ขอถามท่านผู้รู้เกี่ยวกับการทดสอบพุทธคุณค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มณีดิน, 30 มีนาคม 2014.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    สำหรับบุคคลที่เชื่อมพลังงานได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือว่าตาดี
    อยู่แล้วก็อาจจะต้องลองฟังไว้บ้างก็ดีนะครับ..
    ในการสัมผัสพลังงานพวกนี้ไม่ว่าดีหรือไม่ดี.หากได้มีการเชื่อมแล้ว
    ไม่ว่าจะด้วยคลื่นหรือการสัมผัสโดยตรงนั้น..ย่อมมีพลังงานในส่วน
    ที่ตกค้างได้เสมอครับ..เรียกว่าสิบเท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลัง
    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้...
    ที่เล่าให้ฟังไปพลังงานพวกนี้เป็นนามธรรมต้องอาศัยรูปธรรมที่เกิด
    จากธาตุต่างๆร่วมด้วย.ถึงจะสามารถก่อให้เกิดผลได้..ร่างกายเราก็ประกอบ
    ขึ้นมาจากธาตุเหมือนกัน..การที่เราไปรับพลังงานส่วนนี้มา.อาจทำให้ธาตุใด
    ธาตุหนึ่งในร่างกายเรามีมากเกินความจำเป็นซึ่งจะส่งผลกับร่างกายเราได้
    เช่น.มีธาตุไฟมากไปทำให้ร้อน มีธาตุดินมากไปทำให้ตึงเป็นต้น..
    หากเราเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสัมผัส.ซึ่งเลี่ยงได้ยาก.
    เพราะว่าวิวัฒนาการทางด้านเทคโนลียี ตลอดจน
    ความเจริญทำให้มีพลังงานตกค้างได้ปกติไม่ว่าเราจะดู
    ทีวี อยู่หน้าจอ ให้เตาไมโครเวฟ.พวกนี้มีพลังงานตกค้าง
    ทั้งนั้น.บางคนที่เวลาไปจับอะไรแล้วเหมือนไฟซ๊อตนั้นก็ใช่ครับ
    ไม่ใช่ว่าเราเก่งสมาธิอะไรนะครับอาจจะเข้าใจผิด
    นั้นคือมันมีพลังงานตกค้างที่ผิวหนังเรานั้นเอง

    .ให้แก้ด้วยการที่เราไปยืนอยู่บน
    ดิน.ให้เท้าของเราสัมผัสกับดินไว้.เพื่อเป็นการถ่ายเทพลังงานส่วนเกิน
    ต่างๆที่ตกค้างให้ออกจากร่างกายของเรา.โดยเหยียดแขนออกไปให้สุด
    ทั้งสองข้าง..บางคนหากต่ำแหน่งไหนรู้สึกตึงๆสามารถใช้กำปั้นทุกเบาๆได้
    จนกว่าส่วนนั้นจะหายตึง..การเหยียดแขนออกจนสุดและเท้าเหยียบกับดิน
    จะช่วยให้ดินช่วยในการดูดซับพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกายได้โดยเรา
    จะรู้สึกได้ว่าเท้าเราเหยียบลงดินแบนเป็นแผ่นเรียบ(ทั้งๆจริงเท้าเราไม่เรียบ)
    และการเหยียดแขนออกให้สุดก็จะเป็นการให้พลังงานร้อนหรือเย็นจากภาย
    นอกในการดึงพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกายได้.เราทำใหม่ๆอาจจะรู้สึก
    จิ๊ตๆ.เหมือนผิวหนังตึง หรือบางคนปลายมืออาจมีความรู้สึกว่า ปลายนิ้วเหมือน
    มีคล้ายเข็มมาจิ้มๆ
    นั้นคือพลังงานภาพนอกกำลังช่วยนำพลังงานส่วนเกินออกไป
    ในคนที่ชำนาญอาจใช้การคิดในการสังจิตว่า ขอให้พลังงานส่วนเกินทั้งหลาย
    ที่จะส่งผลต่อร่างกายของข้าพเจ้าให้ได้รับบาดเจ็บจงออกไป.ก็ได้แล้วแต่ความชำนาญ
    บางคนก็ชำนาญกว่าด้วยการใช้วิถีนี้ในการรักษาตนเองก็ได้.
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับวัตถุที่เป็นธาตุนั้นๆด้วยว่าเสียหาย
    ไปมากน้อยเท่าไรตามเหตุและปัจจัยครับ.
    .ให้ทำจนพวกจิ๊ตๆหมดไป
    แสดงว่าพลังงานตกค้างต่างๆที่ไม่จำเป็นหมดไป..เพราะดินมีคุณสมบัติในการดูดและ
    อากาศมีคุณสัมบัติในการนำพา.
    ด้วยเรามักจะคุ้นแค่ว่า อากาศธาตุเป็นตัวนำในการบรรจุพลังงานเข้าวัตถุ
    แต่ไม่คุ้นว่ามันก็สามารถเป็นตัวนำพลังงานออกได้เช่นกันครับ.
    .ถึงจะแก้อาการปวดแขน ร้อน แสบ หนัก ตึงศรีษะ
    ในกระณีที่เราไปสัมผัสหรือเชื่อมกับคลื่นพลังงานต่างในวัตถุได้ครับ..
    บางคนอยู่หน้าจอนานๆแล้วปวดศรีษะ พบว่าไปทำอย่างนี้อาการปวด
    ศรีษะก็บรรเทาขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยาด้วยครับ..ถ้าเราไม่ทำ
    แล้วเรามีแต่คลื่นพลังงานไม่ดีตกค้าง.เวลาเราไปไหนมันก็จะเหมือนแม่เหล็กที่จะ
    คอยดูดแต่คลื่นพลังแบบเดียวกันไงครับ..เหมือนน้ำที่อยู่ในบ่อแล้วไม่มีการถ่ายเท
    มันก็จะขุ่นนั้นหละครับ..เช่นเดียวกันน้ำตามลำธารมันไหลตลอดมันก็จะใสซึ่งปริมาณ
    น้ำ ณ ต่ำแหน่งใดๆมันก็ยังเท่าเดิมนั้นหละครับ..

