษดาท่านลงด้วยอักษรล้านนา เพื่อหนุนธาตุให้แก่ตะกรุดนี้ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด

และเหตุที่ว่าตะกรุดนี้เป็นตะกรุดประจำตัวนั้นเนื่องว่า ในส่วนของตัวเรือนยันต์หลักนั้น ต้องใส่เลขอักขระล้านนาที่ผูกขึ้นจากวันเกิดของผู้ใช้ผู้ถือครอง ดังนั้นจะใช้พร่ำเพรื่อเปลี่ยนมือกันไม่ได้ เพราะจะไม่เกิดอิทธิคุณอย่างสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าเหตุใด ตะกรุดจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา นี้จึงเป็นตะกรุดประจำตัว

นอกจากตัวยันต์และคาถาจะสมบูรณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และมงคลแล้ว ยังจะได้นำตะกรุดเหล่านี้แช่น้ำมนต์จากครูบาอาจารย์มากมาย และอาจจะอุดผงมงคลให้ครบสูตรด้วยครับ

การณ์นี้ผมทำขึ้นเฉพาะกิจจริงๆ เพราะไปสืบเอายันต์เหล่านี้มาแล้วคิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก จึงสร้างเหตุปัจจัยครั้งนี้ขึ้น

เปิดจอง เนื้อเงิน ดอกละ 1,600 บาท (พิเศษบรรจุจาร ชื่อ-นามสกุล เจ้าของ)
เปิดจอง เนื้อสำริด ดอกละ 999 บาท
เปิดจอง เนื้อตะกั่ว ดอกละ 199 บาท

โอนเงินเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เลขที่ 566-481898-4
ชื่อบัญชี KRITCHANAT KAMMARATSURIYAWONG

ตะกรุดทุกดอกจะมีเจ้าของเป็นของตัวเอง เพราะจะต้องบรรจุเลขอักขระล้านนาผูกจากวันเกิดของเจ้าของลงไปด้วยครับ

และขอช่วยแจ้ง วันเดือนปีเกิด ของเจ้าของให้ทาง pm โดยเฉพาะวันเกิด อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ฯ ครับ

และหากมียอดจองเข้ามาเยอะปัจจัยเหลือพอ ผมจะนำไปหล่อสร้าง "พระสิหิงค์มิ่งระมิงค์" เพื่อเป็นศรีแก่เมืองเชียงใหม่ ถวายวัดสำคัญของนครสืบไปครับ

​

ขออธิษฐานปารมี ผู้ใดที่เข้ามาเห็น ผู้ใดที่ร่วมสร้าง ผู้นั้นถือว่ามีบุญสัมพันธ์ตั้งแต่อดีตกาลนานไกล และผู้นั้นมีบุญสัมพันธ์กับเวียงแก้วนพบุรีสรีนครพิงค์รัตนติงสาอภินวปุรีสรีคุรุรัฎฐพระนครเชียงใหม่ เวียงแก้วเมืองเอกแห่งล้านนา สืบพระศาสนาตราบถึง 5000 พระวัษษาเทอะฯ

 

ลำดับ 77 . ตะกรุดตะกั่ว 2 ดอก + พระอุปคุตสัตตมาศมหาลาภ

ยอดโอน 750.24 บาท เมื่อวันที่ 09/03/57 เวลา 16.28 น.

 

ตะกรุดยังจองกันได้ครับ จะแล้วเสร็จจัดส่งได้ปลายเดือนนี้ครับ​

 

จองตะกรุดเนื้อตะกั่ว 2 ดอก ครับ วันเดือนปีเกิดจะแจ้งในพีเอ็มครับ ขอบคุณครับ

 

ผมได้โอนเงิน เข้าบัญชี
โอนเงินเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เลขที่ 566-481898-4
ชื่อบัญชี KRITCHANAT KAMMARATSURIYAWONG
ทางatm จากธนาคารกรุงเทพ ตู้ lotus minburi#1 record no.2620
transfer จำนวน 1,050.00 บาท fr bbla 4576580
to scba 5664818984 20/03/14 19.48 c514b212

 

รับทราบครับผม

 

ลำดับที่81 โอนแล้วนะครับ และขอเพิ่ม ตะกรุดเนื้อตะกั่ว2 ดอก เม็ดยาจินดามณีใหญ่1 เล็ก1 ชุด =1600+199+199+450+200= 2648 บาท ชื่อที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง inboxนะครับ

 

