ผมไม่รู้ว่าจะทำยังดีแล้วครับ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย tadayoshi, 12 มีนาคม 2014.

  1. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    นี่เอง ที่เรียกว่า "บุญมาวาสนาส่ง" ..เพราะท่านจขกท เป็นผู้มีกตัญญูจิตแข็งแรงมาก บุญที่ดีมากนั้นจึงส่งผลได้รวดเร็วเห็นปานนี้ ...

    อ่านเรื่องดีๆของท่านจขกท..แล้วแสนปลื้มใจด้วยนักหนา ..
     
  2. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    ดีใจด้วยเด้อค่ะ เห็นมั้ย มีสิ่งดีๆ เรื่องดีๆเข้ามาแล้ว สู้ๆนะ ทุกคนเป็นกำลังใจให้

    ปล.ไม่ได้โยนกำลังใจให้แล้วนะ ให้ถึงมือไปและนี่นา ^-^
     
  3. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950


    ยินดีด้วยนะค่ะ แต่อย่าลืมแม่นะคะ
     
  4. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมไม่ลืมแม่หรอกครับ พ่อบอกเองว่าผมจะอยู่กับใครก็ลูกเค้าอยู่ดี บอกว่าตัวเองแข็งแรงมากยังไม่ถึงเวลาให้ผมดูแล เรื่องน้องไม่ต้องห่วงเค้าจะดูแลเอง บอกผมไม่ต้องดูแลน้องแล้วรีบๆไปหาแฟนซะะ จบแล้วก็ไปดูแลแม่ก่อน ทิ้งชื่อเสียงไว้ให้พ่อ แค่นั้นพอ = = (เหมือนโดนฮ่องเต้สั่งเลย)
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    พ่อน่าจะใจร้อนนิครับ เรื่องแฟนนั้นขอบอกนิดว่าอย่ารีบรัอนเลย ไม่งั้นอาจมีเรื่องอย่างที่พ่อกะแม่ต้องแยกกันได้ ให้ใช้เวลาตรวจสอบให้ดีว่าใช่คนที่สามารถรับข้อบกพร่องของเรา และเรารับของเขาได้ใหม...เพราะเมื่อใดคนตั้งแต่๒คนมาอยู่ด้วยกัน จะพบข้อพร่องของแต่ละคนได้ไม่ช้าก็เร็ว..

    เวลานี้เป็นยามที่ต้องขวนขวายให้สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนให้เร็วและดีที่สุด เพราะอะไรๆก็แปรเปลี่ยนได้ไม่แน่นอน เห็นใหม ท่านจขกท เคยได้ดีมีสุข แต่จู่ๆก็เหมือนตกจากสวรรค์ ต้องดิ้นรนปากกัดเท้าถีบ แล้วก็มามีวันช่นคืนสุขอีก ...สิ่งทั้งหลายย่อมแปรผันไปได้ด้วยปัจจัยมากมายที่ไ่ม่เที่ยงเช่นกัน...อย่าประมาทครับ..

    ส่วนความกังวลของพ่อเรื่องชื่อเสียงนั้น ท่านจขกท ไปบอกพ่อเลยว่า มีชนกลุ่มหนึ่งในเว็บสาธารณะ เขาชื่นชมโสมนัสในความเป็นนักสู้ชีวิตและมีความกตัญญูเป็นเลิศ ของลูกของพ่อคนนี้ ขอพ่อจงปลื้มใจที่ได้ลูกเช่นนี้เถิด..

    บางทีการบอกพ่อให้ทราบในสิ่งดีๆอย่างนี้ก็เป็นสิ่งดีที่ชูใจคนในครอบครัวได้เช่นกันครับ..
     
  6. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ขอบคุณ คุณ ddman ไม่งั้นไม่โสดมาจนป่านนี้หรอกครับ :p ถ้าจะมีคือคิดว่าพร้อมแล้ว ไม่อยากให้ลูกเกิดมาพ่อแม่ทะเลาะกันเข้าทางใครก็ลำบากใจแบบที่ตัวเองเป็นนี่หรอก :'( เค้าก็พูดเล่นไปน่ะครับ แต่พ่อผมเนี่ย เข้ามาไม่กี่วันจัดการแพลนชีวิตผมซะทุกอย่างเลยจริงๆ ผมไม่ค่อยชินแบบนี้บางทีรู้สึกอึดอัด แบบที่เค้าคิดว่าสิ่งที่เลือกให้ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว รู้สึกเหมือนอยู่กับเสือเลยจริงๆ ตอนอยู่กับอา น้องของพ่อผมจะสบายใจกว่านะ อานี่ยังกับพ่อคนที่สองผมเลย
     
  7. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เอาน่า เมื่อจำเป็นก็ต้องรู้จักปรับตัวบ้าง เพราะที่จริง ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ใด เเม้กับอาก็เถิด(ฝากอนุโมทนาอาด้วยครับที่เป็นเหมือนพ่อคนที่สองของท่านจขกท)...เราก็ต้องปรับตัวเสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม จริงใหมครับ..