    ปล.ยังไงๆก็เล่าให้ฟังเพื่อว่าจะมีประโยชน์.แต่ประเด็นหลักๆ
    ก็ยังเน้นให้ปฏิบัติตามคำสอนของครูบาร์อาจารย์มากกว่านะครับ
    ที่เล่าให้ฟังเพื่อว่าจะเห็นอีกมุมที่เราคาดไม่ถึง ยาวหน่อยว่างๆ
    ค่อยอ่านก็ได้ครับ..ขอบคุณสำหรับพื้นที่ตรงนี้ครับ.
     
  2. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ที่ผมเห็นในรูป น่าจะเป็น เหล็กเก่า แล้วก็ มี พวกดีบุก ตะกั่ว

    อาจจะมี มวลสาร เก่า ของอาถรรพ์ ในตัววัตถุ

    เช่น ตะปูหลังคาโบสถ์ ยอดเหล็กวิหารที่ชำรุด มีการสวด ทำวัดเช้าเย็น การปาติโมกข์ การทำบุญใหญ่ในวันสำคัญทางศาสนา พวกนี้มี ฤทธิ์ในตัวอยู่แล้วครับ

    ตะแกรงเหล็กเผาผี (ในเมรุเผาศพ) หรือ ตะปูโรงศพ พวกนี้ก็มี ฤทธิ์ในตัวเหมือนกัน

    แต่ อย่าไปยึดติด ในวัตถุมงคล นั้น

    [​IMG]

    ขอยกตัวอย่างคำพูดของหลวงปู่เอี่ยมวัดหนังที่เคยลงในนิตยสารพระเครื่อง หลวงปู่บอกว่าพระฉันอาจกันความตายไม่ได้ แต่กันสุนัขกัดได้