..................................
เมื่อคืนเวลา ๑๙.๑๖ น.โอนแล้วครับ ๔๔๘.๘๘ บาท

 

อัพเดทตารางการจองตะกรุดประจำตัว หากพบข้อผิดพลาด โปรดแจ้งด้วยครับผม​

​

 

ลำดับที่21 รบกวน ส่งหลัง 15 เมษา

พอดีช่วงนี้ถึงถึง 15เมษาผมไม่อยู่บ้านครับ ไปต่างจังหวัด

 

รับทราบครับ

 

ตะกรุดเนื้อสำริด และเนื้อตะกั่ว ยังจองกันได้ เพื่อไว้เป็นตะกรุดประจำตัวครับ​

 

ขอจองตะกรุดเนื้อตะกั่วด้วย 2 ดอกนะครับ

 

รับทราบการจองตะกรุดครับผม

 

วันที่ 25/03/57 เวลา 12.31 น. ผมได้โอนเงินจำนวน 1,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ผ่าน scb easy ให้แล้วนะครับ รายละเอียดตาม pm ครับ

ตะกรุด เนื้อตะกั่ว 2 ดอก
เหรียญเศรษฐี "ครูบาเจ้าศรีวิไชย" เนื้อทองแดง 1 เหรียญ
+ค่าส่ง และทำบุญ รวมเป็น 1,000 บาทนะครับ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ

 

รับทราบครับผม

 

เฉพาะกิจ!! เปิดจองตะกรุดประจำตัว "มหาจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา"​

ขนาด 7*10 cm. ม้วนแล้วยาว 7 cm.​

ตะกรุดที่ทำการรวบรวมยันต์และคาถาที่ถือว่าดีที่สุดตำหรับหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ตามตำหรับตำราโบราณล้านนา เรือนยันต์และคาถาหลักที่นำมาใช้นั้นในอดีตอาณาจักรล้านนา "พระเปนเจ้า" หรือกษัตริย์จะเป็นผู้ใช้คาถาเหล่านี้อยู่เสมอ เพราะความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพุทธคุณที่เห็นให้ประจักษ์ครอบจักรวาล ดังมีคำกล่าวว่า "ใช้ได้พันช่อง" คือครบทุกๆด้านนั่นเอง เนื่องจากเป็นคาถาและยันต์ที่ใช้กับกษัตริย์มหาจักรพรรดินั้นจึงเป็นที่มาของชื่อตะกรุด "มหาจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา"

องค์ประกอบของตะกรุด

1.มหาคาถาปโชตา เป็นคาถาโบราณที่สืบมาแต่เมืองลังกาโดยมหาเถรเจ้าไชยมังคละ ผู้จำอยู่วัดพระธาตุหริภุญไชย เมื่อครั้งเดินทางไปกราบพระเขี้ยวแก้ว แล้วจึงนำมาถวายพระเจ้าติโลกราช ผู้มีสมญาว่า ธัมมจักรพรรดิราชแห่งล้านนา หรือที่โบราณเรียกว่า พระเปนเจ้า พระองค์ทรงสวดและถือคาถานี้เป็นคาถาประจำพระองค์เพราะประจักษ์ถึงพุทธคุณดังที่ในจารึกโบราณกล่าวไว้ว่า "พระเจ้าติโลกราชได้จำเริญสวาดธิยายไหว้พระประจำเนืองนิจ พระองค์ก็จำเริญในสิริราชสมบัติยั่งยืนนาน อายุก็ยืนหาพยาธิโรคามิได้ ทั้งยังมีชัยเหนืออริราชศัตรูทั้งปวง และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในล้านนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้นเสนาอามาตย์ เจ้าขุน ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ไหร่ราษฎร์ทั้งมวล หากจำเริญยังพระคาถา ๑๔ บทนี้ ก็จักบริบูรณ์ด้วยเข้าของสมบัติ ยศ สิริ เดช อายุ วัณณะ สุขะ พละ ทุกประการ อีกทั้งสมณเพศ มีชีป่ามหานาคเจ้า หากสร้างเป็นยันต์ไว้กับตนก็หากวุฒิจำเริญด้วยสิกข์โยมคุรุอุปัฏฐากมากนัก" ได้นำมาล้อมไว้เป็นกรอบของตะกรุดวิเศษนี้