    การรู้จักผ่อนปรนได้..ปรับตัวเป็น..ย่อมเป็นเสน่ห์น่ารักของบุคคล คิดดูเถิด เราเองก็ไม่ชอบใครๆที่ไม่รู้จักผ่อนปรนเลย เอาแต่ใจตนอย่างเดียว ไปอยู่ที่ใดใครๆก็รังเกียจทำนองว่าจองหองอวดดีฯลฯ..ผ่อนปรน ไม่ได้แปลว่ายอมจนหงอไปหมด แต่มีขอบเขตที่ไม่ทำให้เราฉิบหายโดยเฉพาะในเรื่องศีลธรรม..นี่เป็นขอบเขตที่เราต้องรักษาอย่างดีครับ.

    ขอให้ท่านจขกท มีความสุขความเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในกุศลกิจทั้งปวงโดยสะดวกราบรื่น..เป็นที่ตั้งของเมตตา กรุณาและมุทิตาแก่หมู่ชนทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง มีความปลอดภัย ปราศจากโรคาพาธทั้งปวงตลอดไปครับ...
     
  8. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    ไม่ต้องไปรีบร้อนหรอกค่ะ แฟนอ้ะ เด่วพอมีแฟนจริงๆ จะไม่อยากมี ประมาณคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า 5555 แต่ถ้ามีแฟนไปด้วย เรียนไปด้วย ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ถ้าเราแบ่งเวลาได้ หรือมีแล้วเสริมกัน ชวนกันเรียน ชวนกันติว ก็น่ารักไปอีกแบบ แนวเป็นกำลังใจให้กัน เนาะๆ งายก็ดีใจด้วยนะคะ แต่ก็อย่าประมาทแบบที่ท่านพี่ ddman บอกด้วยนะคะ
     
  9. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    อยู่ดีๆผมก็รู้สึกขึ้นมาอีกแล้วครับ ตั้งแต่เจอกันมา พ่อไม่พูดอะไรถึงแม่ซักคำ ผมว่าเป็นเรื่องดีนะ แต่แม่ผมเนี่ยสิ ไม่รู้จะพูดทำไม เดี๋ยวก็ถามว่าถ้าพ่อฆ่าแม่ขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าเกิดมีคดีความกันอีกจะทำยังไง ผมเลยปรี๊ดแตก ขึ้นเสียงกับแม่บอกว่าให้หยุด ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมแม่ทำกับผมอย่างนี้

    ที่ตลอดมาผมไม่ได้เจอพ่อเลย เพราะแม่กลัวว่าพ่อจะเอาผมไปอยู่ด้วย ไม่รู้ทำไมผมถึงขึ้นได้ขนาดนี้ ชีวิตผมหยุดอยู่กับที่จากดีๆต้องมาติดลบ เพราะแม่กลัวว่าจะเสียผมไป แบบไม่คิดถึงอนาคตผมเลย

    พอได้โน่นได้นี่มากเข้า รถยนต์ก็กำลังจะมา ผมเลยนึกขึ้นได้แบบไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ดีมั้ย ของพวกนี้ผมควรจะได้ตั้งนานแล้วใช่มั้ย ในฐานะที่เป็นลูกพ่อ ผมไม่ได้ว่าเค้าดีกว่าแม่ แต่อย่างน้อยผมอยู่กับเค้าก็ไม่ต้องมาทำงานเสิร์ฟ คิดเรื่องค่าใช้จ่ายในขณะที่แม่ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตอนที่ผมทำงานยังต้องฝากงานให้แม่ตัวเองด้วยซ้ำ ก้มหัวงกๆ ว่าแต่ขอให้แม่มีงานทำ ผมนึกแล้วรู้สึกแย่มาก ทำไมเป็นได้ขนาดนี้ ไม่คิดถึงชีวิตที่ดีขึ้น โทษแต่ชะตาว่าตัวเองไม่ได้ดั่งใจ ที่เงินหมดเร็วเพราะเลี้ยงลูก ถ้าไม่อยากจะเลี้ยงขนาดนั้นก็ให้พ่อไปสิ ไม่ใช่หมดตัวแล้วบอกไปหา เห็นผมเป็นตัวอะไร บอกผมว่าจะให้รถตอนปี 1 มอไซค์ผมยังไม่มีขับ แล้วผมได้จากใคร รถยนต์ก็ได้มาเพราะพ่อ ถ้าไม่ตั้งใจจะให้จะหลอกผมทำไม เพื่ออะไร อยากได้อะไรเหรอ มันดีแล้วเหรอ ยิ่งคิดผมยิ่งโกรธจนระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เหมือนชีวิตพลิก ทั้งๆที่มันดีขึ้นทำไมใจผมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมแม่ที่บอกว่ารักผมนักหนา ไม่สร้างอะไรให้ผมเลย กับพ่อที่บอกรักผมเหมือนกัน เจอไม่กี่วันจะให้ผมทุกอย่าง การศึกษา หน้าที่การงาน รถยนต์ ฐานะ ความเป็นอยู่ ทำไมคนที่รักผมสองคนทำกับผมต่างกันขนาดนี้ คนนึงไม่พูดถึงเรื่องแย่ของอีกคน อีกคนพยายามเอาผมเข้าไปเอี่ยวในการทะเลาะให้ได้ เจอหน้ากันพูดกันดีๆไม่ได้ ต้องเอาพ่อขึ้นมาพูด ทำให้ผมลำบากใจ ผมไปทำอะไรแย่ให้เค้านักหนา หรือไม่อยากให้ผมอยู่ด้วยแล้ว