    อิติปิโสวิเสเส อิอิเสเสพุทธะนาเม อิอิเมนาพุทธะตังโส อิอิโสตังพุทธะปิติอิ
     
  3. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537
    ขอบคุณมากค่ะ คุณnopphakan เพิ่งกระจ่างวันนี้เอง ไม่งั้นก็จะคิดว่าตัวเองมีของเก่ามาเยอะ ทำให้สัมผัสได้ในพลัง แต่ละองค์ ขอบคุณที่สงเคราะห์บอกวิธีแก้ค่ะ กำลังประสบอยู่เลย ปวดแขนข้างที่กำพระลูกอมอยู่ไม่หายเสียที ทำให้ร้าวไปถึงต้นคอ หันไปมาไม่ค่อยถนัด ขอถามอีกข้อนะคะ แล้วการแก้ถ้านำพระเครื่องพระอาจารย์ที่นับถือมากำไว้ขอบารมีรักษากายขันธ์ จะช่วยได้ไหมคะ เช่นหลวงปู่โต หลวงพ่อฤษีลิงดำ (นับถือและเป็นลูกศิษย์ท่านอยู่)
    อีกนิดหนึ่งค่ะ คือเนื่องจากดิฉันค้นพบพลังงานที่มีอยู่ในพระเครือง จึงใช้พระเครื่องที่นับถือและเป็นองค์ที่มีกระแสเย็น นำไปสู่การเจริญสมาธิ และได้ผลดีมากๆ

    ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะในความมีเมตตาจิตช่วยนำทางแก่ผู้ไม่รู้ ขออนิสงส์กลับคืนสู่ผู้ให้ร้อยเท่าพันทวีค่ะ สาธุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2014
  4. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537

    ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ เข้าใจมากขึ้นอีกมากมาย;ปรบมือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2014
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ความเข้าใจตรงนี้นะดีแล้วครับ..เพราะสื่อกลางที่มีกระแสเย็นหรือกระแส
    เมตตานั้นจะเป็นตัวเชื่อมกับภายนอกได้ดีที่สุดครับ ยิ่งอยู่ในสถานที่ๆมี
    วัตถุแทนพระพุทธฯทั้งหลายยิ่งจะเร็วครับ.เด่วอนาคตตัวคุณจะทำได้
    ถ้าตัวเราเริ่มเชื่อมได้จะเห็นกระแสออกจากหน้าอกเรา
    ไปเชื่อมกับวัตถุแทนพระพุทธฯได้.
    ยิ่งวัตถุแทนพระพุทธที่ท่านเป็นที่มีชื่อเสียงท่านต่างๆครับ.
    หนึ่งในนี้คุณก็รู้จักดีครับ..

    ส่วนเรื่องผลกระทบกับร่างกายอย่างเร็วจะไม่ต่ำ ๑ ถึง ๒ สัปดาห์
    ถึงจะกลับคืนสู่สภาวะปกติได้ครับเป็นเรื่องธรรมดา.ยกเว้นว่าเราเป็น
    บุคคลที่สร้างกำลังจิตจากการท่องมนต์คาถาแล้วมุงใช้งานด้านใด
    ด้านหนึ่งหรือสร้างกำลังจิตจากการฝึกกสิณกองหนึ่งกองใด
    กองหนึ่งได้ในระดับบังคับปฏิภาคนิมิตรได้จะไม่เป็นไรครับ