2.ยันต์ ปฐมะ......(เป็นความลับเฉพาะ) เป็นยันต์เทียนวิเศษตำหรับล้านนา มีที่มาว่าลืบมาแต่มหาราชครูเมืองอังวะ โบราณผู้ที่สามารถใช้เทียนที่สร้างจากไส้เทียนลงเรือนยันต์นี้ได้ต้องเป็น พญา กษัตริย์ เจ้าเมือง และมหาอำมาตย์ชั้นสูงเท่านั้น เพราะมีพุทธคุณสูงใช้ได้พันช่องคือครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้ง ครูบาเจ้าศรีวิไชย ต้องอธิกรณ์ครั้งแรกนั้น ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ทราบข่าวนี้ได้ทำเทียน ปฐมะ..... นี้ขึ้นแล้วจุดบูชาพระประธานในวัดสวดให้แก่ครูบาเจ้าศรีวิไชย กาลล่วงมาเมื่อครูบาศรีวิไชยพ้นอธิการณ์แล้วได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์หลวง วันหนึ่งขณะนั่งอยู่บนวิหาร ครูบานันตา ได้เดินทางเข้ามายังวัดพระสิงห์หลวง เมื่อครูบาเจ้าฯเห็นเข้าจึงลุกขึ้นพูดว่า "ครูบาต๋นนี้แลต๋ามเตียนหื้อเฮาพ้นอธิกรณ์" ทั้งๆที่ทั้ง 2 ท่านไม่เคยเจอกันมาก่อน เป็นข้อพิสูจน์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของยันต์บทนี้

3.ยันต์โสฬสมงคล ลงตำหรับแบบล้านนา ยันต์โสฬสมงคลและยันต์มหาโสฬสมงคลจัดเป็นยันต์ชั้นสูง ทำเป็นตัวเลข ๓ ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข ๑๖ ตัว (โสฬส แปลว่า ๑๖ ชั้นฟ้า มีความหมายถึงภูมิชั้นอรูปภูมิอันเป็นถิ่นที่อยู่ของพระพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น และหมายถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๖ ประการ) พระมหายันต์นี้ปรากกฏหลักฐานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงตั้งศาลหลักเมืองโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญยันต์มหาโสฬสมงคลประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองและมหามงคล ณ เสาหลักเมือง พระยันต์นี้แม้แต่ สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศนฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศีรษะตลอดเวลา จนกระทั่งท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๗ ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้พบแผ่นยันต์วางใว้ใต้หมอนของท่าน

4.ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ โดยหลวงพ่อพระครูธรรมธรเล็ก วัดท่าขนุน กล่าวไว้ว่า ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ เรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยมีคาถากำกับว่า "จะตุโร นะวะโม ทะเวโช ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ อัฏฐะ เอโก ฉะวัจฉะราชา" กาลคราวนี้นำมาลงด้วยอักขระตำหรับล้านนาล้วน เพื่อความเป็นมงคล ร่ำรวยๆ

5.คาถาล้านนาจาก ครูบากฤษดา สุเมโธ (เป็นตัวหนังสือลายมือท่านโดยตรง) ท่านว่าเป็น อักขระ 7 ตัวบ่มีไม้อยู่ใต้กรณี(บทกรณีเมตตาสูตร) หรือ เรียกสั่นๆ ว่า หัวใจกรณี 7 ตัว ท่านว่าดีทุกๆทาง สมัยก่อนครูบาอินทจักรโก(แก้ว) วัดป่าลาน ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของครูบาหลวง(ครูบาโสภา) วัดฝายหิน พระมหาสังฆราชาแห่งนครพิงค์เชียงใหม่ และท่านเป็นอาจารย์ของครูบาขันแก้ว อุตตโม อีกที ครูบาอินทจักรโกนี้ ท่านเก่งอรรถบาลี (สตานกปาก) สามารถรู้ภาษานกกาได้ ท่านก็ใช้พระคาถาบทนี้เป็นประจำ พุทธคุณฝอยท้วมหลังช้าง "ส๊ะ ห๊ะ ว๊ะ ส๊ะ ตะ ส๊ะ น๊ะ" และครูบาอินทจักรโก รูปนี้เท่าที่ทราบมา ท่านเป็นผู้ที่เปลี่ยนชื่อวัดสันพระเจ้าแดงเป็นวัดป่ายาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ช่วงฤดูแล้งของทุกๆปีจะมีไฟไหม้ไฟลามเข้าหมู่บ้านและวัดสันพระเจ้าแดงเสมอๆ จนครูบาขันแก้วท่านต้องไปปรึกษาครูบาอินทจักรโก ถึงปัญหาไฟไหม้ไฟลามตรงนี้ ครูบาอินรจักรโก(แก้ว) ในคืนนั้นท่านเข้ากรรมฐานนับประคำตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุใด จนท่านได้คำตอบจากจิตอันแน่ชัด จึงได้ให้ครูบาขันแก้วเปลี่ยนชื่อวัดเสียเรื่องร้ายๆจะกลายเป็นดี โดยจากเดิมชื่อวัดสันพระเจ้าแดง ให้เปลี่ยนใหม่เป็น วัดป่ายาง จนมาถึงทุกๆวันนี้
และ คาถาหนุนธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สืบมาจากตำหรับพม่าคือคาถา สะตะปะวะ ที่มหาฤาษีภูภูอ่อง ราชครูแห่งพระเจ้าบุเรงนอง เหาะขึ้นไปลงไว้บนคอระฆังมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ตำหรับครูบากฤษดาท่านลงด้วยอักษรล้านนา เพื่อหนุนธาตุให้แก่ตะกรุดนี้ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด

และเหตุที่ว่าตะกรุดนี้เป็นตะกรุดประจำตัวนั้นเนื่องว่า ในส่วนของตัวเรือนยันต์หลักนั้น ต้องใส่เลขอักขระล้านนาที่ผูกขึ้นจากวันเกิดของผู้ใช้ผู้ถือครอง ดังนั้นจะใช้พร่ำเพรื่อเปลี่ยนมือกันไม่ได้ เพราะจะไม่เกิดอิทธิคุณอย่างสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าเหตุใด ตะกรุดจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา นี้จึงเป็นตะกรุดประจำตัว

นอกจากตัวยันต์และคาถาจะสมบูรณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และมงคลแล้ว ยังจะได้นำตะกรุดเหล่านี้แช่น้ำมนต์จากครูบาอาจารย์มากมาย และอาจจะอุดผงมงคลให้ครบสูตรด้วยครับ

การณ์นี้ผมทำขึ้นเฉพาะกิจจริงๆ เพราะไปสืบเอายันต์เหล่านี้มาแล้วคิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก จึงสร้างเหตุปัจจัยครั้งนี้ขึ้น

เปิดจอง เนื้อเงิน ดอกละ 1,600 บาท (พิเศษบรรจุจาร ชื่อ-นามสกุล เจ้าของ)
เปิดจอง เนื้อสำริด ดอกละ 999 บาท
เปิดจอง เนื้อตะกั่ว ดอกละ 199 บาท

โอนเงินเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เลขที่ 566-481898-4
ชื่อบัญชี KRITCHANAT KAMMARATSURIYAWONG

ตะกรุดทุกดอกจะมีเจ้าของเป็นของตัวเอง เพราะจะต้องบรรจุเลขอักขระล้านนาผูกจากวันเกิดของเจ้าของลงไปด้วยครับ

และขอช่วยแจ้ง วันเดือนปีเกิด ของเจ้าของให้ทาง pm โดยเฉพาะวันเกิด อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ฯ ครับ

และหากมียอดจองเข้ามาเยอะปัจจัยเหลือพอ ผมจะนำไปหล่อสร้าง "พระสิหิงค์มิ่งระมิงค์" เพื่อเป็นศรีแก่เมืองเชียงใหม่ ถวายวัดสำคัญของนครสืบไปครับ

​

ขออธิษฐานปารมี ผู้ใดที่เข้ามาเห็น ผู้ใดที่ร่วมสร้าง ผู้นั้นถือว่ามีบุญสัมพันธ์ตั้งแต่อดีตกาลนานไกล และผู้นั้นมีบุญสัมพันธ์กับเวียงแก้วนพบุรีสรีนครพิงค์รัตนติงสาอภินวปุรีสรีคุรุรัฎฐพระนครเชียงใหม่ เวียงแก้วเมืองเอกแห่งล้านนา สืบพระศาสนาตราบถึง 5000 พระวัษษาเทอะฯ

 

ถ้ายังมีเนื้อกลับดำแบบนี้อยู่ ผมขอบูชาร่วมบุญสร้างพระพุทธสิหิงค์มิ่งระมิงค์ถวายไว้ในพระพุทธศาสนากับคุณโต้งด้วยครับ....เอ..รุ่นนี้ครูบากฤษดาอธิฐานจิตด้ยรึเปล่าครับ

 

ครูบาท่านเสกนับไม่ถ้วนแล้วครับ อิอิ ทั้งยังเข้าฝากครูบาไว้อีก 7 เดือนครับ เหลือแค่ 5 องค์สุดท้ายครับ