    ตอนนี้ผมอยู่กับแม่นานๆไม่ได้ไม่งั้นไม่ผมก็เค้าได้หาเรื่องทะเลาะกันแน่ ผมไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีจริงๆ
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เห็นใจท่านจขกท.ครับ ..

    เป็นธรรมดาว่า เมื่อบุคคลผู้กำลังประสบลาภ หากมีใครๆมาขัดขวางหรือกระทำการอันจะเป็นเหตุให้ตนเสื่อมลาภเสีย บุคคลนั้นย่อมเข้าถึงความขุ่นเคือง ไม่ชอบใจ...เพราะ เมื่อมองไปโดยรอบทิศแล้ว บุคคลย่อมพบว่าตนเท่านั้นเป็นที่รักอันยิ่งของตน..

    ท่านจขกท กำลังมีชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งที่ไม่เคยมีก็มีมา ความลำบากที่เคยมีได้ปราศไป ดังนั้น เมื่อแม่มีอาการเหมือนจะพยายามยื้อยุดฉุดท่านจขกท ให้กลับมาอยู่ในฐานะเดิมที่เคยเป็นมา ท่านจขกท จึงเกิดความขัดใจเคืองขุ่นได้มากเช่นนั้น ทั้งยังพลอยนึกขมขื่นในความลำบากยากแค้นที่ตนผจญมาในอดีต โดยมีภาพของผู้ต้นเหตุคือแม่ .. ปรากฏขึ้นชัดเจน..

    .....ท่านจขกทลองคิดดูเถิดว่า หากในอดีตที่ผ่านมา...ท่านมีชีวิตเเบบคุณหนูอยู่สุขสบายบริบูรณ์ด้วยข้ารับใช้และกองเงิน ไม่เคยต้องลำบากอะไรเลย ..ท่านจะได้สำนึกในค่าของชีวิตในทางใด...ความเเกร่งกล้าสามารถที่ท่านได้มาจากความทุกข์ยากนั้นท่านจะมีโอกาสได้รู้จักหรือไม่...ท่านไม่ควรเสียใจเสียดายหรือปรักปรำแม่ในสิ่งที่ผ่านมาแล้วเลย เพราะสิ่งที่ท่านได้รับมานั้นมีค่ามากที่ไม่อาจซ้ื้อหาหรือได้มาด้วยเงิน....ท่านพึงเข้าใจว่า แม่นั้น ในอดีต ก็เพียรจนสุดแรงแล้วที่จะเลี้ยงดูลูก แม่อาจไม่ฉลาดนัก แต่สิ่งที่แม่มีให้ลูกคือความรักอย่างแท้จริง...แต่เพราะแม่มีปัญหาครอบครัวแตกร้าว แม่อาจไม่ไว้ใจว่าพ่อจะดูแลลูกได้ดี เเม้พ่อจะมีเงินก็ตาม..จึงคิดเลี้ยงดูลูกโดยลำพัง..เรื่องนี้ ก็ต้องพยายามเข้าใจและเห็นใจคนที่เป็นแม่ด้วย..หากเงื่อนไขชีวิตเป็นปรกติ แม่คนใหนก็ต้องการให้ลูกอยู่ดีมีสุขกันทั้งนั้น..อย่ามองแม่ว่าเป็นคนขวางกั้นความบริบูรณ์พูนสุขของเราเลย ไม่ว่าเวลาใด..