    .
    ส่วนหลวงปู่ท่านแรกที่คุณกล่าวถึง.ลักษณะกระแสพลังงานท่านจะค่อน
    ข้างแน่น แรงและนิ่งครับ.เรียกว่าระดับต้นๆครับ
    ถ้าเป็นวัตถุแทนที่ทันท่านปลุกเสกนะครับ.ซึ่งเป็น
    กระแสคลื่นพลังงานที่กำลังสูงมาก.ขนาดเข้าไปอยู่ในสถานที่ๆมีการฝึก
    การถ่ายเทพลังงานหรือการดึงพลังงานเข้าออก..ยังไม่มีผลอะไรกับพลัง
    งานที่บรรจุในวัตถุของท่าน ถ้าเป็นที่อยู่ในวัตถุประเภทที่มาทำเป็นเครืองประดับจะเสร็จหมด
    .หรือแม้จะพลังอื่นๆที่ไม่ดีก็หมดสิทธิ์ที่จะเข้าไป
    เบียดแทนพลังงานเดิมท่านได้..แม้ว่าจะมีแค่ผงเล็กๆน้อยๆหากนำไปผสม
    ทำเป็นรูปร่างขึ้นมาใหม่ก็จะยังคงมีลักษณะเฉพาะพลังงานอยู่เพียงแต่จะ
    ไม่เต็มรูปแบบเหมือนของเดิมๆทั้งองค์ครับ..
    แต่จะเอามาในกรณีเพื่อสลายพลังงานส่วนเกินที่ตกค้างในตัวเองแบบที่คุณ
    เข้าใจจะไม่ได้ครับ.เพราะการรักษาอาการตกค้างก็คือการเอาออกแบบตัวเรา
    สลายไปเอง..หรือรอระยะเวลาให้สลายไปเอง.หรืออีกวิธีคือการดึงพลังงาน
    ออกมาจากบุคคลที่ทำได้ซึ่งอย่างมากๆๆๆ ไม่เกิน ๕ นาทีแต่ปกติไม่ถึง ๒
    นาที.ซึ่งวิธีสุดท้ายเป็นกึ่งภาคบังคับ..และไม่ใช่ลักษณะวิสัยของพลังงาน
    ที่มีอยู่ในหลวงปู่ที่คุณกล่าวถึง..แต่วิธีการที่คุณจะทำได้คือนำไปแช่น้ำแล้ว
    ทำเป็นน้ำมนต์โดยสวดคาถาของท่านแล้วอฐิษฐาน
    .แล้วนำน้ำมนต์มาล้างหรืออาบบริเวณที่มีปัญหา
    น้ำมนต์จะปิดการเชื่อมพลังงานจากภายนอกไว้ชั่วคราว..
    ด้วยเอกลักษณะพลังงานของท่านจึงทำให้พลังงาน
    ตกค้างไม่ดีออกไปเองอัตโนมัติเนื่องจากว่าจะ
    อยู่ไม่ได้แต่ไม่ใช่เป็นการไปไล่ด้วยเจตนาของการทำน้ำมนต์ครับ
    เหมือนแกะดำหลงในฝูงแกะขาว.แต่แกะขาวไม่ได้ไล่แกะดำนะครับ
    แต่แกะดำจะออกจากฝูงไปเองเพราะเห็นว่าตัวเองไม่เหมือนใครนั่นหละครับ

    ส่วนหลวงพ่อมีชื่ออีกท่านที่คุณกล่าวถึง.โดยมากจะเป็นการเชื่อมกับพลัง
    งานภายนอกระดับสูงๆและสูงสุดแล้วบรรจุไว้ในวัตถุที่ท่านสร้าง.
    .อย่างนี้พอมีสิทธิ์แต่ถ้าจะเป็นบุคคลที่ไปได้เร็วสำหรับ
    ผู้ที่นับถือท่าน.เราต้องมีความฉลาดในเรื่องของการอฐิษฐานขอบารมีด้วยครับ.
    ยกตัวอย่างกรณีคุณปัญหา ณ เวลานี้
    ว่าเราขอบารมีเพื่อขอให้ท่านช่วยนำพลังงานตกค้างออก.หรือว่าจะขอ
    ให้รักษาร่างกายสังขารเราให้ลองทบทวนดูการตั้งเป้าอฐิษฐานด้วย
    เทคนิคคือควรอฐิษฐานให้ตรงกับเป้าหมายแต่ละขั้นไว้ครับ..
    ส่วนการเชื่อมก็อาศัยบทบูชาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมร่วมด้วย..
    และถ้าลักษณะแบบที่จับวัตถุแทนแล้วทดสอบพลังงานจะไม่สามารถที่จะ
    สัมผัสพลังงานได้จริงๆ.และอาจมองว่าพลังงานท่านไม่แรงได้ตรงนี้
    ต้องระวังโดยเฉพาะคุณก็ต้องระวังตรงนี้ด้วยครับ.
    เพราะเราจะสัมผัสได้แต่เฉพาะกระแสความดีของผุ้
    ที่เป็นตัวแทนในการสร้างวัตถุรุ่นนั้นๆครับ.
    อย่างพระสงฆ์บางรูปที่ท่านเป็นองค์แทนการสร้างตัวท่าน
    จะเน้นเฉพาะด้านความดีอย่างเดียว
    เพราะท่านมุ่งตรงเพื่อความหลุดพ้น.ไม่เน้นด้านกำลังจิตอะไรแล้ว.
    หรือบางกรณีก็จะไม่ใช้กำลังจิตของท่านแม้ว่าจะมีในตัวท่านก็ตาม..
    .หากไปทดสอบกรณีอย่างคุณจะทำให้เราพลาดในการวิเคราะห์ได้ครับ
    รวมทั้งเผลอไปปรามาสท่านที่เป็นตัวแทนการสร้างท่านต่างๆ
    ได้โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจด้วยครับ..
    .แต่ถ้าหากเชื่อมในลักษณะของคลื่นพลังงานได้เมื่อไร
    จะพบว่ากระแสพลังงานจะกว้างไกลชนิด
    ที่ว่าหาขอบไม่เจอซึ่งเป็นเอกลักษณะของลักษณะพลังงาน
    ระดับพระพุทธฯครับ.เพราะฉนั้นการไปทดสอบแบบที่คุณ
    ทำได้อยู่ทุกวันนี้จึงค่อนข้างสุ่มเสี่ยงเล็กน้อยถึงปานกลาง
    อาจทำให้เราเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ครับ...