    คุณความดีของแม่ก็ยังมีอยู่ ควรคิดถึงสิ่งดีๆที่แม่ทำให้บ้าง เพื่อถ่วงกับความขึ้งโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นในเวลานี้....

    ส่วนคำพูดที่แม่กล่าวนั้น แสดงถึงความกังวลของแม่ที่กลัวจะเสียลูกไปเท่านั้น ท่านจขกท เมื่อมีโอกาสก็พึงกล่าวรับรองว่าตนไม่เคยคิดละทิ้งแม่เ ลย เพียง แต่เวลานี้เป็นเรื่องจำเป็นเพื่ออนาคต ..บางทีการตอกย้ำรับรองอาจช่วยให้แม่สงบลงบ้าง...

    การเเวะไปเยี่ยมแม่เป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำ แต่เมื่อจะเกิดทะเลาะกันก็ระงับเสีย..แม้ต้องรีบจากไปก็ดีกว่าจะต้องทะเลาะกับแม่ ...ท่านจขกท ทำในสิ่งที่สมควรแล้ว เพราะเมื่อเราไม่อาจแก้ไขความคิดของแม่ได้ก็คงต้องปล่อยวาง แล้วหลีกเลี่ยงการทะเลาะเป็นทางออกที่ดี....

    ขอให้อดทนอดกลั้นโทสะเพราะคำพูดอะไรๆของแม่ให้มาก ไม่นาน เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งต่างๆอาจเปลี่ยนแปรไป..เเม่อาจเข้าใจได้และเลิกกล่าวสิ่งที่ชวนทะเลาะในที่สุด..นะครับ

    เป็นกำลังใจให้ครับ

     
  11. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ดิฉันคิดว่าไม่ควรเขียนความเห็นตอบกลับไป เพราะเป็นคนพูดไม่เพราะ แต่ว่า ถ้าคุณสงบแล้ว ลองอ่านดีๆดู ทุกถ้อยคำที่คุณระบายออกมา แล้วนึกดูใหม่

    ดิฉ้นบอกตรงๆ ว่าเรือ่งคุณ ตั้งแต่แรกที่ดิฉันอ่าน ดิฉันเลือกแม่ค่ะ แม้ว่าจะเรียนน้อย อยู่จนๆ เพราะทุกสิ่งเป็นของนอกกาย
    ดิฉันมีลูก เข้าใจถึงความเป็นแม่มากขึ้นกว่าตอนที่ไม่มี และเข้าใจว่า คำพ่อแม่โดยจิตวิญญาณคืออะไร (ด้วยเพราะเรื่องลูกทีดิฉันเคยโพสต์ไปแล้ว) ไม่ใช่พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยวัตถุหรือทางกาย

    ดิฉันเจอะผญ.ที่ลำบากเลี้ยงลูกมา ตั้งแต่ไม่มีกิน (ตอนเล่าไปปลื้มใจไป เพราะพ่อทิ้งไป) แต่พอลูกโตเลือกไปอยู่กับพ่อ ดิฉันอึ้งเลยค่ะ ไม่กล้าออกความเห็นอะไร(แต่ในใจคิดค่ะ)

    ดิฉันมีเพื่อนที่สามีแยกกันอยู่กับภรรยา ภรรยาต้องเลี้ยงลูกเอง ลำบากสารพัด คิดว่าอีกนานแค่ไหนกว่าลูกจะโต ต้องมีหงุดหงิดใส่ลูกบ้างเพราะเหนื่อยมาก แต่พ่อสบายมาก ไม่ต้องรับผิดชอบอะไแล้ว แน่นอนว่า เวลาเด็กๆเจอะพ่อมีแต่ของฝาก ผิดกับแม่ที่ประหยัดไม่ค่อยมีอะไร เงินหมดไปกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เด็กๆคงยังมองไม่เข้าใจในสี่งที่เกิดขึ้น นอกจากดีใจที่ได้เจอะพ่อ
     
  12. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมเข้าใจที่คุณพูดครับ Thanks-Epi ที่ว่าเลือกอยู่กับแม่เพราะอะไร ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ห่างแม่ไปไหน เรียนโทพ่อก็ให้เรียนที่นี่ ผมยังอยู่กับแม่ได้ปกติ ตอนเด็กพ่อพยายามพูดให้ผมไปอยู่ด้วยก็หลายครั้ง ผมก็ไม่ไป พอผมเล่าให้แม่ฟัง สิ่งที่เจอคือ แม่ไม่อยากให้ผมเจอหน้าพ่ออีกเลย เป็นอย่างนี้หลายครั้ง นานทีปีหนถึงได้เจอหน้าพ่อก็เพราะแบบนี้ แค่ผมบอกว่าจะอยู่กับแม่พ่อก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ที่ผมโกรธไม่ใช่ว่าเพราะผมเลือกแม่ แต่ที่โกรธคือทำไมผมอยู่กับแม่แล้วไปเจอหน้าพ่อ รับสิ่งดีๆที่เค้าอยากให้ผมแบบที่แม่รู้สึกยินดีด้วยไม่ได้ เรื่องเค้าสองคนจะเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่การเอาเรื่องที่คนสองคนเกลียดกันแล้วมากระทบถึงลูกอย่างผมที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย มันไม่ยุติธรรมเลย บางทีถ้าพ่อไม่ต้องการผมเลยซักนิดผมอาจทำใจได้มากกว่านี้ แต่พ่อแม่รักผมทั้งคู่ ต้องการผมทั้่งคู่ การเลือกอยู่กับใครได้แค่คนเดียวก็เจ็บปวดมากอยู่แล้ว เค้าทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น ผมก็เจ็บปวดมากๆ จนผมคิดว่าถ้าเกิดจะเกลียดกันได้ขนาดนี้ จะมีผมทำไม
     
  13. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ....... อ้อ ยังอยู่กับแม่ นึกว่าย้ายไปอยู่กับพ่อ...ขออภัยที่ตอบไม่ตรง แต่เอาละ ท่านจขกท พึงตั้งสติข่มความโกรธลงก่อน เพราะถ้าโทสะเกิดแล้วย่อมแผดเผาบดบังสิ่งที่ดีที่ควรแก่การใส่ใจไปเสียนะครับ..

    ความน้อยใจที่เกิดแล้วในอาการของแม่นั้นก็สมควรอยู่ เพราะเห็นความไม่แยบคายที่แม่แสดงออกมาเมื่อท่านต้องเกี่ยวข้องกับพ่อ ธรรมดาว่าลูกที่ได้รับความรักใคร่จากพ่อแม่ แม้ต้องแยกจากกันย่อมเป็นได้แต่สิ่งที่ดี ..

    ท่านจขกท. พึงรักษาความมั่นคงในใจให้เกิด แล้วพึงพูดคุยกับแม่อย่างจริงจังดังนี้ว่า......

    "......แม่ครับ ผมทราบดีว่า การที่ผมต้องเกิดมาเป็นลูกของแม่และพ่อนั้น ย่อมมาจากเหตุคือบุญกุศลที่เคยทำไว้อย่างดีในอดีตชาติ แต่ที่ต้องอยู่ในฐานะลูกที่มีครอบครัวแตกแยก ย่อมมาด้วยบาปเก่าที่เคยทอดทิ้งครอบครัวมาก่อน .. แม้การที่ต้องถูกห้ามปรามไม่ให้ได้มีโอกาสคบคุ้นพ่อมาเป็นเวลานานก็ด้วยโทษแห่งตนที่เคยห้ามปรามขัดขวางลูกของตนไม่ให้ได้พบเจอพ่อหรือแม่ที่แยกร้างห่างไป...แต่ด้วยอำนาจบุญที่ไม่คิดทอดทิ้งลูก คิดอุปถัมภ์เลี้ยงดูลูกมาก่อน จึงได้รับความรักเอ็นดูจากพ่อแม่แม้จะแยกกันไปแล้ว...ขอให้แม่ทราบว่า การเกิดมาในฐานะเช่นนี้เป็นเรื่องทุกข์บีบคั้นสาหัสนัก..ก็เวลานี้ บุญอันดีที่เคยทำไว้ได้ช่องมาส่งผล ให้พ่อยื่นมือมาช่วยเหลือ ประคับประคองให้ลูกได้เล่าเรียนและได้รับความสะดวกในหลายเรื่อง ขอให้แม่ยินดี และลดละความขึ้งโกรธในพ่อลงบ้าง การสนับสนุนให้ลูกได้ดีมีอนาคตที่เจริญ และได้รับความสะดวกย่อมเป็นที่ปรารถนาของแม่ทั้งหลาย และเป็นทางมาแห่งบุญกุศลที่จะตามไปอุปการะเกื้อหนุนแม่ แม้ในปัจจุบันนี้นี่ทีเดียว เพราะเมื่อลูกสำเร็จการศึกษาแล้ว ย่อมสามารถทำงานมีรายได้เลี้ยงดูตอบแทนคุณแม่ได้อย่างเต็มที่..