    ปล.ประมาณนี้พอเข้าใจเนาะ..
     
  6. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537
    ขอบคุณคุณ nopphakan ค่ะ การทดสอบพลังพุทธคุณเพิ่งเริ่มต้นค่ะ มือใหม่หัดทดสอบ กราบขอบคุณในความเมตตาที่ช่วยชี้แนะ ไม่เช่นนั้นคงงมอีกนานกว่าจะเข้าใจ ถือว่าท่านมาเป็นอาจารย์ มาชี้ทางลัดให้ ขออนิสงส์กลับสู่ผู้ให้ด้วยนะคะ สาธุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2014
  7. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537
    เราจึงมักจะพบว่าบุคคลที่เปี่ยมด้วยความศรัทธาในตัวของ
    ครูบาร์อาจารย์ที่บรรจุพลังงานอะไรลงไป.จึงมักจะประสบ
    ความสำเร็จในการเชื่อมกระแสได้ดีกว่า พูดง่ายๆว่าก็คือ
    การเข้าถึงคลื่นพลังงานนั้นๆได้ตรง.ส่งผลให้คลื่นพลังงาน
    นั้นๆโน้มไปทางการอฐิษฐาน(คือการโน้มกระแสคลื่นพลังงาน
    ไปด้านใดด้านหนึ่ง) ได้ดีกว่าบุคคลที่รู้ว่า.พลังงานที่บรรจุใน
    วัตถุนั้นวัตถุนี้เป็นอย่างไร.เพราะจะแตกต่างกันตรงที่การสร้าง
    เครื่องรับในการเชื่อมพลังงานที่มีอยู่ในวัตถุนั้นเองครับ..
    ประเด็นนี้ที่เราอาจคลาดไม่ถึงครับ..ยกเว้นว่าบุคคลที่รู้ เข้าใจ
    เรื่องนี้.จะมองให้เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ และก็ปฏิบัติตามแนวคำสอน
    ที่ครูบาร์อาจารย์ท่านกล่าวไว้ อย่างนี้ไม่เป็นไรครับ..


    จากประเด็นนี้..หมายถึง การอธิษฐานจะเป็นทางเดียวที่สื่อถึงหรือเชื่อมถึงใช่ไหมคะ และหากว่า อธิษฐานได้ตรงหรือคลื่นความถี่ตรง หมายถึงในสิ่งที่เราปรารถนานั้นจะได้รับอย่างแน่นอนหรือไม่คะ จะไม่กลายเป็นความโลภ หรือยึดติดไหมคะ หรือการอธิษฐานต้องไม่เป็นไปในทางมิจฉาทิฐิหรือ ถึงจะถูกต้อง เช่น อธิษฐานขอให้ปฏิบัติธรรมได้อย่างราบรื่น เจริญก้าวหน้า เป็นต้น แต่หากอธิษฐานเรื่องทรัพย์ทางโลภจะได้ไหม เคยอ่านเจอบางคนที่พกพระเครื่องบางรุ่นแล้วได้ในเรื่องโภคทรัพย์ แบบนี้เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2014
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    อือ.แบบไม่ยึดและไม่อยาก..กิริยาคล้ายการวางอารมย์ระหว่างวัน
    คือนึกไว้แล้วทำลืมๆ.ไม่สนใจนั่นหละ....
     