    .ความเกลียดชังระหว่างพ่อกับแม่นั้น ขอให้ยุติอโหสิกรรมกันเสีย เพราะเป็นเรื่องเศร้าหมองของใจเสมอหากวันใดความตายมาถึง บุคคลที่ตายขณะใจเศร้าหมอง ย่อมได้เกิดในนรกอบายภูมิ ไม่คุ้มเลยกับการได้เกิดมาเป็นคนในชาตินี้..

    ลูกยังรักและบูชาพระคุณอันหาที่เปรียบมิได้ของแม่เสมอ และคิดตลอดเวลาที่จะตอบแทนคุณนั้น ความคิดที่จะทอดทิ้งแม่ไปนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในใจของลูก ขอแม่เลิกกังวลลงเสีย ทั้งพ่อเองก็ไม่เคยห้ามปรามหรือกล่าวร้ายใดๆเกี่ยวกับแม่เลย พ่อเองให้ความเคารพแม่ที่เลี้ยงดูลูกๆมาได้อย่างดี จนถึงบัดนี้ ..เวลานี้ ภาระของแม่ได้รับการปลดลงไปแล้ว เพราะพ่อยินดีในการช่วยสนับสนุนผมให้เรียนต่อจนจบ ขอแม่พึงเข้าใจและเลิกคิดในสิ่งร้ายทั้งปวงกับพ่อลงเสีย แม่ลูกย่อมได้รับความสุขสงบหมดความเครียดอันเป็นอุปสรรคขัดขวางการทุ่มเทจิตใจในการศึกษา...แม้พ่อแม่ไม่อาจรักกันได้อีก แต่การปรับใจไม่ให้เกลียดกันราวศัตรูย่อมไม่เกินวิสัยของคนที่เป็นผู้ใหญ่ผ่านวัยมามาก วัยนั้นย่อมล่วงไปๆตลอดเวลา ไม่ถึง๑๐๐ปี ต่างก็ต้องจากลาตายกันทั้งนั้น..บัดนี้ สมควรที่แม่จะรักษาจิตไว้ในความสงบ ไม่คิดร้ายต่อใครๆอันเป็นได้แต่บาปกรรมที่มีผลตามมาสนองตนเท่านั้น ...
    "

    ..หรือหากท่านจขกท จะพิมพ์เป็นจดหมายส่งให้แม่อ่านก็ได้ ..ท่านพึงปรับเปลี่ยน เพิ่มหรือตัดทอนข้อความตามที่เห็นสมควรนะครับ..

    บางที การสื่อกันด้วยจดหมายก็มีส่วนช่วยให้แต่ละฝ่ายมีเวลาคิดใคร่ครวญ โดยเฉพาะ แม่อาจไม่เคยได้รับความรู้ความคิดเห็นที่สมควรจากใครๆเลย ท่านจขกท จึงควรเป็นผู้ทำโอกาสนั้นให้เกิดแก่แม่สักครั้ง.....สิ่งที่แสดงไว้ในข้อความนี้ มีแต่ประโยชน์ แก่ทุกฝ่าย หาโทษไรๆไม่มีเลย ท่านจขกท พึงพิจารณาตามควร..

    ขอให้พ้นทุกข์หมดความลำบากใจโดยเร็วครับ

     
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    นั่นไงคะ เพราะคุณไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทำไมแม่ใช้คำว่า
    ทำตามที่คุณ ddman แนะนำก็คงดีไม่น้อย พยายามอธิบายให้แม่ปล่อยวางเรื่องเก่าๆบ้าง เขารักคุณมาก รักถึงหวง (อันนี้จริงหรือเปล่า ถ้าเราไม่รักใครเราก็ไม่หวงค่ะ)
    แต่การปรี๊ดของคุณไม่ดีแน่ จากเด็กที่แม่เคยรัก พอพ่อเข้ามา กลับทำท่าไม่พอใจในหลายเรื่องทั้งๆที่เป็นแม่คนเดิม(แม่คุณคงไม่ได้คิดหรอกค่ะว่า เรื่องมันมาจากอะไร) แต่แน่ๆ การที่พ่อเข้ามา คุณต้องยิ่งวางตัวใหม่ รักแม่แบบแสดงออกมากกว่าเดิม แต่ที่ดิฉันอ่าน คุณค่อนข้างหงุดหงิดแม่มากกว่าตอนที่พ่อยังไม่เข้ามาใช่หรือเปล่า
     