  9. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    มีอยู่วิธีนึง ที่ข้าพเจ้าใช้เป็นประจำ เห็นผลทันที ได้มาจากหลวงพ่อรูปหนึ่งที่นับถือเป็นผู้แนะนำ แต่หนักใจว่า จะอธิบายด้วยตัวหนังสืออย่างไรจึงจะเข้าใจ เพราะไม่มีรูปประกอบแสดงวิธีการให้ดู แต่จะลองอธิบายก่อนนะคะ
    คืออย่างนี้...
    1.ใช้เชือก หรือสายวัดก็ได้ วัดความยาวจากข้อพับศอกซ้าย ไปจนถึงปลายนิ้วกลาง โดยวัดเป็นแนวตรงนะคะ อย่างเฉียงเอนไปซ้ายหรือขวา แล้วจดตัวเลขความยาวไว้ (กรณีใช้เชือก ก็ตัดเชือกตามความยาวนั้น)
    2.นำวัตถุมงคล ของศักดิ์สิทธิ์มาพนมไว้ในมือ ไหว้ขอขมาท่าน แล้วบอกท่านให้ช่วยแสดงความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นขวัญและศรัทธา
    3.จากนั้นนำวัตถุมงคลนั้น วางบนฝ่ามือซ้าย จากนั้นให้คุณลองนำสายวัดหรือเชือกเส้นเดิม มาวัดความยาวจากข้อพับศอกซ้าย ถึงปลายนิ้วกลางใหม่อีกที...หากวัตถุมงคลนั้นมีพลังหรือศักดิ์สิทธิ์มาก คุณจะพบว่า ระยะความยาวที่วัดใหม่นั้นจะแตกต่าง จากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง เช่น วัดครั้งแรกได้ 39 ซม. แต่พอวางพระไว้บนฝ่ามือ กลับวัดความยาวได้ 41 ซม.
    ข้าพเจ้ามักใช้วิธีนี้ และพบบ่อยๆว่า พระบางองค์ก็แสดงพลังด้วยการทำให้นิ้วเรายาวกว่าหรือสั้นกว่าตอนที่วัดครั้งแรก
    หากวัตถุนั้นไม่มงคลหรือมีพลัง วัดความยาว ก่อนและหลังวางพระบนฝ่ามือแล้ว คุณจะได้ระยะความยาวเท่าเดิม
    หลังจากที่ท่านได้แสดงพลังแล้ว ก็อย่าลืมกราบขอบพระคุณและขอขมาท่านอีกครั้ง ก่อนจะนิมนต์ท่านไว้ในที่อันควร
    ลองดูนะคะ วิธีนี้ง่ายๆ ไม่อันตราย และเห็นผลทันตาจริงๆค่ะ แต่อาจต้องมีอีกคนช่วยค่ะ
     
  10. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537

    วิธีนี้น่าสนใจมากค่ะ ขอเรียนถามหน่อยนะคะว่าพระที่ใช้ทดสอบเป็นพระผง หรือเนื้อโลหะสิ่งใดคะ การแสดงพุทธคุณจะชัดเจนกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่กลัวมากค่ะ..คือเกรงเป็นการปรามาสเหมือนกันค่ะ
     
  11. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    ใช้วิธีนี้กับวัตถุมงคลทุกประเภท แม้แต่เพชรพญานาคก็ด้วย ส่วนมากจะกระทำกับวัตถุที่ไม่ทราบที่มาที่ไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกันการถูกหลอกลวง...
    ไม่ต้องกังวลเรื่องการปรามาสค่ะ อยู่ที่ใจเราว่ามีเจตนาดี บริสุทธิ์ใจ กราบบอกท่านไปเลยว่า เราโง่จริงๆ ไม่สามารถทราบได้ว่า ท่านมีพลังศักดิ์สิทธิ์เช่นไร...ขอท่านช่วยอนุเคราะห์แสดงให้เราทราบ...ที่สำคัญคือ อย่าลืมกราบขอขมาท่าน
    ตั้งแต่เราทำมา มีแต่จะเพิ่มความมั่นใจ และขจัดความสงสัยในการบูชาองค์ท่านค่ะ...
     