  15. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    เรื่องเริ่มจะแย่ขึ้นทุกทีจริงๆแล้วล่ะครับ ตั้งแต่ผมเจอพ่อมา คนรู้จักผมบอกว่าผมใจร้อนขึ้นทั้งนั้น หงุดหงิดง่าย ไม่ได้ดั่งใจก็โวยวาย พูดคำเลวร้ายได้ง่ายขึ้น เอาแต่ใจมากขึ้น รู้สึกแย่เป็นบ้า วันนี้ อาจารย์ที่ผมทำงานด้วยรู้เรื่องเข้าว่าผมทะเลาะกับแม่ (อีกแล้ว) ท่านถามผมว่าเถียงกับแม่มาเหรอ กลับไปถึงบ้านแ้วไปกอดแม่นะ ถึงบางเรื่อแม่จะทำไม่ถูก(ในสายตาผม) แต่่่่่ทำอะไไม่ได เพื่อตัวเองแล้วทำให้แม่สบายใจซักหน่อยมันน่าจะดีกับครอบครัวมากที่สุด ผมเคยคิว่ามทำขนาดีแล้วแม่จะอะไรกับผมมากมาย เพิ่งมาคิดได้ว่าทำให้แม่สบายใจก็สำคัญไม่น้อยกว่าส่งเสียเลี้ยงดู แม่แต่อาจารย์ท่านก็ยังชมว่าผมเข้มแข็ง พ่อก็ภูมิใจในความแข็งแกร่งนี้

    ไม่ว่าจะรู้สึกแย่แค่ไหน น้อยใจแค่ไหน ผมจะไม่เถียงกับพ่อแม่อีกแล้ว T^T
     
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ดูจากวิธีการเขียนเล่าข้อความ
    ก็เป้นคนอารมณ์ใจปราณีตดีนะ
     
  17. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ไม่หรอกครับ ใจร้อนค่อนข้างมาก ตอนพึ่งตัวเองเย็นกว่านี้ แต่ตอนนี้อะไรๆก็จะเอาให้ได้หมด ผมรู้สึกว่าตัวเองช้าไปด้วยมั้ง ทะเลาะกันทีไรแม่ก็ร้องไห้ทุกที ทั้งที่ไม่ได้ด่าหรืออะไร แต่ที่ว่าความจริงมันเจ็บปวด ก็จริงที่สุดแหละครับ ผมก็โดนความจริงเล่นอ่วมเหมือนกัน
     
  18. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    .. ไม่แปลกเลยที่น้องtadayoshi จะเปลี่ยนแปลงไปได้เพราะสภาพการณ์ที่ได้รับบัดนี้เปลี่ยนแปรไปจากเมื่อก่อน...ธรรมดาว่าคนที่อยู่ในสภาพที่ต้องดิ้นรนปากกัดเท้าถีบเพื่อการอยู่รอดนั้นย่อมไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นๆมาก..เพราะต้องคิดถึงการเอาตัวรอดให้ได้ด้วยประการต่างๆ .. เวลานั้น น้องย่อมไม่เพ่งใจตรวจหาความบกพร่องผิดพลาดของแม่เลย ทั้งไม่คิดเกี่ยงงอนที่จะจุนเจือเลี้ยงดูแม่...แต่เวลานี้ น้องได้ดีมีความสะดวกสบาย ไม่ต้องคิดเรื่องความอยู่รอดมากนัก จึงมีเวลาทบทวนคิดถึงความทุกข์ขัดสนที่ตนเคยผ่านมาในอดีต กลับพบว่า แม่นี่เองคือตัวนำพาความอัตคัตลำบากมาให้ คราวนี้ ภาพของแม่กลายเป็นผู้ร้ายไปเสียแล้ว ที่ใหนจะยังความสมานปรองดองที่เคยมีมาแต่ก่อนให้กลับคืนมาได้......!!

    น้องtadayoshi พึงเร่งลบภาพผู้ร้ายในแม่ออกไปให้ได้ มองให้เห็นสิ่งดีๆที่ตนได้มีโอกาสทำอย่างที่น้อยคนในโลกจะสามารถทำได้คือการดิ้นรนเลี้ยงตนและแม่แม้ตนยังอายุน้อยทั้งยังสามารถส่งเสียตนเองจนเรียนได้ถึงระดับสูง...หากไม่มีแม่ในอดีต น้องจะไม่ได้โอกาสพิสูจน์ศักยภาพอันดีเลิศเช่นนี้เลย ...สิ่งที่น้องทำมานั้นเป็นคุณความดีทั้งในทางโลกและทางธรรม คุ้มกับการได้กำเนิดเป็นคน จะมีผลเกื้อหนุนตนไปในภพหน้านับไม่ถ้วนทีเดียว...เป็นความพิเศษที่ใครๆย่อมภาคภูมิสรรเสริญหากได้ทราบ..