  12. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537
    ขอบคุณมากๆค่ะที่เมตตาบอกวิธี ทำให้กระจ่างชัดเจนขึ้นเยอะเลย อีกนิดนะคะ คืออันนี้สงสัยจริงๆ คือว่า พอดีเพิ่งเริ่มฝึกค่ะ ในหนึ่งวันเราควรทดสอบได้สักมากน้อยเท่าไร หากมากไปจะทำให้เสียพลังมาก ผ่านมา 3 วันแล้วยังไม่หายปวดเลย แต่วันนี้ได้ลองทำน้ำมนต์รักษาแบบที่คุณ nopphakan แนะนำ หวังว่าคงดีขึ้น
    กราบขอบคุณจากใจนะคะ
     
  13. มณีดิน

    มณีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +537


    กราบสาธุ..ขอเรียนว่า
    ดิฉันเป็นพุทธสานิกชนคนหนึ่งที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ดิฉันไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านในเว็บพลังจิต แต่อ่านจากสำนวนที่ท่านเขียนนี้ คาดเดาว่าท่านคงเป็นเพศสมณะ หรือไม่ก็เป็นผู้ชำนาญการในธรรมะอย่างยิ่งยวดท่านหนึ่ง ดิฉันขอเรียนตามตรงว่า ก็ไม่ได้นิยมลัทธิไสยศาตร์ ไม่เชื่อด้วยซ้ำ แม้กระทั่งวิญญาณหรือผี ก็ไม่เคยเชื่อว่าจะทำร้ายอะไรเราได้ เชื่อในพลังพุทธคุณที่อยู่ในใจมากกว่า แต่ในเรื่องพุทธคุณของพระเครื่องเก่านี้ ดิฉันเชื่อว่ามีจริง แต่คนทั่วไปส่วนมากก็ต่างนิยมชมชอบที่จะสะสม และบางท่านก็ถือเป็นอาชีพ จึงคิดเองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ พระเครื่องที่อยู่ในบ้านดิฉันมีมากมายมหาศาล ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ทวด สะสมมายาวนาน จึงเป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้สำหรับดิฉัน บางองค์ก็มีทั้งคุณค่าทางใจ และคุณค่าเป็นทรัพย์สินเงินตรา ที่สะสมเป็นหลักทรัพย์ได้ ถ้าถึงคราวจำเป็นเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจ เหตุผลเท่านี้เองจึงสนใจเจ้าค่ะ
    กราบขอบคุณอีกครั้งนะคะ สาธุๆ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2014
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    สำหรับผมไม่ควรจับทดส บพลังวัตถุมงคลอะไร
    ถ้าเกิดสงสัยให้เอาวัตถุมากำไว้ในมือ
    แล้วสวดคาถาจักรพรรดิ์ วัตถุบางชนิดเราชี้เลือกคนได้เลย
    ว่าจะคุยกะคนไหน กำหนดคน ละกำหนดเรื่องเลย
    บอกว่าจะอุทิศกุศลโน่นนี่นั้นให้คนโน่นนี่นั่น กำหนดชี้ในใจเลย
    ให้เหยื่อเดินเข้ามาคุยเลย
    เหยื่อจะถามเราเองว่ามีอะไรจะให้เหรอ
    ก็อุทิศกุศลขอขมากรรมไป ไปห้างเลย
    เลือกเลย ผ่านวัดหยอดตุ้เหรียญบาท สิบเหรียญจะอุทิศกุศลนี้ให้คนสิบคน
    จะข ขมากรรม

    ถ้ามีฤทธิจริง ถ้ามีจริงก็ขอขมา วัตถุชิ้นนั้นๆ ทำบุญเจาะจงวัตถุชิ้นนั้นๆ
    และรอผลกรรมสันใดันหนึ่งถ้าเรามีดีคนจะลองเราบ้าง
    จดไว้ก็ได้ลองอะไรได้ผลอย่างไร

    เวลาโดนเอาคืนจะได้ประท้วงได้
     
  15. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้ามีอารุภาพจริง ก็ถือว่าเราลองของ
    ถ้านะ
     
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมดูทีวี ม๊อบกปปส
    อ นักพูดชื่ออาจารย์ พะเยา น่าจะไม่ผิดท่าน
    ท่านว่า สะเหน่อพราะสนิท อิทธิฤทธิเพราะกล้าหาญ

    พวกขายหนังโป๊ตามห้าง ไม่รู้สมัยนี้ยังมีหรือเปล่า
    อยากขายใครเค้าคว้าแขนเลย

    เราแค่ อธิษฐานขอให้คนเดินเข้ามาคุยกะเรา โดยให้ถามเราว่า
    "มีอะไรจะให้หรือ" เลือกไดอะล๊อกดีๆนะครับ
    เด๊วจะกลายเป็นอย่างอื่น