    แม่นั้นมีคุณแก่น้องมาก และการที่จะแก้ไข
    ท่านคงทำได้ยากเพราะท่านย่อมมีความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่..ดังนั้นน้องจึงทำถูกแล้วที่ตั้งใจจะไม่โต้เถียงท่าน ..ขอให้น้องรักษาคุณสมบัติที่ดีของตนไว้ ..สิ่งใดที่ไม่ดี เมื่อทราบแล้ว ก็เเก้ไขขัดเกลาไปตามลำดับ การที่จะแก้ไขตนได้ก็ด้วยความเพียรของตน คนอื่นย่อมไม่อาจช่วยได้...แม้เราเองจะไปแก้ไขแม่ก็ย่อมไม่ใช่ฐานะเลย เว้นแต่ท่านจะแก้ไขตนเท่านั้นจึงจะเป็นได้...

    ขันติ คือความอดทน..พระพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญว่ามีคุณมาก การมีความอดทนมากย่อมป้องกันตนไว้จากการล่วงบาปเวรภัยที่จะตามมา โดยเฉพาะการล่วงบาปอกุศลกับแม่พ่อผู้มีคุณ ควรสำรวมระวังด้วยดี..


    ขอให้คุณความดีที่น้องทำมาโดยตลอดระยะเวลานาน พึงส่งผลปัดเป่าความทุกข์กดดันออกไปจากชีวิตน้องโดยเร็ว.. ความมีสติสำรวมสังวรพึงปรากฏรักษาตนไว้ด้วยดีในที่ทั้งปวง..เป็นกำลังใจให้ครับ

     
  19. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950

    คุณ ddman เขียนเสียตรงเลย แรกๆ ดิฉันอ่านแล้วไม่อยากออกความเห็นเพราะมันตรงเกินไป บางคนรับได้ บางคนรับไม่ได้

    ภาพของแม่คือ ผญ.ที่อยู่ด้วยแล้วลำบาก นั่งมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ
    ภาพของพ่อ(ที่ไม่ได้เลี้ยง) คือ ผช.ที่มีกำลังจ่าย ให้แต่สิ่งดีๆ

    ถามคนทั่วๆไป จะรักใครมากกว่า คิดถึงใครอันดับแรก
    ดิฉันเชื่อว่า คนส่วนมาก รักและคิดถึงคนที่เอาแต่สิ่งมีความสุขมากให้ ไม่ใช่แค่เจ้าของกระทู้ท่านเดียว

    ไปอยู่กับคนที่อยู่แล้ว หดหู่ เหนื่อย ลำบาก ฯลฯ แค่นึกก็สยองแล้ว

    คุณเจ้าของกระทู้ ดิฉันอ่านแล้วนึกภาพคุณเวลาพิมพ์ไปยิ้มไปเวลาได้รับสิ่งดีๆ
    แต่พอเขียนถึงความลำบาก คุณจะหงุดหงิด โมโห เหมือนที่คุณบอกนั่นล่ะ

    ตั้งแต่ผมเจอพ่อมา คนรู้จักผมบอกว่าผมใจร้อนขึ้นทั้งนั้น หงุดหงิดง่าย ไม่ได้ดั่งใจก็โวยวาย พูดคำเลวร้ายได้ง่ายขึ้น เอาแต่ใจมากขึ้น

    แต่กับผญ.แก่ๆ คนนึงที่ลำบากมาด้วยกัน พอเจอะหน้าก็บ่น (บ่นจริงหรือเพราะคุณอคติก็ยังไม่ทราบ) อยู่ๆลูกมาเปลี่ยนไปขนาดนี้ เป็นใครก็โมโหและคงมีคำพูดบาดใจที่คุณเขียนระบายมานะค่ะ

    อย่าลืมว่า สิ่งที่เพิ่งเข้ามานั้น มันของนอกกาย ยังไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
    แต่สิ่งที่ผ่านมาแล้ว พิสูจน์ได้ว่า แม่รักคุณจริง
    ถ้าไม่รักคงไม่มีคำนี้ค่ะ
     
  20. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ..เป็นความตรงของสภาพธรรมของใจเท่านั้นครับคุณต่าย...ว่าสรรพสัตว์ต่างดิ้นรนกันอยู่ก็เพื่อความสุขสบายกันทั้งนั้น......น้องเขา เพราะยังอายุน้อย จึงมีการมองและแสดงออกต่างๆด้วยวิสัยทัศน์ที่ยังจำกัด และก็ได้แต่หวังให้น้องเขาได้ใคร่ครวญคิดถึงสิ่งดีๆที่ตนได้มีโอกาสทำมาในอดีต และสามารถเก็บถนอมความคิดและการกระทำที่ประเสริฐน่าภาคภูมิใจนั้น ไม่ให้พร่องพร่าไปเพราะสิ่งแวดล้อมใหม่เท่านั้น....



     

แชร์หน้านี้

Loading...