    บาป ตรงเราไม่ได้เป็นฝ่ายเดินเข้าไปทักตรงที่เราบัฝคับกำหนดได ะล๊อก

    แต่จะอุทิศกุศลหยอดตู้บาทหนึ่ง ที่วัด และจะขอขมากรรม ที่ได้ล่วงเกินมาทุกภพชาติ
    ก็บาป ถ้าได้ผลก็ให้ทราบว่า
    นี่ อภิสังขาร รอเล่นงานเรา
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    พลังที่ทำให้กำจัดอาสวะกิเลสนั่นล่ะครับ จึงเรียกพลังพุทธคุณ

    อย่างอื่นที่ไม่เป็นไปเพื่อกำจัดอาสวะกิเลส นั่นไม่ใช่พลังพุทธคุณ

    ใส่ หรือ คล้อง วัตถุมงคลอันไหน ที่ทำ กิเลสลดลง
    วัตถุนั่นแหล่ะ มีพลังพุทธคุณสูง

    ฉะนั้น พลังอะไรต่างๆ ที่ออกมา แล้วกิเลสไม่ลดลง ยังใช้ไม่ได้

    เรื่องของไสยศาสตร์ ความสำคัญคือ ผู้ใช้
     
  18. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้าเห็นว่าทุกข์ หาตัญหาที่แท้จริง เจาะจงทุกข์นี้ๆ ผัสสะนี้ๆ
    ฟุ้งนี้ๆ ถ้าสามารถเอาตัญหา แยกอวิชชาได้
    ก็อุทิศกุศล

    เป็นวิธเดียวที่จะบรรเทา
    พิษจาก อภิสังขาร จากการใช้วัตถุอาถรรพ์

    หาตัญหา ในทุกข์นั้น หาทุกข์ในตัญหานั้น
    แล้วอุทิศกุศล
    ที่เราพบอวิชชา

    ปรกติพอเจอฟุ้ง เจอทุกข์เจอตัญหา เจอสงสัย
    ภิสังขารจะพาเราไปแนวอวิชชา
    เราเห็นอวอชชาทัน ใหอุทิศกุศลจากการเห็นอวิชชาทัน

    ให้เจ้ากรรมนายเวร หรือเทวดา หรือวัตถุมงคล
    เค้าจะบรรเทา กรรมให้ ใช่อาถรรพ์ ก็มีกรรม
     
  19. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อภิสังขารเช่น
    ดีเกินไป เลวเกินไป
    ดีไม่พอ เลวไม่พอ
    ดีเท่านั้น เลวเท่านี้

    ต่อให้เราอารธนาวัตถุอถรรพ์เพื่อบรรเทาอภิสังขารให้เรา

    ก็จะโดนอภิสังขารอื่นเข้าเล่นงาน
    ว่าใช่วัตถุอถรรพ์อยู่ดี

    ใช่วัตถุอาถรรพ์ ถึงสังขารุเบกขาญาณซะเลย
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ทุกสิ่งที่จิตเห็นไม่เคย แม่นยำ
    ต้องเป็นสิ่งที่การไม่ยึดมัน ในขันธ์ทั้งห้าเห็น ค่อยแม่น
    จิตมีสภาพสั่ว จิตกำเหนิดมา เพื่อสั่วอยู่แล้ว

    บางคนโดนอภิสังขารเล่นงาน จนเป็นตัวแพร่เชื้อ
    เชื้อร้ายนี่สร้างเวรกรรม ในการบำเพญภาวนาอย่างร้านกาจ

    ทุกข์จากอภิสังขาร เลวร้านมาก เจ็บเองไม่พอ
    ยังเป็นพาหะให้คนอื่นมา อภิสังขารด้วย

    ภิสังขารพวกนี้เป็นไดแค่อุทาหรณ์ ร้อยรักรอยแค้น เป็นบทเรียนมห้าหายสงสัย
    มันเป็นอย่านี้

    ถ้าใช้ได้ผล คือวัตถุอาถรรพ์ก็ให้ทำบุญมากๆ อภิสังขาร
    ขวางมรรค ผลร้านกาจมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...